ฟิคบารามอสต้อนรับวันสงการณ์จ้า - ฟิคบารามอสต้อนรับวันสงการณ์จ้า นิยาย ฟิคบารามอสต้อนรับวันสงการณ์จ้า : Dek-D.com - Writer

    ฟิคบารามอสต้อนรับวันสงการณ์จ้า

    เมื่อคาโลเฟรินและคิลต่างหลุดออกมาจากคอมและเล่นสงการณ์จะสนุกเพียงใดตามอ่านได้เลยค่า

    ผู้เข้าชมรวม

    952

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    952

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 เม.ย. 49 / 09:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      สำหรับฟิคนี้เชอรี่และพี่ชายขอร่วมด้วยนะคะ -^_^-
      ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 
         
      ยามราตรีของกรุงเทพฯในคืนนี้ทั้งที่ท้องฟ้าก็ดูมืดเหมือนกับคืนเดือนมืดเช่นทุกครั้งแต่ทว่า ในค่ำคืนนี้ท้องฟ้าให้ความรู้สึกที่แปลกไปเหมือนกับจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่างขึ้นเป็นแน่  และบางทีคืนนี้อาจจะมีฝนตกก็ได้ เนื่องมาจากเสียงฟ้าร้องที่คำรามมาแต่ไกล รวมทั้งฟ้าแลบที่ทำให้ท้องฟ้าบางพื้นที่สว่างขึ้นมาแม้เพียงแว็บเดียว

      สำหรับฟิคนี้เชอรี่และพี่ชายขอร่วมด้วยนะคะ -^_^-
      ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 
         
      ยามราตรีของกรุงเทพฯในคืนนี้ทั้งที่ท้องฟ้าก็ดูมืดเหมือนกับคืนเดือนมืดเช่นทุกครั้งแต่ทว่า ในค่ำคืนนี้ท้องฟ้าให้ความรู้สึกที่แปลกไปเหมือนกับจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่างขึ้นเป็นแน่  และบางทีคืนนี้อาจจะมีฝนตกก็ได้ เนื่องมาจากเสียงฟ้าร้องที่คำรามมาแต่ไกล รวมทั้งฟ้าแลบที่ทำให้ท้องฟ้าบางพื้นที่สว่างขึ้นมาแม้เพียงแว็บเดียว

      ณ บ้านหลังหนึ่งในกรุงเทพฯ

      "หว่า ฝนจะตกไหมเนี่ย"เสียงเด็กสาวคนหนึ่งร้องทักขึ้นเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาสีดำเรียวเล็กแบบหมวย ๆ มองอย่างเป็นกังวล

      "ก็คงจะตกล่ะมั่ง"พี่ชายของหล่อนพูดขึ้นจากโต๊ะคอมข้าง ๆ

      "อ้าว ถ้าฝนตกก็ต้องหยุดเล่นคอมนะ ไม่งั้นโดนป๊ากะม๊าดุเชอรี่ไม่รู้ด้วยนะ"เด็กสาวพูดหลังจากที่ตวัดสายตามามองพี่ชายตนอย่างไม่ค่อยพอใจ

      ไม่หยุดซะอย่าง ป๊ากะม๊าก็ไม่อยู่ทำอะไรก็ไม่ได้อยู่แล้วล่ะพี่ชายพูดก่อนที่จะไม่สนใจน้องสาวอีกต่อไป

       

      งั้นเชอรี่เล่นมั่งเชอรี่พูดก่อนลุกไปเปิดคอมอีกเครื่องที่วางอยู่ใกล้ ๆ คอมของพี่ชาย

       

      ชี่ เล่นโยวกังสิ หันเก็บเลเวลซะมั่ง อู้นานอย่างนี้จะเก็บเลเวลตามพี่ทันหรือพี่ชายหันมาพูด

       

      ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจเล่น แต่งฟิคบารามอสดีกว่าเชอรี่พูดก่อนที่จะลงมือคลิ๊ดเลือกโปรแกรมที่ต้องการ

       

             สองพี่น้องเล่นคอมเป็นเวลาสักพัก อากาศก็เริ่มหนาวขึ้น  ซ้ำยังมีเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าและฟ้าแลบเกิดขึ้นติด ๆ กัน ร่วมทั้งลมที่อยู่ ๆ ก็พัดแรงขึ้นทั้งที่เมล็ดฝนที่ควรจะหล่นจากฟากฟ้ายามนี้กลับไม่มีเลยสักหยด  ท้องฟ้ายามนี้ช่างดูน่ากลัวเสียจริง ๆ

       

