คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : Oleander's Felony ❤ } 17 : Round 7!
17
Round 7!
8.48 p.m.
แสงไฟที่ส่องสว่างแยงตาทำให้ดวงตาคู่โตที่ปิดสนิทลืมขึ้น สายตากวาดไปทั่วห้องสีขาวที่มีกลิ่นยาอบอวลไปหมด เมื่อก้มดูชุดที่ตนใส่อยู่ก็พบว่าเธอนอนอยู่ในโรงพยาบาลที่ไหนสักแห่ง
ฮารุกระพริบตาปริบ ๆ ในหัวลำดับเหตุการณ์ที่พอจำได้อย่างรวดเร็ว พอนึกได้ทั้งหมด มือขวาที่มีผ้าพันแผลสีขาวพันเอาไว้ก็ถูกยกขึ้นมาเพ่งดูทันที
"เฮ้อ..." เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่สักพักใบหน้ากังวลก็เข้ามาแทนที่ความผ่อนคลายเมื่อครู่
...คอยดูนะ ถ้ามันเป็นแผลเป็นล่ะก็ แม่จะจัดให้หนักเลย เจ้าบ้าบอดี้การ์ดเอาอาวุธมาทำร้ายเจ้านายตัวเอง !
หญิงสาวเข่นเคี้ยวเขี้ยวฟันในใจ ทั้ง ๆ ที่สาเหตุที่แท้จริงนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนที่เธอโยนความผิดไปให้เลยแม้แต่นิด
ก๊อก ๆ แอ๊ด
"อ้าว คุณหนูตื่นแล้วหรือครับ" ลุงคนขับที่เดินเข้ามาทักอย่างตกใจ
"อื้ม เมื่อกี้เอง เออนี่ลุง...ฮารุอยู่ที่ไหนเนี่ย" ฮารุว่าพลางก้มลงไปดูชุดคนไข้
"โรงพยาบาลบนเกาะน่ะครับ มันใกล้กับจุดเกิดเหตุที่สุดแล้วก็เลยเรียกรถพยาบาลมา" ชายวัยทองกล่าวอย่างหน้าชื่นตาบานพร้อมเปิดถุงขนมที่เพิ่งออกไปซื้อมาเมื่อกี้
"ถึงกับเรียกรถพยาบาลเลยหรือลุง ฮารุแค่มือเหวอะกับข้อเท้าพลิกเองนะ เว่อร์จัง" เธอย่นหัวคิ้วอย่างงง ๆ
"โหย ไม่เว่อร์หรอกคร้าบ คุณหนูรู้ไหมว่าตอนนั้นตัวคุณหนูซีดขนาดไหนน่ะ ยิ่งตัวบางร่างน้อยไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย กินก็น้อย นอนก็ไม่ค่อยพอ แถมตอนนั้นคุณหนูตัวเย้นนนนเย็น อย่างกับคนตายไปแล้วเปี๊ยบเลย เห็นอย่างนั้นนะลุงหัวใจแทบวาย ถึงเลือดไม่หมดตัว แต่ถ้าเลือดพร่องไปเยอะแบบนั้นก็เสี่ยงตายได้นะคร้าบ" ลุงคนขับสาธยายด้วยใบหน้าเหยเก ทำให้ฮารุอดแซวไม่ได้
"แหมลุง บ่นอย่างกับ...อย่างกับคนแก่แน่ะ ฮ่า ๆ ไม่ตองห่วงหรอก ตอนนี้ฮารุยังไม่ตาย" หญิงสาวพูดไปแล้วสะดุดกับความคิดตนเองจนต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ส่วนชายไม่หนุ่มแล้วก็สะบัดหน้างอน ๆ ไปอีกด้าน เรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ จากเธอได้อย่างดี
...ลุงบ่นอย่างกับเป็นพ่อฮารุเลยนะ...
นั่นคือสิ่งที่เธออยากพูดออกไปในตอนแรกแต่ก็ต้องยั้งปากไว้ก่อน เธอกลัวว่าพ่อแท้ ๆ ที่เธอรักและเคารพที่อยู่บนสวรรค์จะน้อยใจ
"เออใช่ แล้วอีตาฮิบาริไปไหนล่ะลุง" หลังจากเงียบไปสักพักเธอก็ถามขึ้นมาอย่างเพิ่งนึกได้
"อ๋อ ฮิบาริซามะไม่ชอบที่นี่น่ะครับ เลยนั่งรถกลับไปนอนที่โรงแรมก่อน"
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฮารุก็เบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ทันที
"เฮอะ ก็คงจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ บอดี้การ์ดมีหน้าที่ปกป้องเจ้านายอย่างเดียวสินะ ทำหน้าที่เสร็จแล้วเจ้านายจะเป็นจะตายก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ กลับบ้านนอนได้สบายใจเฉิบเลยล่ะซี่" คำพูดประชดประชันที่เต็มไปด้วยความกระแทกกระทั้นของฮารุทำให้ลุงคนขับรถถึงกับงง
"ทำไมคุณหนูฮารุพูดแบบนั้นล่ะครับ คนที่พาคุณหนูออกมาจากตึกคือฮิบาริซามะนะครับ" ข้อความซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ออกมาจากปากของชายวัยทองทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกตะลึงทันที
"ว่าไงนะลุง !?" อยู่ดี ๆ เสียงเล็กก็ดังขึ้นเสียอย่างนั้น คนที่นั่งกินขนมเพลิน ๆ ถึงกับสะดุ้ง
"อ้าว นี่คุณหนูไม่รู้หรือครับ ตอนลุงเห็นภาพนั้นนะประทับใจแทบตาย ฮิบาริซามะอุ้มคุณหนูที่สลบไม่รู้เรื่องในอ้อมแขนเดินออกมาจากตึกนั่น อย่างกับเจ้าชายรูปงามอุ้มเจ้าหญิงแสนสวยที่กำลังหลับใหลในเทพนิยายเลยยย" ลุงคนขับรถพูดด้วยใบหน้าเคลิ้ม ๆ จนฮารุอดสงสัยไม่ได้ว่าลุงเขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีครอบครัวแล้วหรือว่าเป็นหญิงสาววัยกระเตาะช่างฝันกันแน่
"มะ...ไม่จริงอ่ะ ! ม่ายยยจริ๊งงงงง !" หญิงสาวเมื่อได้ฟังอย่างนั้นก็ขยี้หัวตัวเองอย่างบ้าคลั่งจนชายวัยทองทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งสยองกับอาการไม่ปกตินี้อยู่กับที่
"คะ...คุณหนูครับ" เขาเรียกขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
"ลุง" จู่ ๆ ใบหน้างามที่กำลังก้มอยู่ก็หันขวับมาจ้องเขาเขม็ง ทำเอาลุงคนขับหัวใจหล่นไปอยู่ที่ท้อง (ยังตกใจไม่ถึงขีดสุด)
"คะ...ครับ"
"แก้คำใหม่เสียนะ อีตานั่นน่ะไม่ใช่เจ้าชาย หมอนั่นน่ะ...มันเป็นซาตาน ! วะฮ่า ๆ ๆ" เธอว่าจบก็หันไปหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่คนเดียวจนชายไม่หนุ่มนึกเสียว ๆ ว่าควรจะให้แพทย์เอ็กซ์-เรย์สมองของคุณหนูของเขาว่าได้รับความกระทบกระเทือนหรือไม่ด้วยหรือเปล่า
"เออ ลืมถามไป แล้วฮารุจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่อ่ะลุง" ฮารุที่อยู่ดี ๆ ก็หยุดหัวเราะกะทันหันแล้วหันมาถามแบบปกติทำให้เขาสะดุ้ง ตกลงว่าคุณหนูเขาอารมณ์แปรปรวนหรือเป็นอะไรกันแน่ ?
"นอนให้น้ำเกลือวันนี้เสร็จ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้เลยครับ ตรงกับกำหนดการเราพอดี"
"แล้วแบล็กเบอรี่ฮารุล่ะ"
"อะไรนะครับ เราเอาเบอรี่มาทานด้วยหรือ ลุงไม่ยักรู้แฮะ" ด้วยอายุที่เลยมาถึงปูนนี้แล้ว เป็นเรื่องธรรมชาติที่ลุงคนนี้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไร
"เอ่อ ไม่ใช่ ฮารุหมายถึงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าถือฮารุน่ะ" ร่างบางยิ้มแหย ๆ ขณะอธิบายใหม่
"อ๋อ อยู่ตรงนั้นไงครับ" เขาว่าพลางชี้นิ้วไปที่กระเป๋าดิออร์สีดำบนโซฟา
"อืม ลุงโทรบอกเรื่องนี้กับพี่โยโกะหรือยังล่ะ"
"ยังเลยครับ จะให้โทรหรือเปล่าครับ"
"ไม่ล่ะ ไม่ต้องหรอก ฮารุกลับไปบอกพี่เองดีกว่า"
ฮารุทำท่าคิดเล็กน้อยแล้วตอบออกมา ก่อนจะเงียบไปสักพัก
"ลุง ๆ " เสียงหวานดังขึ้นเรียกให้ร่างท้วม ๆ ที่กำลังนำจานไปล้างหันมามอง
"มีอะไรหรือครับ"
"ถ้าฮารุจะกลับโรงแรมตอนนี้เขาจะว่าไหม" ได้ฟังคำถามนี้เข้าลุงคนขับก็ขมวดคิ้วอย่างหนักใจ ก่อนจะตอบออกมา
"ไม่ได้หรอกครับ เขาบอกว่าคุณหนูเสียเลือดไปเยอะ แถมข้อเท้ายังพลิกอีกต่างหาก นี่ที่ยอมให้กลับได้พรุ่งนี้ก็เพราะคุณหนูจะกลับโตเกียวพรุ่งนี้นั่นล่ะครับ"
ฮารุพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะออกคำสั่ง "งั้นลุงช่วยหยิบแบล็กเบอ...เอ่อ กระเป๋าถือมาให้ฮารุหน่อยสิ"
"ครับ"
เมื่อกระเป๋าดิออร์มาอยู่ในมือ ฮารุก็หยิบมือถือสุดรักขึ้นมากดโทร ระหว่างรอสายริมฝีปากสีชมพูก็เผยรอยยิ้มกริ่มออกมาอย่างคนมีแผนการ
[ฮัลโหล หนูฮารุโทรมามีอะไรจ๊ะ]
น้ำเสียงเริงร่าจากปลายสายทำให้หญิงสาวยิ้มกว้างขึ้น ก่อนจะดัดเสียงเป็นออดอ้อนน่าเห็นใจ
"คุณนายคะ ลูกชายคุณนายน่ะค่ะ ฮิบาริเขา..." เธอพูดไปก็ทำเสียงกระซิก ๆ สะอื้นแถมไปด้วย
[อะไร ! เจ้าลูกคนนั้นมันทำมิดีมิร้ายหนูแล้วหรือจ๊ะ !?]
