ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Four seasons to choose only one[1886 8086 5986 2786+6995]

    ลำดับตอนที่ #12 : chapter 11 {Fake Love} :: She's most dangerous for my heart ::

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 53


    11

     

    Fake Love

     

    She’s most dangerous for my heart

     

    และแล้ววันที่เด็กสาวคนหนึ่งรอคอยก็มาถึงอีกครั้ง…

    วันนี้เป็นวันเสาร์ วันที่ ‘ซาซางาวะ เคียวโกะ’ รอคอยอย่าใจจดใจจ่อมาร่วมสัปดาห์

    ในตอนเช้า เคียวโกะรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็วและออกจากบ้านไปก่อนเรียวเฮ พี่ชายของเธอเสียอีก!

    “พี่คะ! ฉันไปก่อนนะคะ พอดีมีนัดสำคัญน่ะค่ะ! อาหารเช้าวางอยู่บนโต๊ะแล้วนะ” เธอละล่ำละลักพูกและปิดประตูเสียงดังปังใหญ่ๆ ก่อนออกไป ทิ้งให้เรียวเฮทำหน้าฉงนปนมึนงงอยู่คนเดียว

    “เคียวโกะรีบไปไหนน่ะ? แต่ช่างเถอะ! วันนี้ฉันไปชวนซาวาดะวิ่งรอบเมืองสิบรอบให้สุดหูรูดไปเลยยยย!” เขาว่าพลางกำมือแน่นทำหน้ามุ่งมั่น

    เคียวโกะที่รีบออกจากบ้านมาอย่างอารมณ์ดีกำลังก้าวขายาวๆ เดินมุ่งหน้าไปทางสวนสาธารณะเมืองนามิโมริด้วยความดีใจสุดๆ

    เมื่อมาถึง เธอก็รีบเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวทันที

    ผู้คนที่เดินผ่านมาต่างก็มองเธอยิ้มๆ เพราะท่าทางของเธอเหมือนผู้หญิงที่กำลังรอชายคนรักมาเดทครั้งแรกอยู่เลย ดูได้จากการที่เธอนั่งยิ้มและใบหน้าของเธอขึ้นสีเรื่อนิดๆ อย่างสุขสม

    …เมื่อไหร่เขาจะมาน้า?

    เธอคิดไปเรื่อยขณะนั่งรอ ‘ผู้ชายผมสีน้ำเงินและมีดวงตาสีไพลิน’ อย่างมีความหวังเต็มเปี่ยม

    และผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ ‘ซาวาดะ สึนะโยชิ’ แต่อย่างใด

    …แต่เขาคือ ‘โรคุโด มุคุโร่’ ต่างหาก

    และเพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ มุคุโร่จึงส่งจดหมายไปที่บ้านของสึนะโยชิ เนื้อหาในจดหมายสรุปได้ว่า

    ‘ให้มาที่สวนสาธารณะนามิโมริ ในวันเสาร์ของสัปดาห์นี้’

    และจุดมุ่งหมายจริงๆ ที่ให้สึนะโยชิมาก็คือเคียวโกะนั่นแหละ

    “อ้าว! เคียวโกะจัง!” เสียงของสึนะโยชิดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเคียวโกะนัก

    “สึนะคุง?” เธอถามเบาๆ

    “มาทำอะไรที่นี่เหรอ?”

    “ฉัน… มารอเพื่อนน่ะจ้ะ” เธอยิ้มเป็นคำตอบ

    “งั้นเหรอ ใครล่ะ?” สึนะโยชิถามอย่างใคร่รู้

    “สึนะคุงไม่รู้จักหรอกจ้ะ เขาชื่อมุคุโร่คุงน่ะ ^^” เคียวโกะตอบหน้าระรื่น ในขณะที่สึนะโยชิหน้าซีดเผือด

    “มะ… มุคุโร่?” เขาครางชื่อนั้นออกมาเบาๆ อย่างเลื่อนลอย

    “จ้ะ เขาใจดีกับฉันมากๆ เลยนะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูมีความสุขมากๆ และใบหน้าของเธอก็ขึ้นสีชมพูจนสึนะโยชิสามารถสังเกตุได้ชัดเจน

    …ม้ามืดที่รีบอร์นพูด… คือมุคุโร่ซังเองงั้นเหรอ?

