ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {EXO} NEVER :Chanbaek Ft.EXO

    ลำดับตอนที่ #23 : CB:22

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 622
      7
      9 พ.ค. 60

      




          หลังจากวันที่โบยองขึ้นเครื่องไปอังกฤษผมก็กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกอย่างแต่ก็มีติดต่อกับเธอบ้างอาทิตย์ละครั้งสองครั้งจนตอนนี้ผ่านมาเป็นเวลาห้าปีกว่าๆแล้ว ผมเรียนจบและเข้าทำงานที่บริษัทของครอบครัวอย่างเป็นทางการโดยที่ป๊ากับม๊าของผมให้เลือกลงบริหารอยู่สองที่ผมก็เลือกที่จะลงที่เกาหลีนี่แหละและอีกหนึ่งที่ก็คืออังกฤษเพื่อที่เวลาไปดูงานที่นั้นผมจะได้แวะไปหาลูกของผมด้วยอย่างเช่นตอนที่โบยองคลอดผมก็ไปหาซึ่งตอนนั้นผมก็อยู่ปีสี่และกำลังฝึกงานอยู่ในบริษัทบยอนกรุ๊ปโดยให้เหตุผลกับทางบ้านว่าไปดูงานไปกับเทาเพื่อนสนิทของผมนั้นแหละชานยอลที่ตอนแรกจะมาด้วยแต่ผมก็ห้ามไว้ก่อนและเขาก็เลี่ยงไม่ได้กับคำห้ามเพราะตัวเขาเองก็มีงานที่ต้องไปดูอยู่อเมริกาเหมือนกัน เราสองคนต่างก็มีบริษัติทำงานของตัวเองทั้งคู่ชานยอลสืบสารงานของตระกูลปาร์คส่วนผมก็ของบยอนถึงผมจะแต่งงานกับเขาแต่ผมก็ยังต้องทำงานของบยอนอยู่ดี ชานยอลเลือกที่จะลงบริษัทที่เกาหลีและอเมริกา และอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมให้โบยองไปอยู่ที่อังกฤษก็เพราะทางปาร์คไม่ได้มีเครือข่ายบริษัทที่นั้นทำให้ชานยอลไม่มีธุระอะไรให้ไปอังกฤษนอกเสียจากอยากจะไปเที่ยว ส่วนเรื่องลูกของผมก็ยังเป็นความลับต่อไปถึงเจสเปอร์จะอายุได้ห้าขวบแล้วก็ตาม และผมจะไปหาลูกเดือนละครั้งไปพร้อมๆกับที่ชานยอลต้องบินไปอเมริกานั้นแหละ



           "ชานยอลเดือนนี้คุณจะไปอเมริกาวันไหนหรอคับ"ก็เพราะว่าต้องไปดูงานทำให้ต้องไปทุกเดือนยังไงล่ะ


           "จันทร์หน้า มึงล่ะ"


           "พร้อมชานยอลนั้นแหละคับ"


           "อยากไปอังกฤษกับมึงบ้างจัง"จากที่นั่งอ่านเอกสารอยู่ดีๆร่างสูงก็เอนหัวลงมาซบไหล่ผมที้นั่งอยู่ข้างๆกัน


          "แบคก็อยากไปอเมริกากับชานยอลนะ"ผมเอนหัวลงไปทับหัวคนเอนมาก่อนอย่างหยอกล้อ ก็บอกแล้วว่าทุกอย่างหน่ะเหมือนเดิม


           "แต่มึงไม่ชอบให้กูไปด้วย"


           "ก็ชานยอลไม่ชอบฤดูที่อังกฤษนี่คับ แบคไม่อยากพาคุณไปให้เบื่ออ่ะ"ก็เพราะว่ารู้อย่างนั้นนี่แหละถึงเลือกที่นั้น


           "แต่มึงก็ยังเลือกไปทำที่นั้นเนี้ยนะ"เราสองคนพูดเถียงกันแบบไม่ได้มองหน้ากันเลยสักนิดแต่ล่ะคนก็มองเอกสารในมือของตัวเอง


