ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน การเข้าค่ายที่แสนสนุก

    ลำดับตอนที่ #15 : ~~~วันที่ 3 ออกทะเล~~~

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 49


       ในนภาขณะนี้ที่เป็นสีเทา อมสีแดงเพียงเล็กน้อย หยาดน้ำค้างยังคงเกาะอยู่ตามใบหญ้า แสดงให้รู้ถึงเวลาที่ใกล้จะเช้า



    แล้วของวันใหม่ อากาศที่หนาวเย็นถูกสายลมผัดผ่าน ใบไม้ ใบหญ้าก็ปลิดปลิวตามแรงลม ภายในเต็นต์หลังหนึ่งนั้น มอง



    เข้าไปจะพบกับชายหญิง 2 คู่กำลังอยู่ในห้วงแห่งนิทรากันอยู่  คู่แรก ฝ่ายหญิงผู้มีเส้นผมสีน้ำตาลกำลังขยับตัวเข้าสู่อ้อม



    กอดของบุรุษที่มีเส้นผมสีเงินเพื่อควานหาความอบอุ่นเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น ทำให้บุรุษผู้นี้รู้สึกตัว แพขนตาเริ่มขยับ



    เผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าที่ทอดมองมาอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นแล้วปิดตาหลับไป ส่วนอีกคู่นั้นด้วย



    เหตุผลความหนาวเย็นเช่นเดียวกันจึงทำให้ร่างกายที่บอบบางของหญิงสาวผู้มีเส้นผมสีม่วงที่กำลังใช้แขนของชายหนุ่มผมดำ



    เป็นหมอนข้าง มีอาการสั่นเล็กน้อยจึงทำให้บุรุษรู้สึกตัวจึงยอมสละผ้าห่มของตนแล้วไปห่มให้หญิงสาวเพื่อเพื่มความอบอุ่น



    ก่อนที่ตนเองจะหลับต่อ



          ในช่วงเวลานี้ท้องฟ้ามีสีฟ้าครามและแสงแดดจากสุริยันก็ขับไล่ความหนาวเย็นในช่วงของกลางคืนไปได้บ้าง แสงสีทอง



    กระทบกับหยอดหรือหยาดน้ำค้างมากมายเป็นประกายดุจเพรชนับล้าน เสียงนกร้องเพลงและออกหากินดังแว่วมาคล้ายเสียง



    นาฬิกาสำหรับปลุกผู้คนให้ตื่นจากห้วงแห่งนิทรา ขึ้นมาทำกิจวัตรขิงตนกันอย่างพร้อมเพียง เพียงแต่เหตุผลที่ทำให้ผู้คนที่



    นอนดึกรีบลุกมาตื่นเช้าอย่างนี้ไม่ได้มีเพียงแค่นี้ มันยังมีอีก นั้นก็คือ ในวันนี้ทุกคนจะได้ไปดูประการังและเล่นน้ำกันนะสิ จึง



    ทำแม้แต่คนที่ตื่นยากอย่างเฟริน หรือเฟลิโอน่าตื่นขึ้นมาได้เอง



    \"ไง เฟริน หลับสบายไหม\"เสียงทักนี้มาจากนายครี้ดที่เดินมาพร้อมกับกลุ่มของตนนั้นเอง



    \"ก็ดีนะ\"เฟรินตอบสั้น



    \"เฮ้ยคิล เฟรินมันเป็นอะไรไปนะทำไหน้ามันแดง ๆ \"ครี้ดหันไปถามผู้ร่วมเดินทางอีกคน



    \"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่....\"คิลยังพูดไม่จบก็โดนขัดขึ้นจากเฟรินทันที



    \"นายหยุดพูดไปเลยนะ คิลถ้าไม่อยากตายอยู่ที่นี่\"



    \"ครับ..ครับ\"คิลพูดพร้อมยกมือขึ้นสองข้างแสดงความยอมแพ้



    \'เจ้าคิลแท้เชียว จึงทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อ1ชั่วโมงครึ่งที่แล้วขึ้นมาอีก\'เฟรินคิด



    ---------------------------------------------ย้อนกลับเมื่อ1.30 น.ที่แล้ว------------------------------------------------



    \"อืม....\"เสียงครางที่มาพร้อมกับแพขนตาที่เริ่มขยับเผยให้เห็นดวงตาสีน้ำตาลคู่โตของหญิงสาวผู้มีเส้นผมสีเดียวกันที่อยู่ใน



    อ้อมกอดของชายหนุ่ม สิ่งแรกที่เฟรินเห็นคือแผ่นอกกว้างสีขาวที่รอดออกมาจากชุดนอนของชายหนุ่มผมเงินที่กำลังหลับอยู่



    ทันใดนั้นเฟรินก็หน้าแดงขึ้นมาฉับพลัน



    เพียะ!!!



