ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ficหัวขโมยแห่งบารามอสภาคเจ้าหญิง

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่7 เช้าวันใหม่ในป้อมอัศวิน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 382
      2
      27 ก.พ. 49



    ยามเช้าที่สดใสของคนบนโลก ขณะนี้ที่ตลาดและตามบ้านเมืองเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาทำกิจวัตรยามเช้าตามปกติ และเสียงพูดคุยทักทายดังสนั่นไปทั่ว เสียงนกนานาชนิดต่างพากันออกหากินในยามเช้านี้เช่นกัน ที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กก็เช่นเดียวกัน ทุกคนในโรงเรียนต่างพากันตื่นจากห้วงแห่งนิทรา มาทำกิจวัตรประจำวันในยามเช้า ภายในห้องของหัวหน้าชั้นปีแสงสีทองจากภายนอกรอดผ่านทางหน้าต่างเข้ามา เห็นว่าที่เตียงตรงกลางมีคนที่เริ่มตื่นแล้วด้วย ชายคนนั้นค่อย ๆ ลุกมาบิดขี้เกียจก่อนที่จะมองไปยังเตียงอีก 2 เตียงข้าง ๆ แล้วก็ส่ายหัวออกมา ‘พวกมันยังไม่ตื่นอีกแฮะ ถ้าเราตื่นก่อนมันคงไม่ใช่วิสัยของขโมย ถ้างั้นแกล้งทำเป็นหลับดีกว่า’ชายผู้นั้นคิดแล้วล้มตัวนอนต่อ สักพักบุรุษผมเงินก็ค่อยลืมตาตื่นเนื่องจากแสงสีทองส่องมากระทบดวงตาเข้า บุรุษผู้นั้นลุกไปเข้าห้องน้ำโดยไม่พูดอะไรสักคำ สักพักชายผู้มีเส้นผมสีดำก็เริ่มขยับตัว เขามองไปรอบ ๆ ห้อง แล้วก็ลุกมาปลุกเพื่อนที่พึ่งจะเป็นกันเมื่อวานนี้



    “เฟริน ตื่นได้แล้ว”ชายผมดำปลุกพร้อมเขย่าตัว แต่เฟรินยังทำเฉย



    “นี้ลุกเดียวนี้นะ”ชายผู้นั้นยังไม่ยอมแพ้



    “อืม...อีกนิดนะคิล”เฟรินพูดออกมาเบา ๆ เหมือนกำลังงัวเงีย



    “ไม่ได้เดียวไปเรียนสายหรอก”คิลยังคงตื้อไม่เลิก แต่เฟรินยังแกล้งต่อ ‘แกล้งมันเล่นอีกนิดนึง’นี้คือความคิดของเฟรินในขณะนั้น



    “ไง คิล ไอ้ขโมยนั้นยังไม่ตื่นอีกหรือ”บุรุษผมเงินที่ออกมาจากห้องน้ำถามขึ้น



    “มันตื่นแล้วแต่ไม่ยอมลุก นะคาโล”คิลพูดตอบกลับไป



    “เดียวฉันจัดการเอง”คาโลที่เข้าไปในห้องน้ำและออกมาพร้อมบางอย่างอยู่ในมือพูดขึ้น คิลจึงเดินเข้าห้องน้ำไป



    “นายจะตื่นดีดีไหม”คาโลถามเสียงเย็น เฟรินที่นอนอยู่ไม่ได้ลืมตาจึงได้แต่คิดในใจว่า ‘มันจะทำอะไร เราว่ะ เอาเหอะ ลองดูท่าทีมันก่อน’แต่เฟรินก็คิดได้แค่นั้นเมื่อ น้ำเย็น ๆ ที่อยู่ในถังที่คาโลถือออกมาสาดมาราดเขาเต็มที่จนต้องลุกออกมาจากเตียง และจ้องหน้าคาโลด้วยความแค้น



    “ตื่นได้แล้วหรือ”คาโลถามมาด้วยเสียงเย็น ๆ เช่นเคย



    “ทำบ้าอะไรของนายนะ”เฟรินตวาด



    “ก็นายไม่อยากลุกขึ้นมาดีดีเอง สมน้ำหน้า”คาโลพูดแล้วยิ้มเหยียดอย่างดูถูกเป็นที่สุด ทำให้เฟรินโมโหจนหน้าแดง แต่ก็ไม่อาจต่อกรอะไรได้เนื่องจากคนพูดออกจากห้องไปแล้ว และเมื่อคิลออกมาจากห้องน้ำก็รับสายตา และรังสีฆ่าฟันจากเฟรินไปเต็ม ๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้าห้องน้ำไป



