ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บออริ(Fayrious's)

    ลำดับตอนที่ #5 : KNB (L U P I C I D E ) : Akatsuki Mitsuki

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 60


    A P P L I C A T I O N [1]


    “โลกทั้งใบของฉันพังทลายลงไปแล้ว ต่อให้ต้องใช้วิธีไหนฉันก็จะทำ ถ้ามันจะสามารถทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาได้”

    แล้วมั่นใจเหรอคะ ว่าที่คุณวิ่งไล่จับน่ะ มันคือเหยื่อของคุณ หรือเหยื่อที่เอาไว้ตกคุณกันแน่

     


    คู่: คิเสะ เรียวตะ

     

    ชื่อ นามสกุล: อาคะสึกิ มิสึกิ(Akatsuki Mitsuki)

     

    ชื่อเล่น: มิสึกิ,*อาเนกิ (Mitsuki,Aneki)(อาเนกิ คำที่ใช้เรียกผู้หญิง หมายถึงลูกพี่ ส่วนใหญ่ลูกน้องใช้เรียก)

     

    ความหมาย: อาคะสึกิ(พระจันทร์สีแดง) มิสึกิ(ดวงจันทร์ที่สวยงาม)

     

    อายุ: 27

     

    ลักษณะรูปร่าง: เรือนผมสีชมพูยาวเลยหลัง ใบรูปไข่เรียวเล็ก นัยน์ตาสีอความารีนกระจ่างใส ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีเชอร์รี่น่าจูบ สูง162น้ำหนัก45รูปร่างสมส่วนตามมาตรฐานทั่วไป นอกจากนี้ยังมีหน้าอกหน้าใจที่ทำให้หญิงสาวคนอื่นที่พบเห็นต้องอิจฉา เอวเล็กคอดดั่งนาฬิกาทราย ผิวพรรณขาวนวลเนียนละเอียดชวนให้สัมผัส ภายนอกดูเป็นสาวเรียบร้อย?อายุน้อย น่ารักบอบบางดังตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ แต่ถ้าได้รู้จักจริงๆจะไม่มีใครกล้าหือกับเธอสักคน


    นิสัย: ตอนเป็นเด็กมีชีวิตอยู่ด้วยความไม่เชื่อใจใคร เพราะขนาดยังไม่เชื่อใจยังสามารถหักหลังกันได้ต่อหน้าต่อตา ทำให้การที่เธอจะเชื่อใจใครสักคนอาจจะต้องใช้เวลาอยู่มาก แต่ถ้าเธอได้ให้ความเชื่อใจกับใครแล้วล่ะก็ แม้แต่คนที่คนคนนั้นรักเธอก็จะยอมเชื่อใจไปด้วยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเชื่อใจไปหมด100%หรอกนะ เพราะถึงจะเชื่อใจเธอเองก็ต้องมีเผื่อใจเอาไว้บ้างเหมือนกัน  

                    ตอนเป็นเด็ก...ถนัดในเรื่องลักขโมยยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นการสะเดาะกลอนหรือกุญแจก็สามารถฝึกได้เองในเวลาอันสั้นราวกับสวรรค์ประธานความสามารถนี้มาให้ทำให้เธอใช้วิชานี้ที่มีติดตัวมาจนเชี่ยวชาญสามารถฉกของของคนที่เดินระยะประชิดได้อย่างรวดเร็วและเขาเองก็ไม่รู้ตัวด้วย ทำให้สามารถหาข้อมูลต่างๆที่ไม่มีในอินเตอร์เน็ตมาได้โดยง่าย การเข้าไปขโมยของในโรงแรมเองก็เช่นกัน เพราะก่อนจะเข้าไปขโมยของที่ไหนเธอจะศึกษาสถานที่รวมทั้งระบบความปลอดภัย และตารางงานของคนที่จะขโมยของให้แน่ใจเสียก่อนค่อยลงมือ แต่ถ้าโชคร้ายเจ้าของกลับมาเห็นเธอพอดีเธอก็สามารถฆ่าได้โดยไม่ลังเลเช่นกัน จะฆ่าเฉพาะคนที่คิดว่าควรจะฆ่าเท่านั้นจะไม่ฆ่าคนพร่ำเพรื่อ

    ใช่ว่าเธอจะชื่นชอบการฆ่ามาตั้งแต่เด็ก แต่เป็นเพราะว่าต้องป้องกันตัวเองทำให้พลั้งเผลอฆ่าคนไป รสสัมผัสตอนที่ได้กระซวกคนพร้อมกับได้ยินเสียงกรีดร้องของคนคนนั้นทำให้เธอมีความสุขขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด ลมหายใจที่รวยรินของคนที่กำลังจะตายนั้นก็ช่างมีเสน่ห์ที่ทำให้เธอหลงใหล แต่เธอก็ไม่ได้กระหายอยากฆ่าคนทุกเวลาหรอกนะ แต่เมื่อได้เจอกับเด็กสาวคนนั้นทำให้อารมณ์ด้านนี้ค่อยๆลดลงไปบ้างเหมือนกัน เด็กสาวแสนบริสุทธิ์คนนั้นที่ไม่ได้อยู่ในโลกมืดเช่นเดียวกับเธอ ทำให้เธออยู่ด้วยแล้วรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างน่าประหลาด

    บางทีเพื่อธุรกิจและความต้องการของเธอ เธอก็สามารถใช้เรือนร่างอันแสนเย้ายวนของเธอยั่วยวนผู้ชายมักมากเพื่อให้หลงเข้ามาติดกับของเธอและเธอก็จัดการทรมานมันซะ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เธอต้องการ แต่อย่าหวังว่าจะได้แอ้มเธอ เพราะเธอไม่ยอมให้คนอื่นล่วงล้ำเข้ามาในร่างกายของเธอได้ง่ายๆ

    บางทีก็สามารถเปลี่ยนโหมดเป็นเย็นชาแบบไม่สนใจโลกได้ อะไรที่ไม่สนใจในตอนนั้นก็จะไม่ลงมือทำเลย หรือไม่ก็อะไรที่คิดว่าทำไปแล้วไม่ได้ประโยชน์ก็จะไม่ทำเพราะมันทำให้ตัวเองเหนื่อยเปล่าๆ

