ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1 สองพ่อลูกและคำสั่งที่มีข้อต่อรอง
ณ ยามค่ำคืนที่ดวงจันทร์เพียงครึ่งเสียวประดับอยู่บนนภา เหล่าหมู่ดาวต่างห่างหายไปสิ้น
พระราชวังเดมอสในห้องนั่งเล่นห้องหนึ่งมีสองพ่อลูกคู่หนึ่งอยู่ในนั้น ฝ่ายพ่อนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกหน้า
เตาผิง ลูบหัวของลูกสาวตัวน้อยวัย 5 ปีที่ใบหน้าซบอยู่บนฝ่ามือที่วางอยู่ที่ตักของฝ่ายพ่อ
“เสด็จพ่อเพคะ คิดว่าอนาคตของลูกจะเป็นเช่นไรเพคะ”เด็กสาวถามขึ้น สาวน้อยผู้นี้มีเส้นผมสีน้ำ
ตาลไหม้ที่ยาวประบ่า และดวงตาสีเดียวกัน มีตำหนิเพียงเล็กน้อยคือแผลเป็นใต้ตาซ้าย
“นั้นเป็นเรื่องที่ตัวของลูกเองจะต้องคิดและทำให้ได้อย่างนั้น”ฝ่ายพ่อตอบ บุรุษผู้นี้มีเส้นผมสีดำที่
ถูกถักเป็นเปียผาดมาด้านหน้าคลองคอไว้ และดวงตาสีดำที่ในตอนนี้แววตาส่องประกายแห่งความ
อ่อนโยน
“แล้วลูกจะสามารถลืมความทรงจำหรืออดีตที่เจ็บปวดได้หรือไม่เพคะ”สาวน้อยคนนั้นถามต่อ
“ลูกมีอดีตที่เจ็บปวดด้วยหรือ? เฟลิโอ่น่า”คนเป็นพ่อถามแทนที่จะตอบ
“ไม่เพคะ ไม่มี แต่ในภายหน้าก็ไม่แน่เพคะ”เฟลิโอน่าตอบคนเป็นพ่อแต่สายจับจ้องอยู่ที่ฝืนในเตาผิง
ที่กำลังหมอดไหม้ด้วยไฟ
“ปัจจุบันคือสิ่งที่เราเป็น อนาคตคือสิ่งที่เราต้องเป็น ส่วนอดีตนั้นคือสิ่งที่ผลักดันให้เราเป็นอย่างนั้น
ในอนาคต ไม่ว่าอดีตที่เราผ่านมานั้นจะทุกข์ จะสุข เพียงไหนก็ตาม”คนเป็นพ่ออธิบายให้ฟัง เด็ก
สาวได้แต่ยิ้มรับแต่ไม่พูดอะไรคำของพ่อดังก้องอยู่ในโสนประสาท และพลันความคิดหนึ่งก็เว็บมา
“แล้วความรักคืออะไรหรือเพคะเสด็จพ่อ”เฟลิโอน่าเงยใบหน้าแสนหวานที่ได้รับมาจากแม่ขึ้นมามอง
ก่อนที่จะถามพร้อมส่งรอยยิ้มแสนหวานมาให้
“อืม.......ความรักคือสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ถูกต้องหรอกนะ เพราะบางครั้งความรักนี้ก็
แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าจนหน้ากลัว แต่บางครั้งความรักก็อ่อนแอ่จนเราต้องคอยถนุถนอมมัน ความรัก
ให้ทั้งความสุขและความเจ็บในคราวเดียวกัน ความรักมันเหมือนดาบสองคม แต่เราก็ไม่อาจหนีความ
รู้สึกที่เราหรือผู้คนเรียกมันว่า ความรักได้หรอกนะเฟลิโอน่า เจ้าเข้าใจใช่ไหม”ฝ่ายพ่ออธิบาย