    \"นี่มันอะไรกันเฟริน..นายตบฉันทำไม\"คาโลตื่นขึ้นมารับความเจ็บปวดที่แก้มได้พอย่างพอดีถามอย่างงง ๆ



    \"ก็นายอยู่ ๆ มานอนกอดฉันได้อย่างไรกัน เมื่อคืนฉันยังนอนของฉันดี ๆ อยู่เลย\"เฟรินโวยทันที



    \"นายนั้นแหละที่เขามาในอ้อมกอดของฉันเอง\"คาโลพูดกลับ เฟรินเลยหน้าแดงยิ่งขึ้น



    \"นายนี่มัน\"เฟรินพูดพร้อมกับจะแจกมัดตรงไปให้



    \"เดียว ๆ มีเรื่องอะไรกันเนี่ย ตื่นมาก็ทะเลาะกันเลยนะ\"คิลเข้ามาห้ามอย่างอารมณ์ไม่ดีนิด ๆ เนื่องจากเสียงของเฟรินกับคา



    โลทำให้ตื่นรวมทั่งเรนอนด้วยที่ตื่นแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ



    \"นายไม่ต้องมาห้ามเลยคิล \"เฟรินหันไปโวยเพื่อนอีกคนทันที



    \"ไม่ห้ามแน่แต่ขอเหตุผลที่ทะเลาะกันก่อน\"คิลพูดอย่างหัวเสีย เฟรินจึงยอกมลดหมัดลงแล้วนั่งลง



    \"ที่นี้เรื่องมันเป็นมาอย่างไรพูดดิ\"คิลพูดต่อ



    \"เฟรินมันเริ่มก่อน\"คาโลพูดอย่างหัวเสียที่โดนตบ



    \"นายนั้นแหละเริ่มก่อน\"เฟรินโวยขึ้นมา



    \"นาย\"



    \"นาย\"



    \"หยุด!! ไม่มีใครเริ่มก่อนทั้งนั้น เล่าเรื่องมา\"คิลพูดพร้อมกางมือห้ามทั้งคู่เอาไว้



    \"ก็ไอ้คาโลมันดันมานอนกอดฉันนะสิ\"เฟรินพูด



    \"นายแหละที่เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดฉันเอง\"คาโลพูดต่ออย่างเรียบ ๆ



    \"นาย...\"เฟรินหน้าแดงขึ้นมาทำท่าจะแจกหมัดแต่โดนคิลห้ามไว้อีกรอบ



    \"พูดกันดี ๆ เล่าให้ละเอียดด้วยจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน\"คิลพูดอย่างใจเย็น



    \"เมื่อคืนตอนใกล้รุ่งสาง.....\"คาโลเริ่มเล่าเรื่องราว ส่วนเฟรินก็ค่อยขัดเป็นระยะ ๆ ด้วยใบหน้าที่แดงกร่ำเป็นลูกแอ้ปเปิลว่า



    ไม่จริง ทั้งที่ตนเองก็รู้สึกแบบนั้นว่าตนเองเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด



    \"เรื่องก็มีแค่นี้ล่ะ\"คาโลพูด



    \"นายว่าไงเฟริน\"คิลหันมาถาม



    \"ชิ....ฉันไม่รู้....แต่....ฉันก็รู้สึกแบบนั้นล่ะมั่ง\"เฟรินพูดเสียงอ่อย ๆ อย่างไม่ค่อยจะยอมรับความจริง



    \"ก็แค่เนี่ย เป็นแฟนกันจะทะเลาะกันไปทำไม\"คิลแซวแล้วรีบวิ่งออกจากเต็นต์ไปทันที



    \"ไอ้คิล\"เฟรินตะโกน และได้ยินเสียงหัวเราะของคิลอยู่ข้างนอกจนเงียบหายไป ในเต็นต์จึงเกิดความเงียบขึ้นมา



    \"คาโล....ฉันขอโทษล่ะกัน\"เฟรินพูดขึ้นมาขัดความเงียบที่น่าอึดอัดพร้อมกับหันหลังจะออกจากเต็นต์จึงไม่รู้ว่าคาโลย่อง



    มากอดเข้าด้านหลังของตน



    \"คาโล ปล่อยนะ\"เฟรินโวยใบหน้าเริ่มแดงอีกครั้งและเริ่มดิ้นให้ออกจากอ้อมแขนที่แข็งแรง



    \"ทำผิดก็ต้องได้รับโทษสินะ\"คาโลพูดกระซิบข้างหู เฟรินจึงยอกหยุดดิ้นพร้อมกับถอนหายใจทีหนึ่งก่อนหันกลับมาเผชิญ



    กับดวงตาสีฟ้าที่มองมาอย่างเจ้าเหล่ อย่างหวั่น ๆ



    \"นาย..จะให้ฉันทำอะไร\"เฟรินถาม



    \"ก็ที่แก้มนี่ยังเจ็บอยู่เลยอ่ะ\"คาโลพูดเสียงอ้อน ๆ ที่มำให้ใจเฟรินสั้น



    \"งั้นก็ยื่นแก้มข้างนั้นมาใกล้ ๆ \"เฟรินพูด คาโลจึงหันแก้มที่โดนตบมาให้ดูอย่างงง ๆ



    \"เฟ..ริน\"คาโลร้องออกมาที่ใบหน้าขึ้นสีเรื่อเล็กน้อยเพราะเฟรินจับแก้มของเขามาหอมให้ฟอดใหญ่เลยนะสิ