    มิสึกิจัดได้ว่ามีความฉลาดและความอดทนอยู่พอตัว เสียแต่ว่าบางทีก็เป็นคนขี้เกียจ ไม่อยากจำอะไรก็จะไม่จำ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ตัวเองสนใจหรือเกี่ยวกับงานแล้วล่ะก็สามารถวางแผนได้เป็นฉากๆและอดทนทำตามแผนนั้นจนกว่ามันจะสำเร็จแม้จะต้องใช้ระยะเวลาอันยาวนานก็ตาม และเมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ก็สามารถคิดวิเคราะห์แยกแยะ ประเมินสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วว่าควรแก้ไขลงมือทำอย่างไรต่อไป

    เป็นคนที่คิดแล้วพูดออกมาตรงๆ เพราะบางทีมันก็เสียเวลานะ การที่อยากได้อะไรแล้วต้องพูดวกไปวนมาเนี่ย การพูดตรงๆนอกจากจะประหยัดเวลาได้แล้วยังสามารถประเมินความรู้สึกจากใบหน้าของผู้ที่กำลังสนทนาอยู่ด้วยได้ว่ามีความรู้สึกยังไง

    ไม่ชอบเรื่องยุ่งยากเท่าไหร่ จึงไม่ชอบไปหาเรื่องใครก่อน ถ้าไม่โดนหาเรื่องก็จะอยู่เฉยๆ นั่งๆนอนๆ บริหารแก๊งของตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ถ้ามีใครคิดทำอะไรเธอหรือคนที่เธอรักแล้วละก็เธอจะเปลี่ยนไปอีกคนทันที พร้อมกลายร่างเป็นแม่เสือปกป้องคนที่รัก ไม่ว่าจะวิธีไหนเธอก็จะทำต่อให้ผิดไปจากสามัญสำนึกของคนทั่วไปก็ตาม

    เป็นคนที่ใส่ใจกับคนในครอบครัวหรือคนใต้ปกครองตัวเองคนนึง เมื่อมีการทำผิดพลาดภายในแก๊งเกิดขึ้นเธอจะสืบหาเรื่องราวให้แน่ชัดก่อนแล้วค่อยจัดการทำโทษผู้ที่กระทำผิดทีหลัง ส่วนในขั้นตอนของการสืบหาเรื่องราวนั้น ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยของเรื่องก็จะถูกกักบริเวณเอาไว้ก่อน ถ้าไม่ได้ทำผิดจริงค่อยปล่อยไป แต่ถ้าทำผิดจริงๆก็จะถูกลงโทษตามที่เห็นสมควร แต่ถ้ามีคนอื่นมาระรานพวกพ้องของตัวเองแล้วละก็ต่อให้คนนั้นมีอำนาจหรืออยู่สูงแค่ไหนก็จะไม่ยอมแพ้ เอาง่ายๆก็คือดีมาดีกลับร้ายมาร้ายตอบ

    นอกจากนี้ยังจัดได้ว่าเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งคนนึงหากไม่มีเรื่องอะไรมากระทบจิตใจแล้ว ก็จะไม่ร้องไห้ออกมาง่ายๆ จะเก็บเรื่องทุกข์ใจของตัวเองเอาไว้อยู่อย่างนั้น เพราะไม่ค่อยชอบพึ่งพาคนอื่นเท่าไหร่ งานไหนสำคัญๆเธอจึงมักจะลงมือทำด้วยตัวเองอย่างเรื่องการตามสืบข้อมูลลับสำคัญๆต่างๆ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจในลูกน้องของตัวเอง เธอก็แค่เป็นห่วงลูกน้องที่เปรียบเสมือนครอบครัวของเธอเท่านั้นเอง

     

     

     

     

    ประวัติ : ตั้งแต่จำความได้ ก็จำได้ว่าตัวเองใช้ชีวิตอยู่ตามตรอกแคบๆ ในมุมมืดมุมหนึ่งของสังคม ใช้ชีวิตทุกวันด้วยการลักกินขโมยกินบ้างเพื่อความอยู่รอด พวกของที่ไปลักมานั้นไม่ได้มีแค่อาหารอย่างเดียว อย่างอื่นเธอก็เก็บเรียบจนหมด ด้วยความที่ตัวเล็ก ทำให้เธอสามารถรอดตามปล่องต่างๆได้ นอกจากนี้วิชาสะเดาะกุญแจกับพวกกลอนต่างๆที่ฝึกทำได้เองในระยะเวลาไม่นานก็ทำให้เธอเป็นที่เลืองลือในการขโมยของ แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบ แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้รูปลักษณ์นี้สามารถขโมยของโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถตามจับตัวได้ รู้ตัวอีกทีของสำคัญที่ตัวเองเฝ้ารักษาก็โดนเด็กน้อยคนนี้ฉกมาเป็นของตัวเองแล้ว

                    “โฮ่ เก่งไม่เบานี้ยัยหนู”เสียงแหบแห้งเอ่ยขึ้นหลังจากที่เด็กน้อยขโมยกระเป้าเป้ใบหนึ่งมาจากห้องพักในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง เด็กน้อยไม่รู้ตัวเลยว่าโดนคนคนนี้สะกดรอยตามมาตั้งแต่เธอออกมาจากที่ซ่อนตัวของเธอ

                    “แกเป็นใคร ต้องการอะไร”เด็กน้อยกอดกระเป๋าในอ้อมแขนแน่น นัยน์ตาสีอความารีนจ้องมองไปที่อีกคนด้วยสายตาที่กดดัน

    “สายตาไม่เลว นี่ฉันมาดี ไม่ได้มาร้ายสบายใจได้ ยัยหนูเอ้ย คงไม่ได้พอใจเพียงแค่การขโมยหรอกนะ ใช่ไหม”

