ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [sf] begin
..............................................................
begin
บางคนคิดว่า .. การเริ่มต้นคือจุดจบ แต่สำหรับเด็กตัวเล็กๆผม .. การเริ่มต้นก็มีความหวายตรงตามสิ่งที่ต้องการจะสื่อให้คนทั่วไปได้รับรู้ .. สำหรับจุดเริ่มต้นของผม .. เกิดขึ้นบ่อย .. บ่อยมาก .. บ่อยเสียจนจุดเริ่มต้นที่น่ายินดีกลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย .. มันมาพร้อมกับความเจ็บปวดที่เกินกว่าเด็กอย่างผมจะรับได้
.. สิ่งที่ผมเผชิญอยู่ทุกวัน .. มันคือจุดเริ่มต้น ..
..และจุดเริ่มต้นที่ผมไม่ต้องการ ที่ผมต้องเจอ .. ประสบกับความเจ็บปวด ..ไม่เว้นแม้สักวัน ..
............................................................
begin
เช้าวันหนึ่งในฤดุใบไม้ร่วงที่แสนเบิกบาน เสียงนกกระจิบร้องขานเสียงพริ้งเสนาะหู ใบไม้หลากสีร้วงโรยเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้น ไม่ว่าใครสักคนจะพยายามเก็บซักเท่าไหร่ .. ใบไม้สีแก่เหล่านี้ก็ไม่จางหายเสียที
ความจริงคนที่พยายามจะทำแบบนั้นในฤดูใบไม้ร่วงก็เห็นจะมีแค่ผมคนเดียว .. ผมพยายามเก็บใบไม้สีเข้มที่ร่วงโรยวันแล้ววันเล่ามันก็ไม่ยอมหายไปจากจอรับภาพของผมซักที
ผมเหม่อมองใบไม้สีแก่ที่ตกลงมาจากต้นหูกวางต้นใหญ่ สวนสาธารณะคังโซวอนในยามเช้าสวยงามเสมอ ต้นหูกวางที่ขยันแผ่กิ่งใบสาขาของตัวเองให้กว้างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันแล้ว ใบไม้ที่ร่วงลงมาก็ยิ่งมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ
ผมเตะฝุ่นดินที่กระจัดกระจายอยู่ในสวนสาธารณะ ฝุ่นสีนําตาลขุ่นฟุ้งขึ้นมา แกล้งลอยเข้าม่านตาของผมให้ระคายเคืองแล้วก็สงบลงไปอยู่ที่เดิม
ผมถอนหายใจพรืดก่อนจะวิ่งหอบเอาใบไม้สีนำตาลแก่เต็มอ้อมแขนเล็กๆไปทิ้งที่ถังขยะ จากนั้นก็เดินเลยมาจนถึงชิงช้าสีสนิมเหล็กที่มีร่องรอยความใหม่ปรากฎให้เห็นอยู่เลือนลาง ชิงช้าสีเหลืองสนิมแกว่งไกวเพราะแรงลม ผมนั่งปุ๊กลงบนหนึ่งในชิงช้าเหล่านั้น ใช้มือเล็กๆขยี้ตา แต่มันกลับทำให้ผมแสบขึ้นเรื่อยๆ
ผมกลั้นใจรอจนความระคายเคืองหายไป ยิ้มกว้างให้กับพระอาทิตย์สีสวยที่โผล่พ้นขอบอรุณ เฝ้ามองที่ถนนใหญ่สีดำสนิทที่ติดกับสวนสาธารณะคังโซวอน ไร้ยวดยานใดๆเลยปรากฎให้เห็นในยามเช้าตรู่เช่นนี้
เส้นผมละเอียดสีดำสนิทลอยละล่องขึ้นไปบนอากาศเพียงชั่วครู่และตกลงมาอยู่ข้างๆแก้มของผม เส้นไหมนิ่มคลอเคลียอยู่กับผิวแก้มของผมอยู่ชั่วครู่
ผมเหลือบมองนาฬิกาที่บรรจุอยู่ในกรอบอะลูมิเนียมทรงสูง เข็มสั้นชี้เลยเลขเจ็ดไปเพียงห้านาที บางคนคิดว่ามันเป็นเวลาที่แสนจะสดชื่น แต่สำหรับผมแล้ว.. มันเป็นเวลาที่แสนจะเกลียดชังและจุดเริ่มต้นที่น่ารังเกียจ
ผมค่อยๆก้าวเตาะแตะไปทางภนนใหญ่ ดวงตาสีดำสนิทก้มมองรองเท้าแตะสีฟ้าใส ชายเสื้อเชิ้ตตัวเก่งลอยล้อกับลมที่มีกลิ่นอายแห่งวันใหม่
ผมหยุดอยู่ตรงริมฟุตบาทของสวนสาธารณะ สายตาหลุบลงตำ พยายามยอมรับกับจุดเริ่มต้นที่กำลังจะเกิด หากแต่ว่าพยายามเท่าไหร่ก็ไม่เคยทำได้เลยเสียที มันยังคงคอยตามหลอกหลอนผม
รถตู้สีดำสนิทราวกับสัญญาณของยมทูตแล่นมาด้วยความรวดเร็ว .. จุดเริ่มต้นของผมใกล้เข้ามาแล้ว..
