ลำดับตอนที่ #23
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ~~~เช้าวันที่4~~~เที่ยวในอำเภอกันตัง
จิ๊บ~~ จิบ~~จิ๊บ เสียงนกร้องดังเสียงนาฬิกาปลุกผู้คนให้ตื่นจากการหลับไหลที่ยาวนาน แสงแดดส่องฟ้าที่เพื่มความอบอุ่นให้แก่
ร่างกายในยามเช้าที่มีอากาศหนาวเย็น ด้วยสภาพอากาศที่เป็นเช่นนี้ทำให้ผู้คนมากมายไม่อยากที่จะลุกออกจากที่นอนถ้าไม่ใช่เพราะ
ว่าวันนี้เป็นวันที่ต้องออกจากเกาะรอกแห่งนี้ ผู้คนต่างพากันเก็บข้าวของและมาร่วมตัวกันที่ที่โรเวนนัดหมายไว้เมื่อคืน
\"โห เรนอนดูสิ เมื่อคืนนี้ยังเละอยู่เลย ไงเช้านี้มันถึงได้สะอาดอย่างนี้เนี่ย\"เฟรินพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าบริเวณที่จัดงานนั้นสะอาดต่าง
จากเมื่อคืน เรนอนหัวเราะออกมาเบา ๆ
\"ก็อุปกรณ์ทุกอย่างในงานนั้นมันเป็นเวทย์มนต์นะสิค่ะ มันถึงได้เก็บง่ายนะค่ะ\"เรนอนอธิบาย
\"เฟริน\"คาโลเรียกเฟรินที่กำลังคุยอยู่เฟรินจึงหยุดเดินแต่ไม่หันมา
\"คือว่า ขอคุยด้วยหน่อยสิ\"คาโลพูดขึ้นมาเนื่องจากว่านึกเหตุการณ์ได้หมดแล้ว แต่ว่าเฟรินกลับวิ่งหนีไปเฉยเลย
\"เดี๋ยวสิเฟริน\"คาโลเรียก แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมหยุดวิ่งจนกระทั้งมองไม่เห็นไป
\"เรนอนช่วยคิดหน่อยสิแล้วจะทำอย่างไรดีล่ะนี้\" คาโลหันไปพึงหญิงที่อยู่ข้าง ๆ แต่ด้วยสีหน้าที่ถามมันไม่บ่งบอกว่าสำนึกผิดเลย
\"ผูกเองก็แก้เองสิค่ะ ไม่บอกท่านลุงบาโรนี้ก็ถือว่าช่วยมากแล้วล่ะค่ะ\"เรนอนพูดแล้วออกวิ่งตามเฟรินไป
\"โธ๋เว้ย \"คาโลสถบออกมาอย่างไม่สมตัวเอง \'สงสัยคงต้องง้อมันหน่อยคงจะงอนที่ไปทำมันอย่างนั้น\'คาโลคิดแล้วจึงออกตัวเดินอีกครั้ง
\"เอาล่ะ ทุกคนมาพร้อมกันหรือยัง\"โณเวนพูดเมื่อเห็นว่าคนเริ่มเยอะแล้ว
\"ครับ/ค่า\"ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียว
\"เอาล่ะถ้างั้นเราก็ขึ้นเรือกันเลยนะ เล็ทโก\"โรเวนพูดแล้วออกตัวนำวิ่งทุกคนไปขึ้นเรือแล้วเริ่มพายออกทะเลไปขึ้นเรือใหญ่
\"เฟริน นายเป็นอะไรหรือเปล่า\"คาโลเดินมาถามเมื่อเห็นว่าเฟรินไม่คุยกับเขาเลยเมื่อเรือออกมาได้สักพักแล้ว
\"เปล่าสักหน่อย\"เฟรินที่เริ่มสงบใจได้แล้วพูด
\"แล้วทำไมไม่หันมาล่ะ\"คาโลยังคงถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย
\"ก็ไม่มีอะไรสักหน่อย\"เฟรินพูดแล้วรีบเดินหนีทันที \'หึ ต้องแกล้งสักหน่อยจะได้สำนึก บังอาจมาทำแบบนั้นกับคนอย่างเฟรินได้\'เฟรินคิด
\"เดียวสิเฟริน\"คาโลเรียกแล้วเดินตามแต่ เมื่อถึงทางโค้งก็มีคนเดินมาชน
\"โทษทีคาโล\" โรที่เดินมาชนพูดออกมา
\"ไม่เป็นไร\"คาโลพูดแล้วจะเดินต่อ แต่ก็โดนโรกั้นเอาไว้
\"นายจะรีบไปไหน\"โรถามพร้อมส่งรอยยิ้ม
\"เรื่องของฉัน\"คาโลพูดพลางส่งสายตาเย็น ๆ มาให้
\"งั้นหรือ\"โรพูดยิ้ม ๆ แล้วเดินจากไป คาโลรีบเดินตามมาแต่เมื่อมองดี ๆ เฟรินหายไปแล้ว
\"โธ่เว้ย\"คาโลสถบออกมาพร้อมชกไปที่กำแพงข้าง ๆ ทำให้เกิดแผลที่หลังมือ และคาโลก็มิได้คิดจะรักษามันแต่เดินหาเฟรินต่อทันที
และเมื่อเจอเฟรินก็จะถูกเพื่อน ๆ คนแล้วคนเล่ามาขัดพาไปนู้นพาไปนี้ทำให้ไม่ได้คุยกับเฟรินสักที จนกระทั้งเรือถึงท่าและมุ่งสู่โรงแรม
เมื่อครั้งแรกที่มา ก็ยังไม่ได้คุยกัน คาโลจึงได้แต่มองประตูห้องของเฟรินเท่านั้นแล้วเดินเข้าห้องของตนเอง
ภายในห้องหมายเลข 211 ของเฟรินและเรนอน
\"คุณเฟรินค่ะ \"เรนอนเรียกเมื่อตนเองอาบน้ำเสร็จแล้ว
\"ตาผมอาบแล้วสินะ\"เฟรินพูดแล้วถอดเสื้อทำท่าจะเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อจับลูกบิดประตูห้องน้ำ
\"เดี๋ยวค่ะ คุณเฟริน\"เรนอนเรียกเฟรินจึงหยุดหันมามอง
\"เรื่องของคุณคาโลอ่ะค่ะ\"เรนอนพูด
\"ฮิ เดี๋ยวค่อยออกมาคุยกันนะ\"เฟรินพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงคนที่ตนเองแกล้งอยู่แล้วก็เปิดประตูเข้าห้องน้ำไป
\"จริง ๆ เลยคุณเฟรินเนี่ย\"เรนอนพูดพร้อมส่ายหัวไปมาก่อนที่จะเดินไปแต่งตัว
\"คุณเฟรินค่ะ จะคุยเรื่องของคุณคาโลได้ยังค่ะ\"เรนอนพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าตั้งแต่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเฟรินก็ยังไม่ยอมคุยเรื่องนี้
\"มีอะไรก็ว่ามาสิ\"เฟรินพูดแต่ไม่ได้หันมามองเพราะกำลังวุ่นกับของตรงหน้า
\"เมื่อไหร่จะเลิกงอนคุณคาโลค่ะ\"เรนอนถาม
\"เลิกแล้วล่ะ\"เฟรินพูด แล้วพยายามหยิบยกขวดนู้นกล่องนี้มาอ่านฉลากอยู่หน้ากระจก
\"แล้วทำไมไม่คุยกับคุณคาโลดีดีล่ะค่ะ\"เรนอนถามขึ้นอีกครั้ง
\"อยากแกล้ง\"สั้น ๆ ง่าย ๆ อย่างได้ใจความ
\"ฮิ ฮิ ฮิ คุณเฟริน ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกล่ะกันนะค่ะ\"เรนอนพูดกลั้วหัวเราะ
\"งั้นช่วยผมแต่งหน้าให้เข้ากับชุดที่ใส่หน่อยสิฮะ\"เฟรินพูดพร้อมกับหันมายื่นเครื่องสำอางมากมายที่นั่งปวดหัวอยู่เมื่อกี้
\"ได้สิค่ะ ฮิฮิ \"เรนอนบอกพร้อมเดินมารับของเฟรินและเริ่มแต่งหน้าให้
\"แล้วคิดไงอยากแต่งหน้าขึ้นมาล่ะค่ะ\"เรนอนถามเมื่อเริ่มรองพื้น
\"มันเป็นแผนฮะ แล้วก็...เอ่อ..\"เฟรินพูดอย่างไม่แน่ใจ
\"มีอะไรหรือค่ะ\"เรนอนถามอย่างสงสัย
\"ขอยืมตัวคิลด้วยได้ไหมฮะ\"เฟรินถามอย่างกลัว ๆ นิด ๆ
\"จะไปทำอะไรหรือค่ะ\"เรนอนถามอย่างสงสัยสุด ๆ
\"มันเป็นแผนนะฮะ\"เฟรินพูดพร้อมขยิบตาข้างซ้ายให้
\"แผน?\"เรนอนถาม
\"เอ่อ...คือมันเป็นแบบนี้นะฮะ\"เฟรินพูดแล้วเล่าแผนให้เรนอนฟัง
\"ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ\"เรนอนพูดแล้วแต่งหน้าต่อ
\"แต่เรื่องนี้ต้องไปถามคุณคิลเองนะค่ะ\"เรนอนพูด
\"คิลมันบอกว่าน่าสนุกนะฮะ และก็ให้มาถามเรนอนนะฮะ\"เฟรินพูด
\"งั้นก็ได้ค่ะ ฉันต้องทำเป็นทะเลาะกับคุณคิลสินะค่ะ แล้วให้คิลไปกับคุณเฟริน\"เรนอนพูดออกมา
\"ก็ประมาณนั้นนะฮะ\"เฟรินพูด
\"ถ้างั้นก็ต้องแต่งให้สวยสินะ และก็ต้องเล่นให้สมบท\"เรนอนพูด
\"ใช่ฮะ\"เฟรินพูดต่อ แล้วก็นั่งนิ่ง ๆ ให้เรนอนแต่งต่อจนเสร็จ
\"เอาล่ะ พร้อมแล้วสินะ\"เฟรินพูดเมื่อแต่งตัวอะไรต่าง ๆ เสร็จแล้ว เรนอนพยักหน้าเป็นเชิงตกลง
\"ลุย\"เฟรินพูดแล้วเดินออกจากประตูห้อง เปิดมาปุ๊บก็มาเจอกับคาโลที่เปิดประตูออกมาเหมือนกัน และเมื่อเฟรินเห็นคิลเดินตามออกมา
ก็ขยิบตาซ้ายเป็นเชิงเริ่มแผน ซึ่งคิลก็รู้ทันที
\"เอ่อ เฟริน..\"คาโลกำลังจะพูดอะไรสักอย่างคิลก็ขัดขึ้นมา
\"เฟรินเราลงไปข้างล่างกันเถอะ\"
\"ไปสิ คิล\"เฟรินพูดเสียงหวานน่ารักแล้วเดินไปควงแขนคิลลงไปที่ล็อปบี้ ซึ่งคาโลมองตามอย่างงง ๆ
\"เรนอน ทำไมคิล...\"คาโลพูดไม่ทันจบก็โดนสวนอีกแล้ว
\"อย่าพูดถึงคนแบบนั้นอีกนะค่ะ คุณคาโล\"เรนอนพูดพลางทำหน้าบึงแล้วเดินตามพวกเฟรินไป \'ขอโทษนะค่ะคุณคาโลที่ต้องทำแบบนี้\'
เรนอนคิดภายในใจ