    “บอกความต้องการของแกมา”มือเล็กนั่นยังคงกอดกระเป๋าเอาไว้แน่น ภายในนั้นมีทั้งNotebook กระเป๋าเงินและข้าวของมีค่าอื่นๆที่เธอเห็นว่ามันน่าสนใจเธอต่างหยิบมันยัดใส่เป้มาทั้งนั้น นัยน์ตากวาดไปมาอย่างหาทางออกจากสถานการณ์ตรงหน้า

    “ฉันต้องการข้อมูลบางอย่างในNotebookนั่น แล้วก็สนใจจะเรียนรู้อย่างอื่นนอกจากขโมยไหมเด็กน้อย ดูแล้วอนาคตเธอคงไปได้ไกลกว่านี้แน่ๆ ฉันยินดีสอนนะ”

    “แลกกับ?”ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าของฟรีไม่มีในโลก ไม่งั้นเธอจะต้องดิ้นรนอยู่อย่างนี้หรือ นอกจากของฟรีไม่มีในโลกแล้ว ทุกอย่างในโลกนั้นต้องมีข้อแลกเปลี่ยนด้วยกันทั้งนั้น

    “ฉลาดไม่เบา”หยอดคำชมเข้าไป

    “แลกกับการทำงานให้ฉันยังไงล่ะ ไม่ได้ทำให้ฟรีด้วยนะ เธอจะได้ส่วนแบ่ง และที่พักที่ดีกว่าเดิมสนใจไหม”จบประโยคภายในหัวเล็กๆนั่นคิดคำนวณอย่างรวดเร็วถึงผลดีผลเสีย ถึงแม้จะมีผลเสียมากกว่าแต่ผลดีที่จะได้กลับกลบมันไปจนหมด

    “ได้”

    เธอไม่รู้เลยว่าการตอบว่าได้ในวันนั้นจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปยิ่งกว่าเดิม นอกจากจะต้องไปขโมยของตามโรงแรมหรูระดับวีไอพีแล้ว ทุกวันๆเธอจะต้องเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการต่อสู้ทั้งแบบประชิดและแบบระยะไกล ทั้งมือเปล่าและการใช้อาวุธ งานบ้าน งานเรือน การปกครอง และเรื่องของการแฮกข้อมูลสำคัญๆต่างๆ ไม่ว่าจะหนีจากมันสักเท่าไหร่เธอก็จะโดนเจ้าคนที่น่ารังเกียจที่พาตัวเธอมาบังคับเรียนถ้าทำไม่ได้ หรือทำได้ไม่ดีเธอก็จะโดนลงโทษ

    และแล้ววันที่เธอทำพลาดก็มาถึงเมื่อเธอเข้าไปขโมยของๆเป้าหายรายนึงแต่กลับโดนมันจับได้ เธอจะไม่ทำผิดพลาดเลยถ้าก่อนหน้านั้นเธอไม่โดนลงโทษมาคิดแล้วก็ได้แต่เกลียดเจ้าคนที่ทำให้เธอมาอยู่ตรงนี้ สองปีที่ผ่านมานั้นโดนทำโทษมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน จนกระทั่งวันนี้วันที่เจ้านั่นใช้เธอมาขโมยของบางอย่างเพราะความเร่งด่วนของงานที่รอไม่ได้ทำให้เธอที่บาดแผลยังไม่หายดีจากการลงโทษต้องออกปฏิบัติงาน

    “เจ้าหนูอยากตายแบบไหนหืม”คนพูดพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มโรคจิตมาให้ เรียวลิ้นของมันแลบออกมาเลียมีดสั้นที่ถืออยู่ในมือ

    เธอพยายามมองหาทางรอดจากสถานการณ์ตรงหน้า เมื่อมองเห็นขวดไวน์ชั้นดีที่วางเอาไว้ใกล้เธอก็จับมันมาฟาดลงกับพื้น จนได้อาวุธปลายแหลมมาไว้ในมือ เจ้าคนตรงหน้าเธอไม่ได้สนใจเท่าไหร่นักเพราะเห็นว่าเธอเป็นเด็กคงดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด แต่หารู้ไม่ว่าภายในเธอไม่ใช่เด็กเก้าขวบธรรมดา และเพราะความประมาทบวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์นั่นเองทำให้มันถูกเด็กน้อยฆ่าตายในที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีต่อสู้กันบ้างแต่เพราะเด็กน้อยก็ไม่ได้ประมาท

    “แฮ่กๆ”นัยน์ตาสีอความารีนจ้องมองสองมือของตัวเองที่เปื้อนไปด้วยเลือด เลือดสีแดงฉานที่ซาดกระเซ็นออกมาตอนที่เธอจ้วงแทงมันไม่ยั้ง ความรู้สึกในตอนแรกของการแทงคือความสะอิดสะเอียน หากแต่เมื่อเห็นคนใต้ร่างยังขยับตัวเธอก็มีแต่ต้องแทงต่อไปเท่านั้น เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นก็จะเป็นชีวิตของเธอเองที่ต้องดับสิ้นไป

    เมื่อเธอมองร่างของคนที่ตายอยู่ตรงหน้าเธอ สายตาของเธอไม่มีแววหวาดกลัวเลยสักนิด แม้ว่าร่างกายจะยังคงสั่นๆอยู่แต่ก็ปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับหมอบหมายมาต่อไป นัยน์ตาคู่สวยจ้องมองมันด้วยสายตาที่ว่างเปล่าก่อนจะหยิบของที่มาขโมยแล้วเดินกลับออกไปทางเดินราวกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    เพี๊ยะ

    เสียงฝ่ามือกระทบแก้ม พร้อมกับร่างเล็กที่กระเด็นไปอีกมุมนึงของห้อง

    “บ้าเอ้ย เราจะซวยเพราะแก ยัยเด็กบ้า แกรู้ไหมว่าคนที่แกฆ่าไปเป็นใคร”

    “ไม่รู้สิ”เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ทำไมเธอต้องสนใจด้วย ในเมื่อหมอนั่นมันจะฆ่าเธอ ถ้าเธอไม่ฆ่ามันก็ฆ่าเธอ

    “เวร...”

