คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Oleander's Felony ❤ } 18 : T r a i t o r
T r a i t o r
11.45 a.m.
รถตู้สีดำคันใหม่แล่นเข้ามาในคฤหาสน์มิอุระ ประตูเลื่อนเปิดออก คนที่กระโดดลงมาคนแรกคือชายหนุ่มผมสีดำที่มีรังสีเย็นชาแผ่กระจายไปรอบตัว แต่ในทางกลับกันเขากลับมีออร่ารัศมีความหล่อเท่เหมือนดาราหนังจนเมดที่วิ่งมารับแทบกรี๊ดสลบ ทำให้หญิงสาวเจ้าของคฤหาสน์ที่กำลังลงมาจากรถอย่างทุลักทุเลหันไปค้อนปะหลับปะเหลือกให้หนึ่งที
...นี่พวกหล่อน เจ้านายพวกเธออยู่ตรงนี้ย่ะ ฉันเดี้ยงอยู่น่ะเห็นไหม เลิกสนใจตานั่นเสียที !
ฮารุบ่นเสียงดังลั่นในใจ ในวินาทีนี้เธอนึกขอบคุณลุงคนขับรถ เพราะถ้าไม่ได้เขาเธอคงได้กลิ้งลงมาจากรถแล้วตกแอ้กไปนอนตายอนาถบนพื้นแน่ ๆ
"กลับมาแล้วหรือฮารุ ฮิบาริซัง ไปเที่ยวสนุกไหม" โยโกะเดินยิ้มมารับน้องสาวที่กำลังทำหน้าบูดบึ้ง
"พี่โยโกะ อ๊ะ" ร่างบางที่กำลังจะวิ่งไปกอดพี่สาวเหมือนที่เคยทำอยู่บ่อย ๆ เกิดลืมสภาพสังขารตนเองขึ้นมาชั่วขณะ เท้าซ้ายที่ก้าวนำไม่มีแรงยืนทำให้ร่างทั้งร่างทรุดฮวบลงกับพื้นทันที
"ว้าย ! ไปทำอะไรมาน่ะยัยฮารุ" สาวร่างโปร่งถลามาหาน้องสาวที่นั่งทำหน้าบูดเบี้ยวเพราะความเจ็บอยู่กับพื้น ก่อนจะถามหาสาเหตุเสียงเขียว
"เอ่อ...เอาเป็นว่าเราเข้าไปคุยกันข้างในดีกว่านะ ฮารุเนื้อยเหนื่อยอ่ะ" ฮารุส่งสายตาออดอ้อนไปให้พี่สาวอย่างที่เธอจดลงไดอารี่ของเธอว่าทำแบบนี้แล้วโยโกะจะใจอ่อน แต่ฮิบาริที่เหลือบมาเห็นพอดีเห็นแบบนั้นเข้าก็รีบหันหน้าหนีแล้วเดินเข้าบ้านทันที...ไม่ ไม่ใช่ว่ามันน่ารักจนหัวใจเต้นตึกตักเหมือนพระเอกหนังทั่วไปเขารู้สึกกันหรอก แต่เป็นน่าขนลุกจนทนมองต่อไม่ได้ต่างหาก
โยโกะถอนหายใจยาวเหยียดออกมาหนึ่งรอบ ก่อนจะเรียกเมดคนหนึ่งที่ยืนน้ำลายไหลยืดเพราะโดนออร่าหล่อโหดโฉดชั่วของฮิบาริกระแทกสมองจนมันหยุดทำงานไปแล้วให้มาช่วยกันพยุงน้องสาวจอมป่วนเข้าบ้าน
ฮารุที่เพิ่งเข้ามาในคฤหาสน์หลังงามอันสดใสของเธอก็ต้องตกใจแทบสิ้นลม...หมายถึงสิ้นสติน่ะ เนื่องจากออร่าสีดำทะมึนปริมาณมหาศาลที่แผ่ออกมาจากผู้หญิงในชุดกิโมโนที่เธอรู้จักดีแบบไม่มีวันลืม
"คะ...คุณนาย !" หญิงสาวหน้าซีดเผือด กระพริบตาหลาย ๆ รอบอย่างไม่อยากเชื่อสายตา บางทีมันอาจจะเป็นต้อกระจกรูปหน้าคุณนายที่ฮิบาริทำขึ้นมาแก้แค้นเธอก็ได้