\"ทุกคนขึ้นรถได้แล้วจ๋า\"เสียงใสของพี่อลิศเรียกทุกคนให้ขึ้นรถทัวร์เนื่องจากจะพาไปเที่ยวต่อ
\"คิล เค้าขอนั่งกลับนายได้เปล่าอ่ะ\"เฟรินพูดเสียงและท่าทางอ้อน ๆ ที่ขนาดคิลยังต้องหน้าแดงขึ้นมา
\"ดะ...ได้สิ\"คิลพูดตะกุกตะกัก แล้วทั้งคู่ก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้กลางรถ ส่วนด้านคาโลก็นั่งกับเรนอน ความประหลาดเกิดขึ้นภายในใจของผู้
คนที่ไม่ได้รับรู้แผนการของเฟริน เมื่อรถออกเดินทางมาได้สักพัก พี่อลิศไกด์ของเราก็ขึ้นมาอธิบายถึงสถานที่ที่จะไปกัน
\"เอาล่ะน้อง ๆ ทุกคนสถานที่ที่เราจะไปกันนั้น คือ พิพิทภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ ที่นี้อยู่ห่างจากเทศบาลกันตังประมาณ 200 เมตร
ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 1 ถนน ค่าย พิทักษ์ ตำบลกันตัง เป็นที่ตั้งของสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ยิ่งอีกแห่ง หนึ่ง คือ \"จวนเก่าเจ้าเมือง
ตรัง\" หรือบ้านพักอดีตเจ้าเมืองตรัง พระยารัษฎา นุประดิษฐ์ ซึ่ง เป็นเรือนไม้ 2 ชั้น มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งและเครื่องมือ เครื่องใช้ในชีวิต ประจำ
วัน ของ พระยารัษฎาฯ อย่างครบถ้วน โดยทายาทตระกูล ณ ระนอง เป็นผู้ดูแลรักษา และ เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าชมทุกๆ วัน ยกเว้น
วันจันทร์ ซึ่งในวันนี้ซึ่งเป็นอังคารเราจะสามารถเข้าไปชมได้ พี่จะให้เวลาน้อง ๆ ที่นี้ 30 นาทีนะค่ะในการเดินชมแล้วเราจะไปกันที่อื่นต่อ\"
เมื่อพี่อลิศพูดจบรถก็พาถึงที่พอดี
\"คิล คิล เร็ว ๆ หน่อยสิ\"เฟรินเร่งเมื่อเห็นคิลเดินช้ามาก
\"คิลดูนั้นสิ อะไรนะสวยจัง\"เฟรินเรียกคิลก็เดินเข้าไปดูแล้วก็ยิ้มออกมา
\"อืมสวยดีนะ ชามสมัยนั้น\"คิลพูด
\"ชามหรือ ช่างเถอะแต่ก็สวยดีนะ\"เฟรินพูดแล้วซบหน้าลงบนไหล่ของคิล ทั้งคู่เดินดูไปเรื่อย ๆ โดยมีอีกคู่หนึ่งเดินตามหลังนั้นคือ คาโล
กับเรนอน นั้นเอง ซึ่งบรรยากาศรอบ ๆ 2 คู่นี้แต่กต่างกันสิ้นเชิง \'คิล นายคิดจะลองดีกับฉันใช่ไหม\'คาโลคิด ไอเย็น ๆ ถูกปล่อยออกมา
\' คุณคิล รู้สึกจะเกินแผนไปหรือเปล่าค่ะ\' เรนอนคิดในใจ ไอเย็น ๆ และแสนจะมาคุจากคู่นี้ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้
และเมื่อรถเริ่มออกอีกครั้ง
\"เฮออ\"เฟรินถอนหายใจ
\"เหนื่อยหรือ\"คิลถามด้วยความเป็นห่วง(นี้ก็แผนนะค่ะ)
\"ก็นิดหน่อยนะ\"เฟรินส่งสายอ้อน ๆ เพราะรู้ว่าอีกคู่ย้ายมานั่งอยู่ข้างหลัง
\"ถ้างั้นเดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้นะ\"คิลพูดพร้อมส่งรอยยิ้ม แต่เมื่อลุกออกมาเจอสายตาเย็น ๆ ของเรนอนก็หน้าซีดเล็กน้อย แล้วขยิบตาให้
ตามลงมา
\"คุณคาโล เดี๋ยวฉันมานะค่ะ\"เรนอนพูดแล้วเดินลงไปที่รถชั้นล่าง(เอ่อนี้เป็นรถทัวร์สองชั้นนะค่ะ)
\"เรนอน เธอเป็นอะไรไปนะ\"คิลเปิดถามทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวเดินลงมา
\"เปล่าค่ะ\"เรนอนพูดอย่างไม่สนใจ
\"เรนอน\"คิลเรียกซ้ำ
\"ก็สนิดกันดีนะค่ะ\"เรนอนพูดน้ำเสียงส่อแววประชด
\"มันเป็นแผนของเฟรินมันอ่ะ มันเริ่มก่อนฉันก็ต้องตามนะสิ\"คิลพูด
\"งั้นนี้ก็คิดว่ามันอยู่ในแผนล่ะกันนะค่ะ\"เรนอนพูดแล้วรีบเดินหนีกลับขึ้นไปข้างบนทันที
\"โธ่เว้ย แย่จริง\"คิลสถบออกมาแล้วเทน้ำลงใส่แก้ว เดินกลับขึ้นมาข้างบน
\"ว้าว คิลนี้น่ารักจริง ๆ เลย\"เฟรินพูดแล้วยิ้มออกมาอย่างที่ใครเห็นก็ต้องพูดว่า น่ารัก
\"อืม\"คิลบอกแล้วลงนั่งข้างเฟรินต่อ
\"เฟริน\"คิลกระซิบเรียกเสียงจริงจัง
\"อะไร\"เฟรินตอบเสียงเบาเช่นกัน
\"เรนอนนะ คิดเป็นจริงเป็นจังไปแล้วอ่า ทำไงดี\"คิลพูดข้างหูเฟริน
\"อย่าคิดมาก นั้นคงเป็นการแสดงนะ\"เฟรินกระซิบตอบข้างหู
\"วี้ด วิ้ว หอมแก้มกันต่อหน้าต่อตา\"ครี้ดที่หันมามองทั้งคู่พอดีแซวขึ้นเนื่องจากฉากที่ครี้ดเห็นคือเฟรินกำลังหอมแก้มคิลอยู่
\"เอาไงดี\"คิลถาม
\"เลยตามเลย\"เฟรินบอก
\"แหม อย่าแซวซิครี้ดก็\"เฟรินพูดเสียงหวานใสแล้วทำท่าเขิลสุดชีวิต
\"แหมไม่เห็นต้องเขินเลยนี้เฟริ...\"ครี้ดยังพูดไม่จบแต่ไอเย็น ๆ และขอบหน้าต่างที่เป็นกระจกก็มีฝ้าเริ่มขึ้น แล้วยังไอ้บรรยากาศมาคุนั้นอีก
ทำให้ตลอดทางแทนที่จะร้อนมันกลับหนาวเยือก
\"เล่นแรงไปหรือเปล่าเฟริน\"คิลถามขึ้นอีกครั้ง
\"ยัง ถ้าคิดจะคบกับคนอย่างเฟริน แค่นี้ทนไม่ได้ก็ไม่รู้จะพูดไงดีแล้ว\"เฟรินพูด
\"แต่นายก็รู้ว่าคาโลมันง้อคนไม่เป็น\"คิลพูดต่อ
\"รู้ แต่อยากแกล้ง\"เฟรินพูด
\"เอาล่ะ ทุกคนพี่ ๆคิดว่าอากาศมันชักจะหนาว ๆ นะเนี่ย แต่เดี๋ยวก็ร้อนแล้วล่ะ เพราะสถานที่ต่อไปของเราอยู่อีกไม่ไกลแล้วล่ะ\"พี่อลิศพูด
พร้อมกับกอดตัวเองที่กำลังสั่นเพราะอากาศในรถมันหนาวได้แบบไม่ต้องเปิดแอร์เลย
\"เราจะไปดูยางพาราต้นแรกของประเทศไทย กันนะค่ะ ยางพาราต้นนี้ ตั้งอยู่ริมถนนก่อนเข้าสู่ตัวอำเภอ กันตัง ยางต้นนี้คือตัวแทนของ
กลุ่มยางรุ่นแรก ที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ เจ้าเมืองตรังได้นำมาปลูกไว้เพื่อบุกเบิก อาชีพสวนยางพาราของชาวตรัง เมื่อปี พ.ศ. 2442
และเราก็มาถึงแล้วค่ะ\"พี่อลิศพูดเมื่อรถเข้าจอด
\"ว้าว สูงจัง ดูศักดิ์สิทธิ์จังเนอะคิล\"เฟรินพูด ยิ้มหร่าอย่างร่าเริง
\"...อ่ะ...อืม\"คิลเริ่มพูดไม่เป็นภาษาเพราะสายตาเย็น ๆ ที่จับจ้องมาจากอีกคู่ที่เดินตามมา
\"กลัวหรือคิล\"เฟริน ดูออกเลยล่ะ ว่าคิลคงจะกลัวสองคนนั้น
\"..คะ...ใคร..บะ...บอก\"คิลพูด เฟรินหัวเราะออกมา
\"เฮอ เลิกแล้วล่ะ นายไม่ต้องแสดงแล้ว ไปปรับความเข้าใจกับเรนอนซะ \"เฟรินพูด
\"จริงหรือเฟริน\"คิลพูดด้วยความดีใจ
\"อืม แกล้งต่อไปมันจะไม่ดีกับคู่ของนาย\"เฟรินพูด
\"ฮิ ฮิ แล้วจัดการคู่ของนายด้วยล่ะ\"คิลพูดกลั้วหัวเราะ
\"ฮิ ฮิ นั้นสินะ\"เฟรินพูดเมื่อทั้งคู่มองหน้ากันก็หัวเราะออกมา โดยมีคาโลกับเรนอนมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดแต่ไม่ได้ยินเสียงจึงยิ่งโมโห
\'ไอ้คิล คุยอะไรกับเฟรินกระหนุ่งหนิ่งอย่างนี้\'คาโลคิดภายใจร้อนรุ่มอย่างไม่มีสาเหตุ \'คุณคิล คุยอะไรกับคุญเฟรินนะ ดูสนุกจัง\"เรนอน
คิดภายใจเกิดคำถามขึ้นมากมาย
\"ทุกคนขึ้นรถได้แล้ว\"เสียงพี่อลิศตะโกนเรียกไปเรื่อย ๆ จนคนอื่น ๆ เริ่มขึ้นบนรถ
บนรถที่คาโลนั่งที่เดิมของตนเองและกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่
\"ขอนั่งด้วยคนได้ไหม\"เสียงของสาวหวานใสดังขึ้น ทำให้คาโลหลุดสายตาจากหนังสือเงยขึ้นมามองแล้วก็กลับไปอ่านหนังสือต่อ
\"ไม่ไปนั่งกับคิลหรือไง\"คาโลพูดสายตายังจับจ้องอยู่ที่หนังสือ
\"นั้นสินะ\"เฟรินพูดแล้วนั่งลงข้าง ๆ คาโล
\"หรือว่า...นายอยากให้ฉันไปนั่งกับคิล ก็ได้นะ\"เฟรินพูดแล้วลุกขึ้นแต่ก็โดนคาโลจับข้อมือเอาไว้ เฟรินยิ้มออกมาอย่างรู้ทันแล้วก็กลับลง