    ดวงตาของสึนะโยชิเหม่อลอย เขาหันหลังเดินกลับช้าๆ โดยไม่สนเสียงเรียกงงๆ ของเคียวโกะเลย

    …มุคุโร่ซังคงชอบเคียวโกะจังจริงๆ ล่ะมั้ง แถมเคียวโกะจังก็ทำท่าว่าจะชอบมุคุโร่ซังเหมือนกันอีก แล้วฉันจะไปขัดขวางเขาทำไมล่ะ?

    เขาคิดตัดพ้อตนเองขณะที่ขาอันสั่นเทาก็ก้าวไปเรื่อยๆ อย่างเชื่องช้า…

    เคียวโกะมองสึนะโยชิที่กำลังเดินจากไปอย่างไม่เข้าใจ

    …สึนะคุงรู้จักมุคุโร่คุงด้วยเหรอ? ทำไมต้องทำหน้าอึ้งๆ แบบนั้นด้วยล่ะ?

    เธอถามตัวเองเบาๆ ในใจ และตอนที่เธอกำลังระดมความคิดใช้สมองอย่างหนักอยู่นั้นเอง ชายร่างสูงผมสีน้ำเงิน ดวงตาสีไพลินก็เดินมานั่งข้างๆ เธอที่เก้าอี้ตัวเดียวกับเธอ

    “อ๊ะ…” เคียวโกะร้องขึ้นเมื่อรู้สึกตัวว่ามีใครมานั่งด้วย เธอรีบหันไปมองอย่างตกใจ

    “มุคุโร่คุง!” เธออุทานชื่อเขาออกมาเสียงดัง

    “ฮะๆ ครับ ผมเอง ^^” เขาตอบกลั้วหัวเราะกลับมา

    “สะ… สวัสดีจ้ะ” เคียวโกะเอ่ยทักทายเขาเสียงสั่นๆ

    “ครับ สวัสดีครับ ถ้าผมนั่งตรงนี้เคียวโกะจังจะว่าอะไรมั้ยครับ?”

    “มะ… ไม่ๆๆ! ไม่ว่าอะไรเลยจ้ะ ตามสบายเลย!” เธอรีบพูดรัวๆ เพราะกลัวว่าเขาจะลุกจากที่นั่ง

    “งั้นเหรอครับ อืม… วันนี้อากาศดีจังเลยนะครับ” เขาว่าและหลับตาลง

    โดยที่เขารู้ตัว ย้ำว่ารู้ตัว เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาแอบลอบมองหน้าเขาที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างกล้าๆ กลัวๆ

    เธอจ้องหน้าเขาเนิ่นนานเหมือนตกอยู่ในภวังค์จนเมื่อเขาหันหน้ากลับมามอง เธอถึงกับสะดุ้งสุดตัวเลยทีเดียว

    “อะ… เอ่อออ”

    “มองอะไรเหรอครับ J” เขาถามพร้อมแถมยิ้มเข้าเล่ห์มาให้ด้วย

    “ปละ… เปล่านี่จ๊ะ ฉันแค่… แค่…” เธอตอบตะกุกตะกักอย่างพยายามหาข้อแก้ตัว

    “แค่แอบมองผม?” เขาถามพร้อมแลบลิ้นทำหน้าทะเล้น ทำให้เคียวโกะถึงกับหน้าแดงวาบ

    …ท่านั้นมัน… น่ารักจัง ><///

    “ไม่ใช่ซะหน่อยมุคุโร่คุง ฉันแค่มองต้นไม้ตรงนู้นต่างหากเล่า~” เธอขึ้นเสียงสูงอย่างคนมีชนักติดหลัง

    “ฮะๆ งั้นเหรอครับ อืม… งั้นผมจะเชื่อเคียวโกะจัง… สิบเปอร์เซ็นต์ละกันนะครับ”

    “อ้าว ทำไมล่ะจ๊ะ?” เคียวโกะเริ่มงงกับความเจ้าเล่ห์ของผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอแล้ว

    “ความจริงก็คือผมรู้ตัวตั้งแต่แรกว่าเคียวโกะจังแอบมองผมไงล่ะ ^^”