"อ้าว หนูฮารุ...ว้ายตาย ทำไมบาดเจ็บตั้งสองที่เลยล่ะ โธ่...หนูฮารุที่น่าสงสาร" คุณนายที่เมื่อกี้นั่งไขว่ห้างจิบชาและปล่อยรังสีโหดใส่ฮิบาริที่นั่งเหงื่อตกอยู่บนโซฟาอีกตัวหนึ่งเอามือทาบอกอย่างตกใจ
โยโกะพยุงฮารุมานั่งบนโซฟาตัวยาว เธอนั่งลงข้าง ๆ ฮารุที่ตอนนี้แอบลอบกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ๆ ก่อนที่จะเริ่มซักถามจำเลย "บอกมาเลยนะ ไปเที่ยวแค่สี่ห้าวันทำไมกลับมาเป็นมัมมี่เดินไม่ได้อย่างนี้"
"ง่า ไม่ใช่มัมมี่อะไรนั่นของพี่เสียหน่อย มีผ้าพันแผลพันแค่มือกับข้อเท้าเอง...ชะอุ๋ย ค่ะ ๆ ฮารุขอโทษ ฮารุผิดไปแล้วที่ซุ่มซ่าม...แต่นี่ก็ไม่ใช่ความผิดฮารุคนเดียวนะ นายฮิบาริเขาก็มีส่วนผิดด้วย" หญิงสาวแก้ตัวเสียงเบา แต่พอสบสายตาพิฆาตของพี่สาวที่ส่งมาก็จ๋อยจนไม่กล้าเถียงอีก ตอนแรกเห็นแบบนี้ฮิบาริก็แอบหัวเราะเย้ยหยันในใจอยู่หรอก แต่เสียงหัวเราะในใจก็ต้องสะดุดเหมือนแผ่นเสียงขัดข้อง เพราะยัยตัวแสบฮารุยังไม่สิ้นฤทธิ์เสียทีเดียว ยัยสัตว์กินพืชขี้ฟ้องดันโยนขี้มาโดนเขาด้วย เขาคงไม่เดือดร้อนอะไรหรอกถ้าพอยัยนั่นพูดจบแล้วรังสีทะมึนของคุณนายไม่เพิ่มพลังจนเขาเริ่มเห็นนางพญาปีศาจอยู่ในเงาของเธอน่ะนะ
"ลูกชายที่รัก ไม่ใช่ว่าแม่มอบหมายงานให้ลูกปกป้องหนูฮารุหรอกหรือจ๊ะ" รอยยิ้มหวานหยดถูกส่งมาพร้อมกับเสียงไพเราะเสนาะหูที่คนฟังฟังแล้วอยากหายไปจากตรงนี้เสียให้ได้ สยอง...นี่เป็นคำเดียวที่ฮารุคิดออกเมื่อเห็นคุณนายในร่างนี้
"ยัยนี่โง่เอามือไปจับหนามเองต่างหาก" เสียงเรียบที่ยังคงความไม่แยแสอะไรทั้งสิ้นไว้กล่าวออกมา ได้ยินประโยคนี้เข้าแล้วฮารุถึงกับของขึ้น เธอตวาดเสียงสูงปรี๊ด
"ว่าไงนะ ! นายหาว่าฉันโง่งั้นหรือ หน็อย ฟังให้ดีนะไอ้คุณบอดี้การ์ด ที่ฉันไปจับมันก็เป็นเพราะนายน่ะแหละที่วางเจ้าทรงกลมมีหนามนั่นไว้ใกล้ ๆ เป็นใครก็อยากรู้อยากแตะทั้งนั้นแหละว่ามันเป็นของจริงหรือเป็นแค่ลูกโป่งพิสดารรูปเม่น...แล้วอีกอย่างนะ ที่ข้อเท้าฉันพลิกนี่ก็เพราะนายดันกระชากฉันออกวิ่งทั้งที่วันนั้นใส่ส้นตึกมาโดยไม่ให้สัญญาณเตือนอะไรสักอย่าง ! คนผิดมันไม่ใช่ฉันแน่นอน" เสียงหอบแฮก ๆ ดังตามมาหลังจากเสียงด่ามาราธอนของเธอ
"ก็เพราะเธอมันโง่น่ะแหละยัยสัตว์กินพืชไร้หัวคิด จะมีใครโง่เอามือไปแตะของอันตรายกัน นอกจากโง่แล้วยังกล้าบ้าบิ่นอีกนะยัยเซ่อ" ฮิบาริก็ไม่น้อยหน้า ถึงเขาจะคงคอนเซปต์พูดน้อยสงวนน้ำลายไว้ แต่คนถูกด่าก็ยังรู้สึกแสบเหมือนเอาเกลือมาทาผิวที่โดนเฆี่ยนจนเลือดอาบ
"นายนั่นแหละไอ้..."