      พี่พงเก็บผ้าที่ตากข้างนอกหรือยังอยู่ ๆ เสียงเชอรี่ก็ดังขึ้นพอดีกลับที่เสียงฟ้าร้องดังแทรกขึ้นมา

       

      อะไรนะพี่ชายที่มองดูท้องฟ้าอยู่หันกลับมาถาม

       

      เชอรี่ถามว่าพี่เก็บเสื้อผ้าที่ตากตามที่ม๊าสั่งหรือยัง

       

      เฮ้ย !  ลืมเลยพี่ชายพูดก่อนที่จะรีบลุกไปเปิดประตูระเบียงเพื่อเก็บผ้า

       

      อ่ะพี่พงปิดหน้าต่างด้วยนะลมมันแรงอ่ะเชอรี่พูดขึ้นอีกครั้งเหมือนนึกขึ้นได้

       

      มาปิดเอง ไม่เห็นหรือกำลังเก็บผ้าอยู่นะเสียงพี่ชายตะโกนดังมาจากนอกห้อง  เชอรี่จึงลุกขึ้นมาปิดหน้าต่าง โดยปล่อยหน้าจอคอมทั้งสองเครื่องให้เปิดใว้

       

      เปรี๊ยง!!!!

       

            เสียงฟ้าผ่าลงที่ต้นไม้ตรงข้ามบ้าน เชอรี่และพี่ชายต่างเห็นเหตุการณ์พอดี  ตั้งแต่ตอนที่ฟ้าแลบเกิดสงและฟ้าที่ผ่าลงจนต้นไม้ล้มลงมาคว้างถนนจนรถหลบหลีกแทบไม่ทัน

       

      พี่  กลับเข้ามาเร็ว เดี๋ยวฟ้าผ่าอีกรอบหรอกเชอรี่ตะโกนเสียงดังเรียก

       

      เด๋ว อีกนิดหนึ่ง ตัวสุดท้ายมันปลิวไปติดเสาไฟข้าง ๆ ระเบียงบ้านยายนะพี่ชายพูดพลางเอื้อมมือไปดึง

       

      เปรี๊ยง!!!!!!       เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้ก็ผ่าลงที่เสาไฟต้นนั้นพอดี และนี้คงจะเป็นเหตุให้บ้านทุกหลังในบริเวณนั้นไฟดับหมด แต่ทว่าทั้งตัวเชอรี่เองและพี่ชายกลับไม่ได้สนใจในบ้านเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

       

      ฮู.....รอดตัวไป ถ้าช้ากว่านี้พี่พงมีสิทธิดำยิ่งกว่าตอนนี้แน่ ๆเชอรี่บ่นขึ้นหลังจากถอนหายใจและรอดพ้นมาจากเหตุการณ์เมื่อครู่  ถ้าตนไม่ดึงพี่ชายให้กลับมาตอนคว้าเสื้อนั้นได้นะ ปานี้..เฮอออ

       

      เอาน่า ๆ รู้นะบ่น ๆ อย่างนี้ที่จริงเป็นห่วงล่ะสิพี่ชายหยอกเล่นแล้วลุกขึ้นมาปิดหน้าต่างที่เชอรี่ลืมปิด

       

      อ่ะ เชอรี่ไฟบ้านเราดับไม่ใช่หรือแล้วทำไม......พี่ชายพูดแล้วก็หยุดค้างใว้ทำให้หญิงสาวหันไปมอง ที่เห็นคือเครื่องคอมทั้งสองเครื่องยังคงทำงานอยู่

       

      เป็นไปได้ไง ถ้าเครื่องที่พี่เล่นนะติดอยู่ยังไม่ค่อยสงสัยแต่เครื่องเชอรี่ไม่ได้ติดไฟสำรองทำไมยังติดอยู่ล่ะเชอรี่ถามขึ้นมาอย่างงง ๆ   สองพี่น้องมองหน้ากันไปมาสลับกับเครื่องคอมอย่างอึ้ง ๆ

       

              สักพักเครื่องอคมสองเครื่องก็เหมือนมีเส้นใยอะไรสักอย่างลอยวนไปมารอบเครื่องทั้งสอง  เส้นใยนั้นมีสีฟ้าและเมื่อจะจับต้องมันก็จะสลายกลายเป็นควันก่อนรวมตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม

       

      อะ..อะไรอ่ะพี่พงเชอรี่ถามอย่างกลัว ๆ ใช่สิก็คนไม่ชอบอะไรที่ออกจะสยอง ๆ นี้นา

       

      พี่ก็ไม่รู้พี่ชายพูดพลางพยายามจับเส้นใยสีฟ้านั้นให้ได้  อยู่ ๆ คอมทั้งสองเครื่องก็สว่างจ้าขึ้นเมื่อเส้นใยพันรอบคอม 

       

      กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!

