ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oleander's Felony ❤ กับดักรักร้ายของนายจอมโหด {1886 TYL}

    ลำดับตอนที่ #6 : Oleander's Felony ❤ } 5 : Round 2!

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 53


     

    5

    Round 2!

     

    If I could I would tell her not to be afraid
    ถ้าฉันมีโอกาส  ฉันจะบอกเธอว่าไม่ต้องกลัว

    The pain that she's feeling, the sense of loneliness will fade
    ความเจ็บปวดที่เธอกำลังรู้สึก , ความเหงาของเธอจะจางหายไป

    So dry your tears and rest assured, love will find you like before
    ดังนั้นเช็ดน้ำตาและพักผ่อนซะ , คุณจะพบกับความรักเหมือนก่อนหน้านี้

    When she's looking back at me, I know nothing really works that easily
    เมื่อเธอมองมาที่ฉัน , ฉันก็รู้ว่าไม่มีอะไรจริงๆ ที่ปฏิบัติได้อย่างง่ายดาย

    Girl in the mirror : Britney spears ; trans : writer enjoy xiah

     

    วันต่อมา

    ผ่านวันอันแสนวุ่นวายชุลมุนมาได้วันหนึ่งแล้ว  ทุกๆ อย่างก็ดำเนินไปตามปกติ เว้นก็แต่งานของเมดที่มันออกจะเพิ่มขึ้นสักหน่อย เนื่องจากว่าการ์ดและคนรับใช้ชายในบ้านผลัดเปลี่ยนกันมาทำงานตามอาการ  พวกการ์ดส่วนใหญ่กำลังนอนหยอดน้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล โยโกะจึงต้องจ้างการ์ดมาเพิ่มชั่วคราว ส่วนคนรับใช้ผู้ชายก็เปลี่ยนกะกันเช้าเย็น  เพราะว่าหลายคนต้องไปทำฟัน  และหลายคนต้องเอ็กซ์-เรย์ร่างกาย งานของพวกเมดจึงหนักขึ้นเกือบสองเท่า  กว่าจะได้หลับได้นอนก็เกือบเช้า เหตุผลล้วนๆ ก็เสียเวลาไปกับการเคลียร์อะไรหลายอย่างในคฤหาสน์ที่ตัวเดสทรอยเยอร์ของคุณหนูเธอก่อเอาไว้นั่นแหละ

    และ... สิ่งสเปเชี่ยลอีกหนึ่งอย่าง... วันนี้เป็นวันแรกที่ฮารุจะมีบอดี้การ์ดคอยติดตาม ช่างน่าดีใจเสียนี่กระไร

    ฮารุลงบันไดมาด้วยชุดเดรสสีดำ ทับด้วยวูแมนสูทรัดรูปคอกว้างสีเทา  การแต่งตัวของเธอไม่ได้สำคัญอะไรเลยถ้าเทียบกับแผนการการเขี่ยบอดี้การ์ดสุดสวาทของเธอออกไปไกลๆ อาณัติของเธอซะ

    “พี่โยโกะ บอดี้การ์ดน่าหมั่นไส้ของฉันมาถึงรึยัง Lฮารุหันไปถามโยโกะที่นั่งจิบกาแฟอ่านนิตยสารอยู่

    “มาถึงเมื่อกี้เนี่ยล่ะ  พอเห็นว่าเธอกำลังจะเดินลงบันไดมาก็ลุกไปเลย” เธอเงยหน้าขึ้นมาตอบฮารุเบาๆ

    “ชิ เดี๋ยวหมอนั่นจะได้เจอดีเข้าสักวันเนี่ยล่ะ เหอะๆ” ฮารุบ่นงึมงำกับตัวเองและนั่งลงดื่มกาแฟอย่างที่ทำทุกวัน  แต่ว่าวันนี้...

