คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Oleander's Felony ❤ } 4 : Round 1!
4
Round 1!
สองวันต่อมา
ภายในรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ บรรดาเมดและคนใช้มากมายเตรียมประจัญบานอยู่ในบ้าน ราวกับต้องรับศึกหนัก ทุกคนในบ้านต่างแอบซุกอาวุธหลายหลากชนิดไว้ใต้กระเป๋าเสื้อ มีตั้งแต่มีดพกยันตะหลิวและหม้อ เนื่องจากคุณหนูของทุกคนสั่งให้ระวังตัวเอาไว้ ตัวอันตรายกำลังจะมา
และภายนอกคฤหาสน์ ผู้ชายหลายสิบคน ใส่ชุดดำหัวจรดเท้า กำลังยืนเรียงหน้ากระดานเป็นแถวอยู่ข้างหลังรั้วขนาดใหญ่ เพราะด้วยแผนการบางอย่างของฮารุ พวกเขาจำเป็นต้องเสี่ยงตายอย่างแรงเพื่อคอมพลีตมัน
ฮารุที่นั่งไขว่ห้างสบายอารมณ์จิบกาแฟร้อนอยู่ที่เก้าอี้ในสวนกับโยโกะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู แล้วก็พบว่าตอนนี้เวลามันปาไปตั้ง 9.53 a.m. ได้แล้ว
“นี่พี่ ฉันว่าหมอนั่นต้องมาไม่ทันแน่เลยอ่ะ เราหยุดรอกันเถอะ” ฮารุหันไปพูดกับโยโกะที่นั่งอยู่ข้างๆ
เธอละสายตาจากนาฬิกาปลุกเรือนโตที่ตั้งอยู่บนโต๊ะและหันไปหรี่ตาพูดกับฮารุ “รอเถอะ พี่ว่าพี่ดูคนไม่ผิด เพราะคุณนายน่ะโหดมากๆ”
แต่เหตุผลที่ทำให้ฮิบาริต้องมาเร็วนั่นมันอาจจะแปลกไปสักหน่อย ถึงมันจะเป็นความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็เถอะ
“บุ๋ย น่าเบื่อจริงๆ ชิ L” ฮารุพึมพำหน้าเบ้
“เอ๊ะ นี่กี่โมงแล้วนะ” โยโกะถามเมื่อนั่งคุยกับฮารุมาได้อีกสักพักแล้ว
“อืม... เหลืออีกนาทีกว่าจะสิบโมงแล้วล่ะ” ฮารุก้มลงมองนาฬิกาข้อมือและตอบเสียงเซ็งๆ
เอี๊ยด!!
“สะ
เสียงอะไรน่ะ!?” โยโกะที่กำลังจะพูดต่อเอ่ยขึ้น เมื่อเสียงดังๆ ที่เหมือนเสียงเบรกรถอย่างแรงดังแทรก
“แหม การ์ดแต่ละคนนี่ทำงานได้เยี่ยมจริงๆ J” และข้อสงสัยของโยโกะก็ถูกเฉลยโดยฮารุ
“นี่ฮารุ สรุปว่าเธอตั้งใจจะขัดขวางให้ได้ถึงที่สุดเลยใช่มั้ยเนี่ย -_-+” โยโกะส่ายหน้าเอือมๆ กับความก๋ากั่นของน้องสาว
“ฉันก็แค่สั่งให้การ์ดล้อมวงกั้นรถแลมเบอร์กินีสีดำเอาไว้ให้เกินเวลาสิบโมงยี่สิบวินาทีเท่านั้นเอง พี่คงไม่คิดหรอกนะว่าหมอนั่นจะกล้าชนการ์ดฉันเพื่อเข้ามาโดยรถลูกรักคันนั้นน่ะ...” ฮารุพูดยังไม่ทันจบ เสียงดังครั้งที่สองก็ตามมา
โครมมม!! ตุ้บ! ตั้บ!
