ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oleander's Felony ❤ กับดักรักร้ายของนายจอมโหด {1886 TYL}

    ลำดับตอนที่ #11 : Oleander's Felony ❤ } 10 : Begining Mission

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 53


     

    10

    Beginning Mission

     

    เช้าวันต่อมา

    อากาศแจ่มใส  ห้องหรูๆ  แอร์เย็นฉ่ำ  เตียงคิงไซส์... ที่มีคนสองคนนอนหลับตาพริ้มอยู่  คนหนึ่งนอนนิ่งอย่างเป็นระเบียบ แต่อีกคนนอนทับอยู่บนหมอนข้างใบยักษ์และมือก็วางทับอยู่บนตัวของอีกคน

    อย่างที่รู้ๆ กัน  ฮิบารินอนนิ่งเหมือนสโนวไวท์ ส่วนฮารุ ไม่มีใครทราบว่าเธอเป็นคนหรือพะยูนเกยตื้นกันแน่  เพราะท่าที่เธอนอน  เหมือนที่บรรยายไปด้านบน เตียงนุ่มๆ ใหญ่ๆ มีไม่นอน  ไปนอนบนหมอนข้าง แถมบางทีเธออาจจะไม่ได้ตายดี เพราะมือข้างหนึ่งของเธอดันไปวางอยู่บนแผงอกของฮิบาริพอดิบพอดี

    ลุ้นระทึกว่าใครจะตื่นก่อน  ถ้าฮารุตื่นก่อน...เธอรอด  แต่ถ้าเป็นอีกคน...ไม่เหลือแหง

    “งืมมม...” เสียงฮารุงึมงำๆ ออกมาเหมือนละเมอ และต่อจากนั้น...ร่างบางที่นอนทับอยู่บนหมอนข้างก็ค่อยๆ กลิ้งหลุนๆ ตกจากหมอนข้าง กลิ้งไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็...

    แอ้ก!

    ...กลิ้งตกลงมาจากเตียง

    “อะ...โอยยย” ฮารุร้องโอดโอยเบาๆ และเอื้อมมือไปคลำก้น

    ไม่รู้ว่าเป็นโชคร้ายหรือโชคดีที่เธอกลิ้งตกเตียง ตกเตียงนั้นเจ็บก็จริง แต่ถ้าไม่ตกและนอนต่ออย่างนั้น อาจจะไม่จบแค่เจ็บน่ะสิ

    ฮารุขยี้ตาเบาๆ และค่อยๆ ยันตัวขึ้นไปนั่งบนเตียง จัดหมอนข้างให้กลับมาเหมือนเดิม (เดี๋ยวผิดสังเกตุ) หลังจากกลบเกลื่อนหลักฐานเสร็จ เธอก็ยุรยาตรเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำไป

    เพียงไม่นาน เมื่อเสียงน้ำใหลดังขึ้น ฮิบาริก็ลืมตาตื่น  เขามองไปรอบๆ ตัวเหมือนจะเช็คว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า  แล้วเมื่อพบว่าไม่มีอะไร เขาก็ลุกขึ้นนั่ง แต่ตาเจ้ากรรมก็ดันหันไปเห็นเงาที่ห้องอาบน้ำอีกแล้ว...

    ขวับ!

    ฮิบาริตาสว่างโร่ทันที พลางคิดในใจ  สยองอีกแล้ว กี่ทีๆ ก็น่ากลัว -_-; 

    “เสร็จรึยัง -*-“ เขาถามฮารุที่อยู่ในห้องน้ำโดยไม่หันหน้าไปมอง

    “เอ๊ะ ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงหวานๆ ของฮารุดังขึ้นอย่างตกใจ

     -_-

    “งั้นรอแป๊บ ประมาณสิบห้านาที ใกล้เสร็จแล้วล่ะ”

    ฮิบาริส่ายหัวเบาๆ และเดินไปเปิดแลปท็อปที่วางอยู่บนโต๊ะของเขา  เพราะเขาคิดว่าถ้าไอ้คำว่า แป๊บ ของฮารุน่ะมันคือสิบห้านาที  มันก็คงไม่แป๊บสำหรับเขานักหรอกนะ

    ซ่า แอ๊ด!

