ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน การเข้าค่ายที่แสนสนุก

    ลำดับตอนที่ #23 : ~~~เช้าวันที่4~~~เที่ยวในอำเภอกันตัง

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 49


    จิ๊บ~~ จิบ~~จิ๊บ เสียงนกร้องดังเสียงนาฬิกาปลุกผู้คนให้ตื่นจากการหลับไหลที่ยาวนาน แสงแดดส่องฟ้าที่เพื่มความอบอุ่นให้แก่



    ร่างกายในยามเช้าที่มีอากาศหนาวเย็น ด้วยสภาพอากาศที่เป็นเช่นนี้ทำให้ผู้คนมากมายไม่อยากที่จะลุกออกจากที่นอนถ้าไม่ใช่เพราะ



    ว่าวันนี้เป็นวันที่ต้องออกจากเกาะรอกแห่งนี้ ผู้คนต่างพากันเก็บข้าวของและมาร่วมตัวกันที่ที่โรเวนนัดหมายไว้เมื่อคืน



    \"โห เรนอนดูสิ เมื่อคืนนี้ยังเละอยู่เลย ไงเช้านี้มันถึงได้สะอาดอย่างนี้เนี่ย\"เฟรินพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าบริเวณที่จัดงานนั้นสะอาดต่าง



    จากเมื่อคืน เรนอนหัวเราะออกมาเบา ๆ



    \"ก็อุปกรณ์ทุกอย่างในงานนั้นมันเป็นเวทย์มนต์นะสิค่ะ มันถึงได้เก็บง่ายนะค่ะ\"เรนอนอธิบาย



    \"เฟริน\"คาโลเรียกเฟรินที่กำลังคุยอยู่เฟรินจึงหยุดเดินแต่ไม่หันมา



    \"คือว่า ขอคุยด้วยหน่อยสิ\"คาโลพูดขึ้นมาเนื่องจากว่านึกเหตุการณ์ได้หมดแล้ว แต่ว่าเฟรินกลับวิ่งหนีไปเฉยเลย



    \"เดี๋ยวสิเฟริน\"คาโลเรียก แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมหยุดวิ่งจนกระทั้งมองไม่เห็นไป



    \"เรนอนช่วยคิดหน่อยสิแล้วจะทำอย่างไรดีล่ะนี้\" คาโลหันไปพึงหญิงที่อยู่ข้าง ๆ แต่ด้วยสีหน้าที่ถามมันไม่บ่งบอกว่าสำนึกผิดเลย



    \"ผูกเองก็แก้เองสิค่ะ ไม่บอกท่านลุงบาโรนี้ก็ถือว่าช่วยมากแล้วล่ะค่ะ\"เรนอนพูดแล้วออกวิ่งตามเฟรินไป



    \"โธ๋เว้ย \"คาโลสถบออกมาอย่างไม่สมตัวเอง \'สงสัยคงต้องง้อมันหน่อยคงจะงอนที่ไปทำมันอย่างนั้น\'คาโลคิดแล้วจึงออกตัวเดินอีกครั้ง



    \"เอาล่ะ ทุกคนมาพร้อมกันหรือยัง\"โณเวนพูดเมื่อเห็นว่าคนเริ่มเยอะแล้ว



    \"ครับ/ค่า\"ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียว



    \"เอาล่ะถ้างั้นเราก็ขึ้นเรือกันเลยนะ เล็ทโก\"โรเวนพูดแล้วออกตัวนำวิ่งทุกคนไปขึ้นเรือแล้วเริ่มพายออกทะเลไปขึ้นเรือใหญ่



    \"เฟริน นายเป็นอะไรหรือเปล่า\"คาโลเดินมาถามเมื่อเห็นว่าเฟรินไม่คุยกับเขาเลยเมื่อเรือออกมาได้สักพักแล้ว



    \"เปล่าสักหน่อย\"เฟรินที่เริ่มสงบใจได้แล้วพูด



    \"แล้วทำไมไม่หันมาล่ะ\"คาโลยังคงถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย



    \"ก็ไม่มีอะไรสักหน่อย\"เฟรินพูดแล้วรีบเดินหนีทันที \'หึ ต้องแกล้งสักหน่อยจะได้สำนึก บังอาจมาทำแบบนั้นกับคนอย่างเฟรินได้\'เฟรินคิด



    \"เดียวสิเฟริน\"คาโลเรียกแล้วเดินตามแต่ เมื่อถึงทางโค้งก็มีคนเดินมาชน



    \"โทษทีคาโล\" โรที่เดินมาชนพูดออกมา



    \"ไม่เป็นไร\"คาโลพูดแล้วจะเดินต่อ แต่ก็โดนโรกั้นเอาไว้



    \"นายจะรีบไปไหน\"โรถามพร้อมส่งรอยยิ้ม



    \"เรื่องของฉัน\"คาโลพูดพลางส่งสายตาเย็น ๆ มาให้



    \"งั้นหรือ\"โรพูดยิ้ม ๆ แล้วเดินจากไป คาโลรีบเดินตามมาแต่เมื่อมองดี ๆ เฟรินหายไปแล้ว



    \"โธ่เว้ย\"คาโลสถบออกมาพร้อมชกไปที่กำแพงข้าง ๆ ทำให้เกิดแผลที่หลังมือ และคาโลก็มิได้คิดจะรักษามันแต่เดินหาเฟรินต่อทันที



    และเมื่อเจอเฟรินก็จะถูกเพื่อน ๆ คนแล้วคนเล่ามาขัดพาไปนู้นพาไปนี้ทำให้ไม่ได้คุยกับเฟรินสักที จนกระทั้งเรือถึงท่าและมุ่งสู่โรงแรม



    เมื่อครั้งแรกที่มา ก็ยังไม่ได้คุยกัน คาโลจึงได้แต่มองประตูห้องของเฟรินเท่านั้นแล้วเดินเข้าห้องของตนเอง