พริบตาเท่านั้น ร่างเล็กๆสีซีดราวกับคนป่วยของผมก็ไปเด่นหราอยู่กลางถนนสีมืดมิด เสื้อสีฟ้าช่างมองดูน้อยนิดเหลือเกินเมื่อเทียบกับสีดำของถนนหยาบ
ชั่ววินาทีที่จุดเริ่มต้นจบลง คว่มรู้สึกปวดร้าวทั่วสรรพางค์กายแล่นริ้วจนชิ้นเนื้อแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมมองดูเลือดที่ไหลออกมาจากทั่วทุกอณูของผิวหนัง ชายเสื้อสีฟ้าที่เปียกชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงเข้มแนบลู่อยู่กับลำตัวสีซีด
ผมปิดเปลือกตาลงและยอมรับกับความเจ็บปวด เสียงคนพูดคุยดังเซ็งแซ่จนน่ารำคาญ ผมจมดิ่งสู่ความมืดมิดของจุดเริ่มต้นอย่างอ้อยอิ่ง .. ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
..............................................................................
เหม่อมองดวงตะวันสีจ้าที่โผล่พ้นขอบฟ้าอีกครั้ง ผมหยิบใบไม้ที่ร่วงโรยลงมาไว้เต็มกำมือ วิ่งไปที่ถังขยะและปล่อยพวกมันลงไป หัวเราะเล็กน้อยเมื่อมองเห็นชายเสื้อสีฟ้าสะบัดไปมาเหมือนกับโดนผีเข้า
เช่นเดีญวกันกับเวลาที่เคยผ่านพ้นมา ผมเหลือบไปมองนาฬิกาที่ถูกบรรจุในอะลูมิเนียมซึ่งตั้งอยู่สูงสง่า เข็มสั้นเลยเลขเจ็ดไปเป็นเวลา 4 นาที ผมถินหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง
ก้าวเตาะแตะไปยังริมถนน รองเท้าสีฟ้าที่ทรงตัวอยู่บนไหล่ถนนแสนหมิ่นเหม่ กาวงเกงยีนส์ขาสั้นที่ดูราวกับว่ามันยาวเหลือเกินเมื่อใช้สายตาของตัวเองมอง
ราวกับจัดวาง ยมทูตสีมืดมิดแล่นเรวฉิวแงกับเวลาที่ช่างเหลือน้อยนิด ผมพยายามทำใจที่จะยอมรับความเจ็บปวด
เวลาที่ถูกกำหนดให้เป็นจุดเริ่มต้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงรองเท้าแตะสีฟ้าใสของผมกระทบกับพื้นถนนกว้างใหญ่ เพียงแต่วันนี้ .. ผมรู้สึกดีกว่าทุกวัน .. มันอาจเป็นเพียงเพราะว่าผมเบื่อหน่ายแล้วก็ตาม .. หรืออาจจะดีกว่านั้นเป็นไหนๆ
รถตู้สีดำมืดเคลื่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ชั่วแวบหนึ่งที่ผมเห็นเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งและรอยยิ้มละลายใจที่ส่งมาให้ผม สีหน้าของเด็กคนนั้นเปลี่ยนเป็นตระหนกตกใจเมื่อเห็นยานพาหนะแล่นใกล้เข้ามา และเพียงชั่วครู่ที่ผมไม่สามารถรับรู้อะไรอีก จุดเริ่มต้นสิ้นสุดลงแล้ว ..
