ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oleander's Felony ❤ กับดักรักร้ายของนายจอมโหด {1886 TYL}

    ลำดับตอนที่ #16 : Oleander's Felony ❤ } 15 : Round 6!

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 54


     

    15

    Round 6!

     

    วันรุ่งขึ้น @ 8.00

    ร่างบางและร่างสูงที่นอนเคียงข้าง (เบียด) กันอยู่บนฟากหนึ่งของเตียงกำลังหลับสบายด้วยลมหายใจสม่ำเสมอ ทว่าเสียงที่ดังมาจากโต๊ะข้างตัวซึ่งเป็นเสียงที่ฮารุคุ้นหูเป็นอย่างดีก็ดังขึ้น

    ~

    หญิงสาวกลิ้งตัวไปทางอีกฝั่งของเตียง มือเล็กควานสะเปะสะปะไปตามโต๊ะ จนในที่สุดก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับสายด้วยเสียงยาน ๆ

    “สวัสดีค่า~ ฮารุอิสทอล์คกิ้งงงง”

    [เป็นยังไงบ้างจ๊ะหนูฮารุ เที่ยวสนุกไหมเอ่ย ?]

    “เฮือก !” เสียงเริงร่าน่าสยองที่แสนคุ้นหูทำให้ฮารุผวาตัวลุกขึ้นนั่ง นัยน์ตาสองข้างเบิกโพลง รู้สึกหายง่วงเป็นปลิดทิ้งทันที

    “คุณนาย ! ทะ...โทรมาแต่เช้ามีอะไรคะ ?” เธอว่าพลางลุกเดินไปทางห้องน้ำ

    [แหมมม หรือว่าฉันโทรมาขัดจังหวะซีนโรแมนซ์ตอนเช้ากันจ๊ะ ? คิก ๆ]

    “โรแมนซ์ ? เหอ ๆ ไม่หรอกค่ะ ไม่มีวัน !

    ...ถ้ามันจะมีซีนล่ะก็คงเป็นซีนแอ็คชั่นหรือไม่ก็เฮอร์เรอร์ (นางเอกโดนพระเอกฆาตกรรม) มากกว่านะฉันว่า

    ขณะที่คุยโทรศัพท์ ฮารุก็แปรงฟันและถอดชุดนอนไปด้วย

    [งะ...งั้นเหรอจ๊ะ ไอ้เจ้าลูกคนนี้นี่ช่างไร้น้ำยาเสียจริง !]

    “อะไรนะคะ ได้ยินไม่ชัด” เนื่องจากเมื่อสักครู่นี้ฮารุก้มลงไปล้างปากเอาคราบยาสีฟันออกพอดี ก็เลยได้ยินคำพูดของคุณนายไม่ชัดนัก

    [เปล่าหรอกจ้ะ แค่อยากมาถามว่าฮิบาริทำหน้าที่เป็นคู่เที่ยวที่ดีให้หนูรึเปล่าจ๊ะ ?]

    “อีตานั่นน่ะเหรอคะ หูยยย อย่าไปพูดถึงเขาเลยค่ะ แค่มองหน้าก็รู้สึกขนลุกแล้ว !” หญิงสาวว่าพลางลูบแขนไปมาประกอบ

    เสียงดังเอะอะของฮารุทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงตื่น นัยน์ตาสีดำส่อแววเบื่อหน่ายมองตรงไปยังห้องน้ำอย่างเซ็ง ๆ

    เขามั่นใจว่าเธอต้องใช้เวลาในห้องน้ำอีกนานแน่ ๆ คงเสียเวลาเปล่าถ้าคิดจะนั่งรอ ดังนั้นสองขาจึงพาชายหนุ่มไปที่โต๊ะเก้าอี้ซึ่งมีแล็ปท็อปสีดำของเขาวางอยู่

    ซ่า !

    ผ่านไปสักพัก เสียงน้ำไหลก็หยุดไป ฮารุที่มีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวปกปิกร่างกายรูดผ้าม่านให้เปิดออก ก่อนจะก้าวออกมาพร้อมกับที่มือยังคงถือโทรศัพท์คุยกับคุณนายไปด้วย

    [ฮ้า โอกินาวาหน้าร้อนสวยขนาดนี้เชียวหรือนี่ ! ป้าอยากไปบ้างจังเลยยย ]

    “อ้อ งั้นเหรอคะ คะ...คงดีนะคะถ้าได้มา แหะ ๆ” หญิงสาวยิ้มแหย ๆ ขณะหยิบชุดลำลองออกมาวางไว้บนเตียง

    [อา ! ตายแล้ว ลืมไปเลย !]