“เฮ้ยยย!! OoO” ทั้งฮารุและโยโกะร้องอุทานเสียงดัง เมื่อเห็นเจ้าแลมเบอร์กินีสีดำสุดเฉี่ยวกำลังพุ่งชนการ์ดหลายคนกระเด็นไปตกที่อื่นดังตุ้บตั้บ และรถคันนั้นกำลังมุ่งหน้ามาที่หน้าประตูคฤหาสน์อย่างรวดเร็วและบ้าบิ่น
ขณะที่รถแลมเบอร์กินีสีดำคันดุเร่งเหยียบมาให้ทันเวลาอย่างรวดเร็ว เข็มนาฬิกาก็ยังส่งเสียงว่ามันเดินดังติ๊กๆๆ อย่างน่ารำคาญ
เอี๊ยดดดด!
สิ้นเสียงรถเบรก บริเวณนั้นก็เงียบเป็นป่าช้าด้วยความอึ้ง งง และเง็ง ทันที ทำให้เสียงเปิดและปิดประตูรถดังก้องไปทั่ว
ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาก้าวลงมาจากรถสีดำคันนั้นด้วยหน้าตานิ่งๆ แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเย็นชา เขาเอนหลังพิงกับรถโดยที่มือข้างหนึ่งยังคงล้วงกระเป๋าอยู่
“นี่! นายน่ะ! ฮิบาริ!! กล้าชนการ์ดของฉันได้ยังไงหา! รู้มั้ยว่าแต่ละคนน่ะฉันจ้างมาเท่าไหร่!! แล้วบ้านฉันก็ต้องไม่ปลอดภัยเพราะการกระทำสั่วๆ ไร้หัวคิดของนายอ่ะดิ! แล้วการที่ชนคนอย่างนั้นน่ะมันถูกมั้ยฮะ!” ทันทีที่ได้สติ ฮารุก็เหมือนฟิวส์ขาดทันที เธอยืนด่าฉอดๆ ชี้หน้าฮิบาริเหมือนอีบ้าหัวฟู
“-_-^” ฮิบาริเองก็คงจะรำคาญพอดูเหมือนกัน ก็เสียงเจ๊ฮารุน่ะมันไม่ได้นุ่มลึกเหมือนเสียงยูโนวยุนโฮซะหน่อย~ (ขายของอีกแล้วตู = =^)
“นี่ ที่พูดน่ะได้ยินมั้ยฮะ! ฉันไม่อยากรบกวนหรอกนะ แล้วจริงๆ ก็ไม่ได้อยากให้นายมาเป็นบอดี้การ์ดบ้าบออะไรนี่ให้ด้วย! เลยพยายามหาทางขัดขวาง... แต่ที่ไหนได้ นายน่ะมันตัวเดสทรอยเยอร์ชัดๆ! การ์ดฉันต้องเข้าโรงพยาบาลกี่คนน่ะรู้มะ...!!” ฮารุที่กำลังหลับตาอ้าปากด่าฮิบาริด้วยเสียงที่แสบแก้วหูยิ่งกว่าเสียงร้องโอเปร่าต้องหยุดชะงัก เพราะว่ามีวัตถุอะไรบางอย่างเขวี้ยงฟ้าวดิ่งลงมากลางโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าเธอดังโครม!!
โครมมม!!
