ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ งอนแล้วนะ
ทางฝ่ายคิงโอเดล
“คารินหายไป! หายไปไหน” เสียงอุทานจากคิงโอเดลเมื่อได้รับข่าวว่าลูกสาวของตนหายไป
“เจ้ารีบไปสืบหาข่าวมาเดี๋ยวนี้”โอเดลบอกกับทหารคนสนิทที่นำข่าวมาบอก คนๆนั้นรับคำแล้วรีบเดินออกไป
โธ่! เพื่อนสนิทก็แปรเปลี่ยน หญิงที่รักก็ตายจากไป ลูกคนโตทั้งสองก็โดนแย่ง นี่ลูกคนสุดท้องยังมาหายตัวไปอีก คิงโอเดลผู้อาภัพได้แต่เก็บความเศร้าไว้ลึกๆ
ในหอพัก3........................
“เฮ้ยพอล โทนี่ อย่าคิดมากดิ ที่คารินมันหายไปไม่ใช่ความผิดของพวกแกหรอก” เกรฟฮาร์ตพูดปลอบเพื่อน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกคิงก็จะกลับกันแล้ว แต่โรงเรียนยังปิดอยู่บางทีพวกเราอาจจะแอบหนีไปตามหาไอ้คารินกันได้” จินพูดขึ้นบ้าง
“แต่เราไม่รู้นี่ว่าคารินหายไปไหน” โทนี่พูดอย่างหงอยๆ
“อย่าคิดมากนา เอาไว้เป็นหน้าที่เอเชลล่ายอดนักสืบคนนี้เอง เพราะงั้นอย่าห่วงเลยเพื่อน”เอเชลล่าที่ตอนนี้คิดว่าตัวเองเป็นยอดสปายว่าแล้วตบไหล่พอล กับโทนี่คนละปึก
“ต้องเป็นห่วงหนักกว่าเดิมละไม่ว่า”มาร์คัสเปรยเบา แต่คงเพราะเอเชลล่าหูดีเกินไปเลยยังได้ยินอยู่ การเล่นไล่จับก็เริ่ม สร้างความครื้นเครงได้พอดู
ภายในกระโจมสีแดง หนุ่มน้อยผมเงินกำลังนอนหน้าบูดอยู่บนเตียง โดยมีชายสองคนยืนเฝ้า เขานั่งอยู่ในนี้มาสามวันแล้วไม่ได้ออกไปไหนเลย ผู้คุมทั้งสองก็ปฏิบัติหน้าที่ดีเหลือเกินเฝ้าซะแทบไม่ได้กระดิก
"นี่ออกไปข้านอกบ้างไม่ได้หรือ"คารินถามอย่างหมดความอดทน
"ได้สิพ่ะย่ะค่ะ"
"เอ๋ ได้งั้นหรอ"
"พ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นไปข้างนอกกันเถอะ"คารินว่าพลางยิ้มแก้มปริ ดีเลยจะได้สำรวจดูทางหนีทีไล่ในค่ายนี่ ท่านแม่เคยบอกไว้ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง พอหลังจากนั้นก็แอบชิ่งนี้ถึงยังไงสองคนนี้ก็ไม่คณามือเราหรอก แผนชั่วๆปรากฏขึ้นให้สมองเขาทันที
แต่แผนทุกอย่างก็ต้องพังทลายเมื่อ..................
"นี่ๆ ไปด้านโน้กันเถอะ"ฮิฮิ ได้ยินเสียงการต่อสู้สงสัยต้องเป็นลานฝึกซ้อมแน่เลย จะได้ดูว่าเขาฝึกทหารกันยังไง
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทสั่งห้ามไปลานฝึกซ้อมเพราะทรงกลัวท่านเควินจะได้รับบาดเจ็บจากอาวุธ"
"งั้นไปขี่ม้ากัน"
"ไม่ได้เหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ ม้าของเราค่อนข้างจะพยศถ้าไม่คุ้นด้ย ฝ่าบามเลยสั่งห้าม
"งั้นไปเล่นน้ำกันดีไหม"
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ มันอันตรายเดี๋วยเกิดท่านคารินจมน้ำไปจะแย่"
"งั้นไปนั่นไหม"
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นไปนี่ไหม"
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นไปตรงโน้นก็ได้
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
"ไปตรงนั้นกันเถอะ"
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
"โธ่ ที่โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ อะไรกันนักกันหนา เราไม่ใช่นัก...."