    “หา? O_O แล้ว… แล้วทำไมไม่บอกฉันก่อนล่ะ” เธอพูดด้วยสีหน้าอายๆ ที่เขารู้ทัน

    “ก็ผม… อยากให้เคียวโกะจังมองผมไปอีกนานๆ นี่นา” คำตอบของมุคุโร่ทำเอาเคียวโกะต้องหันหน้าไปทางอื่นไม่ให้มุคุโร่เห็นใบหน้าแดงๆ ของเธอ

    “…” เธอยังคงเงียบเพราะคำพูดเมื่อกี้ของเขามันกระเด้งไปมาอยู่ในหัวของเธอ

    “ฮะๆ ทำไมเงียบไปล่ะครับ เขินผมเหรอ?” เขาถามติดตลก แต่มันดันจี้ใจดำเคียวโกะเต็มๆ

    “มะ… ไม่ใช่ซะหน่อย ฉันแค่รู้สึกเหมือนมีตัวแมลงมาเกาะก็เลยสะบัดหน้าเท่านั้นเองจ้ะ” เธอรีบปฏิเสธ โบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน

    “หึๆ โอเคครับ โอเค” เขาว่าและวางมือลงที่ตรงกลางของเก้าอี้ไม้ โดยที่ไม่รู้ว่ามือของเคียวโกะวางอยู่ตรงนั้นอยู่ก่อนแล้ว!

    “อ๊ะ/อ๊ะ” เขาและเธออุทานขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อมือใหญ่ของมุคุโร่วางทับลงบนมือนุ่มนิ่มของเคียวโกะ

    เธอตกใจจะรีบชักมือออก แต่มุคุโร่ก็กดมือของเธอไว้ และพูดขึ้นว่า

    “ไม่เห็นเป็นอะไรเลยครับ วางซ้อนกันก็เหมือนวางบนเก้าอี้นั่นแหละ และอีกอย่าง… มันก็นิ่มกว่าเก้าอี้เยอะเลยซะด้วยสิ J” เขาว่าและยิ้มเจ้าเล่ห์

    …คำพูดของมุคุโร่ทำให้เคียวโกะเขินจนแทบเป็นลม!!

    “มือฉันไม่เห็นจะนุ่มตรงไหนเลยนะจ๊ะ” เธอพูดกลบเกลื่อน

    “ผมไม่ได้บอกซะหน่อยนี่ครับว่าเป็นมือคุณ” เขาพูดติดตลกหยอกล้อเธอหน่อยๆ

    “อะ… เอ๋ งั้นแล้วอะไรล่ะจ๊ะที่นุ่ม?” เธอถามงงๆ พร้อมก้มลงมองที่มือของมุคุโร่และมือของเธอเอง

    “แก้มคุณล่ะมั้ง” เขาพูดพลางกดนิ้วลงจิ้มแก้มเคียวโกะเบาๆ ฉับพลันนิ้วเขาก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่มาจากแก้มของเธอที่ตอนนี้แดงแปร๊ด!

    “///”

    “หึๆๆ J” มุคุโร่หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าเคียวโกะหน้าแดงทั้งหน้าลามไปถึงใบหูด้วย

    “อย่าทำแบบนี้สิมุคุโร่คุง มันอันตรายต่อฉันมากๆ เลยนะ” เธอว่าเสียงสั่น

    …มันจะอันตรายต่อหัวใจดวงน้อยๆ ของฉันมากๆ เลยน่ะสิ

    เคียวโกะขยายความคำพูดของเธอเองในใจ

    “ฮะๆ ครับ งั้นขอผม เอ่อ… วางมือทับมือเคียวโกะจังอย่างนี้ต่อไปละกันนะ”

    “…จ้ะ” เธอตอบรับเขินๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอรู้สึกดี

    “คุณชอบทานอะไรหรือครับ?” มุคุโร่พูดขึ้นทำลายความเงียบ

    “อืม ฉันน่ะเหรอจ๊ะ ฉันชอบทานของหวานนะ ทุกอย่างเลยก็ว่าได้” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี

    “แล้วเคียวโกะจังทำอาหารอะไรเป็นบ้างเหรอครับ” เขาถามต่ออย่างไม่ลดละ

    “อืม ก็ข้าวกล่อง ช็อคโกแล็ต อาหารหลายๆ ชนิดที่เบสิกน่ะจ้ะ” เธอหันหน้าไปตอบมุคุโร่ที่มองมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว พอรู้ดังนั้นเคียวโกะก็รีบหันหน้ากับทันที รู้สึกได้ว่ามือของทั้งสองคนที่วางทับกันอยู่อุณหภูมิสูงขึ้นทันที

    “เอ่อ แล้วเคียวโกะจังชอบวันไหนมากที่สุดในรอบปีครับ” เขารีบถามทำลายบรรยากาศเขินๆ ที่อบอวลไปรอบๆ เก้าอี้ไม้ที่ทั้งสองคนนั้งอยู่

    “งั้นเดี๋ยวฉันจะตอบหลังมุคุโร่คุงตอบก่อนนะ แล้วมุคุโร่คุงล่ะจ๊ะ ชอบวันไหน?” เธอย้อนถาม

    “ผมงั้นเหรอ? ผม… ชอบวันนี้ และทุกๆ วันที่จะได้เจอ… คุณ” มุคุโร่ตอบคำถามที่เสแสร้งปั้นแต่งขึ้นมาให้ดีที่สุดเพื่อที่จะครอบครองหัวใจของผู้หญิงข้างๆ

    …ขอโทษนะครับเคียวโกะจัง แต่ผมจำเป็นต้องโกหกคุณ ผมเสียใจจริงๆ นะ

    คำพูดของมุคุโร่ทำให้เคียวโกะใจเต้นแรงอีกครั้ง และมันก็เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันนี้

    ตึกตัก… ตึกตัก… ตึกตัก…

    …อ๊ะ หัวใจเป็นอย่างนี้อีกแล้ว ฉันเหนื่อยอีกแล้วเหรอเนี่ย?

    “แล้วคุณล่ะครับ… เคียวโกจัง?” เขาถามกลับบ้าง

    “ฉัน… ฉันก็… ชอบเหมือนมุคุโร่คุงแหละจ้ะ” เธอหลับตาปี๋ และตอบคำถามขณะที่หน้าแดงแปร๊ด

    “หึๆๆ งั้นเหรอครับ… ว้าว เราใจตรงกันซะด้วยนะเนี่ย J” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกส่งมาที่เคียวโกะอีกครั้ง

    “เอ่อ… มั้งจ๊ะ” เธอตอบอึกอัก

    “อ๊ะ” อยู่ดีๆ มุคุโร่ก็ร้องขึ้น ทำให้เคียวโกะหันไปมองด้วยความตกใจ

    “มุคุโร่คุง! เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ!?” เธอลนลานถามอย่างกังวล

    “ไม่หรอกครับ แค่… ผมต้องไปแล้วน่ะ” เขาที่หน้าซีดลงนิดๆ ตอบคำถามเธอ

    “มุคุโร่คุง… ต้องไปแล้วเหรอจ๊ะ?” เธอถามและทำหน้าเศร้า

    “ว่าแต่ที่ถามเนี่ย เป็นห่วงผมหรือครับ?” ถึงหน้าจะซีด เขาก็ยังคงคอนเซ็ปต์เจ้าเล่ห์เพทุบายไม่มีเปลี่ยน

    “ปะ… เปล่าซะหน่อยจ้ะ เป็นคำถามที่คนปกติเขาถามกันต่างหากล่ะ” เธอรีบหันหน้าหนีสายตาเจ้าเล่ห์ของเขาทันที

    “แล้ว… ที่ทำหน้าเศร้าตอนที่ผมบอกว่าต้องไปแล้วเนี่ย อยากให้ผมอยู่ต่อเหรอ? J

    “ก็… ก็… ใช่…” เธอตอบด้วยเสียงดังไม่เกินยี่สิบเดซิเบล แต่มุคุโร่จอมหูดี (ห้ามผวนเด็ดขาด L) ก็ยังได้ยินจนได้