“ลูกไม่เข้าใจเพคะ ในเมื่อมันแข่งแกร่งจนหน้ากลัวแต่ทำไม่มันถึงอ่อนโยนได้ล่ะเพคะ”เฟลิโอน่าถาม
“ลูกเคยได้ยินไหมล่ะที่เขาว่ากันว่า สิ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าสิ่งใดบนโลกนี้ และสิ่งที่บอบบางยิ่งกว่าแก้ว
หรือกระจก สิ่งที่เบายิ่งกว่าปุยฝ่าย ลึกยิ่งกว่าทะเลหรือมหาสมุทรใด ๆ และมันก็อยู่ใกล้ตัวนั้นเราคือความรัก พ่อก็ไม่อาจที่จะอธิบายคำว่าความรักได้หรอกนะ แต่พ่อก็รู้ว่าพ่อรักแม่ของลูกมาก”พ่อตอบ
“ลูกก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะเสด็จพ่อ”เด็กสาวถาม
“555+ แล้วลูกจะเข้าใจเองเมื่อลูกต้องเผชิญกับมัน เผชิญกับความรู้สึกที่เรียกว่ารัก”คนเป็นพ่อว่า
พลางลูบหัวลูกสาวของตนเองอย่างรักใคร่
“เอ้า มัวแต่งงอยู่นั้นแหละ พ่อก็บอกแล้วไง ไว้ลูกเจอกับมันแล้วลูกจะรู้เอง เอาล่ะนี้ก็ดึกแล้วไปนอน
ได้แล้วล่ะเฟลิโอน่า”พ่อพูดกับเด็กสาว
“เพคะเสด็จพ่อ ถ้าอย่างนั้นลูกขอทูลลาเพคะ”เฟลิโอน่าพูกก่อนที่จะถอนสายบัวทีหนึ่งแล้วจะเดินออกจากห้อง
“เฟลิโอน่า..”คนเป็นพ่อเรียกลูกสาวของตนที่กำลังจะเปิดประตู
“เพคะเสด็จพ่อ เอวิเดส”เฟลิโอน่าหันกลับมาแล้วจึงพูด
“เฟลิโอน่า จำไว้นะ ไม่ว่าในอนาคตข้างหน้านั้นเจ้าเป็นอะไร แต่ลูกจงรู้เอาไว้ว่า พ่อยังคงรักลูกไม่เสือมคลาย” ท่านจ้าวปีศาจเอวิเดสผู้ยิ่งใหญ่พูดพร้อมกับส่งสายตาที่ไม่ว่าดูยังไงนั้นก็ไม่ใช่สายตาที่ปีศาจจะสามารถทำได้ มาให้นางผู้เป็นลูกสาวที่รักยิ่ง
“เพ..คะ..ลูก..จะ..จำไว้”เฟลิโอน่าพูดด้วยเสียงที่สั่นคลอเพื่อกลั้นน้ำตาที่จะไหลลงมา แล้วเดินจากห้อง
ไป เอวิเดสมองประตูบานใหญ่ที่ลูกสาวของตนพึ่งออกไปแล้วคิด ‘อนาคตของเจ้าจะเป็นเช่นไรนั้น เจ้าคงต้องกำหนดมันด้วยตนเองนะเฟลิโอน่า อย่าให้ใครมากำหนดให้เด็ดขาด ’ แล้วเอวิเดสก็จัดการดับไปที่เตาผิงก่อนที่จะเดินจากห้องนั้นไปเช่นกัน
10 ปีต่อมา
ณ พระราชวังเดมอส
“เสด็จพ่อ....เสด็จพ่อเพคะ....เสด็จพ่อเอวิเดส” เสียงเรียกที่หวานชวนน่าฟังแต่บัดนี้กลับมาใช่ในการตะโกนเรียกพ่อของตนนี้ ดังมาจากหญิงสาวที่มีใบหน้ารูปไข่ คิ้วโก่งศร เรียวปากได้รูปสี