            "ก็ผมชอบนี่นาา"


            "ให้มันจริงเถ้อออ ไม่ใช่ไปซุกเมียน้อยไว้ที่นั้นหรอกหรอ"ผมชะงักกับคำพูดของชานยอลเหลือบมองเขาแต่ก็ต้องโล่งอกเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มองหน้าผม


            "ทำไมคับ ถ้าซุกแล้วจะทำยังไงกับแบคหรอ"ผมถามเสียงกลั้วหัวเราะแต่มีความขมขื่นในใจเต็มไปหมด


            "ก็ไม่ทำไง ก็แค่มึงจะไม่ได้เห็นกูอีกก็เท่านั้น"


            "โหดจังน้าแฟนใครเนี้ยหยวนๆให้กันหน่อยไม่ได้หรือยังไงคับ"ผมผละออกมาจุ้บลงที่แก้มเขาอย่างกลบเกลื่อน


            "ถึงกูจะรักมึงมากๆแต่กูก็ไม่ได้จะยอมมึงขนาดนั้นนะแบคฮยอน"เขาผละออกมาจ้องตาผมอย่างจริงจัง


            "ฮ่ะๆๆเครียดอะไรคับนั้นผมก็แค่พูดหยอกเองนะ แหมใครจะไปทำร้ายคนที่ตัวเองรักได้ลงกันเนอะ"พูดออกไปด้วยด้วยท่าทีเล่นๆก็จริงแต่คำพูดที่ออกมาทำให้ผมปวดใจแทบบ้าเมื่อแท้จริงแล้วมันสวนทางกันทั้งหมด


            "ก็แค่อยากให้มึงรู้ว่ากูจริงจังกับเรื่องแบบนี้มาก"


            "ไม่เอาไม่ซีเรียสคับชานยอลก็รู้ว่าผมไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ มาดูนี่ดีกว่าคับ ผมเห็นมันลงประกาศขายในเว็บบ้านพักตากอากาศติดทะเลอยู่ประเทศไทยน่าสนมาก"ผมยื่นไอแพดไปตรงหน้าร่างสูง


            "ที่นี่ก็มีแล้วจะเอาอีกทำไมที่นู้น เปลือง"เขาทำหน้าเหมือนกำลังดุเด็ก


            "ก็ผมอยากเก็บเอาไว้นี่ผมยังไม่มีบ้านพักริมทะเลที่ไทยเลยนะ"


            "เห้อ ไปนอนเหอะเลิกเพ้อเจ้อได้ล่ะ ไป้ๆ"ง่ะนอกจากจะไม่สนใจสิ่งที่ผมพูดแล้วยังไล่กันไปนอนอีก


            "คุณชานยอลไปนอนก่อนเลยคับเดี๋ยวผมต้องอยู่เคลียร์งานต่อ"


            "พูดเพราะไปอีกกก"


            "คับ"


             "หื้มม งอนอะไรคะคนดี"ยัง ยังไม่รู้ตัวอีกนี่แต่ก่อนผมก็ไม่ใช่คนอย่างนี้นะคับแต่ตั้งแต่มาอยู่กับชานยอลผมก็เป็นสายแบ้วไปเลย งงในงงมากคับ


             "เปล่าคับ ผมบอกไปแล้วนี่ว่ากำลังจะเคลียร์งาน"


             "ค่ะๆงั้นชานนั่งเป็นเพื่อนเนอะเดี๋ยวรอนอนพร้อมกัน"เขาเอาแขนแกร่งมาโอบรอบเอวผมกระชับแล้วเอาคางเกยไว้ที่ไหล่อย่างออดอ้อนและทุกครั้งที่เขาจะง้อผมก็ไม่พลาดที่จะงัดการพูดการทำตัวอย่างนี้ตลอดซึ่งมันทำให้ผมใจอ่อนยวบทุกทีที่ได้ยิน เจองี้ผมแทบบ้าเลยคับ


