ลำดับตอนที่ #21
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : อำลาอาลัย
วันรุ่งขึ้นที่ท่าเรือ...
“คารินหลานตาหากเจ้าบอกเพียงคำเดียวกองทัพของตาก็พร้อมเสมอ”ท่านจ้าวเอวิเดสบอกกับคาริน
“อย่าลำบากเลยท่านตา หากชีวิตและอิสระของหลานเพียงคนเดียวแลกกบการที่จะไม่ทำให้สองดินแดนต้องรบกันหลานก็ยินดี"
“เฮ้อแล้วแต่เจ้าละกัน” ผู้เป็นตาถอดถอนหายใจ"มันกะทันหันเกินไป ตาไม่มีของขวัญอำลาซะด้วยสิ งั้นเจ้าเอานี่ไปแล้วกัน” พูดพลางถอดต่างหูแก้วลักษณะเหมือนลูกปัดกลมๆธรรมดาแต่ที่แปลกก็คือมันจะเปลี่ยนสีสันไปเรื่อยๆ บางทีก็เป็นสีดำสนิท บางทีก็เหมือนมีกองไฟสีฟ้าสีเหลืองเต้นระริกอยู่ข้างใน บ้างก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้าอมเขียวลอยหมุนวน อีกซักพักก็กลายเป็นสีรุ้ง
“เอ๋” เสียงคารินแสดงความแปลกใจ
“มันคือต่างหูภูต เอาไว้ใช้เรียกภูตต่างๆ เจ้าจงจำไว้ให้ดีนะคาริน ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ต่างก็มีภูตสิงสถิตอยู่ ไม่เว้นแม้แต่ลมฟ้าอากาศ หรือผงเถ้าธุลี”ท่านจ้าวบอกขณะใส่มันให้หลานสาว
“ค่ะ หลานจะจำเอาไว้”
ท่านจ้าวสวมกอดคารินเบาๆ แล้วยิ้มให้เขาทีนึง “เอ้า เพื่อนเจ้ามาส่งแล้วไปลาเขาซะสิ”
พูดจบก็เดินออกไป พวกเพื่อนต่างก็เข้ามาห้อมล้อมคาริน
“คาริน...เธอ....เธอจะไปจริงหรอ”โทนี่เปิดปากพูดคนแรก คารินไม่ตอบ โทนี่ถอนหายใจ “ชั้นคงคิดถึงนายนะ เพื่อน”
“คาริน...ฮึก...ฮึก...ชั้น...โฮๆๆๆๆๆ” พอลพูดยังไม่ทันจบประโยคดีก็หันไปซบโทนี่แล้วร้องไห้
...เฮ้ๆ ไม่ได้ว่างั้นว่างี้นะ แต่นายมาลาชั้นไม่ใช่หรอ นายน่าจะมาซบอกชั้นแทนที่จะเป็นไอ้โทนี่นะ...
“ไอ้คาริน แกไปเนี่ยมันทำให้สาวๆขาดใจตายนะโว้ย” เล็กซิสนักบวชจอมปลอมว่าบ้าง
“นายอย่าห่วง เดี๋ยวสาวๆทางนี้ชั้นดามอกให้เอง”โวเรนพูดพลางยักคิ้ว “โดยเฉพาะ....”ไม่พูดต่อแต่พยักเพยิดไปทางสาวน้อยซูซานที่เอาแต่ก้มหน้ามองพื้น ถ้าให้คารินเดาเธอคงร้องไห้
“คุณคารินรักษาตัวด้วยนะค่ะ” เสียงพูดแผ่วเบาจากเจ้าหล่อนดังขึ้น
“นายไปหอพัก3...ไม่สิโรงเรียนคงอุ่นขึ้นอีกเยอะ” เสียงหวานแบบผู้หญิงแต่คำพูดห้าวๆเหมือนผู้ชายแบบนี้ ไม่ต้องบอกว่าใคร เซลด้าแน่นอน
และอีกหลายๆคำพูดที่ทำเอาเควินชักอยากจะรีบขึ้นเรือขึ้นมาตะหงิดๆแล้วสิ
“อ๊า จริงด้วย” อยู่ดีๆมาร์คัสก็อุทานขึ้นมากลางวงสนทนา แถมไม่ใช่เสียงที่เบาๆซะด้วยสิ
“อะไร” เซลด้าตวาดอย่างรำคาญ
“ไอ้นั่นไง”
“อ๊า จริงด้วย” ทุกคนร้องอย่างนึกขึ้นมาได้...อ่า...อาจจะยกเว้นคารินไว้สักคน เพราะหนุ่มน้อยของเรายังคงนั่งทำตาปริบๆอยู่
“เฮ้ ซูซานเอาออกมาสิ” แคร์โรรินสะกิดซูซาน
“ค่ะๆ”
สิ่งที่สาวน้อยหยิบออกมาก็คือลูกแก้วใสๆ
“อะไร”คารินถาม
“อืม...เราเรียกมันว่าลูกแก้วความทรงจำ” โทนี่ตอบพร้อมกับหยิบลูกแก้วจากซูซานส่งให้คาริน“เป็นความคิดของพอลแหล่ะ”
“แล้วมันใช้ยังไง” ถามพลางหมุนลูแก้วในมือเล่น
“ก็เขย่าๆอย่างนี้ไง”