ฮิบารินั่นเอง ด้วยความรำคาญสุดขีดกับเสียงวีนแสนหนวกหู เขาจึงหยิบหินขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือนิดหนึ่งที่มันวางอยู่ข้างเท้าเขาขึ้นมา และขว้างไปตกโครมลงตรงกลางเจ้านาฬิกาปลุกน่าสงสารนั่นทันที
“กรี๊ด!! นายทำบ้าอะไรน่ะฮะ! รู้มั้ยว่านาฬิกานี่มาจาก...!” ฮารุที่กำลังด่าอย่างได้อารมณ์ต้องงับปากตนเองลง เพราะเธอเงยหน้าขึ้นไปเห็นฮิบาริกำลังจะก้มลงไปเก็บหินที่ใหญ่กว่าเจ้าหินเมื่อกี้เท่าหนึ่งขึ้นมา
“เอ่อ ยังไงก็ขอเชิญฮิบาริซังเข้ามานั่งในห้องรับรองก่อนละกัน เชิญค่ะ ^^;” โยโกะยิ้มแห้งๆ และผายมือไปทางประตูคฤหาสน์ที่เปิดกว้างอยู่ ทันใดนั้นเมดสองสามคนก็โผล่มานำทางให้ทันที ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมยัยคุณหนูฮารุไม่ได้สั่งแล้วกล้าทำ เหตุผลทั้งหมดมันอยู่ในดวงตาของพวกหล่อนที่เป็นรูปหัวใจต่างหาก
เมื่อทั้งหมดมานั่งรวมอยู่ในห้องรับรองหมดทั้งสามคนแล้ว โยโกะก็เอ่ยปากขึ้น “ไงล่ะฮารุ เขาเคลียร์กติกาข้อแรกฉลุยไปแล้วนะ บอกขั้นตอนต่อไปมาสิว่าต้องให้เขาทำอะไร”
“เชอะ L” ยัยฮารุเบ้ปากหน้างอและหันไปสะบัดหน้าจนแอบคอเคล็ดใส่ฮิบาริที่ทำหน้าเบื่อโลกอยู่ฝั่งตรงช้าม
“เอาเข้ามาได้เลย” หลังจากแอบนวดคอที่เคล็ดเสร็จแล้ว ฮารุก็หันไปสั่งกับคนรับใช้ผู้ชายสองสามคนที่ยืนกุมเป้าอยู่
สิ้นคำสั่ง คนรับใช้สามคนก็เปิดประตูเข้ามาและแบกนาฬิกาปลุกขนาดยักษ์ที่มีหน้าปัดเป็นดิจิตอลมาวางที่มุมห้อง
ฮิบาริหันไปขมวดคิ้วน้อยๆ มองฮารุที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์แบบนี้อยู่ >> J
“เอาล่ะ... ฉันจะบอกกติกาคร่าวๆ กับนาย ฉันอยากทดสอบนายว่าในสถานการณ์ที่ถูกล้อมและกำลังจะถูกรุม นายจะทำหน้าที่ได้ดีมั้ย J”
“-_-” ฮิบาริยังคงหน้าตาย บางทีอาจจะเป็นเพราะความมั่นใจในฝีมือก็เป็นได้
“กติกาก็คือ ฉันจะจับเวลาครึ่งชั่วโมง ให้คนรับใช้ทั้งคฤหาสน์โจมตีนายได้เต็มที่ โดยที่นายต้องหลบอย่างเดียวนะ J” ฮารุร่ายยาวถึงกติกาที่แสนจะแฟร์และไม่เอาเปรียบ (สำหรับเธอ)
“โหยยย ฮารุ!! นี่มันจะโกงและทารุณเขาไปหน่อยล่ะมั้ง!” โยโกะแย้งขึ้นอย่างรับไม่ได้ และหันไปมองหน้าคนที่ควรจะแย้ง แต่กลับทำหน้าชินๆ และชิลๆ อย่างฮิบาริ
“ทำไม่ได้ก็กลับไป... แค่นั้น อ้อ อย่าลืมนะ ห้ามคิดจะทำร้ายฉันเด็ดขาด เพราะฉันมีคุณนายเป็นแบ็กอัพย่ะ โฮะๆๆ J” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของฮารุที่ใครหลายคนมักจะบอกว่ามองยังไงก็ยังดูสวย แต่สำหรับฮิบาริ มันเป็นภาพที่อุบาทว์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา!
