ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ~~~พิชิตของรางวัล~~~
เฟรินวิ่งมาตามทางชายหาด และมาหยุดพักอยู่ที่โขดหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ส่วนคาโลที่เดินตามมาเมื่อเห็นเฟรินนั่ง
พักอยู่ที่โขดหินก็เดินไปนั่งข้าง ๆ ด้วยแล้วเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนนี้ที่มีเพียงแสงดาวไร้แสงจันทร์มาประชันกัน
จึงทำให้ดวงดาวที่พรางพรายในวันนี้ดูงดงามดุจหยดน้ำค้างกลางนภาที่สะท้อนแสงของรุ่งอรุ่นราวกับเพรชล่ำค่าที่มิ
อาจประเมินค่าได้
\"ดาวสวยนะ ว่าไหม\"คาโลเปยขึ้นมาสกัดความเงียบที่เข้ามาปกคลุม จึงทำให้เฟรินที่นั่งมองทะเลเงยหน้ามองนภา
\"ใช่ สวยจังเลย\"เฟรินพูดตอบเมื่อมองเห็นดวงดาวนับล้านที่ลอยเด่นแข่งกันเปร่งแสงระยิบระยับมากมาย คาโลหัน
หน้าจากนภามามองหน้าเฟรินแทนตอนนี้ในยามค่ำคืนมีลมแรงผัดผ่านให้เส้นผมของหญิงสาวปลิวไสวแม้จะถูกมัด
รวบไปด้วยโบว์สีขาวก็ตาม ตามใบหน้าและไรผมมีเหงือซึบและเพราะว่าเป็นยามค่ำคืนหรือเปล่าจึงทำให้ดูเหมือนว่า
เฟรินที่ประกายแปลก ๆ เสียงหอบหายใจเล็กน้อยแบบเบา ๆ ด้วยความเหนื่อยจากการวิ่ง กลับทำให้เฟรินในช่วง
เวลานี่ยั่วอารามณ์ผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี(อารมณ์อะไรคิดเอาเองนะค่ะ)
\"แต่มันไม่สวยเท่าเธอหรอก \" คาโลที่มองหน้าเฟรินอยู่เนินนานพูดขึ้นมา (แหวะ เลียนจังเลย คาโลพูดได้ไง)
\"นายพูดบ้ า อะไรนะ\" เฟรินโวยใบหน้าขึ้นสีชมพูเล็กน้อยขับให้เฟรินยิ่งน่ารักมากในคืนนี่
\"เดียว ปล่อยนะคาโล\"เฟรินโวยทันทีที่ตนเองถูกดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของคาโล แถมยังกอดซะแน่น
\"เฟริน นายสวยกว่าดวงดาวนับล้านดวงบนท้องฟ้านั้นจริง ๆ นะ สวยยิ่งกว่าทุกสิ่งบนโลกนี่\"คาโลกระซิบข้างหูด้วยคำ
หวาน ๆ แถมยังพูดยาวอีกต่างหาก แทนทีเฟรินจะแซวแต่กลับกลายเป็นว่าเธอหน้าแดงขึ้นมากกว่าเดิม
\"ตา บ้ า \" เฟรินว่า แล้วจึงทุบอกคาโลทีหนึ่ง ส่วนคาโลที่โดนทุบอกก็หัวเราะออกมาเบา ๆ แต่นั้นรอยยิ้มนั้นกลับละลาย
ใจของเฟรินได้มากเลยล่ะ คาโลเมื่อหยุดหัวเราะก็ค่อย ๆ เลือนใบหน้าที่สลักได้รูปลงมาใกล้ใบหน้าของเฟรินช้า ๆ ส่ง
ผลให้เฟรินเริ่มหน้าแดงยิ่งกว่าเดิมขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อคาโลมอบจุตพิศให้ที่เรียวปากสวยได้รูปของตนเอง เฟรินก็ยอมรับ
อย่างว่าง่าย ด้วยรสสัมผัสที่อ่อนโยนและแผ่วเบาแต่นั้นก็เพียงพอที่เฟรินจะเคล้มไปแล้ว เมื่อทั่งคู่ผละออก เฟรินก็รีบ
กระโดดลงจาดโขดหินเดินทางต่อมันที
\"นายจะรีบไปไหนนะ\"คาโลถามแล้วกระโดดลงมายื้นที่พื้นทราย
\"นายลองมองตรงนั้นสิ\"เฟรินบอกพร้อมกับชี้ไปข้างหน้าที่โขดหินข้างหน้ามีบุรุษ 2 คนกำลังยืนคุยกันอยู่คาโลเดินมาดูบ้าง
\"นั้นมันรุ่ยพี่ลูคัสกับรุ่นพี่ลอเรนซ์นี่\"คาโลพูด
\"ก็ใช่นะสิ เราไปแอบฟังเขาคุยกันข้างหลังโขดหินกันเถอะ\"เฟรินชวนแล้วแอบเดินย่องไปอย่างช้า ๆ
//////////////////////////////////////////////////////////
มาต่อแล้วค่าไปอ่านกันเลย
/////////////////////////////////////////////////////////
\"คาลี่ เฟรี่ ออกมาเถอะ\"เสียงเรียกเฉพาะตัวดังขึ้นทำให้เจ้าตัวดีที่คิดจะแอบฟังถึงกลับสะดุ้งสุดตัวแต่ยังคงซ่อนอยู่
\"จะออกมาดี ๆ ไหม\"เสียงขู่ดังขึ้นมาจากอีกบุรุษหนึ่งผู้ได้ฉายานักบวช ทำให้เฟรินที่จับน้ำเสียงได้ว่าถ้าไม่ออกไปเขาจะ
ต้องโดนดีแน่ ๆ จึงค่อย ๆ เดินออกมาหลังโขดหิน แล้วส่งยิ้มแห้ง ๆ มาให้ ส่วนคาโลที่เดินตามออกมาใบหน้ายังคงสงบ
เช่นเดิมไม่แสดงอาการอะไรออกมา
\"แหะแหะ พี่รู้ได้ไงอ่ะ\"เฟรินถามพร้อมเอามือเกาหัวทีหนึ่ง
\'รู้ได้ไงฟะยังไม่ได้ฟังอะไรเลย\'เสียงที่ได้ยินเฉพาะในใจของเฟรินเท่านั้นแต่ใบหน้าส่งออกมามาด้วยรอยยิ้มที่จะถึงใบหู
\"ความลับ\"ลูคัสบอกพร้อมส่งรอยยิ้มที่ทำให้เฟรินใจชื้นขึ้น
\"พวกเธอคิดจะทำอะไรกันห่ะ\"เสียงของลอเรนซ์ถามขึ้นมาทำให้ใจของเฟรินกลับไปแห้งอีกหครั้ง