    \"ก็นายอยากให้ทำแบบนี่ใช่ไหมล่ะ\"เฟรินถามด้วยใบหน้าที่แดงเป็นลูกตำลึกสุก



    \"เปล่าสักหน่อยแค่จะให้ช่วยรักษาต่างหาก\"คาโลพูดพร้อมรอยยิ้ม



    \"นายนี่\"เฟรินทำท่าจะโวยแต่ก็ต้องหยุดด้วยสายตาที่แสดงถึงความรักที่ส่งมาจากตาสีฟ้าสวยคู่นั้น คาโลก้มลงจุมพิศที่หน้า



    ผากของเฟริน ก่อนที่จะมาฉกฉวยเอาความหวานล้ำจากเรียวปากที่สวยงามได้รูปสีกุหลาบของเฟรินต่อทันที หญิงสาวไม่มี



    ทีท่าว่าจะขัดขืน คาโลจึงเริ่มรุกนักขึ้น ริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกจากกันแต่เพียงแว็บเดียวก็ถูกประกบเข้าไปใหม่หลายต่อ



    หลายครั้ง คาโลเริ่มจับเฟรินนอนลงแล้วขึ้นคร่อม เรียวปากของชายหนุ่มเริ่มซุกไซ้มาที่ซอกคอระหงส์ของหญิงสาว



    \"คา..โล...อย่..า..\"เฟรินพูดเสียงอ่อน ๆ ทำให้ริมฝีปากของคาโลกลับไปประจำ ณ จุดเดิม มือของชายหนุ่มเริ่มขยับแบบรู้



    หน้าที่ สอดเข้าไปใต้เสื้อสีขาวของหญิงสาวจนถึงอกที่อวบอิ่มได้รูปของเฟริน ส่วยเรียวปากของคาโลก็ประจงจูบอยู่ตรงบริ



    เนินอกของเฟริน



    \"อ่ะ..\"เฟรินครางเล็กน้อย ใบหน้าที่เป็นสีแดงเริ่มแดงจนไม่รู้จะบรรยายยังไงให้ถูก



    \"อ่ะ..ขอโทษค่า\"เสียงหนึ่งดังขึ้น แล้วเจ้าของเสียงก็วิ่งออกไป สร้างความหงุดหงิดให้แก่คาโลเป็นยิ่งนัก



    \"เดี๋ยวเรนอน  ปล่อยนะคาโล \"เฟรินพูพร้อมกัยถีบคาโลทันทีแล้ววิ่งออกจากเต็นต์ไปหลังจากที่จัดเสื้อตัวเองแล้ว ปล่อยคา



    โลที่นั่งจุกอยู่คนเดียวในเต็นต์



    \"คุณคิลไม่เห็นบอกเลยนี่ค่ะว่าจะเจออย่างนั้นอ่ะค่ะ\"เรนอนเมื่อออกมาพบคิลก็โวยทันที



    \"ก็บอกแล้วว่าอย่าเข้าไป\"คิลพูด



    \"เรนอน อย่าเข้าใจผิดนะ\"เฟรินที่วิ่งมาพูดเมื่อเห็นทั้งสองคน



    \"คือ..เรนอนขอโทษนะค่ะ คุณเฟริน\"เรนอนพูดขึ้นมาใบหน้าขึ้นสีแดงเล็กน้อย



    \"มันไม่ใช่อย่างที่เห็นนะเรนอน\"เฟรินพูดอย่างร้อนรน ใบหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง



    \"ถ้าไม่ใช่อย่างที่เห็นแล้วมันเป็นอย่างไร\"คิลพูดขึ้นมา



    \"ก็...ก็...ก็\"เฟรินไม่กล้าพูด



    \"ก็ ๆ อยู่นั้นแหละ ว่าไง\"คิลพูดกลั้วหัวเราะ



    \"ไม่รู้แล้ว\"เฟรินตะโกนพร้อมกับวิ่งไปที่ห้องน้ำทันทีสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนซี้ได้ แล้วก็ต้องหยุดทันทีเมื่อได้รับสายตาเย็น



    ที่ถูกส่งมาจากคนถูกขัดจังหวะที่เดินมายืนใกล้ ๆ



    \"ขอโทษนะค่ะ คุณคาโล\"เรนอนพูดขึ้นมาด้วยสายตาสำนึกผิด



    \"ช่างมันเถอะ\"คาโลพูด



    \"ใช่ ๆ เรนอนไม่ผิดหรอก เพราะเราก็เข้าไปขัดเป็นประจำอยู่แล้ว\"คิลพูดกลั้วหัวเราะ



    \"งั้นที่ผ่านมานายตั้งใจอย่างนั้นหรือ\"คาโลพูดเสียงเย็น ๆ ที่ทำให้คิลเสียวขึ้นมาทันที



    \"ไม่ใช่น.....\"คิลยังพูดไม่จบก็โดนกลายเป็นก้อนน้ำแข็งไปจนได้



    \"ช่วยมันด้วยล่ะ\"คาโลพูดก่อนที่จะเดินไปห้องน้ำ



    \"คุณคิลนะคุณคิล อยู่เฉย ๆ ก็ดีแล้วนี่ค่ะ นี่แหละน่าที่เขาบอกกันว่าปลาหมอตายเพราะปากนะค่ะ\"เรนอนพูดพร้อมกับช่วยคิล