“โอ๊ะ ใช่แล้ว ลืมบอกไป นอกจากนายจะไม่มีอาวุธ มือเปล่า และยังต้องแบก ‘ไอ้นี่’ ด้วยนะ” ฮารุว่าพลางชี้นิ้วไปที่หุ่นจำลองร่างคนขนาดเท่าของจริงที่นั่งพิงตู้อยู่
“-_-^” เท่านั้นแหละ ฮิบาริหันมาทำหน้าไม่พอใจใส่ทันที
“โฮะๆ สรุปกติกานะ ก็คือว่านายจะต้องหลบการโจมตีทั้งหลายแหล่ที่คนรับใช้และเมดทั้งหมดของคฤหาสน์โจมตีมาด้วยอาวุธจริง และก็ต้องอุ้มเจ้าหุ่นจำลองนั่นไปด้วย ไม่ให้มันมีบาดแผล เพราะในสถานการณ์จริงมันคือตัวฉัน น้ำหนักเท่าฉันด้วย เพราะงั้นไม่หนักหรอก อ่ะโฮะๆ จับเวลาทั้งหมดสามสิบนาที และถ้านายหรือเจ้าหุ่นนั่นโดนอาวุธของใครคนหนึ่งในบ้านของฉันเข้าล่ะก็... เกมโอเวอร์ เจ็บจริง และกลับบ้านไปอย่างหมดศักดิ์ศรี แถมยังมีคุณนายสุดอ่อนโยนรอต้อนรับอยู่ที่บ้านด้วยล่ะ~ ฮิๆๆ J” ฮารุหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย แต่ในความคิดของเธอมันคือหัวเราะสะใจ หาใช่รอยยิ้มนางมารอย่างที่หลายๆ คนคิด
“-_-^^” รู้สึกว่าฮิบาริจะไม่ค่อยพอใจกติกาซะเท่าไหร่ แต่ถ้าเทียบกับบาเร็ตต้าหนักๆ และกระสุนปืนของท่านแม่แล้ว มันช่างเล็กน้อยนัก และเขาไม่ค่อยอยากขัดคำสั่งแม่เท่าไหร่ สัญญาไว้แล้วด้วย
“เอ้า จะเริ่มแล้วล่ะนะ ทุกคนเข้ามาได้” ฮารุหันไปกวักมือเรียกบรรดาเมดและคนใช้ในบ้านให้เข้ามาในห้องแห่งนี้
หญิงชายหลายคนประมาณสักยี่สิบคนได้ ก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ในมือของทุกคนถือของที่สามารถใช้เป็นอาวุธปลิดชีพคนได้ทั้งนั้นมาด้วย อาทิเช่น มีดอีโต้ ไม้เบสบอล ไม้หน้าสาม ตะหลิว หม้อ ดาบญี่ปุ่นคมกริบของแท้ และขนาดไม้เทนนิสก็ยังมี
...นี่จะมาลุยหรือมาลดกระหน่ำขายของใช้มือสองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
“เวลาทั้งหมดสามสิบนาที เอ้าฮิบาริ นายไปอุ้มเจ้าหุ่นนั่นสิ โฮะๆๆ” ฮารุเดินไปที่นาฬิกาปลุกยักษ์และชี้นิ้วสั่งฮิบาริด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ท่ามกลางสีหน้ากังวลใจของหลายๆ คน
เมื่อเธอหันไปมองความพร้อมของบรรดาพรรคพวกของเธอก็พบว่า... เมดทั้งหลายของเธอกว่าครึ่งค่อน ได้กลายเป็นพวกของฮิบาริไปแล้ว ดูได้จากสายตาวิ้งๆ รูปหัวใจที่คุณน้องสาว พี่ป้าน้าอา ส่งไปให้เขา
“หนักมั้ย?” แทนที่จะหันไปด่าเมดพวกนั้นให้เลิกหลงผิดในอารมณ์ชั่ววูบกับความหล่อบรมนั่น เธอกลับข่มอารมณ์และหันไปถามฮิบาริที่ตอนนี้ขมวดคิ้วเข้าหากันและอุ้มเจ้าหุ่นจำลองนั่นอยู่
“เธอให้ฉันแบกคน... หรือฮิปโป?” ฮิบาริได้โอกาสจิกกัดก็ใส่ไปเต็มที่ และมันก็ได้ผลอย่างแรง เมื่อฮารุกรี๊ดลั่นบ้านและระบายอารมณ์กับนาฬิกาที่น่าสงสารโดยการเตะมัน แต่สุดท้ายก็เป็นเธอเองที่ต้องเอาเท้าขึ้นมากุมด้วยความเจ็บ เรียกสีหน้าสมเพชจากฮิบาริได้อย่างดี
“อะ... เอาล่ะ นึง ส่อง ซั่ม... เริ่มได้!” หลังจากบ่นอุบอิบคนเดียวอยู่นาน ฮารุก็หันมาให้สัญญาณและกดเริ่มเดินเวลาที่นาฬิกา
...เมดฉันจะเป็นยังไงไม่สนแล้ววุ้ย อย่าไปหลงผิดชอบหมอนั่นเข้าเชียวล่ะทุกคน
ฮารุคิดขณะเดินไปยืนข้างๆ โยโกะและทอดสายตามองถ่ายทอดสด ‘รุมสกรัมหมู่’
เปรี้ยง! โครม!! ผัวะ!!
