ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ficหัวขโมยแห่งบารามอสภาคเจ้าหญิง

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่5 โรงเรียนเอดินเบิร์ก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 406
      1
      27 ก.พ. 49



           ประตูใหญ่ของโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กเปิดกว้างในเช้านี้  พระสุริยันส่องแสงแรงกล้า สร้างความอบอุ่นให้แก่ผู้คน

    และเหล่านักเรียนทั้งหลายในยามเช้าที่มีอากาศหนาว ๆ เสียงนกร้องหลายต่อหลายตัวพากันส่งเสียงราวกับเสียงดนตรีที่ต้อน

    รับเช้าวันใหม่และเหล่านักเรียนที่ต้องเข้ามาอยู่ในรั้วโรงเรียนแล้ว  สนามหญ้าที่เขียวขจีทั้งในและนอกโรงเรียนเต็มไปด้วย

    หยาดน้ำค้างและพราวระยับเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ทั้งรถทั้งคนเต็มไปทั้งถนนด้านหน้า  ธงสีม่วงลายมงกุฏ ดาบ คทา แหวนสี

    ทองอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นธงประจำโรงเรียนพระราชากำลังปลิวไสวเรียงรายอยู่บนกำแพงและประตูของโรงเรียนที่เปิดกว้าง

           วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเรียน  นักศึกษาใหม่ทุกคนจะต้องเข้าคิวรอรายงานตัว บางคนก็มาแต่เช้าเพื่อที่อยากจะได้

    เลขที่อันดับต้น ๆ และอาจจะได้มีสิทธิเลือกหอพักเองได้ด้วย ส่วนพวกรุ่นพี่ก็เดินเข้าโรงเรียนไปได้เลย ทุกคนต่างแต่งกาย

    อยู่ในชุดนักเรียน เว้นรุ่นพี่ที่ดูจะแตกต่างไปหน่อยเพราะว่ามีผ้าคลุมหลากสีอยู่ข้างหลัง บางคนก็สีแดง บางคนก็สีขาว สีดำ

    และบางคนก็สวมผ้าคลุมสีน้ำเงิน เสียงของสัตว์มากมายร้องออกมาปะปนกันจนไม่รู้ว่าเป็นสัตว์ชนิดไหนบ้าง



    “เฮออ..ทำไมแถวมันยาวอย่างนี้นะ แล้วยังเสียงของสัตว์ต่างชนิดที่ชวนปวดหูพวกนี้อีกเมื่อไหร่มันจะเงียบกันซะที”เสียงพูด

    นี้ดังมาจากผู้ชายผมน้ำตาลและดวงตาสีเดียวกันที่หยุดมองไปรอบ ๆ ด้านแล้ว



    “อย่าบ่นได้ไหมห่ะ ไอ้เฟริน รีบ ๆ เข้าไปเหอะ ข้าส่งแค่นี้ล่ะว่ะไปล่ะ”มาดัสพูดขึ้นแล้วเดินจากไป



    “ขอบคุณนะ ขอให้โชคดี”เฟรินพูดขึ้นดัง ๆ พร้อมโบกมือลามาดัสที่เดินจากไปแล้วเดินไปต่อคิวรอการขานชื่อและรายงานตัว



    “สวัสดีค่ะคุณหัวขโมย”เสียงทักดังขึ้นมาจากข้างหลัง เสียงทักที่หวานมาก จนเฟรินต้องหันกลับไปหาและก็ได้พบสาวแสนสวย

    ผมสีชาเป็นลอน ๆ  ตาสีส้มเป็นประกาย ทำเอาใจคนที่อยู่ในร่างผู้ชายใจสั้นนิด ๆ  แต่เมื่อสัพนามที่เธอเรียกเขานั้นมันกลับทำ

    ให้เฟรินหัวเราะแฮะ แฮะออกมา



    “อย่าเรียกผมว่าหัวขโมยเลยครับคุณผู้หญิง”เฟรินพูดอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มที่เรียกคะแนนจากสาว ๆ ได้เยอะ



    “แล้วจะให้เรียกว่าอะไรดีล่ะค่ะ ตอนประกาศชื่อครั้งที่แล้วจำได้แต่ว่าคุณเป็นขโมยนะค่ะ”หญิงสาวคนนั้นตอบกลับมาด้วยใบ

    หน้าใสซื่อ



    “ผมมีชื่อว่า เฟริน เดอเบอโรว์ครับ”เฟรินพูดพร้อมส่งรอยยิ้มที่ทำเอาสาวเจ้าหน้าขึ้นสีชมพูเล็กน้อย และแดงขึ้นเมื่อเฟรินพูด

    ต่อว่า



    “คุณผู้หญิงน่ารักจังเลยนะครับ สวยอย่างนี้คงมีแฟนแล้ว ใจของผมคงจะทานแห้วเป็นแน่แท้ แล้วใครจะมาดามหัวใจของล่ะ

    ครับเนี่ย” และจบด้วยการจับมือของหญิงสาวขึ้นมาจุมพิศ



           แต่แล้วเสียงระฆังก็ดังขึ้น ทำให้การสนทนาของทั้งคู่ชะงักลง เฟรินเงยหน้ามองนาฬิกาเลือนโตที่ประดับอยู่ตีบอกเวลา

    ไม่นานเสียงแตรยาวก็ดังลั่นไปทั่วงานเป็นสัญญาณของการเริ่มรายงานตัว คนแรกผ่านไป คนที่สองผ่านไป เสียงรายงานตัว

    และเสียงประกาศดังลั่นไปทั่วบริเวณนั้นทีละคนเรื่อย ๆ ยิ่งเวลาผ่านไปแถวก็หดสั้นลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งสามารถให้เฟรินเห็น

