ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ficหัวขโมยแห่งบารามอสภาคเจ้าหญิง

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่11 เพื่อน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 368
      2
      27 ก.พ. 49

                 หมอกลงจัดเต็มบริเวนทุ่งกว้างเบื้องหน้าชวนให้รู้สึกเย็นเยือก หนาวจัดจับขั้วหัวใจ ในที่นั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่ง ผู้มีเส้นผมสีดำ

    และดวงตาสีม่วงใช่แล้วเขาคือคิลนั้น แต่ที่แปลกไปนั้นก็คือแววตาที่รักสนุกของชายผู้นี้ในตอนนี้กลับไม่มีแววตาเลยสักนิดนึง แถมเขา

    ยังดูเหม่อลอยด้วย คิลเดินไปเรื่อยอย่างไม่มีจุดหมาย แล้วอยู่ ๆ ก็มีเสียงดนตรีจากที่ไหนก็ไม่รู้เรียกสติของคิลให้กลับมา เป็นเสียงดน

    ตรีที่ไพเราะและฟังแล้วอบอุ่นขึ้นมา



    “ที่นี้ที่ไหนเนี่ย”คิลร้องออกมาเมื่อมองดูรอบ ๆ



    “เสียงดนตรีนี้”คิลพูดพลางหลับตาตั้งสติจับจุดกำเนิดเสียง



    “มันมาจากทางนี้นี่”คิลพูดแล้วพร้อมกับหันไปข้างหลังเขาก็เห็นทางหลุมอะไรสักอย่างแต่หลุมนี้กลับมีสีทองส่องสว่างเหมือนพระอา

    ทิตย์ คิลตัดสินใจกระโดดลงไปในหลุมนั้นทันที



         จากความมืดมิดก็ค่อยเห็นแสงสว่างทีล่ะนิด สายตาของคนที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มปรับรับแสงที่กระทบเข้ามา สิ่งแรกที่เห็นคือเพ

    ดานฝาสีขาว ‘ที่นี้ที่ไหนกันนะ’เขาคิดและเมื่อพยายามที่จะขยับตัวก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ และสิ่งที่เขาต่อมานั้นก็คือร่างของ

    เพื่อนรักที่มองมาอย่างเป็นห่วง เพื่อนที่เขาต้องฆ่าแต่ในบัดนี้เขาแพ้แล้ว



    “คิล นายอย่าขยับตัวสิ เดี๋ยวจะยิ่งเจ็บ”เพื่อนคนนั้นพูดพลางกดตัวคนป่วยให้อยู่เฉย ๆ



    “ที่นี้ที่ไหนเนี่ย เฟริน”คิลพูด



    “ห้องพยาบาล นายแพ้แล้วคิล”คราวนี้เสียงดังมาจากปากคนที่อยู่ในห้องด้วยกัน คิลหันไปตามเสียง



    “งั้นหรือ คาโล”คิลพูด ซึ่งคาโลก็ได้พยักหน้าตอบ



    “แล้วนายจะทำยังไงกับฉันล่ะเฟริน”คิลพูด



    “นอนพักซะ หายแล้วก็กลับไปเป็นเพื่อนซี้เป็นคิลที่รักสนุกเหมือนเดิม”เฟรินว่าพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาให้กระชับตัวผู้ป่วย



    “แต่ฉันกลับไปที่บ้านไม่ได้อีกแล้วนะสิ”คิลพูดเสียงเศร้า ๆ



    “ไม่เห็นต้องไปคิดมากเลย”เฟรินว่า



    “แต่...”คิลจะพูดแต่ก็โดนขัดซะก่อน



    “ก็บอกไม่ต้องคิดมากเดี๋ยวฉันคุยกับพ่อนายเองก็ได้ หรือถ้าไม่มีที่กลับฉันบอกเสด็จพ่อของฉันให้นายมาอยู่เดมอสเป็นเพื่อนของ

    ฉันก็ยังได้”เฟรินพูด แล้วเสยผมสีน้ำตาลของตนเองไปข้างหลัง คิลแปลกใจกลับคำพูดของเฟรินที่ว่าจะไปคุยกับครอบครัวที่จะฆ่า