..............................................................................
เช้านี่ผ่านไปเร็วยิ่งกว่าที่เคย เผลอไม่ทันไร เวลาแห่งจุดเริ่มต้นก็เคลื่อนเข้ามาเสียแล้ว ไม่มีเวลาแม้แต่จะให้ผมได้ดื่มดำกับความสวยงามในยามเช้าของกรุงโซล
เคลื่อนกายไปยังกลางถนนเหมือนทุกๆที ผมหลับตาลงและภาวนาขอให้มันผ่านไปเร็วรี่ ลมแรงยังคงตีรับกับใบหน้าของผม
เสียงเอะอะดังขึ้นจากรอบด้าน เพียงชั่วครู่ที่รู้สึกเหมือนโดนฉุดให้ขึ้นจากความมืดมิด แรงกระชากที่แสนรุนแรงทำให้ผมใจเสีย หรือว่าวันนี้ท่านยมทูตหวังจะให้ผมเจ็บปวดเกินกว่าปกติ .. แต่มันก็เท่านั้น..
เมื่อเปิดเปลือกตาเพื่อปรับภาพข้างหน้า รอยยิ้มของเด็กผู้ชายตัวสูงและดวงตาเป็นประกายก็ปรากฎชัดเกินเสียแล้ว เด็กคนนั้นใช้มือฉุดดึงผมให้ลุกขึ้นหลังจากที่ล้มกลิ้งไม่เป็นท่า
"นาย.. เป็นอะไรรึเปล่า"ถามด้วยความห่วงใย ดวงตาเรียวมีเสน่ห์จ้องมองตามตัวผมอย่างใคร่รู้
"เปล่า .."ตอบได้เพียงเท่านี้จริงๆ เหลือบมองนาฬิกาใหญ่ที่สวนสาธารณะชั่วครู่ ความปิติพลุ้งพล่านอยู่ทั่วร่าง
"ดีแล้วล่ะ .. แล้วนาย.. เมื่อวานชั้นเห็นนะ"ผมถึงกับหน้าถอดสีเมื่อเด็กชายพูดอย่างนั้น ใบหน้าซีดเซียวขึ้นไปอีกราวกับกระดาษ
"ช่างเหอะ จะสนทำไมเล่า .. ไปบ้านชั้นกันเถอะ ที่นั่นมีทุกอย่าง"พูดอย่างอารมณ์ดี เด็กหนุ่มยิ้มกว้างสดใสราวกับดอกทานตะวัน
"ชั้น... ชั้น .. ไม่รู้"พูดตะกุกตะกักด้วยความสับสน หลังจากที่ผมประมวลผลอยู่นาน หากไม่ไปกับคนคนนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ที่ไหน ดีไม่ดี .. อาจจะต้องพบกับจุดเริ่มต้น ณ ที่ใดที่หนึ่ง
"แปลว่านายตกลง งั้นไปกันเถอะนะ~ ชั้นชอบนายแล้วล่ะซี่"ยิ้มเผล่และคว้าข้อมือของผมมุ่งตรงไปยังบ้ายหลังสวยสีขาว
"อ..เอ่อ นาย"
"ชั้นชื่อชอง ยุนโฮ จำไว้นะ~"เอ่ยอย่างร่าเริงรับกับนำเสียง ผมพยักหน้าด้วยความดีใจ
"ชั้น.. ชั้นชื่อ คิม แจจุง ..แจจุง "เอ่ยพลางยิ้มหวาน ชื่อที่ผุดโผล่ขึ้นมาในหัวสมองอันขาวโพลน มิตรภาพครั้งใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนจุดเริ่มต้น
... จุดเริ่มต้น .. ไม่เลวร้าย ไม่โหดร้าย..
..จุดเริ่มต้นที่น่ายินดี มิตรภาพที่เริ่มถักทอ..
Let's begin ..
