คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Oleander's Felony ❤ } 6 : Love&Hate Couple
6
Love&Hate Couple
I can't believe it's what I see
ฉันไม่สามารถเชื่อสิ่งที่ฉันเห็นได้
That the girl in the mirror
ที่ว่าเด็กผู้หญิงในกระจก
The girl in the mirror is me
เด็กผู้หญิงในกระจกก็คือฉัน
Girl in the mirror : Britney Spears ; trans : writer enjoy xiah
วันต่อมา
วันนี้ก็ยังเหมือนวันก่อนๆ ก็คือในคฤหาสน์มิอุระยังคงจ้อกแจ้กจอแจเหมือนเคย แต่จะเงียบก็เฉพาะส่วนห้องนั่งเล่นที่หนาววววจับขั้วหัวใจ เนื่องมาจากคนสองคนกำลังส่งสายตาหวานซึ้งเกินจะบรรยาย (ประชด) ให้กันอย่างรักใคร่ (ประชดอีกที)
“เอ่อ... โฮะๆๆ ฮารุ พี่ว่าพี่ไปทำงานก่อนดีกว่านะ ไม่กวนแล้วล่ะ ฮ่ะๆ ^O^;” โยโกะที่เริ่มอึดอัดจนทนไม่ไหวพูดขึ้นแนวอยากชิ่งกลายๆ
“โฮะๆ -_-+”
“-_-+”
...แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครฟังเลยนะ
พี่สาวคนสวยหาได้สนใจไม่ กลับรีบเดินออกห่างจากห้องที่หนาวติดลบอย่างรีบเร่ง เธอยกนาฬิกาขึ้นมองและพึมพำเบาๆ
“เฮ้อ แค่หายใจร่วมกันก็ยังรังเกียจกันอย่างนี้... แล้วฉันจะทำให้ความหวังของคุณพ่อเป็นจริงได้ยังไงกันล่ะเนี่ย...”
โยโกะส่ายหัวเบาๆ อย่างคิดไม่ตกและเดินขึ้นรถไป...
...โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทุกการกระทำและคำพูดที่เธอพึมพำออกมาเมื่อกี้... อยู่ภายใต้การมองเห็นและการได้ยินของบุรุษชุดดำที่ยืนอยู่หลังประตูบานใหญ่ที่แง้มเอาไว้นิดๆ ด้วย..
ชายคนนั้นจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ไม่ประสงค์ดีเอาซะเลย...
ขึ้นชื่อว่าสงคราม... ถ้าไม่มีฝ่ายไหนถอนตัวหรือแพ้ ก็คงไม่มีทางยุติลงได้ง่ายๆ
รวมถึงสงครามประสาทและสงครามทางสายตาด้วย!
“ไอ้คุณบอดี้การ์ด... วันนี้ฉันจะไปทานกลางวันที่ร้านอาหารชื่อดังแถวถนน R นะ” ฮารุที่นั่งทำงานอยู่เหลือบตาไปมองฮิบาริที่นั่งจ้องแลปท็อปสีดำราคาแพงของเขามาตลอดตั้งแต่เข้ามา
...ชิ บังอาจมาเก๊กหน้าขรึมทำงานแข่งกับฉันงั้นเรอะ อย่างนายน่ะจะต้องมีงานอื่นทำนอกจากเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันด้วยรึไง หมั่นไส้จริง!