    ปี๊นนนน

    “หือ เสียงแตรรถ? ใครบีบฟะ” ฮารุชะเง้อคอแบบยีราฟมองลอดผ่านประตูบานใหญ่ไปแล้วก็เห็น... รถของบ้านเธอมาจอดอยู่หน้าบ้านและกำลังส่งเสียงดังน่ารำคาญอยู่

    “อะ... อีตาบอดี้การ์ดนั่น  หน็อย  จะสั่งให้ฉันขึ้นรถเร็วๆ งั้นเหรอ โนเวย์ย่ะ -_-^ฮารุสะบัดหน้าและยกแกแฟขึ้นดื่มอีกครั้งจนหมดแก้ว และเสียงแตรรถก็ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  ทำให้มือที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบขนมปังทาแยมหยุดกึกทันที

    แป๊นนนนน

    -_-^^เธอยังคงทำไม่สนใจและหยิบขนมปังทาแยมซึ่งเป็นถึงอาหารเช้าหนึ่งเดียวของเธอขึ้นมากัด

    ปี๊นนน ปี๊นนนนนน ปี๊นๆๆๆ

    “โว้ยยยย!! เออๆ รู้แล้วว้อย! ไปก็ไปฟะ ชิส์!! Lฮารุตอบรับด้วยวาจาที่ไม่สมหญิงเอาซะเลย ทำเอาโยโกะค้อนเธอไปหนึ่งที 

    ขาไม่สั้นไม่ยาวของฮารุก้าวอย่างทุลักทุเลมาที่รถเบนซ์สีบรอนซ์เงินที่จอดรออยู่  ทั้งๆ ที่ในปากยังคาบแผ่นขนมปังทาแยมแผ่นเดิม เหตุผลที่เธอวิ่งอย่างไม่ค่อยสมประกอบนักก็เพราะว่าเธอยังใส่รองเท้าไม่เสร็จ  แต่ไอ้คนขับก็ทำท่าจะบีบแตรรถอีกที  มันช่วยไม่ได้ที่เธอจะต้องวิ่งออกมาด้วยเท้าที่มีรองเท้าคัชชูส้นสูงใส่อยู่ข้างเดียว  มือซ้ายถือกระเป๋าชาแนล  มือขวากำรองเท้าอีกข้าง  และที่ปากก็คาบอาหารเช้าสุดสำคัญเอาไว้อย่างน่าอาดูร

    ปังงง!!

    เธอแกล้งปิดประตูรถเสียงดังประชด แต่ฮิบาริก็ไม่สนใจแม้สักนิด ก็แหงล่ะ ไม่ใช่รถเขาก็ไม่มีอะไรที่ควรค่าแก่การหันไปมองซะหน่อยนี่ 

    ฮารุที่นั่งหลังตรงแบบธรรมชาติยัดขนมปังทาแยมซึ่งเป็นอาหารเช้าสุดสำคัญชิ้นสุดท้ายของเธอเข้าปากแล้วเคี้ยวหงุบหงับ ระหว่างที่เธอกำลังโน้มตัวลงไปใส่รองเท้านั้น  บอดี้การ์ดซึ่งทำหน้าที่ได้ดีมากก็เหยียบคันเร่งเต็มแรง ทำให้รถพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และนั่นก็ส่งผลให้ฮารุที่กำลังติดเข็มกลัดรองเท้ากระเด้งไปติดพนักพิงเบาะทันที

    ปึก!

    “อุ๊บ! นะ... นาย!! นี่นายทำบ้าอะไรเนี่ย! แล้วขับภาษาอะไรฮะ! เสียมารยาทที่สุด!!” ฮารุก่นด่าฮิบาริที่ขับปาดซ้ายปาดขวารถคันอื่นอย่างกวนประสาท เรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นการเสียมารยาทในการขับรถ ใครๆ ก็รู้ คนที่นั่งขับอยู่ข้างหน้านี่ก็รู้  แต่เป็นที่รู้ๆ กันว่าฮิบาริน่ะ... ไม่เคยขับรถช้ากว่า 160 km./hr. อยู่แล้ว

    และการที่ฮิบาริฝืนใจทำตัวเหมือนเป็นคนขับรถให้คนเสียสติที่นั่งบ่นเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ข้างหลังนั้นเป็นข้อบังคับของแม่บังเกิดเกล้าแสนใจดี (ประชดอย่างแรง) ทั้งหมด  เขาจึงต้องหาทางแกล้งไม่ให้ยัยคนนี้ที่มีผู้หญิงที่น่ากลัวที่สุดหนุนหลังอยู่ให้แสบที่สุดเท่าที่จะทำได้!

    ...ความซวยเลยตกเป็นของยัยฮารุน้อยกลอยใจทั้งหมด โอ้ละหนอ ซวยจริงๆ

    เอี๊ยดดดด!