       

      แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!

       

      ตุบ!!  เสียงคนกรีดร้องดังขึ้นก่อนที่เสียงอะไรบางอย่างล้นลงบนที่นอนข้าง ๆ คอม แต่ทว่าด้วยฝุ่นที่คลุงไปหมดทำให้มองอะไรไม่เห็นเลย

       

      อะไรเนี่ย....มันเกิดอะไรขึ้นเชอรี่ร้องโวยขึ้น

       

      ไม่รู้เหมือนกันพี่ชายตะโกนตอบกลับมา  ในตอนนี้เองที่อยู่ ๆ ก็มีลมแรงพัดเข้ามาในบ้านจนฝุ่นหายไปหมดทำให้เห็นคนสามคนที่อยู่ตรงหน้า

       

      โอ้ย...มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยเสียงร้องบ่นของหญิงสาวที่ทับอยู่บนตัวชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น

       

             เอ๊ะ  ผมสีน้ำตาล  ตาสีน้ำตาล  แผลใต้ตาซ้าย  ที่อยู่ที่คอนั้นจะใช้สร้อยไข่มุกแสง...ไม่มั่ง..แต่ว่าไม่แน่อาจจะใช่....เฟริน..ไม่สิ..เจ้าหญิงเฟลิโอน่า  เกเดเวล   เชอรี่คิดไปมองไปที่ตัวหญิงสาวผู้บ่นขึ้นเมื่อครู่

       

      จะเกิดอะไรก็ตามเถอะ..แกรีบ ๆ ลุกไปจากตัวฉันสักทีชายที่ถูกทับโวยลั่น

       

              ไม่จริงมั่ง  ผมสีดำ ตาสีม่วง  แต่ก็ไม่แน่นะในเมื่อเฟรินยังโพล่มาได้ คิลมัส ฟิลมัสก็ต้องโพล่มาได้และน่าโพล่มาสองถ้างั้นอีกคนก็ต้อง  เชอรี่ที่กำลังคิดอยู่นั้นก็รีบตวัดสายตาไปมองชายหนุ่มอีกคนที่นั่งเงียบอย่างรวดเร็ว

       

      ...............ชายหนุ่มผมสีเงินเป็นประกายสะท้อนแสงไฟนีออนที่ติดเมื่อครู่  ดวงตาสีฟ้ามองไปรอบ ๆ อย่างแวดระวังก่อนที่จะหันมาสบตาเข้าอย่างจังกับสายตาของเชอรี่ที่ทำให้ถึงกับสะดุ้งรีบหลบตาในทันที

       

            หล่อจัง..ตัวจริงหล่อจริง ๆ ทั้งที่ดวงตาสีฟ้าที่มองจะเย็นชาเพียงใดก็เถอะ..แต่ว่า...หล่อชะมัด..โอ้ย!!ใจจะละลายไปกับความหล่อนั้น เชอรี่คิดในใจพลางรีบหันไปมองพี่ชายของตนที่ตอนนี้ยืนอึ้งเป็นท่อนไม้ไปเสียแล้วก่อนที่ใจตนจะคิดเลยเถิด

       

      พี่พง...คิดว่าไงเสียงเชอรี่ทักขึ้นทำให้พี่ชายสะดุ้งสุดตัวรีบหันมามองทันที

       

      คิด..คิดอะไร

       

      ก็....เชอรี่หันไปมองทั้งสามคนที่กำลังเดินไปมาทั่วห้อง

       

      พวกนายเป็นใคร...แล้วที่นี่ที่ไหนก่อนที่พี่ชายจะพูดอะไรเสียงเย็น ๆ ก็ดังขึ้น

       

      ก่อนที่จะถามชื่อผู้อื่นนะควรจะบอกชื่อตัวเองก่อนนะพี่ชายพูดเชอรี่ทำท่าจะห้ามไม่ให้ทะเลาะกันแต่นึกขึ้นได้อาจจะเป็นแผนหลอกถามชื่อคนตรงหน้าให้แน่ใจเสียก่อน

       

      ตกลง...ฉัน..เจ้าชายคาโล  วาเนบลีแห่งคาโนวาล...ส่วนผู้หญิงผมน้ำตาลนั้นคือ เจ้หญิงเฟลิโอน่า เกเดเวล เจ้าหญิงสองดินแดน...

