ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ficหัวขโมยแห่งบารามอสภาคเจ้าหญิง

    ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่17 การต่อสู้

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 49



              “องค์หญิง ตื่นจากบรรทมเร็วกระหม่อม องค์หญิง” โกโดมพยายามส่งเสียกเรียกเจ้าหญิงผู้ตื่น

    ยากให้ลุกขึ้นมา แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล โกโดมมองออกไปนอหน้าต่างที่ตอนนี้ฟ้าที่เคยมืดครึ่มกลับ

    กลายเป็นสีเทาและมีหิมะตก โกโดมแสดงสีหน้าหนักใจแล้วเริ่มปลุกเฟรินต่อ



    “เจ้าหญิงเฟลิโอน่าตื่นได้แล้ว ไม่งั้นพวกเจ้าชายคาโลต้องตายแน่ ๆ กระหม่อม” เฟรินเด้งขึ้นมาจาก

    เตียงทันทีทันที



    “หมายความว่าไงโกโดม”เฟรินถามทันทีแต่แล้วเมื่อมองไปที่เตียงอีกสองเตียงแล้วพบว่าว่างเปล่าก็ยิ่ง

    หน้าซีดลง



    “ว่าไงโกโดม”เฟรินตวาดลั่นห้อง



    “เจ้าชายคาโลและคุณคิลกำลังสู่อยู่กับคนที่คิดฆ่าพระองค์นะกระหม่อม”โกโดมพูดส่อแววกลัว

    เล็กน้อย



    “ที่ไหน”เฟรินตวาดขึ้นมาอย่างเร็ว



    “สวนหลังป้อมนี้กระหม่อม แต่ว่าพระองค์ทรงรีบหนีตอนนี้ดีกว่า”โกโดมเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็ต้อง

    ตกใจเนื่องจากเฟรินมันออกไปตั้งแต่รู้ว่าที่ไหนแล้ว  



    “โธ่ เจ้าหญิงจะไปทำไมล่ะเนี่ย”โกโดมสถบออกมาแล้วรีบวิ่งตามเฟรินไป



               เมื่อมาถึงที่หลังป้อม เฟรินก็ต้องช็อคค้างอยู่กับที่เพราะสิ่งที่เห็นคือ  คิลที่นอนแผ่ราบอยู่บนพื้น

    หญ้า ตามตัวมีรอยบาดแผล เลือดอาบท่วมตัวและหิมะสีขาวข้างกายก็เป็นสีแดง และเจ้าชายคาโล กำลัง

    ใช้ไม่เท้ายันตัวเองและกำลังร่ายเวทย์โจมตีคนที่ใส่ชุดคลุมสีดำจนมองไม่เห็นหน้า ที่ท้องและริมฝีปากที่

    เลือดเกาะอยู่และยังไหลไม่หยุด  



    “อ้ากกกกกกกก”เสียงร้องของผู้ร้ายดังขึ้นหลังจากโดนมีดน้ำแข็งกรีดเนื้อจนเลือดออกเรียกสติของ

    เฟรินให้กลับมา  เฟรินรีบวิ่งเข้าไปดูคิลเป็นคนแรก



    “คิล  นายอย่าเป็นอะไรนะ”เฟรินร้องออกมาแล้วก้มลงดูบาดแผล  คนที่ปิดตาอยู่ลืมนัยน์ตาสีม่วงขึ้นมามอง



    “เฟ...ริน...หนี...ไ...ป..”เรียวปากหนาของคิลขยับและเสียงที่เล็ดรอดออกมาแผ่วเบา เฟรินรีบเรียกคทา

    ของตนเองมาอยู่ในมือ แล้วเริ่มร่ายเวทย์รักษาให้



    “ฮึ ฮึ แมงเม่าบินเข้ากองไฟแท้ ๆ สู้อยู่ดี ๆ ธิดาแห่งความมืดก็มาให้ฆ่าถึงที่”เสียงเย็นเยียบของผู้ร้ายดัง

