ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขโมยหัวใจ เจ้าหญิงสุดแสบ>vO

    ลำดับตอนที่ #7 : ปิดฉากเสียที

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 51


    ทันทีที่ร่างของหัวหน้าชั้นปีหนึ่งทั้งสามของหอพักที่3ที่พร้อมใจกันตื่นสายแถมยังตาคล้ำเป็นหมีแพนด้าซะด้วยเดินเข้ามาก็ได้รับ เสียงโห่จากชาวหอพัก3ก็ตามมาทันที
    “แหมข่าวจากไอ้สามคนนั่นนี่ตรงจริงๆ” เสียงเอลโด่ดังขึ้น
    “ข่าวอะไร”คารินถามอย่างไม่สบอารมณ์
    “ก็...ข่าวที่พวกแกสามคนมีอะไร อะไรกันไง” เอ็ดฝาแฝดของเอลโด่เสริม
    “มีอะไรอะไรหมายความว่าไง”คารินถามอีกอย่างไม่เข้าใจส่วนโทนี่กับพอลที่เข้าใจความหมายดีก็ยืนหน้าแดงทำอะไรไม่ถูก
    “ก็คือสิ่งที่แกทำกับผู้หญิงที่ไม่ใช่แม่ ไม่ใช่พี่ ไม่ใช่น้องบนเตียงไง หรือพวกแก2คนรุมคาริน เป็นผู้หญิงคนเดียวในห้อง โหลำบากแย่นะคาริน”เล็กซิสเอ่ย ตอนนี้คารินเข้าใจกระจ่างแจ้งแล้ว
    “ต้นข่าวมาจากใคร รู้ป่าวพูดงี้ชั้นเสียหาย”กระชากคอเสื้อวิลมาถาม วิลไม่ตอบแต่ชี้ไปยังสามตัวต้นเหตุ
    โวเรน,กราเวีย และซีน
    “ก็แหมเมื่อคืนได้ยินเสียงพวกนายร้องครวญคราง พอตอนเช้าก็ตื่นสายแถมตาคล้ำเหมือนคนอดหลับอดนอนแล้วจะให้คิดว่าไง ถ้าไม่ใช่มีอะไรอะไรกัน” โวเรนว่า
    “หุบปากไปเลยไอ้โวเรน”คารินตะโกน
    “ก็มันคือความจริงไม่ใช่หรอ หรือนายจะเถียง”
    “มันคือประโยคความเท็จโว้ย” สามเสียงประสานกันอีกครั้ง
    หลังจากที่คาริน พอล และโทนี่นอนคิดมาทั้งคืนแล้วก็ได้ผลดังนี้
    คาริน:ผู้หญิงกับผู้ชาย เจ้าหญิงกับประชาชนธรรมดา หน้าที่ต้องมาก่อนหัวใจ ดังนั้นตัดใจซะก่อนจะถลำลึกไปกว่านี้
    พอล  :คารินนเริ่มมีใจให้เราแล้วแน่นอน ดังนั้นสารภาพรักไปซะ
    โทนี่    :คารินชอบพอล พอลชอบคาริน เราคือส่วนเกินเป็นหมาหัวเน่า ตัดใจเสียดีกว่า
    เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วพอลจึงไปสารภาพรักกับคารินแต่ผลที่ได้รับก็คือ
    “นายพูดบ้าอะไรเราเป็นเพื่อนกันนะ” เสียงคารินดังขึ้นแทบจะในทันที
    “ไม่ได้บ้า ชั้นแสดงออกโจ่งแจ้งขนาดนี้แต่นายกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย เธอต่างหากหล่ะที่บ้า” พอลพูดออกมาทั้งน้ำตา
    “อย่าพึ่งทะเลาะกันดิ ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้” โทนี่แทรกขึ้น
    “นายไม่เกี่ยวอย่ายุ่ง” สองเสียงแรกพูดประสานกัน
    “ชั้นผิดใช่ไหมที่ห้าม ดีงั้นไม่ยุ่งแล้ว” โทนี่ตะโกนลั่นด้วยความเดือดดาล ก่อนประตูห้องพักหัวหน้าชั้นปีหนึ่งจะเปิดออกแล้วปิดดัง ปัง! ใหญ่ทำเอาหอแทบพัง ส่วนอีกสองคนที่เหลือในห้องก็ยังทะเลาะกันไม่เลิก นี่ดีนะที่วันนี้เป็นวันหยุด ไม่งั้นไม่เป็นอันเรียนแน่
    “โธ่เว้ย ไม่พูดด้วยแล้ว”
    แล้วเสียงปิดประตูที่ทำเอาป้อมสะเทือนก็ตามมาอีกเป็นระลอกที่สอง

    “นี่พอลกินอะไรหน่อยไหม”
    “............”