       

      เฟริน  เดอเบอโรว์  หัวขโมยแห่งบารามอสพอคาโลแนะนำตัวหญิงสาวก็รีบแย้งชื่อทันที คาโลมองอย่างไม่ค่อยพอใจแต่เฟรินกลับทำเป็นไม่รู้เรื่อง

       

      แล้วอีกคนเชอรี่ถามขึ้น  ดวงตาเป็นประกาย เมื่อรู้แน่ชัดแน่ใจแล้วว่าทั้งสามคนเป็นใคร

       

      คิลมัส  ฟิลมัส เป็นนักฆ่า..

       

      ของซาเรสเชอรี่ต่อให้จบ  ทั้งสามคนดูจะอึ้ง ๆ

       

      ระ...รู้ได้ไง.....พวกเธอเป็นใครกันแน่..แล้วต้องการอะไรคาโลรีบพูดชิงทันที

       

      ฮิฮิ  ไม่ต้องระวังตัวขนาดนั้นหรอก ฉันชื่อเชอรี่นะ ส่วนนี้พี่ชายฉันชื่อพงนะ อ่ะว่าแต่พวกเธอคงจะอายุ15-16กันใช่ไหม  ถ้างั้นพวกเธอก็ต้องเรียกพี่ฉันว่าพี่พงเช่นกันนะเชอรี่พูดจบก็ยิ้มออกมา

       

      อ่ะ..อืมทั้งสามตอบพร้อมพยักหน้าแบบรับรู้หลังจากพิจารณาจ้องพี่น้องอยู่นานก็คิดว่าคงวางใจได้

       

      ที่นี่คือกรุงเทพมหานคร  ในปีพุทธศักราช2549  ขณะนี้อยู่ในเดือนเมษายน   ต้องการถามอะไรอีกไหมเชอรี่พูดพลางเดินไปนั่งที่เตียงของตน  ส่วนพี่ชายก็เดินไปตรวจดูคอม

       

      เราโพล่มาที่นี่ได้ไง..จำได้ว่ากำลังทะเลาะกับคาโลโดยมีคิลห้ามทัพอยู่นี่นาพูดจบก็เหมือนแผลถูกสะกิด ทั้งสองทะเลาะกันอีกครั้งในทันที

       

      นี้เงียบ ๆ กันหน่อยได้ไหมเชอรี่ตะโกนขึ้นทำให้ทั้งสองคนเงียบและหันมาจ้องหน้าเชอรี่ทันที

       

      เธอไม่มีสิทธิมาสั่งพวกฉันที่เป็นถึงเจ้าหญิงเจ้าชายคาโลพูดต่อก็หันไปทะเลาะกับเฟรินต่อทันที

       

      เงียบนะ!!!  ที่นี่คือกรุงเทพฯ และนี้ก็บ้านของฉัน ไม่ใช่ประเทศเอเดนที่พวกนายอยู่  ที่นี่จะมีแต่คนธรรมดา ที่สามารถเป็นเพื่อนกันได้เท่านั้นเชอรี่ตะโกนดังลั่น ทำให้ทั้งสองเงียบลงทันทีก่อนที่ทั้งสองจะสบัดหน้าหนีไปคนล่ะข้าง

       

      เชอรี่พี่ว่าพี่พอจะรู้แล้วล่ะว่าทั้งสามโพล่มาจากไหนพี่พงพูดขึ้นหลังจากเช็คคอมอยู่นานพอดู

       

      จากคอมหรือเชอรี่ถามขึ้นเพราะพอจะคาดคะเนเรื่องได้บ้าง

       

      อืมพี่พงตอบก่อนที่ตัวเองจะหันไปรับโทรศัทพ์บ้านที่ดังขึ้นมา

       

      สวัสดีครับ/.../ครับ/.../เข้าใจครับ/.../อ่ะแล้วม๊าจะกลับวันไหน/...../อ๋อครับ ครับ/.../สวัสดีครับพี่พงพูดกรอกลงไปในโทรฯก่อนที่จะวางสาย

       

      มีไรหรือพี่พงเชอรี่ถามขึ้นขณะที่กำลังพยายามเล่าเรื่องราวให้คิลฟัง

       

      ม๊าบอกว่าวันนี้ไม่กลับบ้าน จะกลับมาพรุ่งนี้ตอนบ่าย ๆ นะพี่พงตอบกลับมา

       

      เด๋วนะเชอรี่...เธอบอกว่าพวกเราหลุดออกมาจากไอ้คอมสี่เหลี่ยมนั้นหรือคิลถามพลางชี้ไป