    โต๊ะยาวใหญ่ที่คลุมด้วยผ้ากำมะ หยี่สีม่วง ปราชญ์เลโมธีกำลังยืนต้อนรับและคุยกับผู้รายงานตัวคนล่าสุดอยู่ มองเลยเข้าไป

    เห็นแถวกอง ทัพตั้งอยู่ 4 กอง ทัพซ้ายสุดถือธงสีน้ำเงินลายมงกุฏนั่งอยู่บนหลังกริฟฟินสีทอง ทัพต่อมาถือธงสีแดงลายดาบ

    ผู้ถือนั่งอยู่บนหลังมังกรเพลิง ถัดมาอีกถือธงสีขาวลายคทา นั่งอยู่บนสฟิงซ์ และทัพสุดท้ายสีดำลายแหวน



    “เฟริน  เดอเบอโรว์” เสียงประกาศชื่อดังขึ้นแต่ดูเหมือนผู้ถูกเรียกจะยังไม่รู้สึกตัว



    “เฟริน เดอเบอโรว์”เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้งแต่น้ำเสียงดังกว่าเก่าปลุกเฟรินที่อยู่ในภวังค์ขึ้นมา



    “ค่ะ..เอ๊ย ครับ”เฟรินขานตอบอย่างตกใจเล็กน้อย ‘เกือบแล้วไหมล่ะ ลืมไปว่าอยู่ในร่างเฟริน เดอเบอโรว์’เสียงนี้เกิดขึ้นภาย

    ในใจเท่านั้นพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่มีใครจับผิดได้ แล้วเดินไปยืนข้างหน้าปราชญ์เลโมธี



    “เฟริน...อืม..ไปอยู่ป้อมอัศวินล่ะกัน”เลโมธีพูดทันใดนั้นเสียงเฮก็ดังขึ้นมาจากทัพที่ถือธงสีแดงลายดาบทัพมังกร เฟรินจึงเดิน

    ไปตรงนั้น และรับเสื้อคลุมจากรุ่นพี่คนหนึ่ง



    “ยินดีต้อนรับสู่ป้อมอัศวิน เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะไนท์ ออฟ เอดินเบิร์ก”เสียงต้อนรับนี้มาจากชายผู้ที่หมอบผ้าคลุมให้ ชายคนนี้

    อยู่ในชุดนักเรียนดูท่าว่าจะเป็นคนสำคัญเพราะอยู่ในชุดเครื่องแบบที่มีมงกุฎและดาวสามดวงติดอยู่ที่อก ใบหน้าถือได้ว่าหล่อทีเดียว

    ทั้งสง่ามีราศี และที่แน่แน่ดูองอาจและฉายความรอบรู้เอาไว้มาก สร้างความสนใจให้แก่เฟลิโอน่าที่อยู่ในร่างผู้ชายมาก โดยเฉพาะ

    นัยต์ตาสีน้ำเงินที่ส่อแววอบอุ่นเป็นกันเองนั้น



    “ฉันคิดว่าเธอคงหน้าสนใจหน้าดูนะ หลังจากที่รู้ผลคะแนนสอบที่ออกมา ไว้วันหลังขอคุยด้วยหน่อยแล้วกัน”บุรุษผู้นั้นพูดด้วยน้ำ

    เสียงจริงจังปนขบขัน



    “ครับ”เฟรินพูดแล้เดินเข้าไปข้างใน ‘หน้าสนใจแฮะรุ่นพี่คนนี้’และความคิดก็ต้องหยุดลงเมื่อเฟรินรู้สึกว่ามีคนมองอยู่จึงหยุดเดิน

    แล้วหันกลับไปอย่างรวดเร็วแต่แล้ว



    อุ๊บ!!



    เฟรินหันไปชนเข้ากับแผ่นอกกว้างของผู้ชายคนหนึ่ง พอจะเงยหน้าขึ้นไปเพื่อจะขอโทษก็ต้องพบกับ นัยต์ตาสีฟ้าที่มองมาอย่าง

    เหยียดหยาม การมองแบบนี้เฟรินเกลียดที่สุดแล้วยิ่งคำพูดนั้นอีกที่ทำให้เฟรินโมโห



    “เดินยังไงห่ะ  ตามีนะหันมองซะบ้าง จะหันกลับมาทำไมเดินไปข้างหน้าก็ดีอยู่แล้ว”



    “เรื่องของฉัน นายไม่ต้องมายุ่ง” เฟรินพูดตวาดไปใส่แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ‘ตายล่ะ ลืมขอโทษที่หันไปชนเลย’เฟรินคิดรู้

    สึกผิดแต่แล้วก็ต้องคิดใหม่เมื่อนึกถึงเหตการณ์ที่ตลาดและเมื่อกี้อีกครั้ง ‘ช่างมัน ทีมันชนเรายังไม่รู้จักขอโทษเลย ใยเราต้อง

    ไปขอโทษมันด้วยแล้วที่ด่าเราเมื่อกี้มันน่าโมโหนักหน้าจะต่อยไอ้หน้าหล่อ ๆ นั้นไปซักทีสองที คนอะไรเย็นชาชะมัด ยังงี้ใคร

    ไปชอบมันได้ลงสงสัยได้นั่งน้ำตาตกทั้งวัน’แล้วจึงเดินเข้าป้อมไปรวมกับคนอื่น ๆ ทันที



       ***_______________________________________________________________________________***



    จบแล้วค่า พบกันใหม่ตอนหน้านะค่ะ   ผู้อ่านทุกท่านที่อ่านมาพอจะรู้หรือยังเอ่ยว่าคาโลนิสัยมันเปลี่ยนไปนิดหน่อยนะ แฮะ แฮะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×