\"ก็...เอ่อ...\"เฟรินไม่ตอบแต่ทำอำ ๆ อึม ๆ
\"เอาเถอะ ว่าแต่ทำไมถึงมาสายนักนะ\"ลอเรนซ์ถามขึ้นมาอีกครั้ง
\"ก็ภารกิจมันยากนี้ฮะ รุ่นพี่ลอเรนซ์\"เฟรินตอบที่หน้าผากมีเหงือเม็ดโป้งเกาะอยู่
\"ช่างมัน พวกเธอเลือกกล่องอะไรกัน\"ลอเรนซ์ถามต่อ
\"กล่อง?\"เฟรินทำหน้างง
\"ก็กล่อง...\"
\"สีฟ้าอ่อนครับ\"เสียงของคาโลคนที่เงียบมานานพูดตัดขึ้นก่อนที่ลอเรนซ์จะตวาดจบ
\"งั้นหรือ ถ้างั้นเดินเข้าไปในป่าด้านบนนะจะเจอของอย่างหนึ่งแล้วเดินออกมาที่นี้เสร็จแล้วก็เดินกลับไปที่งานได้เลย\"ลูคัส
อธิบาย คาโลและเฟรินหยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจแล้วเดินเข้าป่าไป
ตามติดมาด้วยคู่ของคิลกับเรนอนที่ฝ่ายหญิงเดินเล่นน้ำไปมาอยู่ที่ชายหาดใต้ค่ำคืนของแสงดาว ส่วยฝ่ายชายเดินตามมา
ตามหาดทรายขาวที่สะท้อนกลับแสงดาว
\"น้ำเย็นมาก ๆ เลยค่ะคุณคิล\"เรนอนบอกขณะที่มือข้างหนึ่งจับกระโปรงสั้นของตนส่วนอรกข้างหิ้วรองเท้าของตนไว้เพราะ
ว่าขณะนี้เจ้าหล่อนกำลังเดินเล่นอยู่ในน้ำที่สูงประมาณแข่งของตน
\"ขึ้นมาเถอะ เดียวจะไม่สบายเอา\"คิลบอกด้วยความเป็นห่วง เรนอนจึงเดินขึ้นมาจากน้ำใส่รองเท้าแล้วเดินไปข้าง ๆ คิล สาย
ลมพัดผ่านผิวกายเย็นสบายแต่สำหรับเรนอนที่อยู่ในชุดบางจึงทำให้เจ้าหล่อนหนาวแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เรนอนหันสาย
ตาของตนไปมองที่ใบหน้าของชายหนุ่มที่บัดนี้ดวงตาสีม่วงคู่นั้นกำลังฉายภาพชายหาดตระการตานี้อยู่ เส้นผมสีดำที่ปลิวไปกับ
แรงลมส่งผลให้ใจของสาวเจ้าอยู่เต้มไม่หยุดและมิอาจจะหันหน้าหนีได้
\"หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือ\"คิลถามเมื่อหันกลับมาแล้วรู้ว่าหญิงสาวกำลังจ้องเขาอยู่
\"เปล่าสักหน่อยค่ะ\"เรนอนรีบปฎิเสธทันทีและพร้อมกับการหันหน้าหนีเมื่อเสียงของคิลปลุกเจ้าหล่อนจากภวังค์
\"ไม่เชื่อ ต้องมีอะไรแน่ ๆ \"คิลยังคงทวงคำตอบที่ยังคงคาใจ
\"อยากรู้ก็เข้ามาใกล้ ๆ สิค่ะ\"เรนอนบอกพร้อมส่งรอยยิ้ม ที่หนุ่ม ๆ มองแล้วใจละลายกันเป็นแถว(ยกเว้นคาโล) คิลจึงเดิน
เข้าไปใกล้ ๆ อย่างว่าง่าย จึงถูกรับจุมพิศที่แก้มของตนเอง ทำเอาคิลสะดุ้งด้วยความตกใจ ส่วนเรนอนวิ่งหนีไปแล้ว
\"เรื่องอะไรจะบอกง่าย ๆ ล่ะค่ะ\"เรนอนที่วิ่งหนีหันกลับมาพูดแล้ววิ่งต่อ
\"หน่อยแนะ หยุดนะ\"คิลพูดพร้อมกับวิ่งไล่จับหญิงสาวทันที
\"เอ้า ๆ วิ่งไล่จับอยู่นั้นแหละพวกพี่อยู่ทางนี้\"ลูคัสเรียกทั้งคู่ที่กำลังวิ่งผ่านหน้าไปอยู่
\"พี่ลูคัส พี่ลอเรนซ์\"ทั้งสองคนพูดพร้อมกันแล้วพากันหน้าแดงหยุดวิ่งแล้วเดินไปหา
\"เหนื่อยไหม คิลลี่ เรนี่\"ลูคัสถาม
\"ไม่เท่าไรหรอกครับ\"คิลตอบแล้วหันไปมองทางเรนอนที่ยืนหอบอยู่ด้วยความเป็นห่วง และไม่เคยรอดพ้นสายตาของ
ลูคัสไปได้
\"น่ารักดีนะคู่ของพวกเธอนี่\"ลูคัสเอ่ยกลั้วหัวเราะพลันทั้งคู่ที่เข้าใจความหมายต่างก็พากันหน้าแดง
\"อย่าพูดมากลูคัส พวกเธอได้กล่องสีอะไรกัน\"ลอเรนซ์แทรกขึ้นมา
\"สีม่วงครับ\"คิลตอบ
\"ถ้างั้นก็ไปเอาของรางวัลทางป่าด้านซ้ายนู้น\"ลอเรนซ์บอกพร้อมชี้เส้นทาง
\"ครับ/ค่ะ\"ทั้งคู่รับคำแล้วพากันเดินจากไป
\"นายอย่าดุนักเลยน่า ลอ..\"ลูคัสยังเอ่ยไม่จบกริชเล่มเงินที่สะท้อนแสงในเงามืดก็โฉบผ่านหน้าลูคัสไป
\"ลูคัสอย่ามายั่ว ยิ่งหงุดหงิดอยู่\"ลอเรนซ์ตอบ ( -_-ก็หงุดหงิดอยู่ทุกทีนี่ - เชอรี่)
\"เอ่อพี่ครับจะปาอะไรมาก็กรุณาดูคนรอบข้างหน่อยนะครับ\"เสียงของอีกบุรุษหนึ่งแทรกขึ้นมาพร้อมกริชเล่มที่ปาอยู่ใน
มือ พร้อมยืนมาให้เพื่อส่งคืน
\"ถึงว่าทำไมไม่มีเสียงกริชตกพื้นเธอรับมันนี่เอง เก่งนะ โร \"ลูคัสแซวเล่น ๆ ส่วยลอเรนซ์เดินไปรับกริชคืน
\"พวกเธอเลือกล่องสีเขียวไช่ไหม\"ลอเรนซ์ถาม
\"ครับ/ค่ะ\"โรและมาทิวด้าตอบพร้อมกัน
\"ถ้างั้นก็เดินเข้าไปทางป่าด้านขวาล่ะกันแล้วก็เดินกลับไปที่งานได้เลยนะ\"ลูคัสเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วทั้งคู่ก็เดินจากไป
กลับมาดูทางด้านของคาโลและเฟรินที่เดินเข้ามาด้านบนของป่า
