ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oleander's Felony ❤ กับดักรักร้ายของนายจอมโหด {1886 TYL}

    ลำดับตอนที่ #10 : Oleander's Felony ❤ } 9 : Round 4 & 1st Night

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 53


     

    9

    Round 4 & 1st Night

     

    ผ่านไปสามสิบนาที

    เนื่องจากว่าเดินทางมาถึงกันตอนเกือบๆ จะเที่ยงแล้ว  พอจัดของใส่ตู้เสื้อผ้าเสร็จ  ฮารุเลยบอกฮิบาริว่าให้ไปหาร้านอาหารทานข้าวด้วยกัน  (โชคดีที่ตู้เสื้อผ้ามีแยกเป็นสองฝั่งในตู้เดียวกัน  ไม่งั้นได้มีวางมวยกันแน่ๆ) ปกติฮิบาริจะชอบขัดคำสั่ง แต่ ณ เวลานี้เขาก็เริ่มหิวได้ที่แล้วเหมือนกัน  ก็เลยเออออไปโดยการทำหน้านิ่งใส่ (?)

    ฮารุที่เป็นคนพิถีพิถันในการทานอาหาร (หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าเรื่องมาก เลือกกิน นั่นเอง) บอกฮิบาริว่าอยากออกไปทานข้าวข้างนอก แต่ดั๊นขัดกับฮิบาริซะคนละทิศคนละทาง เพราะฮิบารินั้นเป็นคนที่ไม่เรื่องมาก เขาเห็นว่าการกินอาหารนั้นเป็นสิ่งจำเป็น และกินเพื่อให้อยู่รอดเท่านั้น อร่อยด้วยก็ดี แต่ไม่จำเป็นต้องโง่เง่าตัดสินอาหารที่บรรยากาศ เขาจึงตัดสินใจทานกลางวันที่โรงแรมซะ แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ว่า...

    “ไอ้บอดี้การ์ดดด!” ฮารุที่เห็นฮิบาริไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ที่นั่งในร้านอาหารของโรงแรมซะทีตะโกนขึ้น

    -_-“

    “ไปกับฉันเดี๋ยวนี้นะยะ!”

    “-_-“

    จะไปไม่ไปหา!”

    -_-“

    “โอ๊ย! เออๆๆ กินที่นี่ก็กินที่นี่ฟะ! จำไว้เลยนะไอ้บ้าเอ๊ยยย Lฮารุที่ตะแง้วๆ ฮิบาริอยู่นานยอมจำนนเมื่อเห็นว่าจะพูดปากเปียกปากแฉะสักเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอมไปกับเธอแน่นอน

    ปุจฉา : แล้วทั้งสองคนเอาเจ้าคนขับรถที่น่าสงสารแกมสมเพชไปไว้ไหนเอ่ย?

    วิสัชนา : ก็สั่งให้ไปนอนกับภารโรงนะซี่

    “อีตาฮิบาริสั่งอะไรฉันก็เอาตามนั้นแหละ -_-“ ฮารุมองเมนูอยู่นานสิบวิ เพราะว่าหิว อะไรๆ ก็เลยดูน่าทานไปซะหมด แต่จะสั่งมาทั้งหมดก็กลัวสายตาประณาม เลยตัดปัญหา สั่งตามคนร่วมโต๊ะซะเลย เพราะปกติเวลามากับโยโกะ เธอก็ทำแบบนี้เหมือนกันแทบทุกครั้ง

    แต่...เธอดันลืมคิดไปว่าฮิบารินั้นไม่เหมือนโยโกะ...

    “ฮึ...” หลังจากที่ทำหน้าครุ่นคิดอยู่กับเมนูอยู่นานจนพนักงานสาวมองตาละห้อย (เพราะโดนความหล่อซัดเต็มๆ ลูกตา) ฮิบาริก็ทำเสียงขึ้นจมูกและแสยะยิ้มชั่วร้าย ส่อแววมีแผนการทันใด

    เขาหันไปคุยอะไรสักอย่างกับพนักงาน  ด้วยเสียงที่เบามากจนฮารุที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะไม่ได้ยินเลย แต่ฮารุไม่คิดจะสน เพราะคิดว่าอีตาฮิบาริกำลังจีบพนักงานหน้าตาจิ้มลิ้มคนนั้นอยู่