พลันก็มีเสียงดนตรีดังขึ้นเบาๆ ภาพเหตุการณ์ต่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันเปิดเรียนวันแรกค่อยๆไหลผ่านไปในตัวลูกแก้ว
“ว้าว”คารินร้องอย่างตื่นเต้น เขานั่งดูอย่างเพลินๆ เสียงดนตรีไพเราเสนาะหูดังมาไม่ขาดสาย
“เพลงเนี่ยไอ้อัสมันเล่นเองเลยนะโว้ย” เสียงจิมมี่ เดอะ วอร์ริเออร์อวดแทนเพื่อนชายที่ขี้อาย
“ขอบคุณนะ เพื่อน”คารินพูดแล้วยิ้มทั้งน้ำตา เพื่อนๆแต่ละคนเข้ามาผลัดเปลี่ยนกันกอดเขา จากนั้นทั้งหมดก็นั่งพูดคุยสรรพเหระกันต่อ บางคน(อย่างเช่นเล็กซิส) ก็เล่นมุขชนิดมุขไม่ฮาพาตรูเครียดออกมาบ้าง แต่เพื่อนๆก็ยังหัวเราะกันได้
“คารินรักษาตัวให้ดีนะลูก” การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของคิงโอเดลทำเอาเหล่าลิงทะโมนแห่งป้อมอัศวินต่างถอยกรูดกันเป็นแถว
“ขอบพระทัยในความห่วงใยฝ่าบาท” เส็ยงแข็งต่างกับเมื่อครู่ลิบลับ รอยยิ้มที่เคยเปื้อนใบหน้าก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว
“คารินได้โปรด เรียกพ่อว่าพ่ออีกซักครั้ง จะได้ไหม” คำอ้อนวอนจากคิงโอเดลถูกส่งมาให้ลูกสาว
“ลาก่อน.....พ่อ”
*--------------------------------------------------------------------------------*
หวังว่ายังคงติดตามกันอยู่น้า แล้วอย่างลืมเมนท์ด้วยล่ะ ติชมกันได้เต็มที่เราไม่ว่า แต่แขกรับเชิญจากบารามอสมันมั่วเลยนะนั้น
“คารินหลานตาหากเจ้าบอกเพียงคำเดียวกองทัพของตาก็พร้อมเสมอ”ท่านจ้าวเอวิเดสบอกกับคาริน
“อย่าลำบากเลยท่านตา หากชีวิตและอิสระของหลานเพียงคนเดียวแลกกบการที่จะไม่ทำให้สองดินแดนต้องรบกันหลานก็ยินดี"
“เฮ้อแล้วแต่เจ้าละกัน” ผู้เป็นตาถอดถอนหายใจ"มันกะทันหันเกินไป ตาไม่มีของขวัญอำลาซะด้วยสิ งั้นเจ้าเอานี่ไปแล้วกัน” พูดพลางถอดต่างหูแก้วลักษณะเหมือนลูกปัดกลมๆธรรมดาแต่ที่แปลกก็คือมันจะเปลี่ยนสีสันไปเรื่อยๆ บางทีก็เป็นสีดำสนิท บางทีก็เหมือนมีกองไฟสีฟ้าสีเหลืองเต้นระริกอยู่ข้างใน บ้างก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้าอมเขียวลอยหมุนวน อีกซักพักก็กลายเป็นสีรุ้ง
“เอ๋” เสียงคารินแสดงความแปลกใจ
“มันคือต่างหูภูต เอาไว้ใช้เรียกภูตต่างๆ เจ้าจงจำไว้ให้ดีนะคาริน ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ต่างก็มีภูตสิงสถิตอยู่ ไม่เว้นแม้แต่ลมฟ้าอากาศ หรือผงเถ้าธุลี”ท่านจ้าวบอกขณะใส่มันให้หลานสาว
“ค่ะ หลานจะจำเอาไว้”
ท่านจ้าวสวมกอดคารินเบาๆ แล้วยิ้มให้เขาทีนึง “เอ้า เพื่อนเจ้ามาส่งแล้วไปลาเขาซะสิ”
พูดจบก็เดินออกไป พวกเพื่อนต่างก็เข้ามาห้อมล้อมคาริน
“คาริน...เธอ....เธอจะไปจริงหรอ”โทนี่เปิดปากพูดคนแรก คารินไม่ตอบ โทนี่ถอนหายใจ “ชั้นคงคิดถึงนายนะ เพื่อน”
“คาริน...ฮึก...ฮึก...ชั้น...โฮๆๆๆๆๆ” พอลพูดยังไม่ทันจบประโยคดีก็หันไปซบโทนี่แล้วร้องไห้
...เฮ้ๆ ไม่ได้ว่างั้นว่างี้นะ แต่นายมาลาชั้นไม่ใช่หรอ นายน่าจะมาซบอกชั้นแทนที่จะเป็นไอ้โทนี่นะ...