ฮารุแอบคิดในใจ แต่ปฏิกริยาแห่งความโคตรหมั่นไส้ของเธอก็แสดงออกมาทางสีหน้าชัดเจน
...นี่สินะที่เรียกว่าคนเปิดเผย เพราะแค่มองหน้าฮารุ ใครๆ ก็รู้แล้วว่าเธอคิดอะไรอยู่ ช่างเป็นหญิงสาวที่มองออกง่ายเหลือเกิน
“-_-“ ฮิบาริที่นั่งทำงานขององค์กรอยู่รู้และเห็นว่าฮารุแอบเบะปากมองเขาอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ไม่คิดจะสนใจ เพราะตามหลักความจริงที่เขาบัญญัติขึ้นเองแล้ว... ยัยฮารุเป็นคนโรคจิตเข้าขั้นบ้าที่ไม่ควรให้ความสนใจอย่างยิ่ง
“ฮึ! L” ฮารุที่เห็นฮิบาริไม่สนใจเธอเบ้หน้าขึ้นอีกเป็นรอบที่สิบของวัน (และสิบรอบที่ว่านั่นก็มาจากฮิบาริล้วนๆ)
~ ♫
“ฮัลโหล คุณนายมีอะไรเหรอคะ -_-;” ทันทีที่แบล็กเบอรี่ของเธอแผดเสียงร้องขึ้น ฮารุก็ก้มมองมัน และถึงกับเหงื่อซึมเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนโทรมา
[อ๋อ วันนี้ฉันแว่วๆ มาจากโยโกะว่าหนูฮารุจะไปทานข้าวที่ร้านอาหารชื่อดังใช่มั้ยจ๊ะ?]
“ค่ะ ละ...แล้วมีอะไรกับฉันหรือคะ -_-;” ฮารุสัมผัสได้ถึงความอันตรายของคำพูดคุณนายถามถึงเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัว เธอจึงถามกลับด้วยความหวาดระแวง
[ฉันจะไปด้วยจ้ะ ^^+]
“หา~!!” ฮารุอ้าปากหวอตะโกนลั่นห้อง ก่อนจะหุบปากฉับเมื่อฮิบาริหันมาด่าทางสายตา และละล่ำละลักตอบคุณนายทันที
“ทะ...ทำไมล่ะคะ!”
[อ้าว ก็ฉันอยากเห็นว่าฮิบาริทำงานดีมั้ยนี่จ๊ะ ไม่ได้เหรออออ หึๆๆ]
เสียงปลายสายที่ลากยาวและหัวเราะอย่างมีจริตทำเอาฮารุถึงกับกุมขมับด้วยความเครียดถึงขีดสุด เธอพูดแบบนั้นก็แสดงว่าจะให้อีตาฮิบาริสุดเลิฟของเธอร่วมโต๊ะด้วยสินะ? งานนี้ถ้าปฏิเสธคงไม่แคล้วถูกยิงปุ้งตายเป็นศพไร้ญาติแน่นอน แต่จะให้ร่วมโต๊ะกับแม่ลูกฮิบาริเนี่ยนะ แถมเธอยังเน้นหนักไปที่ ‘ลูก’ ด้วยสิ ก็เกลียดหน้ากันเข้าไส้ไปแล้วนี่หว่า แค่จะยิ้มให้กันก็ไม่มีทางจนกว่าจะตายแล้วเกิดใหม่ทั้งคู่ แค่นี้ยัยคุณนายตัวแสบก็น่าจะรู้แล้วนะว่าเธอกับเขาเกลียดกันขนาดไหน แล้วทำไมยังมาบังคับทางไม่อ้อมแบบนี้อีกล่ะเนี่ย
ฮารุเอามือนวดขมับที่ปวดหนึบๆ และตั้งสติรวบรวมความกล้าไปพูดกับคุณนายอีกครั้ง
“เอ่อ...ไม่ไปดะ...” ฮารุยังพูดไม่ทันจบ คุณนายก็ชิงพูดแทรกซะก่อน
[ไม่ได้จ้ะ โฮะๆ]
“ง่า T_T”
