คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : KNB (L U P I C I D E ) : Akatsuki Mitsuki
A P P L I C A T I O N [1]
“โลกทั้งใบของฉันพังทลายลงไปแล้ว
ต่อให้ต้องใช้วิธีไหนฉันก็จะทำ ถ้ามันจะสามารถทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาได้”
“แล้วมั่นใจเหรอคะ ว่าที่คุณวิ่งไล่จับน่ะ มันคือเหยื่อของคุณ
หรือเหยื่อที่เอาไว้ตกคุณกันแน่”
คู่: คิเสะ เรียวตะ
ชื่อ – นามสกุล: อาคะสึกิ มิสึกิ(Akatsuki Mitsuki)
ชื่อเล่น: มิสึกิ,*อาเนกิ (Mitsuki,Aneki)(อาเนกิ คำที่ใช้เรียกผู้หญิง
หมายถึงลูกพี่ ส่วนใหญ่ลูกน้องใช้เรียก)
ความหมาย: อาคะสึกิ(พระจันทร์สีแดง)
มิสึกิ(ดวงจันทร์ที่สวยงาม)
อายุ: 27
ลักษณะรูปร่าง: เรือนผมสีชมพูยาวเลยหลัง
ใบรูปไข่เรียวเล็ก นัยน์ตาสีอความารีนกระจ่างใส ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีเชอร์รี่น่าจูบ สูง162น้ำหนัก45รูปร่างสมส่วนตามมาตรฐานทั่วไป
นอกจากนี้ยังมีหน้าอกหน้าใจที่ทำให้หญิงสาวคนอื่นที่พบเห็นต้องอิจฉา เอวเล็กคอดดั่งนาฬิกาทราย
ผิวพรรณขาวนวลเนียนละเอียดชวนให้สัมผัส ภายนอกดูเป็นสาวเรียบร้อย?อายุน้อย น่ารักบอบบางดังตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ
แต่ถ้าได้รู้จักจริงๆจะไม่มีใครกล้าหือกับเธอสักคน
นิสัย: ตอนเป็นเด็กมีชีวิตอยู่ด้วยความไม่เชื่อใจใคร เพราะขนาดยังไม่เชื่อใจยังสามารถหักหลังกันได้ต่อหน้าต่อตา
ทำให้การที่เธอจะเชื่อใจใครสักคนอาจจะต้องใช้เวลาอยู่มาก
แต่ถ้าเธอได้ให้ความเชื่อใจกับใครแล้วล่ะก็
แม้แต่คนที่คนคนนั้นรักเธอก็จะยอมเชื่อใจไปด้วยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเชื่อใจไปหมด100%หรอกนะ
เพราะถึงจะเชื่อใจเธอเองก็ต้องมีเผื่อใจเอาไว้บ้างเหมือนกัน
ตอนเป็นเด็ก...ถนัดในเรื่องลักขโมยยิ่งนัก
ไม่ว่าจะเป็นการสะเดาะกลอนหรือกุญแจก็สามารถฝึกได้เองในเวลาอันสั้นราวกับสวรรค์ประธานความสามารถนี้มาให้ทำให้เธอใช้วิชานี้ที่มีติดตัวมาจนเชี่ยวชาญสามารถฉกของของคนที่เดินระยะประชิดได้อย่างรวดเร็วและเขาเองก็ไม่รู้ตัวด้วย
ทำให้สามารถหาข้อมูลต่างๆที่ไม่มีในอินเตอร์เน็ตมาได้โดยง่าย
การเข้าไปขโมยของในโรงแรมเองก็เช่นกัน
เพราะก่อนจะเข้าไปขโมยของที่ไหนเธอจะศึกษาสถานที่รวมทั้งระบบความปลอดภัย
และตารางงานของคนที่จะขโมยของให้แน่ใจเสียก่อนค่อยลงมือ
แต่ถ้าโชคร้ายเจ้าของกลับมาเห็นเธอพอดีเธอก็สามารถฆ่าได้โดยไม่ลังเลเช่นกัน จะฆ่าเฉพาะคนที่คิดว่าควรจะฆ่าเท่านั้นจะไม่ฆ่าคนพร่ำเพรื่อ
ใช่ว่าเธอจะชื่นชอบการฆ่ามาตั้งแต่เด็ก
แต่เป็นเพราะว่าต้องป้องกันตัวเองทำให้พลั้งเผลอฆ่าคนไป
รสสัมผัสตอนที่ได้กระซวกคนพร้อมกับได้ยินเสียงกรีดร้องของคนคนนั้นทำให้เธอมีความสุขขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด
ลมหายใจที่รวยรินของคนที่กำลังจะตายนั้นก็ช่างมีเสน่ห์ที่ทำให้เธอหลงใหล
แต่เธอก็ไม่ได้กระหายอยากฆ่าคนทุกเวลาหรอกนะ
แต่เมื่อได้เจอกับเด็กสาวคนนั้นทำให้อารมณ์ด้านนี้ค่อยๆลดลงไปบ้างเหมือนกัน
เด็กสาวแสนบริสุทธิ์คนนั้นที่ไม่ได้อยู่ในโลกมืดเช่นเดียวกับเธอ
ทำให้เธออยู่ด้วยแล้วรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างน่าประหลาด
บางทีเพื่อธุรกิจและความต้องการของเธอ
เธอก็สามารถใช้เรือนร่างอันแสนเย้ายวนของเธอยั่วยวนผู้ชายมักมากเพื่อให้หลงเข้ามาติดกับของเธอและเธอก็จัดการทรมานมันซะ
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เธอต้องการ แต่อย่าหวังว่าจะได้แอ้มเธอ
เพราะเธอไม่ยอมให้คนอื่นล่วงล้ำเข้ามาในร่างกายของเธอได้ง่ายๆ
บางทีก็สามารถเปลี่ยนโหมดเป็นเย็นชาแบบไม่สนใจโลกได้
อะไรที่ไม่สนใจในตอนนั้นก็จะไม่ลงมือทำเลย หรือไม่ก็อะไรที่คิดว่าทำไปแล้วไม่ได้ประโยชน์ก็จะไม่ทำเพราะมันทำให้ตัวเองเหนื่อยเปล่าๆ
มิสึกิจัดได้ว่ามีความฉลาดและความอดทนอยู่พอตัว