    ขึ้น คาโลรีบหันกลับไปมองทันที  และผู้ร้ายก็ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยเข้าฟันที่คาโลจนทรุดลง



    “คาโล”เฟรินร้องเสียงหลงเมื่อเห็นคาโลล้มลงไป



    “แก เป็นใคร และเหตุใดจึงต้องการฆ่าเรา”เฟรินตวาดลั่นด้วยความโกรธหลังจากที่วิ่งไปดู

    คาโล



    “ข้ามีนามว่า กิบบอน มงกุฎแห่งใจบอกว่าข้าต้องใช้เลือดของธิดาแห่งความมืดมาเพื่มพลัง เพื่อให้ข้าได้เป็นใหญ่เหนือผู้ใด”ชายคนนั้นกล่าว



    “พวกเพื่อนของเจ้าปกป้องเจ้าเท่าชีวิตแต่เจ้ากลับออกมาให้ฆ่าอย่างง่ายดาย ฮ่า ฮ่า เพราะงั้นตายซะ”กิบ

    บอนพูดแล้วพุ่งตัวมาหมายจะฟันเฟริน แต่แล้วเสียงดาบก็เกิดประทบกันขึ้น เฟรินที่หลับตาก็ค่อย ๆ ลืม

    ตาดู



    “โร  นายมาได้ไง”เฟรินถามอย่างง ๆ



    “คนของทริสทอร์หรือ ฮึ คนทรยศ”กิบบอนกล่าว



    “โร”เฟรินเรียกเสียงอ่อน



    “ม้ายังไม่ตาย จะให้คิงออกรบได้ไง”โรพูดในสิ่งที่ทำให้เฟรินงง แต่ไม่ใช่มาถามเวลานี้เฟรินจึงนิ่งไป



    “เฮ้ แกนะ เปลี่ยนใจมาอยู่ข้างฉันดีกว่า ฉันจะให้พลังที่ยิ่งใหญ่แก่แก”กิบบอนพูดอีกครั้ง



    “พลังยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าไม่ใช่ผู้เป็นนายข้าก็ไม่เอา”โรพูด



    “งั้นก็มาสวามิภักดิ์ต่อข้าสิ”กิบบอนพูดต่อรอง



    “นายข้ามีแค่คนเดียว และแน่นอนต้องไม่ใช้เจ้า”โรพูดด้วยเสียงเรียบง่าย แล้วเงาทะมึนแห่งความมืดที่

    เคยอยู่ที่ฝ่ามือโรก็พุ่งเข้าใส่กิบบอน



    “ฮึ ฮึ พลังของเจ้าโจมตีข้าก็เหมือนเพื่มพลังให้ข้านั้นแหละ”กิบบอนพูดก่อนที่จะปัดไล่เงาทะมึนนั้นทิง

    ไปเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ในมือ  คทาแห่งพลัง นั้นเอง



    “โร”เสียงเรียกของเฟรินดังขึ้นแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเมื่อคนถูกเรียกพุ่งดาบไปหากิบบอนเสียแล้ว



                  ฉับพลันห้วงมิติในสวนนั้นก็ดูสับสนไปหมด  มีแต่เงาทะมึนคลุมไปทั่ว  รูปร่างของต้นไม้ใบ

    หญ้า ดูบิดเบียวผิดรูปร่าง แล้วทันใดนั้นเองแสงสว่างก็พุ่งทะลุความมืดที่ปกคลุม  เสียงหวีดดังลั่นแล้ว

    แสงสว่างวาบก็ถลาเข้าหาตัวเฟริน  มันให้ความรู้สึกที่มีบางอย่างกำลังไหลเวียนอยู่ในร่าง ทำให้เลือกใน

    กายพลันร้อนขึ้นเหมือนกับจะเดือด  พลังกำลังอัดแน่นในตัวจนราวกับจะระเบิดออกมาให้ได้ก่อนที่จะ

    ค่อย ๆ สวงบลง  เบาลง  สบายลง



                เคร้ง!  เคร้ง!  เคร้ง!