[เอาเป็นว่าวันนี้เวลาเที่ยงเจอกันที่ร้านนะจ๊ะ แล้วบอกลูกชายฉันด้วยว่าถ้าไม่ทำตัวดีๆ... เฮคเลอร์แอนด์คอช เอชเค 53 ของฉันที่เพิ่งได้มาใหม่บรรจุกระสุนไว้เต็มเตรียมพร้อมยิงเสมอ บอกเขาอย่าให้บกพร่องนะ]
“คะ...ค่ะ TT_TT|||” ฮารุรับคำด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยปนสยดสยอง
...นี่เป็นการแสดงความรักฉบับแม่ลูกแบบใหม่เหรอ คุณแม่เดี๋ยวนี้เขาพูดแบบนี้กับลูกทุกคนหรือเปล่านะ? ถ้าเป็นอย่างนั้น อนาคตเด็กญี่ปุ่นจะไม่กลายเป็นซาดิสม์หมดเรอะ T[]T
ฮิบาริมองมาที่ฮารุและขมวดคิ้ว เพราะตอนนี้ยัยฮารุมีสีหน้าหลากหลายเหลือเกิน เดี๋ยวก็เศร้าแบบซึมๆ เดี๋ยวก็ทำหน้าแบบโลกจะแตก เดี๋ยวก็ทำหน้าคิดหนัก แต่ทุกอารมณ์ของคุณเธอจะตบท้ายด้วยใบหน้าสยดสยองทุกครั้งไป ซึ่งเขาพอจะเดาได้ลางๆ ว่าสาเหตุมันมาจากอะไร ก็ตอนรับโทรศัพท์เล่นพูดออกมาซะเสียงดังลั่นห้องว่า ‘คุณนาย’ นี่นะ
...ก็สมควรอยู่หรอก
เขาคิดในใจและหันกลับไปทำงานของตนต่อ เลิกสนใจยัยฮารุที่กำลังทึ้งหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
“บอดี้การ์ดน้อย T_T” ฮารุที่ขยี้หัวตัวเองจนยุ่งฟูเงยหน้าขึ้นมาเรียกฮิบาริ
ฝ่ายฮิบาริที่ได้ยินชื่อเรียกหวานๆ ที่ไม่เคยออกจากปากยัยคุณหนูตัวแสบเลยก็เริ่มระแวงและระวังตัวทันใด เขาคิดว่ายัยบ้าฮารุต้องมีแผนชั่วอะไรสักอย่างแน่ๆ ถึงได้เรียกเขาแบบนั้น แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ยัยฮารุก็แค่เครียดจนสมองกลับเท่านั้นเอง สมองกลับหมายถึงกลับด้านไปหมด จากที่เรียกอย่างเกลียดชังว่า ‘ไอ้บอดี้การ์ด’ กลายเป็น ‘บอดี้การ์ดน้อย’ ไปได้ โลกนี้มันช่างไม่จีรังเสียจริงๆ
“กลางวันนี้อ่ะ... แม่สุดสยองพองเกล้าของนายจะมานั่งกินข้าวกับฉันอ่า ฮื้อ ม่ายยย” ฮารุเล่าสิ่งที่เธอได้ยินให้ฮิบาริฟัง แต่ดูเหมือนฮิบาริจะฟังไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ เพราะเขาขมวดคิ้วแล้วมองฮารุแบบ ‘ยัยนี่มันพูดบ้าอะไรวะ’ อย่างนั้นเลย
ฮิบาริที่ลองรีพีทคำพูดของยัยฮารุในหัวสองสามทีก็เข้าใจแสยะยิ้มชั่วร้ายออกมาอย่างสะใจ และหันไปทำหน้าประมาณว่า ‘แล้วไง’ ให้ฮารุ
“เออ รู้แล้วน่าไอ้คุณบอดี้การ์ด เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับนาย แต่คราวนี้ นาย ‘ต้อง’ เกี่ยวแล้วล่ะ...”
“-*-?”