กุหลาบสวยอิมเอิมที่ขยับไปมาเพื่อใช่ในการตะโกน มีเพียงบาดแผลใต้ตาซายแต่บัดนี้ก็จางไปจนมองไม่ค่อยเห็นแล้วเป็นตำหนิเพียงน้อยนิด หญิงสาวคนนี้มีเส้นผมสีน้ำตาลที่ปลิวสยายไปกับสายลมของการวิ่งถ้าอยู่นิ่ง ๆ จะรู้เลยว่าเส้นผมนี้มีความยาวเท่าสะโพกของหญิงสาวพอดี ดวงตากลมโตสีน้ำตาลมองไปทั่วพระราชวังของตนส่อแววหงุดหงิดอย่างชัดเจน ขาเรียวงามได้รูปกำลังวิ่งไปทั่ววังเม็ดเหงื่อ ไหลตามไรผมและประดับตามใบหน้า แม้ว่าเจ้าหล่อนจะอยู่ในชุดกระโปรงยาวในแบบฉบับของเจ้าหญิงแต่กลับวิ่งเร็วมาก
“พ่ออยู่นี่ เฟลิโอน่าเจ้าจะตะโกนให้ลั่นไปทั่ววังทำไหมกัน”ท่านเจ้าที่โผล่หัวออกมาจากห้องทำงานพูดกับลูกสาววัย 15 ที่ยังคงรักสนุกเช่นวัยเด็กของตนเอง เมื่อหญิงสาวเห็นพ่อของตนก็รีบวิ่งมายืนด้านหน้าทันที ถอนสายบัวทีหนึ่ง
“เสด็จพ่อ ทรงมาอยู่ที่นี่เองหรือเพคะ ลูกตามหาแทบแย่”เฟลิโอน่าพูดด้วยเสียงที่หอบเล็กน้อย
“แล้วลูกจะตามหาพ่อไปทำไม”เอวิเดสถาม
“ก็เรื่องที่เสด็จพ่อจะส่งลูกไปเรียนที่...”เมื่อเข้าเรื่องปุบเฟลิโอน่าก็ทำการโวยทันที แต่แล้วก็ถูดขัดขึ้น
มาจากพ่อของตนเอง
“เข้ามาคุยกันข้างในดีกว่านะ” เฟลิโอน่าจึง(วิ่ง)เดินเข้ามาในห้อง แล้วนั่งไปที่เก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงาน
ส่วนเอวิเดสเมื่อลงกรณ์ประตูแล้วจึงกลับมาที่เก้าอี้ของตนเอง
“เจ้ามีอะไรก็ว่ามา”เอวิเดสพูดในมือเริ่มทำงานอีกครั้ง
“ก็เสด็จพ่อเพคะ ที่จะให้ลูกไปเรียนที่เอดินเบิร์กนั้นลูกขอปฎิเสธเพคะ”เฟลิโอน่าโวยทันที เอวิเดสชายตา
มองลูกสาวของตนแล้วหยุดทำงานสายตาจับจ้องมาที่เฟลิโอน่า
“ทำไม?”ท่านจ้าวตรัสถาม
“ก็...”เฟลิโอน่าตอบไม่ได้
“เมื่อลูกไม่มีเหตุผลงั้นลูกก็ต้องไปเรียนซะ”เอวิเดสสั่ง
“ลูก...ลูกไม่ชอบพวกเอเดนที่ชอบเอาเปรียบพวกเรานะสิเพคะ”เฟลิโอน่าตอบเสียงดัง
“แล้วที่เจ้าแอบหนีไปเที่ยวที่เอเดนอยู่บ่อย ๆ นี้หมายความว่าไง”เอวิเดสถาม เฟลิโอน่าหน้าซีดลงทัน ใด
“เสด็จพ่อรู้?”เฟลิโอน่าพูดเสียงอ่อย ๆ
“มีอะไรที่พ่อไม่รู้บ้างเกี่ยวกับตัวลูก”เอวิเดสพูด
“แต่ท่านพ่อ ข้าไปแค่ไม่กี่แห่งเอง”เฟลิโอน่ายังคงไม่ยอม
“ไม่กี่แห่งของเจ้านี้ครบทุก24ประเทศในเอเดนแล้วละสิ”เอวิเดสพูดพร้อมสบตาของเฟลิโอน่า
“ลูก...”เฟลิน่าไม่มีอะไรจะพูดแถมยังหลบสายตาของเอวิเดสด้วย