                เสียงที่เรียกสติของเฟรินให้กลับมาอีกครั้ง  ภาพคทาแห่งพลังที่หักเป็นสองท่อนร่วงลงก่อน แล้ว

    ร่างของกิบบอนก็ค่อย ๆ กลับมาพร้อมกับสภาพโชกเลือดของโรที่อยู่ในมือ ซึ่งมันกำลังจับคอโรอยู่



    “แกทำลายคทาของข้า”กิบบอนพูดด้วยความโกรธ  ซึ่งนั้นสร้างความโมโหให้แก่เฟริน แล้วสภาพที่

    นั้นก็กลับคืนดังเดิม



    “คทาหัก  พลังกลับคืนนายของข้า  แกไม่ได้พลัง ก็หมายความว่านายไม่ใช่เจ้านายของข้า”โรพูดพลาง

    หัวเราะลั่นทั้งที่เจ็บปางตาย



    “ปล่อยหมอนั้น  แล้วฉันจะเป็นคู่มือให้เอง”เฟรินตะโกนขึ้นมา แล้วแหวนแห่งเดมอสก็แตกออก จาก

    ร่างผู้ชายก็เปลี่ยนเป็นผู้หญิง  ผมสีน้ำตาลที่สั้นอยู่ก็ยาวขึ้น เสื้อผ้าก็ตัวใหญ่ขึ้น เฟรินเรียกผ่าฐพีมาอยู่ใน

    มือ  ส่วนกิบบอนก็เรียกดาบแห่งกษัตริย์ แต่เมื่อจะเรียกแหวนแห่งปราชญ์มากิบบอนก็ทำหน้าเครียดขึ้น

    มา



    “ฮึ  ปราชญ์เลโมธีรู้ตัวแล้วหรือ”กิบบอนพูด แล้วหันไปมองยอดเอดินเบิร์ก และเฟรินไม่ปล่อยให้รอด

    ไปได้ พุ่งตัวหมายจะฟันให้ตายแต่ว่า กิบบอนก็เหมือนรู้ทันรับดาบได้และฟันเฟรินไปทีแต่เฟรินก็หลบ

    ได้เนื่องจากแรงดันจึงทำให้เฟรินลอยไปชนกับต้นไม้



    “องค์หญิง”โกโดมที่โผล่มาร้องขึ้นในทันที



    “แก...บังอาจทำเจ้าหญิงของข้า”โกโดมหันไปด่าคนที่ทำ  แล้วเริ่มร่ายคาถาเสียงท้องฟ้าดึ่งปันป่วนก่อน

    ที่จะคำรามลั่น  กึกก้องสะเทือน สายฟ้าฟาดลงมาที่ยอดปราสาทเอดินเบิร์กลมพายุโหมกระหน่ำขนาดที่

    ถ้าไม่จับให้ดีต้องปลิวแน่แน่ แล้วพระอาทิตย์ก็หายไป



                     พ่อมดแห่งเดมอสกำลังแผลงฤทธิ์



                เฟรินพยายามลุกขึ้นไปจับกับต้นไม้ไว้ไม่ให้ปลิว  สายตาพยายามมองหาคนสองคนที่ควรนอน

    อยู่ที่พื้น แต่ตอนนี้หายไปเฟรินพยายามมองไปทั่วแต่ก็ไม่เจอ  ความกังวลเกิดขึ้นในใจ แต่เมื่อมองไปที่

    กิบบอนความกังวลนั้นก็เปลี่ยนเป็นความโกรธ เฟรินจับยึดดาบไว้แน่นแล้วลุกขึ้นยืนให้มั่นพุ่งตัวปะทะ

    แรงลม วิ่งเข้าหากิบบอนในทันที



    “อย่า เฟริน”เสียงเตือนของปราชญ์เลโมธีดังขึ้น แต่สายไปเสียแล้ว  ผ่าปฐพี เริ่มทำงานของมันอีกครั้ง

    เสียง เปรี้ยง! ดังสะท้อนไปทั่ว เฉือนทุกอย่างที่ขวางหน้าจนหมดไป



    ***_______________________________________________________________________________***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×