    ภายในห้องหมายเลข 211 ของเฟรินและเรนอน



    \"คุณเฟรินค่ะ \"เรนอนเรียกเมื่อตนเองอาบน้ำเสร็จแล้ว



    \"ตาผมอาบแล้วสินะ\"เฟรินพูดแล้วถอดเสื้อทำท่าจะเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อจับลูกบิดประตูห้องน้ำ



    \"เดี๋ยวค่ะ คุณเฟริน\"เรนอนเรียกเฟรินจึงหยุดหันมามอง



    \"เรื่องของคุณคาโลอ่ะค่ะ\"เรนอนพูด



    \"ฮิ เดี๋ยวค่อยออกมาคุยกันนะ\"เฟรินพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงคนที่ตนเองแกล้งอยู่แล้วก็เปิดประตูเข้าห้องน้ำไป



    \"จริง ๆ เลยคุณเฟรินเนี่ย\"เรนอนพูดพร้อมส่ายหัวไปมาก่อนที่จะเดินไปแต่งตัว



    \"คุณเฟรินค่ะ จะคุยเรื่องของคุณคาโลได้ยังค่ะ\"เรนอนพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าตั้งแต่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเฟรินก็ยังไม่ยอมคุยเรื่องนี้



    \"มีอะไรก็ว่ามาสิ\"เฟรินพูดแต่ไม่ได้หันมามองเพราะกำลังวุ่นกับของตรงหน้า



    \"เมื่อไหร่จะเลิกงอนคุณคาโลค่ะ\"เรนอนถาม



    \"เลิกแล้วล่ะ\"เฟรินพูด แล้วพยายามหยิบยกขวดนู้นกล่องนี้มาอ่านฉลากอยู่หน้ากระจก



    \"แล้วทำไมไม่คุยกับคุณคาโลดีดีล่ะค่ะ\"เรนอนถามขึ้นอีกครั้ง



    \"อยากแกล้ง\"สั้น ๆ ง่าย ๆ อย่างได้ใจความ



    \"ฮิ ฮิ ฮิ คุณเฟริน ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกล่ะกันนะค่ะ\"เรนอนพูดกลั้วหัวเราะ



    \"งั้นช่วยผมแต่งหน้าให้เข้ากับชุดที่ใส่หน่อยสิฮะ\"เฟรินพูดพร้อมกับหันมายื่นเครื่องสำอางมากมายที่นั่งปวดหัวอยู่เมื่อกี้



    \"ได้สิค่ะ ฮิฮิ \"เรนอนบอกพร้อมเดินมารับของเฟรินและเริ่มแต่งหน้าให้



    \"แล้วคิดไงอยากแต่งหน้าขึ้นมาล่ะค่ะ\"เรนอนถามเมื่อเริ่มรองพื้น



    \"มันเป็นแผนฮะ แล้วก็...เอ่อ..\"เฟรินพูดอย่างไม่แน่ใจ



    \"มีอะไรหรือค่ะ\"เรนอนถามอย่างสงสัย



    \"ขอยืมตัวคิลด้วยได้ไหมฮะ\"เฟรินถามอย่างกลัว ๆ นิด ๆ



    \"จะไปทำอะไรหรือค่ะ\"เรนอนถามอย่างสงสัยสุด ๆ



    \"มันเป็นแผนนะฮะ\"เฟรินพูดพร้อมขยิบตาข้างซ้ายให้



    \"แผน?\"เรนอนถาม



    \"เอ่อ...คือมันเป็นแบบนี้นะฮะ\"เฟรินพูดแล้วเล่าแผนให้เรนอนฟัง



    \"ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ\"เรนอนพูดแล้วแต่งหน้าต่อ



    \"แต่เรื่องนี้ต้องไปถามคุณคิลเองนะค่ะ\"เรนอนพูด



    \"คิลมันบอกว่าน่าสนุกนะฮะ และก็ให้มาถามเรนอนนะฮะ\"เฟรินพูด



    \"งั้นก็ได้ค่ะ  ฉันต้องทำเป็นทะเลาะกับคุณคิลสินะค่ะ แล้วให้คิลไปกับคุณเฟริน\"เรนอนพูดออกมา



    \"ก็ประมาณนั้นนะฮะ\"เฟรินพูด



    \"ถ้างั้นก็ต้องแต่งให้สวยสินะ และก็ต้องเล่นให้สมบท\"เรนอนพูด



    \"ใช่ฮะ\"เฟรินพูดต่อ แล้วก็นั่งนิ่ง ๆ ให้เรนอนแต่งต่อจนเสร็จ



    \"เอาล่ะ พร้อมแล้วสินะ\"เฟรินพูดเมื่อแต่งตัวอะไรต่าง ๆ เสร็จแล้ว เรนอนพยักหน้าเป็นเชิงตกลง



    \"ลุย\"เฟรินพูดแล้วเดินออกจากประตูห้อง เปิดมาปุ๊บก็มาเจอกับคาโลที่เปิดประตูออกมาเหมือนกัน และเมื่อเฟรินเห็นคิลเดินตามออกมา



    ก็ขยิบตาซ้ายเป็นเชิงเริ่มแผน ซึ่งคิลก็รู้ทันที



    \"เอ่อ เฟริน..\"คาโลกำลังจะพูดอะไรสักอย่างคิลก็ขัดขึ้นมา



    \"เฟรินเราลงไปข้างล่างกันเถอะ\"



    \"ไปสิ คิล\"เฟรินพูดเสียงหวานน่ารักแล้วเดินไปควงแขนคิลลงไปที่ล็อปบี้ ซึ่งคาโลมองตามอย่างงง ๆ



    \"เรนอน ทำไมคิล...\"คาโลพูดไม่ทันจบก็โดนสวนอีกแล้ว



    \"อย่าพูดถึงคนแบบนั้นอีกนะค่ะ คุณคาโล\"เรนอนพูดพลางทำหน้าบึงแล้วเดินตามพวกเฟรินไป \'ขอโทษนะค่ะคุณคาโลที่ต้องทำแบบนี้\'



