ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oleander's Felony ❤ กับดักรักร้ายของนายจอมโหด {1886 TYL}

    ลำดับตอนที่ #12 : Oleander's Felony ❤ } 11 : 2nd Night [Special enjoy xiah]

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 53


     

    * เดี๋ยวมีประกาศท้ายบทค่ะ อ่านเสร็จแล้วก็อย่าลืมเลื่อนลงไปอ่านประกาศแสนสำคัญด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ! XDD


    11

    2nd Night

     

    “นี่นายฮิบาริ ไปดินเนอร์ข้างนอกกันมะ?” เสียงใส ๆ ของฮารุดังขึ้นใกล้ ๆ ฮิบาริ เขาละความสนใจจากแล็ปท็อปสีดำมามองฮารุและพูดออกมาว่า

    “ไปทำไม กินในนี้ก็ได้”

    “โอ๊ยย นายนี่มันเฉื่อยชาซะจริงนะ! มาทะเลทั้งทีไม่อยากทานดินเนอร์หรูริมทะเลหน่อยเหรอ!” ฮารุพยายามโน้มน้าว ทั้งที่จริง ๆ จะทานในโรงแรมก็ได้ เพราะที่นี่หรู มีร้านอาหารชั้นดาดฟ้าแบบโอเพ่นรูฟอยู่แล้ว ซึ่งชาวต่างชาติส่วนใหญ่นิยมไปดินเนอร์กันที่นั่นด้วย

    แต่มันติดตรงที่ว่าฮารุดันคึกแต่งสวยไปซะแล้วสิ

    หลังจากกลับมาจากการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ถูกลวนลามหรรษา (?) ในตอนบ่ายแก่ ๆ ฮารุก็ได้แต่หงุดหงิดงุ่นง่าน นั่งเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียวบนเตียงให้ฮิบาริสมเพช  แต่พอเริ่มมืด คุณเธอก็ดันทำตัวฮึกเหิมลุกไปอาบน้ำแต่งตัวซะนี่  อารมณ์อะไรก็ไม่ทราบ แต่รู้อย่างเดียวว่าอารมณ์แปรปรวนสุด ๆ เลยผู้หญิงคนนี้

    ชุดสวยที่เธอใส่อยู่นี้เป็นชุดเดรสพลิ้ว ๆ ไว้สำหรับใส่เดินตามชายทะเล เดรสเนื้อผ้าลื่น ๆ สีน้ำเงินเข้มเกาะอกยาวเลยเข่ามาคืบกว่าที่สวมใส่อยู่บนเรือนร่างแบบบางของฮารุนั้นขับผิวขาวอมชมพูของเธอให้โดดเด่นสะดุดตา  เมื่อรวมเข้ากับผ้าสีน้ำเงินเข้มสีเดียวกับชุดที่ผูกอยู่ที่ข้อมือเล็กของเธอแล้ว  ทำให้การแต่งตัวเรียบ ๆ ของเธอดูมีเสน่ห์เหมือนหลุดมาจากแคตวอล์กเลยทีเดียว

    แต่ไม่ใช่แค่การแต่งตัวเท่านั้นที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้ดูดี  ตั้งแต่หัวจรดเท้า มิอุระ ฮารุ แทบจะไม่มีจุดไหนเลยที่เป็นปมด้อย ไล่มาตั้งแต่คิ้วสวยได้รูป  ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งรับกับใบหน้า ลำคอยาวระหงส์ แขนเรียวเล็ก เอวที่คอดเล็ก และต้นขาเรียวยาวราวกับนางแบบ ผมสีน้ำตาลยาวสลวยเหมือนใยไหมที่ปกติแล้วจะถูกรวบเอาไว้ แต่ ณ ตอนนี้มันกลับถูกปล่อยราบไปกับแผ่นหลังเล็ก ๆ แต่นวลเนียนน่าสัมผัสของเธอ ปอยผมน้อย ๆ ที่คลอเคลียตามดวงหน้าขาวผ่องทำให้เธอสวยเหมือนกับภาพวาดของจิตรกรชื่อดัง พูดได้เลยว่าถ้าเธอต้องการ คงไม่มีผู้ชายคนไหนปฏิเสธเธอได้อย่างแน่นอน (หมายถึงตอนที่ยังไม่รู้นิสัยที่แท้จริงของเธอน่ะนะ)