    “หึๆๆ รอผมหน่อยนะครับ อีกสัปดาห์หนึ่งผมจะมาหาคุณอีก” เขาพูดเบาๆ

    เคียวโกะที่อยู่ในอารมณ์เขินอายจากการที่เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะได้ยินคำนั้นของเธอรีบลุกพรวดขึ้นทันที การที่เธอนั่งนานแล้วลุกพรวดพราดขึ้นเลยนั้นทำให้ร่างกายที่บอบบางของเธอปรับสภาพไม่ทัน เธอจึงเซล้มลงไป… อยู่ในอ้อมกอดของคนที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้

    “O_O/O_O” เหตุการณ์นี้มุคุโร่ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นเช่นกัน เลยทำได้แต่เบิกตาตกใจ

    ตอนนี้เธอกำลังนั่งหันหลังอยู่บนตักของมุคุโร่ที่โอบรอบเอวของเธออยู่ ลมหายใจของเขาที่เป่ารดต้นคอเธอทำให้เคียวโกะรู้สึกจั๊กจี้และใจเต้นไม่เป็นส่ำ กลิ่นกายหอมแบบผู้ชายของเขาที่ลอยมาแตะจมูกทำให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้มหลงใหล อ้อมแขนแข็งแกร่งที่โอบรัดตัวเธอทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก เธอกำลังตกใจแต่ก็กลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลยเชียวล่ะ!

    ทางด้านมุคุโร่ก็อึ้ง ทึ่งไม่แพ้กัน เขาตกใจที่อยู่ๆ ร่างกายเล็กๆ ของเคียวโกะก็ล้มลงมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา ผิวเนื้อของเธอนุ่มนิ่ม เขาได้กลิ่นหอมๆ จากผมลื่นๆ สีน้ำตาลอ่อนของเธอ แต่กลิ่นจากเนื้อหนังของเธอเป็นกลิ่นที่ต่างกัน ซึ่ง… เขาชอบทั้งสองกลิ่นนั่นมากเลยล่ะ

    ตึกตัก… ตึกตัก… ตึกตัก…

    ตึกตัก… ตึกตัก… ตึกตัก…

    …เอ๊ะ ทำไมเหมือนเสียงหัวใจเต้นแรงมันซ้อนกันจังล่ะ? ปกติมีแต่เสียงของฉันนี่นา

    เคียวโกะคิดในใจเพราะเสียงหัวใจเต้นตึกตักๆ ดังก้องกังวานไม่หยุดในหัวเธอ แต่มันดันมีสองเสียงนี่สิ งั้นก็แสดงว่า…

    …มุคุโร่คุงงั้นเหรอ?

    เธอคิดได้ดังนั้นก็รีบกระเด้งตัวลุกขึ้นด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ แต่นั่นทำให้มุคุโร่ที่กำลังตกอยู่ในอารมณ์เพ้อฝันสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันที

    “อ๊ะ” เขาอุทานเบาๆ และรีบลุกขึ้นยืนบ้าง

    “เอ่อ… งั้นผมไปก่อนนะ เคียวโกะจัง… เจอกันสัปดาห์หน้านะครับ” เขากล่าวลากับเธอ

    “จ้ะ เช่นกันจ้ะ ^^” เธอเองก็ตอบกลับมึนๆ เนื่องมาจากความคิดของเธอเมื่อกี้นี้

    หลังจากที่มุคุโร่เดินไปแล้ว เธอก็พึมพำกับตัวเองเบาๆ

    “ขอโทษนะมุคุโร่คุง แต่ฉันคิดว่าถ้าอยู่ในท่านั้นนานอีกนิดล่ะก็… ฉันคงห้ามใจไม่ให้ ‘ชอบ’ คุณไม่ไหวอีกแล้วล่ะ”

    แล้วเธอพึมพำออกมาอีกประโยคตอนที่เดินกลับบ้าน

    “อย่าให้ความหวังกับฉันโดยการทำให้หัวใจของคุณเต้นแรงเพราะฉันได้มั้ย… ฉันกลัว กลัวว่าจะเจ็บปวด… เพราะคุณ” เธอว่าจบก็เดินเข้าบ้านไปอย่างเหม่อลอย

     

     