    เรนอนคิดภายในใจ



    \"ทุกคนขึ้นรถได้แล้วจ๋า\"เสียงใสของพี่อลิศเรียกทุกคนให้ขึ้นรถทัวร์เนื่องจากจะพาไปเที่ยวต่อ



    \"คิล เค้าขอนั่งกลับนายได้เปล่าอ่ะ\"เฟรินพูดเสียงและท่าทางอ้อน ๆ ที่ขนาดคิลยังต้องหน้าแดงขึ้นมา



    \"ดะ...ได้สิ\"คิลพูดตะกุกตะกัก แล้วทั้งคู่ก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้กลางรถ ส่วนด้านคาโลก็นั่งกับเรนอน ความประหลาดเกิดขึ้นภายในใจของผู้



    คนที่ไม่ได้รับรู้แผนการของเฟริน เมื่อรถออกเดินทางมาได้สักพัก พี่อลิศไกด์ของเราก็ขึ้นมาอธิบายถึงสถานที่ที่จะไปกัน



    \"เอาล่ะน้อง ๆ ทุกคนสถานที่ที่เราจะไปกันนั้น คือ พิพิทภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์  ที่นี้อยู่ห่างจากเทศบาลกันตังประมาณ 200 เมตร



    ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 1 ถนน ค่าย พิทักษ์ ตำบลกันตัง เป็นที่ตั้งของสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ยิ่งอีกแห่ง หนึ่ง คือ \"จวนเก่าเจ้าเมือง



    ตรัง\" หรือบ้านพักอดีตเจ้าเมืองตรัง พระยารัษฎา นุประดิษฐ์ ซึ่ง เป็นเรือนไม้ 2 ชั้น มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งและเครื่องมือ เครื่องใช้ในชีวิต ประจำ



    วัน ของ พระยารัษฎาฯ อย่างครบถ้วน โดยทายาทตระกูล ณ ระนอง เป็นผู้ดูแลรักษา และ เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าชมทุกๆ วัน ยกเว้น



    วันจันทร์ ซึ่งในวันนี้ซึ่งเป็นอังคารเราจะสามารถเข้าไปชมได้ พี่จะให้เวลาน้อง ๆ ที่นี้ 30 นาทีนะค่ะในการเดินชมแล้วเราจะไปกันที่อื่นต่อ\"



    เมื่อพี่อลิศพูดจบรถก็พาถึงที่พอดี



    \"คิล คิล เร็ว ๆ หน่อยสิ\"เฟรินเร่งเมื่อเห็นคิลเดินช้ามาก



    \"คิลดูนั้นสิ อะไรนะสวยจัง\"เฟรินเรียกคิลก็เดินเข้าไปดูแล้วก็ยิ้มออกมา



    \"อืมสวยดีนะ ชามสมัยนั้น\"คิลพูด



    \"ชามหรือ ช่างเถอะแต่ก็สวยดีนะ\"เฟรินพูดแล้วซบหน้าลงบนไหล่ของคิล ทั้งคู่เดินดูไปเรื่อย ๆ โดยมีอีกคู่หนึ่งเดินตามหลังนั้นคือ คาโล



    กับเรนอน นั้นเอง ซึ่งบรรยากาศรอบ ๆ 2 คู่นี้แต่กต่างกันสิ้นเชิง \'คิล นายคิดจะลองดีกับฉันใช่ไหม\'คาโลคิด ไอเย็น ๆ ถูกปล่อยออกมา



    \' คุณคิล รู้สึกจะเกินแผนไปหรือเปล่าค่ะ\' เรนอนคิดในใจ ไอเย็น ๆ และแสนจะมาคุจากคู่นี้ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้



    และเมื่อรถเริ่มออกอีกครั้ง



    \"เฮออ\"เฟรินถอนหายใจ



    \"เหนื่อยหรือ\"คิลถามด้วยความเป็นห่วง(นี้ก็แผนนะค่ะ)



    \"ก็นิดหน่อยนะ\"เฟรินส่งสายอ้อน ๆ เพราะรู้ว่าอีกคู่ย้ายมานั่งอยู่ข้างหลัง



    \"ถ้างั้นเดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้นะ\"คิลพูดพร้อมส่งรอยยิ้ม แต่เมื่อลุกออกมาเจอสายตาเย็น ๆ ของเรนอนก็หน้าซีดเล็กน้อย แล้วขยิบตาให้



    ตามลงมา



    \"คุณคาโล เดี๋ยวฉันมานะค่ะ\"เรนอนพูดแล้วเดินลงไปที่รถชั้นล่าง(เอ่อนี้เป็นรถทัวร์สองชั้นนะค่ะ)



    \"เรนอน เธอเป็นอะไรไปนะ\"คิลเปิดถามทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวเดินลงมา



    \"เปล่าค่ะ\"เรนอนพูดอย่างไม่สนใจ



    \"เรนอน\"คิลเรียกซ้ำ



    \"ก็สนิดกันดีนะค่ะ\"เรนอนพูดน้ำเสียงส่อแววประชด



    \"มันเป็นแผนของเฟรินมันอ่ะ มันเริ่มก่อนฉันก็ต้องตามนะสิ\"คิลพูด



    \"งั้นนี้ก็คิดว่ามันอยู่ในแผนล่ะกันนะค่ะ\"เรนอนพูดแล้วรีบเดินหนีกลับขึ้นไปข้างบนทันที



    \"โธ่เว้ย แย่จริง\"คิลสถบออกมาแล้วเทน้ำลงใส่แก้ว เดินกลับขึ้นมาข้างบน



    \"ว้าว คิลนี้น่ารักจริง ๆ เลย\"เฟรินพูดแล้วยิ้มออกมาอย่างที่ใครเห็นก็ต้องพูดว่า น่ารัก



