ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่14 โกโดม โคมุส
เมื่อการเวลาล่วงเลยผ่านไปเพราะไม่มีใครสามารถทำให้มันหยุดเดิน จาก 1 คืนเป็น 1 วันจากนั้นก็
กลายเป็น 1 อาทิตย์ และเป็นทุกวันนี้ เฟรินออกจากห้องพยาบาลแล้วและผู้คนมากมายต่างเริ่มที่จะอ่าน
หนังสือเนื่องจากอีกไม่กี่วันก็จะถึงการสอบแล้ว แต่ว่ายังไงซะคนอย่างเฟรินก็ไม่เคยจับหนังสือซะที
จากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศทั่งภายนอกภายในต่างหนาวเย็น สายลมพัดพาความเย็นมาสู่ผิว
กายอย่างไม่ปราณี แม้ว่าจะมีการจุดเตาผิงเพื่อให้ความอบอุ่นภายในอาคารแล้วก็ตามมันไม่ได้ช่วยลด
ความหนาวลงเลยซักนิด ต้นไม้ต้นหญ้าต่างพากันหายไปจากพื้นดินแม้จะมีเพียงบางต้นที่ทนได้ก็ตาม
ท้องฟ้าในวันนี้ ตั้งแต่เช้ามืดเป็นสีเทา และเริ่มมีปุยฝ้ายสีขาว ๆ เย็น ๆ ตกลงมาตลอดวันจนทับทมกัน
เต็มพื้นดิน
“ไฮ เพื่อน ๆ ทั้งหลายเราไปเล่นปาหิมะกันดีกว่านะ”เสียงของชายผมน้ำตาลและดวงตาสีเดียวกันเป็น
ประกายรักสนุกพูดขึ้นขณะที่เปิดประตูเข้ามาในห้องนั่งเล่น
โป็ก!! โอ้ย! เสียงโดนฟาดจากคทาของหญิงสาวและตามาด้วยเสียงร้องของเฟรินที่ลงไปนั่งกุมหัวของ
ตนอย่างเจ็บปวด
“มาลงมาเล่นหิมะอะไรกันล่ะ จะสอบอยู่แล้วไม่คิดที่จะจับหนังสือเลยหรือไง”แอ้งจี้ว้ากขึ้นมา
“โธ่ ก็อ่านไปมันก็ไม่เข้าสมองนี้นา”เฟรินบอกพลางลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้
“นายนี้มัน โดนอีกซักทีไหม”แอ้งจี้พูดพร้อมชูคทาเตรียมจะฟาด
“ว้าก อย่านะ”เฟรินร้องพร้อมชูมือขึ้นมาเตรียมรับคทา
“เงียบ ๆ กันซักทีได้ไหม”เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากหญิงสาวที่กำลังนั่งเคร่งอยู่กับหนังสือ
“นั้นสิค่ะ ช่วยเงียบทีเถอะ”เรนอนพูดขึ้นมาบ้าง
“ใช่ ถ้าไม่พูดก็ไม่มีคนว่านายใบ้หรอกนะเฟริน”หนุ่มตาเดียวอย่างครี้ดก็บ่นขึ้นมาก่อนที่จะกลับไป
หน้านิ่ว คิ้วขมวดต่อกับหนังสือประวัตติศาสตร์ตรงหน้า
“แล้วพวกนายจะเอาแต่คร่ำเคร่งอยู่กับหนังสืออย่างนี้อ่ะนะ เครียดมากเดียวก็แก่เร็วหรอก...”เฟรินยัง
พูดไม่จบก็ต้องชูมือขึ้นมารับคทาไว้ก่อน
“ฟังให้จบก่อนสิ”เฟรินพูด ทุกคนจึงเงยหน้าจากหนังสือขึ้นมาฟัง
“ฉันแค่อยากจะบอกว่า เอาแต่อ่านหนังสือไม่คิดจะให้สมองได้รับการพักผ่อนบ้างหรือไง เอาแต่อ่าน
ไม่พักแล้วมันจะเข้าสมองไหม ความรู้นะ”เฟรินพูดแล้วเดินออกจากห้องไป
“อืมก็จริงของมันเฮะ”มาทิวด้าพูดขึ้นมาพร้อมกับปิดหนังสือลง