"หยุด ! พอได้แล้วทั้งสองคน พี่ฟังพวกเธอเถียงกันไปเถียงกันมาจนปวดหัวไปหมดแล้วนะ ช่วยสงบศึกกันสักพักได้ไหม แล้วพอพี่กับคุณนายลุกไปพวกเธอจะตบจะตีกันยังไงก็เชิญ !" โยโกะหมดความอดทนตะโกนแทรกและยกมือขึ้นนวดขมับ
"เชอะ เห็นแก่พี่โยโกะหรอกนะถึงได้เลิก ไม่งั้นจะด่าให้ร้องไห้ไปฟ้องแม่เลยคอยดู" ฮารุสะบัดหน้าก่อนจะพึมพำเบา ๆ
"เหอะ ข้ออ้างของพวกขี้แพ้..." ฮิบาริที่ดันหูดีได้ยินเข้าก็หันหน้าไปทางอื่นและพึมพำบ้างเช่นกัน
"นาย ! ไอ้..."
"จริง ๆ ลูกก็ผิดนะ ในฐานะบอดี้การ์ดของหนูฮารุ เพราะลูกมีหน้าที่ปกป้องเธอ การ 'ปกป้อง' ไม่ใช่แค่ออกไปสู้กับศัตรูที่เข้ามาจะทำร้ายเจ้านายของลูกโดยไม่สนใจว่าเธอที่นั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรจะเป็นตายร้ายดียังไง" จู่ ๆ คุณนายที่นิ่งเงียบไปนานก็พูดแทรกฮารุที่เมื่อกี้ทำท่าจะกระโจนไปตะกุยหน้าหล่อ ๆ ของชายหนุ่มให้เละจนบินไปศัลยกรรมใหม่ที่เกาหลีก็กลับมาเป็นอย่างเก่าไม่ได้ต้องนั่งจุ้มปุ๊กลงกับโซฟาอย่างยอมเต็มใจ
"หนูฮารุก็ไม่ควรจับอะไรซี้ซั้วนะจ๊ะ เกิดเป็นของอันตรายขึ้นมาจริง ๆ คงแย่แน่" ใบหน้าสวยที่อายุไม่ได้ทำให้ความงามจางหายลงไปเลยหันไปพูดกับฮารุที่แอบสะดุ้งน้อย ๆ
"ค่ะ ต่อไปจะระวังตัวให้มากกว่านี้ค่ะ" หญิงสาวก้มหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี
"งั้นเพื่อเป็นการรับผิดชอบ...ฉันยกลูกชายให้หนู เอ๊ย ไม่ใช่...ฉันจะให้เขามาดูแลความปลอดภัยให้หนูแบบประจำการยี่สิบสี่ชั่วโมงให้ที่นี่เลยจ้ะ เอาแบบเป็นเงาตามตัวไม่ห่างเลยดีไหม โฮะ ๆ ๆ" คุณนายปิดปากหัวเราะเบา ๆ (อย่างชั่วร้ายในความคิดของฮารุและฮิบาริ)