    “อะไรเหรอคะ ?” มือเรียวใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดซับหยดน้ำที่เกาะพราวอยู่ตามแขนและขาช้า ๆ ขณะทำหน้าตางุนงง

    [เค้กน่ะสิจ๊ะ ป้าลืมไปว่าอบเค้กไว้ ต้องไปดูก่อน...งั้นไว้คุยกันใหม่นะจ๊ะ]

    “ค่า”

    ปิ๊บ !

    หลังจากวางโทรศัพท์ ฮารุก็เริ่มเทครีมบำรุงผิวลงบนฝ่ามือ ก่อนจะทามันลงบนผิวเนียน ๆ ของเธอโดยไม่สนใจเลยว่าห้องนี้จะมีคนอยู่อีกคนหนึ่ง ซึ่งที่สำคัญ...เขาเป็นผู้ชาย

    “นี่เธอ...” เสียงเพียงน้อยนิดลอดออกมาจากปากของฮิบาริ

    “หือ อะไร” ฮารุว่าพลางยกขาขึ้นมาวางไว้บนเตียงและถูมือที่เต็มไปด้วยครีมลงบนผิว

    “เธอเป็นสัตว์กินพืชเพศเมียประเภทไหนกันแน่”

    “หา ? นี่...นายน่ะ ถ้ามีเวลามาตั้งคำถามไร้สาระแบบนี้ล่ะก็ไปอาบน้ำไป๊” เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย วางครีมลงบนโต๊ะ

    “คุยโทรศัพท์ตอนอาบน้ำ มีผ้าผืนเดียวพันรอบตัวตอนมีผู้ชายอยู่ในห้อง ทาครีมต่อหน้า...”

    “หยุด ! หยุดเลย นี่นายคิดว่าฉันพิศวาสนายขนาดมานั่งทาครีมยั่วเลยเรอะ !? หลงตัวเองไปได้นะนายฮิบาริ ฉันแค่ขี้เกียจลำบากลำบนยกขาพาดอ่าง ทาครีมในห้องน้ำเท่านั้นแหละ ! แล้วไอ้เรื่องคุยโทรศัพท์ตอนอาบน้ำมันเป็นปัญหารึไง ? ก็ไม่นี่ คนมันมีความสามารถไม่ให้น้ำเปียกมือถือ มีแค่คนฉลาดเท่านั้นที่ทำได้ย่ะ เหอะ !” ฮารุพูดแทรกในขณะที่เขายังพูดไม่จบ พร้อมทั้งทำหน้าและส่งสายตาหยิ่ง ๆ แถมไปด้วย

    ฮิบาริยังคงทำหน้าเฉยชา แต่ในใจนั้นคงไม่ได้เฉยเหมือนหน้าแน่

    “เหอะ ยัยสัตว์กินพืชชอบเห่าหอน...” เขาสบถเบา ๆ แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดนั้นกระแทกตา หู ใจ สมอง ของฮารุอย่างแรง

    …What !?  What did he sayyyyyy !!?

    ปั้ก !

    “นายว่าไงนะเจ้าสัตว์กินเนื้อหน้าตาย !” หญิงสาวโมโหจนปาขวดครีมลงพื้น อารมณ์ประมาณว่าไม่ทงไม่ทามันแล้วถ้าไม่ได้ละเลงเลือดออกจากหัวใครบางคนเสียก่อน

    “ฉันบอกว่าเธอมันยัยสัตว์กินพืชชอบยั่วกับเห่าหอนน่ารำคาญ เสียงก็ไม่ใช่ว่าจะเพราะเหมือนนักร้อง แหลมปรี๊ดแสลงหูจะตาย แล้วยังจะพูดเสียงดังกับกรี๊ดอยู่ได้...”

    “กรี๊ดดดด ! ไอ้บ้า ฉันจะฆ่าแก๊~” ฮารุกรีดร้องพร้อมกระทืบเท้าเร่า ๆ อย่างตบะแตก เธอสูดเอาอากาศเข้าปอดให้มากที่สุดเพื่อที่จะไม่ต้องระบายอารมณ์กับข้าวของของโรงแรม

    “นั่นไง อ้อ ลืมไปอีกอย่าง เวลาเธอโกรธก็จะทำท่าเหมือนคิงคองได้รับยาบ้าไม่ก็ช้างตัวเมียตกมัน...” ฮิบาริยังคงพูดต่ออย่างน่าตาย แต่ภายในใจของเขากลับอยากจะขำเหลือเกิน

    แปร๋นนนนน !