    \"อืม\"คิลบอกแล้วลงนั่งข้างเฟรินต่อ



    \"เฟริน\"คิลกระซิบเรียกเสียงจริงจัง



    \"อะไร\"เฟรินตอบเสียงเบาเช่นกัน



    \"เรนอนนะ คิดเป็นจริงเป็นจังไปแล้วอ่า ทำไงดี\"คิลพูดข้างหูเฟริน



    \"อย่าคิดมาก นั้นคงเป็นการแสดงนะ\"เฟรินกระซิบตอบข้างหู



    \"วี้ด วิ้ว หอมแก้มกันต่อหน้าต่อตา\"ครี้ดที่หันมามองทั้งคู่พอดีแซวขึ้นเนื่องจากฉากที่ครี้ดเห็นคือเฟรินกำลังหอมแก้มคิลอยู่



    \"เอาไงดี\"คิลถาม



    \"เลยตามเลย\"เฟรินบอก



    \"แหม อย่าแซวซิครี้ดก็\"เฟรินพูดเสียงหวานใสแล้วทำท่าเขิลสุดชีวิต



    \"แหมไม่เห็นต้องเขินเลยนี้เฟริ...\"ครี้ดยังพูดไม่จบแต่ไอเย็น ๆ และขอบหน้าต่างที่เป็นกระจกก็มีฝ้าเริ่มขึ้น แล้วยังไอ้บรรยากาศมาคุนั้นอีก



    ทำให้ตลอดทางแทนที่จะร้อนมันกลับหนาวเยือก



    \"เล่นแรงไปหรือเปล่าเฟริน\"คิลถามขึ้นอีกครั้ง



    \"ยัง ถ้าคิดจะคบกับคนอย่างเฟริน แค่นี้ทนไม่ได้ก็ไม่รู้จะพูดไงดีแล้ว\"เฟรินพูด



    \"แต่นายก็รู้ว่าคาโลมันง้อคนไม่เป็น\"คิลพูดต่อ



    \"รู้ แต่อยากแกล้ง\"เฟรินพูด



    \"เอาล่ะ ทุกคนพี่ ๆคิดว่าอากาศมันชักจะหนาว ๆ นะเนี่ย แต่เดี๋ยวก็ร้อนแล้วล่ะ เพราะสถานที่ต่อไปของเราอยู่อีกไม่ไกลแล้วล่ะ\"พี่อลิศพูด



    พร้อมกับกอดตัวเองที่กำลังสั่นเพราะอากาศในรถมันหนาวได้แบบไม่ต้องเปิดแอร์เลย



    \"เราจะไปดูยางพาราต้นแรกของประเทศไทย กันนะค่ะ ยางพาราต้นนี้ ตั้งอยู่ริมถนนก่อนเข้าสู่ตัวอำเภอ กันตัง ยางต้นนี้คือตัวแทนของ



    กลุ่มยางรุ่นแรก ที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ เจ้าเมืองตรังได้นำมาปลูกไว้เพื่อบุกเบิก อาชีพสวนยางพาราของชาวตรัง เมื่อปี พ.ศ. 2442



    และเราก็มาถึงแล้วค่ะ\"พี่อลิศพูดเมื่อรถเข้าจอด



    \"ว้าว สูงจัง ดูศักดิ์สิทธิ์จังเนอะคิล\"เฟรินพูด ยิ้มหร่าอย่างร่าเริง



    \"...อ่ะ...อืม\"คิลเริ่มพูดไม่เป็นภาษาเพราะสายตาเย็น ๆ ที่จับจ้องมาจากอีกคู่ที่เดินตามมา



    \"กลัวหรือคิล\"เฟริน ดูออกเลยล่ะ ว่าคิลคงจะกลัวสองคนนั้น



    \"..คะ...ใคร..บะ...บอก\"คิลพูด เฟรินหัวเราะออกมา



    \"เฮอ เลิกแล้วล่ะ นายไม่ต้องแสดงแล้ว ไปปรับความเข้าใจกับเรนอนซะ \"เฟรินพูด



    \"จริงหรือเฟริน\"คิลพูดด้วยความดีใจ



    \"อืม แกล้งต่อไปมันจะไม่ดีกับคู่ของนาย\"เฟรินพูด



    \"ฮิ ฮิ แล้วจัดการคู่ของนายด้วยล่ะ\"คิลพูดกลั้วหัวเราะ



    \"ฮิ ฮิ นั้นสินะ\"เฟรินพูดเมื่อทั้งคู่มองหน้ากันก็หัวเราะออกมา โดยมีคาโลกับเรนอนมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดแต่ไม่ได้ยินเสียงจึงยิ่งโมโห



    \'ไอ้คิล คุยอะไรกับเฟรินกระหนุ่งหนิ่งอย่างนี้\'คาโลคิดภายใจร้อนรุ่มอย่างไม่มีสาเหตุ \'คุณคิล คุยอะไรกับคุญเฟรินนะ ดูสนุกจัง\"เรนอน



    คิดภายใจเกิดคำถามขึ้นมากมาย



    \"ทุกคนขึ้นรถได้แล้ว\"เสียงพี่อลิศตะโกนเรียกไปเรื่อย ๆ จนคนอื่น ๆ เริ่มขึ้นบนรถ



    บนรถที่คาโลนั่งที่เดิมของตนเองและกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่



    \"ขอนั่งด้วยคนได้ไหม\"เสียงของสาวหวานใสดังขึ้น ทำให้คาโลหลุดสายตาจากหนังสือเงยขึ้นมามองแล้วก็กลับไปอ่านหนังสือต่อ



    \"ไม่ไปนั่งกับคิลหรือไง\"คาโลพูดสายตายังจับจ้องอยู่ที่หนังสือ



    \"นั้นสินะ\"เฟรินพูดแล้วนั่งลงข้าง ๆ คาโล



    \"หรือว่า...นายอยากให้ฉันไปนั่งกับคิล ก็ได้นะ\"เฟรินพูดแล้วลุกขึ้นแต่ก็โดนคาโลจับข้อมือเอาไว้ เฟรินยิ้มออกมาอย่างรู้ทันแล้วก็กลับลง