    ตนเอง และยังชวนให้เขาไปอยู่เดมอสอีก



    “นอนได้แล้ว คาโลเรากลับกันเถอะ”เฟรินว่าแล้วก็ลากคาโลออกจากห้องไป



    “นั้นสินะ ไม่เห็นต้องแปลกใจเลย นิสัยมันก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว”คิลพูดขึ้นมาเบา ๆ แล้วหลับตาเข้าสู่ห้วงแห่งนิทราไป



    “เฟริน”คาโลเรียกขึ้นมาเมื่อเห็นคนตรงหน้าเอาแต่เดินอย่างเดียวไม่พูดอะไร



    “เฟริน”คาโลเรียกอีกครั้ง คราวนี้คนตรงหน้าหยุดเดิน แล้วหันกลับมาด้วยรอยยิ้ม



    “มีอะไรล่ะคาโล พูดมาสิ”เฟรินพูด แม้หน้าจะยิ้มแต่ดวงตาสีน้ำตาลก็ดูแดงเล็กน้อย คาโลเดินมาใกล้แล้วกอดเฟรินทำเอาเจ้าตัวตกใจ



    “เฮ้ย คาโลปล่อยนะ จะทำบ้าอะไรนะ”เฟรินโวยพยายามดิ้นให้หลุด



    “อยากร้องก็ร้องออกมาสิ จะเก็บไว้ทำไหม”คาโลพูด เฟรินเลยหยุดดิ้นแต่ก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา



    “เดี๋ยวไปเรียนสายนะคาโล”เฟรินพูดเบา ๆ



    “ไม่เป็นไร”คาโลพูดได้แค่นั้นเฟรินก็ปล่อยโฮออกมา  น้ำตาที่เพียรกลั้นไว้ ตั้งแต่เมื่อคืนไหลทะลักออกมาจากดวงตาคู่โตสีน้ำตาล

    ของเฟริน



    “อึก....ฉัน..ดีใจและโล่งใจ.....มากที่คิล...มันไม่เป็น... อึก...อะไรไป”เฟรินพูดไปร้องไห้ไป



    “ตอนแรก...คิลมันยัง...ไม่ฟื้น...อึก...ฉันกลัว...กลัวตลอด...เวลาเลย..อึก..กลัวว่าฉัน...จะ..เป็น.ฮือ...คน...ฆ่าเพื่อน...ของตน...

    เอง..อึก...ฮือ..ฮือ..”เฟรินร้องไห้ออกมาพร้อมกับพูดความในใจความไม่สบายใจที่อัดอยู่ในอกมาตั้งแต่เมื่อคืน คาโลไม่พูดอะไร

    เลยทำเพียงแค่ลูบหัวเป็นการปลอบประโลมเฟรินในยามนี้ ทำได้เพียงเท่านี้เท่านั้น เพราะเขาไม่มีสิทธ์พูดอะไร  ไม่รู้เวลาผ่านไปนาน

    แค่ไหนแล้ว แต่รู้เพียงว่าขณะนี้ผู้คนเริ่มที่พักเที่ยงแล้วนั้นเอง เฟรินค่อย ๆ หยุดร้องไห้ เสียงสะอื่นเริ่มหายไปจนกระทั้งไม่ได้ยินอีก

    เลย แต่เฟรินก็ยังก้มหน้าอยู่อย่างนั้น



    “เฟริน”คาโลเรียกแต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมเงยหน้า



    “555 เสื้อนายเปียกหมดเลยนะเนี่ย ฉันนี้แย่จริง ๆ ทำเสื้อของเจ้าชายเลอะซะได้”เสียงหัวเราะที่ดังมาจากปากของเฟรินที่ร้องไห้เมื่อ

    ครู่หลังจากที่ดันตัวออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มสร้างความเหนื่อยใจให้แก่คาโลเป็นอันมาก



    “เฟริ..”คาโลเรียกได้เพียงแค่นั้นเพราะว่าเฟรินส่งยิ้มมาให้



    “ขอบคุณนะคาโล”เฟรินพูดออกมาเบา ๆ แค่นั้นแล้ววิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว คาโลก็ได้แต่ทำหน้าเฉยชาแล้วเดินตามเฟรินไป แม้ว่าใน