ไปนั่งอย่างเดิม ส่วนคาโลก็นั่งอ่านหนังสือต่อไม่สนใจ
\"อ้าว คุณเฟริน..\"เรนอนยังพูดไม่จบเฟรินก็ขยิบตาให้รู้
\"หรือว่า..\"เรนอนพูดขึ้นมา
\"ก็บอกแล้วไม่ยอมเชื่อเอง\"คิลพูดแล้วลากไปนั่งเก้าอี้ด้านหน้าคาโลกับเฟริน
\"ก็เห็นแสดงซะเหมือนจริง ใครจะไปรู้ว่าเลิกแล้ว\"เรนอนพูด
\"งั้นก็ขอลงโทษที่ไม่เชื่อหน่อยล่ะกัน\"คิลพูดแล้วฉกฉวยเอาความหอมของแก้มเรนอนไป ใบหน้าเรนอนแดงกล่ำดีว่าไม่มีใครเห็นนอก
จากเฟรินกับคาโล แต่เฟรินก็โดนห้ามไว้จึงไม่มีเสียงแซวเกิดขึ้น
\"บ้ า\"เรนอนพูดแล้วทุบอกคิลทีหนึ่งซึ่งคิลก็หัวเราะออกมาอย่างดีใจ ทุกคนภายในรถหันมามองอย่างประหลาดใจ ส่วนพี่อลิศก็งง ๆ ว่า
บรรยากาศหนาว ๆ เมื่อครู่หายไปไหน แต่ก็เข้าใจเมื่อโรเวนอธิบายให้ฟัง คนขับรถจึงเริ่มเปิดแอร์ในรถอีกครั้ง และเริ่มออกเดินทางต่อ
\"คาโล ดูสิ วิวสวยดีนะ\"เฟรินชวนคุยขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคาโลไม่พูดอะไร
\".......\"เงียบ ยังคงอ่านหนังสืออยู่อย่างไม่สนใจ
\"คาโล แดดแรงจังเนอะ\"เฟรินชวนคุยต่อแม้ในใจจะหงุดหงิดนิด ๆ
\"......\"และเงียบหมือนเดิม สายจายังคงจับจ้องที่หนังสือเพียงแต่ปิดม่านเข้ามาบังแสงแดดที่ส่องมา
\"คาโล นายเป็นอะไรหรือเปล่า\"เฟรินถามต่อด้วยเสียงเรียบเฉยที่ถูกข่มเอาไว้
\".........\"เงียบ เงียบ และเงียบ \'ไอ้คาโล...สงบใจไว้เฟริน...1...2..3..4..\'เฟรินข่มใจอยู่ด้วยการนับเลข แล้วอยู่ ๆ หัวสมองของเฟรินก็
พลันคิดได้ หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างเจ้าเหล่
\"คาโล นาย หึงหรือ\"เฟรินพูดเพียงเท่านั้นล่ะคาโลก็ล่ะสายตาจากหนังสือทันที ดวงตาสีฟ้าจ้องมาอย่างเอาเรื่องแล้วก็ถูกเปลี่ยนให้กลาย
เป็นแววตาที่มองแล้วทำให้ขนลุก
\"ใช่ หึงมากและหึงที่สุด\"คาโลพูดด้วยหน้าตาที่เฉยมากแต่ด้วยรอยยิ้มแบบเจ้าเหล่ถูกประดับอยู่จึงทำให้เฟรินนึกกลัวในใจ
\"เพราะฉะนั้น ต้องลงโทษที่มาทำกับฉันแบบนี้\"คาโลพูดด้วยเสียงที่เยือเย็นแต่แฝงด้วยความน่ากลัว
\"ลงโทษ นายจะทำอะไรฉัน\"เฟรินถามด้วยใบหน้าซีด ๆ
\"นั้นสินะ\"คาโลพูดต่อแต่ใบหน้ากลับโน้มเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ และสิ่งที่เฟรินกลัวก็เกิดขึ้นเมื่อ เรียวปากอิ่มของตนเองถูกประกบอย่างรวด
เร็วจากฝ่ายชาย ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งชายหนุ่มผละออก แล้วกลับไปหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อ
\"นาย..นี่มัน\"เฟรินพูดไม่ออก ใบหน้าแดงกล่ำอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
\"บ้าที่สุดเลย\"เฟรินพูดเสียงที่แทบจะกระซิบได้
\"ว่าไงนะ\"คาโลถาม
\"เปล่า ๆ \"เฟรินรีบปฎิเสธอย่างรวดเร็วและฉีกยิ้มให้กว้างเท่าที่จะยิ้มได้ แต่มันกลับดูตลกไปซะได้
\"ฮ่า ฮา ฮ่า\"คาโลหัวเราะออกมา เฟรินรีบหุบยิ้มแล้วนั่งจ้องคาโลที่กำลังหัวเราะ เมื่อฝ่ายชายรู้ตัวว่าถูกมองก็รีบหยุดหัวเราะทันที เฟรินจึง
ทำหน้าบึงทันที
\"หยุดทำไมล่ะ\"เฟรินท้วง
\"เรื่องของฉัน\"คาโลตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วอ่านหนังสือต่อ
\"นี่คาโล รู้ไหม ว่านายนะหัวเราะแล้วน่ารักดีนะ นายน่าจะหัวเราะบ่อย ๆ \"เฟรินพูด
\"งั้นหรือ\"คาโลตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงเล็กน้อย
\"เวลาเขินก็น่ารัก\"เฟรินพูด
\"คะ..ใคร..เขิน\"คาโลรีบท้วง แต่ก็ได้รับเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเฟรินที่ทำให้หน้าแดงยิ่งขึ้น แต่ก็กลับมาสงบอย่างรวดเร็ว
\"นายอ่านอะไรอยู่นะ\"เฟรินถามขึ้นเมื่อเห็นหน้าปกคุ้น ๆ
\"อ๋อหนังสือ นิทารนะ ของสมุดยืมมา\"คาโลพูด
\"หา นายอ่านหนังสืออย่างนี้ด้วยหรือ\"เฟรินถามอย่างตกใจ
\"อืม ตอนแรกก็ไม่อ่านแต่ว่าพอดีเห็นนะ ก็เลยลองเอามาอ่านดู\"คาโลบอก
\"อืม.. ถ้างั้นสนุกไหม\"เฟรินถามอีกครั้ง
\"ก็สนุกดีนะ\"คาโลตอบพร้อมยิ้มออกมา ยิ้มอย่างที่ทำให้เฟรินใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
\"เล่าให้ฟังหน่อยสินะ\"เฟรินอ้อนเหมือนเด็ก ๆ แต่ภายในใจ \'สงบใจไว้ ๆ \'
\"ก็ได้\"คาโลพูดน่าแดงเล็กน้อย
\" กาลครั้งหนึ่ง ณ ภายใต้ท้องสมุทรที่ยิ่งใหญ่ มีปราสาทที่งดงามอยู่ที่นั้นและมันเป็นที่อยู่ของเหล่าเงือก..\"คาโลเริ่มเล่านิทารส่วนเฟริน
ก็นั่งฟังอย่างตั้งใจ(ไม่รู้ฟังหรือมองหน้าคาโลกันแน่-เชอรี่,เงียบไปเลย-เฟรินและผู้อ่านทุกท่าน)
\"...อยู่ ๆ เกิดพายุขึ้นมา เรือของเจ้าชายถูกคลื่นพัดถล่ม เจ้าหญิงเงือกรีบว่ายลงไปช่วยเจ้าชาย..\"คาโลเล่าต่อพอถึงตรงนี้ เฟรินก็ขยับ
ไปซบกับไหล่ของคาโล ซึ่งฝ่ายชายสะดุ้งเล็กน้อย
\"ไม่ได้หรือ\"เฟรินถาม
\"เปล่า \"คาโลตอบ
\"เล่าต่อสิ\"เฟรินบอก
\"เจ้าหญิงเงือกพาเจ้าชายขึ้นมาบนฝั่ง ใช้เส้นผมที่ยาวสลวยของตนห่อหุ้มร่างเจ้าชายเพื่อให้ความอบอุ่น แต่แล้ว..\"คาโลเล่าต่อ จนกระทั่ง
\"...ในที่สุดเจ้าหญิงเงือที่มิอาจฆ่าเจ้าชายผู้เป็นที่รักได้ลงจึงยอมกลายเป็นฟองอากาศหายไปกับทะเล เหล่านางฟ้าเห็นใจ จึงช่วยกันเสก
ฟองอากาศนั้นให้กลายเป้นนางฟ้าเหมือนพวกตน เจ้าหญิงเงือกน้อยที่กลายเป็นนางฟ้าจึงคอยเฝ้ามองดูเจ้าชายและลูกหลานของเจ้าชาย
ตลอดไป\"คาโลเล่าจนจบและเมื่อหันมามองก็เห็นเฟรินหลับไปแล้ว คาโลค่อย ๆ ขยับแขนไปโอ้บเฟรินและวจัดท่าให้นอนได้สบาย แล้วจึง
หยิบหนังสืออีกเล่มที่เขียนว่า ประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งหนังสือเล่มนี้คาโลพึ่งจะซื้อมาขึ้นมาอ่านต่ออย่างสบายใจ
\"น้อง ๆ ทุกคนนี้ก็เที่ยงแล้วพี่ ๆ คิดว่าทุกคนคงจะหิวแล้วใช่ไหมค่ะ\"พี่อลิศพูดขึ้นมาเมื่อรถออกวิ่งมาได้เป็นเวลานานแล้ว
\"ช่าย เราหิวแล้ว\"เสียงครี้ดตะโกนขึ้นมา
โป๊ก!! \"ทำตัวดีดีเป็นไหม\"เสียงของแอ้งจี้มาพร้อมกับที่ครี้ดต้องนั่งกุมหัวเนื่องจากถูกตี
\"เธอนี้ ทำไหมถึงชอบตีหัวคนนักนะ\"ครี้ดโวย
\"ฉันตีเฉพาะคนทำตัวไม่ดียะ\"แอ้งจี้โต้กลับ
\"งั้นที่ตีเฟรินประจำล่ะ\"ครี้ดพูด
\"เฮ้ย ๆ ฉันนอนอยู่ดี ๆ ไงโยนความซวยมาให้ฟ่ะ\"เฟรินที่ตื่นขึ้นมาได้ยินพอดีโวยบ้าง
\"นั้นสินะ ดูท่าจะได้หมอนดีซะด้วย\"ครี้ดแซว เพราะว่าเฟรินนอนซบไหล่ของคาโลอยู่นั้นเอง(ตื่นแล้วยังไม่ยอมลุกดูท่าจะติดใจ-เชอรี่,ยุ่ง
เรื่องของฉัน-เฟริน,จ้า จ้า-เชอรี่)
\"พี่อลิศเมื่อไหร่เราจะทานข้าวกันฮะ\"เฟรินเปลี่ยนเรื่องไปหาอีกคนทันที
\"ใกล้ถึงแล้วล่ะจ๋ะ\"พี่อลิศบอกแล้วก็เดินลงไปนั่งที่เดิม
\"ตื่นแล้วก็ลุก\"คนที่นั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่นานพูดขึ้น
\"ถ้าไม่ลุกล่ะ\"เฟรินพูดพลางยิ้ม ๆ
\"เมื่อย\"คาโลพูดสั้น ๆ ด้วยใบหน้าเรียบ ๆ
\"ฮิ ฮิ ฮิ\"เฟรินหัวเราะเบา ๆ แล้วลุกมาพิงพนักเก้าอี้แทน ในที่สุดรถก็นำทางมาจนถึงสถานที่ทานข้าวเที่ยงและเดินทางต่อ