    หลังจากที่ซุบซิบ (แบบหน้าห่างกันเป็นเมตร) กันอยู่สักพัก พนักงานสาวก็ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกหันไปมองฮารุที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่นั่งจิ้มบีบีอยู่  แต่สำหรับเธอแล้ว เพศพ่อสำคัญกว่าเพศเดียวกันเสมอ! (อ้าวเฮ้ย แล้วเพศแม่เล่า~) เธอจึงจำยอมทำตามคำพูดของฮิบาริแต่โดยดี

    เวลาผ่านไปสักสิบนาทีกว่าๆ ได้ อาหารหน้าตาเหมือนกันสองชุดก็ถูกยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ฮารุมองไปที่จานของตัวเองแล้วก็หันหน้าขึ้นไปเหน็บแนมฮิบารินิดหน่อย “โอ๊ะโอ สปาเกตตี้มีทบอล สตูเนื้อ ซุป... แหมๆ บอดี้การ์ดฉันก็รสนิยมดีใช้ได้นี่  ออกจะหรูเหมาะกับฐานะซะด้วยซ้ำ หึๆ J

    -_-^” ฮิบาริแอบกระตุกคิ้วเล็กน้อยกับคำชมกำกวมคำด่า  แต่ก็ทำเป็นอิกนอร์ไม่สนใจ และหยิบช้อนส้อมขึ้นมาตักอาหารกิน

    ...แต่ก็มิวายแอบลอบมองพฤติกรรมยัยฮารุด้วยหางตาตลอดเวลา

    ฮารุที่กำลังหิวสุดๆ รีบม้วนๆๆ พันๆๆ เส้นสปาเกตตีเข้ากับส้อม และงับเข้าปากทันที  เธอเคี้ยวหงุบหงับๆ ด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข แต่ก็แอบรู้สึกงงๆ ในรสชาติที่จัดจ้านของมันไปสักนิด

    ฮารุหันไปตักสตูเนื้อขึ้นมากินสองคำ ตักซุปมาซดอีกสองคำ หันกลับไปจิ้มมีตบอลขึ้นมากิน หน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ ผิดกับฮิบาริที่ยังเฉยๆ

    ...สงสัยจะคิดไปเองมั้งงง ช่างเถอะ ยังไงก็ต้องกินให้หมดก่อนอีตาฮิบาริให้ด้ายยยย!

    ด้วยความอยากเอาชนะงี่เง่าของฮารุ โดยที่เธอไม่รู้ตัว ในขณะที่กำลังยิ้มเยาะใส่ฮิบาริว่าเธอชนะแล้วๆ นั้น... คนที่หัวเราะทีหลังย่อมหัวเราะดังกว่าเสมอ ในปากของเธอมันเริ่มแสบร้อนจนทนไม่ไหว หน้าแดงอย่างกับลูกตำลึงสุก  ปากก็เริ่มแดงและบวมขึ้นมานิดๆ ด้วยความ...เผ็ด

    “โอ๊ยๆๆ น้ำๆ น้ามมมม TOT” ฮารุซี้ดปากด้วยความเผ็ดพลางเอามือพัดโบกแถวๆ ปากด้วยรีเฟล็กซ์ธรรมชาติของคนกำลังเผ็ด

    ถ้านึกภาพไม่ออก...ลองนึกถึงโฆษณาปาปริก้าดูก็ได้นะคะ

    ฮารุรีบซดน้ำอึกๆๆ จนหมดแก้ว ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่พอ เธอโบกมืออย่างบ้าคลั่ง ฮิบาริที่กำลังเช็ดปากอยู่ยิ้มสะใจ แต่ก็ยังมีน้ำใจดันแก้วน้ำของตนไปให้ฮารุ...

    ...แต่เมื่อฮารุรับไปดื่มกลับยิ่งรู้สึกเผ็ดร้อนมากกว่าเดิม! แถมยังรู้สึกขมปิ๊ดปี๋ไปทั้งปากอีกด้วย!

    “กรี๊ดดด ไอ้บอดี้การ์ดบ้า~~! นายดื่มน้ำบ้าอะไรของน้ายยย ไอ้บ้าๆๆ ขมชิบเลยโว้ยยยย! ร้อนด้วยยย อ๊ายยย!! TTOTT” ฮารุทนนั่งอยู่กับโต๊ะไม่ไหวอีกต่อไป รีบวิ่งไปที่โต๊ะบุฟเฟต์ซึ่งมีเหยือกน้ำอยู่สองสามเหยือกทันที

    อึกๆๆๆ

    เธอรีบคว้าแก้วแถวๆ นั้นมา เทน้ำใส่ และยกมันขึ้นดื่มทันทีอย่างไม่รีรอ ภาพเหล่านั้นถูกจับจ้องด้วยสายตาพนักงานหลายคนที่ทำหน้าเห็นใจเธอ และ...ตัวการ ฮิบาริ

    ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น...ว่าภายใต้ผ้าเช็ดปากที่เขาใช้มันเช็ดปากอยู่นั้น...มีรอยยิ้มสะใจปรากฏอยู่!