    ไปนั่งอย่างเดิม ส่วนคาโลก็นั่งอ่านหนังสือต่อไม่สนใจ



    \"อ้าว คุณเฟริน..\"เรนอนยังพูดไม่จบเฟรินก็ขยิบตาให้รู้



    \"หรือว่า..\"เรนอนพูดขึ้นมา



    \"ก็บอกแล้วไม่ยอมเชื่อเอง\"คิลพูดแล้วลากไปนั่งเก้าอี้ด้านหน้าคาโลกับเฟริน



    \"ก็เห็นแสดงซะเหมือนจริง ใครจะไปรู้ว่าเลิกแล้ว\"เรนอนพูด



    \"งั้นก็ขอลงโทษที่ไม่เชื่อหน่อยล่ะกัน\"คิลพูดแล้วฉกฉวยเอาความหอมของแก้มเรนอนไป ใบหน้าเรนอนแดงกล่ำดีว่าไม่มีใครเห็นนอก



    จากเฟรินกับคาโล แต่เฟรินก็โดนห้ามไว้จึงไม่มีเสียงแซวเกิดขึ้น



    \"บ้ า\"เรนอนพูดแล้วทุบอกคิลทีหนึ่งซึ่งคิลก็หัวเราะออกมาอย่างดีใจ ทุกคนภายในรถหันมามองอย่างประหลาดใจ ส่วนพี่อลิศก็งง ๆ ว่า



    บรรยากาศหนาว ๆ เมื่อครู่หายไปไหน แต่ก็เข้าใจเมื่อโรเวนอธิบายให้ฟัง คนขับรถจึงเริ่มเปิดแอร์ในรถอีกครั้ง และเริ่มออกเดินทางต่อ



    \"คาโล ดูสิ วิวสวยดีนะ\"เฟรินชวนคุยขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคาโลไม่พูดอะไร



    \".......\"เงียบ ยังคงอ่านหนังสืออยู่อย่างไม่สนใจ



    \"คาโล แดดแรงจังเนอะ\"เฟรินชวนคุยต่อแม้ในใจจะหงุดหงิดนิด ๆ



    \"......\"และเงียบหมือนเดิม สายจายังคงจับจ้องที่หนังสือเพียงแต่ปิดม่านเข้ามาบังแสงแดดที่ส่องมา



    \"คาโล นายเป็นอะไรหรือเปล่า\"เฟรินถามต่อด้วยเสียงเรียบเฉยที่ถูกข่มเอาไว้



    \".........\"เงียบ เงียบ และเงียบ \'ไอ้คาโล...สงบใจไว้เฟริน...1...2..3..4..\'เฟรินข่มใจอยู่ด้วยการนับเลข แล้วอยู่ ๆ หัวสมองของเฟรินก็



    พลันคิดได้ หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างเจ้าเหล่



    \"คาโล  นาย  หึงหรือ\"เฟรินพูดเพียงเท่านั้นล่ะคาโลก็ล่ะสายตาจากหนังสือทันที ดวงตาสีฟ้าจ้องมาอย่างเอาเรื่องแล้วก็ถูกเปลี่ยนให้กลาย



    เป็นแววตาที่มองแล้วทำให้ขนลุก



    \"ใช่ หึงมากและหึงที่สุด\"คาโลพูดด้วยหน้าตาที่เฉยมากแต่ด้วยรอยยิ้มแบบเจ้าเหล่ถูกประดับอยู่จึงทำให้เฟรินนึกกลัวในใจ



    \"เพราะฉะนั้น ต้องลงโทษที่มาทำกับฉันแบบนี้\"คาโลพูดด้วยเสียงที่เยือเย็นแต่แฝงด้วยความน่ากลัว



    \"ลงโทษ  นายจะทำอะไรฉัน\"เฟรินถามด้วยใบหน้าซีด ๆ



    \"นั้นสินะ\"คาโลพูดต่อแต่ใบหน้ากลับโน้มเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ และสิ่งที่เฟรินกลัวก็เกิดขึ้นเมื่อ เรียวปากอิ่มของตนเองถูกประกบอย่างรวด



    เร็วจากฝ่ายชาย ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งชายหนุ่มผละออก แล้วกลับไปหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อ



    \"นาย..นี่มัน\"เฟรินพูดไม่ออก ใบหน้าแดงกล่ำอย่างหาที่เปรียบไม่ได้



    \"บ้าที่สุดเลย\"เฟรินพูดเสียงที่แทบจะกระซิบได้



    \"ว่าไงนะ\"คาโลถาม



    \"เปล่า ๆ \"เฟรินรีบปฎิเสธอย่างรวดเร็วและฉีกยิ้มให้กว้างเท่าที่จะยิ้มได้ แต่มันกลับดูตลกไปซะได้



    \"ฮ่า  ฮา ฮ่า\"คาโลหัวเราะออกมา เฟรินรีบหุบยิ้มแล้วนั่งจ้องคาโลที่กำลังหัวเราะ เมื่อฝ่ายชายรู้ตัวว่าถูกมองก็รีบหยุดหัวเราะทันที เฟรินจึง



    ทำหน้าบึงทันที



    \"หยุดทำไมล่ะ\"เฟรินท้วง



    \"เรื่องของฉัน\"คาโลตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วอ่านหนังสือต่อ



    \"นี่คาโล รู้ไหม ว่านายนะหัวเราะแล้วน่ารักดีนะ นายน่าจะหัวเราะบ่อย ๆ \"เฟรินพูด



    \"งั้นหรือ\"คาโลตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงเล็กน้อย



    \"เวลาเขินก็น่ารัก\"เฟรินพูด



    \"คะ..ใคร..เขิน\"คาโลรีบท้วง แต่ก็ได้รับเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเฟรินที่ทำให้หน้าแดงยิ่งขึ้น แต่ก็กลับมาสงบอย่างรวดเร็ว