คารินชะงักคำพูดไว้ได้ทัน นี่เขาลืมไปได้ยังไงว่ามาอยู่ที่นี่จะเป็นในฐานะอะไรได้นอกจากจะเป็นเชลยศึก จริงๆแล้วเขาอาจจะอยากจับเราขังคุกก็ได้ แต่ติดตรงที่เราเป็นถึงราชนิกูล ก็นะจะไปหวังอะไรมากในถิ่นศัตรู เรามันก็แค่เด็กที่เขาจับมาดูเล่น คิดแล้วมันน่าเจ็บใจจริง
"งั้นกลับเถอะ"คารินว่าสะบัดหางเสียงเล็กน้อย คอยดูนะถ้าฟื้นตัวเมื่อไหร่พ่อจะยำค่ายนี้ให้เละเป็นโรงน้ำแข็งไสไปเลย
พอตกเย็นมาเควินก็มาที่กระโจมของคาริน ก็ได้เห็นร่างทหารของตนทั้งสองคนยืนทำหน้ากระอักกระอวนใจอยู่หน้ากระโจม
"เกิดอะไรขึ้น"เควินถามพลางเปิดผ้ากั้นกระโจมเข้าไป ก็ได้เห็ร่างเล็กนั่งหงอยน้ำตาซึมอยู่บนเตียง
"เป็นอะไร"เควินถาม
"ทำไมไม่จับเราไปขังซะล่ะ มันไม่ง่ายกว่าหรอ"คารินพูดเป็นเชิงตัดพ้อ หน้าขาวๆถูกเชิดสูงขึ้น
"ใครจะไปขังได้ลงเล่า น่ารักออกอย่างนี้"เควินว่าพลางลูบหัวร่างเล็กอย่างอ่อนโยน
"งั้นก็ฆ่าไปซะเลยซี่ จะได้ไม่เปลืองน้ำ เปลืองข้าว เปลืองคนมาดูแล เปลือง...."คำพูดถูกกลืนลงไปในคอ เพราะตอนนี้ริมฝีปากบางได้ถูกครอบครองเรียบร้อยแล้วโดยเควิน ลิ้นสากควานเข้าไปหาความหอมหวานจากร่างเล็ก
ด้วยความที่ไม่คุ้นชินกับสัมผัสที่จาบจ้วงและรุนแรงเช่นนี้ คารินดิ้นพล่านๆอยู่ในอ้อมแขนแกร่งตาคมสีฟ้าสวยเบิกค้างด้วยความตกใจ เควินเห็นร่างเล็กชักจะหมดอากาศหายใจจึงยอมปล่อย
"วันหลังอย่าพูดแบบนี้อีก ไม่งั้น.........."เควินทิ้งคำช่วงท้ายให้คิดต่อเอาเอง แต่คารินไม่อยากคิดนักหรอก แต่เมื่อกี้นี่มัน เฟิรส์คิสของช้านนนนนนนนนน
"ไปกันเถอะมีงานเลี้ยง"เควินเอ่ยชวนอย่างไม่สนใจว่าเมื่อกี้ตนทำอะไรลงไป
"งานเลี้ยง? งานเลี้ยงอะไร"คารินถามนึกกลัวว่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลองที่สามารถยึดเมืองเพิ่มได้อีก สอง สามเมือง
"ก็เลี้ยงต้อนรับเธอไง"เควินว่าแล้วลากร่างเล็กออกไป
*---------------------------------------------------------------------------------*
ขอถามหน่อยน้า คิดยังไงกับนิยายเรา ถ้าใครเห็นใจก็ช่วยบอกหน่อยนะ แล้วก็สิ่งสำคัญมากๆๆๆๆๆ เมนท์ให้ด้วยนะจ๊ะ
“คารินหายไป! หายไปไหน” เสียงอุทานจากคิงโอเดลเมื่อได้รับข่าวว่าลูกสาวของตนหายไป
“เจ้ารีบไปสืบหาข่าวมาเดี๋ยวนี้”โอเดลบอกกับทหารคนสนิทที่นำข่าวมาบอก คนๆนั้นรับคำแล้วรีบเดินออกไป
โธ่! เพื่อนสนิทก็แปรเปลี่ยน หญิงที่รักก็ตายจากไป ลูกคนโตทั้งสองก็โดนแย่ง นี่ลูกคนสุดท้องยังมาหายตัวไปอีก คิงโอเดลผู้อาภัพได้แต่เก็บความเศร้าไว้ลึกๆ
ในหอพัก3........................