“เอาเถอะถ้าลูกไม่อยากไปพ่อก็ไม่ว่าอะไร......พ่อไม่มีสิทธิที่จะไปบังคับเจ้านิ”เอวิเดสว่าพลางทำหน้าเศร้า ทำให้เฟลิโอน่ารู้สึกผิดขึ้นมา
“ลูกจะไปเรียนที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กก็ได้เพคะ”เฟลิโอน่าตอบ ท่านจ้าวทรงรอบยิ้มทันที
“แต่ว่าเสด็จพ่อต้องให้สัญญากับลูกก่อน”เฟลิโอน่าต่อรอง ทำให้เอวิเดสหุบยิ้มลงทันที
“เจ้าจะเอาอะไร”เอวิเดสถาม ตอนนี้ภายนอกสายฝนคงกำลังไหลรินลงมาจากฟากฟ้าเป็นแน่ เนื่องจาก
ฟังเสียงที่รอดผ่านเข้ามาในห้องดัง ซ่า ซ่า และด้วยฝนที่ตกลงมาจึงทำให้อากาศภายในห้องเริ่มเย็นขึ้น
“เสด็จพ่อต้องทรงสัญญากับลูกก่อนเพคะ”เฟลิโอน่ายังยืนยันคำเดิม
“ตกลง พ่อสัญญาพูดมา”เอวิเดสบอก
“ข้อแรกเสด็จพ่อจะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของลูกขณะอยู่ที่เอดินเบิร์กถ้าลูกไม่ได้ขอ”เฟลิโอน่าบอก
“ข้อสองล่ะ”ท่านเจ้าพูดขึ้นมาเมื่อพยักหน้าทีหนึ่งแล้วจัดการจุดเตาผิงในห้องเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
“ข้อสุดท้ายเพคะ ถ้าลูกไม่มีความสุขลูกจะกลับมาที่นี่ในทันที และท่านพ่อจะต้องไม่คัดค้านด้วย”เฟลิโอน่าพูดต่อ
“ได้ตามที่ลูกต้องการทุกประการ”เอวิเดสบอกพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความดีใจ
“ท่านพ่อเพคะ ทำไมถึงอยากให้ลูกไปเรียนที่นั้นนัก”หญิงสาวถาม
“นั้นก็เพราะว่าพ่ออยากจะให้ลูกไปเรียนในสถานที่ที่แม่ของเจ้าอลิเซียเคยเรียนอยู่นะสิ และที่สำคัญ
พ่ออยากให้เจ้าไปเรียนรู้ชีวิตที่นั้น ลองเติบโตไปกลับพวกมีสายเลือดที่เหมือนเจ้าอีกครึ่งนึง สายเลือดของเอเดน”เอวิเดสอธิบาย
“ลูกเข้าใจแล้วเพคะ ถ้างั้นลูกทูลลา”เฟลิโอน่าพูดพร้อมถอนสายบัวก่อนออกจากห้องไป
‘พ่ออยากให้เจ้าไปเก็บเกี่ยวความทรงจำที่ดีนะสิ ไม่ว่านั้นจะทำให้เจ้าทุกข์หรือสุขก็ตาม แต่ที่สำคัญ
พ่ออยากให้เจ้าไปเรียนรู้กับคำว่ารักที่เจ้าถามพ่อเมื่อ 10 ปีก่อนด้วยตัวเองนะสิ’เอวิเดสคิด แล้วกลับไปนั่งทำงานต่อทันที
***____________________________________________________________________________***
พอใจไหมค่ะ กับบทแรกที่เอามาลงให้ชมกัน นี้แค่เริ่มต้นเรื่องนะค่ะ ถ้าผู้อ่านมีคำถาม หรือต้องการติหรือชมตรงไหน
บอกเชอรี่ได้เลยนะค่ะ รับฟังทุกประการ