เสียแต่ว่าบางทีก็เป็นคนขี้เกียจ ไม่อยากจำอะไรก็จะไม่จำ
แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ตัวเองสนใจหรือเกี่ยวกับงานแล้วล่ะก็สามารถวางแผนได้เป็นฉากๆและอดทนทำตามแผนนั้นจนกว่ามันจะสำเร็จแม้จะต้องใช้ระยะเวลาอันยาวนานก็ตาม
และเมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ก็สามารถคิดวิเคราะห์แยกแยะ
ประเมินสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วว่าควรแก้ไขลงมือทำอย่างไรต่อไป
เป็นคนที่คิดแล้วพูดออกมาตรงๆ
เพราะบางทีมันก็เสียเวลานะ การที่อยากได้อะไรแล้วต้องพูดวกไปวนมาเนี่ย
การพูดตรงๆนอกจากจะประหยัดเวลาได้แล้วยังสามารถประเมินความรู้สึกจากใบหน้าของผู้ที่กำลังสนทนาอยู่ด้วยได้ว่ามีความรู้สึกยังไง
ไม่ชอบเรื่องยุ่งยากเท่าไหร่ จึงไม่ชอบไปหาเรื่องใครก่อน
ถ้าไม่โดนหาเรื่องก็จะอยู่เฉยๆ นั่งๆนอนๆ บริหารแก๊งของตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ถ้ามีใครคิดทำอะไรเธอหรือคนที่เธอรักแล้วละก็เธอจะเปลี่ยนไปอีกคนทันที
พร้อมกลายร่างเป็นแม่เสือปกป้องคนที่รัก ไม่ว่าจะวิธีไหนเธอก็จะทำต่อให้ผิดไปจากสามัญสำนึกของคนทั่วไปก็ตาม
เป็นคนที่ใส่ใจกับคนในครอบครัวหรือคนใต้ปกครองตัวเองคนนึง
เมื่อมีการทำผิดพลาดภายในแก๊งเกิดขึ้นเธอจะสืบหาเรื่องราวให้แน่ชัดก่อนแล้วค่อยจัดการทำโทษผู้ที่กระทำผิดทีหลัง
ส่วนในขั้นตอนของการสืบหาเรื่องราวนั้น
ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยของเรื่องก็จะถูกกักบริเวณเอาไว้ก่อน
ถ้าไม่ได้ทำผิดจริงค่อยปล่อยไป แต่ถ้าทำผิดจริงๆก็จะถูกลงโทษตามที่เห็นสมควร
แต่ถ้ามีคนอื่นมาระรานพวกพ้องของตัวเองแล้วละก็ต่อให้คนนั้นมีอำนาจหรืออยู่สูงแค่ไหนก็จะไม่ยอมแพ้
เอาง่ายๆก็คือดีมาดีกลับร้ายมาร้ายตอบ
นอกจากนี้ยังจัดได้ว่าเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งคนนึงหากไม่มีเรื่องอะไรมากระทบจิตใจแล้ว
ก็จะไม่ร้องไห้ออกมาง่ายๆ จะเก็บเรื่องทุกข์ใจของตัวเองเอาไว้อยู่อย่างนั้น
เพราะไม่ค่อยชอบพึ่งพาคนอื่นเท่าไหร่ งานไหนสำคัญๆเธอจึงมักจะลงมือทำด้วยตัวเองอย่างเรื่องการตามสืบข้อมูลลับสำคัญๆต่างๆ
ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจในลูกน้องของตัวเอง
เธอก็แค่เป็นห่วงลูกน้องที่เปรียบเสมือนครอบครัวของเธอเท่านั้นเอง
ประวัติ : ตั้งแต่จำความได้ ก็จำได้ว่าตัวเองใช้ชีวิตอยู่ตามตรอกแคบๆ
ในมุมมืดมุมหนึ่งของสังคม ใช้ชีวิตทุกวันด้วยการลักกินขโมยกินบ้างเพื่อความอยู่รอด
พวกของที่ไปลักมานั้นไม่ได้มีแค่อาหารอย่างเดียว อย่างอื่นเธอก็เก็บเรียบจนหมด
ด้วยความที่ตัวเล็ก ทำให้เธอสามารถรอดตามปล่องต่างๆได้
นอกจากนี้วิชาสะเดาะกุญแจกับพวกกลอนต่างๆที่ฝึกทำได้เองในระยะเวลาไม่นานก็ทำให้เธอเป็นที่เลืองลือในการขโมยของ
แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบ
แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้รูปลักษณ์นี้สามารถขโมยของโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถตามจับตัวได้
รู้ตัวอีกทีของสำคัญที่ตัวเองเฝ้ารักษาก็โดนเด็กน้อยคนนี้ฉกมาเป็นของตัวเองแล้ว
“โฮ่
เก่งไม่เบานี้ยัยหนู”เสียงแหบแห้งเอ่ยขึ้นหลังจากที่เด็กน้อยขโมยกระเป้าเป้ใบหนึ่งมาจากห้องพักในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
เด็กน้อยไม่รู้ตัวเลยว่าโดนคนคนนี้สะกดรอยตามมาตั้งแต่เธอออกมาจากที่ซ่อนตัวของเธอ
“แกเป็นใคร
ต้องการอะไร”เด็กน้อยกอดกระเป๋าในอ้อมแขนแน่น
นัยน์ตาสีอความารีนจ้องมองไปที่อีกคนด้วยสายตาที่กดดัน
“สายตาไม่เลว นี่ฉันมาดี ไม่ได้มาร้ายสบายใจได้
ยัยหนูเอ้ย คงไม่ได้พอใจเพียงแค่การขโมยหรอกนะ ใช่ไหม”
“บอกความต้องการของแกมา”มือเล็กนั่นยังคงกอดกระเป๋าเอาไว้แน่น
ภายในนั้นมีทั้งNotebook
