ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CURSE ❏ SNSD EXO

    ลำดับตอนที่ #2 : CURSE ❏ Found 100%

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 56



    THE★ FARRY






    - C U R S E -
    F O U N D

           

     

    ฉันไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ฉันกำลังเป็น และสิ่งที่ฉันได้เจอในโลกใบนี้ ถ้าฉันเลือกที่จะเกิด หรือตาย ฉันเลือกที่จะตายเลยซะยังจะดีกว่า เพราะแม้แต่ร่างกายของฉันและหัวใจที่ไร้เรี่ยวแรงจะเดินต่อไปนั้น...มันไม่มีค่าพอที่จะอยู่ต่อไป เหมือนโลกใบนี้เติมเต็มไปด้วย คำสาป ที่ทำให้หัวใจของฉันต้องพังทลายเพราะผู้ชายทั้งสามคน ที่พวกเริ่มเข้ามาในชีวิตของฉัน ฉันก็รู้สึกถึงกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยความหยาบคาย แต่เพราะความมืดมนที่กำลังทำร้ายจิตใจฉันมันบดบังแสงสว่างหายไป ฉันจึงไม่มีทางออกเลย

    ฉันอยากจะเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่แรก ตั้งแต่วันที่ฉัน...ได้เจอกับพวกเขาซะเลยยิ่งดีกว่าอีก

    นี่ ควอนยูริ จะมาทำงานให้กับพวกเรา” ซูซี่พูดกับทุกคนที่กำลังทำงานอยู่ในห้องเสียงดัง ทำให้พวกเขาหันมามองทางฉันพร้อมกับปรบมือต้อนรับเป็นอย่างดี

    ฉันเริ่มงานวันนี้เป็นวันแรก เพราะฉันโดนบังคับให้มาทำงานหลังจากปิดเทอมได้เพียงสองอาทิตย์เท่านั้นเอง พ่อกับแม่ฉันไม่อยากจะให้อยู่บ้านเฉยๆเลยหาโอกาสติดต่อกับซูซี่เพื่อนร่วมห้องของฉัน พ่อกับแม่ฉันเห็นว่าเธอมีงานทำเลยอยากให้ฉันได้ทำงานบ้าง งานของเธอเป็นเกี่ยวกับดีไซน์เนอร์ ออกแบบเสื้อผ้าซึ่งมันเป็นด้านถนัดของฉันอยู่แล้วเช่นกัน และนำนักศึกษาที่มีประสบการณ์มาเป็นนางแบบนายแบบให้แทนที่จะเป็นดารานักแสดง เพื่ออยากให้พวกเขามีประสบการณ์มากขึ้น จึงขอนักศึกษาแทน

    ยูริ แกนั่งรอฉันตรงนี้ก่อนนะเดี๋ยวฉันมา

    อือๆ

    จริงอยู่ที่จะมีนักศึกษาเยอะแยะ เพราะพวกเขามาทำงานกันก่อนฉันด้วยซ้ำไปอีก แต่ฉันกลับรู้สึกไม่ค่อยดีซะเท่าไหร่เลย ในห้องที่มีผู้คนมากมาย กลิ่นของอาหารหลายชนิดที่ปนอยู่ด้วยกันจนมั่วกลิ่นไปหมดแล้ว

    ใช่ ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีนักเลย ฉันอยากจะออกไปข้างนอกจริงๆเลย

    และฉันก็ตัดสินใจลุกจากเก้าอี้เดินออกมาจากห้องเหม็นๆนั้นทันที ไม่รู้ว่าผู้คนเขาอยู่กันได้ไงกลับกลิ่นอาหารเหม็นๆพวกนี้ มันชั่งเป็นอะไรที่ฉันไม่ชอบมากที่สุดในโลก ฉันเดินออกมาตรงระเบียงหนึ่ง ชายร่างสูงผิวขาวใส่ชุดนักศึกษามหาลัยฯฉัน ที่กำลังยืนชมวิวอยู่ก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะหันมามองฉันอย่างสงสัย ฉันถอยหลังมาก้าวนึงก่อนจะหันหลังไป

    เดี๋ยว!” ฉันสะดุ้งตกใจเล็กน้อยด้วยเสียงแหบห้าวของเขา

    หันมาทางนี้หน่อยสิ...” ฉันรู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะตรงนี้มีเพียงฉันกับเขาเท่านั้นเอง แต่ฉันก็ไม่ปฏิเสธที่จะหันไปตามที่เขาบอก

    ...