    ใจจะสุขขนาดที่เจ้าตัวยังไม่รู้เลย



    “เฮ้ยผู้อยู่ในเหตุการณ์มาแล้ว”เสียงนี้ดังมาจากนักรบตาเดียวเมื่อเห็นเฟรินเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น



    “ครี้ดสุภาพหน่อย เรื่องราวเป็นยังไงหรือครับคุณเฟริน”คราวนี้นักบวชผู้แสนสุภาพอย่างซีบิลถามขึ้นบ้าง



    “นั้นสิค่ะ ทำไมคุณคิลถึงได้บาดเจ็บสาหัสอย่างนั้นค่ะ”เจ้าหญิงเรนอนคนสวยแห่งคาโนวาล 1 ในสามนางฟ้าถามขึ้นบ้าง



    “นี้จะไม่ให้ฉันนั่งมั่งเลยหรือไง ถามอยู่นั้นแหละ”เฟรินโวยขึ้นมาเพื่อน ๆ จึงหลบให้เฟรินเดินไปนั่งที่เก้าอี้ด้านซ้าย



    “แล้วตกลงมันเป็นมายังไง”คราวนี้เจ้าหญิงมาทิวด้า แห่งอเมซอลถามขึ้นมาอย่างอยากรู้คำตอบ



    “ไม่รู้”เฟรินตอบสั้น



    โป็ก!!



    “โอ้ย เจ็บนะยัยแอ้งจี้”เฟรินโวยเนื่องจากแอ้งจี้เอาคทามาฟาดหัวเข้าให้อย่างจัง



    “ก็ตอบดี ๆ สิอย่ามากวน”แอ้งจี้บอก



    “ก็คนเค้าไม่รู้จริง ๆ นิ เฮ้ย ๆ ๆ”เฟรินชูมือห้ามขึ้นมาเนื่องจากแอ้งจี้ทำท่าจะตีอีกครั้ง



    “ก็ไอ้คิลมันออกไปเดินเล่น แล้วพอมันกลับมามันก็บาดเจ็บทั้งตัว พวกฉันก็เลยพาไปห้องพยาบาล”เฟรินพูด



    “แล้ว”ทุกคนพูดพร้อมกัน



    “ก็แค่นี้”เฟรินพูด



    “แค่นี้เองหรือ”ทุกคนพูดออกมาพร้อมกันอีกครั้ง



    “ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามคาโลมันสิ”เฟรินว่าพลางชี้ไปที่คาโลที่เข้ามาตอนไหนไม่รู้และกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม



    “จริงหรือคาโล”มาทิวด้าถามขึ้นมา



    “..........”คาโลไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักทีหนึ่งแล้วกลับไปอ่านหนังสือต่อ



    “อย่างนี้ก็ต้องไปถามผู้ป่วยซะล่ะมั่ง”ครี้ดพูดขึ้นมา



    “ตอนนี้คิลมันนอนอยู่อย่าพึงไปกวนมันเลย”เฟรินพูด



    “นั้นสินะ”ทุกคนตอบพร้อมกันแล้วแยกย้ายกันไปทำงานของตนเองต่อไป



            เมื่อเวลาผ่านไปเพียง 2 อาทิตย์คิลก็ออกจากห้องพยาบาล และได้มีการคัดเลือกตัวหมากสำหรับการเดินหมากเกียรติยศใน

    ครั้งนี้แล้ว คือเบี่ย แปดตัวมี เฟริน  ซีบิล  กัส  เอ็ดเวิร์ด  เจค  โร  นิคส์  ซอร์โร

    เรือสอง มี ครี้ด  โคล์ว  

    ม้าสองมี เดท  ทิวดอร์  

    บิชอปสองมี แองเจลีน่า  อาชูร่า  

    ควีน คือ มาทิวด้า  และ คิง คือ คาโล

    ส่วนคนเดินหมากคือ เจ้าหญิงเรนอน



    “ให้เจ้าหญิงเรนอนเป็นคนเดินหมาก จะไปรอดหรือเปล่าน้า”เฟรินพูดขึ้นมาขณะที่กำลังเดินไปเรียนวิชาการเดินหมากฯเบื้องต้น