"ว่าไงนะคะ !" แน่นอนว่าฮารุแหกปากลั่นเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกหางทันที ส่วนฮิบาริก็หันขวับมาทำหน้าไม่เห็นด้วยทันควัน
"ก็ว่าอย่างที่พูดไปเมื่อกี้ล่ะจ้ะ เห็นด้วยหรือเปล่าจ๊ะโยโกะ" เธอหันไปถามความเห็นโยโกะที่นั่งทำหน้าพอใจอยู่
"ค่ะ ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งเลย เดี๋ยวจะให้เมดจัดห้องข้าง ๆ...ไม่สิ ห้องตรงข้ามฮารุให้วันนี้เลยนะคะ" เธอว่าจบก็สั่งเมดไปจัดห้องให้ฮิบาริจริง ๆ
"ดะ...เดี๋ยวสิคะ ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วยล่ะ อย่างเดิมก็น่าจะ (แย่เกิน) พอแล้วไม่ใช่หรือไงคะ" ฮารุร้องขัดตะกุกตะกัก
ฮิบาริพยักหน้ารับเห็นด้วยกับคำพูดของเธอ ดูเหมือนว่านี่คงจะเป็นเรื่องเดียวที่ทั้งสองคนปรองดองและเข้าขากันได้ดี...เรื่องเกี่ยวกับคุณนาย
"นี่หนูฮารุยังไม่เข้าใจอีกหรือจ๊ะ ที่หนูโดนลอบโจมตีที่โอกินาวานั่นไม่ได้ทำให้หนูตระหนักถึงอันตรายที่กำลังมาหาหนูเลยใช่ไหม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยนะ เพราะการที่นักฆ่ารับจ้างพวกนั้นรู้ได้ว่าหนูไปพักร้อนที่นั่นโดยที่หนูไม่ได้บอกใครเลยนอกจากคนสนิทน่ะ มันแปลว่าอะไร หนูรู้ไหม" คุณนายลดเสียงเบาลงจนแทบไม่ได้ยิน แต่ฮารุสนที่ไหนกันเล่า ตอนนี้สมองของเธอกำลังประมวลผลเร็วจี๋ เพื่อให้ได้คำตอบที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าหนึ่ง คำตอบที่ไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดออกทันทีที่คุณนายพูดจบ
...มันน่าจะมีมากกว่านั้นสิ คำตอบที่ไม่ใช่คำตอบนั้น !
เหงื่อเย็น ๆ ไหลลงมาตามใบหน้าเคร่งขรึมของหญิงสาวทั้ง ๆ ที่เครื่องปรับอากาศยังทำงานปกติ เธอคิดแล้วคิดอีก แต่จะคิดยังไงมันก็หาเหตุผลอื่นไม่ได้เลย นอกจาก...