เสียงที่ดังขึ้นพอให้ฮารุเดาได้เลาๆ ว่าคงมีคนบาดเจ็บ และเธอก็หวังว่าขอให้เป็นฮิบาริ แต่...
ฟุ่บ! ผัวะ! เปรี้ยง!
ภาพที่เธอเห็นคือฮิบาริกระโดดสปริงตัวขึ้นเหนือหัวทุกคนโดยที่ยังอุ้มเจ้าหุ่นนั่นอยู่ และตวัดเท้าไปตบหน้าผู้ชายหน้าโง่ที่ยืนนิ่งเป็นเป้าให้เขาเตะคนหนึ่ง แล้วเหยียบบ่าของอีกคน ใช้เข่ากระแทกข้างแก้มจนฟันกระเด็น แต่ที่ทำให้เธอตกใจก็คือ เขาใช้มือเดียวอุ้มเจ้าหุ่นจำลองนั่น และอีกมือของเขา... กำลังถืออาวุธที่เรียกว่า ‘ทอนฟา’ อยู่!!
“เฮ้ย!! ไอ้หมอนั่นไปเอาทอนฟามาจากไหนเนี่ย! โธ่เอ๊ย! รู้งี้เพิ่มกฏ ‘ห้ามใช้อาวุธหรือตอบโต้’ ไปด้วยซะก็ดีหรอก!” ฮารุบ่นโวยวายกับโยโกะที่หันมายิ้มบางๆ ให้
“ก็เขาหัวหมอกว่าที่คิดไง ถึงจะสมน้ำสมเนื้อกันกับเธอที่มารยาร้อยล้านเล่มเกวียนและร้ายเหลือเกิน ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอเคยร่าเริง ติงต๊อง บ๊องบ้าบวม มาก่อนเลยนะ” โยโกะหันไปรำลึกความหลังกับฮารุกันสองคน
“แหม ก็ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้วนี่นา โตๆ กันแล้วด้วย จะมานั่งวี้ดว้ายกระตู้วู้มันก็ใช่เรื่อง” เธอว่าพร้อมทำหน้างอน โยโกะเห็นดังนั้นจึงหัวเราะและแถมมะเหงกไปให้นิดหน่อย
เปรี้ยงๆ! ผัวะๆ!
เสียงแบบนี้ดังมาได้สักพักแล้ว และในเวลาไม่นาน คนรับใช้ชายทั้งหมดของคฤหาสน์นี้ก็ลงไปนอนหมดสภาพกันอยู่กับพื้น พร้อมแผลฟกช้ำตามร่างกาย เหลือเพียงแค่เมดหลายคนที่ยืนตัวสั่นงันงกอยู่ บางคนตัวสั่นเพราะกลัว แต่บางคนนี่สิ ตัวสั่นเพราะทนไม่ไหว อยากกรี๊ดในความเท่เหมือน เจมส์ บอนด์ ของฮิบาริจนจะโคม่าอยู่แล้ว
“นี่!! ห้ามทำร้ายผู้หญิงนะ! เป็นผู้ชายรึเปล่าน่ะฮะ!” ฮารุที่กลัวว่าฮิบาริจะทำร้ายเมดของตนซึ่งเป็นผู้หญิงร้องห้าม แต่ฮิบาริไม่สนใจ เขาเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาหน้าตาเฉย ท่ามกลางสายตางุนงงของหญิงล้วนที่รอดชีวิตอยู่ในคฤหาสน์นี้
เวลาเพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่เหมือนทุกคนจะตายซากหมดแล้ว ไม่มีใครผงาดฮึดสู้กับฮิบาริเหลือเลยเพราะขนาดพวกผู้ชายที่เป็นซีเคียวริตี้การ์ดยังนอนอืดเป็นพะยูนเกยโต๊ะอยู่กับพื้น จะไปนับประสาอาไร้ กับผู้หญิงอ่อนแอบอบบางอย่างพวกเธอ ที่แม้บางคนจะเอวหลามออกมานอกกระโปรงก็ตาม
ฮารุรีบเดินไปสำรวจเจ้าหุ่นจำลองที่ฮิบาริวางไว้กับพื้นทันที และเธอก็พบว่า... มันไม่มีแม้แต่รอยเล็บจิกเลยสักนิด มีแต่กลิ่นหอมของน้ำหอมผู้ชายที่ติดมากับมัน กลิ่นของมันทำให้เธอรู้สึกมึนเบลอนิดๆ ก่อนที่จะสะบัดหัวและร้องเตือนตัวเองในใจว่าเธอไม่ควรไปหลงชอบเขาเหมือนบรรดาเมดพวกนั้น...