    แต่ถึงจะสวยเหมือนนางฟ้ายังไง...ก็ยังไม่สามารถลบเลือนภาพน่าเกลียดของเธอในใจของฮิบาริได้อยู่ดี

    “กินที่ไหนก็เหมือนกันแหละ” เขาตอบกลับอย่างเย็นชา

    “ถ้านายไปด้วยฉันจะบอกกับคุณนายว่านายใจดี๊ใจดี แต่ถ้านายไม่ไป...รู้ใช่มั้ยว่าอะไรจะเกิดขึ้นน่ะ” ในเมื่อฮิบาริยังคงยืนยันคำตอบเดิม ก็เหลือทางเลือกทางเดียวสำหรับเขาที่ฮารุเลือกให้แล้วล่ะ

    “...” ร่างสูงถึงกับเงียบไปทีเดียวเมื่อเจอประโยคเด็ดจากฮารุ แต่ก็ยังมิวายส่งสายตาอาฆาตปาดคอมาให้เธอสยองเล่น ๆ อีก

    “จะไปไม่ไปฮะ” เสียงหวานเร่งเอาคำตอบ และคำตอบที่ได้ก็คือ...การลุกขึ้นยืนของฮิบาริ

    “จะไปแล้วใช่ป่ะ งั้นเดี๋ยวฉันไปเอากระเป๋าก่อนนะ ฮิฮะ น่ารักจริง ๆ เลยนายเนี่ย Jฮารุพูดอย่างอารมณ์ดี ต่างกับคนที่ถูกชมลิบลับ

     

    7.46 p.m. @ JK Dining Restaurant

     “กี่ที่คะ?”

    “สองค่ะ” ฮารุตอบรับพนักงานสาวในร้านอาหารค่ำริมทะเลสุดหรูแห่งหนึ่ง

    ที่นี่มีบรรยากาศกึ่งร้านอาหารกึ่งบาร์ นักท่องเที่ยวต่างชาติจึงนิยมมาที่นี่ในเวลาย่ำค่ำอย่างเช่นเวลานี้ จึงทำให้บริเวณบาร์แน่นขนัดไปด้วยเหล่าผีเสื้อราตรีทั้งหลาย แต่กลับกัน บริเวณร้านอาหารกลับดูเป็นส่วนตัว เพราะมีแต่คู่รักมานั่งสวีตกันอยู่เงียบ ๆ

    แต่นั่นก็ทำให้รู้สึกคลื่อเหียนเวียนหัวอยากอาเจียนได้เหมือนกันสำหรับฮารุและฮิบาริที่เป็นคู่กัดกัน แต่ดันมาดินเนอร์ในร้านอาหารที่มีแต่คู่รัก บรรยากาศเลยดูจะขัด ๆ กันนิดหน่อย

    “รับอะไรดีคะ?” พนักงานที่มารับออร์เดอร์ถามขึ้น

    “เมนูแนะนำวันนี้มีอะไรบ้างคะ?”

    “นี่ค่ะ” เธอไม่ตอบคำถามของฮารุแต่กลับยื่นเมนูที่เปิดค้างไว้ที่หน้าแรกไปให้

    “อืม...เอาหนึ่งในเมนูพวกนี้มาสักหกละกันนะคะ” ฮารุกวาดสายตามองไปที่เมนูก่อนจะหันไปพูดกับพนักงาน

    “ค่ะ”

    “นายจะเอาอะไรมั้ย?” และสิ่งที่พระเจ้ายังคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น  เมื่อฮารุหันหน้าไปถามฮิบาริที่นั่งมองคลื่นทะเลอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ ขนาดเจ้าตัวคนถูกถามเองยังหันมาเลิกคิ้วงง ๆ ใส่เลย

    “ไม่” เขาตอบรับสั้น ๆ หลังจากทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักพัก

    “น้ำเปล่าสองขวดค่ะ” เมื่อเห็นว่าฮิบาริไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติม  ฮารุจึงหันไปสั่งเมนูสุดท้ายกับพนักงานรับออร์เดอร์สาว ก่อนที่เธอจะเดินจากไปพร้อมเมนู