    ออกจากน้ำแข็ง



    ------------------------------------------------ย้อนกลับมาในปัจจุบัน----------------------------------------



    \"เฮ้ย ! เฟริน นายจะทานข้าวไหมนั้นนะ\"คิลพูดขึ้นมาเพราะเห็นว่าเฟรินถือจานข้าวอยู่ยังไม่ยอมทานแถมหน้ายังแดง ๆ



    \"คุณเฟรินเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ\"เสียงเรียกด้วยความเป็นห่วงจากเรนอนเพราะเฟรินไม่เคยเป็นแบบนี่มาก่อน



    \"เฟริน...เป็นอะไรหรือเปล่า\"คาโลถามเนื่องจากเฟรินยังไม่ยอมตอบอะไร



    \"เฟริน\"คาโลเรียกพร้อมสะกิดตัวเฟรินจึงทำให้หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์



    \"อะ..อะไร...มีอะไรหรือ\"เฟรินถามตระกุกตระกัก



    \"เปล่า ก็เห็นนายไม่ยอมทานข้าวเลยเรียกนะ\"คิลพูด



    \"คิดอะไรอยู่ ดูนายเหม่อ ๆ นะ\"คาโลพูด เมื่อเฟรินหันมองมาสบกับนัยต์ตาสีฟ้าก็พลันหน้าแดงยิ่งขึ้น



    \"เปล่า\"เฟรินพูดเสียงสูงแล้วลงมือทานข้าวอย่างเมามัน



    \"เอาล่ะ ทุกคนคงจะพร้อมกันแล้วนะครับสำหรับการลงเรือไปดำน้ำดูประการังในครั้งนี่\"เสียงประกาศจากโรเวนหลังจากที่ทุก



    คนมารวมตัวกันแล้ว และตามมาด้วยเสียงเฮอย่างพร้อมเพียง



    \"ถ้าพร้อมแล้วก็ขึ้นเรือกันเลย\"โรเวนพูดทุกคนจึงขึ้นเรือเล็กแล้วพายไปจนถึงเรือใหญ่ที่จอดรอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว



    \"ดีฮะพี่อลิศ/สวัสดีค่าพี่อลิศ/สวัสดีครับพี่อลิศ\"เสียงนี้ตามมามากมายเมื่อทุกคนขึ้นมาบนเรือแล้วพบสาวงามเมืองไทยรออยู่



    ด้วยเสื้อผ้าแบบไทย ๆ (อยากให้ใส่อย่างไนคิดกันเอง - เชอรี่)



    \"สวัสดีจ่าน้อง ๆ ทุกคน เอาล่ะมานั่งรวมกันตรงนี้นะจ๋ะ\"อลิศพูด ทุกคนจึงมานั่งรวมกันที่ที่อลิศบอก



    \"ทุกคนมากันครบหรือยังค่ะ\"อลิศหันไปพูดกับโรเวนที่เดินขึ้นมา



    \"ครบแล้วครับ\"โรเวนพูดพร้อมส่งรอยยิ้มละลายใจสาวมาให้ แต่กลับไม่มีผลกับอลิศเลยสักนิด เจ้าหล่อนหันไปพูดกับคนขับ



    เรือ แล้วเรือก็ค่อย แล่นออกจากพื่นที่นั้นมาเรื่อย ๆ



    \"น้องทุกคน เมื่อสนุกกันหรือเปล่าค่า\"



    \"ค่า/ครับ\"เสียงของทุกคนตอบพร้อมกัน แล้วอยู่ก็มีแสงมากระทบเข้าที่ตาของอลิศ เจ้าหล่อนจึงมองไปที่สิ่งนั้นแล้วยิ้มออกมา



    \"เมื่อวานพี่รู้มาว่ามีการทดสอบความกล้ากันนี้ ใครได้อะไรมากันบ้างจ๋ะ\"อลิศถาม



    \"คู่ของผมได้สร้อยเงินเปลี่ยนเป็นแหวนได้ฮะ เสียงนี่มาจากเจ้าตัวยุ่งนั้นเอง



    \"ของหนูได้สร้อยจี้กางเขนค่ะ\"มาทิวด้าพูดขึ้น



    \"ของหนูได้ต่างหูค่ะ\"เรนอนพูด ทั้งสามคนแสดงของนั้นให้อลิศดู



    \"อ๋อ ว้าวสวยจังเลยนะจ๋ะ\"อลิศพูด ทำให้สามสาวพากันยิ้มออกมา



    \"เอาล่ะสถานที่ที่เราจะไปเที่ยวเป็นที่แรกนั้นก็คือ เกาะเชือก เราจะไปดำน้ำดูประการังที่สวยงามกันนะ\"อลิศพูดพร้อมกับแจก



    เสื้อชูชีพให้ทุกคน แล้วเริ่มอธิบาย เกียวกับเกาะเชือกขณะที่มือข้างหนึ่งรวบผมสีดำของตนอย่างนุ้มนวลเนื่องจากสายลมที่พัด



    มาทำให้ผมที่มัดไว้ปลิวไปมา



    \"เกาะเชือกอยู่ระหว่างเกาะมุกและเกาะไหง ห่างจากเกาะไหงประมาณ 4 กิโลเมตร ใต้ทะเลที่เกาะเชือกเป็นแหล่งปะการัง และ