              "เสร็จแล้วคับ"ผมเก็บของทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานวางไว้ที่โต๊ะหันไปบอกร่างสูง คนถูกบอกรับรู้พยักหน้ารับและยืนขึ้นเต็มความสูงออกเดินโดยไม่พ้นที่เขาต้องเอามือมาคว้าอวัยวะเดียวกันเพื่อที่จะได้จูงผมเข้าไปนอน เขาทำอย่างนี้ทุกวันจนเป็นความเคยชินของเราทั้งคู่และไม่ว่าจะโตแค่ไหนแต่พออยู่กับเขาทำไมผมถึงได้กลายเป็นเด็กไปเลยนะ


            "ฝันดีนะคะแบค" คะเคอะอะไรเล่าาา




              "เปลี่ยนใจไปอังกฤษตอนนี้ทันมั๊ยเนี้ย"คนต้องไปอเมริกาอิดออดอยากเปลี่ยนประเทศที่ไปแต่ใครจะให้ทำแบบนั้นกัน 

             "แน่ะ ชานยอลไม่งอแงสิคับอาทิตย์เดียวเองเน้อะ"นี่กอดตอบพลางลูบหลังคนงอแงขึ้นลง เป็นอย่างนี้ทุกทีเลยสินะชานยอลเนี้ยงอแงเป็นเด็กๆตลอดนี่ไปบ่อยขนาดนี้ก็ควรชินมั๊ยล่ะแหม

             "มึงไม่คิดถึงกูรึไง"ใครบอกยิ่งอายุเยอะขึ้นแล้วจะโตขึ้นกันนะ ดูคนๆนี้สิเขายิ่งโตเขายิ่งเหมือนเด็กขึ้นทุกวันเสียอีก

             "คิดถึงหน่ะมันก็คิดถึงนั้นแหละคับแต่ทำไงได้ล่ะเน้อะมันเป็นงานนะคับ"พูดปลอบคนโตแต่ตัววนไปสิคับ คนอะไรเนี้ยดื้อจริงๆแต่ก่อนก็เป็นคนห่ามๆแท้ๆ

            "คับๆ งานก็งานแล้วก็ขอให้มึงไปทำงานจริงๆด้วยนะคับแบคอย่าไปควงสาวที่ไหนเหมือนครั้งนั้นอีกล่ะไอ่สัสไม่งั้นมึงเจอกูอีกแน่"โอโหห ตอนแรกก็ละมุนนะคับหลังๆนี่ขู่กันเลยทีเดียวผมที่ได้ยินนี่ขนลุกซู่ รู้สึกผิดอีกครั้งที่ไปดูงานครั้งที่แล้วผมต้องไปคุยงานกับลูกค้าที่อังกฤษตอนคุยทางโทรศัพท์ก็เป็นผู้ชายแต่พอนัดคุยกันนอกสถานที่และที่นั้นก็เป็นสถานบันเทิงสุดหรูที่อยู่ในโรงแรมชั้นนำของอังกฤษอีกด้วย และด้วยความที่ผมไม่ชอบดูข่าวสารบันเทิงดาราอะไรพวกนั้นผมจึงตกเป็นข่าวเดทกับหญิงสาวที่ตอนแรกนึกว่าเป็นแค่นักธุรกิจเฉยๆแต่ดันกลายเป็นซุปตาร์สาวดาวรุ่งซะได้ หนังสือพิมพ์หรือสื่อออนไลน์ต่างๆ ต่างก็ออกข่าวเรื่องผมกับดาราดังคนที่ไม่รู้จักผมก็ต้องมาสืบประวัติจนผมต้องออกมาแถลงข่าวกันเลยทีเดียวและตอนแรกที่ชานยอลเห็นข่าวนะโทรหาผมและด่ายาวๆจนผมอธิบายไม่ทันแต่พอผมได้อธิบายเท่านั้นแหละเสียงอ่อนลงเยอะเชียว