[End]
............................................................................................
begin
บางคนคิดว่า .. การเริ่มต้นคือจุดจบ แต่สำหรับเด็กตัวเล็กๆผม .. การเริ่มต้นก็มีความหวายตรงตามสิ่งที่ต้องการจะสื่อให้คนทั่วไปได้รับรู้ .. สำหรับจุดเริ่มต้นของผม .. เกิดขึ้นบ่อย .. บ่อยมาก .. บ่อยเสียจนจุดเริ่มต้นที่น่ายินดีกลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย .. มันมาพร้อมกับความเจ็บปวดที่เกินกว่าเด็กอย่างผมจะรับได้
.. สิ่งที่ผมเผชิญอยู่ทุกวัน .. มันคือจุดเริ่มต้น ..
..และจุดเริ่มต้นที่ผมไม่ต้องการ ที่ผมต้องเจอ .. ประสบกับความเจ็บปวด ..ไม่เว้นแม้สักวัน ..
............................................................
begin
เช้าวันหนึ่งในฤดุใบไม้ร่วงที่แสนเบิกบาน เสียงนกกระจิบร้องขานเสียงพริ้งเสนาะหู ใบไม้หลากสีร้วงโรยเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้น ไม่ว่าใครสักคนจะพยายามเก็บซักเท่าไหร่ .. ใบไม้สีแก่เหล่านี้ก็ไม่จางหายเสียที
ความจริงคนที่พยายามจะทำแบบนั้นในฤดูใบไม้ร่วงก็เห็นจะมีแค่ผมคนเดียว .. ผมพยายามเก็บใบไม้สีเข้มที่ร่วงโรยวันแล้ววันเล่ามันก็ไม่ยอมหายไปจากจอรับภาพของผมซักที
ผมเหม่อมองใบไม้สีแก่ที่ตกลงมาจากต้นหูกวางต้นใหญ่ สวนสาธารณะคังโซวอนในยามเช้าสวยงามเสมอ ต้นหูกวางที่ขยันแผ่กิ่งใบสาขาของตัวเองให้กว้างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันแล้ว ใบไม้ที่ร่วงลงมาก็ยิ่งมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ
ผมเตะฝุ่นดินที่กระจัดกระจายอยู่ในสวนสาธารณะ ฝุ่นสีนําตาลขุ่นฟุ้งขึ้นมา แกล้งลอยเข้าม่านตาของผมให้ระคายเคืองแล้วก็สงบลงไปอยู่ที่เดิม
ผมถอนหายใจพรืดก่อนจะวิ่งหอบเอาใบไม้สีนำตาลแก่เต็มอ้อมแขนเล็กๆไปทิ้งที่ถังขยะ จากนั้นก็เดินเลยมาจนถึงชิงช้าสีสนิมเหล็กที่มีร่องรอยความใหม่ปรากฎให้เห็นอยู่เลือนลาง ชิงช้าสีเหลืองสนิมแกว่งไกวเพราะแรงลม ผมนั่งปุ๊กลงบนหนึ่งในชิงช้าเหล่านั้น ใช้มือเล็กๆขยี้ตา แต่มันกลับทำให้ผมแสบขึ้นเรื่อยๆ
ผมกลั้นใจรอจนความระคายเคืองหายไป ยิ้มกว้างให้กับพระอาทิตย์สีสวยที่โผล่พ้นขอบอรุณ เฝ้ามองที่ถนนใหญ่สีดำสนิทที่ติดกับสวนสาธารณะคังโซวอน ไร้ยวดยานใดๆเลยปรากฎให้เห็นในยามเช้าตรู่เช่นนี้
เส้นผมละเอียดสีดำสนิทลอยละล่องขึ้นไปบนอากาศเพียงชั่วครู่และตกลงมาอยู่ข้างๆแก้มของผม เส้นไหมนิ่มคลอเคลียอยู่กับผิวแก้มของผมอยู่ชั่วครู่
ผมเหลือบมองนาฬิกาที่บรรจุอยู่ในกรอบอะลูมิเนียมทรงสูง เข็มสั้นชี้เลยเลขเจ็ดไปเพียงห้านาที บางคนคิดว่ามันเป็นเวลาที่แสนจะสดชื่น แต่สำหรับผมแล้ว.. มันเป็นเวลาที่แสนจะเกลียดชังและจุดเริ่มต้นที่น่ารังเกียจ
ผมค่อยๆก้าวเตาะแตะไปทางภนนใหญ่ ดวงตาสีดำสนิทก้มมองรองเท้าแตะสีฟ้าใส ชายเสื้อเชิ้ตตัวเก่งลอยล้อกับลมที่มีกลิ่นอายแห่งวันใหม่
ผมหยุดอยู่ตรงริมฟุตบาทของสวนสาธารณะ สายตาหลุบลงตำ พยายามยอมรับกับจุดเริ่มต้นที่กำลังจะเกิด หากแต่ว่าพยายามเท่าไหร่ก็ไม่เคยทำได้เลยเสียที มันยังคงคอยตามหลอกหลอนผม
รถตู้สีดำสนิทราวกับสัญญาณของยมทูตแล่นมาด้วยความรวดเร็ว .. จุดเริ่มต้นของผมใกล้เข้ามาแล้ว..