ฮารุขมวดคิ้วอย่างรู้สึกแปลก ๆ กับน้ำเสียงที่ออกไปทางดีใจมากกว่าแทนที่จะโกรธ
"มะ...ไม่ใช่ค่ะ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ เราถูกลอบโจมตี ฮิบาริมาช่วย แต่ฉันดันข้อเท้าพลิกเลยมานอนอยู่ที่โรงพยาบาล แต่แทนที่ฮิบาริจะมาดูแลฉันเพราะมันเป็นความผิดของเขา เขาดันกลับไปนอนที่โรงแรมอย่างหน้าตาเฉย ฮึก..."
ป.ล. นิยายเรื่องนี้ไม่แนะนำให้เด็ก ๆ ทำตามแบบฮารุนะจ๊ะ
[ว่าไงนะ ! เจ้าลูกคนนี้...!]
น้ำเสียงฉุนเฉียวของหญิงสาวคราวแม่ที่ดังออกมาตามสายทำให้ฮารุแสยะยิ้มสมใจ ก่อนที่เธอจะตัดเข้าประเด็นที่ตั้งใจโทรมาหาตั้งแต่แรก
"ใช่ค่ะ ๆ แล้วพรุ่งนี้เราก็จะกลับกันแล้วด้วย แต่คือเขายังไม่ให้ฉันออกจากโรงพยาบาลจนถึงวันพรุ่งนี้น่ะค่ะ ฉันเกรงว่าจะไปเก็บของที่โรงแรมไม่ทันเวลาเช็คเอาต์ ฉันก็เลยอยากให้ฮิบาริเขาช่วยเก็บของของฉันใส่กระเป๋าให้หน่อย เอ่อ ปัญหามันก็คือ..." เธอหยุดพูดอย่างสื่อความหมายที่ทั้งสองรู้ดีว่าหมายถึงอะไร
[ไม่ต้องห่วงเรื่องหยุมหยิมอย่างนั้นหรอกจ้ะ ฉันรับรอง พรุ่งนี้กระเป๋าเดินทางทุกใบของหนูจะมาพร้อม ของข้างในไม่ขาดหายสักชิ้นเดียว]
...เรื่องหยุมหยิมงั้นหรือ สำหรับฉันนั่นมันเรื่องคอขาดบาดตายเลยนะ
ฮารุคิดพลางนึกถึงใบหน้าของซาตานที่กำลังแสยะยิ้มชั่วร้ายมองไปที่นายร่างทรงพญางู (ผู้ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปเวียนว่ายตายเกิดอยู่ภพไหนแล้ว) เมื่อไม่นานมานี้
"แต่ฮิบาริจะยอมหรือคะ หรือถ้าเขาจะทำให้จริง ๆ ฉันมั่นใจค่ะว่ามันต้องมีอะไรแปลก ๆ มาด้วยแน่ ๆ" เธอเอ่ยอย่างกังวล
[อ้อ ไม่ต้องกังวลไปหรอกจ้ะ เพราะฉันมีวิธีจัดการของฉัน และฉันก็มั่นใจว่ามันจะได้ผลด้วย โฮะ ๆ ๆ ๆ]
...อึ๋ย เสียงหัวเราะสยองพองเกล้านั่นมาอีกแล้ว ทำเอาเสียวสันหลังแทนนายฮิบาริเลยนะเนี่ย ไม่อยากรู้เลยว่ามันเป็นวิธียังไงน่ะ
ฮารุคิดพลางลูบแขนที่รูขุมขนลุกชันขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเธอก็พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นและพูดต่อ
"งั้น...งั้นเหรอคะ ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่ได้คุณนาย ฉันก็ไม่รู้จะจัดการกับเขายังไงดี" (พูดได้หน้าตาเฉยทั้งที่ตัวเองก็ทำ 'เขา' ที่ว่านั้นควันออกหูไปหลายรอบแล้ว)
[แหมมม ก็ลองเป็นภรรยาเขาดูสักรอบแล้วจะเข้าใจจ้ะ เขาน่ะจะไม่ทำร้ายครอบครัวตัวเองหรอก เหมือนพ่อเขาสมัยหนุ่ม ๆ เป๊ะ สนใจไหมจ๊ะหนูฮารุ ถ้าสนใจฉันก็ยินดีต้อนรับเต็มที่นะจ๊ะ]
น้ำเสียงเชิญชวนอย่างเต็มที่ของคุณนายทำให้ฮารุขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะตอบปฏิเสธอย่างนุ่มนวลที่สุดและรีบตัดสายไปเพื่อตัดโอกาสให้คุณนายได้พูดเรื่องนี้ต่อ
"ขอบคุณมากค่ะที่หยิบยื่นโอกาสอันทรงค่ามาให้ แต่ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนี้น่ะค่ะ แล้วก็...ตอนนี้ก็ได้เวลานอนฉันแล้วล่ะค่ะ งั้นราตรีสวัสดิ์เลยนะคะคุณนาย"
ปิ๊บ !