    ฮิบาริรู้สึกแปลก ๆ ที่ปกติคนที่เจอหน้ากันแต่ละทีก็มีแต่จะแง่ง ๆ ใส่กันอย่างฮารุมาถามความต้องการอย่างเอาใจใส่ และตอนนี้เขาก็เริ่มที่จะระวังภัยแล้วด้วย  เพราะดันนึกถึงคำพูดของฮารุตอนที่เขาแกล้งใส่พริกลงในจานของเธอขึ้นมาได้ ก็ตอนนั้นยัยฮารุยังไม่ได้แก้เผ็ดเขาเลยนี่หว่า...ตอนนี้จึงเป็นช่วงที่ห้ามเผลอเด็ดขาดสำหรับฮิบาริ

    แต่ใครจะไปรู้ว่าฮิบารินึกวิตกจริตเกินไป ฮารุก็แค่รู้สึกอารมณ์ดีดี๊ดีมากจนอยากจะทำดีกับคนรอบข้างเท่านั้นเอง  เพราะตอนที่เธอใส่ชุดนี้แล้วมันอารมณ์ดีแปลก ๆ ก่อนใส่ยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่เลย เธอเองก็ยังแปลกใจอยู่เหมือนกัน  สงสัยเสื้อผ้าคงจะทำให้อารมณ์เธอเปลี่ยนได้จริง ๆ อย่างเช่นใส่เสื้อผ้าสีสด ๆ แรง ๆ จะทำให้อารมณ์เป็นแบบมู้ดดี้หงุดหงิดง่าย แต่พอใส่เสื้อผ้าสีเย็น ๆ แล้วทำให้ใจเย็นตามไปด้วย แบบว่าเอ็นจอยทุกสถานการณ์

    ข้อมูลนี้ได้ถูกพิสูจน์แล้วโดย ดอกเตอร์ ฮารุ มิอุระ

    หมายเหตุ : อารมณ์เปลี่ยนแปลงตามเสื้อผ้าที่ใส่นั้นเป็นได้แค่กับบุคคลฮารุ สปีชี่ส์มิอุระ เท่านั้น! ห้ามทดลองเด็ดขาด

    แต่ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเท่านั้นที่ทำให้การปฏิบัติต่อฮิบาริของฮารุเปลี่ยนไป เรื่องเมื่อตอนบ่ายก็ทำให้เธอทำดีกับฮิบาริมากขึ้นด้วย เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณ...ถึงตอนอยู่ในห้องจะแอบสร้างความแค้นไว้กับเขาโดยการเอาคุณนายมาขู่ก็เหอะ

    ...ฉันจะพยายามทำตัวเฟรนด์ลี่กับหมอนี่จนหมดทริปเที่ยวโอกินาวาเพื่อทดแทนบุญคุณแล้วกัน ถ้าหมดทริปนี้แล้วก็หมดช่วงโปรโมชั่น ฉันเอาคืนเรื่องพริกในสปาเกตตี้นั่นแน่!

    ระหว่างรออาหาร ฮารุก็นั่งมองวิวทิวทัศน์ริมทะเลไปพลาง คิดไปพลาง แต่เธอไม่ได้รู้อะไรเลยว่าท่านั่งคิดซึ่งเป็นท่าไขว่ห้างของเธอมันโชว์ต้นขาขาว ๆ แสนรัญจวนใจของเธอมากขนาดไหน ที่รู้ ๆ คือผู้ชายชาวยุโรปที่นั่งสวีตจู๋จี๋กับแฟนสาวอยู่ถึงกับหยุดกิจกรรมหยอดคำหวานมาเพื่อเหล่ส่องต้นขาเธอเลยทีเดียว

      ฮารุนั้นไม่รู้ แต่ฮิบารินั้นรู้ดี ทว่า...แค่ถูกมอง ไม่ได้ถูกลวนลาม  ข้อถูกแทะโลมด้วยสายตาแล้วให้ไปช่วยไม่ได้อยู่ในกฎของการเป็นบอดี้การ์ดให้ฮารุที่แม่เขาร่างให้ซะหน่อย ดังนั้นร่างสูงจึงทำเป็นไม่สนใจ  นั่งมองไปทิศเดียวกับฮารุห้นาตาเฉย