    โอ๊ย!!!” การแกล้งระลอกที่สองของฮิบาริมาอีกแล้ว  เมื่อถึงสัญญาณไฟแดง ฮิบาริที่แอบเห็นยัยฮารุกำลังนั่งกดแบล็กเบอรี่อยู่ก็เหยียบเบรกซะมิด  ส่งผลให้คุณเธอที่นั่งเอนหลังพิงพนักสบายใจนั้นเด้งมาติดเบาะหน้าอย่างแรง

    “เจ็บ... เจ็บเฟร้ย!! เจ้าบ้า! นายเบรกภาษาติ๊ก สหวีวี่วี หรือไงเนี่ยหา!! จงใจแกล้งกันหรือว่าเบรกอย่างคนมีสมองไม่เป็นก็บอกกันมาตรงๆ เถอะ ไอ้บอดี้การ์ดบ้าเอ๊ยยย! -O-^^ฮารุที่กำลังกุมดั้งน้อยๆ ที่น่าสงสารอยู่หันไประเบิดตู้มใส่ฮิบาริ

    “ถามได้ ฉันก็ตั้งใจน่ะสิ โง่” ฮิบาริหันมาตอบแบบขอไปที  เพราะเขาไม่มีอารมณ์ฟังอย่างแรง แต่หารู้ไม่ว่าคำว่า โง่ ที่มาท้ายประโยคนั่นจะทำให้คนข้างหลังกล่องความอดทนแตกโพละเพละ!!

    “อ๊ากกกก!! นายว่าไงนะเฟ้ยยยย!! -O-++” เสียงของฮารุดังสนั่นลั่นรถ แต่ฮิบาริไม่สนใจเลย เขายังคงแกล้งฮารุในแบบเดิมๆ อีกสองสามรอบตลอดทาง

     

    ฮิบาริเลี้ยวรถคันหรูเข้าไปจอดด้านในที่จอดรถของบริษัท โดยไม่ฟังคำทัดทานของฮารุที่ให้จอดรถให้เธอลงหน้าบริษัทก่อนเลย 

    หลังจากจอดรถเป็นที่เรียบร้อย  เขาก็กดล็อกรถเมื่อเห็นว่าฮารุออกมาแล้ว

    “นี่! อีตาบ้า! ทำไมนายไม่อ้อมไปเปิดประตูให้ฉันล่ะ ปกติคนขับรถฉันเขาทำกันแบบนี้นะ! Lฮารุที่ปกติไม่เคยเปิดประตูรถเองโวยวายขณะเดินเข้าประตูทางด้านลานจอดรถไปในบริษัท 

    “ไม่มีมือรึไง?” เขาถามกลับโดยไม่หันมามองฮารุ  และคำพูดของเขานั้นทำให้ฮารุปรี๊ดขึ้นอีกจม

    “ไอ้บ้าเอ๊ยยย!!” เสียงฮารุตะโกนด่าเขาดังไปทั่วทั้งชั้น  เรียกสายตาสงสัยจากพนักงานทุกคนได้เป็นอย่างดี

    “อ๋อ แหะๆ ไม่มีอะไรจ้า ทำงานต่อเถอะทุกคน ^^;” ฮารุหันไปก้มหัวขอโทษพนักงานและส่งสายตาจิกกัดไปให้ฮิบาริ

    ทั้งสองคนเดินมาเรื่อยๆ จนถึงห้องทำงานของเธอ ฮารุที่กำลังเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตนก็แอบบ่นฮิบารินิดหน่อย

    “เนี่ย เพราะนายไม่ยอมจอดให้ฉันลงหน้าบริษัท ฉันเลยต้องเดินอ้อมมาที่นี่เลย มันไกลกว่าเดิมเกือบเท่าเชียวนะไอ้บ้า!”

    แต่ฮิบาริไม่สนใจเสียงแว้ดๆ น่ารำคาญของฮารุ เขาเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาหนังแท้สีครีมในห้อง

    “อ้อ แล้วจะบอกให้ว่านายต้องอยู่เฝ้าฉันทั้งวันด้วยนะคะพ่อคุณ  เพราะฉันจะทำงานในห้องนี้ทั้งวัน  มีตอนเที่ยงเท่านั้นล่ะที่จะออกไปกินข้าวข้างนอก เข้าจ๊ายยย?” ฮารุหันไปยิ้มเยาะใส่ฮิบาริที่ขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำว่า ทั้งวัน

    “ทั้งวัน?” เขาทวนคำอีกครั้ง

    “อาฮะ ทั้งวันเลย จะนอนทั้งวันทั้งคืนก็เชิญนะคะ โฮะๆๆ” ฮารุหันไปหัวเราะชั่วร้ายใส่เขา และเริ่มลงมือทำงานของตัวเองอย่างขมักเขม้น