\"ฮิฮิ ทุกคนคงจะอิ่มกันแล้วนะค่ะ เราจะพาน้อง ๆ ไปชื่นชมธรรมชาติ กันบ้าง เราจะไปดูหินงอกหินย้อยกันค่ะ\"พี่อลิศลุกขึ้นมาพูดเมื่อ
รถออกเดินทางได้ประมาณ 10-20 กิโลเมตร
\"หินงอกหินย้อยหรือค่ะ สวยไหมค่ะ\"เรนอนพูดแทรกขึ้นมา
\"สวยสิค่ะ แต่เรามีกฎนะค่ะ \"พี่อลิศพูดพร้อมทำหน้าเคร่ง
\"อะ..อะไรหรือค่ะ\"เรนอนพูดอย่างกลัว ๆ
\"ฮา ฮ่า อย่าทำหน้ากลัวอย่างนั้นสิ ไม่มีอะไรยากหรอกแค่อย่าไปจับหินพวกนั้นก็พอแล้วล่ะค่ะ\"พี่อลิศพูดพร้อมกับทำหน้ายิ้มเหมือนเดิม
\"ทำไมล่ะฮะ\"เสียงเฟรินแทรกขึ้นมาอย่างอยากรู้อยากเห็น
\"ก็เพราะว่าในตัวเรามีอุณหภูมิที่ร้อน เมื่อเราไปแตะพวกหินนั้นที่สร้างมาจากน้ำฝนที่กัดเซาะหินปูน มันจะตายในทันที\" พี่อลิศพูด
\"ค่ะ/ครับ พวกเราจะไม่แตะพวกหินนั้นอย่างแน่นอน\"ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกันแล้วก็พากันหัวเราะ
\"ที่ที่เราจะไปดูหินงอยหินย้อยนั้นคือถ้ำเจ้าไหม - ถ้ำเจ้าคุณ .....เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยอยู่ที่เขาโต๊ะแนะ ใกล้บ้านเจ้าไหม นั่งเรือจาก
หาด ยาวไปตามคลองเจ้าไหมประมาณ 15 นาที ถ้ำเจ้าไหมใช้เรือเล็กพายลอด ทะลุถ้ำไปยังป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ถ้ำเจ้าคุณอยู่
เลยถัดไป เป็นถ้ำที่ต้อง เดินขึ้นไปเที่ยวชมความงดงามของถ้ำ แล้วเราจะไปนั่งเรือกันค่ะ น้อง ๆ เมื่อลงแล้วเดี๋ยวเดินตามพี่มานะค่ะ\"พี่
อลิศอธิบายต่อ และเมื่อรถจอดเสร็จแล้วจึงพาทุกคนไปลงเรือยพายเพื่อออกเดินทาง
\"น้ำเย็นจัง\"เฟรินพูดขณะนั่งกวักน้ำเล่น
\"อย่าเล่นน้ำสิ\"คาโลดุ
\"เรื่อง จะเล่น\"เฟรินไม่ยอม ยังคงเล่นต่อ แต่เมื่อเจอสายตาเย็น ๆ ส่งมาให้ก้เลยยอม
\"ชิ ก็ได้\"เฟรินพูดแล้วกลับมานั่งนิ่ง ๆ แต่ก็ได้ไม่นานก็กลับมาเล่นอีกครั้ง
\"ว้าว สวยจัง\" \"สวยมาก\" \"สุดยอด\" เสียงนี้เกิดขึ้นมากมายจากทุกคนที่ได้เห็นหินงอกหินย้อยที่พราวต้องแสงระยิบระยับ
\"ฮิ ฮิ \"อลิศแอบหัวเราะเบา ๆ เล็กน้อย เมื่อดูท่าทางที่แสดงออกของน้อง ๆ แล้วก็เดินนำทุกคนต่อไป
\"เป็นยังไงกันบ้างค่ะ\"พี่อลิศถามทุกคนเมื่อกลับมาและรถออกวิ่งต่ออีกครั้ง
\"สุดยอดเลยค่ะ/ครับ\"ทุกคนพูดรอยยิ้มประดับลงบนสีหน้าของทุกคน(เชื่อเถอะว่าทุกคนเพราะขนาดลอเรนซ์ยังอมยิ้มกับความสวย
ของหินภายในถ่ำเลยล่ะค่ะ-เชอรี่)
\"นายยิ้มแล้วน่ารักดีนะ\"ลูคัสพูดขึ้นมา
\"หมายถึงใคร\"ลอเรนซ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นอย่างงง ๆ
\"นายไง ลอรี่\"ลูคัสพูดพร้อมรอยยิ้มที่จริงจังมากขึ้น
\"ลอเรนซ์อย่าคิดปากริชในรถนะ\"โรเวนที่หันมาเห็นลอเรนซ์ชักกริชขึ้นมากล่าวเตือน
\"ฝากไว้ก่อน\"ลอเรนซ์พูดพร้อมเก็ยกริชแล้วกลับไปนั่งหน้าบูดเหมือนเดิม
ภายในรถยังคงฮือฮา และพูดคุยเกี่ยวกับความงดงามของหินงอกหินย้อยที่อยู่ภายในถ่ำกันไม่หยุดหย่อนแม้ว่า รถที่พาพวกเขา
ไปจะแล่นออกจากสถานที่นั้นมานานหรือมากแล้วเพียงใด
\"เอาล่ะ สถานที่ต่อไปจะเป็นสถานที่สุดท้ายก่อนที่เราจะไปทานเข้าเย็นกัน พี่จะเวลาทุกคนที่นี่เพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ภายในสถาน
ที่นั้นเราจะไก้พบกับธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ที่นั้นก็คือ.....สวนสาธารณะควนตำหนักจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอกันตัง อยู่ห่างจาก
อำเภอเมืองประมาณ 24 กิโลเมตร บริเวณควนตำหนักจันทร์มีทิวทัศน์ ธรรมชาติที่สวยงาม เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ ได้รับการปรับปรุง
ตกแต่ง ปลูกไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับ มีศาลาพักผ่อนและลานจอดรถสำหรับ นักท่องเที่ยว ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ของทะเล และ
อำเภอกันตังได้กว้างไกล และเราจะมาดูพระอาทิตยืตกดินกันด้วย ขณะนี้เป็นเวลา 5 โมงเย็น เราจะมาเจอกันที่รถตอน 6.30 นะค่ะ
ขอให้น้อง ๆ ตรงต่อเวลาด้วย\"พี่อลิศลุกขึ้นมาพูดกับทุกคน
\" คาโล ดูสิดอกไม้นี้สวยจังเลยอ่ะ\"เฟรินที่วิ่งไปมาอยู่ตั่งนานพูดขึ้น
\"อืม\"คาดลเดินมาข้าง ๆ ตอบกลับสั้น ๆ
\"นี้มันไม่สวยหรือไง นายถึงทำหน้าเรียบอย่างนั้น\"เฟรินหันกลับมาถาม
\"ก็สวยดี\"คาโลก็ยังคงตอบสัน ๆ
\"ช่างนายแล้ว\"เฟรินพูดแล้วก็เดินไปวิ่งไปในหลาย ๆ ที่ และที่สุดท้ายที่ทั่งคู่มากันคือ จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลได้ชัดเจน
\" ว้าว สวยจังเลย\"เฟรินพูดขึ้นเมื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือ พระอาทิตย์ดวงโตสีเพลิงกำลังค่อย ๆ ลัดฟ้าที่มีสีส้มอมแดงและม่วงดำอยู่
น้อย ๆ และแสงอาทิตย์ที่สะท้อนเป็นประกายให้กับทะเลที่เปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว ตัดกับดอกไม้นานาชนิดหลากสีราวกับ ภาพวาดที่
มิอาจประเมินค่าได้
\"อุ๊ย! อะไรนะคาโล\"เฟรินตกใจเมื่อคาโลหยิบอะไรสักอย่างมาทัดหูของนาง
\"ดอกกุหลาบ\"คาโลพูดพร้อมยิ้มออกมา
\" น่ารัก \"คาโลพูดต่อแล้วดึงเฟรินที่น่าแดงเป็นลูกแอ้ปเปิลเข้ามากอด
\"จริงเหรอ คาโล\"เฟรินถามย่ำอีกครั้งพร้อมเงยหน้าขึ้นมา ให้เห้นใบหน้าแดง ๆ ด้วยความอาย(อายเพราะคำพูดหรืออ้อมกอดเอ๋ย-เชอรี่,
๐(-///-)๐ทั้งสองอย่างล่ะมั่ง-เฟริน)
\"อืม เหมาะดีนะ\"คาโลพูดย่ำอีกครั้ง ทั้งคู่สบตากัน แล้วอยู่ ๆ ใบหน้าคาโลก็ค่อย ๆ โน้มลงมาใกล้ใบหน้าของเฟรินขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดทั่ง
คู่ก็จูบกันโดยมีฉากหลังเป็นพระอาทิตย์ที่กำลังจะลัดฟ้า (กรี๊ด โรแมนติกจังเลย-เชอรี่)
เมื่อกลับถึงที่พักหลังทานข้าวเย็น ภายในห้องของเฟรินและเรนอน
\"มีเรื่องอะไรหรือค่ะ คุณเฟริน\"เรนอนเอ่ยถามขึ้น
\"ก็นิดหน่อยว่าแต่รู้ได้ไงฮะ\"เฟรินพูดอย่างเขิน ๆ
\"สีหน้าค่ะ\"เรนอนตอบ
\"มันแสดงออกขนาดนั้นเลยหรือฮะ\"เฟรินพูดอย่างตกใจเล็กน้อย
\"ถามแต่คนอื่นแล้ว เรนอนล่ะ หน้าแดงอย่างนี้ บอกมานะว่า เกิดอะไรขึ้น\"เฟรินถามกลับเมื่อเห็นว่าเรนอนก็หน้าแดงพอพอกับเธอ
\"มะ..\"ยังพูดไม่ทันจบ เรนอนก็ถูกแทรก
\"ถามพูดว่าไม่มีอะไรนะ เพราะหน้ามันแสดงออกมา\"เฟรินดักคอ
\"เอ่อ..ไม่รู้แล้ว จะนอนแล้วค่ะ\"เรนอนพูดแล้วก็รีบคลุมโป่งนอนทันที
\"อ้าว ขี้โกงอ่ะ ลุกขึ้นมาก่อนเลย\"เฟรินไม่ยอมลุกจากเตียงไปเขย่าตัวเรนอน
\"ก็ได้ ผมยอมแพ้\"เฟรินพูดแล้วลุกไปปิดไฟเข้านอนตามไป
***_________________________________________________________________________________________***
จบแล้วค่า หลังจากที่ต่อมาทีล่ะนิด ไม่รุว่ามันจะหวานพอใจผู้อ่านหรือเปล่านะค่ะ แล้วก็ไม่แน่ใจในสิ่งที่บอกไปว่า หินงอกหินย้อยจะ