    เด็กมหาลัยฯเดียวกันนี่ หึควอน...ยู...ริ

    น...นายรู้จักชื่อฉันได้ไง” รับรองได้ตอนที่ฉันอยู่ในห้องนั้นไม่มีเขาอยู่แน่นอน

    หึทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะ ตอนอยู่มหาลัยฯ...ฉันเคยเจอเธอด้วยนะ เธอกำลัง...เต้นโคฟเว่อร์ฉลองปิดเทอมเมื่อสามอาทิตย์ที่แล้วไงล่ะ

    หรอะ...หรอ

    แถม...สะโพกเอวก็...เข้ากันดีนะ” ฉันไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่แววตาของเขากำลังบ่งบอกถึงอารมณ์แปลกๆที่แนไม่เคยเจอ เขาค่อยๆเดินเข้ามาเรื่อยๆ และฉันเองก็ค่อยๆถอยหลังไปเรื่อยๆจนติดผนังเย็นๆไปแล้วตอนไหนก็ไม่รู้ เขาตรงมาที่ฉันช้าๆก่อนจะใช้มือยันผนังไว้สองข้าง เขาล็อคฉันเอาไว้ในวงแขนกว้างของเขาก่อนจะโน้มหน้าลงมาเรื่อยๆจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่าย

    ฉันอยากให้เธอรู้...ว่าฉันชื่ออะไร

    เพื่ออะไรไม่จำเป็นหรอก ถอยไป!” ฉันดันเขาออกแต่เขากลับไม่ยอม มือหนาๆเข้ามากดไหล่ของฉันไปชิดผนังเหมือนเดิมก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆแก้มข้างซ้าย ลมหายใจจากเคยอุ่นๆก็กลายเป็นร้อนเป็นจังหวะเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงริมฝีปากที่กดทับเข้ากับที่แก้มเนียนใสของฉัน 

    จำไว้นะ ฉัน...โอ-เซ-ฮุน

    เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉันหยุดนิ่งไป ภาพผู้ชายคนข้างหน้าค่อยๆเดินหายไปพร้อมกับรอยยิ้มร้าย ฉันที่เหมือนโดนคำสาปที่ฉันชอบคิดไปเอง ทำให้ร่างกายของฉันหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ได้ยินเพียงลมหายใจของตัวเองเท่านั้นเอง...

    ยัยยูล...ยัยยูลแกอยู่ไหนเนี่ย

    เสียงซูซี่นี่นา...เธอกำลังเรียกฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ...

    ยูริ แกอยู่ไหนฉันขี้เกียจหานะ

    ซ...ซูซี่ฉันอยู่นี่ๆ” เมื่อฉันรวบรวมสติทั้งหมดในตัวได้ ฉันก็รีบวิ่งไปหาซูซี่อย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะยังไม่หายตกใจกับการกระทำของผู้ชายคนนั้นก็ตามแต่...

    ไปทำอะไรข้างนอกไม่ทราบ ฉันหาตั้งนานบอกให้นั่งรอ

    ฉันขอโทษๆ พอดีข้างในกลิ่นไม่ค่อยดีหนักนะ เหม็นจะตาย!”

    คิดเหมือนฉันเลยแหละ ฮ่าๆๆ ว่าแต่...หน้าแกดูซีดๆไปนะ ไม่สบะ...

    ฉันสบายดีๆ เราเข้าไปทำงานกันดีกว่านะ

    ฉันลากซูซี่เข้าไปในห้องนั้นก่อนจะลงมือทำงาน ฉันช่วยซูซี่ตัดเย็บเสื้อผ้า ก่อนจะเหลือบไปเห็นใครบางคน นั่นมัน...นายเซฮุนนี่นา สมพอแหละทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เขามาเป็นนายแบบให้กับที่นี่นี่เองเหรอ ซวยอีกแล้วสินะ!