       

      อืมใช่  แต่พวกนายนอนค้างที่นี่ก็ได้นะ แต่คงเฉพาะคืนนี้ล่ะมั่งเชอรี่พูดพลางหันไปมองเฟรินกลับคาโลที่ยังคงนั่งหน้าไม่มองกัน

       

      งั้นหรือ..อ่ะไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พวกนั้นก็เป็นอย่างนี้ ทะเลาะกันอยู่เรื่อย ทั้งที่ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งรักกันไม่เข้าใจเสียจริงคิลพูดพลางส่ายหน้าไปมา

       

      อ่ะจริงสิ.......พรุ่งนี้เป็นวันสงการณ์ไปเล่นน้ำกันไหมเชอรี่ถามขึ้นเหมือนนึกขึ้นได้

       

      คือวันอะไรนะเฟรินหันมาถามอย่างสนใจ   แต่ว่าก่อนที่เชอรี่จะตอบเสียงออดบ้านก็ดังขึ้น 

       

      อ่ะเด๋วมานะ..อยากรู้เรื่องราวถามพี่พงเอาล่ะกันเชอรี่พูดขึ้นก่อนทั้งสามที่จะรีบไปนั่งใกล้ ๆ โต๊ะคอมในทันที

       

      อ่ะ อี๋ มีอะไรหรือค่ะเชอรี่พูดขึ้นเมื่อเปิดประตูบ้านออกมาพบกับญาติของตน

       

      ก็จะถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม  เห็นว่าเมื่อกี้เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าข้าง ๆ บ้านหนูนะอี๋ถาม

       

      อืม...อี๋ค่ะถ้าหนูจะให้ช่วยอะไรสักอย่างจะได้ไหมค่ะเชอรี่พูดขึ้นหลังจากครุ่นคิด

       

      ว่ามาสิจ๋ะ

       

      งั้น...แล้วเชอรี่ก็เริ่มเล่าเหตุการณ์เมื่อครู่

       

      แล้วหนูเชอรี่จะเอายังไงล่ะจ๋ะอี๋ถามขึ้นเมื่อเล่าจบ

       

      ก็คือเชอรี่จะฝากทั้งสามคนใว้กับอี๋ก่อนจนกว่าทั้งสามจะหาทางกลับเจอนะคะเชอรี่พูดขึ้น

       

      ได้สิ  ท่าทางน่าสนุก  ถ้าไม่ก่อเรื่องก็ได้นะอี๋พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ทำให้เชอรี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

       

      งั้นรอสักครู่นะคะเชอรี่พูดขึ้นก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นไปข้างบน  เมื่อเปิดประตูห้องก็พบว่าทั้งสามคนกำลังนั่งเล่นคอมโดยมีพี่พงสอนอยู่ข้าง ๆ

       

      พี่พงเชอรี่หาทางออกให้ได้แล้วเชอรี่พูดขึ้นทั้ง4รีบหันมามองทันที

       

      ไม่ต้องงง..เชอรี่หาที่นอนให้ทั้งสามคนได้แล้วว่าแล้วเชอรี่ก็เล่าที่พูดเมื่อครู่ให้ทั้ง4ฟัง

       

      ก็ดี..แล้ววันพรุ่งนี้เราค่อยไปเล่นน้ำด้วยกันนะพี่พงพูด รู้สึกจะสนิทกันเร็วดีนะ  ทั้งสามบอกลาพี่ชายก่อนที่จะเดินตามเชอรี่ลงไปข้างล่าง  และจากลากัน

       

      เจอกันพรุ่งนี้นะเชอรี่พูดขึ้น

       

      ขอบใจนะเชอรี่คิลกับเฟรินหันมาพูดพลางโบกมือลา  แม้คาโลจะไม่พูดอะไรแต่ก็ยกมือขึ้นโบกไปมาสองทีก็พอเข้าใจแล้ว

       

      13 เมษายน  วันสงการณ์ ตอนบ่ายที่อากาศเริ่มคลายร้อน

       

      อ่ะ พี่จะฝากเด็กสามคนนี้ไปเล่นน้ำด้วยหรือม๊าม๊าของเชอรี่ถามขึ้นเมื่อเห็นคาโล เฟรินและคิล

       

      ใช่ จะว่าอะไรหรือเปล่าอี๋ถาม

       

      ก็เปล่า แต่ก็ดีเล่นหลาย ๆ คนก็สนุกดี เอาขึ้นหลังรถแล้วไปกันเลยม๊าพูด คิลกระโดดขึ้นไปเป็นคนแรกไปยืนข้าง ๆ พี่พง  ส่วนคาโลกระโดดขึ้นไปยืนก่อนที่จะก้มตัวลงมาหวังช่วยพยุงเฟรินแต่ทว่า