ฮารุหันขวับไปทางฮิบาริที่นั่งหาวอยู่ทันที “นี่นาย... เก่งเหมือนกันนี่”
“-_-” แต่สิ่งที่ได้รับจากการกล่าวชมของเธอก็คือใบหน้าไร้อารมณ์ที่ดูเย็นชาตามเดิม
“เอาเถอะ ถึงจะยืดไปถึงครึ่งชั่วโมงจริงๆ ก็คงไม่มีประโยชน์หรอก ตัดสินไปเลยดีมั้ย?” โยโกะรีบยื่นข้อเสนอ
“อืม ก็ได้ L” ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ แต่ฮารุก็ต้องยอมรับล่ะนะ ว่าต่อไปนี้บอดี้การ์ดสุดเพอร์เฟกต์ของเธอจะมีใบหน้าไร้อารมณ์และความเย็นชาบวกโหดพันเปอร์เซ็นต์ และมีชื่อว่า ฮิบาริ เคียวยะ
...วันที่แสนสดใสของฉัน โอ้วม่ายยย TOT
มันคือการแสดงความดีใจในแบบของฮารุ ห้ามดัดแปลงและลอกเลียนแบบเด็ดขาด
“เออ! นายผ่านการทดสอบ ผ่าน! ผ่านๆๆๆ การทดสอบที่ฉันตั้งขึ้นมาเพื่อความสงบสุขของตัวเอง! ต่อไปนี้ฉันไปไหนก็ต้องมีนายมาเสนอหน้าอยู่ใกล้ๆ จะทำอะไรก็ต้องถูกนายจับตามอง นาย... ผู้ที่ฉันเกลียดขี้หน้าและหมั่นไส้ที่สุด!! กรี๊ดๆๆ!” ฮารุบ่นด้วยความคับแค้นใจ และอีกสองนาทีต่อมา เธออาจจะกลายเป็นบ้าก็ได้ถ้าฮิบาริยังอยู่ใกล้ๆ
“เฮอะ รู้ไว้ซะว่าฉันก็ ‘รังเกียจ’ เธอเหมือนกัน -_-+” ฮิบาริด่าคืนประโยคเดียวแต่ทำเอาฮารุแสบไปถึงรูทวารสุดท้าย (?)
“ไอ้...!!” ฮารุที่กำลังจะอ้าปากด่าฮิบาริต้องหยุดกึกเมื่อเขากล่าวลา
“ไปล่ะ” ฮิบาริพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชาจับขั้วหัวใจ และเดินดุ่มๆ ไปขึ้นรถที่จอดรอไว้หน้าคฤหาสน์ทันที
บรื้นนน
รถแลมเบอร์กินีสีดำที่ออกตัวได้ไม่นานก็ลับสายตาไปเสียแล้ว แสดงถึงความที่คนขับขับเร็วนรกได้อย่างดี ฮารุมองตามท้ายรถและกรี๊ดออกมาดังๆ พร้อมกระทืบเท้า
“อ๊ากกกก” หลังจากทึ้งหัวตัวเองเสร็จ เธอก็เดินขึ้นบันไดไปยังห้องของเธอเอง และปิดประตูเสียงดัง
การเป็นบอดี้การ์ดของฮิบาริคราวนี้ช่างสำคัญนัก เพราะมันแลกมาด้วยเลือดเนื้อ (และฟันหลายซี่) ของมนุษยชาติชาวคนรับใช้และการ์ดบ้านมิอุระ มันจะจารึกไว้ในใจของพวกเขาที่ต้องเข้าโรงพยาบาลหยอดน้ำเกลือหลายคืนตลอดไป
เตร่งเตรงเตร๊งงงงง ขอไว้อาลัยให้ ณ ที่นี้
Round 1
Hibari vs Haru
1 : 0!