    ตูม

    พูดยังไม่ทันจบเสียงระเบิดก็ดังขึ้นมา ที่ด้านนอกนั้นมีเสียงสู้กันอยู่สักพักก่อนที่มันจะเงียบไป ประตูห้องค่อยๆเปิดออกช้าๆ

    “อา...อาคะสึกิ...”ชายหนุ่มที่ตบหน้าเธอเอ่ยชื่อของอีกฝ่ายเสียงสั่น เมื่อคนที่เดินเข้ามาคือหัวหน้าแก๊งยากูซ่าที่มีอิทธิพลมากที่สุดตอนนี้ ไม่คิดเลยว่าการเสียมือขวาของเขาไปจะทำให้คนเป็นหัวหน้าเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง

    “ไม่คิดว่าหนูสกปรกๆอย่างแกจะกล้าเหิมเกริมได้ขนาดนี้”

    “ไม่ๆ ไม่ใช่ฝีมือของผมเลยนะครับ ฝีมือของยัยเด็กบ้านั่นต่างหาก”เจ้าบ้านั่นรีบลนลานตอบเพราะกลัวความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามา เพราะตัวมันเองก็ไม่ได้เก่งเรื่องต่อสู้ แต่เก่งในการสนับสนุนกับหาข้อมูลมากกว่า นัยน์ตาของผู้ฟังดูจะไม่เชื่อ

    เด็กน้อยมองภาพตรงหน้าก่อนจะค่อยเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ ที่แก้มเริ่มปรากฏเป็นรอยนิ้วมือ  

    “ถ้าอยากทำอะไรก็ทำยัยเด็กนี่ได้เลยครับ”มันพูดพร้อมกับใช้สองมือดันเธอไปข้างหน้าให้เข้าใกล้กับคนที่ชื่ออาคะสึกิมากยิ่งขึ้น

    นัยน์ตาของผู้ที่ยืนเบื้องหน้าเธอมองมาที่เธอราวกลับกำลังประเมิน

    “รีบบอกว่าแกเป็นคนทำสิ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน บอกไป...อึก...”มันยังพูดได้ไม่ทันจบเด็กน้อยก็ใช้มีดขนาดพกพาแทงฉึกเข้าไปตรงตำแหน่งหัวใจของมันพอดี นัยน์ตาคู่นั้นเบิกกว้างขึ้นราวกับไม่เชื่อเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้น

    “ใช่ ฉันเป็นคนทำเองรวมถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ลาก่อนนะคะคุณชิมิสึ”เมื่อเด็กน้อยดึงมีดออกมา เลือดสีแดงสดก็พุ่งทะลักออกมา ไม่คิดเลยสักนิดว่าเจ้าคนที่น่ารังเกียจคนนี้จะขายตัวเองได้หน้าตาเฉยแบบนี้ ดังนั้น...การฆ่าอีกสักคนไปคงไม่ผิดเท่าไหร่

    นัยน์ตาสีโกเมนของผู้ที่มีนามว่าอาคะสึกิจ้องมองไปที่เด็กน้อยอย่างสนใจ ไม่คิดเลยว่าการมาล่าครั้งนี้จะทำให้ตัวเองได้เจอกับสิ่งที่น่าสนใจ

    “เธอชื่ออะไรเด็กน้อย สนใจจะมากับฉันไหม? กฎที่ต้องทำตามมีแค่ข้อเดียวคือห้ามทรยศ ทรยศเมื่อไหร่จุดจบคือตาย”

    “ข้อแรก ฉันไร้ชื่อ ข้อสองทำไมฉันต้องไปกับคุณ”เด็กน้อยยังคงจ้องมองบุคคลตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว

    “ฉันจะบอกกับเธอตรงๆ ฉันสนใจเธอ สนใจมากด้วย ที่เธอแทงแบบไม่ลังเลเมื่อกี้น่าสนใจมาก”

    “คุณอยากลองบ้างเหรอคะ?”

    “คิดว่าจะทำได้อย่างนั้นหรือเด็กน้อย อีกอย่างฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับคนที่ทำให้ฉันต้องเสียมือขวาไปเลยนะ”ถึงฉันคิดจะกำจัดมันอยู่แล้วก็เถอะ แต่ประโยคนี้เขาไม่ได้เอ่ยมันออกไป ที่สำคัญตอนนี้คือเขาอยากได้เด็กตรงหน้ามากกว่า

    “คำตอบของฉัน...”ยังไม่ทันจะพูดจบชายตรงหน้าก็เข้ามาประชิดตัวเธอพร้อมกับใช้ผ้าที่มีกลิ่นบางอย่างมาโป๊ะที่จมูกของเธอ เธอดิ้นอยู่สักพักก่อนจะค่อยๆหมดสติไปในที่สุด

    “คำตอบของฉันไม่มีคำว่าปฏิเสธอยู่ในนั้นเด็กน้อย”เขาช้อนตัวเด็กน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะเดินออกจากที่แห่งนั้นไป พร้อมกับประกายเพลิงที่ค่อยๆลุกท่วมสถานที่แห่งนั้น นัยน์ตาสีโกเมนคู่สวยจ้องมองขึ้นไปยังดวงจันทร์เบื้องบนที่กำลังทอแสงเป็นประกายสวยงามอยู่บนฟากฟ้า

    “จากนี้เธอคือ อาคะสึกิ มิสึกิ เด็กน้อยของฉัน”

     

    เมื่อเธอลืมตาตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่พบคือแสงจากหลอดไฟขนาดใหญ่บนเพดานห้อง เมื่อสายตาคุ้นชินแล้วก็พบว่าเธออยู่ในห้องที่ถูกปูด้วยเสื่อทาทามิอย่างดี ภายในห้องมีเครื่องปรับอากาศที่ถูกทำให้กลมกลืนกับห้องแบบญี่ปุ่น เธอค่อยๆลุกขึ้นมานั่ง