    ...แล้วถ้าตานี่เกิดกวนประสาทมาก ๆ จนฉันทนไม่ไหว ตบะแตกขึ้นมาล่ะ? เชอะ อย่าไปคิดมากเลย ถึงเวลานั้นก็กรรมใครกรรมมันแล้วกัน ปากวอนเองก็คงช่วยไม่ได้อ่ะนะ

    ฮารุที่ยังไม่รู้ตัวก็ยังคงคิดเรื่อยเปื่อยต่อไป จนเวลาผ่านไปสักพักอาหารก็มาเสิร์ฟ อาหารมากหน้าหลายตาวางเรียงรายอยู่ตรงหน้าทั้งสอง พวกเขาเริ่มต้นกินกันทันทีที่เห็น เพราะหน้าตาและสีสันของอาหารมันเชิญชวนให้กินมาก ๆ

    “นี่ เอาขาลง” อยู่ ๆ ตอนที่กินไปได้แป๊บหนึ่ง ฮิบาริก็เปิดปากพูดออกมา

    “หืม ทำไมอ่ะ?” ฮารุถามกลับและก้มลงมองขาของตัวเองงง ๆ

    “ก็ถ้าอยากให้ไอ้หน้าหื่นพวกนั้นมองขาอ่อนต่อก็เชิญ” สิ้นคำฮิบาริ ฮารุก็รีบเอาขาลงทันที สายตาหงุดหงิดตวัดไปมองหาต้นเหตุ และเธอก็เจอ ผู้ชายชาวยุโรปหลายคนที่กำลังส่องขาเธออยู่ เมื่อเห็นว่าเธอหันมามองก็รีบหันกลับไปจับช้อนส้อมทานอาหาร ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทันที นั่นยิ่งทำให้อารมณ์ของเธอไม่ดียิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ

    “บ้าเอ๊ย อย่าให้ฉันเห็นจะจะนะพวกแก ไม่งั้นล่ะก็...ฮึ่ย! แม่จะจับชำแหละ ตัดฉับ ๆ ๆ และควักลูกตาออกมาให้มันกินแทนกุ้งซะเลย!” ฮารุว่าพลางกัดฟันกรอด ๆ ด้วยความเคียดแค้น

    แต่คำพูดของเธอทำให้ฮิบาริที่กำลังใช้ส้อมแกะกุ้งอยู่ชะงักกึก  สายตาที่ใช้มองของในจานเริ่มเปลี่ยนไป  ฮารุเห็นว่าเขาดูผิดปกติก็มองไปที่ร่างสูงอย่างสงสัย แต่เมื่อเห็นว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ก็เก็ต และรีบขอโทษขอโพยยกใหญ่

    “อ้าว แหะ ๆ ขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่านายจะกินกุ้งน่ะ ฮ่ะ ๆ” เธอยิ้มแหย ๆ และหัวเราะฝืด ๆ อย่างสำนึกผิด

    ฮิบาริไม่ตอบอะไร เพียงแต่เขี่ยกุ้งที่กำลังแกะไปข้างจาน และเอื้อมไปตักปูที่อยู่อีกจานมาแทน

    ...เอ่อ โทษทีนะที่ทำให้รู้สึกแย่กับกุ้งอ่ะ แต่ฉันก็หิวเหมือนกัน ขอกินต่อล่ะนะ

    ฮารุขอโทษในใจอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะลงมือทานต่ออย่างรวดเร็ว

     

     10.02 p.m.

    “อื๊ดด อิ่มจังเลย~” หลังจากทานข้าวและจ่ายเงินเสร็จ (โดยที่ฮิบาริไม่ได้แตะกุ้งอีกเลยต่อจากนั้น) ทั้งสองก็นั่งรถตู้ที่มีคนขับหน้าเดิมกลับมาที่โรงแรม และตอนนี้ฮารุที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็มานั่งบิดขี้เกียจอยู่ยนเตียงเรียบร้อย

    ปิ๊บ! ปิ๊บ! ปิ๊บ!

    มือเล็กกดปุ่มรีโมตไปมาเพื่อเปลี่ยนช่องทีวี เวลาค่ำ ๆ แบบนี้มีรายการน่าสนใจเยอะ และเวลานี้ก็ได้เวลาของช่องซีรี่ส์ละครเกาหลีที่เธอโปรดปรานแล้วด้วย

    ปิ๊บ!

