ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Balatic การเวลาอันเป็นนิรันด์

    ลำดับตอนที่ #3 : ดินแดนทั้ง2ที่เชื่อมด้วยกาลเวลา

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 49


    ตอนที่1:หนทางสู่ความจริง

    บรึ้ม!!!!!!!!

    หลังสิ้นทั้งเสียงระเบิดและกลิ่นควันที่คุ้งกระจายไปทั่วทั้ง4ทิศร่างของเหล่าทหารในชุดเกราะแตกร้าวที่ต่างนอนทับถมกันเป็นกองเนินสีของชุดเกราะที่แบ่งเป็นเพียง2ทัพต่างนอนตายเท่ากัน

    "ท่านเมนช่าตอนนี้กองทัพของคิงด้อมเบสกำลังเดินขบวนเข้ามาใกล้เรื่อยๆแล้วขอรับ...ถ้าเราไม่ทำอะไรซักอย่างกอง..."

    "กองทัพของเราก็จะแตกใช่มั้ย?"

    สตรีหน้าใสผู้หนึ่งที่อยู่ในชุดเกราะเลี่ยมทองตรงกลาง ที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าทหารนายนึงที่กระหอบกระแหบเข้ามาในเต้นท์ขณะที่เธอกำลังเช็คดาบสีเงินยาวของเธออย่างบรรจงด้วยท่าทีไม่ร้อนรนใจอะไรแม้เล็กน้อย

    "ไม่ต้องร้อนรนไป...ข้าเตรียมการเรียบร้อยแล้วขอเวลาเพียงแค่7นาทีเท่านั้น"

    แม่ทัพหญิงเก็บดาบเข้าใส่ฝักอย่างนุ่มนวลจังหวะเดียวกับที่เธอมัดผมสีทองประกายยาวแบบลวกๆไว้พร้อมเดินผ่านนายทหารที่สภาพโทรมไปอย่างใจเย็นสีหน้าที่ยิ้มไว้ตรงมุมแก้มราวกับเด็กน้อยที่ไปผจญภัยด้วยความตื่นเต้น

    " บุกเข้าไป!!บุกเข้าไป้!!!! "

    นายทหารหัวเกรี๋ยนตาเดียวที่มองกองทัพอยู่จากเนินทุ่งหญ้าพื้นสูงโดยที่กองทัพของตัวเองนั้นกำลังเดินขบวนเข้าคลุมกองทหารของแม่ทัพหญิงไปอย่างรวดเร็ว

    "ฮ่าๆๆทัพของ เมนช่า อิสราเฟล อันลือชื่อไม่เห็นจะเท่าไหร่เลย...ทหารแห่งคิงด้อมเบสทั้งหลายจงรีบจัดการกองทัพขี้แพ้เหล่านี้แล้วเข้าไปยึดเมืองข้างในกันเลย"

    แม่ทัพตาเดียวของกองทัพ
    คิงด้อมเบส ควบมังกรสีม่วงอ่อนบินขึ้นไปบนฟ้าพร้อมโฉบจับเหล่าทหารของแม่ทัพหญิงลอยขึ้นฟ้าคนแล้วคนเล่าแล้วปล่อยให้ร่างร่วงลงมากระแทกพื้นเละเป็นซากชิ้นเล็กชิ้นน้อย

    "อยู่ใหน เมนช่า อิสราเฟล แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพแสนอ่อนแอนี้ออกมารับคมหอกของข้าซักเล็กน้อยสิไม่ต้องกลัวไปข้าจะไม่ทำให้ทรมานเลยแม้แต่น้อย"

    เขาร้องอวดสรรพคุณเสียงดังก้องไปทั่วทั้ง4ทิศด้วยความมั่นใจทั้งกองทัพของแม่ทัพหญิงก็เริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆเพราะถูกกองทัพของแม่ทัพตาเดียวกลืนหายไปเรื่อยๆ

    "อยู่ใหนกันออกมาเซ่ออกมาหรือว่าต้องให้กองทัพของข้ากวาดต้องผู้คนในเมืองไปเป็นเชลยให้หมดก่อนแกถึงจะยอมออกมาหาฮ่าๆๆๆ"

    ฉัวะ!!!!!!