\"คาโล นี้ไกลแค่ไหนแล้วนี้\"เฟรินบ่นขึ้นมาเพราะว่าทั้งคู่เดินเข้ามานานแล้ว
\".......\"ไม่มีคำตอบจากผู้ถูกเรียกเนื่องจากกำลังใช้ความคิด
\"คาโล..\"เฟรินหันมาพูดแต่เมื่อมองหน้าบุรุษก็ยอมเงียบแต่โดยดี แต่แล้วสายตาก็พลันไปกระทบกับแสงแวววาวของ
อะไรสักอย่าง และเมื่อมันใกล้เข้ามาถึงได้รู้ว่ามันคือลูกธนูที่พุ่งตรงมาหาพวกเขานั้นเอง
\"คาโล หลบ\"เฟรินตะโกนพร้อมกับผลักคาโลจนทั้งคู่หล่นไปกองอยู่ที่พุ้มไม้
\"อะไรของนายเนี่ย\"คาโลพูดขึ้นมา
\"ดูนั้นสิ\"เฟรินว่าพร้อมชี้ไปที่ลูกธนู...เอ๊ะ\"คงจะไม่มีเสียงแปลกใจดังมาจากปากหเฟรินถ้าไม่ใช่ว่าลูกธนูนั้นมันหายไป
แล้ว สร้างความงุงงงให้แก่ทั้งคู่(งงไม่เหมือนกันนะค่ะ)
\"ไม่เห็นมีอะไรเลย หรือว่า...\"คาโลพูดพร้อมกับที่ในแววตาฉายแววเจ้าเหล่ เมื่อเฟรินเห็นก็รู้ตัวทันที ยันตัวจะลุกขึ้นแต่
แล้วก็โดนมือใหญ่ของชายหนุ่มกระชากให้ลงมาจูบพอดี เฟรินพยายามดันตัวออกแต่ก็โดนวงแขนอันใหญ่ของคาโลกอด
ไว้ไม่ให้หนี เฟรินจึงยอม แต่แล้วเมื่อมีโอกาสก็พลักคาโลแล้วยันตัวลุกขึ้นเดินหนีไปทันที คาโลจึงได้แต่รู้สึกเสียดายแล้ว
ลุกเดินตามไป แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อหาเจ้าตัวยุ่งไม่เจอ
\"คาโล...\"เสียงตะโกนเรียกชายหนุ่มดังมาจากในดงไม้ และนั้นก็เป็นเสียงของเฟรินนั้นเอง คาโลรีบวิ่งฝ่าดงไม้ไป
อย่างรวดเร็ว แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อสิ่งที่เห็นข้างหน้าคือ ร่างของหญิงสาวผู้ที่เป็นที่รักยืนอยู่หน้ากล่องอะไรสักอย่างที่ดู
เหมือนหีบสมบัติกำลังประกายแสงสีทองอยู่รอบ แต่ที่ทำให้คาโลตกใจนั้นคือรอยเลือดที่หยดอยู่รอบ ๆ และบาดแผลที่ยังมี
เลือดไหลอยู่ตามตัวของเฟริน
\"เฟริน เป็นอะไรไป\"คาโลเดินเข้ามาดูและถามด้วยความห่วงใย ส่วนเฟรินยิ้มแห้ง ๆ
\"เจ็บอ่ะ\"เฟรินบอกแต่ก็ยังส่งรอยยิ้มมาให้ ส่วนคาโลก็รีบใช้เวทย์รักษาแผลทันที
\"ใครทำนายอย่างนี้\"คาโลถามด้วยเสียงที่เย็นชา ซึ่งเป็นเสียงที่เฟรินไม่ชอบฟังสักเท่าไหร่
\"นายอย่าทำเสียงอย่างนั้นสิ\"เฟรินพูด
\"ไม่มีใครทำชั้นหรอกเพียงแต่ฉันพยายามจะเปิดหีบนั้นแล้วมันก็มีอะไรไม่รู้ว่าบาดฉันตามร่างกายนะ\"เฟรินบอกต่อ
\"หีบนี้นะหรือ\"คาโลถามพร้อมเดินเข้าไปใกล้ แต่เมื่อมือเข้าไปสัมผัสโดนแสงสีทองเพียงนิดเดียว
\"โอ้ย!\"คาโลร้องออกมา หลังมือที่รอยแผลเป็นเส้นตรงมีเลือดกำลังไหลอยู่ราวกับถูกของมีคมบาด
\"เห็นไหม คาโล\"เฟรินบอก แล้วเดินเข้าไปดูแผล คาโลรีบสมานแผลทันที
\"อืม เฟริน\"คาโลตอบ
\"พวกเจ้าเป็นผู้ที่เลือกกล่องสีฟ้าใช่หรือไหม\"เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทำเอาเฟรินหน้าซีดรีบเกาะแขนคาโลทันที
ส่วนคาโลนะหรือ มองเฟรินแล้วแอบยิ้มที่มุมปากนะสิ
\" ใช่ เราทั้งคู่เลือกกล่องสีฟ้า แล้วท่านเป็นใคร\"คาโลตอบพร้อมกับส่งคำถามไป
\"เราเป็นผู้เฝ้าหีบของนี้ ถ้าเจ้าเป็นผู้เลือกกล่องนี้จริงจงแสดงหลักฐานออกมา\"เสียงเก่าดังขึ้น
\"มันจะ..เอาหลักฐาน..อะไรล่ะ..คาโล\"เฟรินถามเสียงสั้น
\".....\"ไม่มีเสียงตอบจากคนกำลังใช่ความคิด
\"หรือว่า....กล่องนั้น\"เฟรินคิดขึ้นได้แล้วรีบคว้ากล่องออกมา
\"นี้ไงล่ะ \"เฟรินพูดพร้อมกับโชว์กล่องสีฟ้าขึ้นมา
\"เจ้าอาจจะเก็บมันได้ระหว่างมางก็ได้ ยังไม่เชื่อ\"เสียงดังขึ้นต่อทันทีที่เฟรินพูดจบ
\"แล้วจะเอาอะไรล่ะเนี่ย\"เฟรินบ่นเริ่มจะหายกลัวเจ้าเสียงตรงหน้าแล้ว
\"เฟริน...ข้างในกล่อง\"คาโลพูดสั้น ๆ แต่ได้ใจความ เฟรินรีบเปิดกล่องดูทันที สิ่งที่เห็นนั้นคือ ของแข็งรูปหัวใจที่ปลายยื่น
ออกมามีรูปร่างเหมือนกุณแจและมันมีสีทองทั้งอัน คาโลหยิบมันออกจากกล่อง
\"โฮ๋ พวกเจ้าคือเจ้าของหีบนี้จริง ๆ ถ้าอย่างนั้นขอให้โชคดี\"เสียงนั้นพูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่แสงสีทองรอบ ๆ หีบจะค่อย ๆ
หายไปจนหมดสิ้น คาโลเดินไปใกล้หีบแต่คราวนี้กับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คาโลเสีย.บกุญแจเข้าไปในหีบแล้วบิด กรณ์ที่ลงอยู่จึง