“เพราะออมม่าสุดที่รักของนายก็สั่งให้นายไปร่วมโต๊ะด้วย แถมยังบอกว่าบรรจุกระสุนลงปืนเรียบร้อยเตรียมประหารถ้านายขัดอีกต่างหาก -_-^”
ณ ร้านอาหาร Woohoo
ในร้านอาหารสุดหรูขึ้นชื่อ ที่ถ้าไม่จองล่วงหน้าเป็นเดือนจะไม่สามารถมาทานที่นี่ได้ ลูกค้าหลายๆ โต๊ะทำสีหน้ามีความสุขเคี้ยวอาหารกร้วมๆ อย่างเอร็ดอร่อย แต่กลับมีโต๊ะวีไอพีโต๊ะหนึ่ง...แผ่รังสีมาคุกระจายไปทั่วจนโต๊ะใกล้ๆ จำต้องลุกหนี
“โฮะๆ ฮิบาริทำงานดีมั้ยจ๊ะ ^^” คุณนายที่ดูเหมือนจะอารมณ์ดีที่สุดบนโต๊ะถามฮารุ
“อ๋อออ...” เธอลากเสียงยาวและหันไปมองที่ฮิบาริ
ชิ้งงง -_-++
...และที่ได้รับมาก็คือสายตาข่มขู่ว่า ‘ถ้าตอบไม่ดีมีเจื๋อนแน่’
เธอกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก และค่อยๆ เงยหน้าที่มีเม็ดเหฝื่อผุดขึ้นตามรูขุมขนหลายที่ขึ้นไปตอบคุณนายที่ยิ้มหวานให้อยู่ (แต่ในสายตาของทั้งสองคน มันคือรอยยิ้มสยองพิฆาต)
“เอ่อ... ดีมากเลยค่า เทกแคร์ฉันดีสุดๆ ขับรถไม่เคยเกินแปดสิบ เปิดประตูรถให้เวลาจะลงเสมอ ฉันสั่งอะไรก็ยอมทำตามทุกอย่าง เชื่อฟังม้ากมาก ทำงานดีไม่มีบกพร่อง ฮ่าๆๆ ^^++” ฮารุตอบแบบไม่ประชด แต่...
ในความหมายของเธอ ให้แปลทุกคำแหลที่พ่นไปเป็นด้านตรงข้าม นั่นแหละคือความจริง
ซับไตเติ้ล : แย่มากเลยค่า เทกแคร์ฉันห่วยสุดๆ ขับรถไม่เคยไม่เกินแปดสิบคูณสอง ไม่เคยเปิดประตูรถให้เวลาจะลง ฉันสั่งอะไรแม่มก็ขัดตลอด โคตรจะไม่เชื่อฟัง ทำงานแย่อย่างหาที่ติไม่ได้เลย L
โอ้... มันช่างแตกต่างจนน่าทึ่ง!
“อ้ออออ เหรอจ๊ะ ^^” ฝ่ายคุณนายที่ได้รับคำตอบซึ่งเป็นที่น่าพอใจก็ยิ้มหวานอีกรอบ
...ลากเสียงยาวแบบนั้นหมายความว่าไงน่ะ? -_-;
ฮารุที่ยังระแวงไม่หายแอบคิดในใจ พลางปาดเหงื่อไปด้วย
“แล้วลูกสุดรักของแม่ล่ะ หนูฮารุน่ารักมั้ย ^^+” คุณนายที่รู้ดีว่าลูกชายตัวร้ายจะไม่มีทางเอ่ยปากชมแน่นอนกดปลายเสียงให้ต่ำเป็นเชิงขู่ พร้อมกับที่ฮิบาริได้ยินเสียงดังกริ๊กที่ใต้โต๊ะพอดี ก่อนที่จะตอบแม่ เขาก็เลยก้มลงไปดูซะก่อน
และก็พบกับ... อะ กัน! (a gun!) =[]=
คำพูดที่คิดจะด่ายัยคุณหนูสติแตกฮารุหดกลับเข้าไปในสมองทันที และสมองซีกขวาของเขาก็กำลังคิดหาคำพูดที่กระชับ สั้น และได้ใจความพอที่จะทำให้แม่มดแก่พอใจมากที่สุดอย่างเร่งรีบ
“ว่าไงจ๊ะลูกรักของแม่~ ^^+” คุณนายยังคงยิ้มแม้ปืนที่ขึ้นนกเรียบร้อยแล้วใต้โต๊ะจะเป็นหลักฐานอย่างดีว่าตอนนี้เธอกำลังสื่อความหมายจากดวงตาฟาดฟันนั่นให้ฮิบาริ จับใจความได้ว่า... ‘ตอบไม่สวยแกตายแน่!’