ป.ล. ไม่รับจดหมายลูกโซ่นะค่ะ มิฉะนั้นเชอรี่จะทำการลบทิ้งทันที และอย่ามาว่าเชอรี่ทีหลังล่ะกันนะค่ะ
พระราชวังเดมอสในห้องนั่งเล่นห้องหนึ่งมีสองพ่อลูกคู่หนึ่งอยู่ในนั้น ฝ่ายพ่อนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกหน้า
เตาผิง ลูบหัวของลูกสาวตัวน้อยวัย 5 ปีที่ใบหน้าซบอยู่บนฝ่ามือที่วางอยู่ที่ตักของฝ่ายพ่อ
“เสด็จพ่อเพคะ คิดว่าอนาคตของลูกจะเป็นเช่นไรเพคะ”เด็กสาวถามขึ้น สาวน้อยผู้นี้มีเส้นผมสีน้ำ
ตาลไหม้ที่ยาวประบ่า และดวงตาสีเดียวกัน มีตำหนิเพียงเล็กน้อยคือแผลเป็นใต้ตาซ้าย
“นั้นเป็นเรื่องที่ตัวของลูกเองจะต้องคิดและทำให้ได้อย่างนั้น”ฝ่ายพ่อตอบ บุรุษผู้นี้มีเส้นผมสีดำที่
ถูกถักเป็นเปียผาดมาด้านหน้าคลองคอไว้ และดวงตาสีดำที่ในตอนนี้แววตาส่องประกายแห่งความ
อ่อนโยน
“แล้วลูกจะสามารถลืมความทรงจำหรืออดีตที่เจ็บปวดได้หรือไม่เพคะ”สาวน้อยคนนั้นถามต่อ
“ลูกมีอดีตที่เจ็บปวดด้วยหรือ? เฟลิโอ่น่า”คนเป็นพ่อถามแทนที่จะตอบ
“ไม่เพคะ ไม่มี แต่ในภายหน้าก็ไม่แน่เพคะ”เฟลิโอน่าตอบคนเป็นพ่อแต่สายจับจ้องอยู่ที่ฝืนในเตาผิง
ที่กำลังหมอดไหม้ด้วยไฟ
“ปัจจุบันคือสิ่งที่เราเป็น อนาคตคือสิ่งที่เราต้องเป็น ส่วนอดีตนั้นคือสิ่งที่ผลักดันให้เราเป็นอย่างนั้น
ในอนาคต ไม่ว่าอดีตที่เราผ่านมานั้นจะทุกข์ จะสุข เพียงไหนก็ตาม”คนเป็นพ่ออธิบายให้ฟัง เด็ก
สาวได้แต่ยิ้มรับแต่ไม่พูดอะไรคำของพ่อดังก้องอยู่ในโสนประสาท และพลันความคิดหนึ่งก็เว็บมา
“แล้วความรักคืออะไรหรือเพคะเสด็จพ่อ”เฟลิโอน่าเงยใบหน้าแสนหวานที่ได้รับมาจากแม่ขึ้นมามอง
ก่อนที่จะถามพร้อมส่งรอยยิ้มแสนหวานมาให้
“อืม.......ความรักคือสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ถูกต้องหรอกนะ เพราะบางครั้งความรักนี้ก็
แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าจนหน้ากลัว แต่บางครั้งความรักก็อ่อนแอ่จนเราต้องคอยถนุถนอมมัน ความรัก
ให้ทั้งความสุขและความเจ็บในคราวเดียวกัน ความรักมันเหมือนดาบสองคม แต่เราก็ไม่อาจหนีความ
รู้สึกที่เราหรือผู้คนเรียกมันว่า ความรักได้หรอกนะเฟลิโอน่า เจ้าเข้าใจใช่ไหม”ฝ่ายพ่ออธิบาย
“ลูกไม่เข้าใจเพคะ ในเมื่อมันแข่งแกร่งจนหน้ากลัวแต่ทำไม่มันถึงอ่อนโยนได้ล่ะเพคะ”เฟลิโอน่าถาม