ตายเพราะอุณภูมิในร่างกายคนเราถูกหรือเปล่านะสิ ถ้าผิดก็กรุณาบอกวิธีที่ถูกต้องให้กับเชอรี่ผู้รู้น้อยด้วยเถอะค่ะ
ร่างกายในยามเช้าที่มีอากาศหนาวเย็น ด้วยสภาพอากาศที่เป็นเช่นนี้ทำให้ผู้คนมากมายไม่อยากที่จะลุกออกจากที่นอนถ้าไม่ใช่เพราะ
ว่าวันนี้เป็นวันที่ต้องออกจากเกาะรอกแห่งนี้ ผู้คนต่างพากันเก็บข้าวของและมาร่วมตัวกันที่ที่โรเวนนัดหมายไว้เมื่อคืน
\"โห เรนอนดูสิ เมื่อคืนนี้ยังเละอยู่เลย ไงเช้านี้มันถึงได้สะอาดอย่างนี้เนี่ย\"เฟรินพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าบริเวณที่จัดงานนั้นสะอาดต่าง
จากเมื่อคืน เรนอนหัวเราะออกมาเบา ๆ
\"ก็อุปกรณ์ทุกอย่างในงานนั้นมันเป็นเวทย์มนต์นะสิค่ะ มันถึงได้เก็บง่ายนะค่ะ\"เรนอนอธิบาย
\"เฟริน\"คาโลเรียกเฟรินที่กำลังคุยอยู่เฟรินจึงหยุดเดินแต่ไม่หันมา
\"คือว่า ขอคุยด้วยหน่อยสิ\"คาโลพูดขึ้นมาเนื่องจากว่านึกเหตุการณ์ได้หมดแล้ว แต่ว่าเฟรินกลับวิ่งหนีไปเฉยเลย
\"เดี๋ยวสิเฟริน\"คาโลเรียก แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมหยุดวิ่งจนกระทั้งมองไม่เห็นไป
\"เรนอนช่วยคิดหน่อยสิแล้วจะทำอย่างไรดีล่ะนี้\" คาโลหันไปพึงหญิงที่อยู่ข้าง ๆ แต่ด้วยสีหน้าที่ถามมันไม่บ่งบอกว่าสำนึกผิดเลย
\"ผูกเองก็แก้เองสิค่ะ ไม่บอกท่านลุงบาโรนี้ก็ถือว่าช่วยมากแล้วล่ะค่ะ\"เรนอนพูดแล้วออกวิ่งตามเฟรินไป
\"โธ๋เว้ย \"คาโลสถบออกมาอย่างไม่สมตัวเอง \'สงสัยคงต้องง้อมันหน่อยคงจะงอนที่ไปทำมันอย่างนั้น\'คาโลคิดแล้วจึงออกตัวเดินอีกครั้ง
\"เอาล่ะ ทุกคนมาพร้อมกันหรือยัง\"โณเวนพูดเมื่อเห็นว่าคนเริ่มเยอะแล้ว
\"ครับ/ค่า\"ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียว
\"เอาล่ะถ้างั้นเราก็ขึ้นเรือกันเลยนะ เล็ทโก\"โรเวนพูดแล้วออกตัวนำวิ่งทุกคนไปขึ้นเรือแล้วเริ่มพายออกทะเลไปขึ้นเรือใหญ่
\"เฟริน นายเป็นอะไรหรือเปล่า\"คาโลเดินมาถามเมื่อเห็นว่าเฟรินไม่คุยกับเขาเลยเมื่อเรือออกมาได้สักพักแล้ว
\"เปล่าสักหน่อย\"เฟรินที่เริ่มสงบใจได้แล้วพูด
\"แล้วทำไมไม่หันมาล่ะ\"คาโลยังคงถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย
\"ก็ไม่มีอะไรสักหน่อย\"เฟรินพูดแล้วรีบเดินหนีทันที \'หึ ต้องแกล้งสักหน่อยจะได้สำนึก บังอาจมาทำแบบนั้นกับคนอย่างเฟรินได้\'เฟรินคิด
\"เดียวสิเฟริน\"คาโลเรียกแล้วเดินตามแต่ เมื่อถึงทางโค้งก็มีคนเดินมาชน
\"โทษทีคาโล\" โรที่เดินมาชนพูดออกมา
\"ไม่เป็นไร\"คาโลพูดแล้วจะเดินต่อ แต่ก็โดนโรกั้นเอาไว้
\"นายจะรีบไปไหน\"โรถามพร้อมส่งรอยยิ้ม
\"เรื่องของฉัน\"คาโลพูดพลางส่งสายตาเย็น ๆ มาให้
\"งั้นหรือ\"โรพูดยิ้ม ๆ แล้วเดินจากไป คาโลรีบเดินตามมาแต่เมื่อมองดี ๆ เฟรินหายไปแล้ว
\"โธ่เว้ย\"คาโลสถบออกมาพร้อมชกไปที่กำแพงข้าง ๆ ทำให้เกิดแผลที่หลังมือ และคาโลก็มิได้คิดจะรักษามันแต่เดินหาเฟรินต่อทันที
และเมื่อเจอเฟรินก็จะถูกเพื่อน ๆ คนแล้วคนเล่ามาขัดพาไปนู้นพาไปนี้ทำให้ไม่ได้คุยกับเฟรินสักที จนกระทั้งเรือถึงท่าและมุ่งสู่โรงแรม
เมื่อครั้งแรกที่มา ก็ยังไม่ได้คุยกัน คาโลจึงได้แต่มองประตูห้องของเฟรินเท่านั้นแล้วเดินเข้าห้องของตนเอง
ภายในห้องหมายเลข 211 ของเฟรินและเรนอน
\"คุณเฟรินค่ะ \"เรนอนเรียกเมื่อตนเองอาบน้ำเสร็จแล้ว
\"ตาผมอาบแล้วสินะ\"เฟรินพูดแล้วถอดเสื้อทำท่าจะเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อจับลูกบิดประตูห้องน้ำ
\"เดี๋ยวค่ะ คุณเฟริน\"เรนอนเรียกเฟรินจึงหยุดหันมามอง
\"เรื่องของคุณคาโลอ่ะค่ะ\"เรนอนพูด
\"ฮิ เดี๋ยวค่อยออกมาคุยกันนะ\"เฟรินพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงคนที่ตนเองแกล้งอยู่แล้วก็เปิดประตูเข้าห้องน้ำไป
\"จริง ๆ เลยคุณเฟรินเนี่ย\"เรนอนพูดพร้อมส่ายหัวไปมาก่อนที่จะเดินไปแต่งตัว
\"คุณเฟรินค่ะ จะคุยเรื่องของคุณคาโลได้ยังค่ะ\"เรนอนพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าตั้งแต่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเฟรินก็ยังไม่ยอมคุยเรื่องนี้
\"มีอะไรก็ว่ามาสิ\"เฟรินพูดแต่ไม่ได้หันมามองเพราะกำลังวุ่นกับของตรงหน้า
\"เมื่อไหร่จะเลิกงอนคุณคาโลค่ะ\"เรนอนถาม
\"เลิกแล้วล่ะ\"เฟรินพูด แล้วพยายามหยิบยกขวดนู้นกล่องนี้มาอ่านฉลากอยู่หน้ากระจก
\"แล้วทำไมไม่คุยกับคุณคาโลดีดีล่ะค่ะ\"เรนอนถามขึ้นอีกครั้ง
\"อยากแกล้ง\"สั้น ๆ ง่าย ๆ อย่างได้ใจความ
\"ฮิ ฮิ ฮิ คุณเฟริน ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกล่ะกันนะค่ะ\"เรนอนพูดกลั้วหัวเราะ
\"งั้นช่วยผมแต่งหน้าให้เข้ากับชุดที่ใส่หน่อยสิฮะ\"เฟรินพูดพร้อมกับหันมายื่นเครื่องสำอางมากมายที่นั่งปวดหัวอยู่เมื่อกี้
\"ได้สิค่ะ ฮิฮิ \"เรนอนบอกพร้อมเดินมารับของเฟรินและเริ่มแต่งหน้าให้
\"แล้วคิดไงอยากแต่งหน้าขึ้นมาล่ะค่ะ\"เรนอนถามเมื่อเริ่มรองพื้น
\"มันเป็นแผนฮะ แล้วก็...เอ่อ..\"เฟรินพูดอย่างไม่แน่ใจ
\"มีอะไรหรือค่ะ\"เรนอนถามอย่างสงสัย
\"ขอยืมตัวคิลด้วยได้ไหมฮะ\"เฟรินถามอย่างกลัว ๆ นิด ๆ
\"จะไปทำอะไรหรือค่ะ\"เรนอนถามอย่างสงสัยสุด ๆ
\"มันเป็นแผนนะฮะ\"เฟรินพูดพร้อมขยิบตาข้างซ้ายให้
\"แผน?\"เรนอนถาม
\"เอ่อ...คือมันเป็นแบบนี้นะฮะ\"เฟรินพูดแล้วเล่าแผนให้เรนอนฟัง
\"ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ\"เรนอนพูดแล้วแต่งหน้าต่อ
\"แต่เรื่องนี้ต้องไปถามคุณคิลเองนะค่ะ\"เรนอนพูด
\"คิลมันบอกว่าน่าสนุกนะฮะ และก็ให้มาถามเรนอนนะฮะ\"เฟรินพูด
\"งั้นก็ได้ค่ะ ฉันต้องทำเป็นทะเลาะกับคุณคิลสินะค่ะ แล้วให้คิลไปกับคุณเฟริน\"เรนอนพูดออกมา
\"ก็ประมาณนั้นนะฮะ\"เฟรินพูด
\"ถ้างั้นก็ต้องแต่งให้สวยสินะ และก็ต้องเล่นให้สมบท\"เรนอนพูด
\"ใช่ฮะ\"เฟรินพูดต่อ แล้วก็นั่งนิ่ง ๆ ให้เรนอนแต่งต่อจนเสร็จ
\"เอาล่ะ พร้อมแล้วสินะ\"เฟรินพูดเมื่อแต่งตัวอะไรต่าง ๆ เสร็จแล้ว เรนอนพยักหน้าเป็นเชิงตกลง
\"ลุย\"เฟรินพูดแล้วเดินออกจากประตูห้อง เปิดมาปุ๊บก็มาเจอกับคาโลที่เปิดประตูออกมาเหมือนกัน และเมื่อเฟรินเห็นคิลเดินตามออกมา
ก็ขยิบตาซ้ายเป็นเชิงเริ่มแผน ซึ่งคิลก็รู้ทันที
\"เอ่อ เฟริน..\"คาโลกำลังจะพูดอะไรสักอย่างคิลก็ขัดขึ้นมา
\"เฟรินเราลงไปข้างล่างกันเถอะ\"
\"ไปสิ คิล\"เฟรินพูดเสียงหวานน่ารักแล้วเดินไปควงแขนคิลลงไปที่ล็อปบี้ ซึ่งคาโลมองตามอย่างงง ๆ
\"เรนอน ทำไมคิล...\"คาโลพูดไม่ทันจบก็โดนสวนอีกแล้ว
\"อย่าพูดถึงคนแบบนั้นอีกนะค่ะ คุณคาโล\"เรนอนพูดพลางทำหน้าบึงแล้วเดินตามพวกเฟรินไป \'ขอโทษนะค่ะคุณคาโลที่ต้องทำแบบนี้\'
เรนอนคิดภายในใจ
\"ทุกคนขึ้นรถได้แล้วจ๋า\"เสียงใสของพี่อลิศเรียกทุกคนให้ขึ้นรถทัวร์เนื่องจากจะพาไปเที่ยวต่อ
\"คิล เค้าขอนั่งกลับนายได้เปล่าอ่ะ\"เฟรินพูดเสียงและท่าทางอ้อน ๆ ที่ขนาดคิลยังต้องหน้าแดงขึ้นมา