    ของมิสแรมเซิล



    “แล้วนายคิดว่าไงล่ะเฟริน”เสียงนี้ดังมาจากนายขอทานโร ที่เฟรินตั้งฉายาให้ว่าห้องสมุดเคลื่อนที่ อย่างไม่รู้ตัวทำเอาเฟรินตกใจแต่ไม่แสดงออก



    “ทำไมนายชอยโผ่ลมาข้างหลังอยู่เรื่อย ๆ นะโร”เฟรินพูด



    “ไม่รู้เหมือนกัน”โรตอบเฟรินจึงถอนหายใจแล้วหันหน้าเดินต่อ



    “ว่าแต่นายคิดว่าจะเป็นยังไงที่ให้เจ้าหญิงเรนอนเป็นคนเดินหมาก”โรวิ่งมาแล้วเปลี่ยนเป็นเดินข้างเฟรินแทนพูดขึ้น



    “ล้มจม”เฟรินตอบสั้น ๆ



    “เค้าอาจจะเก่งก็ได้นะ”โรพูด



    “ไม่เท่าฉันหรอก”เฟรินพูดเบา ๆ แต่คนหูดีอย่างโรก็ได้ยินซะแล้ว



    “จริงเหรอ ถ้างั้นมาเจอกันสักตั้งสิ”โรท้า



    “ไม่”เฟรินพูดพร้อมกับเปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน



    “ลองกันซักตาหนึ่งเถอะนะ”โรตื้อ



    “ไม่เอาอ่ะ ถึงชนะนายไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา”เฟรินพร้อมกับหยุดเดินมองหาเพื่อนทั้งสองคน



    “ถ้างั้น นายอยากรู้อะไรฉันจะบอกหมดเลยว่าไง”โรพูด



    “จริงอ่ะ”เฟรินถาม



    “อืม ว่าไงตกลงไหม”โรพูดพลางยิ้มออกมา



    “ไม่มีปัญหานายเตรียมตัวแพ้ได้เลย”เฟรินว่าแล้วก็เดินไปนั่งตรงกลางของเพื่อนซี้ทั้งสอง



    “คุยอะไรกับโรอยู่ตั้งนาน”คาโลถามขึ้น



    “ก็แค่มันท้าแข่งหมากฯนะ”เฟรินว่า แต่เมื่อมองหน้าคาโลที่ส่งสายตาดูถูกมาให้ก็ฉุนขึ้นมา



    “ฉันล่ะเกลียดไอ้สายตาดูถูกนั้นของนายจริง ๆ เลยคาโล”เฟรินพูดต่อ



    “เดี๋ยวก็แพ้ กลับมา”คาโลพูดพร้อมกับเปลี่ยนแววตาให้กลับมาเรียบเฉยเช่นเดิม



    “แพ้หรือไม่ เดี๋ยวก็รู้”เฟรินพูด ส่วนคิลที่มองเพื่อนทั้งสองเถียงกันก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างเดียว



    “เอาล่ะ  วันนี้จะให้ทุกคนจับคู่กันแล้วแข่งหมากกระดานกันนะจ๋ะ”มิสแรมเซิลพูดทุกคนเลยเริ่มจับคู่กัน



    “เฟริน ทางนี้”โรเรียก เฟรินจึงโบกมือลาเพื่อนทั้งสองแล้วเดินไปนั่งตรงข้ามกระดานหมากกับโร



    “นี้โร ทำไมนายถึงไม่เห็นมาท้าฉันสู้เลยทั้งที่นายบอกว่าจะมาแย่งไปนะ”เฟรินเริ่มสนทนาเมื่อการเดินหมากเริ่มขึ้นได้สักพัก



    “ก็ไม่มีอะไรนี้ ฉันเลิกคิดไปแล้วเท่านั้นแหละ หรือว่านายอยากสู้กับฉัน”โรพูดพลางขยับตัวหมาก