มือบางหย่อนโทรศัพท์มือถือสุดหวงลงในกระเป๋าถือสีดำที่วางอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบา "เฮ้อ บางทีฉันอาจจะต้องหาหน้ากากกันสารพิษ และถุงมือชนิดหนาพิเศษเอาไว้ก่อน เผื่อเวลาเปิดกระเป๋าออกมาจะได้มีชีวิตรอด"
วันรุ่งขึ้นก็เป็นไปตามที่ฮารุคาด กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ทั้งสามใบมากองอยู่ตรงหน้าเธอที่นั่งอยู่บนเครื่องบินเจ็ทแบบเนี้ยบเรียบร้อยไร้ที่ติ แต่ลางสังหรณ์ของเธอบอกเธอว่า...เธอไม่ควรเปิดมัน
"เอ่อ ลุงคะ ช่วยยกกระเป๋าใบนี้ไปวางไว้ตรงนั้นแล้วเปิดมันออกมาให้ฮารุดูหน่อยได้ไหมคะ" ฮารุพูดพลางชี้ไปที่ที่ว่างที่ห่างจากเธอเป็นโยชน์ คนถูกไหว้วานทำหน้าฉงนสงสัย ก่อนจะทำตามคำสั่งโดยไม่ถามอะไร
กระเป๋าเดินทางสีส้มถูกยกขึ้นมา ท่ามกลางสายตาสงสัยปนไม่เข้าใจของบรรดาเมดและสาวใช้ที่ถูกฮารุสั่งให้มาพร้อมกับเครื่องบินเจ็ทลำนี้ด้วย เพื่อให้คอยพยุงและดูแลเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เธอ
ชายวัยกลางคนแบกกระเป๋าอันหนักอึ้งนั้นอย่างทุลักทุเล เพราะเมื่อวานอยู่เฝ้าฮารุทั้งคืน วันนี้เลยรู้สึกไม่ค่อยมีแรง
"โอย..."
ตุ้บ !
ทุกคนบนเจ็ทยกเว้นฮิบาริเบิกตาขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ลุงคนขับที่เมื่อกี้ล้มลงกับพื้นทันทีที่สิ้นเสียงครางเบา ๆ ของเขา ส่งผลให้กระเป๋าใบใหญ่ที่เขาถืออยู่หล่นลงกระทบกับพื้นแล้วเปิดอ้าออกมา แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนยกเว้นชายหนุ่มที่แอบแสยะยิ้มอย่างสมใจอยู่ไกล ๆ ตกใจก็คือ...
ในกระเป๋าเดินทางสีส้มของฮารุนั้นมีชุดชั้นในหลากหลายสีสัน ทั้งดำ ขาว เหลือง ชมพู ส้ม แดง ฟ้า ม่วง กรมท่า แทบจะครบทุกสีอยู่แล้ว แถมยังมีแต่แบบเซ็กซี่ทั้งนั้น เว้าร่องอก ซีทรู เกาะอก สายผูก บางคนยังแอบเห็นมีจีสตริงกับถุงน่องตาข่ายแลบออกมาด้วย ส่วนข้างใต้ชุดชั้นในพวกนั้นคือชุดเที่ยวธรรมดาที่ฮารุแน่ใจว่าไอ้คนจัดมันต้องจงใจเอาชุดพวกนั้นไว้ข้างล่างและเอา 'ของพวกนี้' มาไว้ข้างบนแทนแน่ ๆ
เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาอะไรมากกับฮารุ เพราะคนที่อยู่ในเจ็ทลำนี้ก็มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น ลุงคนขับรถก็เลยวัยไปแล้วแถมยังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอีก คนที่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับเธอคืออีตาบอดี้การ์ดที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่มุมปากก็กระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มสะใจบ้างเป็นครั้งคราวคนเดียว แต่เพราะการที่เขาเป็นคนจัดกระเป๋าให้เธอและแกล้งเธอด้วยตัวเอง ฮารุคิดว่าหมอนั่นคงเห็นหมดเปลือกไม่เหลือแล้วล่ะ
แต่ปัญหา 'ของแท้' ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านี่สิ 'ซวย' ของจริง...
พื้นที่บรรจุสัมภาระอีกด้านของกระเป๋าเดินทางที่ฮารุจำได้แม่นว่าไม่ได้ใส่อะไรเข้าไปเลยนั้น ในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยของที่เธอเห็นแล้วแทบกรี๊ด
ไวเบรเตอร์ วิปครีม แส้ กญแจมือ เชือก เจลหล่อลื่น ยาปลุกเซ็กส์ และถุงยางหลากสีที่มาเป็นแผง !
"อะ..." หญิงสาวเจ้าของกระเป๋าอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก
"ของนั่น...ของคุณหนูฮารุ...ใช่ไหมคะ" เสียงเมดคนหนึ่งถามขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
ฮารุยังไม่หายอึ้ง แต่สติสัมปชัญญะทั้งหมดก็กลับมาทันทีพร้อมกับเพลิงโทสะที่ลุกโหมในจิตใจเมื่อหูของเธอได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอที่ดังมาจากบุรุษร่างสูงผู้ยืนสังเกตุการณ์อยู่ไกล ๆ
...ไอ้...ไอ้...อีตาฮิบาริ !
ร่างบางนั่งตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธและความอับอายที่ไม่เคยได้รับมาก่อนอยู่กับที่ เธอกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ
...ใจเย็น ๆ ใจเย็นเข้าไว้ฮารุ ถ้าเราตั้งสติแล้วคิดให้ดี มันต้องมีทางออก...ใช่ ! อย่างที่พ่อเคยสอนไว้ไง ใจเย็น ๆ นะ
หญิงสาวพร่ำบอกตนเองในใจ ก่อนที่สมองที่เพิ่งได้พักมาตลอดสี่วันมานี้ก็ถูกใช้งานอย่างหนักอีกครั้ง
...ทำยังไง อะไรก็ได้ที่จะดึงสถานการณ์ที่อีกฝ่ายคุมเกมอยู่ให้กลับมาเป็นของฝ่ายเรา แล้วค่อยเกทับ
...ก่อนอื่น ถ้ายังไม่รู้วิธีที่แน่ชัดว่าจะจัดการอย่างไร ให้ทำหน้านิ่งไว้ก่อน อย่าพูดอะไรออกไปทั้งนั้น แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ จะยิ่งทำให้โอกาสดึงเกมกลับมาลดน้อยลงไปอีก
คิดไปพลาง เธอก็ทำหน้านิ่ง ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนบรรดาเมดเริ่มสงสัยแล้วว่าเจ้านายตนไม่อายเลยหรือที่ความลับถูกเปิดเผย
...ใช้สิ่งที่มีอยู่รอบตัวให้เป็นประโยชน์ที่สุด
ดวงตาสีเฮเซลคู่งามกวาดตามองไปรอบ ๆ ลำเจ็ทที่กำลังทะยานขึ้นฟ้านี้อย่างใจเย็น จนคนที่แอบดูอยู่ห่าง ๆ ยังแปลกใจ
...เจอแล้ว ! นี่ไงล่ะคีย์สำคัญของการพลิกเกมครั้งนี้ !