    “เอ้า ฉันอาบเสร็จแล้ว” ฮารุที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวก้าวออกมาจากห้องน้ำผ้าม่าน ในขณะที่มือก็เช็ดผมยุกยิกๆ อยู่

    ฮิบาริเห็นดังนั้นจึงวางมือจากการทำงานในแลปท็อป  และเดินเข้าห้องน้ำไป  ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของฮารุที่มองไปทางแลปท็อปสีดำของเขา

    ...หมอนี่มันมีงานอะไรให้ทำนะ? ช่างเถอะ ถ้าไปยุ่งล่ะก็ งานนี้คงจะได้ตายก่อนแต่งงานแน่ๆ

    ฮารุถอนหายใจเบาๆ และเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเครื่องแต่งตัวของเธอออกมา

     

    10.40 a.m.

    “เอ่อ... จะไปไหนดีครับคุณหนู ^^;” คนขับรถน่าสงสารที่ไร้บทมานานถามขึ้น พลางหักพวงมาลัยเลี้ยวไปตามทางถนน

    ฮารุกางแผ่นพับแนะนำที่หยิบมาจากเคาน์เตอร์โรงแรมและบอกจุดหมายปลายทาง “ฉันจะไป เซาท์อีสต์โบตานิคเคิล การ์เด้น*”

    * เป็นสวนพฤกษาชาติที่รวบรวมพันธุ์ไม้ต่างๆ ในแถบหมู่เกาะโอกินาวา ซึ่งมีลักษณะเป็นไม้ในแถบเมืองร้อน แต่จัดแต่งสวนได้งดงาม

    ฮิบาริที่นั่งอยู่ข้างหลังเหลือบมองไปทางเธอนิดๆ อย่างเหนื่อยหน่าย  เขาไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะๆ และเขาก็ไม่ได้อยากไปด้วย  แต่...การที่เขาไม่บ่น  ไม่ขัดขืน ทั้งๆ ที่อยากทำแทบตายนั้น  ขอให้ละไว้ในฐานที่เข้าใจกันทุกคนนะว่าเหตุผลมันคืออะไร

    ผ่านไปราวๆ สิบนาที  รถตู้ก็แล่นมาจอดที่ที่จอดรถใกล้ๆ จุดมุ่งหมาย  คนขับรถรีบเดินไปเปิดประตูให้ฮารุอย่างรวดเร็ว  ฮารุเห็นเขาทำแบบนี้แล้วก็นึกได้  เลยหันไปแขวะฮิบาริที่กำลังปิดประตูรถ

    “เฮอะ  ลุงนี่ดีจังนะ เป็นสุภาพบุรุษอุตส่าห์เดินมาเปิดประตูให้ฉัน ผิดกับคนแถวๆ นี้จริงจริ๊ง  ไม่มีแม้แต่จะแลมอง L

    “หึ ไร้สาระ” ร่างสูงมองคนตัวเล็กกว่าเพียงหางตา และเอ่ยถ้อยคำเจ็บแสบที่ปักเข้ากลางใจเธอดังฉึก!

    “กรี๊ด! =[]=^ฮารุกรีดร้องและกระทืบเท้าเร่าๆ อย่างเจ็บใจที่เถียงแพ้  คนขับรถรุ่นลุงที่มองอยู่ก็ถึงกับขาสั่นพั่บๆ ผิดกับไอ้ตัวต้นเหตุที่ยังหน้าตายเดินอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

    เมื่อทะเลาะกันเสร็จ ทั้งสอง (บวกหนึ่ง) ก็เดินเข้าไปในสวน  ภายในสวนนั้นมีพรรณไม้มากมาย  ส่วนมากจะเป็นไม้เขตร้อน  แต่ออกแบบสวนแนวผสมผสานตะวันตกและตะวันออกได้อย่างลงตัว 

    เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงไฮซีซั่น  คนจึงมาเที่ยวกันเยอะ  ซึ่งแน่นอนว่าคนมาเที่ยวเยอะ ที่นี่ก็ต้องมีคนเยอะด้วยเช่นกัน  ฮารุรู้ดี  แต่ก็ยังดันทุรังเข้าไปถ่ายรูปให้ได้  เธอบอกว่า อุตส่าห์มาทั้งที ถ้าไม่ถ่ายรูปก็เสียเที่ยวแย่สิ

    “นี่ อีตาฮิบาริ ถ่ายรูปให้ฉันบ้างสิ ให้ลุงคนขับรถถ่ายอยู่คนเดียวเลย” ฮารุดึงกล้องจากมือชายแก่ที่ยืนปาดเหงื่ออยู่ไปยื่นให้ฮิบาริที่เพียงแค่เหลือบตามองมันเท่านั้น

    “นี่! ได้ยินกันมั้ยเนี่ย!”

    “...”

    “โธ่เอ๊ย! อยากจะมีเรื่องกันให้ได้ใช่มั้ยหา!” เมื่อเห็นว่าคนเริ่มมองมาเยอะ  ร่างบางก็รีบล้วงกระเป๋า  หยิบแบล็กเบอรี่ขึ้นมาทันที

    หมับ!

    จะทำอะไร -_-+” ฮิบาริคว้าข้อมือฮารุไว้ในขณะที่เธอกำลังไล่เบอร์เพื่อหาเบอร์ของคุณนาย

    “เอ๊ะ  ก็จะโทรไปฟ้องน่ะสิ!” ฮารุว่าพลางพยายามจะดึงมือกลับมา

    อยู่ดีๆ คนขับรถที่นั่งหอบแฮกใกล้ตายอยู่ก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที  เขาลุกขึ้น  หยิบกล้องที่ฮารุวางไว้ข้างๆ ขึ้นมากดถ่ายรูปรัวๆ ไปที่ทั้งสองแบบไม่ให้รู้ตัว

    “เฮ้ย! นั่น!” ในขณะที่ยื้อแย่งกันไปมาอยู่นั้น  ฮารุก็แกล้งทำตาโตและชี้ไปที่หนึ่ง และตอนที่ฮิบาริเผลอ  เธอก็รีบใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การจับกุมของเขา ฉวยเอามือถือที่รักของเธอมาทันที

    ติ๊ดๆๆ

    เมื่อไม่มีเวลาไล่หาเบอร์แล้ว  ฮารุก็เลยกดเบอร์คุณนายที่เคยจำไว้เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน (เช่นนี้) อย่างเร่งด่วน  แต่ก็ดันลืมไปว่าฮิบาริยังเหลือมืออยู่อีกข้าง  เขารีบยึดข้อมือของหญิงสาวไว้ทันที

    คนขับรถได้ทีอีกแล้ว  เขารีบกดชัตเตอร์รัวๆ เหมือนนักข่าวถ่ายภาพหลุดดารา  หน้าตายิ้มร่าอย่างมีความสุข  เพราะพอคิดว่าพอเอาภาพพวกนี้ไปให้คุณโยโกะจะได้เงินเยอะขนาดไหนแล้ว  ปากมันก็ยิ้มกว้างแบบหุบไม่ได้เลย  เนื่องจากว่านี่เป็น ภารกิจ ที่ง่ายมาก  แต่ก็หาจังหวะทำได้ ยากโคตร เช่นกัน  วินาทีนี้จึงเหมือนเป็นวินาทีทองของเขาเลยทีเดียว

    “นี่! เอามือออกไปนะไอ้บอดี้กิ้งก่า ฉันจะโทรหาคุณนายว้อย!” ฮารุพูดขณะออกแรงกระชากมือตัวเองกลับมา

    “ปล่อยให้โง่”

    “งั้นนายก็ปล่อยสิ! ฉันไม่คิดจะโทรถ้านายทำตัวดีๆ!” ฮารุเริ่มต่อรอง

    -_-+”

    ปล่อยโว้ย!” ในที่สุดมือฮารุก็เป็นอิสระ แต่นั่นก็เพราะฮิบาริไม่ออกแรงบีบแล้วต่างหาก