    ยัยยูริ แกมองใครนะ

    ฮะ...ห๊ะเปล่าๆฉันไม่ได้มองใครหนิ

    ฉันเห็นนะ แกกำลังมองเซฮุนอยู่ใช่ไหม

    ....

    เฮ่อ...เขาคือผู้ชายที่หล่อที่สุดในสาขาเราเลยนะ หล่อก็หล่อ รวยก็รวย แถมยังเรียนเก่งอีกต่างหาก นี่ฉันจะบอกนะไม่เคยพลาดเลขสี่เลยสักครั้งเดียว เจ๋งไหมล่ะ
     

    ยังมีคนแบบนี้ในโลกนี้ด้วยเหรอ ?!

    เฮ่อ...หล่อเหมือนเทพบุตรบนฟ้าเลยเนาะ

    ฉันว่าเขาเหมือน ซาตานในอเวจีมากกว่า

    ...มัวแต่มองเขาอยู่ได้ ผู้ชายคนนี้ฉันจองย่ะทำงานต่อไปเลย” พอได้ยินซูซี่พูดอย่างนั้นฉันก็ละสายตาจากเขาก่อนจะมาสนใจกับการตัดเย็บเสื้อผ้าทันที ฉันรู้สึกว่าเกลียดผู้ชายคนนี้มาก เกลียดที่เพิ่งจะได้เจอกันแต่ขากลับมาทำกับฉันว่าง่ายๆซะอย่างนั้นนะเหรอ อย่าหวังว่าคนอย่างฉันนะจะครอบครองได้ง่ายหรอกนะ ^^;

    หลังจากนั่งตัดเย็บมาเกือบสี่ชั่วโมงได้ ฉันก็หยุดไปสักพักนึงบิดตัวไปมาเพื่อคลายความเมื่อยออกไป ท้แงฟ้าเริ่มกลายเป็นสีส้มอ่อนๆ บรรยากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ นี่มันจะหกโมงครึ่งแล้ว มองไปรอบๆห้อง...ซึ่งเขาไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้สินะ

    แต่เอ๊ะฉันจะสนใจทำไมล่ะ

    โอ๊ยยยย...เหนื่อยเป็นบ้าเลยอ่ะ

    ฉันนึกว่าแต่แกทำงานนี้จนชินแล้วซะอีกนะ

    ชินอะไรล่ะ แต่ฉันชอบนะ ชอบมาแอบมองหนุ่มนายแบบนะ ^^”

    ยัยซูซี่นะยัยซูซี่...สมองไม่เคยสนใจอะไรเลยหรือไง

    ยกเว้นแต่...เรื่องผู้ชายเนี่ย -_-

    อีกแค่ชั่วโมงครึ่งจะสองทุ่มแล้ว เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้วล่ะถ้าเย็บเสร็จทัน

    อือๆ

    แล้วฉันกับซูซี่กับก้มหน้าทำงานกันต่อไปเรื่อยๆจนผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง ฉันก็รู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำยังไงไม่รู้สินะ ก็นะน่ะนั่งแบบนี้มาประมาณห้าชั่วโมงแล้วนี่นา เพิ่งมาเป็นเด็กฝึกหัดทำงานหนักว่าคนอื่นอีก เฮ่อ...ชีวิตนี้ไม่ไหวแล้ว!

    เป็นอะไรของแกอีกล่ะยูริ

    ฉ...ฉันปวดฉี่อ่ะ T^T”

    ให้ตายสิแล้วจะอั้นทำไมเล่าไปเข้าห้องน้ำสิย่ะ

    มัน...ไปทางไหนเล่า

    เออ...ลืมไปว่าเธอเพิ่งมา นี่เดินออกจากห้องไปเลี้ยวซ้ายแรกเลยนะ แล้วมันจะมีป้ายบอกเองว่าห้องน้ำไปทางไหน โอเค?”

    เออๆ” ฉันไม่รีรออะไรแล้วก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องทำงานไป แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายแรกที่เห็นตามที่ซูซี่บอก ฉันเดินตรงไปเรื่อยๆไม่เห็นจะมีป้ายบอกอะไรเลยนะ ไหนล่ะป้ายห้องน้ำเนี่ย ฉันไม่ไหวแล้วนะเนี่ย โอ๊ยตายๆ T^T พ่อแก้วแม่แก้ว...