...เอาละ ฉันจะเริ่มแผนล่ะนะ มาดูกันว่ารอบนี้ใครจะชนะ อีตาฮิบาริ !
ดวงหน้านิ่งที่กำลังแสดงออกมาภายนอกนั้นไม่มีใครรู้หรอกว่าภายในเธอกำลังลิงโลดกับแผนที่ที่ท่าทางจะสำเร็จ แต่ถึงกระนั้นฮารุก็เก็บอาการไว้อย่างดี ไม่มีรอยยิ้มหวานเป็นการเตือนภัยอย่างที่ฮิบาริเคยเห็นและระวังตัว มีเพียงใบหน้าเรียบเฉยและอากัปกิริยาไม่ทุกข์ร้อนแม้ในสถานการณ์ที่ตกเป็นรองแบบนี้เท่านั้นที่เธอแสดงออกมา
"ลาล่าจ๊ะ มานี่หน่อยสิ" ฮารุกวักมือเรียกเมดสาวประเภทสองที่มีรูปร่าง 'บึก' อย่างกับนักมวยปล้ำ แต่กลับมีผมยาวหยักศกสีบลอนด์ ริมฝีปากใหญ่ถูก (ละเลง) ทาด้วยลิปสติกจนเป็นสีแดง ขนตางอนเป็นแพยาว แก้มสองข้างมีสีชมพูปลั่ง เธอคนนี้เป็นที่น่าขนลุกขนพองมากสำหรับคนรับใช้ชายในคฤหาสน์ แต่กลับเป็นที่ชอบใจของเมด เพราะคุยสนุก ร่าเริง มองหน้าก็ตลกแล้ว (?) แต่พวกเธอก็ขอยอมรับว่าไม่ค่อยถูกชะตากับขนดกหนาที่แขนและขากับขนรักแร้ที่แพลมออกมานั่นนิดหน่อย
"ค้า คุณหนูมีอะไรให้ลาล่ารับใช้ค้า" ลาล่าที่เป็นคนแรก ๆ ที่หายตะลึงเดินเข้ามาใกล้ ฮารุทำมือเป็นสัญญาณให้ก้มลงมาใกล้ ๆ เธอ ก่อนที่ทั้งสองจะกระซิบกระซาบบางอย่างต่อกัน
"ฮู้ย ด๋ายยยค่า ลาล่าจะสู้สุดใจเลยนะค้า" พูดจบหญิงสาวร่างโตก็เดินหลบฉากออกไป ฮารุยิ้มออกมาน้อย ๆ อย่างพึงพอใจ ก่อนจะสูดหายใจและเริ่มแผนการที่คิดไว้ในหัว
"นี่ฮิบาริ หยุดทำเป็นไก๋เสียทีได้ไหม ฉันรอมานานแล้วนะ !" สายตาทุกคู่หันมาหาหญิงสาวผู้พูดเป็นตาเดียว ก่อนจะมองหน้ากันอย่างสงสัยว่าเธอพูดเรื่องอะไรอยู่
ฮิบาริเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ อย่างไม่เข้าใจ ดวงตาสีนิลไร้อารมณ์สบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลเฮเซลอีกคู่ที่จ้องมองมา ชั่วพริบตาที่ไม่มีใครรู้ เขาเห็นแววมั่นอกมั่นใจและแววหยอกเย้าในดวงตานั้น ความสะใจและย่ามใจที่มีอยู่ในตอนแรกเริ่มถดถอยลงไป ความระวังระแวงเข้ามาแทนที่สองสิ่งนั้น
ลางสังหรณ์ด้านไม่ดีของเขามันกระตุกอย่างไรชอบกล...