    เขาไม่ทันที่จะพูดอะไรมากต่อไปได้เพราะสิ้นเสียงหัวเราะที่ยาวลากของเขานั้นแล้วร่างของเขาตั้งแต่ข้อแขนขึ้นไปจนถึงส่วนตัวและส่วนขาหลุดร่วงลงมาเป็นชิ้นๆพร้อมกับร่างของมังกรสีม่วงที่หลุดเป็นเศษเหมือนร่างคนบังคับ

    "ท่านแม่ทัพเสร็จมันแล้วทำยังไงดี"

    "ไม่น่าถามรีบหนีสิขืนอยู่ไปมีหวังตายตามไปด้วยแน่หนีเร็ว!!!!"

    เหล่าทหารที่เห็นก้อนเนื้อเศษเล็กเศษน้อยของแม่ทัพตัวเองต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอดไปคนละทิศละทางซึ่งเหนือยอดเขาลูกนึงได้ฉายเงาของร่างรักรบหญิงในชุดเกราะออกศึกแบบเต็มยศควบอยู่บนม้าขาวอวบพวงโดยที่มือของเธอนั้นถือดาบคู่ใจอยู่โดยที่ดาบนั้นมิได้เปรอะเปื้อนคราบเลือดอะไรแม้แต่น้อย

    "ตอนนี้แหละตามตีพวกมันซะชัยชนะต้องเป็นของพวกเรา!!"

    เหล่าทหารที่ตอนแรกนั้นเสียเปรียบต่างกลับเป็นฝ่ายไล่ตามพวกกองทัพของแม่ทัพตาเดียวบ้างทั้งที่มีกำลังพลมากกว่าแต่ก็ต้องวิ่งหลบหนีตายอย่างอลหม่านโดยที่แม่ทัพหญิงนั้นก็มองอยู่ที่ยอดอย่างถอนหายใจ

    "เมื่อใหร่มันจะจบซักทีนะ...ไอ้สงครามบ้าๆแบบนี้"

    แม่ทัพหญิงจ้องมองท้องฟ้าสีส้มในยามเย็นอย่างเหนื่อยใจถึงแม้ว่ากองทัพของเธอนั้นจะได้ชัยชนะมาอย่างงดงามแต่ผู้คนที่บาดเจ็บนั้นไม่ว่าฝ่ายใหนก็มีจำนวนมากเกินจะนับใหว

    "ซักวันจะมีวันที่ลูกหลานจะได้มีอนาคตที่ยาวไกลบ้างมั้ยนะถ้าชั้นสามารถทำวันนั้นให้มาถึงได้ก่อนที่พวกเค้าเหล่านั้นต้องมาเจอก็คงจะดีหรอก"

    เธอได้แต่มองเหล่าทหารทั้ง2ฝ่ายที่บางคนก็ช่วยพยุงกันไปกลับค่ายอย่างหมดสภาพของคนบางคนถึงกับยังต้องนอนอวดครวญบนกองศพเหล่านั้นทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่

    ---------------------------------------------------------------------------

    บนยอดผาที่สูงชันที่ตรงหน้าชายหนุ่มคนมีเหล่ามังกรสีแดงฉานสีดั่งโลหิตเพลิงบินวนเวียงมองเค้าอยู่อย่างไม่ประสงค์ดีและมังกรตัวนึงก็ได้บินอ้าปากกว้างเพื่อที่จะกลืนเค้าไปในคำเดียวอย่างแน่นอน

    "FireBall!!"