    ...ชะ...ช้าง !?

    โฮกกกกกก !

    ...คิง...คิงคองงงง !?

    ฮารุรู้สึกเหมือนเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในหัว มีแต่เสียงร้องของช้างผสมคิงคองปนเปกัน และเสียงเอคโค่คำสองคำนั้นเด้งไปมาในหัว

    ติ๊งต่อง !

    เสียงออดดังขึ้นที่หน้าห้องเรียกสติหญิงสาวที่ภายในกลายเป็นสวนสัตว์ซาฟารีไปแล้วให้กลับมายังโลกเดิม เธอสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัวและเดินไปเปิดประตู...โดยไม่แม้แต่จะหยิบเสื้อคลุมอะไรไปใส่เลย !

    ฮิบาริขมวดคิ้วน้อย ๆ กับความคิดไม่สบอารมณ์ในความมักง่ายของเธอที่ขี้เกียจแม้แต่จะหยิบเสื้อมาใส่ทับผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันรอบตัวอยู่แบบนั้น ถ้าคนที่มาเปิดประตูเป็นผู้ชายแล้วเขาไม่ได้อยู่ในห้องนี้ด้วยล่ะ ? เหอะ เจ้าคนมาเปิดคงคิดเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนแล้วว่ายัยสัตว์กินพืชงี่เง่านั่นจงใจยั่ว แล้วมันคงจบลงที่โดนลวนลามหรือไม่ก็โดนปล้ำสินะ ? เหอะ...เหอะ

    ...หืม ?

    เมื่อกี้...เขาคิดอะไรอยู่นะ ?

    คงไม่ใช่...เรื่องยัยสัตว์กินพืชนั่นหรอกนะ ?

    ...นั่นสิ คงไม่ใช่หรอก

    หลังจากปฏิเสธตัวเองเสร็จเขาก็กลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ เขาอาจจะไม่รู้ตัว แต่ฮิบาริกำลังทำตัวเหมือนผู้ชายชอบผู้ชายที่ปฏิเสธตัวเองว่าไม่ได้เป็นเกย์...

    ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วแท้ ๆ...แต่ก็ยังจะทำเป็นไม่รู้

    ...So stubborn… (ปากแข็งจริง ๆ)

    ฮารุที่เสร็จธุระกับคนที่มาหาแล้วเดินกลับเข้ามาด้วยใบหน้างง ๆ 

    ...แต่เท่าที่ได้ยินเสียงคุยกันก็มีแต่เสียงผู้หญิงนี่

    ฮิบาริเหลือบตามองเธอเล็กน้อยและคิดในใจ

    “คุณป้าคนทำความสะอาดคนนั้นบอกว่ามีผู้ชายหน้าคม ๆ คนนึงให้เจ้าเศษกระดาษนี่กับเธอ แล้วบอกว่าให้เอามาให้ห้องนี้...”

    “...”

    “นายคิดว่ามันจะเป็นของใคร”

    “เนื้อหาในนั้นว่าไง” ฮิบาริขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนเอ่ยถาม เขาไม่คิดว่าจะมีลูกน้องเขาคนไหนหน้าคมหรอกนะ เอ๊ะ หรือว่ามี ?

    “มันเป็นภาษาอังกฤษนะ อืม... Come see me at the swimming pool at 10.

    “...”

    “อ้อ มีต่อด้วยนะ มันเขียนว่า... I’ll be waiting for only you, my queen J.

    “...” ชายหนุ่มที่นั่งฟังอยู่รู้สึกเหมือนเส้นเลือดในสมองจะปริแตก นั่นเธอถามมาได้ยังไงน่ะว่าให้ใคร ยัยสมองกลับนั่นคิดว่าเขาจะเป็นควีนของไอ้ผู้ชายหน้าคมบ้าอะไรนั่นได้งั้นเรอะ !?

    “ยัยสัตว์กินพืชสมองสัตว์ปีก เธอโง่จริงหรือแกล้งโง่กันแน่...?” ฮิบาริไม่คิดจะข่มความไม่สบอารมณ์ในน้ำเสียงที่เขาพูดออกมา หนำซ้ำยังส่งสายตาพิฆาตไปให้เธอที่นั่งยิ้มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีกต่างหาก

    “อะไร แกล้งโง่อาร้ายย~ ฉันก็แค่คิดว่าที่นายเก๊กมากไปอาจจะเป็นเพราะนายแอบมีความลับสนุก ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับเจ้ากระดาษนี่ของนายหน้าคมนั่นก็ได้นี่~ จริงไหม~” ฮารุยิ้มยั่ว อีกทั้งเธอยังลากเสียงยาวอย่างจงใจกวนอารมณ์อีกต่างหาก

    “...ความลับอะไร”

    “มันก็เขียนมาชัดเจนแล้วนี่...มายควีน...ฉันหมายความว่าฉันกำลังคิดว่าหมอนั่นอาจส่งมาให้นายซึ่ง...เป็นเกย์ควีนคู่รักของเกย์คิงของเขา...ล่ะมั้ง~ คิก ๆ”

    เปรี้ยง !