“ไอ้คาริน แกไปเนี่ยมันทำให้สาวๆขาดใจตายนะโว้ย” เล็กซิสนักบวชจอมปลอมว่าบ้าง
“นายอย่าห่วง เดี๋ยวสาวๆทางนี้ชั้นดามอกให้เอง”โวเรนพูดพลางยักคิ้ว “โดยเฉพาะ....”ไม่พูดต่อแต่พยักเพยิดไปทางสาวน้อยซูซานที่เอาแต่ก้มหน้ามองพื้น ถ้าให้คารินเดาเธอคงร้องไห้
“คุณคารินรักษาตัวด้วยนะค่ะ” เสียงพูดแผ่วเบาจากเจ้าหล่อนดังขึ้น
“นายไปหอพัก3...ไม่สิโรงเรียนคงอุ่นขึ้นอีกเยอะ” เสียงหวานแบบผู้หญิงแต่คำพูดห้าวๆเหมือนผู้ชายแบบนี้ ไม่ต้องบอกว่าใคร เซลด้าแน่นอน
และอีกหลายๆคำพูดที่ทำเอาเควินชักอยากจะรีบขึ้นเรือขึ้นมาตะหงิดๆแล้วสิ
“อ๊า จริงด้วย” อยู่ดีๆมาร์คัสก็อุทานขึ้นมากลางวงสนทนา แถมไม่ใช่เสียงที่เบาๆซะด้วยสิ
“อะไร” เซลด้าตวาดอย่างรำคาญ
“ไอ้นั่นไง”
“อ๊า จริงด้วย” ทุกคนร้องอย่างนึกขึ้นมาได้...อ่า...อาจจะยกเว้นคารินไว้สักคน เพราะหนุ่มน้อยของเรายังคงนั่งทำตาปริบๆอยู่
“เฮ้ ซูซานเอาออกมาสิ” แคร์โรรินสะกิดซูซาน
“ค่ะๆ”
สิ่งที่สาวน้อยหยิบออกมาก็คือลูกแก้วใสๆ
“อะไร”คารินถาม
“อืม...เราเรียกมันว่าลูกแก้วความทรงจำ” โทนี่ตอบพร้อมกับหยิบลูกแก้วจากซูซานส่งให้คาริน“เป็นความคิดของพอลแหล่ะ”
“แล้วมันใช้ยังไง” ถามพลางหมุนลูแก้วในมือเล่น
“ก็เขย่าๆอย่างนี้ไง”
พลันก็มีเสียงดนตรีดังขึ้นเบาๆ ภาพเหตุการณ์ต่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันเปิดเรียนวันแรกค่อยๆไหลผ่านไปในตัวลูกแก้ว
“ว้าว”คารินร้องอย่างตื่นเต้น เขานั่งดูอย่างเพลินๆ เสียงดนตรีไพเราเสนาะหูดังมาไม่ขาดสาย
“เพลงเนี่ยไอ้อัสมันเล่นเองเลยนะโว้ย” เสียงจิมมี่ เดอะ วอร์ริเออร์อวดแทนเพื่อนชายที่ขี้อาย
“ขอบคุณนะ เพื่อน”คารินพูดแล้วยิ้มทั้งน้ำตา เพื่อนๆแต่ละคนเข้ามาผลัดเปลี่ยนกันกอดเขา จากนั้นทั้งหมดก็นั่งพูดคุยสรรพเหระกันต่อ บางคน(อย่างเช่นเล็กซิส) ก็เล่นมุขชนิดมุขไม่ฮาพาตรูเครียดออกมาบ้าง แต่เพื่อนๆก็ยังหัวเราะกันได้
“คารินรักษาตัวให้ดีนะลูก” การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของคิงโอเดลทำเอาเหล่าลิงทะโมนแห่งป้อมอัศวินต่างถอยกรูดกันเป็นแถว
“ขอบพระทัยในความห่วงใยฝ่าบาท” เส็ยงแข็งต่างกับเมื่อครู่ลิบลับ รอยยิ้มที่เคยเปื้อนใบหน้าก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว
“คารินได้โปรด เรียกพ่อว่าพ่ออีกซักครั้ง จะได้ไหม” คำอ้อนวอนจากคิงโอเดลถูกส่งมาให้ลูกสาว
“ลาก่อน.....พ่อ”
*--------------------------------------------------------------------------------*
หวังว่ายังคงติดตามกันอยู่น้า แล้วอย่างลืมเมนท์ด้วยล่ะ ติชมกันได้เต็มที่เราไม่ว่า แต่แขกรับเชิญจากบารามอสมันมั่วเลยนะนั้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น