    หลังเสียงของเด็กหนุ่มคนนี้ร่างของมังกรแดงก็กลายเป็นสีแดงฉานมากขึ้นกว่าเดิมเพราะตัวมันนั้นถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงจนผิวแดงนั้นเริ่มไหม้เกรียมเป็นสีดำขุ่นๆแทนแต่ร่างและกลิ่นใหม้นั้นกลับกระตุ้นให้มังกรแดงตัวอื่นๆบ้าคลั่งรุมเข้ามารุมเค้ามากขึ้น

    "เลเวลอัพอีก1แล้วต้องเซฟไว้แล้วสิ"

    ชายหนุ่มนั่งบนซากมังกรแดงที่ไหม้เกรียมเป็นมังกรดำหลายสิบตัวอย่างสบายใจโดยที่ตัวเองนั้นนั่งขัดดาบของตัวเองอย่างสบายใจเฉิบ

    ระบบขาดพลังงาน...พลังงานเริ่มหมดแล้ว...จะทำการLog outภาพใน5วินาที...4วิ...3วิ

    "อะไรกันเดี๋ยวซิยังไม่ได้เซฟเลย"
    เด็กหนุ่มแลซ้ายหันขวามองบรรยากาศรอบๆตัวเองที่มืดลงจนแม้แต่ร่างตัวเองนั้นก็โดนความมืดกลืนกินหายไปด้วย

    "เดี๋ยวสิเดี๋ยวเฮ้!!!!!!!!!"
    เด็กหนุ่มวัยประมาณ17-18ปีนั่งสะบัดแขนไปกวาดลมไปทั่วโดยมีหญิงสาววัยใกล้ๆเค้าจ้องดูอยู่อย่างเหนื่อยใจ

    "ตื่นได้แล้ว ฟาเรล!!! "เด็กผู้หญิงที่จ้องเด็กหนุ่มคนนี้อยู่ดึงแว่นตาสีดำของเค้าออกแล้วดึงหัวเค้าให้ตั้งตรงๆตาสีมรกตเธอมองไปที่ตาสีแซฟไฟน์ของเค้าอย่างบรรจบกันพอดี

    "นี่...ฝีมือเธอใช่มั้ย.....โซเรีย...ชั้นเคยบอกเธอไปแล้วนี่ว่าเวลาชั้นกำลังเล่นเกมอยู่นั้นอย่ากวนใจน่ะ..."

    เด็กหนุ่มที่รู้ต้นเหตุว่าใครเป็นคนมาตัดไฟเครื่องเกมของเขาเริ่มบรรเลงบ่นออกมาเป็นจังหวะ

    "จ้าๆ...พี่ชายสุดเลิฟของชั้นแต่ถ้างั้นจะไม่ลงใช่มั้ยโบราณสถานโอวาเรสน่ะ"

    "อะไรนะ!!ถึงแล้วงั้นหรือแล้วทำไมไม่รีบบอก"

    เด็กหนุ่มรีบเก็บเครื่องเล่นเกมของตัวเองใส่กระเป๋าพร้อมวิ่งออกไปจากโซฟาที่นั่งของตัวเองภายในเวลาไม่กี่วินาทีจนเด็กสาวที่กำลังสะบัดผมมองตามแทบไม่ทัน

    "ไม่ต้องร้อนรนไป...ข้าเตรียมการเรียบร้อยแล้วขอเวลาเพียงแค่7นาทีเท่านั้น"

    แม่ทัพหญิงเก็บดาบเข้าใส่ฝักอย่างนุ่มนวลจังหวะเดียวกับที่เธอมัดผมสีทองประกายยาวแบบลวกๆไว้พร้อมเดินผ่านนายทหารที่สภาพโทรมไปอย่างใจเย็นสีหน้าที่ยิ้มไว้ตรงมุมแก้มราวกับเด็กน้อยที่ไปผจญภัยด้วยความตื่นเต้น

    " บุกเข้าไป!!บุกเข้าไป้!!!! "

    นายทหารหัวเกรี๋ยนตาเดียวที่มองกองทัพอยู่จากเนินทุ่งหญ้าพื้นสูงโดยที่กองทัพของตัวเองนั้นกำลังเดินขบวนเข้าคลุมกองทหารของแม่ทัพหญิงไปอย่างรวดเร็ว

    "ฮ่าๆๆทัพของ เมนช่า อิสราเฟล อันลือชื่อไม่เห็นจะเท่าไหร่เลย...ทหารแห่งคิงด้อมเบสทั้งหลายจงรีบจัดการกองทัพขี้แพ้เหล่านี้แล้วเข้าไปยึดเมืองข้างในกันเลย"