       

      เชอรี่ช่วยดึงหน่อยสิเฟรินเรียกจากข้างรถฝั่งที่เชอรี่ยืนอยู่

       

      อืมเชอรี่ตอบรับก่อนเอื้อมมือไปช่วยดึง

       

      เอาน่าคาโล  สาวกำลังงอนต้องง้อนานหน่อยคิลแซวขึ้นมา  และเริ่มเล่าเรื่องเมื่อคืนในบ้านของอี๋ว่าเกิดอะไรขึ้น

       

      อ้าว..แล้วอย่างนี้คาโลก็ผิดนะสิเชอรี่พูดขึ้นก่อนที่จะโดนน้ำเย็น ๆ สาดจนสะดุ้ง ก่อนที่จะไปคว้าขันมาตักน้ำสาดคืนคนที่อยู่ข้างล่าง และการสาดน้ำก็เกิดขึ้นอย่างเมามัน

       

      เฮ้ย!!  ยอมได้ไงเนี่ย อย่างนี้มันต้องเอาคืนว่าแล้วเฟรินก็สาดน้ำจนน้ำในถังหมอไปเกือบครึ่ง ถ้าไม่รีบขับออกมาจากจุดนั้นมีหวังน้ำหมดแน่ ๆ

       

       เฟริน  เราต้องเก็บน้ำใว้สาดจุดอื่นด้วยนะเชอรี่พูดขึ้น

       

      ขอโทษนะเฟรินบอก แต่เชอรี่ส่ายหน้าเป็นเชิงช่างมันเถอะ

       

      ว่าแต่ เรื่องของเธอกับคาโลนะจะเอาไงเชอรี่ถามกระซิบขึ้นให้ได้ยินกันสองคน

       

      บอกตามตรงนะ  ที่จริงก็...ไม่ได้โกรธอะไรหรอกเฟรินกระซิบตอบ

       

      ห๋า!!!!  แล้วทำไม!!!”อยู่ ๆ เชอรี่ก็ตะโกนขึ้นมาทำเอาเฟรินตะครุบตัวปิดปากแทบไม่ทัน  ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว อย่างหวังต้องการคำตอบว่ามีอะไร

       

      มะ..ไม่..ไม่มีอะไรหรอกเฟรินพูดแล้วยิ้มเก้อ ๆ ทุกสายตาเลยหันมาจ้องเชอรี่ซึ้งก็พยักหน้าทีหนึ่ง ทุกคนจึงกลับสู้ภาวะเดิม  ทั้งสองหันกลับไปคุยกันอีกครั้ง

       

      จะตะโกนทำไม

       

      ก็...ทั้งที่ไม่ได้โกรธแล้วทำไมไม่ยอมคืนดีด้วยเล่า

       

      ก็ดูไอ้คาโลมันดิ

       

      ทำไมเชอรี่หันไปมองหน้าคาโลแต่เมื่อรู้ว่าถูกมองกลับก็รีบหันกลับทันที ตอนแรกคาโลก็จ้องอยู่สักพักก่อนที่จะหันกลับไปคุยกับพี่พงต่อ

       

      อ้าว..ก็อยากละลายก้อนน้ำแข็งเล่นนิ..เพื่อว่าถังน้ำมันจะได้ไม่หายไปเยอะนะเฟรินพูดพลางขยิบตาไปที่ถังน้ำตรงกลางที่น้ำหายไปเกือบ1/4ของถัง เนืองจากเล่นสาดกันไปมาระหว่างรถ

       

      อ่านะ..แล้วเมื่อไรจะคืนดีกันล่ะ

       

      ก็คิดว่าตอนนี้ล่ะ  ค่อย ๆ ยั่วทีล่ะนิด ฮ่า ๆเฟรินพูดพลางพยายามสกัดเสียงหัวเราะ

       

      น่าสนุก...จะคอยดูล่ะกันเชอรี่พูดจบน้ำเย็นก็สาดเข้าให้ ทำให้เลิกสนใจเฟรินไปตักน้ำสาดทันที

       