    ฝูงปลาที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดตรัง มีฝูงปลาทะเลสีสันสวยงามนานาชนิด เช่น ปลานกแก้ว ปลาโนรี



    ปลาสินสมุทร ปลาลายเสือ ฯลฯ \"



    \"เอาล่ะที่นี่เราก็มาถึงสถานที่นี่กันแล้ว ทุกคนพร้อมที่จะลงเล่นน้ำกันหรือยัง\"อลิศพูด



    \"เฮ เฮ เฮ เฮ\"เสียงเฮแทนคำตอบเมื่อหยุดนิ่งทุกคนก็ทำการลงบรรด้านหลังแล้วแวกว่ายกันไปเรือย ๆ อย่างสนุกสนาน



    \"คาโล มาดูนี่สิ ประการังตรงนี้สวย ๆ เลย ว้าย\"เฟรินพูดก่อนที่จะร้องออกมาทำให้คาโลรีบว่ายไปดูทันที



    \"เป็นอะไรไป\"คาโลถาม



    \"แหะ แหะ ปลาเสือมันมาตอดนะเลยตกใจ\"เฟรินพูด ทำให้คาโลส่านหน้าด้วยความเนือยใจ



    \"เฮ้ยเฟริน  นายจะทำอะไรนะ\"คาโลพูดขึ้นมาเมื่อเห็นเจ้าตัวยุ่งกำลังกัดขนมปังที่พี่อลิศให้มาก่อนลงเรือเข้าปาก



    \"อะไอ อ็อำอังอินออมอ่ะอิ\"(อะไร ก็กำลังกินขนมนะสิ)เฟรินพูดขนมปังเต็มปาก คิลที่เข้ามาเห็นตบหลังเฟรินเข้าให้ทีหนึ่ง ทำ



    เอาเฟรินพ่นขนมปังออกมา  เหล่าปลาทั้งหลายต่างก็เข้ามาทานเศษขนมปังของเฟรินที่หล่นไปในน้ำกันเต็มไปหมด



    \"ขนมปังนั้นเขาให้ปลากินไม่ใช่คนกินโว้ย\"คิลพูดกลั้วหัวเราะ



    \"ก็ไม่เห็นต้องตบหลังกันเลยนี่วา ไอ้คิล\"เฟรินพูดพร้อมกับว่ายไล่คิลอย่างสนุกสนาน



    \"ทุกคนได้เวลาไปที่อื่นแล้วจ๋า\"เสียงของอลิศดังขึ้น ทำให้ทุกคนต่างพากันโรยเศษขนมปังจนหมดแล้วขึ้นมาบนเรือกัน และเมื่อ



    เรือออก พี่อลิศก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง



    \"สถานที่ต่อไปนั้นก็คือเกาะไหง เป็นเกาะที่อยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ แต่เดินทางจากจังหวัดตรังได้สะดวกกว่า บนเกาะมีหาดทรายขาว



    น้ำทะเลใสสะอาด รอบเกาะอุดมด้วยปะการังที่สมบูรณ์  ที่เกาะไหงเราจะสามารถพักแรมได้เพราะที่นั้นมีรีสอทร์ แต่ว่าที่เราไปที่นั้น



    ก็เพื่อให้ทุกคนได้ทานอาหารเที่ยงกัน และเดินดูรอบ ๆ เกาะ กันนะค่ะ\"



    \"เอาล่ะเราก็มาถึงเกาะไหงกันแล้ว น้อง ๆ ดูข้างหน้านะค่ะ นี่คือเกาะไหงค่า\"อลิศพูดพร้อมผายมือไปด้านหน้า



    \"ทำมันมีแค่ครึ่งเดียวล่ะครับ\"ซีบิลถามขึ้น



    \"อีกครึ่งนึงมันอยู่ใต้ทะเลจ๋ะ\"อลิศพูด แล้วทั้งหมดก็ขึ้นฝั่ง และตรงเข้าสู่ร้านอาหารกันทันที



    \"น้อง ๆ ทุกคนจำไว้นะค่ะ ว่าเรามีเวลาที่นี่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น บ่ายสองเราจะมาพบกันบนเรือนะค่ะ ขอให้ตรงเวลาด้วย\"อลิศพูด



    \"ครับ/ค่า\"เสียงของทุกคนตอบพร้อมกัน แล้วเริ่มลงมือทานอาหารตรงหน้า



    \"นี่  ๆ คาโล ดูนั้นสิ\"เฟรินสะกิดคาโลให้ดูสิ่งที่ตนเองชี้ เสียงเรียกไม่ได้เบาเลยทำให้ผู้ร่วมโต๊ะมองเป็นทางเดียวกัน



    \"........\"คาโลไม่พูดอะไรแต่ก็มองตาม



    \"ดูท่ารุ่นพี่โรเวนของพวกเราจะพยายามจีบพี่อลิศอยู่นะเนีย\"เฟรินพูดสิ่งที่ทุกคนคิดว่าคงใช่เพราะภาพที่เห็นนั้นคือรุ่นพี่โรเวน



