ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้อคิดจากศิษยาภิบาล

    ลำดับตอนที่ #2 : ระวังอันตราย

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 52


    ����� ภัยอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ภัยอันตรายดังกล่าวมีอยู่ทั่วโลก มากบ้างน้อยบ้าง แต่ที่สำคัญคือมันเกิดขึ้นเรื่อยๆ ภัยอันตรายมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภัยจากท้องถนน ภัยจากยาเสพติด ภัยธรรมชาติ ภัยจากโจร ภัยจากนักฉกชิงวิ่งราว ภัยจากการข่มขืนอนาจาร ภัยจากการล่อลวง ฉ้อโกง ฯลฯ ถ้าจะมีใครซักคนหนึ่งไม่เคยเจอภัยอะไรเลยในชีวิต บุคคลนั้นถือได้ว่าเป็นบุคคลพิเศษสมควรแก่การยกย่องทีเดียว แต่ละคนคงเคยเจอภัยเล็กบ้าง ใหญ่บ้างมาแล้วคงจะเป็นการยากที่คนเราจะปลอดจากภัยอันตรายที่สร้างความเสียหายแก่เราแต่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้ และไม่ต้องพบกับความสูญเสียโดยไม่จำเป็น ถ้าเราเรียนที่จะสร้างนิสัยระมัดระวัง

    ����� รถยุคใหม่เขาติดสัญญาณเตือนภัย เช่น สัญญาณเตือนเวลาหม้อน้ำแห้ง น้ำมันเครื่องใกล้หมด เวลาถอยรถ ถ้าเข้าใกล้กับสิ่งกีดขวางก็จะมีเสียงเตือน ถ้ายิ่งใกล้เสียงยิ่งดังขึ้น ตามถนนหนทางจะมีป้ายแจ้งเขตอันตรายให้ระวัง ถนนมีหลุมมีบ่อก็มีป้ายให้ระวัง นอกนั้นยังมีป้ายใหญ่ๆติดไว้ให้อ่านเกี่ยวกับอันตราย เช่น ยาอันตราย ภัยจากยาเสพติด ภัยจากการติดเอดส์ ฯลฯ เราไม่สามารถเขียนได้หมดว่ามีป้าย มีสัญญาณเตือนภัยทั้งหมดอะไรบ้าง แต่ที่น่าประหลาดก็คือคนเราไม่สนใจคำเตือน และยิ่งไปกว่านั้นคนเราอยากลองพิสูจน์ว่ามันอันตรายจริงหรือไม่ คนประเภทนี้ที่เขาเรียกว่า "ประมาท" พวกเราจังไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมหลายคนต้องพบกับความเสียหายอย่างที่ไม่น่าจะต้องเกิดขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะไม่สนใจคำเตือน ขาดการระวัง สัญญาณเตือนภัยมีหลายรูปแบบ เช่น ป้าย เครื่องหมาย เสียง นอกจากสัญญาณภายนอกที่กล่าวไปแล้วนั้นยังมีสัญญาณบอกอันตรายจากภายใน เช่น ถ้าขับรถเร็วเกินไป จะมีสัญญาณภายในต่อเราบอกว่ามันกำลังอันตรายต่อการควบคุม เป็นสัญญาณนอกจากสัญชาตญาณ และถ้าเราจะไปทำอะไรที่ผิดจริยธรรม ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ผิดประเพณีนิยมอันดี สัญญาณจากมโนธรรมจะส่งเสียงร้องให้หยุด

    ����� สำหรับผู้ที่เป็นคริสเตียนจะพบว่าในวันอาทิตย์หรือวันอื่นที่เข้าร่วมศึกษาพระคำของพระเจ้า หรือช่วงเวลาที่เฝ้าพระเจ้าเป็นส่วนตัว จะมีหลายช่วงเวลาที่จะมีสิ่งสะกิดใจจากการเรียนการอ่านพระคริสตธรรมคัมภีร์ ชี้ให้เห็นความบกพร่องของชีวิตที่ควรจะแก้ไขดัดแปลง บางครั้งการบรรยายธรรมอาจจี้ใจจี้ความบกพร่องจนเราอาจสะดุ้งโกรธ การแจ้งอันตรายชนิดนี้แรงมากกว่าสัญชาตญาณ มโนธรรม หรือป้ายสัญญาณใดๆ แต่เป็นเสียงจากพระเจ้าให้เราชะลอ หยุด และพิจารณาดูว่าวิถีชีวิตที่กำลังเดินอยู่นั้นกำลังมุ่งไปในทิศทางใด บางครั้งเสียงเตือนก็มาจากผู้มีปัญญา เช่น บิดา มารดา ครู อาจารย์ และเพื่อนสนิท

    ����� ในเมื่อเรามีส่งเตือนภัย มีผู้มีปัญญาเตือนภัย มีเพื่อนคอยเตือนภัย มีสัญชาตญาณ และมโนธรรมคอยเตือนภัย เหนือสุดเรามีพระเจ้าคอยเตือนสติ เตือนภัย

    ����� ของให้เราสนใจ อย่าประมาท อย่าอวดเก่ง อย่างปิดหูปิดตา การฝ่าฝืนการเตือนนำมาซึ้งอันตราย นำความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสุขภาพด้วย ความสูญเสียของเรามีผลกระทบต่อผู้อื่นที่เขาไม่ใช่เป็นฝ่ายประมาทหรือเลินเล่อแต่อย่างไร ขอให้เราแต่ละคน เห็นคุณค่าของชีวิตทั้งของตนเองและผู้อื่น

    วันนี้คุณสังเกตเห็นและได้ยิน และรู้สึกอันตรายอะไรบ้าง โปรดระวังอันตราย!! !!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×