กระเป๋าเงินและข้าวของมีค่าอื่นๆที่เธอเห็นว่ามันน่าสนใจเธอต่างหยิบมันยัดใส่เป้มาทั้งนั้น
นัยน์ตากวาดไปมาอย่างหาทางออกจากสถานการณ์ตรงหน้า
“ฉันต้องการข้อมูลบางอย่างในNotebookนั่น แล้วก็สนใจจะเรียนรู้อย่างอื่นนอกจากขโมยไหมเด็กน้อย
ดูแล้วอนาคตเธอคงไปได้ไกลกว่านี้แน่ๆ ฉันยินดีสอนนะ”
“แลกกับ?”ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าของฟรีไม่มีในโลก
ไม่งั้นเธอจะต้องดิ้นรนอยู่อย่างนี้หรือ นอกจากของฟรีไม่มีในโลกแล้ว
ทุกอย่างในโลกนั้นต้องมีข้อแลกเปลี่ยนด้วยกันทั้งนั้น
“ฉลาดไม่เบา”หยอดคำชมเข้าไป
“แลกกับการทำงานให้ฉันยังไงล่ะ
ไม่ได้ทำให้ฟรีด้วยนะ เธอจะได้ส่วนแบ่ง
และที่พักที่ดีกว่าเดิมสนใจไหม”จบประโยคภายในหัวเล็กๆนั่นคิดคำนวณอย่างรวดเร็วถึงผลดีผลเสีย
ถึงแม้จะมีผลเสียมากกว่าแต่ผลดีที่จะได้กลับกลบมันไปจนหมด
“ได้”
เธอไม่รู้เลยว่าการตอบว่าได้ในวันนั้นจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปยิ่งกว่าเดิม
นอกจากจะต้องไปขโมยของตามโรงแรมหรูระดับวีไอพีแล้ว
ทุกวันๆเธอจะต้องเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการต่อสู้ทั้งแบบประชิดและแบบระยะไกล ทั้งมือเปล่าและการใช้อาวุธ
งานบ้าน งานเรือน การปกครอง และเรื่องของการแฮกข้อมูลสำคัญๆต่างๆ
ไม่ว่าจะหนีจากมันสักเท่าไหร่เธอก็จะโดนเจ้าคนที่น่ารังเกียจที่พาตัวเธอมาบังคับเรียนถ้าทำไม่ได้
หรือทำได้ไม่ดีเธอก็จะโดนลงโทษ
และแล้ววันที่เธอทำพลาดก็มาถึงเมื่อเธอเข้าไปขโมยของๆเป้าหายรายนึงแต่กลับโดนมันจับได้
เธอจะไม่ทำผิดพลาดเลยถ้าก่อนหน้านั้นเธอไม่โดนลงโทษมาคิดแล้วก็ได้แต่เกลียดเจ้าคนที่ทำให้เธอมาอยู่ตรงนี้
สองปีที่ผ่านมานั้นโดนทำโทษมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน
จนกระทั่งวันนี้วันที่เจ้านั่นใช้เธอมาขโมยของบางอย่างเพราะความเร่งด่วนของงานที่รอไม่ได้ทำให้เธอที่บาดแผลยังไม่หายดีจากการลงโทษต้องออกปฏิบัติงาน
“เจ้าหนูอยากตายแบบไหนหืม”คนพูดพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มโรคจิตมาให้
เรียวลิ้นของมันแลบออกมาเลียมีดสั้นที่ถืออยู่ในมือ
เธอพยายามมองหาทางรอดจากสถานการณ์ตรงหน้า
เมื่อมองเห็นขวดไวน์ชั้นดีที่วางเอาไว้ใกล้เธอก็จับมันมาฟาดลงกับพื้น
จนได้อาวุธปลายแหลมมาไว้ในมือ
เจ้าคนตรงหน้าเธอไม่ได้สนใจเท่าไหร่นักเพราะเห็นว่าเธอเป็นเด็กคงดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด
แต่หารู้ไม่ว่าภายในเธอไม่ใช่เด็กเก้าขวบธรรมดา และเพราะความประมาทบวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์นั่นเองทำให้มันถูกเด็กน้อยฆ่าตายในที่สุด
ถึงแม้ว่าจะมีต่อสู้กันบ้างแต่เพราะเด็กน้อยก็ไม่ได้ประมาท
“แฮ่กๆ”นัยน์ตาสีอความารีนจ้องมองสองมือของตัวเองที่เปื้อนไปด้วยเลือด
เลือดสีแดงฉานที่ซาดกระเซ็นออกมาตอนที่เธอจ้วงแทงมันไม่ยั้ง
ความรู้สึกในตอนแรกของการแทงคือความสะอิดสะเอียน หากแต่เมื่อเห็นคนใต้ร่างยังขยับตัวเธอก็มีแต่ต้องแทงต่อไปเท่านั้น
เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นก็จะเป็นชีวิตของเธอเองที่ต้องดับสิ้นไป
เมื่อเธอมองร่างของคนที่ตายอยู่ตรงหน้าเธอ
สายตาของเธอไม่มีแววหวาดกลัวเลยสักนิด แม้ว่าร่างกายจะยังคงสั่นๆอยู่แต่ก็ปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับหมอบหมายมาต่อไป
นัยน์ตาคู่สวยจ้องมองมันด้วยสายตาที่ว่างเปล่าก่อนจะหยิบของที่มาขโมยแล้วเดินกลับออกไปทางเดินราวกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เพี๊ยะ
เสียงฝ่ามือกระทบแก้ม
พร้อมกับร่างเล็กที่กระเด็นไปอีกมุมนึงของห้อง
“บ้าเอ้ย เราจะซวยเพราะแก ยัยเด็กบ้า
แกรู้ไหมว่าคนที่แกฆ่าไปเป็นใคร”
“ไม่รู้สิ”เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
ทำไมเธอต้องสนใจด้วย ในเมื่อหมอนั่นมันจะฆ่าเธอ ถ้าเธอไม่ฆ่ามันก็ฆ่าเธอ
“เวร...”