    “ชิ” ร่างบางสบถเบาๆ และเก็บมือถือลงกระเป๋า

    “เออๆ ไม่ถ่ายก็ไม่ต้องถ่าย... ไปกันได้แล้ว!” ประโยคหลังเธอหันไปพูดกับลุงคนขับรถที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พอใจกับผลงานตนเอง

    ฮารุกับฮิบาริทะเลาะกันตลอดทาง อย่างตอนที่ฮารุบอกว่า ฉันว่าต้นไม้แถบตะวันตกสวยกว่าอีก น่าจะมีเยอะๆ หน่อยนะ ฮิบาริก็เถียงกลับทันที ปัญญาอ่อน ต้นไม่เขตร้อนมีคุณค่ากว่าตั้งเยอะ หึ ก็สมล่ะนะ ที่สัตว์กินพืชอย่างพวกเธอจะชอบไม้เตี้ยๆ จากฝั่งตะวันตก แล้วผลน่ะเหรอ? เขาก็โดนฮารุแว้ดๆๆ ใส่น่ะสิ

     

    13.53 p.m.

    “อืมมม อ๊ะ! ร้านนั้นๆ ร้านนั้นไง!” ฮารุว่าพลางชี้ๆ ไปที่ร้านอาหารสุดหรูที่มีคนไม่มากนัก (เพราะแพง) ร้านหนึ่ง

    ตอนนี้ก็เลยเที่ยงมาแล้ว หลังจากเดินเที่ยวหมดทั้งสวน พวกเขาก็พากันขับรถมองหาร้านอาหารไปเรื่อยๆ จนมาเจอร้ายที่ฮารุถูกใจถึงจะได้เข้าไปทาน

    “ฉันสั่งเมนูแนะนำทั้งหมด และเอาอาหารอะไรก็ได้ชุดนึงไปให้คนขับรถฉันที่รถตู้ด้วย” ฮารุสั่งโดยไม่ดูเมนูเลย มันเป็นเพราะเธอนั้นหิวมากจนตาลาย บวกกับที่เมื่อกี้เจอแดดเปรี้ยง คนเยอะ แถมอากาศร้อนมาจากสวนพฤกษชาติ ส่งผลให้ตอนนี้เธอนั่งดมยาดมแก้เป็นลมอยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีน้ำใจสั่งอาหารไปเผื่อคนขับรถชราที่อาการหนักพอๆ กันด้วย

    “เร็วๆ หน่อยนะ ไม่งั้นอดทิป!”

    เมื่อพนักงานสาวจดยึกยักๆ รับออร์เดอร์เสร็จ คุณเธอก็กุลีกุจอเอามันไปให้เชฟอย่างรวดเร็ว ฮารุรู้สึกเวียนหัวอีกแล้ว เธอจึงรีบหยิบยาดมขึ้นมาสูดลึกๆ

    ฮิบาริเห็นดังนั้นก็ยิ้มเยาะ “หึ สมน้ำหน้า”

    “อะไรยะ ไม่ช่วยก็เงียบไปเลยไป๊! Lฮารุหันไปแขวะด้วยความหมั่นไส้ และหยิบครีมกันแดดขึ้นมาทาเป็นรอบที่สี่ของวัน

    เนื่องจากว่ามาเที่ยวหน้าร้อน  ชุดที่เธอเอามาจึงมีแต่ชุดหวิวๆ ก็อย่างเช่นวันนี้ที่เธอใส่มาเป็นสายเดี่ยวครึ่งตัวสีส้ม เผยให้เห็นหน้าท้องขาวเนียนที่แบนเรียบ หัวใหล่กลมกลึง คอขาวยาวระหงส์ และเอวที่คอดได้รูปของเธอ ส่วนกางเกงนั้นเป็นกางเกงสั้นตัวจิ๋วเอวต่ำสีเหลือง ผูกทับด้วยเข็มขัดสีขาว และรองเท้าที่เธอใส่ก็รองเท้าหุ้มส้นสีส้มขาวยี่ห้อดัง การที่เธอใส่กางเกงขาสั้นมากๆ ทำให้ผู้ชายหลายต่อหลายคนลอบมองขายาวเรียวสวยของเธอบ่อยๆ แต่เธอมิแคร์ เธอสวยเพื่อถ่ายรูปเท่านั้น!