    ที่ตรอกซอยแคบๆ เปลี่ยว ๆ แห่งหนึ่ง

    “โคลม เสียงหัวใจเต้นแรงในตอนนั้นมันคืออะไร… ทำไมมันถึงเกิดขึ้นกับผมล่ะครับ…” ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีผมสีน้ำเงินคนหนึ่งกำลังพูดอยู่คนเดียว

    “ผมควรจะหยุดมันดีมั้ย… ผมควรจะหลอกเธอต่อไปดีมั้ย…” เขายังพูดต่อราวกับไม่ได้พูดอยู่คนเดียว

    “ผมรู้สึกผิด ใช่ แต่ตอนนี้… ซาซางาวะ เคียวโกะน่ะ… เป็นบุคคลอันตรายต่อใจของผมมากเลยนะครับ” เขาพูดขณะนึกถึงใบหน้าเขินๆ ที่ดูยังไงก็เรียกได้ว่า ‘นางฟ้าบนโลกมนุษย์’ ของเธอ

    “ผม… จะทำยังไงไม่ให้เผลอไผลไปกับเธอดีนะ เพราะตอนนี้ผมน่ะ… ชักจะชอบวันที่ได้มาเจอเธอและวันนี้มากขึ้นไปทุกทีๆ แล้วสิ…” เขาพูดแค่นั้นและหมอกสีขาวขุ่นกลุ่มใหญ่ก็ห่อหุ้มร่างของเขาไว้มิด จนเวลาผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง เมื่อหมอกจาง ร่างของเด็กสาวผมสีม่วงใส่ชุดนักเรียนสีเขียวขี้ม้าคนหนึ่งก็ล้มลงนอนกับพื้นอย่างอ่อนแรง…

     

     

     

    To be continued ,, Waiting for 1886’s chapter !!

     

     

    ว่ะฮู้ยยย  ตอนนี้ก็ยาวเหมือนกันนะเนี่ยยย  ,, ตอนแรกกะว่าห้าหน้าครึ่งพอ  เอาเข้าจริงมันหกหน้าว่ะ  ๕๕๕ อูย ได้ยินว่าหลายคนไม่ปลื้มคู่นี้ ,, อ่ะนะ  จอยเองก็เฉย ๆ แหละ  {เพราะชอบยูซู  ซูมิน โฮซู มากกว่าอ่ะ กร๊ากกก กุนอกเรื่องค่ะ ฮ่า ๆ} แต่เห็นว่ามันคันไม้คันมืออยากแต่งรักหลอก ๆ อ่ะ =,.=^ ชื่อก็บอกแล้วนิ  Fake Love ฮี่ ๆ ๆ ,, ช๊อบบบ ชอบแต่งแบบนี้อ่ะ  ฮร่า ๆ อ่าน ๆ ไปเถ๊อะ ถ้าคุณคิดว่ามันไม่ได้เลวร้ายอะไร :”} ถ้ารับไม่ได้จริง ๆ ก็รอจอยต่อไปละกันน๊ะ ~ ครึ ๆ ๆ  เพราะต่อมขี้เกียจมันกระตุกตลอดเวลาเลยอ่ะ  งื้อ  =..=

     

    อยากบอกว่าขี้เกียจหาข้อมูลอ่ะ  จริง ๆ กะจะให้ถามว่า  “คุณเกิดวันที่เท่าไหร่ ?” แต่กุลืมวันเกิดน้องเคียวโกะค่ะ  ๕๕๕ เบ๊อะเซ๊อะเจง ๆ > < ~ ,, อยากจะบอกว่าเปิดฟิคใหม่แล้ว  จะอัพช้าลงหรืออัพเร็วขึ้นก็ขึ้นอยู่กับอัตราค.ขี้เกียจอ่ะจ่ะ  ,, เพราะฟิคเรื่องนึงก็แต่งจบไปแล้วเหมือนกัน  ฮิ ๆ

     

    ติดตามตอนต่อไปด้วยใจลุ้นระทึกนะ  ,, และตอนต่ไปเนี่ยแหละที่กุจะได้โปรโมตกับเขาซะที๊  โฮกกก

     

    ด้วยค.หวังดีถึงขีดสุด

     

    ไรท์เตอร์ เอ็นจอย ซีอา {enjoy xiah}

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×