                 รถแล่นไปตามท้องถนนต่าง ๆ แวะจอดตามจุดนั้นจุดนี้เพื่อให้พวกเชอรี่และพวกเฟรินสาดน้ำ ปะแป้งกันอย่างสนุกสนาน  รถแล้วเข้าซอยนู้นออกซอยนี้ แล่นไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะสาน3 สะพาน2  สยาม  สีลม  พงพัฒน์ และอีกมากมาย  ในระหว่างการเล่นเชอรี่กลับคิลก็ต้องคอยสกัดเสียงหัวเราะของตัวเองตลอดเวลาเมื่อน้ำแข็งเริ่มละลายและหลุดเก็กออกมาบ่อย ๆ

       

                  ในที่สุดจาดตะวันที่เหลืองทองที่เคยขึ้นทางทิตตะวันออก ตอนนี้ก็ต้องเริ่มคล้อยลงสู่ทิศตะวันตกและเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองแดงออกส้ม ๆ  น้ำในถังจากที่เต็ม ๆ ก็กลายเป็นไม่เหลือ  เสื้อผ้าเปียก ๆ ถูกลมพัดผ่านจากรถที่แล่นเร็วก็เริ่มแห้ง  เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นสีดำ รถคันนี้ก็แล่นมาจอดหน้าบ้านเชอรี่จนได้

       

      เฮออ...เหนื่องจัง..แต่ไม่เคยนึกเลยนะว่าสงการณ์จะสนุกขนาดนี้เฟรินพูดขึ้นขณะบิดตัวไปมาอยู่หน้าบ้าน

       

      น่าเสียดายนะที่เอเดนของพวกเธอไม่มีเทศกาลนี้เชอรี่พูดอย่างยิ้ม ๆ

       

      เอ้าเด็ก ๆ ไปอาบน้ำกันให้เรียบร้อยนะ  ส่วนพวกเธอ น้องสาวฉันเค้าบอกมาว่าจะฝากพวกเธอใว้ก่อน เพราะงั้นพวกเธอจะต้องนอนพื้นกันล่ะ  นอนได้หรือเปล่าม๊า ๆ พูดขึ้นก่อนที่จะหันมาพูดกับเฟริน คาโลและคิล ซึ่งก็พยักหน้ารับรู้

       

                 หลังจากอาบน้ำกันเสร็จแล้ว  เฟรินก็ใส่ชุดนอนสีฟ้ากางเกงขาสามส่วนของเชอรี่ได้อย่างลงตัว ส่วนคิลก็ใส่ชุดนอนสีน้ำตาลอ่อนแขนยาวขายาวของพี่พงได้ แต่ปัญหาอยู่ที่คาโลที่ดันเกิดมาหุ่นเท่ชมัด เลยทำให้ใส่ชุดของพี่พงไม่ได้จึงใส่กางเกงขาสั้นสีขาวของป๊าแทน ซึ่งก็ต้องใส่เสื้อแขนกุดสีเขียวของป๊าแทนอีกเพราะป๊าไม่มีชุดนอนที่ถูกใจคาโลเสียเลย

       

                 แต่ทว่า คอมที่พี่ชายเปิดเอาใว้ทั้งสองเครื่องก็เกิดแสงสว่างวูบอีกครั้ง และเช่นเดียวกันเส้นใยก็ออกมาอีกครั้งแต่ทว่าครั้งนี้มันออกมาเป็นสีชมพูแทน  ทั้ง 5 รู้ทันทีว่าถึงเวลาต้องจากกันแล้ว

       

      เฟริน...อย่าลืมพวกเรานะเชอรี่พูดขึ้นน้ำตาเริ่มคลอ

       

      ขอให้โชคดี กลับไปถูกที่นะพี่พงพูด

       

      ไม่ลืมแน่ ๆ และฉันจะเอาเรื่องวันนี้ไปเล่าให้ถูกคนฟังด้วยว่าสนุกแค่ไหนเฟรินพูดด้วยรอยยิ้มและหัวเราะนิด ๆ แล้วดึงเชอรี่เข้ามากอด  น้ำตาจะไหลอาบแก้มทั้งสองสาว

       

      คิล ดูแลตัวเองดี ๆ นะเชอรี่หันมาพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้หลังจากที่ผละออกจากอ้อมกอดของเฟริน

       

      รักษาตัวด้วย พี่พงพูดยิ้ม ๆ พลางเข้าไปกอดกับคิลก่อนผละออกมา

       

      ขอบใจนะ เชอรี่กับพี่ก็ดูแลตัวเองด้วยนะคิลบอกก่อนที่จะเดินไปยืนตรงหน้าเส้นใยสีชมพูที่เริ่มจะพันครบรอบแล้ว

       