    และอีกอย่าง หมวกปีกใบใหญ่และแว่นตากันแดดกุชชี่ของเธอก็อยู่ในรถด้วย

    ฮิบาริมองการแต่งตัวโชว์นู่นโชว์นี่อย่างไม่อายสายตาใครของฮารุแล้วส่ายหัว

    ในที่สุดอาหารก็มาเสิร์ฟ ฮารุไม่รอช้า รีบลงมือโซ้ยทันที ฮิบาริที่มองอยู่ก็ทำหน้าสมเพชหน่อยๆ และก้มลงทานอย่างมีมารยาท

    เวลาผ่านไปไม่นาน อาหารทั้งโต๊ะที่มีอยู่ขนาดห้าคนกินก็ถูกฟาดเรียบด้วยฝีมือของคนสองคนที่กำลังหิวจัด ฮารุยกผ้าขึ้นเช็ดปาก และหยิบเงินไปให้พนักงานที่จ้องของในมือเธอตาวาววับ

    “ไม่ต้องทอนจ้ะ ที่เหลือถือว่าเป็นทิปละกันนะ” ฮารุเริ่มพูดจาดีขึ้น เพราะรู้ตัวว่าตอนแรกเผลอวีนโมโหหิวไปหน่อย

    “ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ โอกาสหน้าเชิญอีกนะค้า ^_^พนักงานสาวยิ้มแก้มปริ เนื่องจากได้กำไรคูณสอง คือได้ทิปเยอะ และยังได้อาหารสายตาเป็นหนุ่มหน้าโหดที่มากับคนใจดีที่ให้เงินเธออีกต่างหาก (ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครกับใคร)

    เมื่อทั้งสองคนเดินมาถึงรถก็พบว่าลุงคนขับได้สตาร์ทรถรออยู่แล้ว พอขึ้นไปนั่งและขับออกมาบนถนนแล้ว ฮารุก็บอกจุดหมายต่อไปทันที

    “ฉันอยากไป พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิ*”

    *เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความทันสมัยที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีอะควาเรี่ยมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น คือมีขนาด 7500 ลูกบาศก์เมตร

    หลังจากที่ฮารุพูดจบ ฮิบาริก็หันมาจ้องเธอแทบจะทันที

    ...นี่ยังคิดจะไปอีกเรอะ

    เขาคิดพลางก้มมองนาฬิกา ที่บอกเวลา 15.21p.m. แล้ว

    “อย่าบ่นทางสายตาและในใจน่ะ ฉันรู้ทันนะยะ -_-+” ฮารุหันหลังมาบ่นฮิบาริ

    “ยุ่ง -_-++”

    “เออน่ะ ก็ไม่ได้อยากยุ่งนักร้อก พอดีว่าคนมันรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่ส่งมาเฉยๆ น่ะ” ฮารุแขวะกลับ

    “อยากตาย...”

    “ถะ...ถึงแล้วครับทั้งสองคน” ฮิบาริยังพูดไม่ทันจบ เสียงสั่นๆ ของคนขับรถก็ดังขึ้นแทรก

    “ว้าว ถึงแล้วเหรอ!” ฮารุกระเด้งตัวจากเบาะและรีบลงจากรถอย่างกระดี๊กระด๊าสุดๆ ขณะที่ฮิบาริหันไปทำสายตาเย็นยะเยือกใส่คนขับรถที่ขาแข้งอ่อน เกาะประตูรถอยู่กับที่ด้วยความกลัว

    “ว้าว! สวยจังเลย! ลุง ถ่ายรูปๆๆ” ฮารุตะแง้วๆ ให้ถ่ายรูป และเดินไปยืนหน้ากระจกที่กั้นระหว่างน้ำกับพื้นที่คนเดิน

    แชะๆ

    “ไปกันต่อเถอะ!” ฮารุว่าและเดินเข้าเบียดฝูงคนมากมายที่ต่อแถวเข้าที่นั่งคนดูโชว์ปลาโลมา

    พลั่ก!