    \"นายอ่านอะไรอยู่นะ\"เฟรินถามขึ้นเมื่อเห็นหน้าปกคุ้น ๆ



    \"อ๋อหนังสือ นิทารนะ ของสมุดยืมมา\"คาโลพูด



    \"หา นายอ่านหนังสืออย่างนี้ด้วยหรือ\"เฟรินถามอย่างตกใจ



    \"อืม ตอนแรกก็ไม่อ่านแต่ว่าพอดีเห็นนะ ก็เลยลองเอามาอ่านดู\"คาโลบอก



    \"อืม.. ถ้างั้นสนุกไหม\"เฟรินถามอีกครั้ง



    \"ก็สนุกดีนะ\"คาโลตอบพร้อมยิ้มออกมา ยิ้มอย่างที่ทำให้เฟรินใจเต้นไม่เป็นจังหวะ



    \"เล่าให้ฟังหน่อยสินะ\"เฟรินอ้อนเหมือนเด็ก ๆ  แต่ภายในใจ \'สงบใจไว้ ๆ \'



    \"ก็ได้\"คาโลพูดน่าแดงเล็กน้อย



    \" กาลครั้งหนึ่ง ณ ภายใต้ท้องสมุทรที่ยิ่งใหญ่ มีปราสาทที่งดงามอยู่ที่นั้นและมันเป็นที่อยู่ของเหล่าเงือก..\"คาโลเริ่มเล่านิทารส่วนเฟริน



    ก็นั่งฟังอย่างตั้งใจ(ไม่รู้ฟังหรือมองหน้าคาโลกันแน่-เชอรี่,เงียบไปเลย-เฟรินและผู้อ่านทุกท่าน)



    \"...อยู่ ๆ เกิดพายุขึ้นมา เรือของเจ้าชายถูกคลื่นพัดถล่ม เจ้าหญิงเงือกรีบว่ายลงไปช่วยเจ้าชาย..\"คาโลเล่าต่อพอถึงตรงนี้ เฟรินก็ขยับ



    ไปซบกับไหล่ของคาโล ซึ่งฝ่ายชายสะดุ้งเล็กน้อย



    \"ไม่ได้หรือ\"เฟรินถาม



    \"เปล่า \"คาโลตอบ



    \"เล่าต่อสิ\"เฟรินบอก



    \"เจ้าหญิงเงือกพาเจ้าชายขึ้นมาบนฝั่ง ใช้เส้นผมที่ยาวสลวยของตนห่อหุ้มร่างเจ้าชายเพื่อให้ความอบอุ่น แต่แล้ว..\"คาโลเล่าต่อ จนกระทั่ง



    \"...ในที่สุดเจ้าหญิงเงือที่มิอาจฆ่าเจ้าชายผู้เป็นที่รักได้ลงจึงยอมกลายเป็นฟองอากาศหายไปกับทะเล เหล่านางฟ้าเห็นใจ จึงช่วยกันเสก



    ฟองอากาศนั้นให้กลายเป้นนางฟ้าเหมือนพวกตน เจ้าหญิงเงือกน้อยที่กลายเป็นนางฟ้าจึงคอยเฝ้ามองดูเจ้าชายและลูกหลานของเจ้าชาย



    ตลอดไป\"คาโลเล่าจนจบและเมื่อหันมามองก็เห็นเฟรินหลับไปแล้ว คาโลค่อย ๆ ขยับแขนไปโอ้บเฟรินและวจัดท่าให้นอนได้สบาย แล้วจึง



    หยิบหนังสืออีกเล่มที่เขียนว่า ประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งหนังสือเล่มนี้คาโลพึ่งจะซื้อมาขึ้นมาอ่านต่ออย่างสบายใจ



    \"น้อง ๆ ทุกคนนี้ก็เที่ยงแล้วพี่ ๆ คิดว่าทุกคนคงจะหิวแล้วใช่ไหมค่ะ\"พี่อลิศพูดขึ้นมาเมื่อรถออกวิ่งมาได้เป็นเวลานานแล้ว



    \"ช่าย เราหิวแล้ว\"เสียงครี้ดตะโกนขึ้นมา



    โป๊ก!! \"ทำตัวดีดีเป็นไหม\"เสียงของแอ้งจี้มาพร้อมกับที่ครี้ดต้องนั่งกุมหัวเนื่องจากถูกตี



    \"เธอนี้ ทำไหมถึงชอบตีหัวคนนักนะ\"ครี้ดโวย



    \"ฉันตีเฉพาะคนทำตัวไม่ดียะ\"แอ้งจี้โต้กลับ



    \"งั้นที่ตีเฟรินประจำล่ะ\"ครี้ดพูด



    \"เฮ้ย ๆ ฉันนอนอยู่ดี ๆ ไงโยนความซวยมาให้ฟ่ะ\"เฟรินที่ตื่นขึ้นมาได้ยินพอดีโวยบ้าง



    \"นั้นสินะ ดูท่าจะได้หมอนดีซะด้วย\"ครี้ดแซว เพราะว่าเฟรินนอนซบไหล่ของคาโลอยู่นั้นเอง(ตื่นแล้วยังไม่ยอมลุกดูท่าจะติดใจ-เชอรี่,ยุ่ง



    เรื่องของฉัน-เฟริน,จ้า จ้า-เชอรี่)



    \"พี่อลิศเมื่อไหร่เราจะทานข้าวกันฮะ\"เฟรินเปลี่ยนเรื่องไปหาอีกคนทันที



    \"ใกล้ถึงแล้วล่ะจ๋ะ\"พี่อลิศบอกแล้วก็เดินลงไปนั่งที่เดิม



    \"ตื่นแล้วก็ลุก\"คนที่นั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่นานพูดขึ้น