    สายตาอำมหิตและจิตสังหารที่หนักหนาอย่างกับฟ้าผ่าถูกส่งมาที่ฮารุจนเธอรู้สึกขนลุกเล็กน้อย แต่ทำไมก็ไม่รู้...เธอรู้สึกเหมือนจะเริ่มชินและรับเอารังสีน่ากลัวทั้งหลายแหล่พวกนั้นได้มากขึ้น (นั่นสิ ไม่ชินก็แปลกละ เล่นส่งหากันเช้ายันเย็น)

    “อ๊ะ จุ๊ ๆ ๆ นายอย่าคิดว่าจะทำอะไรฉันได้ล่ะ เฮ้อออ นายนี่จริง ๆ เลยนะฮิบาริ ฉันจะต้องบอกนายอีกกี่ทีกันนะว่านายน่ะทำอะไรฉันรุนแรงไม่ได้ อย่าลืมสิว่า คนที่นายรู้ว่าใคร น่ะคุ้มหัวฉันอยู่ หรือนายจะบอกว่าไม่ใช่ คิก~” หญิงสาวปิดปากหัวเราะเบา ๆ พร้อมส่งสายตาไปให้เขาอย่างมีเลศนัย

    ฮิบาริได้แต่แอบฮึดฮัดอยู่ในใจ นี่ถ้าเป็นเจ้าพวกสัตว์กินพืชมาเฟียพวกนั้นล่ะก็นะ เขาไม่มานั่งหงุดหงิดให้เสียสุขภาพจิตหรอก ขย้ำเละทั้งร่างไปแล้วล่ะ...ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงก็เถอะ

    “เอาล่ะ เขานัดฉันสิบโมง แล้วนี่กี่โมงแล้วนะ...ตายแล้ว ! เก้าโมงกว่า ต้องรีบแล้วสิ !

    พูดจบร่างบางก็หยิบครีมขวดเดิมขึ้นมาทาใหม่ หยิบชุดชั้นในขึ้นมาจากกระเป๋าและเดินไปเลือกเสื้อที่ตู้เสื้อผ้า ทว่าในจังหวะที่เธอหยิบเสื้อชั้นในขึ้นมานั้น มือบางดันยกมันขึ้นมาเสียสูง ส่งผลให้ชายหนุ่มที่ตั้งใจแค่ปรายตามองมาเนือย ๆ เห็นมันเต็ม ๆ...บราเซียร์สีดำเว้าร่องอกค่อนข้างลึกสีดำเกาะอก มีลูกไม้ประดับเล็กน้อยของเธอถูกโชว์ให้ผู้ชายที่เธอเกลียดเข้าจัง ๆ

    แต่ถึงอย่างนั้นฮิบาริก็ไม่ได้คิดอะไร เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่...ถ้าได้เห็นเธอคลั่งอีกรอบหนึ่งก็คงไม่เลว ความทุกข์ของยัยนั่นคือความรื่นรมย์ของเขาอยู่แล้วนี่

    “บราเซียร์สีดำเว้าร่องอกของเธอน่ะ...คิดจะใส่ไปยั่วเจ้านั่นล่ะสิ” เขาพูดขึ้นมาลอย ๆ แต่คนที่กำลังรีบกลับได้ยินเต็มสองหู ใบหน้าขาว ๆ เริ่มขึ้นสีเลือด ก่อนที่คลื่นเสียงลูกใหญ่จะตามมา...

    “น้ายยย ! นายว่าไงนะ ! แอบมองบราฉันงั้นเหรอออ ! กล้ามากนะ !