\"ดะ...ได้สิ\"คิลพูดตะกุกตะกัก แล้วทั้งคู่ก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้กลางรถ ส่วนด้านคาโลก็นั่งกับเรนอน ความประหลาดเกิดขึ้นภายในใจของผู้
คนที่ไม่ได้รับรู้แผนการของเฟริน เมื่อรถออกเดินทางมาได้สักพัก พี่อลิศไกด์ของเราก็ขึ้นมาอธิบายถึงสถานที่ที่จะไปกัน
\"เอาล่ะน้อง ๆ ทุกคนสถานที่ที่เราจะไปกันนั้น คือ พิพิทภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ ที่นี้อยู่ห่างจากเทศบาลกันตังประมาณ 200 เมตร
ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 1 ถนน ค่าย พิทักษ์ ตำบลกันตัง เป็นที่ตั้งของสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ยิ่งอีกแห่ง หนึ่ง คือ \"จวนเก่าเจ้าเมือง
ตรัง\" หรือบ้านพักอดีตเจ้าเมืองตรัง พระยารัษฎา นุประดิษฐ์ ซึ่ง เป็นเรือนไม้ 2 ชั้น มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งและเครื่องมือ เครื่องใช้ในชีวิต ประจำ
วัน ของ พระยารัษฎาฯ อย่างครบถ้วน โดยทายาทตระกูล ณ ระนอง เป็นผู้ดูแลรักษา และ เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าชมทุกๆ วัน ยกเว้น
วันจันทร์ ซึ่งในวันนี้ซึ่งเป็นอังคารเราจะสามารถเข้าไปชมได้ พี่จะให้เวลาน้อง ๆ ที่นี้ 30 นาทีนะค่ะในการเดินชมแล้วเราจะไปกันที่อื่นต่อ\"
เมื่อพี่อลิศพูดจบรถก็พาถึงที่พอดี
\"คิล คิล เร็ว ๆ หน่อยสิ\"เฟรินเร่งเมื่อเห็นคิลเดินช้ามาก
\"คิลดูนั้นสิ อะไรนะสวยจัง\"เฟรินเรียกคิลก็เดินเข้าไปดูแล้วก็ยิ้มออกมา
\"อืมสวยดีนะ ชามสมัยนั้น\"คิลพูด
\"ชามหรือ ช่างเถอะแต่ก็สวยดีนะ\"เฟรินพูดแล้วซบหน้าลงบนไหล่ของคิล ทั้งคู่เดินดูไปเรื่อย ๆ โดยมีอีกคู่หนึ่งเดินตามหลังนั้นคือ คาโล
กับเรนอน นั้นเอง ซึ่งบรรยากาศรอบ ๆ 2 คู่นี้แต่กต่างกันสิ้นเชิง \'คิล นายคิดจะลองดีกับฉันใช่ไหม\'คาโลคิด ไอเย็น ๆ ถูกปล่อยออกมา
\' คุณคิล รู้สึกจะเกินแผนไปหรือเปล่าค่ะ\' เรนอนคิดในใจ ไอเย็น ๆ และแสนจะมาคุจากคู่นี้ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้
และเมื่อรถเริ่มออกอีกครั้ง
\"เฮออ\"เฟรินถอนหายใจ
\"เหนื่อยหรือ\"คิลถามด้วยความเป็นห่วง(นี้ก็แผนนะค่ะ)
\"ก็นิดหน่อยนะ\"เฟรินส่งสายอ้อน ๆ เพราะรู้ว่าอีกคู่ย้ายมานั่งอยู่ข้างหลัง
\"ถ้างั้นเดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้นะ\"คิลพูดพร้อมส่งรอยยิ้ม แต่เมื่อลุกออกมาเจอสายตาเย็น ๆ ของเรนอนก็หน้าซีดเล็กน้อย แล้วขยิบตาให้
ตามลงมา
\"คุณคาโล เดี๋ยวฉันมานะค่ะ\"เรนอนพูดแล้วเดินลงไปที่รถชั้นล่าง(เอ่อนี้เป็นรถทัวร์สองชั้นนะค่ะ)
\"เรนอน เธอเป็นอะไรไปนะ\"คิลเปิดถามทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวเดินลงมา
\"เปล่าค่ะ\"เรนอนพูดอย่างไม่สนใจ
\"เรนอน\"คิลเรียกซ้ำ
\"ก็สนิดกันดีนะค่ะ\"เรนอนพูดน้ำเสียงส่อแววประชด
\"มันเป็นแผนของเฟรินมันอ่ะ มันเริ่มก่อนฉันก็ต้องตามนะสิ\"คิลพูด
\"งั้นนี้ก็คิดว่ามันอยู่ในแผนล่ะกันนะค่ะ\"เรนอนพูดแล้วรีบเดินหนีกลับขึ้นไปข้างบนทันที
\"โธ่เว้ย แย่จริง\"คิลสถบออกมาแล้วเทน้ำลงใส่แก้ว เดินกลับขึ้นมาข้างบน
\"ว้าว คิลนี้น่ารักจริง ๆ เลย\"เฟรินพูดแล้วยิ้มออกมาอย่างที่ใครเห็นก็ต้องพูดว่า น่ารัก
\"อืม\"คิลบอกแล้วลงนั่งข้างเฟรินต่อ
\"เฟริน\"คิลกระซิบเรียกเสียงจริงจัง
\"อะไร\"เฟรินตอบเสียงเบาเช่นกัน
\"เรนอนนะ คิดเป็นจริงเป็นจังไปแล้วอ่า ทำไงดี\"คิลพูดข้างหูเฟริน
\"อย่าคิดมาก นั้นคงเป็นการแสดงนะ\"เฟรินกระซิบตอบข้างหู
\"วี้ด วิ้ว หอมแก้มกันต่อหน้าต่อตา\"ครี้ดที่หันมามองทั้งคู่พอดีแซวขึ้นเนื่องจากฉากที่ครี้ดเห็นคือเฟรินกำลังหอมแก้มคิลอยู่
\"เอาไงดี\"คิลถาม
\"เลยตามเลย\"เฟรินบอก
\"แหม อย่าแซวซิครี้ดก็\"เฟรินพูดเสียงหวานใสแล้วทำท่าเขิลสุดชีวิต
\"แหมไม่เห็นต้องเขินเลยนี้เฟริ...\"ครี้ดยังพูดไม่จบแต่ไอเย็น ๆ และขอบหน้าต่างที่เป็นกระจกก็มีฝ้าเริ่มขึ้น แล้วยังไอ้บรรยากาศมาคุนั้นอีก
ทำให้ตลอดทางแทนที่จะร้อนมันกลับหนาวเยือก
\"เล่นแรงไปหรือเปล่าเฟริน\"คิลถามขึ้นอีกครั้ง
\"ยัง ถ้าคิดจะคบกับคนอย่างเฟริน แค่นี้ทนไม่ได้ก็ไม่รู้จะพูดไงดีแล้ว\"เฟรินพูด
\"แต่นายก็รู้ว่าคาโลมันง้อคนไม่เป็น\"คิลพูดต่อ
\"รู้ แต่อยากแกล้ง\"เฟรินพูด
\"เอาล่ะ ทุกคนพี่ ๆคิดว่าอากาศมันชักจะหนาว ๆ นะเนี่ย แต่เดี๋ยวก็ร้อนแล้วล่ะ เพราะสถานที่ต่อไปของเราอยู่อีกไม่ไกลแล้วล่ะ\"พี่อลิศพูด
พร้อมกับกอดตัวเองที่กำลังสั่นเพราะอากาศในรถมันหนาวได้แบบไม่ต้องเปิดแอร์เลย
\"เราจะไปดูยางพาราต้นแรกของประเทศไทย กันนะค่ะ ยางพาราต้นนี้ ตั้งอยู่ริมถนนก่อนเข้าสู่ตัวอำเภอ กันตัง ยางต้นนี้คือตัวแทนของ
กลุ่มยางรุ่นแรก ที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ เจ้าเมืองตรังได้นำมาปลูกไว้เพื่อบุกเบิก อาชีพสวนยางพาราของชาวตรัง เมื่อปี พ.ศ. 2442
และเราก็มาถึงแล้วค่ะ\"พี่อลิศพูดเมื่อรถเข้าจอด
\"ว้าว สูงจัง ดูศักดิ์สิทธิ์จังเนอะคิล\"เฟรินพูด ยิ้มหร่าอย่างร่าเริง
\"...อ่ะ...อืม\"คิลเริ่มพูดไม่เป็นภาษาเพราะสายตาเย็น ๆ ที่จับจ้องมาจากอีกคู่ที่เดินตามมา
\"กลัวหรือคิล\"เฟริน ดูออกเลยล่ะ ว่าคิลคงจะกลัวสองคนนั้น
\"..คะ...ใคร..บะ...บอก\"คิลพูด เฟรินหัวเราะออกมา
\"เฮอ เลิกแล้วล่ะ นายไม่ต้องแสดงแล้ว ไปปรับความเข้าใจกับเรนอนซะ \"เฟรินพูด
\"จริงหรือเฟริน\"คิลพูดด้วยความดีใจ
\"อืม แกล้งต่อไปมันจะไม่ดีกับคู่ของนาย\"เฟรินพูด
\"ฮิ ฮิ แล้วจัดการคู่ของนายด้วยล่ะ\"คิลพูดกลั้วหัวเราะ
\"ฮิ ฮิ นั้นสินะ\"เฟรินพูดเมื่อทั้งคู่มองหน้ากันก็หัวเราะออกมา โดยมีคาโลกับเรนอนมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดแต่ไม่ได้ยินเสียงจึงยิ่งโมโห
\'ไอ้คิล คุยอะไรกับเฟรินกระหนุ่งหนิ่งอย่างนี้\'คาโลคิดภายใจร้อนรุ่มอย่างไม่มีสาเหตุ \'คุณคิล คุยอะไรกับคุญเฟรินนะ ดูสนุกจัง\"เรนอน
คิดภายใจเกิดคำถามขึ้นมากมาย
\"ทุกคนขึ้นรถได้แล้ว\"เสียงพี่อลิศตะโกนเรียกไปเรื่อย ๆ จนคนอื่น ๆ เริ่มขึ้นบนรถ
บนรถที่คาโลนั่งที่เดิมของตนเองและกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่
\"ขอนั่งด้วยคนได้ไหม\"เสียงของสาวหวานใสดังขึ้น ทำให้คาโลหลุดสายตาจากหนังสือเงยขึ้นมามองแล้วก็กลับไปอ่านหนังสือต่อ
\"ไม่ไปนั่งกับคิลหรือไง\"คาโลพูดสายตายังจับจ้องอยู่ที่หนังสือ
\"นั้นสินะ\"เฟรินพูดแล้วนั่งลงข้าง ๆ คาโล
\"หรือว่า...นายอยากให้ฉันไปนั่งกับคิล ก็ได้นะ\"เฟรินพูดแล้วลุกขึ้นแต่ก็โดนคาโลจับข้อมือเอาไว้ เฟรินยิ้มออกมาอย่างรู้ทันแล้วก็กลับลง
ไปนั่งอย่างเดิม ส่วนคาโลก็นั่งอ่านหนังสือต่อไม่สนใจ
\"อ้าว คุณเฟริน..\"เรนอนยังพูดไม่จบเฟรินก็ขยิบตาให้รู้
\"หรือว่า..\"เรนอนพูดขึ้นมา