           "โธ ครั้งที่แล้วก็งานนะคับ"ผมผละออกมาจ้องหน้าชานยอลและมั่นใจแน่ๆว่าตอนนี้ปากของผมกำลังยิ้มอยู่อย่างไม่อาจห้ามได้

           "ยิ้มทำไมแบบนี้ ยิ้มแบบนี้กูไม่อยากไปไหนแล้วนะ"เขาขมวดคิ้วขึ้นทำหน้าหงุดหงิดแต่สำหรับผมมันน่ารักเอามากๆ

            "ไปคับไป ได้เวลาแล้วนะ"

            "อืม ถึงล่ะบอกด้วยนะ"


      

               หลังจากที่ล่ำลากันอยู่นานต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปขึ้นเครื่องของตน เวลาผ่านไปเร็วมากเพราะตอนนี้ผมอยู่ที่อังกฤษแล้วและกำลังนั่งรถที่คนขับรถที่บริษัทส่งมารับเลขาจอมจุ้นที่ชอบทำอะไรตามใจอยู่เรื่อยและคนๆนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่แจ็กสันที่มารออยู่ก่อนแล้ว


             "สวัสดีค่ะคุณท่าน"เมื่อผมก้าวเข้ามาในคฤหาสน์หลังเล็กที่เป็นที่พักอาศัยของโบยองและเจสเปอร์ ก็มีแม่บ้านเดินเข้ามาต้อนรับทันที และอีกเรื่องนึงที่อยากจะเล่าก็คือตั้งแต่ผมเรียนจบก็เข้ามาบริหารงานที่อังกฤษโดยขึ้นเป็นประธานบริษัทหรือบอสของงานอื่นๆที่มีอยู่ที่นี่ทั้งหมดจนจากที่เรียกผมว่าคุณชายเล็กก็เปลี่ยนเป็นคุณท่านที่เป็นชื่อเรียกที่ใช้เรียกป๊าผมเมื่อก่อนสมัยยังดำรงตำแหน่งอีกด้วย

             "คับ เจสเปอร์ล่ะคับ"ผมตอบรับและรีบถามหาเจ้าตัวดื้อทันที

             "นายน้อยนั่งเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านค่ะ"ได้ยินคำถามคนเป็นแม่บ้านก็รีบตอบทันที

             "ขอบคุณคับ"ยิ้มให้แกเล็กน้อยเป็นมารยาทเสร็จก็เดินตรงมาที่ที่แม่บ้านบอกทันที


              เดินมาถึงก็เห็นเด็กตัวเล็กนั่งลงกับพื้นหญ้าและกำลังใช้เก้าอี้เป็นโต๊ะเพื่อที่จะขีดเขียนได้ถนัดสีน้ำเลอะตัวเลอะหน้าของคนเขียนเล็กน้อยแต่มันยิ่งเพิ่มความน่ารักน่าเอ็นดูเสียมากมาย เขาเป็นเด็กที่ผมเห็นหน้าครั้งแรกก็รู้ได้ทันทีว่านี่เป็นลูกของผมโดยจริงแท้แน่นอนไม่ว่าจะตาจมูกปากนั้นมันเหมือนของผมไปซะเกือบหมดยังกับถอดแบบกันออกมาส่วนได้แม่ก็คงจะเป็นขนตา ใช่ผมว่ามีแค่ส่วนนี้เท่านั้นแหละที่เหมือนแม่เพราะขนาดนิสัยเจสเปอร์ยังเหมือนกับผมเลย ดูอย่างตอนนี้ที่เขามานั่งเล่นที่สวนสิ โบยองน่ะเขาไม่ค่อยชอบธรรมชาติสงบๆแบบนี้เท่าไหร่หรอกนะแต่เจสเปอร์นี่ชอบซะจนต้องมานั่งทุกวันไม่ได้นั่งวันไหนก็จะนิ่งๆไปจนผมต้องสร้างห้องสวนเทียมให้เขาเลยเป็นห้องกระจกใสโดยรอบสามารถมองเห็นข้างนอกได้หลังคาก็เป็นกระจกและมองเห็นท้องฟ้าได้ห้องนี้เขาจะใช้ก็ต่อเมื่อฝนตกและที่อังกฤษก็ตกเอาบ่อยมากๆจึงเป็นสาเหตุให้ผมต้องสร้างมันขึ้นมา