ถูกปลดออกทันที เฟรินเดินมาใกล้คาโล สายตาจับจ้องอยู่ที่หีบแววตาฉายแววเป็นประกายปนตื้นเต้น
\"เปิดเลย คาโล\"เฟรินบอก คาโลจึงเอื้อมมือไปเปิดหีบ แต่สิ่งที่ทั้งสองเห็นคือกล่องขนาดกลาง 2 กล่องมีบุด้วยผ้ากำมะหยี่สี
น้ำเงินวางอยู่บนหมอนที่รองไว้ คาโลและเฟรินหยิบออกมาคนล่ะกล่อง
\"ไม มันเปิดไม่ได้ว่ะ\"เฟรินบ่นขึ้นมาเมื่อเจ้าหล่อนพยายามเปิดมันอยู่นาน
\"คงต้องไปเปิดที่งานมั่ง\"คาโลตอบ
\"ถ้างั้นก็ไปกันเลย\"เฟรินพูดพร้อมกับลากคาโลกลับไปที่งานโดยเร็ว
มาดูด้านเรนอน และคิลที่เดินเข้ามาทางซ้าย
\"เมื่อไหร่จะถึงสักทีนะ ของที่ว่ามันอยู่ไหนเนี่ย\"คิลบ่น
\"ก็เพราะมันเป็นของสำคัญนี้ค่ะถึงได้หายาก\"เรนอนที่เดินอยู่ข้างหน้าหันหลับมาพูดแล้วเดินต่อ คิลจึงคิดเรื่องสนุกค่าเวลาเล่น
แล้วในที่สุดก็นึกเรื่องหนึ่งออก คิลค่อย ๆ เขยิบเข้าไปใกล้เรนอน
\"เรนอน\"คิลเรียกเมื่อเรนอนหันกลับมา ก็มาชนเข้ากับคิลพอดี แต่ไม่ชนธรรมดามันดันชมแบบริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกันนะสิ
แล้วก็ผละออกจากกันโดยทันใด ใบหน้าของทั้งคู่ก็แข่งกันขึ้นสีแดงทั่วใบหน้า
\'ตายล่ะ กะแค่หอมแก้ม แต่ดันกะผิดกลายเป็นแบบนี้ไปได้\'คิลคิด ทั้งทีทั้งคู่กำลังจ้องหน้ากันอยู่แม้จะเขินเพียงใด
\"คุณ....คิล\"เรนอนพูดเบา ๆ คิลก็เลยคิดว่าเลยตามเลย
\"555+ เอาคืนเรื่องเมื่อกี้นะ อย่าคิดมาก\"คิลว่าพร้อมกับวิ่งหนีเรนอนทันทีเพราะเจ้าหล่อนวิ่งมาไล่เขาอย่างเร็ว จนทั้งในที่สุดเร
นอนก็ดันไปสะดุดโคนไม้เข้า ไปล้มทับคิลพอดีเลย ทั้งคู่จ้องหน้ากันด้วยความเขิล
\"แต่ที่จริงก็อยากทำแบบนั้นนะ\"คิลพูดพร้อมกับกอดเรนอนไว้
\"บ้ า\"เรนอนว่า แล้วจึงดันตัวลุกขึ้น
\"อ่ะ..\"เรนอนร้องออกมาเมื่อสิ่งที่เห็นข้งหน้ามันคือหีบสมบัติที่มีแสงสีทองอยู่รอบ ๆ คิลรีบลุกขึ้นมาดูทันที ส่วนเรนอนเดินเข้าไป
หาหีบสมบัตินั้นแล้วก็
ฉึก!!!
โอ้ย!!!
\"เรนอน...เป็นอะไรไป\"คิลรีบลุกขึ้นมาดูบาดแผลที่ฝ่ามือและถามด้วยความเป็นห่วง ทำเอาเรนอนซึ้งไปเลย
\"ไม่เป็นไรหรอกค่ะแค่นี้เอง\"เรนอนบอก
\"เอ่อ..คุณคิลค่ะ...มือ\"เรนอนเอ่ยกะตุกกะตักเมื่อคิลรู้สึกตัวก็รีบปล่อยมือเรนอนที่กุมอยู่ทันที
\"เอ่อ..ว่าแต่ใครทำเธอนี้\"คิลพูดพร้อมกับมองหันซ้ายหันขวาหลบใบหน้าที่แดงของตน เรนอนหัวเราะเบา ๆ
\"คิดว่าน่าจะเป็นเขตอาคมมากกว่านะค่ะ\"เรนอนบอก คิลทำหน้างง ๆ
\"ก็แสงรอบ ๆ หีบนี้ไงค่ะ\"เรนอนพูดกลั้วหัวเราะ ส่วนคิลเมื่อรู้แล้วก็หัวเราะแห้ง ๆ ออกมา
\"พวกเจ้าเลือกกล่องสีม่วงใช่หรือไม่\"เสียงหนึ่งดังขึ้น
\"ใช่\"คิลตอบโดยเร็วไว
\"หลักฐาน\"เสียงนั้นพูดต่อ
\"หลักฐานอะไรอ่ะ เรนอนรู้ไหม\"คิลหันมาถามพร้อมกับเกาท้ายทอย
\"หน้าจะเป็นของในกล่องนี้นะค่ะ\"เรนอนพูดพร้อมโชว์กล่องสีม่วงขึ้นมา
\"เปิดดูเลยเรนอน\"คิลพูด เรนอนจึงพยักหน้ารับก่อนที่จะเปิดฝากล่อง ของข้างในนั้นคือแท่งอะไรสักอย่างที่มีหัวเป็นรูปดาว
และมีปลายยื่นออกมาเหมือนกุณแจ คิลหยิบสิ่งนั้นโชว์ขึ้นมา แสงรอบ ๆ หีบก็หายไป คิลจึงเดินเข้าไปเปิดดู ของข้างในนั้น
มีกล่องขนาดเล็กอยู่สองกล่องบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดง ทั้งคู่หยิบขึ้นมาคนล่ะกล่อง คิลพยายามเปิดหลายต่อหลายครั้งแต่ก็
เปิดไม่ได้จึงยอมแพ้ ทั้งคู่จึงเร่งเดินทางให้ถึงงานเลี้ยงโดยเร็วไว
ทางด้านของโรที่เดินเข้าด้านขวาก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันกับทั้งสองคู่ แต่สิ่งที่อยู่ในกล่องสีเขียวนั้นคือ แท่งอะไร
สักอย่างที่มีหัวเป็นรูปไม้กางเขน แต่มีปลายยื่นออกมาเหมือนกุณแจ และสิ่งที่อยู่ในหีบเมื่อเปิดออกมาแล้วคือกล่องสอง
กล่องที่มีขนาดเท่ากับกล่องของคู่เฟรินกับคาโล เพียงแต่กล่องทั้งสองนี้ถูกบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีเหลืองนั้นเอง ทั้งคู่ได้หยิบ
ขึ้นมาแล้วรีบเดินกลับงานทันทีที่รู้ว่ามันไม่สามารถเปิดได้