“ลูกเคยได้ยินไหมล่ะที่เขาว่ากันว่า สิ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าสิ่งใดบนโลกนี้ และสิ่งที่บอบบางยิ่งกว่าแก้ว
หรือกระจก สิ่งที่เบายิ่งกว่าปุยฝ่าย ลึกยิ่งกว่าทะเลหรือมหาสมุทรใด ๆ และมันก็อยู่ใกล้ตัวนั้นเราคือความรัก พ่อก็ไม่อาจที่จะอธิบายคำว่าความรักได้หรอกนะ แต่พ่อก็รู้ว่าพ่อรักแม่ของลูกมาก”พ่อตอบ
“ลูกก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะเสด็จพ่อ”เด็กสาวถาม
“555+ แล้วลูกจะเข้าใจเองเมื่อลูกต้องเผชิญกับมัน เผชิญกับความรู้สึกที่เรียกว่ารัก”คนเป็นพ่อว่า
พลางลูบหัวลูกสาวของตนเองอย่างรักใคร่
“เอ้า มัวแต่งงอยู่นั้นแหละ พ่อก็บอกแล้วไง ไว้ลูกเจอกับมันแล้วลูกจะรู้เอง เอาล่ะนี้ก็ดึกแล้วไปนอน
ได้แล้วล่ะเฟลิโอน่า”พ่อพูดกับเด็กสาว
“เพคะเสด็จพ่อ ถ้าอย่างนั้นลูกขอทูลลาเพคะ”เฟลิโอน่าพูกก่อนที่จะถอนสายบัวทีหนึ่งแล้วจะเดินออกจากห้อง
“เฟลิโอน่า..”คนเป็นพ่อเรียกลูกสาวของตนที่กำลังจะเปิดประตู
“เพคะเสด็จพ่อ เอวิเดส”เฟลิโอน่าหันกลับมาแล้วจึงพูด
“เฟลิโอน่า จำไว้นะ ไม่ว่าในอนาคตข้างหน้านั้นเจ้าเป็นอะไร แต่ลูกจงรู้เอาไว้ว่า พ่อยังคงรักลูกไม่เสือมคลาย” ท่านจ้าวปีศาจเอวิเดสผู้ยิ่งใหญ่พูดพร้อมกับส่งสายตาที่ไม่ว่าดูยังไงนั้นก็ไม่ใช่สายตาที่ปีศาจจะสามารถทำได้ มาให้นางผู้เป็นลูกสาวที่รักยิ่ง
“เพ..คะ..ลูก..จะ..จำไว้”เฟลิโอน่าพูดด้วยเสียงที่สั่นคลอเพื่อกลั้นน้ำตาที่จะไหลลงมา แล้วเดินจากห้อง
ไป เอวิเดสมองประตูบานใหญ่ที่ลูกสาวของตนพึ่งออกไปแล้วคิด ‘อนาคตของเจ้าจะเป็นเช่นไรนั้น เจ้าคงต้องกำหนดมันด้วยตนเองนะเฟลิโอน่า อย่าให้ใครมากำหนดให้เด็ดขาด ’ แล้วเอวิเดสก็จัดการดับไปที่เตาผิงก่อนที่จะเดินจากห้องนั้นไปเช่นกัน
10 ปีต่อมา
ณ พระราชวังเดมอส
“เสด็จพ่อ....เสด็จพ่อเพคะ....เสด็จพ่อเอวิเดส” เสียงเรียกที่หวานชวนน่าฟังแต่บัดนี้กลับมาใช่ในการตะโกนเรียกพ่อของตนนี้ ดังมาจากหญิงสาวที่มีใบหน้ารูปไข่ คิ้วโก่งศร เรียวปากได้รูปสี