“เฮ้ยพอล โทนี่ อย่าคิดมากดิ ที่คารินมันหายไปไม่ใช่ความผิดของพวกแกหรอก” เกรฟฮาร์ตพูดปลอบเพื่อน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกคิงก็จะกลับกันแล้ว แต่โรงเรียนยังปิดอยู่บางทีพวกเราอาจจะแอบหนีไปตามหาไอ้คารินกันได้” จินพูดขึ้นบ้าง
“แต่เราไม่รู้นี่ว่าคารินหายไปไหน” โทนี่พูดอย่างหงอยๆ
“อย่าคิดมากนา เอาไว้เป็นหน้าที่เอเชลล่ายอดนักสืบคนนี้เอง เพราะงั้นอย่าห่วงเลยเพื่อน”เอเชลล่าที่ตอนนี้คิดว่าตัวเองเป็นยอดสปายว่าแล้วตบไหล่พอล กับโทนี่คนละปึก
“ต้องเป็นห่วงหนักกว่าเดิมละไม่ว่า”มาร์คัสเปรยเบา แต่คงเพราะเอเชลล่าหูดีเกินไปเลยยังได้ยินอยู่ การเล่นไล่จับก็เริ่ม สร้างความครื้นเครงได้พอดู
ภายในกระโจมสีแดง หนุ่มน้อยผมเงินกำลังนอนหน้าบูดอยู่บนเตียง โดยมีชายสองคนยืนเฝ้า เขานั่งอยู่ในนี้มาสามวันแล้วไม่ได้ออกไปไหนเลย ผู้คุมทั้งสองก็ปฏิบัติหน้าที่ดีเหลือเกินเฝ้าซะแทบไม่ได้กระดิก
"นี่ออกไปข้านอกบ้างไม่ได้หรือ"คารินถามอย่างหมดความอดทน
"ได้สิพ่ะย่ะค่ะ"
"เอ๋ ได้งั้นหรอ"
"พ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นไปข้างนอกกันเถอะ"คารินว่าพลางยิ้มแก้มปริ ดีเลยจะได้สำรวจดูทางหนีทีไล่ในค่ายนี่ ท่านแม่เคยบอกไว้ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง พอหลังจากนั้นก็แอบชิ่งนี้ถึงยังไงสองคนนี้ก็ไม่คณามือเราหรอก แผนชั่วๆปรากฏขึ้นให้สมองเขาทันที
แต่แผนทุกอย่างก็ต้องพังทลายเมื่อ..................
"นี่ๆ ไปด้านโน้กันเถอะ"ฮิฮิ ได้ยินเสียงการต่อสู้สงสัยต้องเป็นลานฝึกซ้อมแน่เลย จะได้ดูว่าเขาฝึกทหารกันยังไง
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทสั่งห้ามไปลานฝึกซ้อมเพราะทรงกลัวท่านเควินจะได้รับบาดเจ็บจากอาวุธ"
"งั้นไปขี่ม้ากัน"
"ไม่ได้เหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ ม้าของเราค่อนข้างจะพยศถ้าไม่คุ้นด้ย ฝ่าบามเลยสั่งห้าม
"งั้นไปเล่นน้ำกันดีไหม"
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ มันอันตรายเดี๋วยเกิดท่านคารินจมน้ำไปจะแย่"
"งั้นไปนั่นไหม"
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นไปนี่ไหม"
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นไปตรงโน้นก็ได้
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
"ไปตรงนั้นกันเถอะ"
"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
"โธ่ ที่โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ อะไรกันนักกันหนา เราไม่ใช่นัก...."