    มินยอ เธอจะไปไหน

    ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีคุณ!’

    เดี๋ยวก่อนสิมินยอ! มินยอ!’

    เสียงตัวละครในทีวีดังขึ้นเมื่อฮารุเปิดไปเจอช่องของมันพอดี ในเรื่องกำลังเข้มข้นเลยทีเดียว ฮารุก็นั่งจ้องโทรทัศน์จอยักษ์ตาแทบไม่กระพริบ และที่หางตาของเธอเริ่มมีน้ำใส ๆ เอ่อแล้ว

    แต่...

    ปิ๊บ!

    วันนี้แถบทางตอนเหนือของประเทศมีพายุเข้านิดหน่อยครับ อุณภูมิโดยคงที่...

    ...ฮิบาริที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็หยิบรีโมตไปจากมือเธอและกดเปลี่ยนช่อง จากนั้นก็เดินไปนั่งดูบนเตียงอีกฟากอย่างไม่สะทกสะท้านต่อสายตาหงุดหงิดของฮารุที่มองมา

    “นี่! ทำอะไรน่ะนายฮิบาริ!” เสียงฮารุแหวขึ้นด้วยความไม่พอใจ

    “ดูข่าว” และคำตอบสั้น ๆ ที่ได้มาก็ทำให้เธอไม่พอใจมากขึ้นไปอีก

    “แล้วมาแย่งฉันดูทำไมเล่า! เชอะ!

    ปิ๊บ!

    มินยอ อย่าไปเลยนะ ผมรักคุณ

    ไม่จริง ถ้าคุณรักฉัน ทำไมคุณถึงไม่เคยดูแลฉันเลยล่ะ!’

    นั่นก็เพราะ...

    ปิ๊บ!

    อุณภูมิของทางตอนใต้อยู่ที่...

    ก่อนที่พระเอกของเรื่องจะทันได้บอกเหตุผลของตนที่ทั้งนางเอกและฮารุรอฟัง ฮิบาริก็ฉวยเอารีโมตมากดเปลี่ยนช่องไปอีกแล้ว

    “เอ๊ะ! อีตานี่!” ฮารุว่าแล้วพยายามตะเกียกตะกายปีนข้ามหมอนข้างไปเอารีโมตจากฮิบาริที่นั่งอยู่บนเตียงอีกฟาก

    แต่คราวนี้เขากลับยืดแขนหนีไปอีกด้าน ทำให้ฮารุต้องพยายามยืดตัวไปเอาอีก แต่ยืดสุดตัวแล้วก็ยังเอื้อมไม่ถึง ซ้ำร้าย ขาเจ้ากรรมของเธอดันไปสะดุดกับหมอนข้างใบโตเข้าซะด้วย...

    ปึก!

    ผลที่ได้ก็คือตอนนี้ตัวทั้งตัวของเธอมาทับฮิบาริซะแล้ว แถมใบหน้าของเธอยังซุกอยู่กับอกแกร่งของเขาอีกด้วย!

    ประเทศใกล้เคียงมีอุณหภูมิ 24 องศาเซลเซียส...

    ...ท่ามกลางเสียงนักพยากรณ์อากาศที่ยังคงสาธยายต่อไป

    ฟึ่บ!

    ฮารุรีบยันตัวลุกขึ้นทันที ก่อนที่กลิ่นน้ำหอมแบบผู้ชายของฮิบาริจะทำให้เธอถูกมอมเมา

    ฮิบาริลุกขึ้นนั่งบ้าง จากนั้นก็ปัดเนื้อปัดตัว ทำท่ารังเกียจซะเต็มที่ “สงสัยต้องซักเสื้อตัวนี้หลายรอบแล้ว”

    “กรี๊ด! นาย...!” ฮารุกรีดร้องขึ้นเสียงดังอย่างเหลืออด แต่ยังพูดไม่ทันจบประโยค เสียงไร้อารมณ์ของฮิบาริก็แทรกขึ้นมาอีก

    “ปิดไฟ”

    ทันทีที่ไฟทุกดวงในห้องดับลง ร่างสูงก็ล้มตัวลงนอนทันที ทิ้งให้ฮารุมองตามด้วยสายตาแค้นเคือง

    ร่างบางเอนหลังนอนบ้าง ก่อนจะคิดในใจ

    ...ชาตินี้ฉันจะไม่ขอญาติดีกับนายเด็ดขาด! ฮิบาริ เคียวยะ!