           "โอ๊ะโอออ ใครมาเอ่ยย"หลังจากที่ผมยืนดูลูกอยู่นานก็เอ่ยทักขึ้นคนโดนทักได้ยินหันมาทำตาเบิกกว้างพร้อมรอยยิ้มที่ผมไม่คิดที่จะทำลายมัน เข้าใจใหม่นะคับผมรักลูกมากแต่ผมดันไม่เคยรักแม่ของเขาเลยไม่ว่าผมจะพยายามดูแล้วแต่มันก็ไม่เป็นผลเพราะถ้ามันจะรักผมก็คงไม่ต้องพยายาม

            "คุณแด๊ดด"เจ้าตัวเล็กวางทุกสิ่งทุกอย่างในมือลงและวิ่งตรงดิ่งมาทางผม

            "แด๊ดคิดถึงคุณเจสเปอร์นะคับ"ผมย่อตัวรับร่างน้อยเอาไว้และผมกับลูกก็ติดการเรียกแบบนี้กันไปซะแล้ว

            "เจสเปอร์คิดถึงคุณแด๊ดจังคับ"

            "ไปอยู่กับแด๊ดมั๊ยคับ"เป็นเรื่องที่ผมชอบพูดอยู่ตลอดอยากเอาเขาไปอยู่ด้วยโดยมีชานยอลและผมเป็นคนเลี้ยงดูแต่ทำอย่างนั้นก็คงจะไม่ได้เพราะแม่เจ้าตัวไม่ยอมแน่ๆ

            "แต่มัมมี๊อยู่เดียว"เจสเปอร์เอ่ยเสียงแผ่วหน้าตาหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ผมรู้ว่าลูกรักผมและอยากอยู่กับผมมากแต่เขาก็เป็นเด็กดีจนไม่สามารถทิ้งแม่เขามาอยู่กับผมได้ โบยองสอนลูกให้รักผมมากๆเลี้ยงลูกดีตามที่ผมขอมาตลอดจนผมนึกขอบคุณเธอ

           "คับ แด๊ดแค่พูดเฉยๆนะอย่าหงอยสิ"ผมอุ้มร่างเล็กลงมาที่ชั้นใต้ดินที่ผมทำไว้เป็นอุโมงตู้ปลาขนาดใหญ่ผมเอาสัตว์น้ำทะเลมาเลี้ยงเพราะเจสเปอร์ชอบ


           ผมพาเจสเปอร์เดินเล่นทั่วบ้านที่เป็นธรรมชาติชี้นู้นชี้นี้สอนนั้นสอนนี่ ผมไม่ได้อยู่กับเขาทุกวันเวลาได้มาเดือนล่ะครั้งครั้งล่ะอาทิตย์นึงผมจึงพยายามให้ได้อยู่กับลูกให้มากที่สุดเพราะฉนั้นข้อมูลมี่พูดไปมันจึงไม่ยากเลยที่ผมจะรู้ว่าลูกของผมนั้นชอบอะไรไม่ชอบอะไรเพราะผมใส่ใจเขาทุกอย่างเช่นก่อนนอนเขาต้องทำอะไรก่อนถึงจะนอนได้นอนเร็วหลับสนิทและสิ่งที่ผมรู้มาก็คือการฟังเพลงแต่ไม่ชอบฟังนิทานซึ่งการไม่ฟังนิทานมันเป็นนิสัยของผมส่วนการที่ชอบฟังเพลงเป็นนิสัยของชานยอลครั้งแรกที่ผมรู้เรื่องนี้ผมก็นึกขำอยู่เล็กน้อยเพราะนิสัยหลายๆอย่างของเจสเปอร์ไม่ได้มีการเหมือนแม่ที่อยู่ด้วยเกือบทุกวันเลยสักนิดแต่ดันเหมือนกับผมที่เจอเดือนล่ะห้าวันและเหมือนกับคนที่ไม่เคยเจออย่างชานยอลเสียอีก