คารินชะงักคำพูดไว้ได้ทัน นี่เขาลืมไปได้ยังไงว่ามาอยู่ที่นี่จะเป็นในฐานะอะไรได้นอกจากจะเป็นเชลยศึก จริงๆแล้วเขาอาจจะอยากจับเราขังคุกก็ได้ แต่ติดตรงที่เราเป็นถึงราชนิกูล ก็นะจะไปหวังอะไรมากในถิ่นศัตรู เรามันก็แค่เด็กที่เขาจับมาดูเล่น คิดแล้วมันน่าเจ็บใจจริง
"งั้นกลับเถอะ"คารินว่าสะบัดหางเสียงเล็กน้อย คอยดูนะถ้าฟื้นตัวเมื่อไหร่พ่อจะยำค่ายนี้ให้เละเป็นโรงน้ำแข็งไสไปเลย
พอตกเย็นมาเควินก็มาที่กระโจมของคาริน ก็ได้เห็นร่างทหารของตนทั้งสองคนยืนทำหน้ากระอักกระอวนใจอยู่หน้ากระโจม
"เกิดอะไรขึ้น"เควินถามพลางเปิดผ้ากั้นกระโจมเข้าไป ก็ได้เห็ร่างเล็กนั่งหงอยน้ำตาซึมอยู่บนเตียง
"เป็นอะไร"เควินถาม
"ทำไมไม่จับเราไปขังซะล่ะ มันไม่ง่ายกว่าหรอ"คารินพูดเป็นเชิงตัดพ้อ หน้าขาวๆถูกเชิดสูงขึ้น
"ใครจะไปขังได้ลงเล่า น่ารักออกอย่างนี้"เควินว่าพลางลูบหัวร่างเล็กอย่างอ่อนโยน
"งั้นก็ฆ่าไปซะเลยซี่ จะได้ไม่เปลืองน้ำ เปลืองข้าว เปลืองคนมาดูแล เปลือง...."คำพูดถูกกลืนลงไปในคอ เพราะตอนนี้ริมฝีปากบางได้ถูกครอบครองเรียบร้อยแล้วโดยเควิน ลิ้นสากควานเข้าไปหาความหอมหวานจากร่างเล็ก
ด้วยความที่ไม่คุ้นชินกับสัมผัสที่จาบจ้วงและรุนแรงเช่นนี้ คารินดิ้นพล่านๆอยู่ในอ้อมแขนแกร่งตาคมสีฟ้าสวยเบิกค้างด้วยความตกใจ เควินเห็นร่างเล็กชักจะหมดอากาศหายใจจึงยอมปล่อย
"วันหลังอย่าพูดแบบนี้อีก ไม่งั้น.........."เควินทิ้งคำช่วงท้ายให้คิดต่อเอาเอง แต่คารินไม่อยากคิดนักหรอก แต่เมื่อกี้นี่มัน เฟิรส์คิสของช้านนนนนนนนนน
"ไปกันเถอะมีงานเลี้ยง"เควินเอ่ยชวนอย่างไม่สนใจว่าเมื่อกี้ตนทำอะไรลงไป
"งานเลี้ยง? งานเลี้ยงอะไร"คารินถามนึกกลัวว่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลองที่สามารถยึดเมืองเพิ่มได้อีก สอง สามเมือง
"ก็เลี้ยงต้อนรับเธอไง"เควินว่าแล้วลากร่างเล็กออกไป
*---------------------------------------------------------------------------------*
ขอถามหน่อยน้า คิดยังไงกับนิยายเรา ถ้าใครเห็นใจก็ช่วยบอกหน่อยนะ แล้วก็สิ่งสำคัญมากๆๆๆๆๆ เมนท์ให้ด้วยนะจ๊ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น