     

    (End 2nd Night)

     

    To be continued ,, Special enjoy xiah

     

    ฮึ ฮ่า ๆ ๆ กุ้งกุ้งกุ้งงงงง  กุ้งซีฟู๊ดน่ากิน ! แหม่ แต่อดเสียดายแทนฮิบาริที่น่ารักน่าชังไม่ได้ กินไม่ลงคับป๋ม ๕๕๕๕ ก็น๊า มาเป็นนักแสดงของผู้กำกับและนักเขียนสุดโหดอย่างอิจอย ... มันก็ต้องโดนอย่างงี้แล๊ ทำใจเห๊อะ ! อุว๊ะ ฮร๊า ๆ ๆ ๆ ๆ จริงจังนะเนี่ย ตอนแต่งแย่งรีโมตกันน่ะ ตอนแรกก็กะแต่งเอาฮา ๆ แต่ตอนหลังเพิ่มซีนให้มันดู เป็นแฟนฟิคชั่นรัก ๆ มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเหมือน หนังบู๊เลือดสาด ศึกชิงไหวพริบแก้แค้น ซะมากกว่า กร๊ากกก ก .

    แต่วันนี้จะไม่เม๊าท์มาก เพราะมีเรื่องแอทเทนชั่นจะมาแจ้ง คือ ...


    v

    v

    v

    v

    v


    ถึงวันเกิดจอยแล้วล่ะ !
    มาัฟังคำพูดเจ้าของวันเกิิดกันหน่อยน๊ะ


    วันที่ 16/08/2553 หรือวันจันทร์ ก็คือวันเกิดของจอยเอง !
     หรือบางคนอาจจะยังไม่รู้จัก ถามว่าจอยเป็นใครเหรอ ??
    จอย ก็คือ
    ไรท์เตอร์ของบทความนี้นั่นเองค่ะ


    ปีนี้ 13 แล้ว ดีดี๊ดี ยังนึกอยู่ว่าทำไมตัวเองถึงเด็กจังเนี่ย (หัวเราะ)
    ปีที่สิบสามของชีวิต มีอะไรเปลี่ยนไปมั๊ย ?
    มองซ้ายมองขวาสำรวจตัวเองแล้วขอตอบชัด ๆ เลยว่า "ไม่"
    ยังเป็น "ยัยจอย" คนเดิม คนที่ติงต๊อง เฮฮา บ้าบอ และไร้สาระไปวัน ๆ
    บ้าคลั่งอินเตอร์เน็ต แต่ภายในลึก ๆ เป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้หงุดหงิดยิ่งกว่าหมาแม่ลูกอ่อน
    และแอบโลกส่วนตัวสูงคนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเล๊ย นับตั้งแต่วันที่ได้ลิมตาดูโลกมาเนี่ย
    เพิ่งผ่านวันแม่มาไม่นานเอง รู้สึกเหมือนคนเกิดประมาณนี้จะเป็นคนกตัญญู -.- (เซนส์จอยโคตรห่วย ฮ่ะ ๆ)


    เพิ่งไปทำบุญมาตอนเช้าของวันอาทิตย์ ที่วัดชลประทานรังสฤษต์ ไกลจากบ้านโฮก
    แต่เป็นวัดที่ไปประจำตั้งแต่จำค. ได้ จอยคงทำบุญมาน้อยจริง ๆ แหละ เข้าวัดเป็นไม่ได้ ต้องรู้สึกเบื่อทุ๊กที ๕๕
    (จริง ๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าชาติก่อนทำบุญมาน้อยตั้งแต่ส่องกระจกแล้วล่ะ โฮ T T)
    อีกอย่าง วันนี้ก็เพิ่งตัดเค้กไป อร่อยมาก แต่ญาติแต่ละคนกินไม่ค่อยหมดกัน
    พวกเขาบอกว่าหวาน กินวันละสองคำพอ (ฮา) ก็นะ เค้กมันไม่ถูกปากคนที่อายุมากนี่นา ปล่อยเขาไปเห๊อะ