...ยัยนั่นต้องมีแผนอะไรแน่ ๆ
เขาคิดในใจขณะมองสบสายตาท้าทายที่ส่งมาอย่างตรงไปตรงมา ภายนอกยังคงนิ่งเงียบ แต่ภายในนั้นเขากำลังคิดหาคำตอบอยู่อย่างเร่งด่วนทีเดียว 'แผนอะไร?' 'จะทำอะไร?' นี่คือความคิดที่วิ่งวนอยู่ในหัวเขาไม่ยอมหยุดตอนนี้
"อุปกรณ์ทางเพศสัมพันธ์พวกนั้นน่ะของนายแท้ ๆ แต่นายอยากจะแกล้งฉัน นายก็เลยเอาพวกมันมาใส่ในกระเป๋าเดินทางของฉันตอนที่ฉันบอกให้นายจัดกระเป๋าให้ใช่ไหมล่ะ" เสียงร้องอย่างตกอกตกใจของบรรดาเมดดังขึ้นทันทีที่เธอพูดจบ ฮารุยิ้มกริ่ม ใกล้เข้าแผนเธอทุกทีแล้ว แต่ถึงเธอจะยิ้มอยู่ก็อดหมั่นไส้ไปกับท่าทางไม่อยากเชื่อของเมดบางคนกับท่าทางไม่เชื่อเลยร้อยเปอร์เซ็นต์ของเมดเกือบครึ่งนั้น
...ชิ เสน่ห์แรงนักนี่ แฟนคลับนายก็รักนายเหนียวแน่นเหลือเกิน รักเกินหน้าเกินตาคนเป็นเจ้านายเสียอีกนะ ไอ้คุณบอดี้การ์ด
"พูดบ้าอะไรของเธอ" ฮิบาริที่นั่งเงียบประเมินสถานการณ์อยู่นานพูดขึ้นบ้าง น่าแปลก เขาไม่คิดว่าแผนของเธอจะเป็นการโยนความผิดง่าย ๆ ไม่มีเค้าข้อมูลแบบนี้ มันน่าจะเป็นแผนอะไรที่ได้ทั้งแก้เผ็ดเขาและกู้ชื่อเสียงตัวเองคืนมาพร้อมกันทีเดียวเลยสิ
"ฉันพูดจริงนะ นายน่ะอุตส่าห์แบกมันไปที่โอกินาวาด้วย เพราะคู่นอนของนายก็อยู่ที่นั่นเหมือนกัน ถ้าทุกคนไม่เชื่อก็ดูนี่เลย" ฮารุพูดจบก็ควานหาของบางอย่างจากกระเป๋าถือ พอเจอก็หยิบมันขึ้นมาโชว์แก่ทุกคนที่กำลังจ้องมองมาอย่างสนใจ จนไม่ได้สังเกตุเลยว่าอุปกรณ์บางอย่างที่เคยอยู่ในกระเป๋าเดินทางสีส้มได้หายไปพร้อมกับกระเทยสาวเสียแล้ว
"นี่เป็นกระดาษที่คู่นอนของเขาฝากแม่บ้านส่งมาให้เขา แต่โชคร้ายที่ฉันเป็นคนไปเปิดประตูรับแม่บ้านคนนั้น ฉันเลยรู้ พอถามเขา เขาก็ทำหน้าตกใจ หน้าซีด จากนั้นก็โวยวายว่าโรคจิตที่ไหนไม่รู้คิดจะหลอกฉันไปขาย ก่อนจะรีบคว้ามันไปอ่าน อ่านเสร็จก็เก็บไปคนเดียวเลย ฉันเจอมันในถังขยะในวันต่อมาน่ะ" ทุกคนต่างจ้องมองเศษกระดาษเล็ก ๆ ที่อยู่ในมือฮารุ เศษกระดาษสีขาวที่ไม่ต่างอะไรกับที่ฝรั่งหน้าคมคนนั้นฝากมาให้ฮารุเลยแม้แต่น้อย
"นี่เธอ...!" ฮิบาริเบิกตากว้าง เขาเริ่มเข้าใจอะไรลาง ๆ แล้วว่าเธอกำลังจะทำอะไร แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว ฮารุยิ้มกว้างพร้อมเผยความลับปลอม ๆ ซึ่งเธอสร้างมันขึ้นมาของฮิบาริแก่เหล่าแฟนคลับสาวของเขา
"คู่นอน...ที่เป็นผู้ชาย !" สิ้นเสียงหญิงสาว เสียงอุทานก็ดังพร้อมกันไปทั่วเจ็ทที่กำลังบินกลางอากาศ เมดบางคนส่ายหัวไปมาอย่างรับไม่ได้ บางคนพูดพร่ำอย่างเดียวว่า 'เป็นไปไม่ได้' บางคนหันไปกอดคอร้องไห้กับเพื่อน อาการที่ว่ามาทั้งหมดนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า...พวกเมดเริ่มเชื่อคำพูดเธอแล้ว
แต่ยังหรอก...แผนการของเธอมันยังไม่จบเท่านี้
...นายทำฉันไว้แสบมากนะนายฮิบาริ คราวนี้แหละ ถึงตาฉันเอาคืนบ้างแล้ว !
"มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม...ลาล่า" เมื่อฮารุพูดจบ สายตาของทุกคนก็มองหาเมดสาวประเภทสองทันที แต่ก็ไม่พบ
ชายหนุ่มที่กำลังหงุดหงิดกับข้อกล่าวหาที่ทำให้คนบนเจ็ทมองเขาแปลก ๆ แต่นั่นก็ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรฮิบาริมาก ปกติก็วายอยู่กับม้าพยศอยู่แล้ว...เอ้ย ไม่ใช่ เหตุผลที่แท้จริงคือมันไม่กระทบกระเทือนกับการดำรงชีวิตของเขาต่างหาก
แต่...มันยังไม่จบแค่นั้นน่ะสิ
หมับ !
ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ เมดร่างยักษ์ที่เดินเข้ามายืนอยู่ใกล้เขาได้สักพักแล้วแต่เขาไม่ได้สนใจก็คว้าหมับเข้าที่แก้มก้นทั้งสองข้างของเขา ก่อนจะเริ่มบีบและตบอย่างเมามัน
ผัวะ !