“ใช้ได้ -_-“
แม้สีหน้าภายนอกจะแข็งกร้าวเหมือนเดิม แต่ใต้โต๊ะนั้น... คงไม่มีใครรู้หรอกว่าฮิบาริคนเก่งของเราจะกำลังเช็ดเหงื่อที่มืออยู่!
“หึๆๆ... ดีมาก ^^” คุณนายหัวเราะอย่างชั่วร้ายและกล่าวชม
ฝ่ายฮารุกับฮิบาริแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก และคุณนายตัวร้ายก็พูดต่ออีกว่า
“เอาล่ะ เราทานข้าวกันได้แล้ว ไหน... หนูฮารุลองตักยำปลาแซลม่อนตรงนั้นให้ลูกชายฉันหน่อยสิจ๊ะ ^^”
จบคำประกาศิตอ้อมๆ ของคุณนาย ฮารุที่กำลังดื่มน้ำอย่างโล่งใจก็สำลักออกมาทันที
“แค่กๆๆ!... อะไรนะคะ!”
“ไม่ได้ยินเหรอจ๊ะ?”
“ดะ... ได้ยินค่ะ เอ่อ... ก็...ด้าย...ค่า TT_TT” ฮารุจำใจทำสิ่งที่น่าอายที่สุดในชีวิต โดยการตักปลาแซลม่อนในจานไปวางไว้ที่จานของฮิบาริ
“กินเยอะๆ นะจ๊ะสุดหล่อ จะได้มีแรงมาให้ฉันจิกหัวใช้ เอ๊ยยย ช่วยงานฉันต่อ~ โฮ่ๆๆ J” ฮารุที่รับไม่ได้กับความเก้ๆ กังๆ แอบเหน็บแนมฮิบาริที่หันมาส่งสายตาน่ากลัวให้ทันที
“เอ้าๆ น้องเขาอุตส่าห์เป็นห่วง กินๆ เข้าไปสิยะไอ้ลูกชาย! อย่ามาเล่นตัวมาก เดี๋ยวมีน้ำโหนะ!”
ฮิบาริมองเนื้อปลาแซลม่อนที่อยู่บนจานอย่างรังเกียจ แต่เขาก็จำเป็นต้องตักมันขึ้นมาทานอย่างจำใจและกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ
“ฮ่าๆๆ ถูกใจแม่จริงจริ๊ง เอาล่ะๆ หิวแล้ว เรามาทานข้าวกันเถอะนะ! ^^” คุณนายพูดและลงมือทานข้าวทันที ฮิบาริกับฮารุที่ยังทำหน้าสยดสยองกับสิ่งที่ถูกบังคับทำไปเมื่อกี้ก็ด้วย
มื้ออาหารมื้อนี้ดำเนินไปอย่างอบอุ่น (?) เพราะว่าคุณนายคอยบอกให้ฮารุตักนู่นตักนี่ให้ฮิบาริเป็นระยะๆ แถมยังยัดไวน์ให้ทั้งสองไปคนละขวด เล่นเอาฮารุมึนไปเหมือนกัน (ส่วนฮิบารินี่ยิ่งกว่าคอทองแดง หน้ายังนิ่งได้เหมือนเดิมเปี๊ยบ)