“นั้นสิ รอด้วยเฟริน ฉันไปเล่นด้วยคน”กัสพูดพร้อมวิ่งออกจากห้องไป
“เฮ้ย กัส รอพวกเราด้วย”แล้วทั้งห้องต่างก็พากันปิดหนังสือวิ่งออกไปเล่นปาหิมะกันอย่างสนุกสนาน
“เฮ้ย ระวังนะ”เสียงมาทิวด้าพูดขึ้นก่อนที่เฟรินจะโดนหิมะโป๊ะ เข้าให้ที่หน้า
“55555555”เสียงหัวเราพดังลั่นมาจากครี้ดผู้เป็นคนปา
“หนอย...เอาไปบ้างสิ”เฟรินพูดพร้อมกับปาก้อนหิมะไปโดนหน้าครี้ดบ้างแต่มันกลับพุ่งไปโดนหน้า
ซีบิลแทน แล้วก็เปิดฉากวิ่งไล่ปาหิมะกันอีกรอบ
“แฮ่ก แฮะ แฮ่ก “เสียงหอบเล็กน้อยดังขึ้นมาจากทุกคนที่ลงมานอนแผ่ราดอยู่บนหิมะหลังวิ่งไล่กัน
“สนุกดีว่ะ ใว้วันหลังมาเล่นกันใหม่ดีกว่าไหม”เสียงของเฟรินดังขึ้นมาอย่างเหนื่อยอ่อน
“นั้นสิ”มาทิวด้าพูดบ้าง
“แต่วันนี้คงต้องกลับไปอ่านหนังสือกันต่อนะค่ะ”เรนอนพูดพร้อมลุกขึ้นมายืน
“จริงด้วย ลืมไปเลย”แอ้งจี้พูดพร้อมลุกขึ้นมาบ้าง
“โธ่ จะรีบอ่านไปไหนกันล่ะ”เฟรินพูดพร้อมลุกขึ้นมาปัดหิมะลงไปจากตัว
“ถ้าไม่อ่านตอนนี้แล้วจะไปอ่านตอนไหนห่ะ เฟริน”คิลพูดขึ้นมาบ้างและทุกต่างพากันลุกขึ้นมาปัด
หิมะ
ตุบ!!
“เสียงอะไรอ่ะ”มาทิวด้าพูดขึ้นมา
“นั้นสิ เสียงเหมือนอะไรหล่นลงมาจากฟ้า”ครี้ดพูดขึ้นบ้างพลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีเมฆจำนวน
มาก และเป็นสีเทา
“เสียงมันมาจากหลังต้นสนนั้น”คิลพูดพร้อมชี้ไปที่ต้นสน
“งั้นเราไปดูกันคิล พวกนายไปกันก่อนนะ”เฟรินพูดพร้อมลากคิลไป ทุกคนจึงพากันกลับเข้าป้อม
“อะไรมันหล่นลงมาว่ะ”คิลพูดขึ้นหลังจากที่เฟรินยืนมอง
“นายมาช่วยกันหาสิถ้าอยากรู้”เฟรินพูดขึ้นมา แล้วมือก็ไปแตะโดนอะไรสักอย่าง
“เจอแล้ว”เฟรินร้องออกมาด้วยรอยยิ้ม คิลรีบวิ่งมาดู แต่แล้วรอยยิ้มของเฟรินก็หายไปเปลี่ยนเป็นหน้า
ซีดทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่ตนเองจับออกมา
“มันตัวอะไรเนี่ย”คิลร้องออกมาอย่างสนใจ สิ่งที่เห็นในมือของเฟรินคือ คนหรือตัวก็ไม่รู้ เล็ก ๆ แต่มี
กลับมีเขาเหมือนกวางใหญ่เกินตัว มีบาดแผลเต็มตัวและกำลังสลบอยู่
“เฟรินแกเป็นอะไรไป”คิลพูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วงเมื่อมองหน้าซีด ๆ ของเฟริน
“โก...โดม”เฟรินพูดขึ้นมาอย่างติดขัด
“นายรู้จักมันหรือ”คิลถามขึ้นมา
“..........”เงียบ เฟรินไม่พูดอะไรเอาแต่จ้องสิ่งที่อยู่ในมือของตน เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“ฉันว่าเราพามันกลับเข้าไปในป้อมเพื่อรักษามันก่อนดีกว่านะ”คิลพูด ทำให้เฟรินหลุดออกมาจาก
ความคิดของตนแล้วรีบวิ่งเข้าป้อมไป