พริบตาเท่านั้น ร่างเล็กๆสีซีดราวกับคนป่วยของผมก็ไปเด่นหราอยู่กลางถนนสีมืดมิด เสื้อสีฟ้าช่างมองดูน้อยนิดเหลือเกินเมื่อเทียบกับสีดำของถนนหยาบ
ชั่ววินาทีที่จุดเริ่มต้นจบลง คว่มรู้สึกปวดร้าวทั่วสรรพางค์กายแล่นริ้วจนชิ้นเนื้อแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมมองดูเลือดที่ไหลออกมาจากทั่วทุกอณูของผิวหนัง ชายเสื้อสีฟ้าที่เปียกชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงเข้มแนบลู่อยู่กับลำตัวสีซีด
ผมปิดเปลือกตาลงและยอมรับกับความเจ็บปวด เสียงคนพูดคุยดังเซ็งแซ่จนน่ารำคาญ ผมจมดิ่งสู่ความมืดมิดของจุดเริ่มต้นอย่างอ้อยอิ่ง .. ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
..............................................................................
เหม่อมองดวงตะวันสีจ้าที่โผล่พ้นขอบฟ้าอีกครั้ง ผมหยิบใบไม้ที่ร่วงโรยลงมาไว้เต็มกำมือ วิ่งไปที่ถังขยะและปล่อยพวกมันลงไป หัวเราะเล็กน้อยเมื่อมองเห็นชายเสื้อสีฟ้าสะบัดไปมาเหมือนกับโดนผีเข้า
เช่นเดีญวกันกับเวลาที่เคยผ่านพ้นมา ผมเหลือบไปมองนาฬิกาที่ถูกบรรจุในอะลูมิเนียมซึ่งตั้งอยู่สูงสง่า เข็มสั้นเลยเลขเจ็ดไปเป็นเวลา 4 นาที ผมถินหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง
ก้าวเตาะแตะไปยังริมถนน รองเท้าสีฟ้าที่ทรงตัวอยู่บนไหล่ถนนแสนหมิ่นเหม่ กาวงเกงยีนส์ขาสั้นที่ดูราวกับว่ามันยาวเหลือเกินเมื่อใช้สายตาของตัวเองมอง
ราวกับจัดวาง ยมทูตสีมืดมิดแล่นเรวฉิวแงกับเวลาที่ช่างเหลือน้อยนิด ผมพยายามทำใจที่จะยอมรับความเจ็บปวด
เวลาที่ถูกกำหนดให้เป็นจุดเริ่มต้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงรองเท้าแตะสีฟ้าใสของผมกระทบกับพื้นถนนกว้างใหญ่ เพียงแต่วันนี้ .. ผมรู้สึกดีกว่าทุกวัน .. มันอาจเป็นเพียงเพราะว่าผมเบื่อหน่ายแล้วก็ตาม .. หรืออาจจะดีกว่านั้นเป็นไหนๆ
รถตู้สีดำมืดเคลื่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ชั่วแวบหนึ่งที่ผมเห็นเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งและรอยยิ้มละลายใจที่ส่งมาให้ผม สีหน้าของเด็กคนนั้นเปลี่ยนเป็นตระหนกตกใจเมื่อเห็นยานพาหนะแล่นใกล้เข้ามา และเพียงชั่วครู่ที่ผมไม่สามารถรับรู้อะไรอีก จุดเริ่มต้นสิ้นสุดลงแล้ว ..