           "คุณแด๊ดๆ คุณอาเทาไม่มาด้วยหยอคับ"

           "ไม่คับ คุณอาเทาติดงานคับ"ผมวางลูกลงที่เก้าอี้เด็กข้างเก้าอี้ของผม

           "คุณแด๊ดไม่ค่อยชอบผักสลัดไม่ช่ายหยอคับ"เมื่อเจสเปอร์นั่งก็มองไปที่อาหารตรงหน้าพร้อมขมวดคิ้วน้อยๆและพูดออกมา ผมยิ้มหัวเราะออกมาเพราะความน่ารักของเจสเปอร์ที่รู้ว่าผมไม่ชอบอะไร

            "คับ แต่คุณเจสเปอร์ชอบนี่กินเถอะแด๊ดกินได้คับไม่เป็นไรนะ"ผมบอกลูกพร้อมกับจิ้มสลัดโรลเข้าปากถึงจะเหม็นเขียวไปนิดแต่ดีตรงที่น้ำสลัดอร่อยทำให้มองข้ามมันไปได้บ้างแหละแต่ก็กินไม่ได้เยอะหรอกคับทนกลิ่นมันไม่ไหวจริงๆ

           "คับ เจสเปอร์จะกินให้หมดเลยย"พอเจ้าตัวพูดจบก็จิ้มไปที่สลัดและเอาเข้าปากทันทียิ้มน้อยๆให้กับรสชาติของอาหารที่ตัวเองโปรดปานก้มหน้าก้มตากินไปเรื่อยๆโดยไม่พูดอะไรแต่ก็หันมายิ้มให้ผมบ่อยๆจนผมอดยิ้มตามไม่ได้ ผมเองบ้างก็จิ้มสลัดเข้าปากไปอีดสามสี่คำก็จำต้องวางช้อนลงไม่ได้อิ่มหรืออะไรคือเหม็นเขียวผักล้วนๆ



           นี่ก็เป็นวันที่สี่ที่ผมมาอยู่ที่อังกฤษทุกวันที่ผ่านมาชานยอลโทรหาไลน์หาผมตลอดมีก็แต่เมื่อวานที่หายไปซะเฉยๆโดยไม่บอกกล่าวอะไรเป็นเหตุให้ผมต้องกดโทรหาไลน์หาแต่ร่างสูงก็ไม่ได้ตอบอะไรมาเลยจนผมอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ 


           "คุณแด๊ดเป็นอะไรคับ"เด็กน้อยที่นั่งอยู่ในอ้อมแขนผมเงยหน้าขึ้นพร้อมกับถามออกมา

           "เปล่าคับ แด๊ดแค่โทรหาป๊าชานยอลไม่ติด"

           "คุณป๊าอาจจะกำลังยุ่งนะคับ"เด็กน้อยเลื่อนมือมาลูบหลังผมคล้ายอยากปลอบโยน

           "คับ แด๊ดก็ว่าอย่างนั้น"เจสเปอร์ยิ้มออกมาและหันกลับไปสนใจเครื่องเขียนกับกระดาษวาดรูปต่อ