***___________________________________________________________________***
พักอยู่ที่โขดหินก็เดินไปนั่งข้าง ๆ ด้วยแล้วเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนนี้ที่มีเพียงแสงดาวไร้แสงจันทร์มาประชันกัน
จึงทำให้ดวงดาวที่พรางพรายในวันนี้ดูงดงามดุจหยดน้ำค้างกลางนภาที่สะท้อนแสงของรุ่งอรุ่นราวกับเพรชล่ำค่าที่มิ
อาจประเมินค่าได้
\"ดาวสวยนะ ว่าไหม\"คาโลเปยขึ้นมาสกัดความเงียบที่เข้ามาปกคลุม จึงทำให้เฟรินที่นั่งมองทะเลเงยหน้ามองนภา
\"ใช่ สวยจังเลย\"เฟรินพูดตอบเมื่อมองเห็นดวงดาวนับล้านที่ลอยเด่นแข่งกันเปร่งแสงระยิบระยับมากมาย คาโลหัน
หน้าจากนภามามองหน้าเฟรินแทนตอนนี้ในยามค่ำคืนมีลมแรงผัดผ่านให้เส้นผมของหญิงสาวปลิวไสวแม้จะถูกมัด
รวบไปด้วยโบว์สีขาวก็ตาม ตามใบหน้าและไรผมมีเหงือซึบและเพราะว่าเป็นยามค่ำคืนหรือเปล่าจึงทำให้ดูเหมือนว่า
เฟรินที่ประกายแปลก ๆ เสียงหอบหายใจเล็กน้อยแบบเบา ๆ ด้วยความเหนื่อยจากการวิ่ง กลับทำให้เฟรินในช่วง
เวลานี่ยั่วอารามณ์ผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี(อารมณ์อะไรคิดเอาเองนะค่ะ)
\"แต่มันไม่สวยเท่าเธอหรอก \" คาโลที่มองหน้าเฟรินอยู่เนินนานพูดขึ้นมา (แหวะ เลียนจังเลย คาโลพูดได้ไง)
\"นายพูดบ้ า อะไรนะ\" เฟรินโวยใบหน้าขึ้นสีชมพูเล็กน้อยขับให้เฟรินยิ่งน่ารักมากในคืนนี่
\"เดียว ปล่อยนะคาโล\"เฟรินโวยทันทีที่ตนเองถูกดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของคาโล แถมยังกอดซะแน่น
\"เฟริน นายสวยกว่าดวงดาวนับล้านดวงบนท้องฟ้านั้นจริง ๆ นะ สวยยิ่งกว่าทุกสิ่งบนโลกนี่\"คาโลกระซิบข้างหูด้วยคำ
หวาน ๆ แถมยังพูดยาวอีกต่างหาก แทนทีเฟรินจะแซวแต่กลับกลายเป็นว่าเธอหน้าแดงขึ้นมากกว่าเดิม
\"ตา บ้ า \" เฟรินว่า แล้วจึงทุบอกคาโลทีหนึ่ง ส่วนคาโลที่โดนทุบอกก็หัวเราะออกมาเบา ๆ แต่นั้นรอยยิ้มนั้นกลับละลาย
ใจของเฟรินได้มากเลยล่ะ คาโลเมื่อหยุดหัวเราะก็ค่อย ๆ เลือนใบหน้าที่สลักได้รูปลงมาใกล้ใบหน้าของเฟรินช้า ๆ ส่ง
ผลให้เฟรินเริ่มหน้าแดงยิ่งกว่าเดิมขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อคาโลมอบจุตพิศให้ที่เรียวปากสวยได้รูปของตนเอง เฟรินก็ยอมรับ
อย่างว่าง่าย ด้วยรสสัมผัสที่อ่อนโยนและแผ่วเบาแต่นั้นก็เพียงพอที่เฟรินจะเคล้มไปแล้ว เมื่อทั่งคู่ผละออก เฟรินก็รีบ
กระโดดลงจาดโขดหินเดินทางต่อมันที
\"นายจะรีบไปไหนนะ\"คาโลถามแล้วกระโดดลงมายื้นที่พื้นทราย
\"นายลองมองตรงนั้นสิ\"เฟรินบอกพร้อมกับชี้ไปข้างหน้าที่โขดหินข้างหน้ามีบุรุษ 2 คนกำลังยืนคุยกันอยู่คาโลเดินมาดูบ้าง
\"นั้นมันรุ่ยพี่ลูคัสกับรุ่นพี่ลอเรนซ์นี่\"คาโลพูด
\"ก็ใช่นะสิ เราไปแอบฟังเขาคุยกันข้างหลังโขดหินกันเถอะ\"เฟรินชวนแล้วแอบเดินย่องไปอย่างช้า ๆ
//////////////////////////////////////////////////////////
มาต่อแล้วค่าไปอ่านกันเลย
/////////////////////////////////////////////////////////
\"คาลี่ เฟรี่ ออกมาเถอะ\"เสียงเรียกเฉพาะตัวดังขึ้นทำให้เจ้าตัวดีที่คิดจะแอบฟังถึงกลับสะดุ้งสุดตัวแต่ยังคงซ่อนอยู่
\"จะออกมาดี ๆ ไหม\"เสียงขู่ดังขึ้นมาจากอีกบุรุษหนึ่งผู้ได้ฉายานักบวช ทำให้เฟรินที่จับน้ำเสียงได้ว่าถ้าไม่ออกไปเขาจะ
ต้องโดนดีแน่ ๆ จึงค่อย ๆ เดินออกมาหลังโขดหิน แล้วส่งยิ้มแห้ง ๆ มาให้ ส่วนคาโลที่เดินตามออกมาใบหน้ายังคงสงบ
เช่นเดิมไม่แสดงอาการอะไรออกมา
\"แหะแหะ พี่รู้ได้ไงอ่ะ\"เฟรินถามพร้อมเอามือเกาหัวทีหนึ่ง
\'รู้ได้ไงฟะยังไม่ได้ฟังอะไรเลย\'เสียงที่ได้ยินเฉพาะในใจของเฟรินเท่านั้นแต่ใบหน้าส่งออกมามาด้วยรอยยิ้มที่จะถึงใบหู
\"ความลับ\"ลูคัสบอกพร้อมส่งรอยยิ้มที่ทำให้เฟรินใจชื้นขึ้น
\"พวกเธอคิดจะทำอะไรกันห่ะ\"เสียงของลอเรนซ์ถามขึ้นมาทำให้ใจของเฟรินกลับไปแห้งอีกหครั้ง
\"ก็...เอ่อ...\"เฟรินไม่ตอบแต่ทำอำ ๆ อึม ๆ
\"เอาเถอะ ว่าแต่ทำไมถึงมาสายนักนะ\"ลอเรนซ์ถามขึ้นมาอีกครั้ง