    “ที่นี่...”เธอพูดพลางคิดย้อน และก็พบว่าความทรงจำสุดท้ายคือเธออยู่กับชายที่ชื่ออาคะสึกิคนนั้น เมื่อคิดได้เธอก็รีบลุกเพื่อจะไปจากที่นี่ทันที เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบกับชายร่างยักษ์สองคนยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง

    “ตื่นแล้วอย่างนั้นหรือครับท่านมิสึกิ ท่านจิอากิรออยู่แล้วครับกรุณาตามมาด้วยครับ”น้ำเสียงนั้นราบเรียบแต่กลับแฝงแววของความคุกคามเอาไว้ แม้จะยังงงๆแต่เธอก็เดินตามคนทั้งสองไปพลางคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่งโดยไม่รู้ตัว

    “เข้ามา”เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นจากภายในห้อง เมื่อประตูห้องถูกเปิดออกเธอก็โดนผลักเข้าไปในห้อง

    “จับฉันมาทำไมคะ”เธอเอ่ยถามออกไปตรงๆ

    “อย่าพูดจาห่างเหินอย่างนั้นสิมิสึกิป๋าเสียใจนะ”ฮะ เด็กหญิงนัยน์ตาเบิกกว้างกับความทึกทักไปเองของอีกฝ่าย

    “คุณไม่ใช่ และฉันก็ไม่ได้ชื่อมิสึกิ”แน่นอนว่าเธอไม่ยอมรับ หลังจากที่เธอโดนหักหลังไปต่อหน้าต่อตา คนๆนั้นไม่เพียงแต่ไม่ปกป้องเธอ กลับยื่นเธอให้กลับอีกฝ่ายได้ง่ายๆ ทำให้เธอเรียนรู้สัจธรรมของโลกอีกอย่างนึงคืออย่าเชื่อใจใครง่ายๆ ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วตัวเธอเองจะไม่ได้เชื่อใจมันมาแต่แรกแล้วก็เถอะ

    “คุณป๋าเสียใจจัง เอาอย่างนี้ ในเมื่อมิสึกิยังไม่ยอมรับ งั้นเรามาเล่นเกมกันตกลงไหม อย่าเพิ่งปฏิเสธ ฟังก่อน”ชายหนุ่มรีบพูดทันทีที่เธอทำจะเอ่ยขัด ทำให้เด็กสาวยอมนั่งฟังต่อ

    “คุณป๋าจะให้เวลามิสึกิสามปีถ้าสามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้ คุณป๋าจะไม่ยุ่งไม่ตามและจะเปลี่ยนประวัติของมิสึกิให้ใหม่หมดเลยด้วย เป็นไงเกมน่าสนใจใช่ไหม อ๊ะๆ แต่ถ้าหนีไปไม่ได้ภายในสามปีมิสึกิจะต้องอยู่ที่นี่กับคุณป๋าและต้องเชื่อฟังคุณป๋าทุกอย่าง”แน่นอนว่าระยะเวลาสามปีนี้เขาคำนวณไว้หมดทุกอย่างแล้ว ทั้งการพัฒนาความสามารถของเด็กน้อย จากการฝึกหนีจากสถานการณ์จริง อีกอย่างที่ของเขา...เข้ามาแล้วใช่ว่าจะออกไปได้ง่ายๆถ้าเขาไม่อนุญาต

    “...”

    “ว่ายังไงล่ะมิสึกิ สามปีเองนะ”

    “ทำไมถึงอยากได้ฉันขนาดนั้น”

    “ไม่มีเหตุผล แค่รู้สึกถูกใจเธอตั้งแต่แรกเห็น และยิ่งตกหลุมรักเธอเข้าเต็มๆ ตอนที่เธอแทงคนอย่างไม่ลังเลนั่น มันเป็นภาพที่สวยงามมากๆเลยล่ะ อีกอย่างคุณป๋าอยากมีลูกมานานแล้ว อ้อจริงสิ ถ้าผ่านไปสามปีมิสึกิยังหนีไปจากที่นี่ไม่ได้ จะต้องยอมรับเป็นลูกบุญธรรมของป๋าด้วยนะ”

    เด็กน้อยคิดอย่างไงเธอก็มีแต่ได้กับได้(หรือเปล่านะ)แม้ว่าจะยังลังเล แต่เมื่อคิดดูแล้วถึงจะไม่ตกลงแต่ตัวเองก็ยังออกไปจากที่นี่ไม่ได้อยู่ดี ไหนจะเจ้ายักษ์สองคนที่พาเธอมาที่นี่อีก

    “ถ้ามีอุบัติเหตุบ้างในการหลบหนี อย่างเช่นมีคนตายฉันจะมีความผิดไหมคะ”

    “ไม่เลย คุณป๋าให้สิทธิมิสึกิเต็มที่ อยากใช้วิธีไหนหนีออกไปก็ได้ทั้งนั้น”รับรองสามปีต่อจากนี้หนูจะแข็งแกร่งขึ้นเยอะเลยล่ะ ชายหนุ่มต่อเอาในใจ

    “ตกลง”เป็นคำตกลงที่เธอไม่รู้เลยว่า...เธอจะไม่ได้ออกจากที่นี่ไปชั่วชีวิต เพราะหนีนามสกุลอาคะสึกิไม่พ้น เมื่อสามปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็หนีไปไม่พ้นสักที แม้ว่าจะเลือกเส้นทางที่คนคิดไม่ถึง หรือฆ่าคนในแก๊งไปกี่คนก็ตาม แต่ชายคนนั้นก็อ่านเธอออกทุกอย่าง รวมทั้งไม่ได้เอ่ยถึงคนที่เธอฆ่าตายไปเลยแม้แต่น้อย เมื่อเขาไม่พูด เธอจึงไม่พูดถึงมันด้วยเช่นกัน

    ทุกเช้า เที่ยง เย็น จะมีอาหารมาวางไว้ในห้องเธอเสมอราวกับเขารู้ว่าเธอจะต้องกลับมา ความคิดหนีนั้นเริ่มหายไปเมื่อเข้าปีที่สอง ตอนนี้เธอสนใจสิ่งอื่นมากกว่าการหนีเสียแล้ว ทำให้เวลาสามปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