\"ก็บอกแล้วไม่ยอมเชื่อเอง\"คิลพูดแล้วลากไปนั่งเก้าอี้ด้านหน้าคาโลกับเฟริน
\"ก็เห็นแสดงซะเหมือนจริง ใครจะไปรู้ว่าเลิกแล้ว\"เรนอนพูด
\"งั้นก็ขอลงโทษที่ไม่เชื่อหน่อยล่ะกัน\"คิลพูดแล้วฉกฉวยเอาความหอมของแก้มเรนอนไป ใบหน้าเรนอนแดงกล่ำดีว่าไม่มีใครเห็นนอก
จากเฟรินกับคาโล แต่เฟรินก็โดนห้ามไว้จึงไม่มีเสียงแซวเกิดขึ้น
\"บ้ า\"เรนอนพูดแล้วทุบอกคิลทีหนึ่งซึ่งคิลก็หัวเราะออกมาอย่างดีใจ ทุกคนภายในรถหันมามองอย่างประหลาดใจ ส่วนพี่อลิศก็งง ๆ ว่า
บรรยากาศหนาว ๆ เมื่อครู่หายไปไหน แต่ก็เข้าใจเมื่อโรเวนอธิบายให้ฟัง คนขับรถจึงเริ่มเปิดแอร์ในรถอีกครั้ง และเริ่มออกเดินทางต่อ
\"คาโล ดูสิ วิวสวยดีนะ\"เฟรินชวนคุยขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคาโลไม่พูดอะไร
\".......\"เงียบ ยังคงอ่านหนังสืออยู่อย่างไม่สนใจ
\"คาโล แดดแรงจังเนอะ\"เฟรินชวนคุยต่อแม้ในใจจะหงุดหงิดนิด ๆ
\"......\"และเงียบหมือนเดิม สายจายังคงจับจ้องที่หนังสือเพียงแต่ปิดม่านเข้ามาบังแสงแดดที่ส่องมา
\"คาโล นายเป็นอะไรหรือเปล่า\"เฟรินถามต่อด้วยเสียงเรียบเฉยที่ถูกข่มเอาไว้
\".........\"เงียบ เงียบ และเงียบ \'ไอ้คาโล...สงบใจไว้เฟริน...1...2..3..4..\'เฟรินข่มใจอยู่ด้วยการนับเลข แล้วอยู่ ๆ หัวสมองของเฟรินก็
พลันคิดได้ หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างเจ้าเหล่
\"คาโล นาย หึงหรือ\"เฟรินพูดเพียงเท่านั้นล่ะคาโลก็ล่ะสายตาจากหนังสือทันที ดวงตาสีฟ้าจ้องมาอย่างเอาเรื่องแล้วก็ถูกเปลี่ยนให้กลาย
เป็นแววตาที่มองแล้วทำให้ขนลุก
\"ใช่ หึงมากและหึงที่สุด\"คาโลพูดด้วยหน้าตาที่เฉยมากแต่ด้วยรอยยิ้มแบบเจ้าเหล่ถูกประดับอยู่จึงทำให้เฟรินนึกกลัวในใจ
\"เพราะฉะนั้น ต้องลงโทษที่มาทำกับฉันแบบนี้\"คาโลพูดด้วยเสียงที่เยือเย็นแต่แฝงด้วยความน่ากลัว
\"ลงโทษ นายจะทำอะไรฉัน\"เฟรินถามด้วยใบหน้าซีด ๆ
\"นั้นสินะ\"คาโลพูดต่อแต่ใบหน้ากลับโน้มเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ และสิ่งที่เฟรินกลัวก็เกิดขึ้นเมื่อ เรียวปากอิ่มของตนเองถูกประกบอย่างรวด
เร็วจากฝ่ายชาย ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งชายหนุ่มผละออก แล้วกลับไปหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อ
\"นาย..นี่มัน\"เฟรินพูดไม่ออก ใบหน้าแดงกล่ำอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
\"บ้าที่สุดเลย\"เฟรินพูดเสียงที่แทบจะกระซิบได้
\"ว่าไงนะ\"คาโลถาม
\"เปล่า ๆ \"เฟรินรีบปฎิเสธอย่างรวดเร็วและฉีกยิ้มให้กว้างเท่าที่จะยิ้มได้ แต่มันกลับดูตลกไปซะได้
\"ฮ่า ฮา ฮ่า\"คาโลหัวเราะออกมา เฟรินรีบหุบยิ้มแล้วนั่งจ้องคาโลที่กำลังหัวเราะ เมื่อฝ่ายชายรู้ตัวว่าถูกมองก็รีบหยุดหัวเราะทันที เฟรินจึง
ทำหน้าบึงทันที
\"หยุดทำไมล่ะ\"เฟรินท้วง
\"เรื่องของฉัน\"คาโลตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วอ่านหนังสือต่อ
\"นี่คาโล รู้ไหม ว่านายนะหัวเราะแล้วน่ารักดีนะ นายน่าจะหัวเราะบ่อย ๆ \"เฟรินพูด
\"งั้นหรือ\"คาโลตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงเล็กน้อย
\"เวลาเขินก็น่ารัก\"เฟรินพูด
\"คะ..ใคร..เขิน\"คาโลรีบท้วง แต่ก็ได้รับเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเฟรินที่ทำให้หน้าแดงยิ่งขึ้น แต่ก็กลับมาสงบอย่างรวดเร็ว
\"นายอ่านอะไรอยู่นะ\"เฟรินถามขึ้นเมื่อเห็นหน้าปกคุ้น ๆ
\"อ๋อหนังสือ นิทารนะ ของสมุดยืมมา\"คาโลพูด
\"หา นายอ่านหนังสืออย่างนี้ด้วยหรือ\"เฟรินถามอย่างตกใจ
\"อืม ตอนแรกก็ไม่อ่านแต่ว่าพอดีเห็นนะ ก็เลยลองเอามาอ่านดู\"คาโลบอก
\"อืม.. ถ้างั้นสนุกไหม\"เฟรินถามอีกครั้ง
\"ก็สนุกดีนะ\"คาโลตอบพร้อมยิ้มออกมา ยิ้มอย่างที่ทำให้เฟรินใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
\"เล่าให้ฟังหน่อยสินะ\"เฟรินอ้อนเหมือนเด็ก ๆ แต่ภายในใจ \'สงบใจไว้ ๆ \'
\"ก็ได้\"คาโลพูดน่าแดงเล็กน้อย
\" กาลครั้งหนึ่ง ณ ภายใต้ท้องสมุทรที่ยิ่งใหญ่ มีปราสาทที่งดงามอยู่ที่นั้นและมันเป็นที่อยู่ของเหล่าเงือก..\"คาโลเริ่มเล่านิทารส่วนเฟริน
ก็นั่งฟังอย่างตั้งใจ(ไม่รู้ฟังหรือมองหน้าคาโลกันแน่-เชอรี่,เงียบไปเลย-เฟรินและผู้อ่านทุกท่าน)
\"...อยู่ ๆ เกิดพายุขึ้นมา เรือของเจ้าชายถูกคลื่นพัดถล่ม เจ้าหญิงเงือกรีบว่ายลงไปช่วยเจ้าชาย..\"คาโลเล่าต่อพอถึงตรงนี้ เฟรินก็ขยับ
ไปซบกับไหล่ของคาโล ซึ่งฝ่ายชายสะดุ้งเล็กน้อย
\"ไม่ได้หรือ\"เฟรินถาม
\"เปล่า \"คาโลตอบ
\"เล่าต่อสิ\"เฟรินบอก
\"เจ้าหญิงเงือกพาเจ้าชายขึ้นมาบนฝั่ง ใช้เส้นผมที่ยาวสลวยของตนห่อหุ้มร่างเจ้าชายเพื่อให้ความอบอุ่น แต่แล้ว..\"คาโลเล่าต่อ จนกระทั่ง
\"...ในที่สุดเจ้าหญิงเงือที่มิอาจฆ่าเจ้าชายผู้เป็นที่รักได้ลงจึงยอมกลายเป็นฟองอากาศหายไปกับทะเล เหล่านางฟ้าเห็นใจ จึงช่วยกันเสก
ฟองอากาศนั้นให้กลายเป้นนางฟ้าเหมือนพวกตน เจ้าหญิงเงือกน้อยที่กลายเป็นนางฟ้าจึงคอยเฝ้ามองดูเจ้าชายและลูกหลานของเจ้าชาย
ตลอดไป\"คาโลเล่าจนจบและเมื่อหันมามองก็เห็นเฟรินหลับไปแล้ว คาโลค่อย ๆ ขยับแขนไปโอ้บเฟรินและวจัดท่าให้นอนได้สบาย แล้วจึง
หยิบหนังสืออีกเล่มที่เขียนว่า ประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งหนังสือเล่มนี้คาโลพึ่งจะซื้อมาขึ้นมาอ่านต่ออย่างสบายใจ
\"น้อง ๆ ทุกคนนี้ก็เที่ยงแล้วพี่ ๆ คิดว่าทุกคนคงจะหิวแล้วใช่ไหมค่ะ\"พี่อลิศพูดขึ้นมาเมื่อรถออกวิ่งมาได้เป็นเวลานานแล้ว
\"ช่าย เราหิวแล้ว\"เสียงครี้ดตะโกนขึ้นมา
โป๊ก!! \"ทำตัวดีดีเป็นไหม\"เสียงของแอ้งจี้มาพร้อมกับที่ครี้ดต้องนั่งกุมหัวเนื่องจากถูกตี
\"เธอนี้ ทำไหมถึงชอบตีหัวคนนักนะ\"ครี้ดโวย
\"ฉันตีเฉพาะคนทำตัวไม่ดียะ\"แอ้งจี้โต้กลับ
\"งั้นที่ตีเฟรินประจำล่ะ\"ครี้ดพูด
\"เฮ้ย ๆ ฉันนอนอยู่ดี ๆ ไงโยนความซวยมาให้ฟ่ะ\"เฟรินที่ตื่นขึ้นมาได้ยินพอดีโวยบ้าง
\"นั้นสินะ ดูท่าจะได้หมอนดีซะด้วย\"ครี้ดแซว เพราะว่าเฟรินนอนซบไหล่ของคาโลอยู่นั้นเอง(ตื่นแล้วยังไม่ยอมลุกดูท่าจะติดใจ-เชอรี่,ยุ่ง
เรื่องของฉัน-เฟริน,จ้า จ้า-เชอรี่)
\"พี่อลิศเมื่อไหร่เราจะทานข้าวกันฮะ\"เฟรินเปลี่ยนเรื่องไปหาอีกคนทันที
\"ใกล้ถึงแล้วล่ะจ๋ะ\"พี่อลิศบอกแล้วก็เดินลงไปนั่งที่เดิม
\"ตื่นแล้วก็ลุก\"คนที่นั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่นานพูดขึ้น
\"ถ้าไม่ลุกล่ะ\"เฟรินพูดพลางยิ้ม ๆ
\"เมื่อย\"คาโลพูดสั้น ๆ ด้วยใบหน้าเรียบ ๆ
\"ฮิ ฮิ ฮิ\"เฟรินหัวเราะเบา ๆ แล้วลุกมาพิงพนักเก้าอี้แทน ในที่สุดรถก็นำทางมาจนถึงสถานที่ทานข้าวเที่ยงและเดินทางต่อ
\"ฮิฮิ ทุกคนคงจะอิ่มกันแล้วนะค่ะ เราจะพาน้อง ๆ ไปชื่นชมธรรมชาติ กันบ้าง เราจะไปดูหินงอกหินย้อยกันค่ะ\"พี่อลิศลุกขึ้นมาพูดเมื่อ