    -_-^” ฮิบาริได้แต่ทำหน้าเซ็งสุดขีดและโน้มตัวลงนอนอย่างที่ทุกคนคาด แต่ฮารุที่เพิ่งนึกอะไรออกก็พูดขึ้นมาซะก่อน

    “อ้อ เดี๋ยวเย็นนี้  ประมาณสี่โมง ฉันจะไปห้าง G นะ รับรู้ไว้ซะ”

    ไม่มีสัญญาณจากหมายเลขที่ท่านเรียก ตื๊ด... ฮารุต้องทำหน้าหงุดหงิดอีกครั้งเมื่อเธอยอมลุกจากโต๊ะทำงานของเธอไปส่องดูบอดี้การ์ดของเธอแล้วพบว่า...

    -_-Zzz” ...เขาหลับไปแล้ว

    “กรี๊ดดดด! ไอ้เลววว!

     

    “เดี๋ยวฉันจะเดินไปแต่ละร้านนะ นายตามมาเรื่อยๆ ล่ะ แต่ก็รออยู่หน้าร้านน่ะแหละ” ฮารุบอกกับฮิบาริเมื่อตอนนี้ข้างหน้าเธอคือร้านรวงขายเสื้อผ้าที่เรียงรายอยู่เยอะแยะ เมื่อเห็นว่าฮิบาริไม่ตอบกลับมา เธอก็ก้าวเข้าไปร้านแรกทันที

    ฮารุรูดบัตรเครดิตทองจ่ายค่าเสื้อผ้าสุดหรูของเธอ และถือเจ้าถุงพวกนั้นมายื่นให้ฮิบาริที่มองมันเหมือนจะถามว่า อะไร

    “เอ๊ ก็ถือน่ะสิ มันเป็นหน้าที่ของนายนะ” ฮารุบอกพร้อมยื่นเจ้าถุงสองใบนั่นเข้าไปใกล้ฮิบาริอีก

    -_-” ฮิบาริทำเพียงแค่ก้มมองของในมือฮารุน้อยๆ และปิดปากหาว

    “อ่ะ!” เธอกระแทกเสียงและยื่นมันเข้าไปใกล้อีก

    -_-” แต่ฮิบาริยังคงไม่สนใจมันเลย

    “เอ ฉันคิดว่าเราน่าจะชวนคุณนายมาห้างด้วยนะ คุณนายน่าจะอยากได้คนถือของอยู่พอดี Jในที่สุดฮารุก็แงะไม้ตายออกมาใช้จนได้ เธอยิ้มเป็นต่อ มองหน้าฮิบาริที่หันมาทำตาเขียวปั้ดใส่ทันทีอย่างสะใจ

    ฮิบาริแอบกัดฟันกรอดอย่างสะกดความแค้น แต่เขาก็จำเป็นจะต้องกระชากของในมือฮารุมาถืออยู่ดี

    “นายนี่ช่างเจนเทิ้ลอะไรอย่างนี้น้า ดีใจจริงๆ ที่ได้นายมาเป็นบอดี้การ์ด โฮะๆ เอาล่ะ ตามฉันมาเรื่อยๆ อย่าให้ขาดตกบกพร่องนะจ๊ะ” ฮารุยิ้มเหยียดให้อีกครั้ง และก้าวเท้าเดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าสตรีที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ อีกร้าน

    เวลาผ่านไปประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงได้ ตอนนี้ในมือฮิบาริคงแทบไม่มีช่องให้สอดถุงใส่เสื้อผ้ารองเท้าเข้ามาอีกแล้ว เพราะถ้าทำได้ก็อยากจะเอาส่วนหนึ่งที่อยู่ในมือคาบไว้ในปากแก้ขัด

    และถ้าทำได้... เขาก็อยากจะปามันทิ้งไปไกลๆ เหมือนก๊านนน

    ...ถ้าไม่ติดว่ายัยนั่นจะเอาแม่สุดที่รัก (บวกสุดที่แค้น) ของเขามาขู่ล่ะก็นะ

    “เอาล่ะฮิบาริ นี่มันก็เยอะแล้ว เรากลับกันเถอะ เดี๋ยววันหลังค่อยมาใหม่ Jฮารุหันไปฉีกยิ้มให้ฮิบาริที่ทำหน้านิ่งแต่แอบซ่อนความแค้นเอาไว้อย่างแรง ที่ถือๆ อยู่ในมือมันไม่หนักเลยสักนิดเดียว แต่ความแค้นมันกดใหล่เขาจนรู้สึกหนักอยู่เนี่ย!!