กุหลาบสวยอิมเอิมที่ขยับไปมาเพื่อใช่ในการตะโกน มีเพียงบาดแผลใต้ตาซายแต่บัดนี้ก็จางไปจนมองไม่ค่อยเห็นแล้วเป็นตำหนิเพียงน้อยนิด หญิงสาวคนนี้มีเส้นผมสีน้ำตาลที่ปลิวสยายไปกับสายลมของการวิ่งถ้าอยู่นิ่ง ๆ จะรู้เลยว่าเส้นผมนี้มีความยาวเท่าสะโพกของหญิงสาวพอดี ดวงตากลมโตสีน้ำตาลมองไปทั่วพระราชวังของตนส่อแววหงุดหงิดอย่างชัดเจน ขาเรียวงามได้รูปกำลังวิ่งไปทั่ววังเม็ดเหงื่อ ไหลตามไรผมและประดับตามใบหน้า แม้ว่าเจ้าหล่อนจะอยู่ในชุดกระโปรงยาวในแบบฉบับของเจ้าหญิงแต่กลับวิ่งเร็วมาก
“พ่ออยู่นี่ เฟลิโอน่าเจ้าจะตะโกนให้ลั่นไปทั่ววังทำไหมกัน”ท่านเจ้าที่โผล่หัวออกมาจากห้องทำงานพูดกับลูกสาววัย 15 ที่ยังคงรักสนุกเช่นวัยเด็กของตนเอง เมื่อหญิงสาวเห็นพ่อของตนก็รีบวิ่งมายืนด้านหน้าทันที ถอนสายบัวทีหนึ่ง
“เสด็จพ่อ ทรงมาอยู่ที่นี่เองหรือเพคะ ลูกตามหาแทบแย่”เฟลิโอน่าพูดด้วยเสียงที่หอบเล็กน้อย
“แล้วลูกจะตามหาพ่อไปทำไม”เอวิเดสถาม
“ก็เรื่องที่เสด็จพ่อจะส่งลูกไปเรียนที่...”เมื่อเข้าเรื่องปุบเฟลิโอน่าก็ทำการโวยทันที แต่แล้วก็ถูดขัดขึ้น
มาจากพ่อของตนเอง
“เข้ามาคุยกันข้างในดีกว่านะ” เฟลิโอน่าจึง(วิ่ง)เดินเข้ามาในห้อง แล้วนั่งไปที่เก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงาน
ส่วนเอวิเดสเมื่อลงกรณ์ประตูแล้วจึงกลับมาที่เก้าอี้ของตนเอง
“เจ้ามีอะไรก็ว่ามา”เอวิเดสพูดในมือเริ่มทำงานอีกครั้ง
“ก็เสด็จพ่อเพคะ ที่จะให้ลูกไปเรียนที่เอดินเบิร์กนั้นลูกขอปฎิเสธเพคะ”เฟลิโอน่าโวยทันที เอวิเดสชายตา
มองลูกสาวของตนแล้วหยุดทำงานสายตาจับจ้องมาที่เฟลิโอน่า
“ทำไม?”ท่านจ้าวตรัสถาม
“ก็...”เฟลิโอน่าตอบไม่ได้
“เมื่อลูกไม่มีเหตุผลงั้นลูกก็ต้องไปเรียนซะ”เอวิเดสสั่ง
“ลูก...ลูกไม่ชอบพวกเอเดนที่ชอบเอาเปรียบพวกเรานะสิเพคะ”เฟลิโอน่าตอบเสียงดัง
“แล้วที่เจ้าแอบหนีไปเที่ยวที่เอเดนอยู่บ่อย ๆ นี้หมายความว่าไง”เอวิเดสถาม เฟลิโอน่าหน้าซีดลงทัน ใด
“เสด็จพ่อรู้?”เฟลิโอน่าพูดเสียงอ่อย ๆ
“มีอะไรที่พ่อไม่รู้บ้างเกี่ยวกับตัวลูก”เอวิเดสพูด
“แต่ท่านพ่อ ข้าไปแค่ไม่กี่แห่งเอง”เฟลิโอน่ายังคงไม่ยอม
“ไม่กี่แห่งของเจ้านี้ครบทุก24ประเทศในเอเดนแล้วละสิ”เอวิเดสพูดพร้อมสบตาของเฟลิโอน่า
“ลูก...”เฟลิน่าไม่มีอะไรจะพูดแถมยังหลบสายตาของเอวิเดสด้วย
“เอาเถอะถ้าลูกไม่อยากไปพ่อก็ไม่ว่าอะไร......พ่อไม่มีสิทธิที่จะไปบังคับเจ้านิ”เอวิเดสว่าพลางทำหน้าเศร้า ทำให้เฟลิโอน่ารู้สึกผิดขึ้นมา