ตูม
พูดยังไม่ทันจบเสียงระเบิดก็ดังขึ้นมา
ที่ด้านนอกนั้นมีเสียงสู้กันอยู่สักพักก่อนที่มันจะเงียบไป
ประตูห้องค่อยๆเปิดออกช้าๆ
“อา...อาคะสึกิ...”ชายหนุ่มที่ตบหน้าเธอเอ่ยชื่อของอีกฝ่ายเสียงสั่น
เมื่อคนที่เดินเข้ามาคือหัวหน้าแก๊งยากูซ่าที่มีอิทธิพลมากที่สุดตอนนี้
ไม่คิดเลยว่าการเสียมือขวาของเขาไปจะทำให้คนเป็นหัวหน้าเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง
“ไม่คิดว่าหนูสกปรกๆอย่างแกจะกล้าเหิมเกริมได้ขนาดนี้”
“ไม่ๆ ไม่ใช่ฝีมือของผมเลยนะครับ
ฝีมือของยัยเด็กบ้านั่นต่างหาก”เจ้าบ้านั่นรีบลนลานตอบเพราะกลัวความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามา
เพราะตัวมันเองก็ไม่ได้เก่งเรื่องต่อสู้ แต่เก่งในการสนับสนุนกับหาข้อมูลมากกว่า
นัยน์ตาของผู้ฟังดูจะไม่เชื่อ
เด็กน้อยมองภาพตรงหน้าก่อนจะค่อยเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่
ที่แก้มเริ่มปรากฏเป็นรอยนิ้วมือ
“ถ้าอยากทำอะไรก็ทำยัยเด็กนี่ได้เลยครับ”มันพูดพร้อมกับใช้สองมือดันเธอไปข้างหน้าให้เข้าใกล้กับคนที่ชื่ออาคะสึกิมากยิ่งขึ้น
นัยน์ตาของผู้ที่ยืนเบื้องหน้าเธอมองมาที่เธอราวกลับกำลังประเมิน
“รีบบอกว่าแกเป็นคนทำสิ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน
บอกไป...อึก...”มันยังพูดได้ไม่ทันจบเด็กน้อยก็ใช้มีดขนาดพกพาแทงฉึกเข้าไปตรงตำแหน่งหัวใจของมันพอดี
นัยน์ตาคู่นั้นเบิกกว้างขึ้นราวกับไม่เชื่อเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้น
“ใช่ ฉันเป็นคนทำเองรวมถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ลาก่อนนะคะคุณชิมิสึ”เมื่อเด็กน้อยดึงมีดออกมา เลือดสีแดงสดก็พุ่งทะลักออกมา ไม่คิดเลยสักนิดว่าเจ้าคนที่น่ารังเกียจคนนี้จะขายตัวเองได้หน้าตาเฉยแบบนี้
ดังนั้น...การฆ่าอีกสักคนไปคงไม่ผิดเท่าไหร่
นัยน์ตาสีโกเมนของผู้ที่มีนามว่าอาคะสึกิจ้องมองไปที่เด็กน้อยอย่างสนใจ
ไม่คิดเลยว่าการมาล่าครั้งนี้จะทำให้ตัวเองได้เจอกับสิ่งที่น่าสนใจ
“เธอชื่ออะไรเด็กน้อย สนใจจะมากับฉันไหม?
กฎที่ต้องทำตามมีแค่ข้อเดียวคือห้ามทรยศ ทรยศเมื่อไหร่จุดจบคือตาย”
“ข้อแรก ฉันไร้ชื่อ
ข้อสองทำไมฉันต้องไปกับคุณ”เด็กน้อยยังคงจ้องมองบุคคลตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
“ฉันจะบอกกับเธอตรงๆ ฉันสนใจเธอ สนใจมากด้วย
ที่เธอแทงแบบไม่ลังเลเมื่อกี้น่าสนใจมาก”
“คุณอยากลองบ้างเหรอคะ?”
“คิดว่าจะทำได้อย่างนั้นหรือเด็กน้อย
อีกอย่างฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับคนที่ทำให้ฉันต้องเสียมือขวาไปเลยนะ”ถึงฉันคิดจะกำจัดมันอยู่แล้วก็เถอะ
แต่ประโยคนี้เขาไม่ได้เอ่ยมันออกไป ที่สำคัญตอนนี้คือเขาอยากได้เด็กตรงหน้ามากกว่า
“คำตอบของฉัน...”ยังไม่ทันจะพูดจบชายตรงหน้าก็เข้ามาประชิดตัวเธอพร้อมกับใช้ผ้าที่มีกลิ่นบางอย่างมาโป๊ะที่จมูกของเธอ
เธอดิ้นอยู่สักพักก่อนจะค่อยๆหมดสติไปในที่สุด
“คำตอบของฉันไม่มีคำว่าปฏิเสธอยู่ในนั้นเด็กน้อย”เขาช้อนตัวเด็กน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะเดินออกจากที่แห่งนั้นไป
พร้อมกับประกายเพลิงที่ค่อยๆลุกท่วมสถานที่แห่งนั้น
นัยน์ตาสีโกเมนคู่สวยจ้องมองขึ้นไปยังดวงจันทร์เบื้องบนที่กำลังทอแสงเป็นประกายสวยงามอยู่บนฟากฟ้า
“จากนี้เธอคือ อาคะสึกิ มิสึกิ เด็กน้อยของฉัน”
เมื่อเธอลืมตาตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่พบคือแสงจากหลอดไฟขนาดใหญ่บนเพดานห้อง
เมื่อสายตาคุ้นชินแล้วก็พบว่าเธออยู่ในห้องที่ถูกปูด้วยเสื่อทาทามิอย่างดี ภายในห้องมีเครื่องปรับอากาศที่ถูกทำให้กลมกลืนกับห้องแบบญี่ปุ่น
เธอค่อยๆลุกขึ้นมานั่ง
“ที่นี่...”เธอพูดพลางคิดย้อน