..............................................................................
เช้านี่ผ่านไปเร็วยิ่งกว่าที่เคย เผลอไม่ทันไร เวลาแห่งจุดเริ่มต้นก็เคลื่อนเข้ามาเสียแล้ว ไม่มีเวลาแม้แต่จะให้ผมได้ดื่มดำกับความสวยงามในยามเช้าของกรุงโซล
เคลื่อนกายไปยังกลางถนนเหมือนทุกๆที ผมหลับตาลงและภาวนาขอให้มันผ่านไปเร็วรี่ ลมแรงยังคงตีรับกับใบหน้าของผม
เสียงเอะอะดังขึ้นจากรอบด้าน เพียงชั่วครู่ที่รู้สึกเหมือนโดนฉุดให้ขึ้นจากความมืดมิด แรงกระชากที่แสนรุนแรงทำให้ผมใจเสีย หรือว่าวันนี้ท่านยมทูตหวังจะให้ผมเจ็บปวดเกินกว่าปกติ .. แต่มันก็เท่านั้น..
เมื่อเปิดเปลือกตาเพื่อปรับภาพข้างหน้า รอยยิ้มของเด็กผู้ชายตัวสูงและดวงตาเป็นประกายก็ปรากฎชัดเกินเสียแล้ว เด็กคนนั้นใช้มือฉุดดึงผมให้ลุกขึ้นหลังจากที่ล้มกลิ้งไม่เป็นท่า
"นาย.. เป็นอะไรรึเปล่า"ถามด้วยความห่วงใย ดวงตาเรียวมีเสน่ห์จ้องมองตามตัวผมอย่างใคร่รู้
"เปล่า .."ตอบได้เพียงเท่านี้จริงๆ เหลือบมองนาฬิกาใหญ่ที่สวนสาธารณะชั่วครู่ ความปิติพลุ้งพล่านอยู่ทั่วร่าง
"ดีแล้วล่ะ .. แล้วนาย.. เมื่อวานชั้นเห็นนะ"ผมถึงกับหน้าถอดสีเมื่อเด็กชายพูดอย่างนั้น ใบหน้าซีดเซียวขึ้นไปอีกราวกับกระดาษ
"ช่างเหอะ จะสนทำไมเล่า .. ไปบ้านชั้นกันเถอะ ที่นั่นมีทุกอย่าง"พูดอย่างอารมณ์ดี เด็กหนุ่มยิ้มกว้างสดใสราวกับดอกทานตะวัน
"ชั้น... ชั้น .. ไม่รู้"พูดตะกุกตะกักด้วยความสับสน หลังจากที่ผมประมวลผลอยู่นาน หากไม่ไปกับคนคนนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ที่ไหน ดีไม่ดี .. อาจจะต้องพบกับจุดเริ่มต้น ณ ที่ใดที่หนึ่ง
"แปลว่านายตกลง งั้นไปกันเถอะนะ~ ชั้นชอบนายแล้วล่ะซี่"ยิ้มเผล่และคว้าข้อมือของผมมุ่งตรงไปยังบ้ายหลังสวยสีขาว
"อ..เอ่อ นาย"
"ชั้นชื่อชอง ยุนโฮ จำไว้นะ~"เอ่ยอย่างร่าเริงรับกับนำเสียง ผมพยักหน้าด้วยความดีใจ
"ชั้น.. ชั้นชื่อ คิม แจจุง ..แจจุง "เอ่ยพลางยิ้มหวาน ชื่อที่ผุดโผล่ขึ้นมาในหัวสมองอันขาวโพลน มิตรภาพครั้งใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนจุดเริ่มต้น
... จุดเริ่มต้น .. ไม่เลวร้าย ไม่โหดร้าย..
..จุดเริ่มต้นที่น่ายินดี มิตรภาพที่เริ่มถักทอ..
Let's begin ..
[End]
............................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น