    เอ๊ะ!

    แล้วสายตาของฉันก็ไปสบเข้ากับสายตาของใครคนหนึ่งเข้าทันที ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็นายเซฮุนนั่นแหละเขากำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ก็หันมามองฉันอย่างตกใจเล็กน้อยก่อนจะพูดใส่โทรศัพท์ทำนองว่าเขาต้องการคุยแค่นั้นก่อน ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาเข้าไปในกางเกงขายีนส์

    .....

    นี่เธอ...

    ...” ในสมองตอนนี้อยากจะถามเขานะว่าห้องน้ำไปทางไหน เพราะมันปวดมากเกินจะบรรยายออกมา แต่ถ้าถามเขาไปมันก็หน้าอายอยู่นะ ว่าไหม?

    มาทำอะไรแถวนี้ล่ะ...

    ฉัน...ฉัน...” มันไม่ไหวจริงๆนะ....

    ...
     

    ฉัน...ฉัน...

    ...” เขามองฉันอยากงงๆ ฉันละสายตาจากเขาไปก่อนจะหายใจเฮือกใหญ่ลึกๆหลายรอบๆแล้วหันไปสู้กับดวงตาคู่งามนั้นทันที

    ห้องน้ำอยู่ไหน...

    ...” เขามองฉันอย่างเข้าใจก่อนจะยิ้มมุมปาก “กว่าจะพูดได้นะ

    ...

    ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่า ฉันๆอยู่ได้

    บอกมาเถอะน่าฉันปวดจะตายอยู่แล้ว!!”

    ...O_o! ไปทางซ้ายอ่ะ” เขาชี้ไปทางซ้ายช้าๆ ฉันรีบวิ่งไปตามที่เขาบอกอย่างรวดเร็ว ไหนยัยซูซี่บอกว่าเลี้ยวซ้ายแรกแล้วจะเจอป้ายไงว่ะ นี่ต้องมีอีกซ้ายนะ เฮ่อ...ฉันอยากจะบ้าตายจริงๆเลยนะเนี่ย T^T

    เฮ่อ...” หลังจากททำธุระเสร็จเรีนบร้อยแล้ว ฉันก็รู้สึกสบายขึ้นมาทันทีเลย แต่เอ๊ะนี่ฉันลืมอะไรไปหรือเปล่านะ ลมโทรศัพท์ไว้ในห้องน้ำหรอ...ก็เปล่านะโทรศัพท์ฉันอยู่ในกระเป๋า และกระเป๋าก็อยู่ในห้องทำงานกับยัยซูซี่หนิ

    แล้วฉันลืมอะไรไป....

    จริงสิฉันลืมขอบคุณเขานี่นา...

    แต่...ผู้ชายนิสัยไม่ดีแบบนั้นจะขอบคุณทำไม...

    แต่เขาก็บอกทางกับฉันนะ...

    โอ๊ยอะไรว่ะเนี่ย” ฉันมองตัวเองในกะรจกอย่างหงุดหงิดก่อนจะตบใบหน้าของตัวเองอยู่นานก่อนจะเดินออกไปจากห้องน้ำนั้นทันที ฉันเดินเข้าไปในห้องทำงานเห็นซูซี่เอาผลงานของเราไปฝากไว้กับใครคนหนึ่งก่อนจะหันหน้ามาหาฉันอย่างดีใจ

    กลับบ้านได้แล้ว ^^”

    เหรอดีเลย...

    อือ...แล้วแกกลับยังไงล่ะ

    ก็อาจจะเดินกลับไม่ก็...นั่งรถแท็กซี่ไป

    ตายล่ะ มันอันตรายจะตายไปมันดึกแล้วนะย่ะ กลับกับฉันสิ

    แล้วแกกลับยังไงเหรอ

    ก็...ให้พี่ชายฉันมารับสิย่ะ” พี่ชายเธอ...อ่อซูซี่มีพี่ชายอายุมากกว่าพวกฉันแค่สองปีเอง ฉันเคยเจอพี่ชายเขานะ ตอนฉันอยู่ปีหนึ่ง แต่ได้ข่าวว่าพี่เขาไม่เรียนต่อที่เมืองนอก ประเทศอิตาลี ฉันเลยไม่ค่อยได้เจอพี่เขาซะเท่าไหร่

    พี่แบคฮยอนนะหรอ...