ฮิบาริที่กำลังตื่นตระหนกกับการจู่โจมที่ไม่คาดหมาย (ว่าจะเป็นตรงนั้น) ทำได้แค่ถีบลาล่ากระเด็นออกไปเท่านั้น พอเขาตั้งสติได้ รังสีอาฆาตแค้นก็เริ่มแผ่กระจาย มือเรียวขาวเอื้อมจะหยิบทอนฟา ทว่ามือที่เต็มไปด้วยขนดกหนาของลาล่าก็จับมันไว้ แถมยังแอบลูบมือเนียนนุ่มที่ไม่น่าจะเป็นของผู้ชายได้เลยนั้นอีกต่างหาก
"นั่นไงล่ะ ลาล่า" ฮารุที่แอบมองดูมาตั้งแต่แรกชี้มาทางทั้งสอง เมื่อทุกคนมองตามทิศทางที่ชี้ก็ต้องอ้าปากอย่างตกใจ เมื่อภาพที่เห็นคือลาล่ากับฮิบาริที่กำลังจูบกัน ! (ที่แท้จริงแล้วลาล่าสามารถทำได้แค่ยื่นหน้าไปจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปากเขาชั่ววินาทีเท่านั้น แต่คนอื่นดันหันมาเห็นตอนนั้นพอดี)
เปรี้ยง !
เสียงลาล่าถูกทอนฟาฟาดกระเด็นออกมา แต่น่าแปลกที่เธอกลับเพียงถอยหลังมานิดหน่อยเท่านั้น...ใช่แล้ว ลาล่าเคยเป็นนักกีฬามวยสากลอยู่หลายปี ได้รางวัลจากการไปแข่งมากมาย แต่เพิ่งมารู้ใจตัวเองไม่นาน เลยเปลี่ยนตัวเองและมาสมัครทำงานที่คฤหาสน์นี้เสีย
ฝ่ายผู้พากษ์ก็คงบรรยายอย่างต่อเนื่องไม่มีติดขัด โดยไม่สนใจสักนิดว่า มีเมดบางคนเป็นลมล้มพับตามลุงคนขับ (ที่ตอนนี้ยังนอนอยู่ที่เดิมไม่มีใครสนใจ) ไปแล้ว
"ลาล่าเป็นคู่นอนแก้เหงาของฮิบาริ ทั้งสองรู้จักกันตอนที่ฮิบาริเข้ามาทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้ฉัน ฮิบาริยอมรับลาล่าเป็นคู่นอนเพราะลาล่าเป็นคนทนไม้ทนมือ อึดและถึก และถ้าพูดกันถึงเซ็กส์แบบอึดถึกแล้ว ทุกคนคงนึกไปถึงอย่างอื่นไม่ได้...นอกจากเอสเอ็ม*ใช่ไหม" เสียงพากษ์เรียบนิ่ง แต่ในใจล่ะอยากจะลงไปนอนขำกลิ้งกับพื้นเสียเดี๋ยวนี้
*เอสเอ็ม มาจาก S ของคำว่า sadism (ซาดิสต์ พวกชอบทรมานผู้อื่น มีความสุขเมื่อเห็นผู้อื่นทรมาน) และ M ของคำว่า masochism (มาโซคิสต์ พวกชอบถูกกระทำรุนแรง ถูกทรมาน)
"อ๊า ตะเองล่ะก๊อออ ทำเป็นเขิลลลไปด้าย ของมันเคย ๆ กันอยู่นะ นี่ไง ๆ แส้ที่ตะเองใช้ฟาดก้นลาล่าบ่อย ๆ ถ้าจำไม่ได้ลาล่าเปิดก้นให้ดูก็ได้เอ้า" ลาล่าวางแส้ที่เอาขึ้นมาโชว์ลง ก่อนจะหันหลังให้ฮิบาริ กระโปรงสีหวานถูกเปิดขึ้นจนเห็นข้างใน
ฮิบาริที่กำลังถูริมฝีปากอย่างรังเกียจชะงักกึก เขาเริ่มรู้สึกเหมือนเมาเครื่องบิน อยากเอาอาหารที่ทานไปเมื่อเช้าออกมาให้หมด
"นี่ก็เชือกที่ตะเองใช้มัดลาล่าตรึงไว้งาย ดูสิ ๆ ยังเป็นรอยอยู่เลยน้า" พูดจบร่างใหญ่ก็กลับหลังหัน ยืนประจันหน้ากับชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังรู้สึกแย่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนที่ลาล่าจะเปิดกระโปรงด้านหน้าขึ้นให้ฮิบาริเห็นกันจะจะแบบอล่างฉ่าง
ใคร ๆ ก็รู้ ลาล่าไม่ใช่ผู้หญิง และเธอก็ต้องมี 'ของที่ผู้หญิงไม่มี' ด้วยเช่นกัน
สิ่งนั้นที่ทำให้กางเกงลูกไม้ผ้าบางสีชมพูดูคับไปถนัดตากำลังอวดโฉมอยู่ต่อหน้าร่างสูงเพียงคนเดียว เพียงเท่านั้นมันก็ทำให้เขาอยากจะจับยัยคนคิดแผนการมาบีบคอเสียให้ได้ แต่ไม่ไหว เพราะตอนนี้เขาเริ่ม...ทนไม่...ไหวแล้ว
ฮารุที่กลายเป็นฝ่ายสังเกตุการณ์แทนนั่งหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งติดต่อกันนานหลายนาทีแล้ว จนลุงคนขับที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาเป็นห่วงว่าจะหายใจทันหรือเปล่า เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นแต่เหล่าเมดสิบกว่าคนมุงดูอะไรบางอย่างที่เขามองไม่เห็นเท่านั้น
"อุ๊บ..." ฮิบาริรีบพุ่งตัวเข้าห้องน้ำเมื่ออาการอยากอาเจียนมาจ่ออยู่ที่คอ พอดีกับที่เจ็ทลงจอดพอดี ฮารุรีบอพยพทุกคนลงจากเครื่องบินส่วนตัวของเธอที่จะกลายเป็นเศษเหล็กในอีกไม่นานนี้ มีเมดบางคนที่เป็นห่วงว่าเธอจะเดินเองไหวไหมแล้วจะอยู่ต่อ แต่ฮารุก็ปฏิเสธกลับอย่างนุ่มนวล
...จริง ๆ ฉันควรจะสงสารนายนะที่โดนจารกรรมก้นอีกแล้ว แถมคราวนี้เสียจูบให้กะเทยอีก แต่ไม่ล่ะ คราวนี้นายเล่นฉันแรง ๆ ก่อนนะ สมน้ำหน้า !