"มีคนใน...ส่งคนมาฆ่าฉัน" น้ำเสียงสั่น ๆ ดังขึ้น เสียงนั้นแผ่วเบาราวกับคำพูดจะหายไปกับอากาศเลยก็ว่าได้
"ใช่ และนี่คือสิ่งที่ฉันตั้งใจจะบอกหนู...ลองสังเกตุคนรอบข้างให้ดี...หนูจะสงสัยฉันด้วยก็ไม่ว่าอะไร แต่ขอได้อย่าสงสัยลูกชายของฉันเลย ถึงเขาจะเป็นแบบนี้ก็เถอะ แต่เขาคือคนที่จะช่วยหนูให้รอดพ้นจากความตายอย่างที่พ่อของหนูเคยเจอมา"
"..." ฮารุก้มหน้านิ่ง เธอไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ แม้ในใจจะรู้แน่อยู่แล้วว่าฮิบาริไม่ใช่คนร้าย แต่เธอก็ไม่อยากพูดออกไปหรอก เธอไม่รู้ว่าทำไม แต่แค่ไม่อยากให้ใครรู้...ว่าแอบเธอเชื่อใจเขานิด ๆ บอดี้การ์ดของเธอ...ขนาดเธอยังไม่อยากให้ตัวเองรู้เลย มันน่าขนลุกจะตายไป
"เขา...เพราะความเชื่อใจที่มีให้คนรอบข้างมากเกินไป เขาจึงโดนทรยศหักหลังได้น่าเจ็บแค้นที่สุด ฉันช่วยเขาไม่ทัน แต่อย่างน้อยฉันก็มั่นใจว่าฉันจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นซ้ำสองกับหนูแน่นอน" ดวงตามุ่งมั่นของคุณนายทำให้ฮารุนึกสงสัย...ว่าผู้หญิงคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัวเธอกันแน่
"ฮารุ พี่...ไม่อยากเสียเธอไปอีกคนนะ เรายัง...ยังไม่ได้แก้แค้นให้พ่อเลยไม่ใช่หรือไง" โยโกะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าอ่อนใจ
"ตกลง...ก็ได้ค่ะ" ฮารุยอมรับด้วยใบหน้าที่ไม่เต็มใจนัก
"ขอบคุณนะจ๊ะ"
"เฮ้ นายบอดี้การ์ด...ถ้าแน่จริงก็อย่ามาทำเป็นป๊อดอ้างโน่นอ้างนี่ว่ารังเกียจฉันหรืออะไรก็แล้วแต่ ฉันไม่สั่งให้คนมารุมนายหรอก" หญิงสาวหันไปจิกกัดฮิบาริที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์
"ใช่แล้วลูกแม่ จงทำตามคำสั่งที่แม่บอก...คุ้มครองหนูฮารุตลอดเวลา อย่าให้มีแม้แต่รอยขีดข่วนเชียว รอยหนึ่งนัดหนึ่งเป็นไง" เมื่อถูกผู้เป็นแม่ขอร้อง (?) ชายหนุ่มก็เลยต้องจำใจรับหน้าที่นี้ไปจนได้
"..." ฮารุขอสาบานกับตัวเองไว้เลยว่าจะไม่มีวันละเมิดคำสั่งของคุณนายเด็ดขาด
"กลับไปเก็บข้าวของที่บ้านซะ แล้วอย่าหาข้ออ้างกลับมาบ้านหรือไปที่องค์กรนะ ถ้าแม่รู้ล่ะก็เราได้เห็นดีกันแน่"
ฮิบาริปิดปากหาวทำท่าจะเดินออกจากคฤหาสน์ แต่เสียงของโยโกะก็รั้งเขาไว้เสียก่อน
"ตอนนี้เที่ยงแล้วนะคะฮิบาริซัง โต๊ะก็จัดเสร็จพอดีด้วย อยู่ทานข้าวกลางวันด้วยกันก่อนดีกว่า"
"เข้าท่านะลูกชาย ทานข้าวที่นี่ไปก่อนแล้วกัน ดีจัง ไม่ได้ทานข้าวกับทั้งสองคนนานแล้วน้า มาเร้ว ๆ มาทานข้าวกันเถอะ" คุณนายคิดได้แบบนี้ก็เริงร่าทันที ผิดกับที่เคร่งเครียดเมื่อกี้ลิบลับ
ฮารุกับฮิบาริมองหน้ากันก่อนจะเบือนหน้าไปคนละทางด้วยความคิดเดียวกัน แล้วเดินตามคุณนายเข้าห้องรับประทานอาหารไป