    “นี่ นายจะไม่ลุกไปไหนเลยหรอ
    “............”
    “อย่าเอาแต่เงียบสิ”
    “............”
    “ไม่เมื่อยบ้างหรอ”
    “............”
    “ง่วงไหม”
    “............”
    ทุกคำถามที่มาจากโทนี่  ซิมนาเรส กลับได้รับแต่ควมเงียบจากอีกฝ่ายเป็นคำตอบ
    “เฮ้อ มันดึกแล้วนะ ไอ้คารินมันไม่กลับมาหรอก”
    ประโยคสุดท้ายนี้เป็นประโยคที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ร่างเล็กอยู่โข พลันพอลก็เอนตัวเข้าซบอกหนาแล้วเริ่มร้องไห้ โทนี่ไม่รู้จะทำไงดีได้แต่กอดปลอบจนมันเหนื่อยหลับไป
    ทางฝ่ายคารินก็มีอาการไม่แตกต่างกันซักเท่าไหร่นัก ใช่ว่าเขาจะไม่ชอบพอล เขาชอบมัน เขารักมัน มันไม่เหมาะสม เพราะตอนนี้มัน...
    ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ในห้องรวมของชั้นปีหนึ่ง เล่าเด็กปีหนึ่งของหอพักที่3ปีหนึ่งทั้ง 18 คน ที่กำลังนอนเอกขเนกบ้าง เล่นเกมส์บ้าง จับกลุ่มคุยกันบ้างก็ต้องเป็นอันยกเลิกกิจกรรมทั้งหมด เมื่อบุคคลทั้งสองก้าวเข้ามาในห้อง
    “ทำไมแกทำอย่างนั้นว่ะ” โทนี่เริ่ม
    “ทำอะไร?”คารินไม่ตอบแต่ถามกลับ
     โทนี่นิ่วหน้าแทบจะในทันที “ทำอะไร? แกพูดออกมาได้ไง ก็เรื่องเมื่อคืนไง ทำไมนายปฏิเสธมัน”
    “ก็ไม่ชอบ จะให้ยอมรับรึไง”คารินตอบหน้าตาย
    “ไม่ชอบ แล้วที่แกทำไปหล่ะ มันคืออะไร”
    “ตอบแทนที่มันช่วยชีวิตชั้น”
    “เท่านั้นเองหรอ สิ่งที่แกทำไปทั้งหมดก็เพื่อตอบแทนมันเท่านั้นหรือ” โทนี่ตะคอกใส่หน้าคาริน
    “ถ้าใช่แล้วทำไม นายจะเดือดร้อนเรื่องอะไร คนที่โมโหต้องเป็นไอ้พอลไม่ใช่นาย”คารินว่าแล้วยิ้มเยาะ “หรือว่านายชอบมัน”
    “เอ่อสิว่ะข้าชอบไอ้พอล แต่พอลดันชอบแก”
    คำพูดของโทนี่ทำเอาคารินอึ้ง พูดไม่ออกอยู่พักใหญ่
    “แกจำที่แกสัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทำพอลร้องไห้ ถ้าแกทำชั้นจะตั๋นหน้าแกเอง แต่การวิวาทกันโดยไม่ใช่การประลองถือว่าผิดกฏดังนั้นชั้นขอท้าแกประลองคาริน บ่ายโมงวันนี้” โทนี่ออกปากท้า
    “ได้ ถ้าชั้นชนะ แกก็ห้ามมายุ่งกับการตัดสินใจของชั้น แต่ถ้าชั้นแพ้แกจะทำอะก็เชิญ”คารินโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้