"ทำได้ดีมากลาล่า ฉันจะให้เงินเธอมากเท่าที่เธอเรียกร้อง และเธอก็บินไปอยู่ประเทศอื่นเสียนะ เอาเป็นที่ทะเลทรายหรือขั้วโลกเลยยิ่งดี" หญิงสาวหันมาพูดกับกะเทยร่างยักษ์ที่ตอนนี้อารมณ์ดีสุด ๆ
"อ้าว ทำไมล่ะค้า ลาล่าแค่อยากแต๊ะอั๋งปู้จายหล่อ ๆ เท่าน้าน ลาล่าไม่เอาเงินหรอกค่า แค่นี้ก็มีความสุขแล้ววว อิ ๆ" ฮารุส่ายหน้าหวือ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงละล่ำละลักว่า
"เชื่อฉันนะลาล่า ฉันจะให้เงินเธอบินไปต่างประเทศที่ไหนก็ได้ อย่ากลับมาที่ญี่ปุ่นจนกว่าฉันจะบอกว่ากลับมาได้เด็ดขาดนะ ฉันจะโอนเงินไปให้วันนี้เลย เธอรีบไปจองไฟลต์ที่ด่วนที่สุดนะ ตอนนี้เธอไปเร็ว ! เธอตายแน่ถ้าตานั่นออกมาแล้วเห็นเธอน่ะ รีบเร็ว !" สีหน้าท่าทางเป็นห่วงเป็นไยของฮารุทำให้ลาล่ายิ้มออกมากว้าง ๆ อย่างน้อยคุณหนูของเธอก็เป็นห่วงเธอ กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป เลยจัดเตรียมทุกอย่างให้อย่างดี...แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว
ลาล่าสวมกอดฮารุทีหนึ่งก่อนจะรีบวิ่งออกจากเจ็ทไปพร้อมฝากคำพูดที่ทำให้ฮารุยิ้มได้ในสถานการณ์แบบนี้
'ถ้ามีอะไรหรือใครมารังแกคุณหนูก็เรียกลาล่ากลับมาได้ทุกเมื่อนะค้า ลาล่าอยากกลับมารับใช้คุณหนูฮารุที่คฤหาสน์อีก'
เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้สีหน้าอ่อนโยนของฮารุจางหายไป ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าแข็งกระด้างที่มีรอยยิ้มสะใจน้อย ๆ อยู่มุมปาก
"ฉันจะไม่บอกคุณนายเรื่องที่นายแกล้งฉัน เพราะฉันได้แก้แค้นก็ถือว่าเจ๊ากันไปแล้ว และนายจะต้องไม่จองเวรเมดของฉันเป็นการตอบแทน"
ฮิบาริพยายามสงบสติอารมณ์ที่กำลังอยากฆ่าคนเต็มแก่ของตนอย่างยากเย็น ผู้หญิงตรงหน้าเขานี้กล้าดีอย่างไร ถึงได้มาทำอวดเก่งกับเขาแบบนี้ เขาอยากจะลงมือเหลือเกิน แต่ติดที่ว่าทำไม่ได้
"ฉันไม่เคยติดหนี้บุญคุณใคร" เขาเอ่ยเสียงเย็นชาแล้วเดินออกไปจากเจ็ท
...เฮอะ ตาบ้าเอ๊ย ไอ้ขี้เก๊ก
ฮารุเบ้ปากอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้
แต่ความเชื่อใจของเหล่าเมดที่กลับมาเชื่อและนับถือเธออีกครั้ง ชื่อเสียงของฮิบาริที่ถูกมองในทางติดลบ กับก้นและริมฝีปากที่โดนขโมยไปของเขา...ชัยชนะครั้งนี้คงทำให้ฮารุยิ้มแก้มแทบปริไปอีกนาน
Round 7...
Hibari vs Haru
4 : 3 !!
(End Round 7!)
TBC.
จบพาร์ทโอกินาวาแล้วค่า จอยอัพยาวรับสงกรานต์ :D ที่จริงกะจะอัพให้เมื่อวาน พอปั่นเสร็จมันเลยเที่ยงคืนมาวันที่สิบห้าแล้ว เลยไปนอนก่อน แล้วตื่นมาอัพให้ตอนเช้าค่ะ. เป็นยังไงบ้างคะ เล่นสงกรานต์สนุกกันมั๊ย จอยไม่ได้เล่นหรอก ขี้เกียจ (-,.-). เล่นกันก็ระวังไม่สบายกันนะคะ, ขนาดจอยนอนอยู่บ้านยังจามหลายรอบทุกเช้าเลย หงุดหงิดมาก. ตอนนี้สนุกมั๊ยคะ ? จอยว่าฮารุพลิกเกมได้แยบยลมาก ;3 แล้วเจอกันค่ะ. คิม จอยซู-เอ็นจอย ซีอาThanks Theme : Qreaz. 10
ความคิดเห็น