    สามปีที่ผ่านมาราวกับเป็นปิศาจกระหายเลือด คิดแต่ว่าจะออกไปจากที่นี่ยังไงทำให้ลงมือจัดการผู้คนไปมากมาย และดูเหมือนว่า ว่าที่พ่อบุญธรรมเองจะรู้เหมือนกัน ผู้คนที่ส่งมาแม้ไม่ใช่กระจอกแต่ก็จัดการเธอไม่ได้สักคน

    “ในที่สุด...มิสึกกิก็เป็นของคุณป๋า หึหึ”หลังจากครบกำหนดสามปีเธอก็ถูกประกาศออกไปว่าเป็นลูกบุญธรรมของอาคะสึกิ จิอากิ ชายผู้มากไปด้วยอิทธิพลของโลกมืดในญี่ปุ่น แน่นอนว่าเมื่อประกาศออกไปแบบนี้แล้วทำให้เธอต้องตกอยู่ในอันตราย เพราะการเกี่ยวข้องกับจิอากิในแง่ของลูกบุญธรรมนั้นทำให้เธอโดนหมายหัว เพราะจิอากิยังไม่มีลูกที่แท้จริงและคงไม่คิดจะมี ดังนั้นตำแหน่งของหญิงสาวหลังจากนี้อาจทำให้ใครต่อใครต้องเสียผลประโยชน์การกำจัดทิ้งจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

    มิสึกิไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะสนิทกับคนคนนึงได้ขนาดนี้ และคนคนนั้นก็คืออาคะสึกิ จิอากิผู้เก็บเธอมาเลี้ยงนี่เอง เมื่ออยู่ด้วยกันนานวันเข้า จิอากิราวกับเป็นโลกทั้งใบของหญิงสาว ไม่ว่าเขาจะสั่งให้เธอไปฆ่า หรือไปขโมยอะไรมาก็ตามเธอพร้อมจะเชื่อฟังคำสั่งของเขาทั้งนั้น

    และแล้ววันที่มาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตก็มาถึงอีกครั้ง เมื่อเธอและจิอากิออกไปฉลองวันเกิดของเธอ(วันที่เจอกับจิอากิวันแรก)ข้างนอกแบบลับๆกันสองคนโดยที่มีผู้ติดตามไปด้วยแค่สามคนเท่านั้นไม่คิดเลยว่า...จะโดนลอบฆ่า พวกมันมาด้วยกันทั้งหมดยี่สิบกว่าคนในการลอบฆ่า...จะเรียกว่าลอบฆ่าก็ไม่ได้เต็มปากนัก เมื่อเล่นโผล่มาจะๆต่อหน้าขนาดนี้

    “มิสึกิ!”เสียงของพ่อบุญธรรมของเธอดังขึ้นพร้อมกับเสียงปืน สามนัดซ้อน มิสึกิจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยนัยน์ตาที่เบิกกว้างร่างของพ่อบุญธรรมล้มทับเธอจนลงไปกองกับพื้นด้วยกัน เลือดสีแดงสดมากมายที่เธอเคยชอบตอนนี้เธอกลับไม่นึกชอบมันเลยสักนิด

    “ไม่ ม่ายยยยย”ลมหายใจรวยรินของคนที่กำลังทับร่างทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก เขาที่เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเธอ โชคดีที่กำลังเสริมมาแล้วทำให้พวกที่เหลือไม่มีโอกาสได้ทำอะไรอีก และก็ถูกแก๊งของเธอรวบจับแบบเป็นๆมาได้หลายคน

    “อยะ...อย่าร้องไห้...แฮ่กๆ”

    “อย่า อย่าพูด ฮึก...ฮึก...”หมอประจำตระกูลกับรถมาแล้ว ร่างของจิอากิถูกยกเข้าไปในนั้นก่อนจะรีบทำแผลอย่างเร่งด่วน

    ...

    “เสียใจด้วยนะครับ...ท่านจิอากิ...”เธอที่นั่งรออยู่ภายนอกห้องรีบปรี่เข้าไปหาหมอทันทีที่หมอเดินออกมา หมอพูดเพียงแค่นั้นเธอก็รู้แล้ว เธอพยักหน้าให้หมอก่อนจะเดินเหม่อออกไป

    นัยน์หม่นแสงราวกับคนไร้ชีวิต โลกทั้งใบของเธอพังทลายลงไปแล้ว

    งานศพของจิอากิถูกจัดขึ้นมาภายในแก๊ง และเชิญคนที่สนิทไม่กี่คนเท่านั้นมา

    “ไม่ๆ ฮึก ฮือ คุณพ่อ”เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นจากทางเข้างานทำให้เธอหันไปมองเจ้าของเสียงและก็พบเด็กสาวคนนึงที่มีเค้าใบหน้าคล้ายกับพ่อบุญธรรมของเธอไม่มีผิด นัยน์ตาสีอความารีนเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อคิดถึงสิ่งที่เป็นไปได้ แต่พ่อบุญธรรมของเธอไม่เคยบอกเธอในเรื่องนี้

    เด็กสาวคนนั้นวิ่งเข้าไปใกล้โลงศพของพ่อบุญธรรมของเธอมากขึ้นๆ ก่อนจะปล่อยโฮออกมา

    “อย่าร้องไห้”มิสึกิเดินเข้าไปจับไหล่ของเด็กคนนั้นก่อนจะเอ่ยออกมา “ยิ่งร้องคุณพ่อจะยิ่งไม่สบายใจนะ”