    \"ถ้าไม่ลุกล่ะ\"เฟรินพูดพลางยิ้ม ๆ



    \"เมื่อย\"คาโลพูดสั้น ๆ ด้วยใบหน้าเรียบ ๆ



    \"ฮิ ฮิ ฮิ\"เฟรินหัวเราะเบา ๆ แล้วลุกมาพิงพนักเก้าอี้แทน ในที่สุดรถก็นำทางมาจนถึงสถานที่ทานข้าวเที่ยงและเดินทางต่อ



    \"ฮิฮิ ทุกคนคงจะอิ่มกันแล้วนะค่ะ เราจะพาน้อง ๆ ไปชื่นชมธรรมชาติ กันบ้าง เราจะไปดูหินงอกหินย้อยกันค่ะ\"พี่อลิศลุกขึ้นมาพูดเมื่อ



    รถออกเดินทางได้ประมาณ 10-20 กิโลเมตร



    \"หินงอกหินย้อยหรือค่ะ สวยไหมค่ะ\"เรนอนพูดแทรกขึ้นมา



    \"สวยสิค่ะ แต่เรามีกฎนะค่ะ \"พี่อลิศพูดพร้อมทำหน้าเคร่ง



    \"อะ..อะไรหรือค่ะ\"เรนอนพูดอย่างกลัว ๆ



    \"ฮา ฮ่า อย่าทำหน้ากลัวอย่างนั้นสิ ไม่มีอะไรยากหรอกแค่อย่าไปจับหินพวกนั้นก็พอแล้วล่ะค่ะ\"พี่อลิศพูดพร้อมกับทำหน้ายิ้มเหมือนเดิม



    \"ทำไมล่ะฮะ\"เสียงเฟรินแทรกขึ้นมาอย่างอยากรู้อยากเห็น



    \"ก็เพราะว่าในตัวเรามีอุณหภูมิที่ร้อน เมื่อเราไปแตะพวกหินนั้นที่สร้างมาจากน้ำฝนที่กัดเซาะหินปูน มันจะตายในทันที\" พี่อลิศพูด



    \"ค่ะ/ครับ พวกเราจะไม่แตะพวกหินนั้นอย่างแน่นอน\"ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกันแล้วก็พากันหัวเราะ



    \"ที่ที่เราจะไปดูหินงอยหินย้อยนั้นคือถ้ำเจ้าไหม - ถ้ำเจ้าคุณ .....เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยอยู่ที่เขาโต๊ะแนะ ใกล้บ้านเจ้าไหม นั่งเรือจาก



    หาด ยาวไปตามคลองเจ้าไหมประมาณ 15 นาที ถ้ำเจ้าไหมใช้เรือเล็กพายลอด ทะลุถ้ำไปยังป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ถ้ำเจ้าคุณอยู่



    เลยถัดไป เป็นถ้ำที่ต้อง เดินขึ้นไปเที่ยวชมความงดงามของถ้ำ แล้วเราจะไปนั่งเรือกันค่ะ น้อง ๆ เมื่อลงแล้วเดี๋ยวเดินตามพี่มานะค่ะ\"พี่



    อลิศอธิบายต่อ และเมื่อรถจอดเสร็จแล้วจึงพาทุกคนไปลงเรือยพายเพื่อออกเดินทาง



    \"น้ำเย็นจัง\"เฟรินพูดขณะนั่งกวักน้ำเล่น



    \"อย่าเล่นน้ำสิ\"คาโลดุ



    \"เรื่อง จะเล่น\"เฟรินไม่ยอม ยังคงเล่นต่อ แต่เมื่อเจอสายตาเย็น ๆ ส่งมาให้ก้เลยยอม



    \"ชิ ก็ได้\"เฟรินพูดแล้วกลับมานั่งนิ่ง ๆ แต่ก็ได้ไม่นานก็กลับมาเล่นอีกครั้ง



    \"ว้าว สวยจัง\" \"สวยมาก\" \"สุดยอด\" เสียงนี้เกิดขึ้นมากมายจากทุกคนที่ได้เห็นหินงอกหินย้อยที่พราวต้องแสงระยิบระยับ



    \"ฮิ ฮิ \"อลิศแอบหัวเราะเบา ๆ เล็กน้อย เมื่อดูท่าทางที่แสดงออกของน้อง ๆ แล้วก็เดินนำทุกคนต่อไป



    \"เป็นยังไงกันบ้างค่ะ\"พี่อลิศถามทุกคนเมื่อกลับมาและรถออกวิ่งต่ออีกครั้ง



    \"สุดยอดเลยค่ะ/ครับ\"ทุกคนพูดรอยยิ้มประดับลงบนสีหน้าของทุกคน(เชื่อเถอะว่าทุกคนเพราะขนาดลอเรนซ์ยังอมยิ้มกับความสวย



    ของหินภายในถ่ำเลยล่ะค่ะ-เชอรี่)



    \"นายยิ้มแล้วน่ารักดีนะ\"ลูคัสพูดขึ้นมา



    \"หมายถึงใคร\"ลอเรนซ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นอย่างงง ๆ



    \"นายไง ลอรี่\"ลูคัสพูดพร้อมรอยยิ้มที่จริงจังมากขึ้น



    \"ลอเรนซ์อย่าคิดปากริชในรถนะ\"โรเวนที่หันมาเห็นลอเรนซ์ชักกริชขึ้นมากล่าวเตือน



    \"ฝากไว้ก่อน\"ลอเรนซ์พูดพร้อมเก็ยกริชแล้วกลับไปนั่งหน้าบูดเหมือนเดิม        



           ภายในรถยังคงฮือฮา และพูดคุยเกี่ยวกับความงดงามของหินงอกหินย้อยที่อยู่ภายในถ่ำกันไม่หยุดหย่อนแม้ว่า รถที่พาพวกเขา



    ไปจะแล่นออกจากสถานที่นั้นมานานหรือมากแล้วเพียงใด



    \"เอาล่ะ สถานที่ต่อไปจะเป็นสถานที่สุดท้ายก่อนที่เราจะไปทานเข้าเย็นกัน พี่จะเวลาทุกคนที่นี่เพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ภายในสถาน