    กำลังพยายามเอาใจพี่อลิศทุกวิทีทาง แม้ดูท่าว่าพี่อลิศจะไม่เล่นด้วยก็ตาม



    \"แล้วเฟรี่คิดว่าโรวี่จะจีบติดหรือเปล่าล่ะ\"เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังเสียงเรียกเฉพาะตัว



    \"ก็คิดว่าไม่ติดนะสิครับ รุ่นพี่ลูคัส\"เฟรินหันกลับมาพูดอย่างกล้าหาญทั้งที่ตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้มแล้ว



    \"555+ เจ้าหนู๋เฟรี่พี่ขอเตือนเอาไว้นะ อย่าเข้าไปยุ่งเรื่องนี้เลยถ้ายังไม่อยากต้องลับดาบของตน\"ลูคัสพูดแล้วเดินจากไป



    \"แหะ แหะ แหะ\"เฟรินหันกลับมาหัวเราะ แล้วตั้งหน้าตั้งตาทานข้าวต่อไปอย่างเมามัน



    \"ทุกคนพร้อมที่จะลุยกันต่อหรือยัง\"เสียงหวานใสถามขึ้นเมื่อทุกคนกลับมาที่เรือครบและออกน่านทะเลอีกครั้ง



    \"โอ้..\"เสียงตะโกนอย่างพร้อมเพียงขึ้นมาแทนคำตอบ อลิศยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วเริ่มอธิบายถึงสถานที่ที่เราจะไปกันต่อไป



    \"สถานที่เราจะไปนั้นคือถ่ำมรกตที่อยู่กับเกาะมุกกันนะค่ะ  เกาะมุกเป็นเกาะใหญ่อีกเกาะหนึ่งในน่านน้ำตรังและสำหรับผู้ท่อง



    ทะเลเมืองตรัง เกาะมุกก็เป็นจุดหนึ่งที่น่าสนใจ  หากมองจากภาพถ่ายทางอากาศจะเห็นหัวแหลมของเกาะมุก ยื่นแหลมออก



    มากลางทะเล บริเวณหัวแหลม คือเขตชุมชนบ้านเกาะมุก ที่ขนาบด้วยหาดเทียบท่าเรือเข้าหมู่บ้าน คือ หาดหัวแหลม และอีก



    ด้านมีลักษณะโค้งเป็นอ่าวกำบังลมได้ดี เรียกว่า อ่าวพังกา ชายทะเลทั้งสองด้านมีหาดทรายขาวสะอาด น้ำใส เหมาะที่จะ



    เล่นน้ำได้ดี  ลักษณะของเกาะส่วนใหญ่เป็นโขดผาสูงตระหง่าน หันหน้าออกสู่ทะเลใหญ่ทางด้านทิศตะวันตก หมู่บ้านชาว



    ประมงจะอยู่ทางฝั่งตะวันออกของตัวเกาะ ซึ่งหันหน้าเข้าแผ่นดินใหญ่  หน้าผาโขดหินสูงเป็นที่อยู่อาศัยของนกนางแอ่น



    และได้ซุกซ่อนถ้ำมรกตหรือถ้ำน้ำซึ่งมีความงดงามตระการตาได้อย่างมิดชิดถ้ำมรกรตนี้จะเข้าออกได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น



    โดยปากน้ำเป็นโพรงเล็กๆ สูงพ้นระดับน้ำพอเรือลอดได้ พ้นปากถ้ำเข้าไปเป็นเส้นทางคดโค้ง ระยะทางประมาณ 80 เมตร เมื่อ



    พ้นปากน้ำเข้าไปเป็นเส้นทางออกมาอีกด้านหนึ่ง จะเป็นหลังคาและผนังแต่งแต้มด้วยลายเขียวของใบไม้ โพรงที่ลอดเข้าถ้ำมร



    กตจะอยู่ทางทางด้านทิศตะวันตกของตัวเกาะ   แต่ส่วนที่เราจะไปนั้นก็คือถ่ำมรกตค่ะ เราจะเข้าไปดูความงามของที่นั้นกัน และ



    เราก็มาถึงแล้วค่ะ  น้อง ๆ เห็นตรงโพรงนั้นไหมค่ะ นั้นแหละคือปากทางเข้าถ่ำค่ะ\"อลิศชี้ให้ดูพร้อมกับรับน้ำมาจากโรเวนดื่ม



    เข้าไป แล้วจึงหันมาพูดกับทุกคนต่อ



    \"น้อง ๆ ค่ะเวลาเข้าไปในนั้นมันจะมืดมากเพราะฉะนั้นจับกันไว้เป็นขบวนอย่าปล่อยจากกันเด็ดขาดเลยนะค่ะ ไม่งั้นจะหลงได้\"



         และแล้วทั้งหมดก็ลงจากเรือมุ่งหน้าเข้ามาในถ่ำมรกต โดยมีพี่อลิศเป็นคนถือไฟฉาย ว่ายนำหน้าและมีน้อง ๆ คอยเกาะอยู่



    ข้างหลัง เมื่อเริ่มเข้ามาในที่นี่ก็มีแต่ความมืดเห็นเพียงแสงสีส้มจากไฟฉายเป็นระยะ ๆ เท่านั้น