    กลุ่มเด็กชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเล่นกันไปเล่นกันมาจนคนหนึ่งถูกผลักมาชนฮารุ นี่คือความคิดของคนทั่วไป แต่ความจริงแล้วพวกมันแค่ทำเนียนอยากสัมผัสผิวขาวๆ เนียนๆ น่าเจี๊ยะของฮารุต่างหาก

    “ว้าย!!” ฮารุร้องขึ้นเมื่อกำลังจะล้ม แต่ก็มีมือของคนคนหนึ่งจับแขนและดึงตัวเธอไว้ไม่ให้เสียหลัก

    “บอดี้การ์ด! O_O” เธออุทานอย่างตกใจ ตอนแรกเธอก็นึกว่าจะเป็นสุภาพบุรุษคนไหนมาช่วยเธอเสียอีก

    ...คุณคนขับรถก็ได้ทีกดชัตเตอร์เพิ่มเงินอีกแล้วสิ

    “พะ...พวกผมขอโทษครับ เพื่อนผมมันเล่นแรงไปหน่อยน่ะ แหะๆ” วัยรุ่นหื่นเบอร์หนึ่งแหลขึ้นคนแรก พลางยิ้มเยาะในใจ ประมาณว่าดีใจที่ได้แต๊ะอั๋งสาวสวยแต่ไม่มีใครรู้

    ...ซะเมื่อไหร่

    ผัวะ!

    ฮิบาริยกขาขึ้นและตวัดเตะหัววัยรุ่นหื่นเบอร์หนึ่งจนกระเด็นไปติดกระจกเหมือนตุ๊กแก มันหันมามองอย่างไม่เข้าใจ และแล้วฮิบาริก็เฉลย

    “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกคิดอะไร ไอ้สัตว์กินพืช” เขาพูดด้วยใบหน้าโหดร้าย ที่ใครๆ เห็นแล้วต้องพากันวิ่งหนีจนหัวซุกหัวซุน กับเจ้าวัยรุ่นหื่นแก๊งนี้ก็เช่นกัน พวกเขาพากันแทรกตัวผ่านฝูงญี่ปุ่นมุงไปอย่างรวดเร็ว

    “ขะ...เอ่อ...ขอบใจ...มั้ง” ฮารุอ้อมแอ้มพูดเสียงเบา

    “...”

    “แล้วเมื่อกี้นายเตะเขาทำไม เขาแค่ถูกผลักมาชนฉันเองนะ”

    “ยัยโง่ ไอ้นั่นมันจะลวนลามเธอต่างหาก”

    “หา!”

    “ก็อยากแต่งตัวแบบนี้มาเองนี่”

    “หน็อยยย ไอ้...ไอ้เด็กบ้า!!”

    “เอ่อ แล้วจะต่อแถวต่อมั้ยครับ?” ลุงคนขับถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ เนื่องด้วยเวลาฮารุอารมณ์เสียนั้นจะวีนไม่เลือกหน้าเลย

    “ไม่แล้ว! กลับโรงแรมเลย หงุดหงิดย่ะ! Lฮารุหันไปตะคอกคนขับรถรุ่นลุงและเดินกระแทกเท้ามุ่งหน้าตรงไปยังทางออก

    ฮิบาริยกมือขึ้นปิดปากหาวเบาๆ และเดินตามฮารุไปพร้อมกับลุงคนขับ พลางคิดในใจ

    ...แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน  จะได้รีบกลับไปนอน

    ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นปิดปากหาวอีกที

     

    (End Beginning Mission)

      

     

    TBC. Next chapter 2nd Night

    หายไปเฉย ๆ อีกหนึ่งสัปดาห์ ฮ่า ๆ ช่วงนี้มีสอบย่อยเย๊อะ เลยไม่ค่อยได้มาอั๊พ  แถมยังแว๊บไปหลายที่อีกตะหาก คนอื่นคงสอบเสร็จแล้ว  แต่ร.ร. จอยเปิดช้า (เรดเชิร์ต) เลยจะสอบวันจันทร์นี้แหละ - -* สอบไม่มีไรมาก แต่คิดว่าเลขเสริมยากกว่าเลขหลักอีก แง่ง บ้าจริงจริ๊ง อยากไปเผาบ้านคนที่มันคิดว่าให้มีการเทสต์ทดสอบบนโลกนี้จังว๊อย