    “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นฟะ ไอ้เฟรินน่ากลัวชะมัด”คิลพูดขึ้นมาเบา ๆ พลางเอามือเกาท้ายทอยและมองไปที่ประตู สักพักเฟรินก็ออกมาแต่เจ้าตัวกลับเดินออกไปโดยไม่ทักอะไรเลย คิลจึงรีบตามออกไปเพราะกลัวจะไปก่อเรื่องเข้าเนื่องจากหน้าตาเฟรินในตอนนี้ส่อแววว่าโมโหสุด ๆ แถมยังมีไอสีดำรอบ ๆ ตัวนั้นอีก



          ในด้านเฟรินที่กำลังโมโหจัดเดินไปคิดไปอยู่ในใจว่า ‘ไอ้เจ้าชายคาโล บังอาจเอาน้ำเย็นมาราดฉันหรือ เดียวได้เห็นดีกัน นายจะใหญ่มาจากไหนฉันก็ไม่หวั่น มาสู้กันสักตั้งสิ ใครจะรู้ตัวจริงฉันก็ไม่กลัว   แล้วเฟ้ย’

      เฟรินและคิลเดินตรงมาถึงห้องอาหารดรากอนแต่ก่อนที่จะเข้าไป คิลก็ดึงแขนเฟรินให้หยุดไว้ก่อนถึงแม้ว่าเมื่อเฟรินหันกลับมาแล้วจะรีบปล่อยทันทีก็เหอะ



    “มีอะไร”เฟรินพูดเสียงเรียบ ๆ ที่ทำให้รู้เลยว่ากำลังโกรธหนัก



    “คือ..ฟังก่อนนะเฟริน เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นฉันไม่รู้หรอกนะ เพียงแต่ใจเย็นลงหน่อยเถอะฉันยังไม่อยากเสียเพื่อนคนแรกไปหรอกนะ”คิลพูดพลางยิ้มแห้ง ๆ ให้เฟริน แต่แค่คำเตือนนั้นก็ทำให้เฟรินยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ถ้าอยู่ในร่างผู้หญิงคงจะต้องน่ารักมาก ๆ



    “อืม เข้าใจแล้วล่ะคิล”เฟรินพูดด้วยเสียงร่าเริงคนเก่า คิลจึงรู้สึกดีขึ้นมากถึงแม้จะงง ๆ ว่าทำไมหัวขโมยถึงปล่อยไอดำที่น่ากลัวออกมาได้



        เฟรินกับคิลเดินเข้ามาในห้องอาหารดรากอน ในนี้ผู้คนมากมายเดินไปมา และเสียงพูดคุยที่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ทั้งคู่เดินไปซื้อข้าวแล้วกลับมานั่งตรงที่ยังว่างอยู่ ถึงแม้ว่าตอนที่เฟรินมองหาที่นั่งสายตาจะไปสบเข้ากับดวงตาสีฟ้าคู่นั้นที่มองมาอย่างยิ้มเหยาะ แทบจะทนไม่ไหวถ้าไม่ใช่เพราะคิลมาตบไหล่เรียกสติให้  

           ขณะที่คิลเริ่มทานข้าวแล้วแต่เฟรินยังคงจ้องมองจานข้าวอยู่ ‘เฮออ  นี้เราต้องกินแบบขโมยใช่ไหมเนี่ย’เฟรินคิดในใจ

    “เฮ้ย! เฟรินนายไม่ทานหรือเอาแต่จ้องจานข้าวอยู่นั้นแหละ เดียวฉันจัดการให้ซะเลย”คิลพูดพลางเอาช้อนจะมาตักผักไปจากจานเฟรินแต่ก็ต้องโดนช้อนของเฟรินกันเอาไว้



    “ไม่ต้องเลยนะ คิล”เฟรินพูดพร้อมแยกเขียวให้ คิลจึงได้แต่หัวเราะน้อย ๆ แล้วชักช้อนกลับ



    “ว่าแต่นายทำไมไม่กินเนื้อล่ะ”คิลถามขึ้นเมื่องมองในจานข้าวของเฟริน และพบว่ามันมีแต่ข้าวกับผัก



    “เออ ...ฉันไม่ชอบนะ”เฟรินพูด พลางคิดในใจต่อว่า ‘ตอนอยู่ที่เดมอสก็ไม่กินเนื้อ มาให้กินตอนนี้ก็กระไรอยู่ เอาเหอะหินข้าวดีกว่าเดียวคิลมันจะสงสัย’ ว่าแล้วก็ลงมือทานข้าวอย่างวิธีขโมย แบบมูมมาม



    “เหอะ กินยังกับอดข้าวมาเป็นเดือน สกปรกสิ้นดี”เสียงนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เจ้าชายคาโลเป็นผู้พูด เฟรินหยุดทานอาหารตรงหน้า พลางเงยหน้ามองคาโล ที่ส่งสายตาดูถูกมาให้อีกแล้ว พลางคิดในใจว่า ‘เย็นใว้  ๆ ใช่ว่าเราอยากจะกินแบบนี้ที่ไหนกัน’