            คงสงสัยสินะคับว่าทำไมเจสเปอร์ถึงรู้เรื่องของชานยอลได้และทำไมถึงเรียกชานยอลว่าป๊า ก็ตั้งแต่เจสเปอร์เริ่มพูดเป็นประโยคได้ผมก็เริ่มเอารูปชานยอลมาเล่าให้เจสเปอร์ฟังอยู่บ่อยๆเอารูปให้ดูผมบอกทุกอย่างกับลูกตั้งแต่อายุสี่ขวบผมบอกเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับชานยอลและความจริงทุกอย่างที่ผมคิดว่าเจสเปอร์ควรรู้แม้กระทั้งเรื่องผมกับโบยองถึงจะคิดว่ามันโหดร้ายเกินไปสำหรับเด็กอายุแค่นี้แต่ก็ดีกว่าที่เขาไปรู้ตอนโตเพราะยิ่งโตเด็กมันยิ่งหัวลั้นผมจึงบอกไว้ตั้งแต่ตอนนี้เพราะโตขึ้นเขาจะได้รับได้ทุกอย่างและเมื่อผมบอกลูกว่าผมแต่งงานแล้วเขาก็เรียกชายอลว่าป๊าโดยให้เหตุผลว่าก็เพราะชานยอลเป็นแฟนแด๊ดเขาก็ต้องอยู่ในตำแหน่งเดียวกับแด๊ดสิ ดูความน่ารักของลูกผมสิคับถึงผมจะไม่ได้ตั้งใจให้เขาเกิดมาแถมลำบากใจอีกด้วยที่มีเขาแต่ผมก็รักเขามากจนเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมให้เขาไปจากผมและข้อทั้งหมดนี้เจสเปอร์รู้ดี


           "คุณท่านคะมีแขกมาขอพบค่ะ"ผมที่กำลังนั่งกดมือถืออยู่งกๆก็ต้องชะงักเมื่อแม่บ้านเดินมาผมชั้งใจอยู่นิดนึงเพราะไม่คุ้นหน้าเลย สงสัยแม่บ้านใหม่ล่ะมั้งช่างเห้อะ ผมประคองร่างน้อยให้นอนลงที่โซฟาเบาๆเพราะกลัวว่าเด็กขี้เซาจะตื่น

           "ใครหรอคับ"นี่ขนาดวันพักผ่อนของผมยังจะต้องมาคุยงานอีกหรอเนี้ย

           "เอ่อคือ.."อึกอักอะไรกันแบบนี้มันน่ารำคาญนะผมยิ่งติดต่อชานยอลไม่ได้อยู่

           "ใครคับ"ผมถามย้ำอีกครั้งด้วยอารมณ์ผมคุกรุ่นกว่าเดิม

            "เขาบอกว่าเขาเป็นสามีของคุณค่ะ"เมื่อแม่บ้านพูดจบก็หลับตาปี๋คงกลัวที่ผมจะดุซึ่งต่างจากผมที่ทำตาโตเท่าไข่หานเมื่อได้ยินว่าคนที่มาหานั้นคือใคร

            "ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน"ตั้งสติได้ผมก็รีบลุกขึ้นยืนและถามออกไปอย่างรีบร้อนทันที

            "เออดิฉันให้ไปรออยู่ห้องรับแขกใหญ่ค่ะ"ได้ยินดังนั้นผมก็รีบสาวเท้าเดินเร็วกึ่งๆวิ่งไปที่ห้องนั้นทันที

             เมื่อผมพาตัวเองมาถึงหน้าห้องรับแขกแล้วก็ยืนทำใจเพราะไม่รู้จะแสดงอาการท่าทียังไงจะว่าดีใจที่ได้เจอก็คงจะไม่ใช่ล่ะมั้งเพราะบ้านหลังนี้มีเจสเปอร์ที่เป็นลูกผมอยู่ทั้งคน แต่ก็ช่างมันเหอะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดดิวะสักวันยังไงก็ต้องรู้ ผมผลักประตูเข้าไปก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงที่คุ้นเคยยืนรออยู่กลางห้อง


         


              "ไงมึง คิดถึงกูบ้างมั๊ย"









    จบไปอีกแย้วตอนนึงงง เย้เย้ ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและเป็นกำลังใจให้นะคะ
    เวลานี่ตั้งใจแต่งให้มันกระชับเนื้อเรื่องให้มากที่สุดเลยนะคะเลยเร็วไปหน่อยย

      #เค้าไม่ได้แก้คำผิดง่ะ #เม้นเป็นกำลังให้เค้าด้วยนะทุกคนน #ด่าได้นะแต่อย่าแรงมากกกก



              

         




           





          


           


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×