    เล่นทวิตเตอร์มาได้เป็นพัก ๆ แต่จอยคิดว่าจอยบ้า เพราะเล่นฟอลโล่วแต่คนญี่ปุ่น เลยมีแต่คนทวีตเป็นภาษาญี่ปุ่น  - -“ ก็ฟอลโล่วคนที่เป็นแคสอ่ะแหละ ทงบังอินก็นาน ๆ ทีจะทวีต ทงบังเอเวกซ์นี่ยิ่งแล้วใหญ่ แม่ม จะทวีตกันไปภาษาอังกฤษไม่ได้เลยหรอค๊า ?? ตูลำบากใจน๊าว๊อยยยย

    ตอนนี้ไม่มีอะไรมาเม๊าท์ พูดได้แต่คำว่าคิดถึงทงบัง (ตลอดแหละอินี่ ๕๕) อ่านแฟนแอ๊คของแคสจีนที่ไปขอลายเซ็นจุนในแอร์พอร์ตแล้วก็แบบ ... พูดไม่ถูก อยู่ดี ๆ น้ำตามันใหลอ่ะ พอต่อมาอ่านจบแล้วก็เริ่มสะอึกสะอื้นอย่างน่าเกลียด - -“ คิดว่าดีใจที่รักถูกคน คิมจุนซูแห่งทงบังชินกิ เขาเป็นคนที่ประเสริฐจริง ๆ และก็แอบน้อยใจว่าทำไมเราถึงไม่ได้มีโอกาสแบบนั้นบ้าง น้อยใจมาก ทำไมไทยถึงได้เป็นลำดับท้าย ๆ ที่อยู่ในลิสต์แคสตลอด ทำไม ทำไม และทำไม ?? เฮ้อ ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่อง งอนไปใครเขาจะไปรู้ แต่จะบอกว่าหมีก็ประเสริฐนะ มาก ๆ ด้วย อ่านเควสชั่นแอนด์อานเซอร์แล้ว ประโยคเด็ดของยุน “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะปกป้องผู้หญิงด้วยชีวิตของผม” ...... จอยอ่านแล้วก็ร้องไห้อีกรอบ - -* อินี่ดราม่าตลอด นึกอิจฉาคนที่จะได้มาเป็นคนที่ยุนรัก ได้ผช. ที่ทั้งเป็นสุภาพบุรุษ กตัญญู เก่ง เลิศ หล่อ (เน้น) โรแมนติก แบบนี้มาเป็นแฟน เป็นจอยนะ จะกลับไปกราบพระที่วัดเลย ประมาณว่าขอบคุณค่ะ ... แต่จริง ๆ พี่ ๆ ทงบังทุกคนก็เป็นแบบนี้แหละ ยกเว้นมินที่จะขาดข้อโรแมนติกไปนิสสส ๕๕๕ ไม่โกรธกันนะจ๊ะชางมิน แต่นู๋น่ารักน๊า แบบว่าไม่จำเป็นต้องโรแมนติก แต่ก็มีเสน่ห์ของตัวเองที่จริงจังเสมอมาทำให้หลงได้อ่ะ ตอนที่ใบหน้าของมินดูจริงจังกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง สนอกสนใจกับมัน จดจ้องมัน มันเป็นใบหน้าที่มีเสน่ห์มากกกกก มาก ๆ ๆ ผช. อะไรไม่รุ มาทำให้เค้าหวั่นไหวตลอดเวลา นี่ถ้ามาหากันถึงบ้าน จุนมีโอกาสถูกลืมนะเนี่ย 555555 5.

    พอผ่านช่วงสอบไป (สองวัน) ก็จะรีบปั่นให้อีกทีจ่ะ

    ไรท์เตอร์ เอ็นจอย ซีอา




    nu eng

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×