    “อย่างกับหมาข้างถนน ไม่รู้จักที่สูง พ่อแม่ไม่เคยสั่งสอน”เมื่อคาโลเห็นว่าเฟรินไม่พูดอะไรจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ทำเอาเฟรินตบะที่ตั้งไว้แตกยับเยินโกรธจนหน้าแดง คิลจะห้ามก็ไม่ทันซะแล้วเมื่อ เฟรินเดินเข้าไปชกหน้าคาโลซะเต็มที่



    “นายดูถูกฉันยังพอทนได้แต่ถ้าดูถูกไปถึงพ่อแม่ฉันอย่างนี้นายเจ็บตัวแน่ นึกว่าใหญ่มาจากไหนหรือไง จะพูดอะไรก็พูดออกมานะ มาสู้กันสักตั้งสิ”เฟรินตะโกนท้าออกมาดังไปทั่วห้องอาหาร คาโลจับแก้มที่โดนต่อยแล้วเริ่มรักษาตัวเอง



    “ไม่มีปัญหา หัวขโมยกระจอกอย่างนายจะมาสู้กับฉันได้อย่างไรกันล่ะ”คาโลพูดอย่างเยือกเย็น บริเวณรอบห้องอาหารเริ่มมีน้ำแข็งเกาะตามเสาและหน้าต่าง



    “ไม่ต้องอ้อมค้อม”เฟรินตวาด คาโลยิ้มเยาะออกมา



    “ฉันรับคำท้า”คาโลพูดเสียงเย็น ๆ สายตามองมาอย่างดูถูก เฟรินก็ยิ้มเหยียด ดวงตาสีน้ำตาลที่ส่อแววมั่นใจปนความโกรธมองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าราวกับน้ำแข็งนั้นอย่างไม่เกรงกลัว แต่แล้วก่อนที่การต่อสู้จะเกิดขึ้นรุ่นพี่ก็มาขัดซะก่อน



    “นี้มันเกิดอะไรขึ้น”เสียงนี้ดังมาจากรุ่นพี่ผมทองดวงตาสีม่วงอเมทินต์มองไปรอบ ๆ ห้องที่เดียวร้อนเดียวหนาว ผู้คนที่มามุงดูต่างก็ขยับให้รุ่นพี่ทั้งหลายเห็นคนสองคนตรงกลาง



    “อ๋อ เจ้าหนู๋เฟรี่ กับคาลี่เองหรือ”เสียงนี้ก็ดังมาจากบุรุษอีกคนที่มีฉายาว่าซาตานแต่กลับฉายรอยยิ้มและ ความอบอุ่นในดวงตาภายใต้กรอบแว่นนั้น แต่เสียงเรียกชื่อแบบนั้นกลับทำให้ความโกรธของเฟรินเบาบางลงไปเยอะ



    “ไม่มีอะไรหรอกฮะ รุ่นพี่ ลูคัส รุ่นพี่ลอเรนซ์”เฟรินหันมาพูดพร้อมรอยยิ้ม ทำเอาคาโลงงไปนิด



    “ไม่มีอะไรแล้วไอ้บรรยากาศมาคุนี้ล่ะ”ลอเรนซ์ถามยังคงไม่เชื่อ



    “ก็น้องเขาบอกว่าไม่มีอะไรไงล่ะ ลอรี่ล่ะก็”ลูคัสพูดแต่แล้วก็ต้องวิ่งหลบกริชเงินที่พุ่งมามากมาย เฟียว~~ฉึก เสียงนี้ดังขึ้นมาหลายรอบทุกคนในห้องต่างก็พากันหัวเราะและหลบกริชกันเจ้าระหวั่นบรรยากาศรอบ ๆ จึงเริ่มสดใสขึ้น เฟรินวิ่งหลบกริชไปมาจนกระทั่งมาชนคาโลเข้า เฟรินจ้องหน้าคาโลอย่างไม่กลัวเกรง



    “การต่อสู้ของเรายังไม่ได้ถูกยกเลิกนะ แล้วเจอกัน พ่อน้ำแข็งใส”เฟรินพูดแล้วรีบลากคิลออกจากห้องไป อารมณ์โกรธเมื่อสักครู่หายไปแล้วและ ลอเรนซ์ก็ถูกบิลค่าใช่จ่ายล้อมทับเป็นกอง ชีวิตจึงเริ่มเข้าสู่การเรียนอีกครั้งเมื่อเสียงกริ่งบอกเวลาเรียนดังขึ้น



    ***_____________________________________________________________________________________***
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×