และก็พบว่าความทรงจำสุดท้ายคือเธออยู่กับชายที่ชื่ออาคะสึกิคนนั้น
เมื่อคิดได้เธอก็รีบลุกเพื่อจะไปจากที่นี่ทันที เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบกับชายร่างยักษ์สองคนยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง
“ตื่นแล้วอย่างนั้นหรือครับท่านมิสึกิ
ท่านจิอากิรออยู่แล้วครับกรุณาตามมาด้วยครับ”น้ำเสียงนั้นราบเรียบแต่กลับแฝงแววของความคุกคามเอาไว้
แม้จะยังงงๆแต่เธอก็เดินตามคนทั้งสองไปพลางคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
“เข้ามา”เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นจากภายในห้อง
เมื่อประตูห้องถูกเปิดออกเธอก็โดนผลักเข้าไปในห้อง
“จับฉันมาทำไมคะ”เธอเอ่ยถามออกไปตรงๆ
“อย่าพูดจาห่างเหินอย่างนั้นสิมิสึกิป๋าเสียใจนะ”ฮะ
เด็กหญิงนัยน์ตาเบิกกว้างกับความทึกทักไปเองของอีกฝ่าย
“คุณไม่ใช่
และฉันก็ไม่ได้ชื่อมิสึกิ”แน่นอนว่าเธอไม่ยอมรับ
หลังจากที่เธอโดนหักหลังไปต่อหน้าต่อตา คนๆนั้นไม่เพียงแต่ไม่ปกป้องเธอ
กลับยื่นเธอให้กลับอีกฝ่ายได้ง่ายๆ
ทำให้เธอเรียนรู้สัจธรรมของโลกอีกอย่างนึงคืออย่าเชื่อใจใครง่ายๆ
ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วตัวเธอเองจะไม่ได้เชื่อใจมันมาแต่แรกแล้วก็เถอะ
“คุณป๋าเสียใจจัง เอาอย่างนี้
ในเมื่อมิสึกิยังไม่ยอมรับ งั้นเรามาเล่นเกมกันตกลงไหม อย่าเพิ่งปฏิเสธ
ฟังก่อน”ชายหนุ่มรีบพูดทันทีที่เธอทำจะเอ่ยขัด ทำให้เด็กสาวยอมนั่งฟังต่อ
“คุณป๋าจะให้เวลามิสึกิสามปีถ้าสามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้
คุณป๋าจะไม่ยุ่งไม่ตามและจะเปลี่ยนประวัติของมิสึกิให้ใหม่หมดเลยด้วย
เป็นไงเกมน่าสนใจใช่ไหม อ๊ะๆ
แต่ถ้าหนีไปไม่ได้ภายในสามปีมิสึกิจะต้องอยู่ที่นี่กับคุณป๋าและต้องเชื่อฟังคุณป๋าทุกอย่าง”แน่นอนว่าระยะเวลาสามปีนี้เขาคำนวณไว้หมดทุกอย่างแล้ว
ทั้งการพัฒนาความสามารถของเด็กน้อย จากการฝึกหนีจากสถานการณ์จริง
อีกอย่างที่ของเขา...เข้ามาแล้วใช่ว่าจะออกไปได้ง่ายๆถ้าเขาไม่อนุญาต
“...”
“ว่ายังไงล่ะมิสึกิ สามปีเองนะ”
“ทำไมถึงอยากได้ฉันขนาดนั้น”
“ไม่มีเหตุผล แค่รู้สึกถูกใจเธอตั้งแต่แรกเห็น
และยิ่งตกหลุมรักเธอเข้าเต็มๆ ตอนที่เธอแทงคนอย่างไม่ลังเลนั่น
มันเป็นภาพที่สวยงามมากๆเลยล่ะ อีกอย่างคุณป๋าอยากมีลูกมานานแล้ว อ้อจริงสิ
ถ้าผ่านไปสามปีมิสึกิยังหนีไปจากที่นี่ไม่ได้
จะต้องยอมรับเป็นลูกบุญธรรมของป๋าด้วยนะ”
เด็กน้อยคิดอย่างไงเธอก็มีแต่ได้กับได้(หรือเปล่านะ)แม้ว่าจะยังลังเล
แต่เมื่อคิดดูแล้วถึงจะไม่ตกลงแต่ตัวเองก็ยังออกไปจากที่นี่ไม่ได้อยู่ดี
ไหนจะเจ้ายักษ์สองคนที่พาเธอมาที่นี่อีก
“ถ้ามีอุบัติเหตุบ้างในการหลบหนี
อย่างเช่นมีคนตายฉันจะมีความผิดไหมคะ”
“ไม่เลย คุณป๋าให้สิทธิมิสึกิเต็มที่
อยากใช้วิธีไหนหนีออกไปก็ได้ทั้งนั้น”รับรองสามปีต่อจากนี้หนูจะแข็งแกร่งขึ้นเยอะเลยล่ะ
ชายหนุ่มต่อเอาในใจ
“ตกลง”เป็นคำตกลงที่เธอไม่รู้เลยว่า...เธอจะไม่ได้ออกจากที่นี่ไปชั่วชีวิต
เพราะหนีนามสกุลอาคะสึกิไม่พ้น
เมื่อสามปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็หนีไปไม่พ้นสักที
แม้ว่าจะเลือกเส้นทางที่คนคิดไม่ถึง หรือฆ่าคนในแก๊งไปกี่คนก็ตาม
แต่ชายคนนั้นก็อ่านเธอออกทุกอย่าง
รวมทั้งไม่ได้เอ่ยถึงคนที่เธอฆ่าตายไปเลยแม้แต่น้อย เมื่อเขาไม่พูด
เธอจึงไม่พูดถึงมันด้วยเช่นกัน
ทุกเช้า เที่ยง เย็น
จะมีอาหารมาวางไว้ในห้องเธอเสมอราวกับเขารู้ว่าเธอจะต้องกลับมา
ความคิดหนีนั้นเริ่มหายไปเมื่อเข้าปีที่สอง
ตอนนี้เธอสนใจสิ่งอื่นมากกว่าการหนีเสียแล้ว ทำให้เวลาสามปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สามปีที่ผ่านมาราวกับเป็นปิศาจกระหายเลือด คิดแต่ว่าจะออกไปจากที่นี่ยังไงทำให้ลงมือจัดการผู้คนไปมากมาย