\"ก็ภารกิจมันยากนี้ฮะ รุ่นพี่ลอเรนซ์\"เฟรินตอบที่หน้าผากมีเหงือเม็ดโป้งเกาะอยู่
\"ช่างมัน พวกเธอเลือกกล่องอะไรกัน\"ลอเรนซ์ถามต่อ
\"กล่อง?\"เฟรินทำหน้างง
\"ก็กล่อง...\"
\"สีฟ้าอ่อนครับ\"เสียงของคาโลคนที่เงียบมานานพูดตัดขึ้นก่อนที่ลอเรนซ์จะตวาดจบ
\"งั้นหรือ ถ้างั้นเดินเข้าไปในป่าด้านบนนะจะเจอของอย่างหนึ่งแล้วเดินออกมาที่นี้เสร็จแล้วก็เดินกลับไปที่งานได้เลย\"ลูคัส
อธิบาย คาโลและเฟรินหยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจแล้วเดินเข้าป่าไป
ตามติดมาด้วยคู่ของคิลกับเรนอนที่ฝ่ายหญิงเดินเล่นน้ำไปมาอยู่ที่ชายหาดใต้ค่ำคืนของแสงดาว ส่วยฝ่ายชายเดินตามมา
ตามหาดทรายขาวที่สะท้อนกลับแสงดาว
\"น้ำเย็นมาก ๆ เลยค่ะคุณคิล\"เรนอนบอกขณะที่มือข้างหนึ่งจับกระโปรงสั้นของตนส่วนอรกข้างหิ้วรองเท้าของตนไว้เพราะ
ว่าขณะนี้เจ้าหล่อนกำลังเดินเล่นอยู่ในน้ำที่สูงประมาณแข่งของตน
\"ขึ้นมาเถอะ เดียวจะไม่สบายเอา\"คิลบอกด้วยความเป็นห่วง เรนอนจึงเดินขึ้นมาจากน้ำใส่รองเท้าแล้วเดินไปข้าง ๆ คิล สาย
ลมพัดผ่านผิวกายเย็นสบายแต่สำหรับเรนอนที่อยู่ในชุดบางจึงทำให้เจ้าหล่อนหนาวแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เรนอนหันสาย
ตาของตนไปมองที่ใบหน้าของชายหนุ่มที่บัดนี้ดวงตาสีม่วงคู่นั้นกำลังฉายภาพชายหาดตระการตานี้อยู่ เส้นผมสีดำที่ปลิวไปกับ
แรงลมส่งผลให้ใจของสาวเจ้าอยู่เต้มไม่หยุดและมิอาจจะหันหน้าหนีได้
\"หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือ\"คิลถามเมื่อหันกลับมาแล้วรู้ว่าหญิงสาวกำลังจ้องเขาอยู่
\"เปล่าสักหน่อยค่ะ\"เรนอนรีบปฎิเสธทันทีและพร้อมกับการหันหน้าหนีเมื่อเสียงของคิลปลุกเจ้าหล่อนจากภวังค์
\"ไม่เชื่อ ต้องมีอะไรแน่ ๆ \"คิลยังคงทวงคำตอบที่ยังคงคาใจ
\"อยากรู้ก็เข้ามาใกล้ ๆ สิค่ะ\"เรนอนบอกพร้อมส่งรอยยิ้ม ที่หนุ่ม ๆ มองแล้วใจละลายกันเป็นแถว(ยกเว้นคาโล) คิลจึงเดิน
เข้าไปใกล้ ๆ อย่างว่าง่าย จึงถูกรับจุมพิศที่แก้มของตนเอง ทำเอาคิลสะดุ้งด้วยความตกใจ ส่วนเรนอนวิ่งหนีไปแล้ว
\"เรื่องอะไรจะบอกง่าย ๆ ล่ะค่ะ\"เรนอนที่วิ่งหนีหันกลับมาพูดแล้ววิ่งต่อ
\"หน่อยแนะ หยุดนะ\"คิลพูดพร้อมกับวิ่งไล่จับหญิงสาวทันที
\"เอ้า ๆ วิ่งไล่จับอยู่นั้นแหละพวกพี่อยู่ทางนี้\"ลูคัสเรียกทั้งคู่ที่กำลังวิ่งผ่านหน้าไปอยู่
\"พี่ลูคัส พี่ลอเรนซ์\"ทั้งสองคนพูดพร้อมกันแล้วพากันหน้าแดงหยุดวิ่งแล้วเดินไปหา
\"เหนื่อยไหม คิลลี่ เรนี่\"ลูคัสถาม
\"ไม่เท่าไรหรอกครับ\"คิลตอบแล้วหันไปมองทางเรนอนที่ยืนหอบอยู่ด้วยความเป็นห่วง และไม่เคยรอดพ้นสายตาของ
ลูคัสไปได้
\"น่ารักดีนะคู่ของพวกเธอนี่\"ลูคัสเอ่ยกลั้วหัวเราะพลันทั้งคู่ที่เข้าใจความหมายต่างก็พากันหน้าแดง
\"อย่าพูดมากลูคัส พวกเธอได้กล่องสีอะไรกัน\"ลอเรนซ์แทรกขึ้นมา
\"สีม่วงครับ\"คิลตอบ
\"ถ้างั้นก็ไปเอาของรางวัลทางป่าด้านซ้ายนู้น\"ลอเรนซ์บอกพร้อมชี้เส้นทาง
\"ครับ/ค่ะ\"ทั้งคู่รับคำแล้วพากันเดินจากไป
\"นายอย่าดุนักเลยน่า ลอ..\"ลูคัสยังเอ่ยไม่จบกริชเล่มเงินที่สะท้อนแสงในเงามืดก็โฉบผ่านหน้าลูคัสไป
\"ลูคัสอย่ามายั่ว ยิ่งหงุดหงิดอยู่\"ลอเรนซ์ตอบ ( -_-ก็หงุดหงิดอยู่ทุกทีนี่ - เชอรี่)
\"เอ่อพี่ครับจะปาอะไรมาก็กรุณาดูคนรอบข้างหน่อยนะครับ\"เสียงของอีกบุรุษหนึ่งแทรกขึ้นมาพร้อมกริชเล่มที่ปาอยู่ใน
มือ พร้อมยืนมาให้เพื่อส่งคืน
\"ถึงว่าทำไมไม่มีเสียงกริชตกพื้นเธอรับมันนี่เอง เก่งนะ โร \"ลูคัสแซวเล่น ๆ ส่วยลอเรนซ์เดินไปรับกริชคืน
\"พวกเธอเลือกล่องสีเขียวไช่ไหม\"ลอเรนซ์ถาม
\"ครับ/ค่ะ\"โรและมาทิวด้าตอบพร้อมกัน
\"ถ้างั้นก็เดินเข้าไปทางป่าด้านขวาล่ะกันแล้วก็เดินกลับไปที่งานได้เลยนะ\"ลูคัสเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วทั้งคู่ก็เดินจากไป
กลับมาดูทางด้านของคาโลและเฟรินที่เดินเข้ามาด้านบนของป่า
\"คาโล นี้ไกลแค่ไหนแล้วนี้\"เฟรินบ่นขึ้นมาเพราะว่าทั้งคู่เดินเข้ามานานแล้ว
\".......\"ไม่มีคำตอบจากผู้ถูกเรียกเนื่องจากกำลังใช้ความคิด