    ที่นั้นเราจะไก้พบกับธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ที่นั้นก็คือ.....สวนสาธารณะควนตำหนักจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอกันตัง อยู่ห่างจาก



    อำเภอเมืองประมาณ 24 กิโลเมตร บริเวณควนตำหนักจันทร์มีทิวทัศน์ ธรรมชาติที่สวยงาม เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ ได้รับการปรับปรุง



    ตกแต่ง ปลูกไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับ มีศาลาพักผ่อนและลานจอดรถสำหรับ นักท่องเที่ยว ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ของทะเล และ



    อำเภอกันตังได้กว้างไกล และเราจะมาดูพระอาทิตยืตกดินกันด้วย ขณะนี้เป็นเวลา 5 โมงเย็น เราจะมาเจอกันที่รถตอน 6.30 นะค่ะ



    ขอให้น้อง ๆ ตรงต่อเวลาด้วย\"พี่อลิศลุกขึ้นมาพูดกับทุกคน



    \" คาโล ดูสิดอกไม้นี้สวยจังเลยอ่ะ\"เฟรินที่วิ่งไปมาอยู่ตั่งนานพูดขึ้น



    \"อืม\"คาดลเดินมาข้าง ๆ ตอบกลับสั้น ๆ



    \"นี้มันไม่สวยหรือไง นายถึงทำหน้าเรียบอย่างนั้น\"เฟรินหันกลับมาถาม



    \"ก็สวยดี\"คาโลก็ยังคงตอบสัน ๆ



    \"ช่างนายแล้ว\"เฟรินพูดแล้วก็เดินไปวิ่งไปในหลาย ๆ ที่ และที่สุดท้ายที่ทั่งคู่มากันคือ จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลได้ชัดเจน



    \" ว้าว สวยจังเลย\"เฟรินพูดขึ้นเมื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือ พระอาทิตย์ดวงโตสีเพลิงกำลังค่อย ๆ ลัดฟ้าที่มีสีส้มอมแดงและม่วงดำอยู่



    น้อย ๆ และแสงอาทิตย์ที่สะท้อนเป็นประกายให้กับทะเลที่เปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว ตัดกับดอกไม้นานาชนิดหลากสีราวกับ ภาพวาดที่



    มิอาจประเมินค่าได้



    \"อุ๊ย! อะไรนะคาโล\"เฟรินตกใจเมื่อคาโลหยิบอะไรสักอย่างมาทัดหูของนาง



    \"ดอกกุหลาบ\"คาโลพูดพร้อมยิ้มออกมา



    \" น่ารัก \"คาโลพูดต่อแล้วดึงเฟรินที่น่าแดงเป็นลูกแอ้ปเปิลเข้ามากอด



    \"จริงเหรอ คาโล\"เฟรินถามย่ำอีกครั้งพร้อมเงยหน้าขึ้นมา ให้เห้นใบหน้าแดง ๆ ด้วยความอาย(อายเพราะคำพูดหรืออ้อมกอดเอ๋ย-เชอรี่,



    ๐(-///-)๐ทั้งสองอย่างล่ะมั่ง-เฟริน)



    \"อืม เหมาะดีนะ\"คาโลพูดย่ำอีกครั้ง ทั้งคู่สบตากัน แล้วอยู่ ๆ ใบหน้าคาโลก็ค่อย ๆ โน้มลงมาใกล้ใบหน้าของเฟรินขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดทั่ง



    คู่ก็จูบกันโดยมีฉากหลังเป็นพระอาทิตย์ที่กำลังจะลัดฟ้า (กรี๊ด โรแมนติกจังเลย-เชอรี่)



             เมื่อกลับถึงที่พักหลังทานข้าวเย็น ภายในห้องของเฟรินและเรนอน



    \"มีเรื่องอะไรหรือค่ะ คุณเฟริน\"เรนอนเอ่ยถามขึ้น



    \"ก็นิดหน่อยว่าแต่รู้ได้ไงฮะ\"เฟรินพูดอย่างเขิน ๆ



    \"สีหน้าค่ะ\"เรนอนตอบ



    \"มันแสดงออกขนาดนั้นเลยหรือฮะ\"เฟรินพูดอย่างตกใจเล็กน้อย



    \"ถามแต่คนอื่นแล้ว เรนอนล่ะ หน้าแดงอย่างนี้ บอกมานะว่า เกิดอะไรขึ้น\"เฟรินถามกลับเมื่อเห็นว่าเรนอนก็หน้าแดงพอพอกับเธอ



    \"มะ..\"ยังพูดไม่ทันจบ เรนอนก็ถูกแทรก



    \"ถามพูดว่าไม่มีอะไรนะ เพราะหน้ามันแสดงออกมา\"เฟรินดักคอ



    \"เอ่อ..ไม่รู้แล้ว จะนอนแล้วค่ะ\"เรนอนพูดแล้วก็รีบคลุมโป่งนอนทันที



    \"อ้าว ขี้โกงอ่ะ ลุกขึ้นมาก่อนเลย\"เฟรินไม่ยอมลุกจากเตียงไปเขย่าตัวเรนอน



    \"ก็ได้ ผมยอมแพ้\"เฟรินพูดแล้วลุกไปปิดไฟเข้านอนตามไป



       ***_________________________________________________________________________________________***



    จบแล้วค่า หลังจากที่ต่อมาทีล่ะนิด ไม่รุว่ามันจะหวานพอใจผู้อ่านหรือเปล่านะค่ะ แล้วก็ไม่แน่ใจในสิ่งที่บอกไปว่า หินงอกหินย้อยจะ

    ตายเพราะอุณภูมิในร่างกายคนเราถูกหรือเปล่านะสิ ถ้าผิดก็กรุณาบอกวิธีที่ถูกต้องให้กับเชอรี่ผู้รู้น้อยด้วยเถอะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×