    \"คาโล มืดจังอ่ะ\"เฟรินพูดด้วยเสียงสั้น ๆ เล็กน้อย



    \".......\"เงียบ



    \"คา....โล\"เฟรินเรียก



    \"เงียบน่า  อย่าปล่อยก็แล้วกัน\"คาโลพูดขึ้นมา เฟรินเลยยิ่งกอด(ล็อก)คอคาโลแน่นขึ้น แต่คาโลก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังอมยิ้ม



    ออกมาด้วย



    \"ว้าว!!! สุดยอด\"ทุกต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันเมื่ออกมาจากความมืดแล้วมาพบกับ ความสว่างของในถ่ำข้างในนี้ มีหาดทรายเล็ก



    ๆ สีขาว ที่ตัดกับน้ำทะเลที่มรกต เมื่อแหงนหน้ามองข้างบนก็พบกับพืชพรรณธรรมชาติมากมาย สีเขียวของพืชตัดกับสีฟ้าของ



    ท้องฟ้าได้อย่างดีเยี่ยม ยังกับภาพวาดที่สวยงามยากเกินบรรยายได้ถูก



    \"พี่จะปล่อยทุกคนให้ไปเล่นกันนะแล้วคอยฟังเสียงเรียกของพี่ด้วยล่ะ\"อลิศพูดแล้วเมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปเล่น หญิงสาวจึงเดิน



    ไปนั่งที่ขอนไม้ใหญ่ใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ มองน้อง ๆ ทุกคนจนกระทั่งไปถึงกลุ่มของเฟรินจึงหยุดดู



    \"คาโล  คาโล มาดูนี่สิ\"เสียงเฟรินเรียกอย่างเจื้อแจ้ว คาโลเดินมาดูด้วยอาการแปลกใจ



    \"มีอะไร\"คาโลพูด



    \"นี้\"เฟรินพูดพร้อมโชว์ของที่แอบอยู่ข้างหลังมาตรงหน้าคาโลอย่างฉับไว



    \"เฮ้ย!!\"



    ตูม!!



    \"5555+\" เสียงหัวเราะของเจ้าตัวยุ่งดังขึ้นเพราะว่า คาโลตกใจจนหงายหลังลงไปในน้ำเนื่องจากว่าเฟรินมันเอาของมาให้ดูใกล้ ๆ



    หน้าเลยต่างหาก



    \"555+ คนอย่างคาโล กลัวปูด้วยหรือนี่\"เฟรินพูดไปหัวเราะไป จนไม่รู้ว่าภัยกำลังมาเยือน



    ตูม!!



    \"เป็นไงล่ะ\"คาโลพูดอย่างสะใจเมื่อแก้แค้นโดยการจับเฟรินกระชากจนตกน้ำไปด้วยอีกคน



    \"คา..โล\"เฟรินแยกเขี้ยวออกมา คาโลเลยรีบวิ่งหนีไปซะก่อน เฟรินจึงไล่สาดน้ำไปเรื่อย ๆ จนไปโดนคนอื่น ๆ ทุกคนเลยเล่น



    สาดน้ำกันอย่างเมามาน



           อลิศมองไปหัวเราะไปอย่างสนุกไปกับทุกคน โรเวนเดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ เจ้าหล่อนก็มิได้รู้ตัวเลยจนกระทั้งโรเวยพูดขึ้นมา



    จึงทำให้อลิศรู้ตัวและหันไปมองโรเวน



    \"เวลาหัวเราะน่ารักดีนะ\"



    \"มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย\"อลิศถาม แต่ได้เพียงรอยยิ้มส่งมาแทนคำตอบ



    \"หัวเราะแล้วน่ารักเหมือนน้องหญิงของผมเลย\"โรเวนพูด พลางคิดถึงผู้หญิงที่ตนรักที่เอเดน



    \"น้องหญิง?\"อลิศงง



    \"ไม่มีอะไรหรอกครับ\"โรเวนพูดพลางมองหน้าอลิศ



    \"ว่าแต่ คืนนี้เราจะมีงานรอบกองไฟ ยังไงก็ไปร่วมไหมครับ\"โรเวนพูดพร้อมรอยยิ้มกลับมาเป็นคนเดิม



    \"เห็นว่ามีการเต้นรำด้วยนี่ค่ะ แถมยังต้องใส่ชุดสวย ๆ ด้วย\"อลิศพูด



    \"นั้นแหละครับมาไหม\"โรเวนพูด



    \"แต่ฉันไม่มีคู่\"อลิศพูด



    \"แล้วคุณจะให้เกียรติ์เต้นรำคู่กับผมได้ไหมล่ะ\"โรเวนพูดพลางยิ้มอย่างที่ละลายใจสาวออกมา แต่ไม่ได้ผลสำหรับอลิศ



    \"ฉันไม่มีชุดราตรี..\"อลิศพูดไม่จบก็โดนขัดขึ้นมาจากโรเวน



    \"ไม่จำเป็นต้องเป็นชุดราตรีหรอกครับ\" อลิศจึงยอมแพ้



    \"ไม่ว่ายังไงคุณก็คงต้องหาเหตุผลมาทำให้ฉันไปให้ได้เลยใช่ไหมค่ะ\"อลิศพูด โรเวนยิ้มกว้างขึ้นกับคนที่รู้ทันเขาไปซะหมด