\"คาโล..\"เฟรินหันมาพูดแต่เมื่อมองหน้าบุรุษก็ยอมเงียบแต่โดยดี แต่แล้วสายตาก็พลันไปกระทบกับแสงแวววาวของ
อะไรสักอย่าง และเมื่อมันใกล้เข้ามาถึงได้รู้ว่ามันคือลูกธนูที่พุ่งตรงมาหาพวกเขานั้นเอง
\"คาโล หลบ\"เฟรินตะโกนพร้อมกับผลักคาโลจนทั้งคู่หล่นไปกองอยู่ที่พุ้มไม้
\"อะไรของนายเนี่ย\"คาโลพูดขึ้นมา
\"ดูนั้นสิ\"เฟรินว่าพร้อมชี้ไปที่ลูกธนู...เอ๊ะ\"คงจะไม่มีเสียงแปลกใจดังมาจากปากหเฟรินถ้าไม่ใช่ว่าลูกธนูนั้นมันหายไป
แล้ว สร้างความงุงงงให้แก่ทั้งคู่(งงไม่เหมือนกันนะค่ะ)
\"ไม่เห็นมีอะไรเลย หรือว่า...\"คาโลพูดพร้อมกับที่ในแววตาฉายแววเจ้าเหล่ เมื่อเฟรินเห็นก็รู้ตัวทันที ยันตัวจะลุกขึ้นแต่
แล้วก็โดนมือใหญ่ของชายหนุ่มกระชากให้ลงมาจูบพอดี เฟรินพยายามดันตัวออกแต่ก็โดนวงแขนอันใหญ่ของคาโลกอด
ไว้ไม่ให้หนี เฟรินจึงยอม แต่แล้วเมื่อมีโอกาสก็พลักคาโลแล้วยันตัวลุกขึ้นเดินหนีไปทันที คาโลจึงได้แต่รู้สึกเสียดายแล้ว
ลุกเดินตามไป แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อหาเจ้าตัวยุ่งไม่เจอ
\"คาโล...\"เสียงตะโกนเรียกชายหนุ่มดังมาจากในดงไม้ และนั้นก็เป็นเสียงของเฟรินนั้นเอง คาโลรีบวิ่งฝ่าดงไม้ไป
อย่างรวดเร็ว แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อสิ่งที่เห็นข้างหน้าคือ ร่างของหญิงสาวผู้ที่เป็นที่รักยืนอยู่หน้ากล่องอะไรสักอย่างที่ดู
เหมือนหีบสมบัติกำลังประกายแสงสีทองอยู่รอบ แต่ที่ทำให้คาโลตกใจนั้นคือรอยเลือดที่หยดอยู่รอบ ๆ และบาดแผลที่ยังมี
เลือดไหลอยู่ตามตัวของเฟริน
\"เฟริน เป็นอะไรไป\"คาโลเดินเข้ามาดูและถามด้วยความห่วงใย ส่วนเฟรินยิ้มแห้ง ๆ
\"เจ็บอ่ะ\"เฟรินบอกแต่ก็ยังส่งรอยยิ้มมาให้ ส่วนคาโลก็รีบใช้เวทย์รักษาแผลทันที
\"ใครทำนายอย่างนี้\"คาโลถามด้วยเสียงที่เย็นชา ซึ่งเป็นเสียงที่เฟรินไม่ชอบฟังสักเท่าไหร่
\"นายอย่าทำเสียงอย่างนั้นสิ\"เฟรินพูด
\"ไม่มีใครทำชั้นหรอกเพียงแต่ฉันพยายามจะเปิดหีบนั้นแล้วมันก็มีอะไรไม่รู้ว่าบาดฉันตามร่างกายนะ\"เฟรินบอกต่อ
\"หีบนี้นะหรือ\"คาโลถามพร้อมเดินเข้าไปใกล้ แต่เมื่อมือเข้าไปสัมผัสโดนแสงสีทองเพียงนิดเดียว
\"โอ้ย!\"คาโลร้องออกมา หลังมือที่รอยแผลเป็นเส้นตรงมีเลือดกำลังไหลอยู่ราวกับถูกของมีคมบาด
\"เห็นไหม คาโล\"เฟรินบอก แล้วเดินเข้าไปดูแผล คาโลรีบสมานแผลทันที
\"อืม เฟริน\"คาโลตอบ
\"พวกเจ้าเป็นผู้ที่เลือกกล่องสีฟ้าใช่หรือไหม\"เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทำเอาเฟรินหน้าซีดรีบเกาะแขนคาโลทันที
ส่วนคาโลนะหรือ มองเฟรินแล้วแอบยิ้มที่มุมปากนะสิ
\" ใช่ เราทั้งคู่เลือกกล่องสีฟ้า แล้วท่านเป็นใคร\"คาโลตอบพร้อมกับส่งคำถามไป
\"เราเป็นผู้เฝ้าหีบของนี้ ถ้าเจ้าเป็นผู้เลือกกล่องนี้จริงจงแสดงหลักฐานออกมา\"เสียงเก่าดังขึ้น
\"มันจะ..เอาหลักฐาน..อะไรล่ะ..คาโล\"เฟรินถามเสียงสั้น
\".....\"ไม่มีเสียงตอบจากคนกำลังใช่ความคิด
\"หรือว่า....กล่องนั้น\"เฟรินคิดขึ้นได้แล้วรีบคว้ากล่องออกมา
\"นี้ไงล่ะ \"เฟรินพูดพร้อมกับโชว์กล่องสีฟ้าขึ้นมา
\"เจ้าอาจจะเก็บมันได้ระหว่างมางก็ได้ ยังไม่เชื่อ\"เสียงดังขึ้นต่อทันทีที่เฟรินพูดจบ
\"แล้วจะเอาอะไรล่ะเนี่ย\"เฟรินบ่นเริ่มจะหายกลัวเจ้าเสียงตรงหน้าแล้ว
\"เฟริน...ข้างในกล่อง\"คาโลพูดสั้น ๆ แต่ได้ใจความ เฟรินรีบเปิดกล่องดูทันที สิ่งที่เห็นนั้นคือ ของแข็งรูปหัวใจที่ปลายยื่น
ออกมามีรูปร่างเหมือนกุณแจและมันมีสีทองทั้งอัน คาโลหยิบมันออกจากกล่อง
\"โฮ๋ พวกเจ้าคือเจ้าของหีบนี้จริง ๆ ถ้าอย่างนั้นขอให้โชคดี\"เสียงนั้นพูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่แสงสีทองรอบ ๆ หีบจะค่อย ๆ
หายไปจนหมดสิ้น คาโลเดินไปใกล้หีบแต่คราวนี้กับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คาโลเสีย.บกุญแจเข้าไปในหีบแล้วบิด กรณ์ที่ลงอยู่จึง
ถูกปลดออกทันที เฟรินเดินมาใกล้คาโล สายตาจับจ้องอยู่ที่หีบแววตาฉายแววเป็นประกายปนตื้นเต้น