    ...ซื้อมาขนาดตั้งร้านขายได้แล้ว แต่ยัยบ้านี่ยังคิดจะมาใหม่อีกงั้นเรอะ

    เขาคิดในใจ พลางมองของในมืออย่างรับไม่ค่อยได้ซะเท่าไหร่

    ถึงแม้จะกำลังคิดแผนแก้แค้นอยู่ในอก แต่ก็รู้สึกเหมือนว่าขาทั้งสองของเขาจะก้าวเดินไปอย่างปกติ และฮารุที่เดินอยู่ข้างหน้าเขาบนรองเท้าส้นสูงนี่ก็แอบยิ้มสะใจอยู่เล็กๆ

    หลังจากทั้งสองคนขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว  ฮิบาริก็เหยียบเต็มที่ แถมได้โอกาสแกล้งฮารุอีกทีต่างหาก แต่คราวนี้... ยัยฮารุดันไหวตัวทัน  คาดเข็มขัดนิรภัยข้างหลังเรียบร้อยโรงเรียนสอนขับรถ  เรียกสีหน้าหงุดหงิดของฮิบาริได้อีกรอบของวัน

    “ฮิๆ” เธอแอบหัวเราะน้อยๆ กับชัยชนะเล็กๆ นั่น คราวนี้เกมกลับมาเสมอกันอีกแล้ว...

    Round  2…

    Hibari vs Haru

    1 : 1!

     

    (End Round 2!)

     

     

    To be continued ,, Next chapter !!

    หวาดเสียวมากค่ะทุกท่าน  ,, เสียวอะไรน่ะเหรอ ก็เสียวฮิบาริฟาดฮารุน้อยหอยสังข์กระเด็นน่ะสิเคอะ ๕๕๕ อีตาฮิบาริก็เหลือเกิ๊น จะเย็นชาโหดเหี้ยมให้กุแต่งยากไปไหนวะ??? เด๋วแม่แต่งให้เป็นเอ๋อเลยนี่! แง่ง ๆ ขี้เกียจไปร.ร. ว่ะ L เซ็งจิต ได้ยินมั้ยว่ากุเซ๊งงงง  โฮ ๆ ชีวิตนี้มันช่างหนักหนานักแล งื๊อ

    เมื่อวานนี้ซื้อรองเท้าใหม่มา (เป็นครั้งที่สิบแล้ว พอดีเป็นโรคจิตชอบซื้อเกือกอ่ะ อีเดียตมาก = =;) เด๋วนี้ซื้อรองเท้าก็ต้องซื้อแบบหุ้มส้นตามเทรนด์ค่ะ เอิ๊ก ๆ เอ้อ ซื้อเสื้อแจ็คเก็ตใหม่มาด้วย แม่ด่าระงมเลย พูดว่า “ลูกจะซื้อแจ็กเก็ตมาทำไม นี่มันหน้าร้อนนะ!” ฮ่า ๆ ๆ -_-; เอิ่ม หนูก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะออมม่า เพียงแต่สะดุดตาสะดุดใจ แถมเซลล์ยี่สิบเปอร์เซ็นต์แน่ะ ฮว๊าก ไม่ซื้อไม่ด้ายยย แต่ก็โดนนังเพื่อนสนิทด่ามาเหมือนกัน “เอทูแซดแม่งเซลล์ทั้งปี มันเอาแจ็คเก็ตหน้าหนาวมาเซลล์หน้าร้อนนะเว้ย แกก็เจือกโง่ซื้อมาอีก วุ้ย! หงุดหงิด ไอ้โง่!” นั่นล่ะค่ะ คือผลลัพธ์ของการซื้อของเซลล์ไม่เลือกหน้า อ่ะฮ่า ๆ L

    เอาเป็นว่าที่อู้อัพไปนี่แค่ไปนั่งชิลฟังเพลงทงบังนะคะ (กุชิลอีกและ นักอ่านก็ด่า “เชี้ย” อีกตามเคย ๕๕๕) แล้วกลับมาพบกันคราวหน้าค่ะ บั๊บบาย~ J

    ด้วยค. หวังดี

    ไรท์เตอร์ผู้น่ารัก เอ็นจอย ซีอา (enjoy xiah)




    nu eng

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×