    “ฮึก”เด็กน้อยหันมากอดเธอและยังคงร้องไห้ต่อไป ทำให้เธอได้รับรู้สิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกอบอุ่นจากอ้อมกอดเป็นครั้งแรก มือของเธอลูบหัวของเด็กน้อยอย่างปลอบประโลมพร้อมกับตัดสินใจแล้วว่าจะดูแลเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด และจะไม่ให้เด็กคนนี้ต้องมาเดินอยู่ในทางที่อันตรายตามที่คุณพ่อบุญธรรมของเธอต้องการ นัยน์ตาสีอความารีนวาววับเมื่อคิดถึงบุคคลที่ลงมือในเหตุการณ์ครั้งนี้ หลังจากที่เธอลงมือสืบด้วยตนเอง เธอก็พบว่าผู้สั่งฆ่าในวันนั้นคือกลุ่มผู้ฆ่าอาวุธรายใหม่ที่กำลังเข้ามาลงทุนที่นี่แต่ดันมีเรื่องกับพ่อบุญธรรมของเธอเสียก่อนทำให้พวกนั้นขาดทุนยับเยิน ยิ่งสืบไปเธอก็พบว่ากลุ่มผู้ค้าอาวุธรายนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวเพราะมีเครือข่ายอยู่ในประเทศใหญ่ๆอีกหลายประเทศด้วยเช่นกัน แต่มิสึกิเองก็ไม่ได้เกรงกลัวคนที่บังอาจมาพังทลายโลกของเธอ...เธอก็จะให้มันได้รับรู้ความรู้สึกนั้นเช่นกัน ในระหว่างนั้นเด็กสาวคนที่วิ่งเข้ามาปล่อยโฮกลางงานศพของจิอากินั้น มิสึกิก็ได้รู้ทีหลังว่าเธอชื่อจิยูริ เป็นลูกแท้ๆของจิอากิที่แอบเลี้ยงเอาไว้ หลังจากที่ได้รับรู้การมีอยู่ของจิยูริ มิสึกิก็จัดการส่งจิยูริออกไปเลี้ยงดูภายนอกแก๊งอย่างลับๆตามแบบเดิมที่จิยูริเคยอยู่ แต่เพิ่มผู้คุ้มกันอย่างลับๆมากขึ้นเช่นกัน

    มิสึกิในวัย24 ในที่สุดก็รวบรวมข้อมูลที่ต้องการมาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากการไปขโมยด้วยตัวเองหรือส่งคนแฝงเข้าไปในนั้น หรือแม้กระทั่ง...ใช้เรือนร่างของตัวเองในการสืบข่าว แต่กลับไม่มีใครได้แอ้มเธอหรอกนะ เพราะเธอแค่ยั่วยวนในตอนแรกและค่อยๆทรมานล้วงความลับพวกมันออกมา แน่นอนว่าข้อมูลที่เธอได้มานั้นมีทั้งข้อมูลทั่วไปจนกระทั่งข้อมูลลับส่วนตัวนั่น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเรื่องอาวุธและการฟอกเงินของบริษัทนั่นกับรัฐบาลของหลายๆประเทศอีกด้วย แม้จะเสี่ยงแต่ก็นับว่าคุ้มหากได้แก้แค้น

    “ลูกสาวและหลานสาวอย่างนั้นหรือ...หึหึ”มิสึกิคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้...เครื่องบินลำใหญ่ยักษ์ที่กำลังจะขึ้นบินไปบนฟากฟ้านั้นระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ผู้คนที่อยู่ภายในสนามบินต่างกรีดร้องและแตกตื่น

    “จบกันเท่านี้แหละนะ”นัยน์ตาสีอวามารีนที่กำลังมองผลงานผ่านแว่นดำจากสถานที่ที่สามารถเห็นได้ชัด แม้ว่าจะน่าเสียดายที่ไม่ได้ทรมานมันด้วยตัวเองก็ตาม แต่เท่านี้พวกมันก็จะได้รับรู้ความรู้สึกเช่นเดียวกับเธอบ้างยามที่ต้องเสียบุคคลที่รักไปน่ะ

    โดยไม่รู้เลยว่าบนเครื่องบินลำนั้นนอกจากจะมีลูกสาวและหลานสาวของคนหลายๆคนที่เธอต้องการแก้แค้นแล้ว ยังมีญาติของบุคคลๆหนึ่งที่เธอได้ฆ่าเขาไปอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีกด้วย

    และเพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ซึ่งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในโลกมืดบนเครื่องบินลำนั้นมีไม่ต่ำกว่าห้าคนทำให้ใครหลายๆคนระแคะระคายว่าข้อมูลของพวกเขาอาจจะรั่วไหลออกไป ทำให้พวกเขาเริ่มลงมือสืบหาตัวคนทำ แต่บ้างก็ทำไปเพราะต้องการแก้แค้นให้กับคนที่ตัวเองรักด้วยเช่นกัน

    มิสึกิเดินทางกลับมายังที่พักของตน แม้ว่าเรื่องทุกอย่างมันจะยังไม่จบอย่างที่เธอคิดจริงๆ แต่การจะสาวมาหาถึงเธอได้คงไม่ง่ายขนาดนั้น

    “คุณแม่”เสียงของเด็กหญิงในวันงานศพของพ่อบุญธรรมเอ่ยเรียกเธอ นัยน์ตาสีอความารีนรี่มองคนเรียกอย่างรักใคร่ ตอนนี้ก็ขอใช้ชีวิตเรียบง่ายกับเด็กสาวผู้แสนบริสุทธิ์คนนี้ไปก่อนแล้วกัน 

     

     

    สิ่งที่ชอบ:

    ร่ม ชอบเพราะสามารถกางได้ทั้งวันที่ฝนตกและแดดออก นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้ผิวต้องเจอกับแสงแดดที่แผดเผาอีกด้วย

    อาการ เห็นแล้วตาจะเป็นประกาย เพราะชอบสะสมร่มลายสวยๆเป็นพิเศษ และไม่ว่าออกไปที่ไหนก็จะพกไปด้วยสักคันเสมอ

    นกฮูก ชอบเพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี อีกทั้งยังตัวกลมๆ ตาแป๊วๆ น่ารักน่ากอดนั่นอีก

    อาการ เข้าไปจับกอดลูบคลำ(ถ้าสามารถทำได้จริง) ถ้าทำไม่ได้ก็จะมองด้วยสายตาละห้อย มีพวงกุญแจ หรือพวกกระเบื้องเคลือบนกฮูกอยู่เต็มห้องเธอเลยล่ะ