    แม่ทัพตาเดียวของกองทัพ
    คิงด้อมเบส ควบมังกรสีม่วงอ่อนบินขึ้นไปบนฟ้าพร้อมโฉบจับเหล่าทหารของแม่ทัพหญิงลอยขึ้นฟ้าคนแล้วคนเล่าแล้วปล่อยให้ร่างร่วงลงมากระแทกพื้นเละเป็นซากชิ้นเล็กชิ้นน้อย

    "อยู่ใหน เมนช่า อิสราเฟล แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพแสนอ่อนแอนี้ออกมารับคมหอกของข้าซักเล็กน้อยสิไม่ต้องกลัวไปข้าจะไม่ทำให้ทรมานเลยแม้แต่น้อย"

    เขาร้องอวดสรรพคุณเสียงดังก้องไปทั่วทั้ง4ทิศด้วยความมั่นใจทั้งกองทัพของแม่ทัพหญิงก็เริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆเพราะถูกกองทัพของแม่ทัพตาเดียวกลืนหายไปเรื่อยๆ

    "อยู่ใหนกันออกมาเซ่ออกมาหรือว่าต้องให้กองทัพของข้ากวาดต้องผู้คนในเมืองไปเป็นเชลยให้หมดก่อนแกถึงจะยอมออกมาหาฮ่าๆๆๆ"

    ฉัวะ!!!!!!

    เขาไม่ทันที่จะพูดอะไรมากต่อไปได้เพราะสิ้นเสียงหัวเราะที่ยาวลากของเขานั้นแล้วร่างของเขาตั้งแต่ข้อแขนขึ้นไปจนถึงส่วนตัวและส่วนขาหลุดร่วงลงมาเป็นชิ้นๆพร้อมกับร่างของมังกรสีม่วงที่หลุดเป็นเศษเหมือนร่างคนบังคับ

    "ท่านแม่ทัพเสร็จมันแล้วทำยังไงดี"

    "ไม่น่าถามรีบหนีสิขืนอยู่ไปมีหวังตายตามไปด้วยแน่หนีเร็ว!!!!"

    เหล่าทหารที่เห็นก้อนเนื้อเศษเล็กเศษน้อยของแม่ทัพตัวเองต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอดไปคนละทิศละทางซึ่งเหนือยอดเขาลูกนึงได้ฉายเงาของร่างรักรบหญิงในชุดเกราะออกศึกแบบเต็มยศควบอยู่บนม้าขาวอวบพวงโดยที่มือของเธอนั้นถือดาบคู่ใจอยู่โดยที่ดาบนั้นมิได้เปรอะเปื้อนคราบเลือดอะไรแม้แต่น้อย

    "ตอนนี้แหละตามตีพวกมันซะชัยชนะต้องเป็นของพวกเรา!!"

    เหล่าทหารที่ตอนแรกนั้นเสียเปรียบต่างกลับเป็นฝ่ายไล่ตามพวกกองทัพของแม่ทัพตาเดียวบ้างทั้งที่มีกำลังพลมากกว่าแต่ก็ต้องวิ่งหลบหนีตายอย่างอลหม่านโดยที่แม่ทัพหญิงนั้นก็มองอยู่ที่ยอดอย่างถอนหายใจ

    "เมื่อใหร่มันจะจบซักทีนะ...ไอ้สงครามบ้าๆแบบนี้"

    แม่ทัพหญิงจ้องมองท้องฟ้าสีส้มในยามเย็นอย่างเหนื่อยใจถึงแม้ว่ากองทัพของเธอนั้นจะได้ชัยชนะมาอย่างงดงามแต่ผู้คนที่บาดเจ็บนั้นไม่ว่าฝ่ายใหนก็มีจำนวนมากเกินจะนับใหว

    "ซักวันจะมีวันที่ลูกหลานจะได้มีอนาคตที่ยาวไกลบ้างมั้ยนะถ้าชั้นสามารถทำวันนั้นให้มาถึงได้ก่อนที่พวกเค้าเหล่านั้นต้องมาเจอก็คงจะดีหรอก"

