ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่5 โรงเรียนเอดินเบิร์ก
ประตูใหญ่ของโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กเปิดกว้างในเช้านี้ พระสุริยันส่องแสงแรงกล้า สร้างความอบอุ่นให้แก่ผู้คน
และเหล่านักเรียนทั้งหลายในยามเช้าที่มีอากาศหนาว ๆ เสียงนกร้องหลายต่อหลายตัวพากันส่งเสียงราวกับเสียงดนตรีที่ต้อน
รับเช้าวันใหม่และเหล่านักเรียนที่ต้องเข้ามาอยู่ในรั้วโรงเรียนแล้ว สนามหญ้าที่เขียวขจีทั้งในและนอกโรงเรียนเต็มไปด้วย
หยาดน้ำค้างและพราวระยับเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ทั้งรถทั้งคนเต็มไปทั้งถนนด้านหน้า ธงสีม่วงลายมงกุฏ ดาบ คทา แหวนสี
ทองอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นธงประจำโรงเรียนพระราชากำลังปลิวไสวเรียงรายอยู่บนกำแพงและประตูของโรงเรียนที่เปิดกว้าง
วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเรียน นักศึกษาใหม่ทุกคนจะต้องเข้าคิวรอรายงานตัว บางคนก็มาแต่เช้าเพื่อที่อยากจะได้
เลขที่อันดับต้น ๆ และอาจจะได้มีสิทธิเลือกหอพักเองได้ด้วย ส่วนพวกรุ่นพี่ก็เดินเข้าโรงเรียนไปได้เลย ทุกคนต่างแต่งกาย
อยู่ในชุดนักเรียน เว้นรุ่นพี่ที่ดูจะแตกต่างไปหน่อยเพราะว่ามีผ้าคลุมหลากสีอยู่ข้างหลัง บางคนก็สีแดง บางคนก็สีขาว สีดำ
และบางคนก็สวมผ้าคลุมสีน้ำเงิน เสียงของสัตว์มากมายร้องออกมาปะปนกันจนไม่รู้ว่าเป็นสัตว์ชนิดไหนบ้าง
“เฮออ..ทำไมแถวมันยาวอย่างนี้นะ แล้วยังเสียงของสัตว์ต่างชนิดที่ชวนปวดหูพวกนี้อีกเมื่อไหร่มันจะเงียบกันซะที”เสียงพูด
นี้ดังมาจากผู้ชายผมน้ำตาลและดวงตาสีเดียวกันที่หยุดมองไปรอบ ๆ ด้านแล้ว
“อย่าบ่นได้ไหมห่ะ ไอ้เฟริน รีบ ๆ เข้าไปเหอะ ข้าส่งแค่นี้ล่ะว่ะไปล่ะ”มาดัสพูดขึ้นแล้วเดินจากไป
“ขอบคุณนะ ขอให้โชคดี”เฟรินพูดขึ้นดัง ๆ พร้อมโบกมือลามาดัสที่เดินจากไปแล้วเดินไปต่อคิวรอการขานชื่อและรายงานตัว
“สวัสดีค่ะคุณหัวขโมย”เสียงทักดังขึ้นมาจากข้างหลัง เสียงทักที่หวานมาก จนเฟรินต้องหันกลับไปหาและก็ได้พบสาวแสนสวย
ผมสีชาเป็นลอน ๆ ตาสีส้มเป็นประกาย ทำเอาใจคนที่อยู่ในร่างผู้ชายใจสั้นนิด ๆ แต่เมื่อสัพนามที่เธอเรียกเขานั้นมันกลับทำ
ให้เฟรินหัวเราะแฮะ แฮะออกมา
“อย่าเรียกผมว่าหัวขโมยเลยครับคุณผู้หญิง”เฟรินพูดอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มที่เรียกคะแนนจากสาว ๆ ได้เยอะ
“แล้วจะให้เรียกว่าอะไรดีล่ะค่ะ ตอนประกาศชื่อครั้งที่แล้วจำได้แต่ว่าคุณเป็นขโมยนะค่ะ”หญิงสาวคนนั้นตอบกลับมาด้วยใบ
หน้าใสซื่อ
“ผมมีชื่อว่า เฟริน เดอเบอโรว์ครับ”เฟรินพูดพร้อมส่งรอยยิ้มที่ทำเอาสาวเจ้าหน้าขึ้นสีชมพูเล็กน้อย และแดงขึ้นเมื่อเฟรินพูด
ต่อว่า
“คุณผู้หญิงน่ารักจังเลยนะครับ สวยอย่างนี้คงมีแฟนแล้ว ใจของผมคงจะทานแห้วเป็นแน่แท้ แล้วใครจะมาดามหัวใจของล่ะ
ครับเนี่ย” และจบด้วยการจับมือของหญิงสาวขึ้นมาจุมพิศ
แต่แล้วเสียงระฆังก็ดังขึ้น ทำให้การสนทนาของทั้งคู่ชะงักลง เฟรินเงยหน้ามองนาฬิกาเลือนโตที่ประดับอยู่ตีบอกเวลา
ไม่นานเสียงแตรยาวก็ดังลั่นไปทั่วงานเป็นสัญญาณของการเริ่มรายงานตัว คนแรกผ่านไป คนที่สองผ่านไป เสียงรายงานตัว
และเสียงประกาศดังลั่นไปทั่วบริเวณนั้นทีละคนเรื่อย ๆ ยิ่งเวลาผ่านไปแถวก็หดสั้นลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งสามารถให้เฟรินเห็น