พอกลับมาบ้าน ฮารุนึกถึงวีรกรรมความสวีทหวานแหววตักข้าวให้บอดี้การ์ดตัวเองแล้วก็ถึงกับคลื่นไส้จนต้องวิ่งเข้าห้องน้ำไปโก่งคออ้วก ส่วนฮิบาริก็แทบไม่ต่างกัน เขากินน้ำเข้าไปเยอะมากๆ แถมยังแปรงฟันต่ออีกเกือบสิบนาที และทำหน้าขยะแขยงอาหารที่กินไปเต็มทน ทั้งๆ ที่มันออกจะอร่อย
โยโกะมองทั้งสองคนแล้วยิ้มขำ
...สองคนนี้นี่นะ จะเกลียดอะไรกันเว่อร์ขนาดน้านนน
เธอคิดแล้วรีบวิ่งเข้าไปปิดตู้ยาที่ฮิบาริยืนจ้องยาถ่ายชนิดออกผลรุนแรงอยู่ และรีบวิ่งไปห้ามฮารุที่กำลังจะล้วงคออ้วกออกมาอีกเช่นกัน
...เป็นคนกลางนี่ก็เหนื่อยอย่างนี้แหละนะ
(End Love&Hate Couple)
To be continued ,, Next chapter !!
อัพเพิ่มให้อีกตอน หลังจากผ่านไปเกือบสัปดาห์ อ่ะฮ่า ๆ J ตอนนี้รู้สึกเหมือนพระเอกนางเอกเราโดนคุณนายโขกสับอ่ะเน๊อะ = =; แต่ถ้าไม่มีคุณนาย ... อย่าหวังเลยว่าฟิคเรื่องนี้จะเกิดขึ้น ๕๕๕ เอิ่ม แอบอีเดียตนิส ๆ ตอนหลังที่ฮิบาริน้อย ๆ ยืนจ้องยาถ่าย กร๊าก - -** ,, แต่จอยคิดว่ามาแบบนี้น่ารักน่ากอดดีนะ ซึน ๆ ดีอ่ะ อรั๊งงง >,.< ยัยฮารุก็เหมือนกัน ทำอย่างกับคนท้องไปได้ อ้วกทั้งวันทั้งคืน โฮ่ ๆ ๆ ๆ
คราวนี้อัพถี่แล้วนะจอยว่า เอ๊ะ หรือว่าไม่หว่า?? ฮ่ะ ๆ ตอนนี้ชีวิตจัดอยู่ในช่วงชิล ๆ ล่ะมั้ง? (ชิลอีกและ = =^) เวลาเรียนก็ยังเบื่อเหมือนเคย ไม่เคยสนใจเรียนเลย ทำการบ้านก็ไม่ทำ ทวนสอบก็ไม่เคยทวน เออ ... กุก็ยังสงสัยอยู่เนี่ยว่าอยู่ห้องคิงมาได้ยังไงตั้งสองปี = =^ คือแบบ ... เค๊าเพิ่งจัดห้องคิงตอนจอยขึ้น ม.1 อ่ะ ตอนนี้อยู่ ม.2 แล้ว สรุปว่าได้อยู่ห้องคิงทั้งสองปี จบ ,, แต่จอยก็เฉย ๆ นะ ดีไม่ดีถูกตั้งแง่ด้วย เซ็งเป็ด - -^ ยังอยากกลับไปคบห้องธรรมดาอยู่ แต่ตอนนี้ก็มีเพื่อนที่สนิท ๆ ในห้องคิงแล้ว ดี ให้ลอกการบ้านบ่อยด้วย ฮี่ ๆ =w=
เอาเป็นว่านี่ก็สุดค. สามารถจริง ๆ แล้ว ไม่ได้เรียนหนัก ไม่ได้อะไรทั้งนั้น เพียงแต่สมองตื้อ พล็อตไม่เดินง่ะ L
ด้วยค. หวังดี
ไรท์เตอร์ เอ็นจอย ซีอา
nu eng
ความคิดเห็น