    เธอได้แต่มองเหล่าทหารทั้ง2ฝ่ายที่บางคนก็ช่วยพยุงกันไปกลับค่ายอย่างหมดสภาพของคนบางคนถึงกับยังต้องนอนอวดครวญบนกองศพเหล่านั้นทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่

    ---------------------------------------------------------------------------

    บนยอดผาที่สูงชันที่ตรงหน้าชายหนุ่มคนมีเหล่ามังกรสีแดงฉานสีดั่งโลหิตเพลิงบินวนเวียงมองเค้าอยู่อย่างไม่ประสงค์ดีและมังกรตัวนึงก็ได้บินอ้าปากกว้างเพื่อที่จะกลืนเค้าไปในคำเดียวอย่างแน่นอน

    "FireBall!!"

    หลังเสียงของเด็กหนุ่มคนนี้ร่างของมังกรแดงก็กลายเป็นสีแดงฉานมากขึ้นกว่าเดิมเพราะตัวมันนั้นถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงจนผิวแดงนั้นเริ่มไหม้เกรียมเป็นสีดำขุ่นๆแทนแต่ร่างและกลิ่นใหม้นั้นกลับกระตุ้นให้มังกรแดงตัวอื่นๆบ้าคลั่งรุมเข้ามารุมเค้ามากขึ้น

    "เลเวลอัพอีก1แล้วต้องเซฟไว้แล้วสิ"

    ชายหนุ่มนั่งบนซากมังกรแดงที่ไหม้เกรียมเป็นมังกรดำหลายสิบตัวอย่างสบายใจโดยที่ตัวเองนั้นนั่งขัดดาบของตัวเองอย่างสบายใจเฉิบ

    ระบบขาดพลังงาน...พลังงานเริ่มหมดแล้ว...จะทำการLog outภาพใน5วินาที...4วิ...3วิ

    "อะไรกันเดี๋ยวซิยังไม่ได้เซฟเลย"
    เด็กหนุ่มแลซ้ายหันขวามองบรรยากาศรอบๆตัวเองที่มืดลงจนแม้แต่ร่างตัวเองนั้นก็โดนความมืดกลืนกินหายไปด้วย

    "เดี๋ยวสิเดี๋ยวเฮ้!!!!!!!!!"
    เด็กหนุ่มวัยประมาณ17-18ปีนั่งสะบัดแขนไปกวาดลมไปทั่วโดยมีหญิงสาววัยใกล้ๆเค้าจ้องดูอยู่อย่างเหนื่อยใจ

    "ตื่นได้แล้ว ฟาเรล!!! "เด็กผู้หญิงที่จ้องเด็กหนุ่มคนนี้อยู่ดึงแว่นตาสีดำของเค้าออกแล้วดึงหัวเค้าให้ตั้งตรงๆตาสีมรกตเธอมองไปที่ตาสีแซฟไฟน์ของเค้าอย่างบรรจบกันพอดี

    "นี่...ฝีมือเธอใช่มั้ย.....โซเรีย...ชั้นเคยบอกเธอไปแล้วนี่ว่าเวลาชั้นกำลังเล่นเกมอยู่นั้นอย่ากวนใจน่ะ..."

    เด็กหนุ่มที่รู้ต้นเหตุว่าใครเป็นคนมาตัดไฟเครื่องเกมของเขาเริ่มบรรเลงบ่นออกมาเป็นจังหวะ

    "จ้าๆ...พี่ชายสุดเลิฟของชั้นแต่ถ้างั้นจะไม่ลงใช่มั้ยโบราณสถานโอวาเรสน่ะ"

    "อะไรนะ!!ถึงแล้วงั้นหรือแล้วทำไมไม่รีบบอก"

    เด็กหนุ่มรีบเก็บเครื่องเล่นเกมของตัวเองใส่กระเป๋าพร้อมวิ่งออกไปจากโซฟาที่นั่งของตัวเองภายในเวลาไม่กี่วินาทีจนเด็กสาวที่กำลังสะบัดผมมองตามแทบไม่ทัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×