\"เปิดเลย คาโล\"เฟรินบอก คาโลจึงเอื้อมมือไปเปิดหีบ แต่สิ่งที่ทั้งสองเห็นคือกล่องขนาดกลาง 2 กล่องมีบุด้วยผ้ากำมะหยี่สี
น้ำเงินวางอยู่บนหมอนที่รองไว้ คาโลและเฟรินหยิบออกมาคนล่ะกล่อง
\"ไม มันเปิดไม่ได้ว่ะ\"เฟรินบ่นขึ้นมาเมื่อเจ้าหล่อนพยายามเปิดมันอยู่นาน
\"คงต้องไปเปิดที่งานมั่ง\"คาโลตอบ
\"ถ้างั้นก็ไปกันเลย\"เฟรินพูดพร้อมกับลากคาโลกลับไปที่งานโดยเร็ว
มาดูด้านเรนอน และคิลที่เดินเข้ามาทางซ้าย
\"เมื่อไหร่จะถึงสักทีนะ ของที่ว่ามันอยู่ไหนเนี่ย\"คิลบ่น
\"ก็เพราะมันเป็นของสำคัญนี้ค่ะถึงได้หายาก\"เรนอนที่เดินอยู่ข้างหน้าหันหลับมาพูดแล้วเดินต่อ คิลจึงคิดเรื่องสนุกค่าเวลาเล่น
แล้วในที่สุดก็นึกเรื่องหนึ่งออก คิลค่อย ๆ เขยิบเข้าไปใกล้เรนอน
\"เรนอน\"คิลเรียกเมื่อเรนอนหันกลับมา ก็มาชนเข้ากับคิลพอดี แต่ไม่ชนธรรมดามันดันชมแบบริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกันนะสิ
แล้วก็ผละออกจากกันโดยทันใด ใบหน้าของทั้งคู่ก็แข่งกันขึ้นสีแดงทั่วใบหน้า
\'ตายล่ะ กะแค่หอมแก้ม แต่ดันกะผิดกลายเป็นแบบนี้ไปได้\'คิลคิด ทั้งทีทั้งคู่กำลังจ้องหน้ากันอยู่แม้จะเขินเพียงใด
\"คุณ....คิล\"เรนอนพูดเบา ๆ คิลก็เลยคิดว่าเลยตามเลย
\"555+ เอาคืนเรื่องเมื่อกี้นะ อย่าคิดมาก\"คิลว่าพร้อมกับวิ่งหนีเรนอนทันทีเพราะเจ้าหล่อนวิ่งมาไล่เขาอย่างเร็ว จนทั้งในที่สุดเร
นอนก็ดันไปสะดุดโคนไม้เข้า ไปล้มทับคิลพอดีเลย ทั้งคู่จ้องหน้ากันด้วยความเขิล
\"แต่ที่จริงก็อยากทำแบบนั้นนะ\"คิลพูดพร้อมกับกอดเรนอนไว้
\"บ้ า\"เรนอนว่า แล้วจึงดันตัวลุกขึ้น
\"อ่ะ..\"เรนอนร้องออกมาเมื่อสิ่งที่เห็นข้งหน้ามันคือหีบสมบัติที่มีแสงสีทองอยู่รอบ ๆ คิลรีบลุกขึ้นมาดูทันที ส่วนเรนอนเดินเข้าไป
หาหีบสมบัตินั้นแล้วก็
ฉึก!!!
โอ้ย!!!
\"เรนอน...เป็นอะไรไป\"คิลรีบลุกขึ้นมาดูบาดแผลที่ฝ่ามือและถามด้วยความเป็นห่วง ทำเอาเรนอนซึ้งไปเลย
\"ไม่เป็นไรหรอกค่ะแค่นี้เอง\"เรนอนบอก
\"เอ่อ..คุณคิลค่ะ...มือ\"เรนอนเอ่ยกะตุกกะตักเมื่อคิลรู้สึกตัวก็รีบปล่อยมือเรนอนที่กุมอยู่ทันที
\"เอ่อ..ว่าแต่ใครทำเธอนี้\"คิลพูดพร้อมกับมองหันซ้ายหันขวาหลบใบหน้าที่แดงของตน เรนอนหัวเราะเบา ๆ
\"คิดว่าน่าจะเป็นเขตอาคมมากกว่านะค่ะ\"เรนอนบอก คิลทำหน้างง ๆ
\"ก็แสงรอบ ๆ หีบนี้ไงค่ะ\"เรนอนพูดกลั้วหัวเราะ ส่วนคิลเมื่อรู้แล้วก็หัวเราะแห้ง ๆ ออกมา
\"พวกเจ้าเลือกกล่องสีม่วงใช่หรือไม่\"เสียงหนึ่งดังขึ้น
\"ใช่\"คิลตอบโดยเร็วไว
\"หลักฐาน\"เสียงนั้นพูดต่อ
\"หลักฐานอะไรอ่ะ เรนอนรู้ไหม\"คิลหันมาถามพร้อมกับเกาท้ายทอย
\"หน้าจะเป็นของในกล่องนี้นะค่ะ\"เรนอนพูดพร้อมโชว์กล่องสีม่วงขึ้นมา
\"เปิดดูเลยเรนอน\"คิลพูด เรนอนจึงพยักหน้ารับก่อนที่จะเปิดฝากล่อง ของข้างในนั้นคือแท่งอะไรสักอย่างที่มีหัวเป็นรูปดาว
และมีปลายยื่นออกมาเหมือนกุณแจ คิลหยิบสิ่งนั้นโชว์ขึ้นมา แสงรอบ ๆ หีบก็หายไป คิลจึงเดินเข้าไปเปิดดู ของข้างในนั้น
มีกล่องขนาดเล็กอยู่สองกล่องบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดง ทั้งคู่หยิบขึ้นมาคนล่ะกล่อง คิลพยายามเปิดหลายต่อหลายครั้งแต่ก็
เปิดไม่ได้จึงยอมแพ้ ทั้งคู่จึงเร่งเดินทางให้ถึงงานเลี้ยงโดยเร็วไว
ทางด้านของโรที่เดินเข้าด้านขวาก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันกับทั้งสองคู่ แต่สิ่งที่อยู่ในกล่องสีเขียวนั้นคือ แท่งอะไร
สักอย่างที่มีหัวเป็นรูปไม้กางเขน แต่มีปลายยื่นออกมาเหมือนกุณแจ และสิ่งที่อยู่ในหีบเมื่อเปิดออกมาแล้วคือกล่องสอง
กล่องที่มีขนาดเท่ากับกล่องของคู่เฟรินกับคาโล เพียงแต่กล่องทั้งสองนี้ถูกบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีเหลืองนั้นเอง ทั้งคู่ได้หยิบ
ขึ้นมาแล้วรีบเดินกลับงานทันทีที่รู้ว่ามันไม่สามารถเปิดได้
***___________________________________________________________________***
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น