    “เปล่า ๆ ดีแล้วล่ะที่ไม่มานะ”เฟรินพูดพร้อมขยับตัวหมากบ้าง



    “รุก”โรพูด



    “อย่ารีบร้อน”เฟรินบอกแล้วขยับหมากนี้



    “เฟริน นายอยากรู้เรื่องอะไร”โรพูดขึ้นมาพลางจ้องมองกระดานหมากเบื้องหน้า



    “ตอนนี้ยังไม่มีแต่จะติดนายไว้ก่อนล่ะกันได้มะ”เฟรินพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเห่ล์



    “แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่ได้ล่ะ”โรพูดพร้อมขยับตัวบิชอป



    “ก็เลิกเล่น”เฟรินพูด โรจ้องหน้าที่มีแต่รอยยิ้มของเฟรินแล้วก็ถอนหายใจ



    “ว่าไง”เฟรินถามเมื่อขยับตัวควีนของตนแล้วทำท่าจะลุกขึ้น



    “ก็ได้ ฉันยอมให้นายติดไว้ก่อนอย่าเลิกเล่นนะ”โรพูดห้ามเฟรินจึงยิ้ม ๆ แล้วกลับมานั่งเหมือนเดิม



    “นายนี้มันจริง ๆ เลยนะ”โรพูด พร้อมขยับตัวหมากในกระดาน เฟรินได้แต่ยิ้มอย่างผู้มีชัย



    “ก็นั้นสินะ อย่าลืมสัญญาล่ะกันนะ”เฟรินพูดพลางขยับหมากในมือแล้ว



    “รุกฆาต”เฟรินพูด โรถึงกลับร้องออกมาอย่างแปลกใจแต่เมื่อมองกระดานหมากฯตรงหน้าก็ต้องยอมเพราะเขาแพ้จริง ๆ



    “ฉันชนะแล้วเว้ยคาโล คิล”เฟรินพูดขึ้นมา สร้างความแปลกใจให้คนในห้องที่ว่าเฟรินชนะไอ้ผู้รอบรู้อย่างสมุดเคลื่อนที่ได้



    “เดี๋ยวเฟริน อีกตาหนึ่ง”โรพูด



    “ไม่เอาแล้ว เบื่ออ่ะ”เฟรินพูด



    “หนึ่งข่าวที่นายอยากรู้ต่อหนึ่งเกม”โรพูดอย่างผู้มีชัย เมื่อเฟรินหันมายิ้มแยกเขี้ยวให้



    “ก็ได้”เฟรินว่าแล้วการเดินหมากก็เริ่มใหม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ยิ่งเล่น เฟรินก็ยิ่งเบื่อไปเรื่อย ๆ

    ‘ทำไมมันง่ายอย่างนี้ฟะ’เฟรินคิดในใจพลางหาวออกมา



    “เร็วหน่อยสิ นานแล้วนะ”เฟรินพูดอย่างเบื่อ ๆ เนื่องจากโรนั่งจ้องกระดานหมากได้สักพักแล้ว ผู้คนที่แข่งกันเสร็จแล้วก็มามุมดูกันใหญ่



    “เอ้า  เดินแล้ว เลิกบ่นซะที”โรพูดหลังจากที่ขยับหมากแต่ก็เจอสวนกลับทันที เฟรินหยิบเบี่ยที่ถูกกินขึ้นมาวางไว้ข้างนอกอย่างเซ็ง ๆ



    “อะไรว่ะ  รุก”โรพูด



    “อืม  ๆ ๆ”เฟรินว่าแล้วขยับตัวหมากต่อ



    “รุก”โรยังคงรุกต่อ



    หาว~~ “รุกฆาต”เฟรินหาวออกมาทีหนึ่งก่อนที่จะปิดเกม  สร้างความฮือฮาในห้องเรียน และแล้วเสียงกริ่งหมดเวลาก็ดังขึ้น



    “ไปล่ะอย่าลืมสัญญานะ โร”เฟรินพูดอย่างร่าเริงพร้อมกับเดินออกจากห้องไปพร้อมคิลและคาโล



      ***______________________________________________________________________________________***



    มาต่อจนจบแล้วนะคะสำหรับวันนี้   ช่วงนี้รู้สึกฝนจะตกบ่อยก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ



    ป.ล.   ตอนนี้ได้ชื่อของแม่นมเฟรินแล้วค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×