โต๊ะยาวใหญ่ที่คลุมด้วยผ้ากำมะ หยี่สีม่วง ปราชญ์เลโมธีกำลังยืนต้อนรับและคุยกับผู้รายงานตัวคนล่าสุดอยู่ มองเลยเข้าไป
เห็นแถวกอง ทัพตั้งอยู่ 4 กอง ทัพซ้ายสุดถือธงสีน้ำเงินลายมงกุฏนั่งอยู่บนหลังกริฟฟินสีทอง ทัพต่อมาถือธงสีแดงลายดาบ
ผู้ถือนั่งอยู่บนหลังมังกรเพลิง ถัดมาอีกถือธงสีขาวลายคทา นั่งอยู่บนสฟิงซ์ และทัพสุดท้ายสีดำลายแหวน
“เฟริน เดอเบอโรว์” เสียงประกาศชื่อดังขึ้นแต่ดูเหมือนผู้ถูกเรียกจะยังไม่รู้สึกตัว
“เฟริน เดอเบอโรว์”เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้งแต่น้ำเสียงดังกว่าเก่าปลุกเฟรินที่อยู่ในภวังค์ขึ้นมา
“ค่ะ..เอ๊ย ครับ”เฟรินขานตอบอย่างตกใจเล็กน้อย ‘เกือบแล้วไหมล่ะ ลืมไปว่าอยู่ในร่างเฟริน เดอเบอโรว์’เสียงนี้เกิดขึ้นภาย
ในใจเท่านั้นพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่มีใครจับผิดได้ แล้วเดินไปยืนข้างหน้าปราชญ์เลโมธี
“เฟริน...อืม..ไปอยู่ป้อมอัศวินล่ะกัน”เลโมธีพูดทันใดนั้นเสียงเฮก็ดังขึ้นมาจากทัพที่ถือธงสีแดงลายดาบทัพมังกร เฟรินจึงเดิน
ไปตรงนั้น และรับเสื้อคลุมจากรุ่นพี่คนหนึ่ง
“ยินดีต้อนรับสู่ป้อมอัศวิน เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะไนท์ ออฟ เอดินเบิร์ก”เสียงต้อนรับนี้มาจากชายผู้ที่หมอบผ้าคลุมให้ ชายคนนี้
อยู่ในชุดนักเรียนดูท่าว่าจะเป็นคนสำคัญเพราะอยู่ในชุดเครื่องแบบที่มีมงกุฎและดาวสามดวงติดอยู่ที่อก ใบหน้าถือได้ว่าหล่อทีเดียว
ทั้งสง่ามีราศี และที่แน่แน่ดูองอาจและฉายความรอบรู้เอาไว้มาก สร้างความสนใจให้แก่เฟลิโอน่าที่อยู่ในร่างผู้ชายมาก โดยเฉพาะ
นัยต์ตาสีน้ำเงินที่ส่อแววอบอุ่นเป็นกันเองนั้น
“ฉันคิดว่าเธอคงหน้าสนใจหน้าดูนะ หลังจากที่รู้ผลคะแนนสอบที่ออกมา ไว้วันหลังขอคุยด้วยหน่อยแล้วกัน”บุรุษผู้นั้นพูดด้วยน้ำ
เสียงจริงจังปนขบขัน
“ครับ”เฟรินพูดแล้เดินเข้าไปข้างใน ‘หน้าสนใจแฮะรุ่นพี่คนนี้’และความคิดก็ต้องหยุดลงเมื่อเฟรินรู้สึกว่ามีคนมองอยู่จึงหยุดเดิน
แล้วหันกลับไปอย่างรวดเร็วแต่แล้ว
อุ๊บ!!
เฟรินหันไปชนเข้ากับแผ่นอกกว้างของผู้ชายคนหนึ่ง พอจะเงยหน้าขึ้นไปเพื่อจะขอโทษก็ต้องพบกับ นัยต์ตาสีฟ้าที่มองมาอย่าง
เหยียดหยาม การมองแบบนี้เฟรินเกลียดที่สุดแล้วยิ่งคำพูดนั้นอีกที่ทำให้เฟรินโมโห
“เดินยังไงห่ะ ตามีนะหันมองซะบ้าง จะหันกลับมาทำไมเดินไปข้างหน้าก็ดีอยู่แล้ว”
“เรื่องของฉัน นายไม่ต้องมายุ่ง” เฟรินพูดตวาดไปใส่แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ‘ตายล่ะ ลืมขอโทษที่หันไปชนเลย’เฟรินคิดรู้
สึกผิดแต่แล้วก็ต้องคิดใหม่เมื่อนึกถึงเหตการณ์ที่ตลาดและเมื่อกี้อีกครั้ง ‘ช่างมัน ทีมันชนเรายังไม่รู้จักขอโทษเลย ใยเราต้อง
ไปขอโทษมันด้วยแล้วที่ด่าเราเมื่อกี้มันน่าโมโหนักหน้าจะต่อยไอ้หน้าหล่อ ๆ นั้นไปซักทีสองที คนอะไรเย็นชาชะมัด ยังงี้ใคร
ไปชอบมันได้ลงสงสัยได้นั่งน้ำตาตกทั้งวัน’แล้วจึงเดินเข้าป้อมไปรวมกับคนอื่น ๆ ทันที
***_______________________________________________________________________________***
จบแล้วค่า พบกันใหม่ตอนหน้านะค่ะ ผู้อ่านทุกท่านที่อ่านมาพอจะรู้หรือยังเอ่ยว่าคาโลนิสัยมันเปลี่ยนไปนิดหน่อยนะ แฮะ แฮะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น