(End Round 1!!)
To be continued
ย้าก ดองอัพอีกและ ขนาดฟิคใหม่นะเนี่ย ฮึก ๆ ใช้ไม่ได้เลยตู ,, ขอโทษที่อัพช้านะคะ แล้วจะอัพตอนต่อไปให้แบบถี่ ๆ แต่ต้องเม้นให้ด้วยน้า เม้นน้อยจัง เห็นแล้วเศร้าใจง่ะ L วันนี้จะโม้น้อยหน่อย พอดีมีหน้าที่ต้องอ่านมังงะ (อ้าว??) ฮึ้ย ๆ เซ็งจริง ๆ นะ เปิดเทอมแล้วรู้สึกแย่โคตร ๆ ๆ เลย อยากปิดเทอมอีก อยากปิดเทอมมมม ไม่เคยคิดว่าอยากเปิดเทอมเลย ไม่อยากเรียน ไม่อยากทำการบ้าน ไม่อยากสอบ ไม่อยากตื่นเช้า ไม่อยาก ๆ ๆ ๆ ... แต่ยังไง๊ ยังไงกุก็ต้องทำ เช๊อะ!! L
ทำไมวะ?? ทำไมต้องเอาแต่พูดทำนองว่าทงบังเขาแยกกันแล้วด้วย เด๋วแม่จับกรีดหน้าเลยนี่ อิพวกห่า! (ขออภัยในคำหยาบค่ะ) สัสบรรลัยจริง ๆ แม่มก็เอาแต่ไปปล่อยข่าวลือมั่ว ๆ ให้แคสที่เปราะบางต้องร้องไห้ ถามหน่อย เมิงไปได้ยินข่าวมาจากไหน มีใครออกมาพูดมั่งยังวะ ว่าเขาจะแยกวงกัน หรือว่าหมามาบอกวร๊ะ อิเชี้ย! ชอบไม่ชอบไม่สน ใครพูดงี้กุด่าไม่เลือกหน้าแหละวะ ห่า เสียดายที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งสองปี ด่าแม่มซะกระจุย จ๋อยหงอยเลย เอิ่ม ... ขอไม่ง้อละกัน เพราะตอนนั้นแกเจือกสะกิดต่อมระเบิดกุเอง เล่นอะไรไม่เล่น มาเล่นของสูงบูชาอยู่บนหิ้ง โดนซะมั่งก็ดี ชิช๊ะ! L
วีนอีกแล้ว ... ด่าอีกแล้ว ... เมื่อไหร่พวกที่คอยแช่งทงบังมันจะหาย ๆ ตาย ๆ (โหง) ไปจากโลกนี้ซะทีนะ เหนื่อยที่จะคอยแก้ต่าง เหนื่อยที่จะด่า เหนื่อยที่จะคอยปกป้อง แต่ ... ถึงจะบ่นยังไง ท้อใจขนาดไหน ในเมื่อมันเป็นทางเลือกเดียวที่ฉันเหลืออยู่ ฉันก็จะทำ ... ฉันจะรอ วันที่พี่ออกมาพูดเอง ฉันจะรอวันนั้นโดยไม่ถอดใจใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าผลมันจะเป็นยังไง แต่ฉันเชื่อว่ายังคงมีทงบังชินกิอยู่เสมอ อยู่ที่ไหนน่ะเหรอ ... ก็อยู่ในค.ทรงจำของฉันนี่ไง ฉันจะไม่มีวันลืมพี่ เพราะถ้าฉันลืม มันหมายความว่าจะไม่มีทงบังชินกิอีกแล้ว ดังนั้น ... ช่วยกลับมาซะทีเถอะ ... ดวงดาวและแสงสว่างทั้งห้าของฉัน ...
ดราม่าและกุ =,.= ทั้งปีอ่ะ แฮ่ ๆ ขอโทษที่อัพช้าอีกครั้งนะคะ แล้วจะรีบอัพให้ค่ะ
คัมซาฮัมนีดา ขอบคุณค่ะ
ไรท์เตอร์ เอ็นจอย ซีอา
nu eng
ความคิดเห็น