    “หลงตัวเองไปหน่อยรึเปล่ายัยสัตว์กินพืชไม่เคยส่องกระจก ฉันน่ะนึกว่าเธอจงใจยั่วฉันโดยการชูมันขึ้นสูงเสียอีก ใครไม่เห็นก็ไปตัดแว่นได้แล้ว ยัยโง่” ร่างสูงได้ทีตอบกลับจนเธอหน้าหงาย

    “ชะ...ชิ ! ถ้าฉันไม่ได้กำลังรีบล่ะก็นะ นายเจอดีแน่ ฝากไว้ก่อนเถอะ” พูดจบเธอก็วิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไปแต่งตัว

    ...แพ้แล้วพาลนี่

    ฮิบาริส่งเสียงหัวเราะหยันออกมาเบา ๆ ก่อนจะปิดแลปท็อปสีดำลง หยิบผ้าขนหนูมานั่งรอเข้าห้องน้ำ

    ผ่านไปสักพักฮารุในชุดเดรสคอวีสีเหลืองที่คว้านลึกจนเห็นชุดชั้นในก็เลื่อนผ้าม่านออก เมื่อเห็นว่าห้องน้ำว่างแล้วชายหนุ่มก็เข้าไปทันที แต่ก่อนปิดผ้าม่านยังมิวายแอบกัดเธอเล็ก ๆ น้อย ๆ

    “ตั้งใจยั่วเต็มที่เลยนี่” มันได้ผล หญิงสาวหันขวับมาแยกเขี้ยวใส่เตรียมด่าทันที ถ้าไม่ติดว่าเขาเลื่อนผ้าม่านปิดไปเสียก่อน

    “ไอ้...นี่ นายฮิบาริ ฉันขอเตือนไว้เลยนะว่าฉันไม่ได้คิดจะไปยั่วใครทั้งนั้น ! ปกติฉันก็ใส่อย่างนี้ของฉันอยู่แล้วย่ะ เข้าใจไหม !” เธอกระแทกเสียงรอคำตอบ แต่...

    “...” ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านต้องการ

    ...กรี๊ดดดด ไอ้เลวววว !

    เธอแอบกรีดร้องในใจ แต่เมื่อพบว่าเหลือเวลาอีกไม่มากกว่าจะสิบโมง เธอก็เดินไปแต่งหน้าที่โต๊ะเครื่องแป้ง

    ผ่านไปยี่สิบกว่านาที หญิงสาวแต่งตัวเสร็จ ตั้งใจจะทิ้งตัวขัดขวาง (ในความคิดเธอ) ไว้ที่นี่ แต่พอมองหากระเป๋าใบเล็กรอบ ๆ ห้องก็ต้องไปสะดุดกับร่างที่นั่งรออย่างชิลสุด ๆ ของฮิบาริ

    ...อ้าวเวร หมอนี่เสร็จตั้งแต่เมื่อไรวะเนี่ย ไม่ยักรู้

    เธอเดินไปหยิบกระเป๋าร็อกซี่สีดำที่วางอยู่ใกล้ ๆ กระเป๋าเดินทางแล้วเดินไปที่ประตูหน้าห้อง ทว่าก่อนไปยังไม่วายหันกลับมากำชับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในห้องว่า “นายห้ามตามมานะ”

    “อยากตามตายล่ะ” เขาไม่เพียงแต่จะปรายตามามอง แค่พ่นสุนัขออกมาให้เธอเจ็บใจเล่นเท่านั้นเอง

    ปัง !

    เสียงปิดประตูดังสนั่นลั่นห้อง ร่างสูงที่เคยนั่งทำงานอย่างขมักเขม้นก็วางมือลง สายตาคมดุจเหยี่ยวตวัดไปมองด้านประตูกระจกที่สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำและชายหาดได้

    เขามองเห็นผู้ชายหน้าคมในเสื้อบาง ๆ ไม่ติดกระดุมสักเม็ดคนหนึ่งยืนพิงบาร์ข้างสระว่ายน้ำอยู่ และสักพักก็มีผู้หญิงในชุดเดรสสีเหลืองคอแหวกลึกเดินยิ้มเข้าไปหา...ฮารุนั่นเอง

    เขาไม่ได้ยินว่าสองคนนั้นคุยอะไรกัน เห็นเพียงด้านหลังของฮารุและรอยยิ้มที่ดูยังไงก็บอกได้ว่า เจ้าเล่ห์ เท่านั้นของเขา แต่นั่นอาจจะเป็นสิ่งดี เพราะฮิบาริเริ่มเห็นแล้วว่ามือปลาหมึกของเจ้าหนุ่มคนนั้นมันเริ่อฃมที่จะเลื้อยมาพันเอวฮารุแล้ว ดูเหมือนเธอจะรู้สึกแล้ว เลยรีบเอื้อมมือมาจับมือปลาหมึกนั้นเอาไว้