รถออกเดินทางได้ประมาณ 10-20 กิโลเมตร
\"หินงอกหินย้อยหรือค่ะ สวยไหมค่ะ\"เรนอนพูดแทรกขึ้นมา
\"สวยสิค่ะ แต่เรามีกฎนะค่ะ \"พี่อลิศพูดพร้อมทำหน้าเคร่ง
\"อะ..อะไรหรือค่ะ\"เรนอนพูดอย่างกลัว ๆ
\"ฮา ฮ่า อย่าทำหน้ากลัวอย่างนั้นสิ ไม่มีอะไรยากหรอกแค่อย่าไปจับหินพวกนั้นก็พอแล้วล่ะค่ะ\"พี่อลิศพูดพร้อมกับทำหน้ายิ้มเหมือนเดิม
\"ทำไมล่ะฮะ\"เสียงเฟรินแทรกขึ้นมาอย่างอยากรู้อยากเห็น
\"ก็เพราะว่าในตัวเรามีอุณหภูมิที่ร้อน เมื่อเราไปแตะพวกหินนั้นที่สร้างมาจากน้ำฝนที่กัดเซาะหินปูน มันจะตายในทันที\" พี่อลิศพูด
\"ค่ะ/ครับ พวกเราจะไม่แตะพวกหินนั้นอย่างแน่นอน\"ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกันแล้วก็พากันหัวเราะ
\"ที่ที่เราจะไปดูหินงอยหินย้อยนั้นคือถ้ำเจ้าไหม - ถ้ำเจ้าคุณ .....เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยอยู่ที่เขาโต๊ะแนะ ใกล้บ้านเจ้าไหม นั่งเรือจาก
หาด ยาวไปตามคลองเจ้าไหมประมาณ 15 นาที ถ้ำเจ้าไหมใช้เรือเล็กพายลอด ทะลุถ้ำไปยังป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ถ้ำเจ้าคุณอยู่
เลยถัดไป เป็นถ้ำที่ต้อง เดินขึ้นไปเที่ยวชมความงดงามของถ้ำ แล้วเราจะไปนั่งเรือกันค่ะ น้อง ๆ เมื่อลงแล้วเดี๋ยวเดินตามพี่มานะค่ะ\"พี่
อลิศอธิบายต่อ และเมื่อรถจอดเสร็จแล้วจึงพาทุกคนไปลงเรือยพายเพื่อออกเดินทาง
\"น้ำเย็นจัง\"เฟรินพูดขณะนั่งกวักน้ำเล่น
\"อย่าเล่นน้ำสิ\"คาโลดุ
\"เรื่อง จะเล่น\"เฟรินไม่ยอม ยังคงเล่นต่อ แต่เมื่อเจอสายตาเย็น ๆ ส่งมาให้ก้เลยยอม
\"ชิ ก็ได้\"เฟรินพูดแล้วกลับมานั่งนิ่ง ๆ แต่ก็ได้ไม่นานก็กลับมาเล่นอีกครั้ง
\"ว้าว สวยจัง\" \"สวยมาก\" \"สุดยอด\" เสียงนี้เกิดขึ้นมากมายจากทุกคนที่ได้เห็นหินงอกหินย้อยที่พราวต้องแสงระยิบระยับ
\"ฮิ ฮิ \"อลิศแอบหัวเราะเบา ๆ เล็กน้อย เมื่อดูท่าทางที่แสดงออกของน้อง ๆ แล้วก็เดินนำทุกคนต่อไป
\"เป็นยังไงกันบ้างค่ะ\"พี่อลิศถามทุกคนเมื่อกลับมาและรถออกวิ่งต่ออีกครั้ง
\"สุดยอดเลยค่ะ/ครับ\"ทุกคนพูดรอยยิ้มประดับลงบนสีหน้าของทุกคน(เชื่อเถอะว่าทุกคนเพราะขนาดลอเรนซ์ยังอมยิ้มกับความสวย
ของหินภายในถ่ำเลยล่ะค่ะ-เชอรี่)
\"นายยิ้มแล้วน่ารักดีนะ\"ลูคัสพูดขึ้นมา
\"หมายถึงใคร\"ลอเรนซ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นอย่างงง ๆ
\"นายไง ลอรี่\"ลูคัสพูดพร้อมรอยยิ้มที่จริงจังมากขึ้น
\"ลอเรนซ์อย่าคิดปากริชในรถนะ\"โรเวนที่หันมาเห็นลอเรนซ์ชักกริชขึ้นมากล่าวเตือน
\"ฝากไว้ก่อน\"ลอเรนซ์พูดพร้อมเก็ยกริชแล้วกลับไปนั่งหน้าบูดเหมือนเดิม
ภายในรถยังคงฮือฮา และพูดคุยเกี่ยวกับความงดงามของหินงอกหินย้อยที่อยู่ภายในถ่ำกันไม่หยุดหย่อนแม้ว่า รถที่พาพวกเขา
ไปจะแล่นออกจากสถานที่นั้นมานานหรือมากแล้วเพียงใด
\"เอาล่ะ สถานที่ต่อไปจะเป็นสถานที่สุดท้ายก่อนที่เราจะไปทานเข้าเย็นกัน พี่จะเวลาทุกคนที่นี่เพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ภายในสถาน
ที่นั้นเราจะไก้พบกับธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ที่นั้นก็คือ.....สวนสาธารณะควนตำหนักจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอกันตัง อยู่ห่างจาก
อำเภอเมืองประมาณ 24 กิโลเมตร บริเวณควนตำหนักจันทร์มีทิวทัศน์ ธรรมชาติที่สวยงาม เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ ได้รับการปรับปรุง
ตกแต่ง ปลูกไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับ มีศาลาพักผ่อนและลานจอดรถสำหรับ นักท่องเที่ยว ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ของทะเล และ
อำเภอกันตังได้กว้างไกล และเราจะมาดูพระอาทิตยืตกดินกันด้วย ขณะนี้เป็นเวลา 5 โมงเย็น เราจะมาเจอกันที่รถตอน 6.30 นะค่ะ
ขอให้น้อง ๆ ตรงต่อเวลาด้วย\"พี่อลิศลุกขึ้นมาพูดกับทุกคน
\" คาโล ดูสิดอกไม้นี้สวยจังเลยอ่ะ\"เฟรินที่วิ่งไปมาอยู่ตั่งนานพูดขึ้น
\"อืม\"คาดลเดินมาข้าง ๆ ตอบกลับสั้น ๆ
\"นี้มันไม่สวยหรือไง นายถึงทำหน้าเรียบอย่างนั้น\"เฟรินหันกลับมาถาม
\"ก็สวยดี\"คาโลก็ยังคงตอบสัน ๆ
\"ช่างนายแล้ว\"เฟรินพูดแล้วก็เดินไปวิ่งไปในหลาย ๆ ที่ และที่สุดท้ายที่ทั่งคู่มากันคือ จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลได้ชัดเจน
\" ว้าว สวยจังเลย\"เฟรินพูดขึ้นเมื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือ พระอาทิตย์ดวงโตสีเพลิงกำลังค่อย ๆ ลัดฟ้าที่มีสีส้มอมแดงและม่วงดำอยู่
น้อย ๆ และแสงอาทิตย์ที่สะท้อนเป็นประกายให้กับทะเลที่เปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว ตัดกับดอกไม้นานาชนิดหลากสีราวกับ ภาพวาดที่
มิอาจประเมินค่าได้
\"อุ๊ย! อะไรนะคาโล\"เฟรินตกใจเมื่อคาโลหยิบอะไรสักอย่างมาทัดหูของนาง
\"ดอกกุหลาบ\"คาโลพูดพร้อมยิ้มออกมา
\" น่ารัก \"คาโลพูดต่อแล้วดึงเฟรินที่น่าแดงเป็นลูกแอ้ปเปิลเข้ามากอด
\"จริงเหรอ คาโล\"เฟรินถามย่ำอีกครั้งพร้อมเงยหน้าขึ้นมา ให้เห้นใบหน้าแดง ๆ ด้วยความอาย(อายเพราะคำพูดหรืออ้อมกอดเอ๋ย-เชอรี่,
๐(-///-)๐ทั้งสองอย่างล่ะมั่ง-เฟริน)
\"อืม เหมาะดีนะ\"คาโลพูดย่ำอีกครั้ง ทั้งคู่สบตากัน แล้วอยู่ ๆ ใบหน้าคาโลก็ค่อย ๆ โน้มลงมาใกล้ใบหน้าของเฟรินขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดทั่ง
คู่ก็จูบกันโดยมีฉากหลังเป็นพระอาทิตย์ที่กำลังจะลัดฟ้า (กรี๊ด โรแมนติกจังเลย-เชอรี่)
เมื่อกลับถึงที่พักหลังทานข้าวเย็น ภายในห้องของเฟรินและเรนอน
\"มีเรื่องอะไรหรือค่ะ คุณเฟริน\"เรนอนเอ่ยถามขึ้น
\"ก็นิดหน่อยว่าแต่รู้ได้ไงฮะ\"เฟรินพูดอย่างเขิน ๆ
\"สีหน้าค่ะ\"เรนอนตอบ
\"มันแสดงออกขนาดนั้นเลยหรือฮะ\"เฟรินพูดอย่างตกใจเล็กน้อย
\"ถามแต่คนอื่นแล้ว เรนอนล่ะ หน้าแดงอย่างนี้ บอกมานะว่า เกิดอะไรขึ้น\"เฟรินถามกลับเมื่อเห็นว่าเรนอนก็หน้าแดงพอพอกับเธอ
\"มะ..\"ยังพูดไม่ทันจบ เรนอนก็ถูกแทรก
\"ถามพูดว่าไม่มีอะไรนะ เพราะหน้ามันแสดงออกมา\"เฟรินดักคอ
\"เอ่อ..ไม่รู้แล้ว จะนอนแล้วค่ะ\"เรนอนพูดแล้วก็รีบคลุมโป่งนอนทันที
\"อ้าว ขี้โกงอ่ะ ลุกขึ้นมาก่อนเลย\"เฟรินไม่ยอมลุกจากเตียงไปเขย่าตัวเรนอน
\"ก็ได้ ผมยอมแพ้\"เฟรินพูดแล้วลุกไปปิดไฟเข้านอนตามไป
***_________________________________________________________________________________________***
จบแล้วค่า หลังจากที่ต่อมาทีล่ะนิด ไม่รุว่ามันจะหวานพอใจผู้อ่านหรือเปล่านะค่ะ แล้วก็ไม่แน่ใจในสิ่งที่บอกไปว่า หินงอกหินย้อยจะ
ตายเพราะอุณภูมิในร่างกายคนเราถูกหรือเปล่านะสิ ถ้าผิดก็กรุณาบอกวิธีที่ถูกต้องให้กับเชอรี่ผู้รู้น้อยด้วยเถอะค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น