หลังจากมื้ออาหารสุดอบอุ่นที่แอบหนาวเหน็บผ่านพ้นไป สองแม่ลูกฮิบาริก็เดินออกมาขึ้นรถที่คุณนายนั่งมา โดยจอดรถแลมเบอร์กินีของฮิบาริทิ้งไว้ที่คฤหาสน์นี้ ระหว่างนั่งรถกลับ คุณนายก็เปรยขึ้นมาว่า "ลูกรู้สึกใช่ไหม"
"...อืม" ชายหนุ่มส่งเสียงขานรับเบา ๆ โดยที่ไม่ได้หันมามองผู้ถาม
"ลูกรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร" เธอยังคงถามต่อ
"..." คำตอบคือความเงียบ แสดงว่าไม่รู้
"เขาคือน้องชายของคุณพ่อของหนูฮารุ หรือพูดอีกแบบก็คือเป็นคุณอาของเธอ ปัจจุบันเป็นรองประธานบริษัทของเครือมิอุระ อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์หลังเดียวกันกับเธอ เป็นผู้ใหญ่ที่หนูฮารุให้ความสนิทสนมมากรองจากโยโกะ" คำตอบที่ได้รับทำให้ฮิบาริหันหน้ามามองเธอจนได้
"...น่าสงสัย"
"ใช่ มากเชียวล่ะ ทั้งเรื่องที่เขามาแอบยืนฟังพวกเราคุยกันเมื่อกี้อยู่ตรงหน้าต่าง กับเรื่องที่แม่เพิ่งสืบมาได้...ลูกสั่งให้องค์กรตามสืบเรื่องพวกนักฆ่ามาเฟียที่ถูกจ้างมากำจัดหนูฮารุแล้วใช่ไหม"
ฮิบาริพยักหน้ารับ ก่อนที่ดวงตาคู่คมสีนิลจะเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างนึกอะไรได้ แต่ก็ยังไม่พูดอะไรออกมา
"สิ่งที่แม่เพิ่งรู้ก็คือเขาเป็นคนหนึ่งในตระกูลมิอุระที่ได้เข็มกลัดจากตระกูลเรา แบบเดียวกับที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ" คุณนายพูดเสียงค่อย ราวกับระแวงว่าจะมีใครมาได้ยินสิ่งที่เธอพูด
"..." ชายหนุ่มรับฟังเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร
"ดูเหมือนว่าโยโกะก็คลางแคลงเรื่องนี้อยู่เหมือนกันนะแม่ว่า"
คิ้วเรียวของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถามเสียงเรียบ "ทำไม"
"แม่รู้จากตอนที่คุยกับเธอก่อนที่พวกลูกจะมาน่ะสิ เรื่องเข็มกลัดอะไรนั่นแม่ก็เพิ่งรู้มาจากเธอนี่แหละ พอสบตาเธอเข้านะ แม่ก็รู้ปั๊บเลยว่าเธอไม่ไว้ใจคุณอาของหนูฮารุแต่ไม่กล้าทำอะไร และที่แม่ให้ลูกเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์หลังนั้นก็เพื่อเรื่องนี้แหละ ช่วยดูแลหนูฮารุจากศัตรูภายในบ้านที่น่าสงสัย กับสืบเรื่องการตายของเขาไงล่ะ"
ฮิบาริพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ราวกับจะประท้วงว่า 'ทำไมต้องเป็นเขาด้วย' แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนหรือพูดอะไรออกมา เพราะรู้ว่าเขาคนนั้นสำคัญกับแม่ของเขามาก เธอจึงยิ่งอยากแก้แค้นมาก
"สืบได้ว่าใครเป็นคนจ้างแล้วก็บอกแม่ด้วยนะ" คุณนายพูดทิ้งท้ายจบก็เปิดประตูก้าวลงจากรถเมื่อมันหยุดลงภายในเขตรั้วของคฤหาสน์ทรงญี่ปุ่นฮิบาริ ชายหนุ่มเองพอลงจากรถก็เดินเข้าห้องตัวเองไปเก็บข้าวของเช่นกัน (แบบเหนื่อยหน่ายและไม่ค่อยเต็มใจ)
7.26 p.m.