    ก่อนที่จะเห็นท่าไม่ดี ฮิบาริคิดว่าถ้าปล่อยไว้อย่างนี้เธออาจจะโดนลวนลามก็ได้ (ได้ข่าวว่าโดนไปแล้ว) ถ้าเป็น เขา ในเวลาปกติก็คงไม่คิดจะสนใจหรอก แต่นี่คือ เขา ที่มีแม่ (มด) คอยบงการอยู่ คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นสองขาแข็งแรงจึงพาเขาเปิดประตูเดินไปทางสระว่ายน้ำทันที

     

     

    Could you please visit me at my room tonight ? There’s a lot of rare liquor waiting for you~” (ช่วยมาพบผมที่ห้องคืนนี้ได้ไหมครับ ผมมีเหล้าหายากเยอะแยะรอคุณอยู่น้า~) จากตอนแรกสุภาพบุรุษที่มีรอยยิ้มชวนหลงใหลและมาดชายผู้อ่อนโยนในสายตาเธอได้เปลี่ยนเป็นเพลย์บอยเจ้าชู้มือไวปากหวานเกินความจำเป็นเมื่อไรก็ไม่รู้

    แค่ดูจากแววตาหื่นกระหายที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วมาหยุดที่หน้าอกนี่ก็ทำลายภาพพจน์ที่หมอนี่สร้างไว้ตอนแรกจนพังทลายไปหมดแล้วล่ะ ไหนยังจะมือปลาหมึกแปะกาวตราช้างที่แกะเท่าไรก็ไม่ออกเสียทีนี่อีก

    ...โอย พระแม่มารีช่วยผู้หญิงสวย ๆ ด้วยกันด้วยยยยย

    Whoa~ Too bad ! I’m staying with my husband tonight. Sorry~” (แหม~ แย่จังนะ ! คืนนี้ฉันจะอยู่กับสามีน่ะค่ะ ขอโทษด้วย)

    ...เพราะงั้นแกรีบไปไกล ๆ ลูกเตะฉันได้ไหมไอ้หมึก !?

    ...แต่พูดกันตามจริงคนที่ฉันต้องอยู่ด้วยคืนนี้มันห่างไกลจากคำว่า สามี มากประมาณห้าร้อยปีแสงได้เลยนะ

    “Huh? You have a husband?” (หือ? คุณมีสามีแล้วเหรอ?)

    “No, she doesn’t have one. Because she’s not interesting at all. But she has a bodyguard, so stay away from this woman.” (ไม่ เธอไม่มีสามีหรอก เพราะเธอน่ะไม่น่าสนใจสักนิดเดียว แต่เธอมีบอดี้การ์ด เพราะงั้นอย่าเข้าใกล้เธอ)

    จังหวะที่ฮารุกำลังจะเอ่ยตอบว่าใช่ จู่ ๆ ก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นเสียก่อน เจ้าฝรั่งหน้าคมหันซ้ายหันขวาหาต้นตอของเสียงแต่ก็ไม่พบ ต่างจากฮารุที่ยืนนิ่ง ๆ บนหน้าเปื้อนรอยยิ้ม...เสียงเนือย ๆ เย็นชาแบบนี้ที่เกลียดนักหนา เธอจำได้แม่นเชียวล่ะ

    แต่ในใจก็ยังแอบเคือง ...นายว่าฉันไม่น่าสนใจงั้นเหรอยะไอ้บ้า !?

    Who the hell !?” (ใครวะ !?)

    ผัวะ ! ตุ้บ !

    สิ้นเสียงถามอย่างหยาบคายของเจ้าหนุ่ม ก็มีฝ่าเท้าแหวกอากาศมาจากด้านบนฟาดก้านคอเขาจนล้มลงไปสลบอยู่กับพื้น

    “มาช้าจริงไอ้บอดี้การ์ด” ฮารุกอดอกเบ้ปากบ่น ฮิบาริตวัดสายตามามองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เสียเท่าไร ก่อนจะเดินดุ่ม ๆ เข้ามาหา หญิงสาวที่เห็นดังนั้นก็เริ่มกลัว ถอยหลังหนีทีละก้าว

    “จะทำอะไรน่ะ ?” เขาไม่ตอบ แต่กลับสาวเท้าเข้ามาจนใกล้ จ้องหน้าเธออย่างหงุดหงิด

    “เธอ...” ริมฝีปากบางสีสดเหมือนผู้หญิงเปิดขึ้นเล็กน้อย

    “อะไรยะ”