      คาโล นายอย่าทะเลาะกับเฟรินบ่อยนะ  ดูแลตัวเองแล้วก็เฟรินด้วย  รัก ๆ กันใว้นะเชอรี่พูดทำเอาทั้งสองคนหน้าแดง เชอรี่หัวเราะนิด ๆ อย่างเป็นสุข

       

      ทะเลาะกันบ้างก็ดีนะ ชีวิตคู่จะได้มีรสชาติพี่ชายพูด ทั้งคู่ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่

       

      ครับคาโลตอบสั้น ๆ แต่ได้ใจความ

       

      อ่ะจริงสิ...เฟรินนี้เสื้อผ้าของพวกเธอเชอรี่ที่รีบวิ่งลงไปข้างล่างยัดเสื้อผ้าของทั้งสามใส่ถุงแล้วโยนให้คิลรับ

       

      อ่ะ  ชุดพวกนี้ฉันขอล่ะกันนะ อย่างน้อยก็เป็นเครื่องเตือนความทรงจำระหว่างเราเฟรินพูดอีกครั้งก่อนที่ทั้งสามจะลับหายไปหลังจากสิ้นแสงสว่างจ้าแสบตา

       

              แล้วชีวิตของเชอรี่และพี่ชายก็ดำเนินไปเป็นปกติ  แต่ที่น่าแปลกใจป๊ากะม๊าต่างจำทั้งสามคนไม่ได้เลยและนึกไปว่าเสื้อผ้าที่หายไ ปได้เอาไปบริจาคแทน  ที่จะจำได้เห็นที่จะมีแค่เชอรี่และพี่ชายเท่านั้น  แต่ก็ดีเพราะทั้งหมดนั้นจะจำติดใจตลอดไป

       

                                                                                     จบ(ซะเมื่อไหร่)

       

       

       

       

      แว้บ!!!!  แสงสว่างจ้าดับลงอีกครั้ง เฟริน คาโล และคิลก็โพล่มาที่ไหนสักแห่งที่ดูเหมือนจะเป็นห้องลับ  ทั้งสามเดินขึ้นบรรไดและเปิดประตูออกมาที่แท้ห้องที่พวกเขาอยู่เมื่อครู่น่าจะเป็นห้องลับป้อมอัศวินนะ เพราะพวกเขาโพล่มาที่ห้องนั่งเล่นแต่เมื่อกลับลงไปและเลือกเดินไปอีกทางก็มาโพล่มาห้องหัวหน้าชั้นปี

       

      โอ้โห  พึ่งรู้นะเนี่ยว่ามีกลไกแบบนี้ด้วยเฟรินร้องอย่างตื่นเต้น

       

      ฉันรู้นะว่านายคิดอะไรอยู่ อย่าทำตามที่คิดเด็ดขาดเลยนะคาโลเตือน

       

      นายจะรู้ได้ไงว่าฉันคิดอะไรอยู่เฟรินแย้งทันที ทั้งสองทำท่าเหมือนจะเปิดศึก

       

      .......เพราะฉันรู้ใจนายคาโลเงียบไปนิดก่อนพูดขึ้น  ทำเอาเฟรินหน้าแดงฉับพลัน ส่วยคิลที่กำลังเดินมากะจะห้ามทัพก็ลื้นลงไปนั่งที่พื้นแทน

       

      พวกนายนี้ บทจะหวานก็ไม่ทันตั้งตัวเลยนะคิลบ่นขึ้นอย่างระอาก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู เจอะเข้ากับขอทานกำมะลอทันที

       

      อ้าว พวกนายอยู่ที่นี่ตลอดเลยหรือโรถามขึ้นอย่างงง ๆ

       

      ก็...ใช่เฟรินคิดก่อนแล้วจึงตอบออกมา โรมองอย่างไม่ค่อบเชื้อก่อนที่จะเรียกถูกคน

       

      เฟริน  คาโล  คิล  พวกนายหายไปไหนมาทุกคนถามขึ้นเมื่อเข้ามานั่งในห้องหัวหน้าชั้นปี  เฟริน คิล และคาโลจ้องหน้ากันสักพักก่อนที่จะยิ้มออกมาทั้งสามคน ทำเอาทุกคนแปลกใจเนื่องจากว่านับครั้งได้ที่คาโลมันจะยิ้ม  แล้วเฟรินก็พูดแทรกเรียกความสนใจของทุกคนทันที

       

      ฉันเล่าล่ะกัน...เรื่องก็มีอยู่ขณะที่ฉันกำลังทะเลาะกับคาโลอยู่นั้นก็มีแสงสว่างวูบเกิดขึ้น....

       

       

      จบแล้วค่า จบของแท้ ฮิฮิ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×