    ใช่ เขาเพิ่งกลับมาเจออิตาลีเมื่อสองวันที่แล้วเอง รู้ไหมกลับมานะกวนประสาทฉันทุกวันเลยแหละ ฉันนะน่ะอยากจะไล่กลับไปอิตาลีเหมือนเดิมจริงๆ

    ฮ่าๆๆๆ...” ใช่พี่แบคฮยอนเขาเป็นคนกวนๆนิดๆ เขาเข้ากับคนง่ายมากเลยนะ ตอนนั้นฉันเคยไปค้างบ้านยัยซุซี่ แล้วก็เจอของดี -_- พี่แบคฮยอนเอาตุ๊กแกปลอมมาหลอกฉันทำให้ฉันหนีออกจากบ้านยัยซูซี่มาอย่างคาดไม่ถึงเลยแหละ

    ตืด...ตืด...

    นี่ไงมันตื้ดมาหาแน่แล้ว สงสัยรออยู่ข้างล่างไปกันเถอะ

    เดี๋ยวสิแล้วพี่แกจะไม่ว่าฉันเหรอ

    ลองว่าเธอดูสิ ฉันจะบอกพ่อกับแม่เลย มาเถอะ

    แล้วฉันก็ยอมเดินตามซูซี่ลงไปชั้นล่างอยู่ดี รถสปอร์ตคันหรูสีขาวที่จอดรออยู่ที่ลานจอดรถซ้ายมือฉัน ซูซี่จับมือฉันเหมือนกับว่ารู้สึกรำคาญที่ฉันงึกๆงักๆชักช้าไม่ได้ดั่งใจเดินไปหารถคันนั้นอย่างรวดเร็ว อยู่ๆกระจกด้านคนนั่งข้างหน้าก็เปิดออกมาอัตโนมัติทำให้เผยเห็นคนขับที่นั่งข้างๆอยู่

     “มาแล้วเหรอยัยน้องสาว ฉันรอตั้งนาน” เสียงเอ่ยวาจาของเขาก็เหมือนเดิมไม่มีผิด พูดหาเรื่องกวนประสาทยัยซูซี่ได้ตลอดเวลาเสมอเลย

    ย่ะ แค่นี้ทำเป็นพูดมากนะจะกลับได้ยัง

    กลับดิ ง่วงนอนจะตายอยู่แล้ว แต่เอ...” พี่แบคฮยอนมองมาที่ฉันอย่างงงๆ

    อ๋อ นี่เพื่อนฉันเองยูริไงที่เคยไปค้างบ้านฉันนะ

    ...

    สวัสดีคะพี่แบคฮยอน จำยูลได้ไหมค่ะ?”

    ...จำ...ไม่ได้อ่ะ

    “-_-…”

    โอ๊ยตาเฒ่าสมองเริ่มไปแล้วนะย่ะ จำไม่ได้จริงอ่ะ” ซูซี่พูดจิกพี่ชาย พี่แบคฮยอนมองหน้าฉันเหมือนอย่างกับพยายามจะจำให้ได้แต่อย่างใด

    อ๋อ พี่จำได้แล้วน้องยูล ^^ ที่พี่เคย...

    เอาตุ๊กแกปลอมมาหลอกยูลเมื่อสามปีที่แล้ว...

    ใช่พี่ขอโทษนะที่จำไม่ได้นะ ^^;”

    ไม่เป็นไรคะ...

    มัวแต่หวานกันอยู่นั่นแหละ เออไปส่งยูริที่บ้านด้วยนะ” ซูซี่พูดจบก็เดินมาเปิดประตูหลังแล้วเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว ฉันเองก็ตามไปนั่งข้างหลังเช่นเดียวกัน

    โหสองคนนี้ไปนั่งข้างหลังจะให้พี่เป็นคนขับรถเลยหรอ

    ขับไปเถอะนะอย่าบ่น ตัวเองก็ขับรถอยู่เห็นๆ” อดฮาไม่ได้จริงๆ สองพี่น้องนี้...

            




    _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×