    “ถ้าคิดจะยั่วผู้ชายก็ดูสภาพตัวเองด้วย ก้างแบบนี้จะไปสู้ใครไหว แล้วถ้าไม่ได้คิดยั่ว คราวหลังก็หัดแต่งตัวเรียบร้อยและทำตัวฉลาด ๆ ดูคนให้ออกซะบ้างสิ ช่วยตัวเองก็ไม่ได้ต้องให้คนอื่นช่วย ยังจะหาเรื่องหนักหัวให้ฉันต้องเหนื่อยอีก ยัยโง่” เขาเดินห่างออกไปเล็กน้อยหลังจากพูด (บ่นเป็นชุด) จบ

    เธอคงคิดว่าที่เขาว่าเธอเรื่องไม่ระวังตัวแบบนี้อาจจะเป็นเพราะห่วงเธอแบบพระเอกซึน ๆ ในหนังน้ำเน่าตอนเย็นไปแล้ว ถ้าไม่ติดประโยคหลังที่ตีความหมายได้อย่างเดียวคือ...เจ้าบอดี้การ์ดตัวขี้เกียจเป็นขนไม่อยากเหนื่อยยุ่งเรื่องของเธอ

    กร๊าซซซ เจ้าสัตว์กินเนื้อใจดำ เจ้าสัตว์เลือดเย็น ไม่มีหัวใจ~! คอยดูนะ ถ้าเกิดมีเรื่องเดือดร้อนล่ะก็จะไม่ช่วยเลย !” ว่าจบเธอก็แลบลิ้นส่งไปให้

    “อ้อ งั้นเหรอ งั้นมาดูกันว่าใครจะช่วยใคร” สิ้นเสียงเย็นชาของชายหนุ่ม ร่างของฮารุก็ถูกยกขึ้นโดยอาศัยวิธีการหิ้วปีก

    “เฮ้ย ปล่อยฉันลง ๆ ๆ” เธอดิ้นพรวดพราด พยายามสะบัดตัวให้หลุดแต่ก็ไม่เป็นผล ความต่างของแรงมันมีมากเกินไป

    ฮิบาริ ยก(เรียกว่าอุ้มไม่ได้ ฮา) เธอไปข้าง ๆ สระว่ายน้ำ จับขาเธอรวบเข้าด้วยกัน ก่อนจะ...

    ตูมมม !

    โยนเธอลงไปกลางสระอย่างไม่ไยดี

    ฮารุตะเกียกตะกายอยู่สักพักก็ขึ้นมาเกาะขอบสระไอค่อก ๆ แค่ก ๆ เธอตวัดสายตาโกรธเคือง (แถวบ้านเรียกเดือด) ไปทางฮิบาริที่ยืนมองแบบแห้งสบายไม่เปียกเลยด้วยสายตาสมเพช ก่อนที่เธอจะได้พ่นคำด่าอะไรออกไป เขาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

    “ค่าที่ทำฉันเสียเวลา และเผื่อจะมองฉันเป็นคนดีขึ้นมาสักนิด...นั่นเป็นบทเรียนที่ทำให้เธอได้ลองช่วยตัวเองไง ยัยคุณหนู หึ” ว่าจบเขาก็เดินจากไป ทิ้งเธอที่เปียกตั้งแต่หัวจรดหางยืนทำหน้าเหวออยู่ในสระ

    “กรี๊ดดดดด ! ไอ้เลวววว ! ฉันต้องแก้แค้นนายให้ด้ายยย !” ร่างบางกรีดร้องและตีน้ำอย่างเจ็บใจ

    “โฮ่ ๆ ได้ภาพสวย ๆ กลับไปฝากคุณโยโกะอีกแล้ว” เสียงชายวัยทองหัวเราะเบา ๆ (ยังไม่ลืมเขากันใช่ไหมคะ ?)

    Round 6…

    Hibari vs Haru

    4 : 2 !!

     

      

     

    ชิ้ง ๆ ๆ

    ขอรายงานสถานการณ์ในห้อง 102 โดยผู้แต่งนะคะ : ในขณะนี้สภาพห้องสวีตห้องนี้ได้แปรสภาพเป็นสนามรบย่อย ๆ ทางประสาทแล้วค่ะ โดยมีฉากหลังเป็นขั้วโลกที่หนาวจับใจ...