“ลูกจะไปเรียนที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กก็ได้เพคะ”เฟลิโอน่าตอบ ท่านจ้าวทรงรอบยิ้มทันที
“แต่ว่าเสด็จพ่อต้องให้สัญญากับลูกก่อน”เฟลิโอน่าต่อรอง ทำให้เอวิเดสหุบยิ้มลงทันที
“เจ้าจะเอาอะไร”เอวิเดสถาม ตอนนี้ภายนอกสายฝนคงกำลังไหลรินลงมาจากฟากฟ้าเป็นแน่ เนื่องจาก
ฟังเสียงที่รอดผ่านเข้ามาในห้องดัง ซ่า ซ่า และด้วยฝนที่ตกลงมาจึงทำให้อากาศภายในห้องเริ่มเย็นขึ้น
“เสด็จพ่อต้องทรงสัญญากับลูกก่อนเพคะ”เฟลิโอน่ายังยืนยันคำเดิม
“ตกลง พ่อสัญญาพูดมา”เอวิเดสบอก
“ข้อแรกเสด็จพ่อจะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของลูกขณะอยู่ที่เอดินเบิร์กถ้าลูกไม่ได้ขอ”เฟลิโอน่าบอก
“ข้อสองล่ะ”ท่านเจ้าพูดขึ้นมาเมื่อพยักหน้าทีหนึ่งแล้วจัดการจุดเตาผิงในห้องเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
“ข้อสุดท้ายเพคะ ถ้าลูกไม่มีความสุขลูกจะกลับมาที่นี่ในทันที และท่านพ่อจะต้องไม่คัดค้านด้วย”เฟลิโอน่าพูดต่อ
“ได้ตามที่ลูกต้องการทุกประการ”เอวิเดสบอกพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความดีใจ
“ท่านพ่อเพคะ ทำไมถึงอยากให้ลูกไปเรียนที่นั้นนัก”หญิงสาวถาม
“นั้นก็เพราะว่าพ่ออยากจะให้ลูกไปเรียนในสถานที่ที่แม่ของเจ้าอลิเซียเคยเรียนอยู่นะสิ และที่สำคัญ
พ่ออยากให้เจ้าไปเรียนรู้ชีวิตที่นั้น ลองเติบโตไปกลับพวกมีสายเลือดที่เหมือนเจ้าอีกครึ่งนึง สายเลือดของเอเดน”เอวิเดสอธิบาย
“ลูกเข้าใจแล้วเพคะ ถ้างั้นลูกทูลลา”เฟลิโอน่าพูดพร้อมถอนสายบัวก่อนออกจากห้องไป
‘พ่ออยากให้เจ้าไปเก็บเกี่ยวความทรงจำที่ดีนะสิ ไม่ว่านั้นจะทำให้เจ้าทุกข์หรือสุขก็ตาม แต่ที่สำคัญ
พ่ออยากให้เจ้าไปเรียนรู้กับคำว่ารักที่เจ้าถามพ่อเมื่อ 10 ปีก่อนด้วยตัวเองนะสิ’เอวิเดสคิด แล้วกลับไปนั่งทำงานต่อทันที
***____________________________________________________________________________***
พอใจไหมค่ะ กับบทแรกที่เอามาลงให้ชมกัน นี้แค่เริ่มต้นเรื่องนะค่ะ ถ้าผู้อ่านมีคำถาม หรือต้องการติหรือชมตรงไหน
บอกเชอรี่ได้เลยนะค่ะ รับฟังทุกประการ
ป.ล. ไม่รับจดหมายลูกโซ่นะค่ะ มิฉะนั้นเชอรี่จะทำการลบทิ้งทันที และอย่ามาว่าเชอรี่ทีหลังล่ะกันนะค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น