“เฮ้ย! ไ อ้ เฟริน รอด้วย”คิลพูดพร้อมวิ่งตามไป
“ที่นี่นายจะบอกเราได้ยังว่า ไอ้ตัวนี้มันตัวอะไร”คิลพูดขึ้นหลังจากที่กลับมาอยู่ในห้องหัวหน้าชั้นปี ที่
ตอนนี้เฟรินกำลังนั่งอยู่บนเตียงที่มีคนแคระมีเขากวางนั่งอยู่ และคาโลกำลังนั่งอยู่ที่เตียงตัวเองหลังจาก
รักษาเสร็จและกำลังรอฟัง
“เจ้านี้มันชื่อโกโดม โคมุส”เฟรินพูดขึ้นมา
“แล้วไ อ้ โกโดมนี้มันเกี่ยวอะไรกับแก”คิลถามพร้อมมองไปที่โกโดมที่นอนอยู่
“มันเป็นองค์รักษ์ของฉันมั่ง”เฟรินพูดเหมือนไม่แน่ใจ
“แล้วมันมาทำไม”คนที่เงียบอยู่นานถามขึ้นมาบ้าง
“ ฉันจะรู้ได้ไงพึงเห็นพร้อมกับพวกนาย”เฟรินตอบกวน ๆ ให้คิลแยกเขียวเข้าใส่ แต่ก่อนที่จะเกิด
การตะลุมบอลขึ้น เจ้าโกโดมก็ตื่นขึ้นมา
“องค์...หญิง”โกโดมพูดขึ้นมาพร้อมลุกขึ้นมากุมหัวตัวเอง
“ไงโกโดม มาทำอะไรที่นี่”เฟรินถามขึ้นก่อนที่จะมองหน้าโกโดม
“เอ่อ...องค์....ว้าก”โกโดมที่เงยหน้าขึ้นมามองเฟรินร้องออกมา
“ใคร ใคร ทำให้ท่านเป็นแบบนี้ โอ้องค์หญิงผู้แสนสวยของโกโดม ใครสาปท่านให้กลายเป็นผู้ชายไป
ได้ องค์หญิงบอกกระหม่อมมา หม่อมฉันจะไปจัดการมันเอง..”โกโดมพล่ามยาวเมื่อเห็นเฟริน
“หรือว่า เจ้าสองคนเป็นคนสาปเจ้าหญิงแสนสวยของข้า”โกโดมพูดพร้อมชี้ไปที่คิลที่กำลังหัวเราะน้อย
ๆ กับคาโลที่นั่งหน้านิ่ง
“หยุดพล่ามซะทีได้ไหมไ อ้ โกโดม ไม่มีใครทำอะไรฉันทั่งนั้นแหละ”เฟรินพูดขึ้นมาอย่างรำคาญ
“แล้วใยองค์หญิงจึงแบบนี้”โกโดมหันกลับมาพูดด้วยความสงสัย
“จะอะไรเล่า ก็แหวนของเสด็จพ่อไง”เฟรินพูดด้วยความหงุดหงิดพร้อมโชว์แหวนที่นิ้วกลางข้างขวา
ให้ดู
“ยังไม่เชื่อใช่ไหม” เฟรินพูดเมื่อเห็นหน้าโกโดม แล้วถอดแหวนออกกลายเป็นเฟลิโอน่าอีกครั้ง
“องค์หญิงเฟลิโอน่าแสนสวยของโกโดมไม่ได้โดนคำสาปจริง ๆ ด้วย”โกโดมร้องออกมาอย่างดีใจ
“ใช่สิ เพราะงั้นบอกมาซะทีว่ามาที่นี่ทำไม”เจ้าของเสียงหวายใสพูดอย่างหงุดหงิด เสื้อผ้าที่ใส่ดูหลวม
โพลกขึ้นมาเผยให้เห็นไหล่มลสีขาวน่าสัมผัส เรียกสีแดงให้ใบหน้าของคาโลเล็กน้อยก่อนที่จะส่งเสื้อ
คลุมให้เฟรินใส่ แต่หญิงสาวกลับไม่สนใจ
“ท่านจ้าวส่งสั่งให้หม่อมฉันมาคอยดูแลพระองค์”โกโดมพูดขึ้น
“ใยต้องส่งเจ้ามาดูแลข้าด้วย ข้าดูแลตัวเองได้ เจ้ากลับไปบอกเสด็จพ่อซะเถอะ”เฟลิโอน่าพูดด้วย
น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงสายเลือดราชวงศ์ สร้างความตะลึงให้แก่คิลที่เฟรินมันเปลี่ยนไป
“คงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกกระหม่อม”โกโดมพูด