    สงครามประสาทเริ่มตั้งแต่ฮารุกลับมาด้วยสภาพเปียกปอนจากสระ เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอเดินมานั่งเช็ดผมบนเตียง ไม่ว่าหญิงสาวจะทำอะไร เธอก็ไม่ลืมที่จะส่งสายตาหวานเยิ้ม (ประชด) มาให้ฮิบาริทุกครั้งไป

    “นายฮิบาริ” ในที่สุดเสียงเล็กก็เอ่ยขึ้นมาขัดบรรยากาศน่าอึดอัดที่ทั้งสองไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย แต่เพียงแค่เฟอร์นิเจอร์และผนังห้องรู้สึกแทน

    เขาปรายตามามองเล็กน้อย เป็นสัญญาณว่าฟังอยู่ เธอจึงเริ่มพูด “ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ไปหาอะไรกินแล้วไปเที่ยวหน้าผามันซาโมะ* กัน”

    * หน้าผามันซาโมะ ที่ตั้งอยู่ริมทะเล เป็นจุดชมวิวที่งดงาม มีหน้าผารูปหัวช้างเป้นจุดเด่นของที่นี่ คำว่ามันซาโมะ มีความหมายว่าที่นั่งที่มีขนนุ่มที่นั่งได้หมื่นคน ซึ่งหมายถึงบริเวณทุ่งหญ้าแถวนั้นนั่นเอง

    ร่างสูงไม่ตอบอะไร เขาปิดแลปท็อปสีดำรุ่นสวยลง ถอนหายใจเบา ๆ แล้วลุกขึ้นเดินนำออกไปก่อน

    ปึ้ด !

    ...ถอนหายใจนี่หมายความว่าไงยะ

    ฮารุทำปากขมุบขมิบขณะหยิบกระเป๋าดิออร์สีดำ (เปลี่ยนใบแล้ว) และเดินตามเขาออกไป

    ทั้งสองแวะทานข้าวเช้าและข้าวกลางวันสองมื้อรวบที่ร้านอาหารห่างไปไม่ไกลนักจากโรงแรม ก่อนจะเดินทางต่อไปที่ผามันซาโมะ

    ระหว่างที่กำลังรับลมเย็น ๆ แถวหน้าผาซึ่งเต็มไปด้วยหญ้านุ่ม ๆ นั้น ฮารุที่กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่างก็ต้องหยุดกะทันหัน เหตุผลเพราะอยู่ดี ๆ ฮิบาริก็กระชากแขนเธออย่างแรงจนตัวเธอปลิวไปหาเขา

    “ว้าย !

    ฟุ่บ !

    แต่ไม่เกินเสี้ยววินาทีหลังจากที่เธอลอยไปหาชายหนุ่ม เสียงวัตถุเจาะทะลุพื้นก็ดังขึ้น

    “นี่มันอะ...” พูดยังไม่ทันขาดคำก็เห็นคนขับรถวิ่งแจ้นเข้าร้านขายของที่ระลึกไป ส่วนรถตู้ของเธอก็...

    ตูมมม !

    “กรี๊ด รถฉัน...” เธออุทานอย่างตกใจ แต่ในใจก็ไม่ได้ห่วงรถมาก เพราะคิดว่าดีแล้วที่ลุงคนขับปลอดภัย แต่คนที่อยู่แถว ๆ นั้นก็แตกวงฮือ บางทีอาจจะมีคนตายด้วย...

    “ยืนบื้ออะไรอยู่เล่า !” ฮิบาริกระชากแขนฮารุอีกรอบและเริ่มออกวิ่งไปหลบแถวร้านขายของ หญิงสาววิ่งตามอย่างงง ๆ เธอยังช็อกไม่หายว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่ ๆ ถ้าไม่วิ่งจะโดนไอ้เสียง ฟุ่บพวกนั้นผ่าอากาศมาเจาะหัวตายคาที่กันทั้งคู่

    “ยัยสัตว์กินพืชประเภทเต่าเอ๊ย” ฮิบาริสบถเบา ๆ ขณะที่ทั้งสองมายืนหลบอยู่ตรงซอกร้านสองร้านที่อยู่ใกล้กันมาก

    “แฮก ๆ มีคนลอบทำร้ายฉันเหรอ”

    “ไม่ใช่มั้งยัย...”

    ตูม !

     

    (End Round 6!)

     

     

    TBC Next Chapter .,

    เด็กหญิงจอยรายงานตัวหลังจากผ่านไปสามเดือน (*ก้มกราบ*) มาอัพซะช้าเลยแฮะ หวังว่าทุกคนคงยังไม่ลืมหน้ากันไปก่อน พอดีมัวแต่ยุ่ง ๆ กับชอร์ทฟิคอยู่ ยังไงถ้าทำให้รอก็ขอโทษด้วยนะคะ ช่วยติดตามกันต่อไปด้วยค่ะ คิมจอยซู-เอ็นจอย ซีอา

    Thanks THEME; nu eng


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×