และดูเหมือนว่า ว่าที่พ่อบุญธรรมเองจะรู้เหมือนกัน ผู้คนที่ส่งมาแม้ไม่ใช่กระจอกแต่ก็จัดการเธอไม่ได้สักคน
“ในที่สุด...มิสึกกิก็เป็นของคุณป๋า
หึหึ”หลังจากครบกำหนดสามปีเธอก็ถูกประกาศออกไปว่าเป็นลูกบุญธรรมของอาคะสึกิ จิอากิ
ชายผู้มากไปด้วยอิทธิพลของโลกมืดในญี่ปุ่น
แน่นอนว่าเมื่อประกาศออกไปแบบนี้แล้วทำให้เธอต้องตกอยู่ในอันตราย
เพราะการเกี่ยวข้องกับจิอากิในแง่ของลูกบุญธรรมนั้นทำให้เธอโดนหมายหัว
เพราะจิอากิยังไม่มีลูกที่แท้จริงและคงไม่คิดจะมี
ดังนั้นตำแหน่งของหญิงสาวหลังจากนี้อาจทำให้ใครต่อใครต้องเสียผลประโยชน์การกำจัดทิ้งจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
มิสึกิไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะสนิทกับคนคนนึงได้ขนาดนี้
และคนคนนั้นก็คืออาคะสึกิ จิอากิผู้เก็บเธอมาเลี้ยงนี่เอง
เมื่ออยู่ด้วยกันนานวันเข้า จิอากิราวกับเป็นโลกทั้งใบของหญิงสาว
ไม่ว่าเขาจะสั่งให้เธอไปฆ่า
หรือไปขโมยอะไรมาก็ตามเธอพร้อมจะเชื่อฟังคำสั่งของเขาทั้งนั้น
และแล้ววันที่มาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตก็มาถึงอีกครั้ง
เมื่อเธอและจิอากิออกไปฉลองวันเกิดของเธอ(วันที่เจอกับจิอากิวันแรก)ข้างนอกแบบลับๆกันสองคนโดยที่มีผู้ติดตามไปด้วยแค่สามคนเท่านั้นไม่คิดเลยว่า...จะโดนลอบฆ่า
พวกมันมาด้วยกันทั้งหมดยี่สิบกว่าคนในการลอบฆ่า...จะเรียกว่าลอบฆ่าก็ไม่ได้เต็มปากนัก
เมื่อเล่นโผล่มาจะๆต่อหน้าขนาดนี้
“มิสึกิ!”เสียงของพ่อบุญธรรมของเธอดังขึ้นพร้อมกับเสียงปืน
สามนัดซ้อน
มิสึกิจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยนัยน์ตาที่เบิกกว้างร่างของพ่อบุญธรรมล้มทับเธอจนลงไปกองกับพื้นด้วยกัน
เลือดสีแดงสดมากมายที่เธอเคยชอบตอนนี้เธอกลับไม่นึกชอบมันเลยสักนิด
“ไม่
ม่ายยยยย”ลมหายใจรวยรินของคนที่กำลังทับร่างทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก
เขาที่เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเธอ
โชคดีที่กำลังเสริมมาแล้วทำให้พวกที่เหลือไม่มีโอกาสได้ทำอะไรอีก
และก็ถูกแก๊งของเธอรวบจับแบบเป็นๆมาได้หลายคน
“อยะ...อย่าร้องไห้...แฮ่กๆ”
“อย่า อย่าพูด
ฮึก...ฮึก...”หมอประจำตระกูลกับรถมาแล้ว
ร่างของจิอากิถูกยกเข้าไปในนั้นก่อนจะรีบทำแผลอย่างเร่งด่วน
...
“เสียใจด้วยนะครับ...ท่านจิอากิ...”เธอที่นั่งรออยู่ภายนอกห้องรีบปรี่เข้าไปหาหมอทันทีที่หมอเดินออกมา
หมอพูดเพียงแค่นั้นเธอก็รู้แล้ว เธอพยักหน้าให้หมอก่อนจะเดินเหม่อออกไป
นัยน์หม่นแสงราวกับคนไร้ชีวิต โลกทั้งใบของเธอพังทลายลงไปแล้ว
งานศพของจิอากิถูกจัดขึ้นมาภายในแก๊ง
และเชิญคนที่สนิทไม่กี่คนเท่านั้นมา
“ไม่ๆ ฮึก ฮือ คุณพ่อ”เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นจากทางเข้างานทำให้เธอหันไปมองเจ้าของเสียงและก็พบเด็กสาวคนนึงที่มีเค้าใบหน้าคล้ายกับพ่อบุญธรรมของเธอไม่มีผิด
นัยน์ตาสีอความารีนเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อคิดถึงสิ่งที่เป็นไปได้
แต่พ่อบุญธรรมของเธอไม่เคยบอกเธอในเรื่องนี้
เด็กสาวคนนั้นวิ่งเข้าไปใกล้โลงศพของพ่อบุญธรรมของเธอมากขึ้นๆ
ก่อนจะปล่อยโฮออกมา
“อย่าร้องไห้”มิสึกิเดินเข้าไปจับไหล่ของเด็กคนนั้นก่อนจะเอ่ยออกมา
“ยิ่งร้องคุณพ่อจะยิ่งไม่สบายใจนะ”
“ฮึก”เด็กน้อยหันมากอดเธอและยังคงร้องไห้ต่อไป
ทำให้เธอได้รับรู้สิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกอบอุ่นจากอ้อมกอดเป็นครั้งแรก
มือของเธอลูบหัวของเด็กน้อยอย่างปลอบประโลมพร้อมกับตัดสินใจแล้วว่าจะดูแลเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด
และจะไม่ให้เด็กคนนี้ต้องมาเดินอยู่ในทางที่อันตรายตามที่คุณพ่อบุญธรรมของเธอต้องการ
นัยน์ตาสีอความารีนวาววับเมื่อคิดถึงบุคคลที่ลงมือในเหตุการณ์ครั้งนี้
หลังจากที่เธอลงมือสืบด้วยตนเอง
เธอก็พบว่าผู้สั่งฆ่าในวันนั้นคือกลุ่มผู้ฆ่าอาวุธรายใหม่ที่กำลังเข้ามาลงทุนที่นี่แต่ดันมีเรื่องกับพ่อบุญธรรมของเธอเสียก่อนทำให้พวกนั้นขาดทุนยับเยิน
ยิ่งสืบไปเธอก็พบว่ากลุ่มผู้ค้าอาวุธรายนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวเพราะมีเครือข่ายอยู่ในประเทศใหญ่ๆอีกหลายประเทศด้วยเช่นกัน
แต่มิสึกิเองก็ไม่ได้เกรงกลัวคนที่บังอาจมาพังทลายโลกของเธอ...เธอก็จะให้มันได้รับรู้ความรู้สึกนั้นเช่นกัน
ในระหว่างนั้นเด็กสาวคนที่วิ่งเข้ามาปล่อยโฮกลางงานศพของจิอากินั้น
มิสึกิก็ได้รู้ทีหลังว่าเธอชื่อจิยูริ เป็นลูกแท้ๆของจิอากิที่แอบเลี้ยงเอาไว้
หลังจากที่ได้รับรู้การมีอยู่ของจิยูริ มิสึกิก็จัดการส่งจิยูริออกไปเลี้ยงดูภายนอกแก๊งอย่างลับๆตามแบบเดิมที่จิยูริเคยอยู่
แต่เพิ่มผู้คุ้มกันอย่างลับๆมากขึ้นเช่นกัน
มิสึกิในวัย24
ในที่สุดก็รวบรวมข้อมูลที่ต้องการมาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากการไปขโมยด้วยตัวเองหรือส่งคนแฝงเข้าไปในนั้น
หรือแม้กระทั่ง...ใช้เรือนร่างของตัวเองในการสืบข่าว
แต่กลับไม่มีใครได้แอ้มเธอหรอกนะ
เพราะเธอแค่ยั่วยวนในตอนแรกและค่อยๆทรมานล้วงความลับพวกมันออกมา
แน่นอนว่าข้อมูลที่เธอได้มานั้นมีทั้งข้อมูลทั่วไปจนกระทั่งข้อมูลลับส่วนตัวนั่น
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเรื่องอาวุธและการฟอกเงินของบริษัทนั่นกับรัฐบาลของหลายๆประเทศอีกด้วย
แม้จะเสี่ยงแต่ก็นับว่าคุ้มหากได้แก้แค้น
“ลูกสาวและหลานสาวอย่างนั้นหรือ...หึหึ”มิสึกิคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้...เครื่องบินลำใหญ่ยักษ์ที่กำลังจะขึ้นบินไปบนฟากฟ้านั้นระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ผู้คนที่อยู่ภายในสนามบินต่างกรีดร้องและแตกตื่น
“จบกันเท่านี้แหละนะ”นัยน์ตาสีอวามารีนที่กำลังมองผลงานผ่านแว่นดำจากสถานที่ที่สามารถเห็นได้ชัด
แม้ว่าจะน่าเสียดายที่ไม่ได้ทรมานมันด้วยตัวเองก็ตาม แต่เท่านี้พวกมันก็จะได้รับรู้ความรู้สึกเช่นเดียวกับเธอบ้างยามที่ต้องเสียบุคคลที่รักไปน่ะ
โดยไม่รู้เลยว่าบนเครื่องบินลำนั้นนอกจากจะมีลูกสาวและหลานสาวของคนหลายๆคนที่เธอต้องการแก้แค้นแล้ว
ยังมีญาติของบุคคลๆหนึ่งที่เธอได้ฆ่าเขาไปอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีกด้วย
และเพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ซึ่งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในโลกมืดบนเครื่องบินลำนั้นมีไม่ต่ำกว่าห้าคนทำให้ใครหลายๆคนระแคะระคายว่าข้อมูลของพวกเขาอาจจะรั่วไหลออกไป
ทำให้พวกเขาเริ่มลงมือสืบหาตัวคนทำ
แต่บ้างก็ทำไปเพราะต้องการแก้แค้นให้กับคนที่ตัวเองรักด้วยเช่นกัน
มิสึกิเดินทางกลับมายังที่พักของตน
แม้ว่าเรื่องทุกอย่างมันจะยังไม่จบอย่างที่เธอคิดจริงๆ
แต่การจะสาวมาหาถึงเธอได้คงไม่ง่ายขนาดนั้น
“คุณแม่”เสียงของเด็กหญิงในวันงานศพของพ่อบุญธรรมเอ่ยเรียกเธอ
นัยน์ตาสีอความารีนรี่มองคนเรียกอย่างรักใคร่
ตอนนี้ก็ขอใช้ชีวิตเรียบง่ายกับเด็กสาวผู้แสนบริสุทธิ์คนนี้ไปก่อนแล้วกัน
สิ่งที่ชอบ:
ร่ม ชอบเพราะสามารถกางได้ทั้งวันที่ฝนตกและแดดออก
นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้ผิวต้องเจอกับแสงแดดที่แผดเผาอีกด้วย
อาการ เห็นแล้วตาจะเป็นประกาย
เพราะชอบสะสมร่มลายสวยๆเป็นพิเศษ และไม่ว่าออกไปที่ไหนก็จะพกไปด้วยสักคันเสมอ
นกฮูก ชอบเพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี
อีกทั้งยังตัวกลมๆ ตาแป๊วๆ น่ารักน่ากอดนั่นอีก
อาการ เข้าไปจับกอดลูบคลำ(ถ้าสามารถทำได้จริง)
ถ้าทำไม่ได้ก็จะมองด้วยสายตาละห้อย มีพวงกุญแจ หรือพวกกระเบื้องเคลือบนกฮูกอยู่เต็มห้องเธอเลยล่ะ
ชา เพราะดื่มแล้วรู้สึกว่าตัวเองผ่อนคลาย
และทำให้ง่วงนอนเพราะปกติค่อนข้างหลับยากอยู่เหมือนกัน
อาการ เมื่อได้กลิ่น
หรือดื่มชาแล้วจะแสดงสีหน้าที่ผ่อนคลายมากกว่าปกติ รอยยิ้มจะดูสดใสขึ้น
เลือด
เพราะสีของมันยามพุ่งออกมาจากร่างกายของคนนั้นช่างสวยงาม
อาการ
จ้องมองมันด้วยนัยน์ตาที่เป็นประกาย
ยิ่งเห็นเลือดออกมาจากร่างกายของคนมากเท่าไหร่เธอยิ่งลงมือทำให้มันออกมาเพิ่มมากขึ้น
สิ่งที่ไม่ชอบ:
เหล้าเบียร์ เพราะไม่ชอบกลิ่นฉุนที่เตะจมูกของมัน
อาการ แค่ได้กลิ่นก็แทบอยากจะปาทิ้งแล้ว
และยิ่งเป็นกลิ่นคนเมาที่ไม่ได้สติ เธอจะสั่งลูกน้องให้นำเจ้าของร่างไปทิ้งไกลๆ
การก้าวล้ำเข้ามายุ่งสิ่งที่เธอรักและให้การปกป้อง
เพราะเธอเป็นพวกหวงของหากมีใครมายุ่งแล้วละก็คงได้อาละวาดใส่แน่ๆ
สิ่งที่กลัว: แมงมุม เพราะเคยโดนแมงมุมกระโดดใส่หน้าตอนเป็นเด็ก
ทำเอากรี๊ดลั่นบ้าน(โชคดีที่ไม่มีใครเห็น)
อาการ แค่เห็นก็จะขยับตัวออกห่างไปให้ไกล
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เจอแบบตกลงมาต่อหน้าจะกรี๊ดลั่นจนคนอื่นตกใจ นึกว่าเธอโดนทำร้าย...แต่ที่แท้ก็แค่แมงมุมตกผ่านหน้าไปเท่านั้นเอง
สิ่งที่แพ้: -
ลักษณะคำพูด:
จะเรียกแทนตัวเองว่าฉัน และเรียกแทนคนอื่นว่าคุณทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จัก
โดยไม่สนใจเรื่องอายุ คนที่อายุน้อยกว่าก็เรียกว่าคุณ คนที่เป็นลูกน้องก็เรียกว่าคุณ
คำพูดปกติ
“คุณxxxเป็นอะไรอย่างนั้นหรือคะ?”
“ฉันมิสึกินะคะ คุณละ?”
คำพูดตอนอารมณ์ดี
“วันนี้ให้เป็นพิเศษเลยนะคะ อยากทำอะไรตามใจเลยค่ะ”
คำพูดตอนเศร้า
“ขะ...ขอโทษนะคะ ฉันขออยู่คนเดียวก่อนนะคะ”เธอไม่มองหน้าพูดฟัง แต่น้ำเสียงที่ติดสั่นนั้นก็ทำให้คนฟังรับรู้ได้ว่าเธอรู้สึกยังไง
เพราะไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง
“ฮึก...ฮึก...ไม่ ม่ายยยย”เธอตะโกนออกมาอย่างไม่แคร์ใครเพราะตอนนี้เธอเสียใจมากจนไม่สนใจอะไรแล้ว
คำพูดตอนโกรธ
“กล้ามากเลยนะคะ ที่มาหาเรื่องฉันคนนี้”
“ไม่อยากตายดีอย่างนั้นสินะคะ”
คำพูดตอนอยู่กับจิยูริ
“ใครมันกล้ารังแกจิยูริ ของฉัน”พูดเสียงเหี้ยมหลังจากเห็นรอยแดงบนใบหน้าของจิยูริ
“อย่าเศร้าไปเลยนะ แม่ยังอยู่ตรงนี้”
สาเหตุที่ทำให้ถูกตามล่า: ระเบิดเครื่องบินของกลุ่มผู้ค้าอาวุธ
ซึ่งบนเครื่องบินลำนั้นมีลูกแหละหลานของพวกนั้นอยู่ ทำให้พวกนั้นระแคะระคายว่าเธอรู้ข้อมูลพวกนี้ได้ยังไง
เพิ่มเติม:เกิด14มีนาคม วันไวท์เดย์
ลูกสาวของจิอากิ ชื่อจิยูริ
เป็นลูกสาวที่แท้จริงที่แอบซ่อนและปิดบังทุกคนเอาไว้ ยกเว้นมือซ้ายของตัวเอง แม่ของจิยูริเสียทันทีที่คลอดเธออกมา
จิยูริเรียกมิสึกิว่าแม่ตั้งแต่เจอกันที่งานศพพ่อของตัวเอง
เนื่องจากตอนอยู่ด้วยกันกับพ่อ พ่อก็มักเล่าเรื่องราว(ดีๆ)ของมิสึกิให้ฟังบ่อยๆ
-------------------------------------------------------------------------------------
คุยกับผู้ปกครอง
สวัสดีค่ะท่านผปค. เราเบลล์ซังคนงาม ยินดีที่ได้พบค่ะ
ชื่ออะไรเอ่ยยย?
-ชื่อนัทสึคิ ครั้งที่สองแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ
ขอนิยามลูกสาวท่านสักเล็กน้อยพอเข้าใจหน่อยค่ะ
- คุณพ่อบุญธรรมคือโลกทั้งใบ
เราดองนานจริงจังนะคะ เตรียมใจรากงอกกลิ้งรอฟิคเบลล์ได้เลย555555
สักปีสองปีรอไหวไหมเนี่ย?
-รออ่านจริงๆนะคะ เรื่องน่าสนใจมากเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่สนใจนะคะ เลิฟยูวววว
<3
ความคิดเห็น