    \"แล้วคุณจะไปหรือเปล่าครับ\"โรเวนถามอีกครั้ง



    \"ขอคิดดู ก่อนไว้ถึงแล้วจะบอก\"อลิศพูดพร้อมกับรีบวิ่งไปเล่นสาดน้ำกับน้อง ๆ ทุกคนทันที ปล่อยให้โรเวนนั่งหวังอยู่อย่าง



    นั้น  แล้วในที่สุดก็ถึงเวลากลับทุกคนจุงมุ่งหน้าออกจากถ่ำและขึ้นเรือ เดินทางกลับเกาะลอกโดยทันที ขณะอยู่บนเรือ



    \"อลิศ ตกลงว่าไงครับ\"โรเวนวิ่งมาหาอลิศแล้วถามขึ้น



    \"เรื่องอะไรค่ะ\"อลิศแกล้งทำหน้าซื่อ



    \"ก็เรื่องจะเป็นคู่เต้นรำในคืนนี่ให้ผมไงครับ\"โรเวนพูด



    \"อืม....ไม่เอาดีกว่า\"อลิศพูด



    \"อ๋า  ทำไมอ่ะครับ\"โรเวนร้องออกมาใบหน้าเสียดายสุดชีวิตทำเอาอลิศหัวเราะออกมา



    \"555+ล้อเล่นค่า  ไปก็ได้\"อลิศพูดกลั้วหัวเราะ



    \"จริงนะครับ\"โรเวนขอคำยืนยัน



    \"ค่ะ ไปแน่ ๆ \"อลิศพูดแล้วเดินจากไป  ในที่สุดทุกคนก็ถึงเกาะ ณ จุดหมายปลายทาง ทุกคนลงเรือเล็กแต่ที่น่าแปลกใจ



    ครั้งนี้ก็คือพี่อลิศที่ลงไปด้วยแถมยังมีโรเวนคอยดูแลอย่างดีอีกต่างหากสร้างความแปลกใจให้แก่ทุกคน



    \"คาโล นั่งอ่านหนังสืออะไรอยู่นะ\"เสียงหวานใสจากเจ้าตัวยุ่งที่จัดการตัวเองเสร็จแล้วดังขึ้นจากข้าง ๆ จึงทำให้คาโลหันมามอง



    \"ทำไมยังไม่แต่งตัว\"คาโลถาม



    \"ก็ยังไม่ถึงเวลา\"เฟรินตอบกวน ๆ



    \"ว่าแต่นายอ่านอะไรอยู่\"เฟรินถาม



    \"หนังสือ\"คาโลตอบ



    \"รู้แล้วว่าหนังสือ แต่เรื่องอะไรล่ะ\"เฟรินเริ่มหงุดหงิด



    \"การเมืองการปกครอง\"คาโลตอบแต่สายตาจับจ้องอยู่ที่หนังสือ



    \"ไม่มีเรื่องอื่นแล้วหรือไง\"เฟรินพูดพลางนั่งลงข้าง ๆ



    \"จะทำไมล่ะ\"คาโลถามสายตาสีฟ้าจ้องหน้าเฟริน



    \"ก็ว่าจะยืมอ่านหน่อยนะ ได้ไหม\"เฟรินพูดพลางทำเสียงอ้อน



    \"เลือกเอา อย่าทำขาดล่ะ\"คาโลพูด แต่ก็ยังมิวายเตือนเอาไว้ (แน่สิก็ให้มันยืมทีไรหนังสือขาดทุกที-คาโล,แล้วจะให้ยืมทำไม

    -เชอรี่, ก็....-คาโล,ไม่ต้องพูดเลยกลับไปต่อเร็ว-เชอรี่)



    \"ขอบใจจ๋า\"เฟรินว่าพลางเลือกหนังสือจากกระเป๋า



    \"อะไรเนี่ย ประวัติศาสตร์การเมือง\"เฟรินอ่านชื่อหนังสือแล้วทำหน้าบอกบุญไม่รับ



    \"เล่มนี้ ประวัติการสงคราม\"เฟรินอ่านเล่มต่อไปต่อ



    \"การปกครองของเอเดน\"เฟรินเริ่มหงุดหงิดไม่เจอหนังสือที่ถูกใจ



    \"นายนี่ไม่มีหนังสือดี ๆ กว่านี้แล้วหรือ\"เฟรินหันมาพูดกับเจ้าของหนังสือ



    \"มีอยู่แค่นั้นแหละ จะอ่านไหม\"คาโลพูด



    \"อ่ะ เล่มนี้ดีกว่า\"เฟรินว่าพลางหยิบหนังสือที่หน้าปกเขียนว่าไดอารี่ออกมาอ่านโดยที่คาโลไม่รู้เรื่องเลย เวลาผ่านไปสักพัก



    คาโลที่นั่งอ่านหนังสือก็รู้สึกตัวว่ามีอะไรมาพิงที่ไหล่จึงลดหนังสือลง และยิ้มออกมาเนื่องจากว่าเฟรินนั้นเองที่พิงไหล่เขาและ



    หลับไปแล้ว คาโลจึงปล่อยให้พิงไปอย่างนั้นแล้วนั่งอ่านหนังสือต่อไป



    ***_____________________________________________________________________________***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×