    ในตอนบ่ายโมงสนามประลองคับคั่งไปด้วยผู้คนที่แทบจะเรียกได้ว่าขนมาทั้งโรงเรียน ก็มันน่าดูน้อยซะเมื่อไหร่หล่ะที่หัวหน้าชั้นปีสองคนจะมาสู้กันเอง เมื่อถึงเวลา เขตอาคมถูกกางเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนมาประจัญหน้ากัน เสียงระฆังดังเป็นสัญญาณว่าการต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว
    แม่มดน้อย(ผู้เสกได้แต่สายฟ้าและน้ำแข็ง)เป็นฝ่ายแผงฤทธิ์ก่อน เสียงร่ายเวทแปลกๆดังก้องสะท้อนไปทั่ว แล้วก็ปรากฏสายฟ้าฟาดพุ่งตรงไปยังศัตรู
    ทางฝ่ายโทนี่ก็ไม่น้อยหน้ารีบสร้างกำแพงดินขึ้นป้องกัน แล้วสวนกลับด้วยคาถาลม
    ทั้งสองสู้กันอยู่หลายชั่วโมง ยิ่งนานไปบาดแผลก็ยิ่งเพิ่ม แต่ยังไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้กัน
    สุดท้ายแม่มดน้อยก็ได้งัดเอาไพ่ตายมาใช้ มันคืออีกเวทย์บทที่เขาสามารถร่ายได้นอกจากสายฟ้า
    “พายุน้ำเข็ง” เสียงร่ายเวทย์ดังขึ้น กลิ่นหิมะอ่อนๆโชยมาก่อนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆพายุหิมะพัดแรงขยายวงกว้าง ฝ่ายโทนี่ที่เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วก็ร่ายเวทย์ลมขึ้นต้านสองพลังที่ยิ่งใหญ่มาปะทะกันจนเขตอาคมเริ่มร้าว เหล่าอาจารย์เห็นท่าไม่ดีจึงได้ประกาศหยุดการประลองว แต่ช้าไป เขตอาคมสลาย ทั่วทั้งโรงเรียนเต็มไปด้วยหิมะ โชคยังดีที่อาจารย์แม่มดไหวตัวทัน สร้างอาคมป้องกันนักเรียนที่มาดูประลองได้อย่างทันท่วงที ไม่งั้น.......................................ไม่เหลือซาก
    ด้วยเหตุนี้ทางโรงเรียนจึงได้ประกาศหยุดเรียนเป็นเวลาสองอาทิตย์ เพราะต้องเกณฑ์นักเรียนไปช่วยกันโกยหิมะ
    ส่วนสองตัวยุ่งและอีกหนึ่งตัวต้นเหตุก็กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง และโทนี่ก็ได้ใช้ความกล้าเข้าไปสารภาพรักกับพอล ซึ่งพอลที่ยืนดูการประลองอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ปฏิเสธ ความสงบสุขและอบอุ่นก็กลับคืนสู่โรงเรียนอีกครั้ง เย้!
    *---------------------------------------------------------------------------------*
    ความสงบสุขและอบอุ่นก็กลับคืนสู่โรงเรียนอีกครั้ง เย้!รู้สึกม่ะ ว่าประโยคนี้มันดูปัญญาอ่อนยังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ ยังไงก็อย่าลืมเมนท์ละกันน้าจ๊ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×