    ตอนเด็ก ๆ จำได้ว่าเคยเอาเทียนมาปัก ๆ ๆ ให้ครบตามอายุ แต่เด๋วนี้โตแล้ว (เออ 13 น่ะแหละ - -*)
    เลยบอกแม่ว่าไม่ต้อง มันดูเด็กไป ไม่เหมาะกะหน้า ก็เลยมีแต่เค้กโล่ง ๆ (ซึ่งดูน่าพิสมัยกว่าเดิมมากทีเดียว)
    ชอบมาก เค้กที่เป็นเค้กช็อกโกแลต แต่มีแยมสตรอเบอรี่อ่ะ มันดูแบบ , ต่างกันคนละขั้ว แต่พอมารวม ๆ กันแล้วอร่อยสุดขั้วอ่ะ
    แต่ ... กินอร่อย ๆ ไปก็ต้องหยุดกึก ... "น้ำหนักตูจะขึ้นกี่โลวะ ?"


    พรุ่งนี้เพื่อนเอาของขวัญมาให้ โทรมาถามกันใหญ่ ๕๕๕
    เพื่อนจอยน่ารักนะ ;"} เวลาซื้อของขวัญก็ถามว่าจะเอาแบบไหน "มีสาระ" หรือ "ไม่มีสาระ"
    คิดดูสิว่าคนนันเซนส์แบบจอยจะตอบแบบไหน ฮ่า ๆ ๆ แน่นอนว่า "ไม่มีสาระ" จ้ะ
    วันจันทร์จะได้ของขวัญแล้ว ลุ้น !


    ปีนี้พรที่จะขอก็คือ ... ขอให้กลับมาเป็นเด็กดีเหมือนตอนเด็ก ๆ เถอะ
    แม่จอยก็ขอแบบนั้น เพราะตอนเด็ก ๆ จำได้ว่าอ. สั่งงานไรไม่เคยพลาด ทำการบ้านทุกวัน เข้านอนหัวค่ำทุกคืน
    ก่อนสอบทวนอย่างบ้าคลั่ง และดูแค่การ์ตูนกับละครเป็นค. บันเทิงเท่านั้น แต่ตอนนี้ ... เอ่อ อย่าพูดดีกว่า = ='
    พรอีกหลายข้อที่จะขอ ขอให้ทุกคนในบ้านมีสุขภาพแข็งแรง อยู่สู้รบตบตีกับจอยไปอีกนาน ๆ (ฮา)
    และขอให้ทุกคนได้เห็นยัยจอยคนนี้ประสบค. สำเร็จกับชีวิตของตัวเอง คว้าใบปริญญาจุฬามาได้ด้วยเถ๊อะ > <
    พรข้อสุดท้าย ... ที่จอยเชื่อว่าจอยตั้งตารอมันที่สุด ...
    ขอให้ "ทงบังชินกิจงกลับมา" ทงบังชินกิที่จอยชอบมาก ... มิอาจใช้คำว่ารักได้ เพราะไม่รู้ว่า "รัก" มันเป็นยังไง
    รู้เพียงว่า ทงบังชินกินั้น ... คือที่สุดของจอยแล้วจริง ๆ เพราะฉะนั้น ขออุทิศพรข้อที่สำคัญที่สุดให้แก่ เทพทั้งห้า นะค๊าฟ ^ ^


    อยากได้ยินคำอวยพรแก่วันเกิดจอยจาก เพื่อนในโลกไซเบอร์ของเด็กดีดอทคอม บ้าง
    เม้น ๆ ในนี้แหละ แล้วเด๋วแชพเตอร์หน้า จอยจะมีช่วงตอบเม้นตอนท้ายให้ > <V
    เรามีกันและกันอยู่แค่นี้ ต้องการแค่ค. จริงใจจริง ๆ แค่แสดงให้เห็นถึงค. หวังดี ... ก็พอแล้วล่ะ
    จอยอยากเห็น ... เพื่อนและแฟนฟิคที่ยังเหลืออยู่ของจอย ^ ^
    และคำอวยพรที่ให้ด้วยค. หวังดีจากใจจริงนะคะ ขอแค่นี้จริง ๆ


    ขอบคุณค่ะ # ไรท์เตอร์ เอ็นจอย ซีอา









    nu eng

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×