    ชา เพราะดื่มแล้วรู้สึกว่าตัวเองผ่อนคลาย และทำให้ง่วงนอนเพราะปกติค่อนข้างหลับยากอยู่เหมือนกัน

    อาการ เมื่อได้กลิ่น หรือดื่มชาแล้วจะแสดงสีหน้าที่ผ่อนคลายมากกว่าปกติ รอยยิ้มจะดูสดใสขึ้น

    เลือด เพราะสีของมันยามพุ่งออกมาจากร่างกายของคนนั้นช่างสวยงาม

    อาการ จ้องมองมันด้วยนัยน์ตาที่เป็นประกาย ยิ่งเห็นเลือดออกมาจากร่างกายของคนมากเท่าไหร่เธอยิ่งลงมือทำให้มันออกมาเพิ่มมากขึ้น

     

    สิ่งที่ไม่ชอบ:

    เหล้าเบียร์ เพราะไม่ชอบกลิ่นฉุนที่เตะจมูกของมัน

    อาการ แค่ได้กลิ่นก็แทบอยากจะปาทิ้งแล้ว และยิ่งเป็นกลิ่นคนเมาที่ไม่ได้สติ เธอจะสั่งลูกน้องให้นำเจ้าของร่างไปทิ้งไกลๆ

    การก้าวล้ำเข้ามายุ่งสิ่งที่เธอรักและให้การปกป้อง เพราะเธอเป็นพวกหวงของหากมีใครมายุ่งแล้วละก็คงได้อาละวาดใส่แน่ๆ

     

    สิ่งที่กลัว: แมงมุม เพราะเคยโดนแมงมุมกระโดดใส่หน้าตอนเป็นเด็ก ทำเอากรี๊ดลั่นบ้าน(โชคดีที่ไม่มีใครเห็น)

    อาการ แค่เห็นก็จะขยับตัวออกห่างไปให้ไกล แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เจอแบบตกลงมาต่อหน้าจะกรี๊ดลั่นจนคนอื่นตกใจ นึกว่าเธอโดนทำร้าย...แต่ที่แท้ก็แค่แมงมุมตกผ่านหน้าไปเท่านั้นเอง

     

    สิ่งที่แพ้: -

     

     

    ลักษณะคำพูด:

    จะเรียกแทนตัวเองว่าฉัน และเรียกแทนคนอื่นว่าคุณทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จัก โดยไม่สนใจเรื่องอายุ คนที่อายุน้อยกว่าก็เรียกว่าคุณ คนที่เป็นลูกน้องก็เรียกว่าคุณ

    คำพูดปกติ

    คุณxxxเป็นอะไรอย่างนั้นหรือคะ?”

     ฉันมิสึกินะคะ คุณละ?”

    คำพูดตอนอารมณ์ดี

    วันนี้ให้เป็นพิเศษเลยนะคะ อยากทำอะไรตามใจเลยค่ะ

    คำพูดตอนเศร้า

    ขะ...ขอโทษนะคะ ฉันขออยู่คนเดียวก่อนนะคะเธอไม่มองหน้าพูดฟัง แต่น้ำเสียงที่ติดสั่นนั้นก็ทำให้คนฟังรับรู้ได้ว่าเธอรู้สึกยังไง เพราะไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง

    ฮึก...ฮึก...ไม่ ม่ายยยยเธอตะโกนออกมาอย่างไม่แคร์ใครเพราะตอนนี้เธอเสียใจมากจนไม่สนใจอะไรแล้ว

    คำพูดตอนโกรธ

     กล้ามากเลยนะคะ ที่มาหาเรื่องฉันคนนี้

    “ไม่อยากตายดีอย่างนั้นสินะคะ”

    คำพูดตอนอยู่กับจิยูริ

    “ใครมันกล้ารังแกจิยูริ ของฉัน”พูดเสียงเหี้ยมหลังจากเห็นรอยแดงบนใบหน้าของจิยูริ

    “อย่าเศร้าไปเลยนะ แม่ยังอยู่ตรงนี้”

     

     

     

    สาเหตุที่ทำให้ถูกตามล่า: ระเบิดเครื่องบินของกลุ่มผู้ค้าอาวุธ ซึ่งบนเครื่องบินลำนั้นมีลูกแหละหลานของพวกนั้นอยู่ ทำให้พวกนั้นระแคะระคายว่าเธอรู้ข้อมูลพวกนี้ได้ยังไง

     

    เพิ่มเติม:เกิด14มีนาคม วันไวท์เดย์

    ลูกสาวของจิอากิ ชื่อจิยูริ เป็นลูกสาวที่แท้จริงที่แอบซ่อนและปิดบังทุกคนเอาไว้ ยกเว้นมือซ้ายของตัวเอง แม่ของจิยูริเสียทันทีที่คลอดเธออกมา

    จิยูริเรียกมิสึกิว่าแม่ตั้งแต่เจอกันที่งานศพพ่อของตัวเอง เนื่องจากตอนอยู่ด้วยกันกับพ่อ พ่อก็มักเล่าเรื่องราว(ดีๆ)ของมิสึกิให้ฟังบ่อยๆ

     

     

     

    -------------------------------------------------------------------------------------

     

     

     

    คุยกับผู้ปกครอง

     

    สวัสดีค่ะท่านผปค. เราเบลล์ซังคนงาม ยินดีที่ได้พบค่ะ ชื่ออะไรเอ่ยยย?

     

    -ชื่อนัทสึคิ ครั้งที่สองแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ

     

    ขอนิยามลูกสาวท่านสักเล็กน้อยพอเข้าใจหน่อยค่ะ

     

    - คุณพ่อบุญธรรมคือโลกทั้งใบ

     

    เราดองนานจริงจังนะคะ เตรียมใจรากงอกกลิ้งรอฟิคเบลล์ได้เลย555555 สักปีสองปีรอไหวไหมเนี่ย?

     

    -รออ่านจริงๆนะคะ เรื่องน่าสนใจมากเลยค่ะ

     

    สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่สนใจนะคะ เลิฟยูวววว <3






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×