“ทำไม”เฟลิโอน่าถามเสียงสูง
“เพราะมันเป็นคำสั่งของท่านจ้าวกระหม่อม”โกโดมพูดด้วยความเคารพ
“แล้วคำสั่งของเราไม่ศักดิ์สิทธ์หรือ”เฟลิโอน่าถามเสียงสูงอีกครั้ง
“มิเช่นนั้นพะย่ะค่ะ เพียงแต่ถ้าหม่อมฉันกลับไปได้คอขาดเป็นแน่กระหม่อม”โกโดมพูด ทำเอาเฟลิโอ
น่าถอนหายใจ
“เอาเถอะน่า เฟริน จะเป็นไรไปให้มันอยู่ไปเถอะ”คิลพูดขึ้น แววตาส่อแววรักสนุก
“แล้วคนอื่นล่ะ”เฟลิโอน่าหันกลับมาถาม
“นายก็เป็นเจ้าหญิงเฟลิโอน่าไปซี้”คิลพูดพร้อมยิ้ม ๆ
“ไม่ได้เด็ดขาด จะให้ใครล่วงรู้ฐานะขององค์หญิงเด็ดขาด”โกโดมพูดขึ้นมา
“แล้วทำไมพวกฉันรู้ได้”คนที่เงียบมานานถามขึ้นอย่างสงสัยแม้หน้าตาจะเรียบเฉย
“โอ้ เจ้าชายคาโล วาเนบลี นักฆ่าคิลมัส ฟิลมัส เพราะพวกท่านเป็นเพื่อนขององค์หญิงนะสิ”โกโดมพูด
“เจ้ารู้จักพวกข้าได้ไง”คาโลถามขึ้น
“ก็เพราะช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาข้าคอยจับตาดูเจ้าหญิงของข้าอยู่นะสิ”โกโดมพูด
“ว่าแต่ทำไมถึงไม่ให้คนอื่นรู้ล่ะ”คิลถามขึ้นมาใบหน้าคิ้วขมวดกันอย่างครุ่นคิด
“อันนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะคิล ที่ฉันแปลงเป็นชายเพราะรักสนุกนะ”เฟลิโอน่าพูดพร้อมเดินไปตบ
ไหล่คิลกับหัวเราะออกมาเบา ๆ
“เพราะพระองค์กำลังโดนปองร้ายยังไงล่ะ”โกโดมเอ่ยเสียงเครียด แล้วทั่งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ
เป็นเวลานาน
“555 ไม่มีทางเป็นไปได้ พวกนายก็อย่าเครียดไปเลยนา”เฟรินพูดหลังจากที่สวมแหวนคืนดังเดิม
“เพราะฉันอยู่ในร่างผู้ชายที่ไม่มีใครรู้นอกจากพวกนาย”เฟรินพูดก่อนที่จะล้มตัวลงนอน แล้วหลับไป
“นั้นสินะ”คิลพูดขึ้นมาเดินไปจัดเตียงเล็ก ๆ ตรงหน้าต่างให้โกโดม
“มันก็ไม่แน่นะ”คาโลพูดขึ้นเสียงเครียด
“ปัญหามันยังไม่มาถึง นายก็อย่าเครียดให้มากน่าคาโล”คิลพูดพร้อมยิ้ม ๆ ก่อนล้มตัวลงนอนแล้วหลับ
ไปอีกคน
“จริงของนาย”คาโลพูดพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนเดินไปปิดไฟ แล้วล้มตัวลงนอน
“อ้าวแล้วข้าจะนอนตรงไหน”โกโดมร้องขึ้นมา
“ก็ตรงที่คิลมันจัดให้ไง”คาโลพูดก่อนที่จะหลับตาลง แล้วหลับตามไป ส่วนโกโดมก็เดินไปที่เตียงของ
ตนแล้วเหม่อมองพระจันทร์ครึ่งเสียว ก่อนที่จะเผลอหลับไปด้วยความเจ็บตามร่างกาย
***_______________________________________________________________________________________***
มาต่อให้จบไปอีกหนึ่งบทแล้วนะค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น