"นี่ห้องของฮิบาริซังนะคะ ถ้ามีอะไรก็กดกริ่งเรียกคนใช้ชายหรือเมดตรงนั้นได้ เวลาทานอาหารจะมีคนมาเคาะประตูเรียกนะคะ" โยโกะพูดอธิบายกับฮิบาริที่ยืนมองคนรับใช้ชายแบกข้าวของของเขามาวางไว้ข้างเตียงไม่วางตา
เขามองไปรอบ ๆ ห้องขนาดใหญ่ที่ตกแต่งเรียบ ๆ แต่คงความงดงามหรูหราไว้แบบสไตล์ตะวันตก ถึงเขาจะชอบแบบสไตล์ญี่ปุ่นเหมือนบ้านเขามากกว่าเยอะก็เถอะ แต่เขาไม่ใช่คนที่จะมาเรื่องมากในเรื่องแบบนี้เหมือนยัยสัตว์กินพืชเรื่องมากนั่นหรอก
"ห้องของฮารุอยู่ตรงข้ามห้องของคุณ ห้องของฉันอยู่ข้าง ๆ ห้องเธอถัดไปทางด้านซ้ายค่ะ...ขอให้หลับสบายนะคะ ฉันขอตัวไปทำงานก่อนล่ะค่ะ" ว่าจบโยโกะก็เดินออกไปจากห้องทันที แต่ดูเหมือนเธอลืมอะไรบางอย่างจึงหันมาบอกก่อนปิดประตูไป "กุญแจห้องของคุณอยู่บนโต๊ะนะคะ มีกุญแจห้องฮารุอยู่ในนั้นด้วย กุญแจสำรองหรือกุญแจบ้านทั้งหมดอยู่ที่หัวหน้าแม่บ้านค่ะ แล้วก็...ห้องของคุณอาอยู่ถัดไปจากห้องฉันค่ะ"
ปัง
หลังจากเธอออกไป ฮิบาริก็เริ่มจัดของให้เข้าที่ สำรวจห้องนั้นห้องนี้อีกนิดหน่อย แล้วก็พบว่าในห้องน้ำของเขานั้นมีรูปของกะเทยลาล่าติดอยู่รูปยักษ์ข้าง ๆ อ่างอาบน้ำ ในภาพเธอกำลังส่งจูบสุดแหยงมาให้ให้คนมอง...ซึ่งในตอนนี้ก็คือเขา
แควก ๆ ๆ
ฮิบาริฉีกกระชากมันออกอย่างหงุดหงิดทันที เขาไม่สงสัยเลยว่าใครเป็นคนทำ เรื่องแสบ ๆ แบบนี้มีอยู่คนเดียว...เขาคิดขณะจ้องมองกระดาษเอสี่ที่แปะอยู่ใต้ภาพสยองนั่น
'ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์มิอุระอย่างเป็นทางการนะคุณบอดี้การ์ด นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากฉัน ด้วยความหวังดีที่อยากให้นายแช่ตัวในอ่างไป มีสายตาของลาล่าสุดที่รักนายมองนายไป คงจะรู้สึกกิ๊บกิ้วดีพิลึกนะ ฮิ ๆ...จากใครสักคนที่นายเพิ่งแพ้มาราบคาบในคราวที่แล้ว'
แน่นอนว่าฮิบาริกระชากกระดาษแผ่นนั้นมาขยำทิ้งลงถังขยะทันที จากที่ตอนแรกคิดจะสืบเรื่องที่แม่เขาไหว้วานมาก่อน เห็นทีเรื่องนั้นคงต้องเลื่อนไป เพราะตอนนี้เขาไม่สบอารมณ์สุด ๆ !
(End T r a i t o r)
TBC.
กลับมาอัพแล้วจ้ะ. ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่เลยเน๊อะ, แต่ถ้าเอาเนื้อหามายัดจริงจริงมันจะเยอะเกินไป, เลยตัดไปตอนต่อไปเลย. รักชีวิตปิดเทอมแบบนี้จัง. แต่มันก็แย่ตรงที่ไม่มีใครอยู่บ้าน, เสี่ยงตอนการปวดท้องโรคกระเพาะเหมือนปิดเทอมที่ผ่านมาน่ะสิ. เฮ่อ ทำไงดี จอยทำกับข้าวไม่เป็น โฮ. คิมจอยซู-เอ็นจอย ซีอา
Thanks Theme : Qreaz. 10
ความคิดเห็น