    เมื่อดื่มน้ำจนหายเผ็ดแล้ว (หมดไปสองเหยือกครึ่ง) ฮารุก็รีบวิ่งกลับมาที่โต๊ะทันที

    “อีตาฮิบาริ!! =[]=^^

    “มีอะไร -_-“ ฮิบาริแกล้งตีหน้านิ่งถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องอะไร...ก็เมื่อกี้เขายังสะใจแทบตายอยู่เลยนี่นา

    “ฉันไปเค้นคอยัยพนักงานคนเมื่อกี้มาแล้ว ยัยนั่นบอกว่านายจงใจให้เทพริกป่นทั้งกระปุกลงไปในอาหารของฉัน! แถมไอ้น้ำขมๆ ของนายนั่นน่ะ นายตั้งใจจะแกล้งฉันใช่มั้ย! นึกแล้วเชียว! คิดอยู่แล้วว่าคนอย่างนายจะมีน้ำใจได้ไง โอ๊ย!! -O-++”

    ฮารุบ่นเป็นชุดใส่ฮิบาริที่กำลังลุกขึ้นและเดินกลับห้อง

    “แล้วกุ๊กบ้าอะไรวะเนี่ย คลุกเคล้าพริกได้แนบเนียนชิบเป๋ง เดี๋ยวต้องไปขอซื้อตัวมาบ้างแล้วมั้งเนี่ย หน็อยยย -_-++”

    “-_-”

    นี่ไอ้บ้า! ไม่มีความสำนึกผิดเลยเรอะ นายแกล้งฉันนะว้อย!!! L

     หัดส่องกระจกซะมั่ง ไม่อายเลยรึไง ปากพองอย่างกับหนังคางคก ฮึ -_-“ ฮิบาริว่าแล้วเดินจากไป

    ...ทิ้งให้ฮารุที่หยิบกระจกจากกระเป๋าถือขึ้นมาส่องสติแตกอยู่คนเดียว

    “กรี๊ดดดด! ปากช้านนนน!! TTOTT”

    Round 4…

    Hibari vs Haru

    3 : 1!

     

    20.38 p.m.

    หลังจากผ่านมื้อกลางวันแสนสุขสันต์ไป ยัยฮารุก็ร้องโอดโอยกับปากตัวเองอยู่ประมาณชั่วโมงนึงได้  แต่เมื่อหนังคางคกเริ่มหายไปจากปากเธอ ฮารุก็หาเรื่องออกไปข้างนอกจนได้  เธอลากฮิบาริไปแข่งเจทสกีด้วยกัน แน่นอนว่าตอนแรกฮิบาริคงคัดค้าน แต่หลังจากฮารุพูดประโยคเด็ดออกมาประโยคหนึ่ง...เขาก็ลุกจากโซฟาทันที

    หรือว่านายกลัวว่าจะแข่งเจทสกีแพ้สาวน้อยอ่อนแอบอบบางอย่างฉันกันคะ คุณบอดี้การ์ด ฮิบาริ เคียวยะ~ J

    ผลสรุปก็คือ แข่งกันสิบรอบ...ฮิบาริชนะสิบรอบ 

    พอแข่งเสร็จก็ประมาณห้าโมงเกือบหกโมงพอดี  ทั้งสองคนที่เพิ่งเปลี่ยนชุดกลับเป็นชุดเดิมยินยอมพร้อมใจกันทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารริมทะเลแถวนั้น  เพราะร้านที่ให้เช่าเจทสกีห่างไกลจากโรงแรมมาพอสมควร บวกกับสัญญาณเตือนดังจ๊อกที่ดังมาจากส่วนท้องด้วย นี่ก็เป็นเหตุผลใหญ่เหตุผลหนึ่งเช่นกัน

    อาหารมื้อนี้ฮารุไม่ยอมประมาทให้ฮิบาริอีกแล้ว ประสบการณ์ปากแปลงร่างเป็นคางคกทำให้เธอได้รับรู้คำคมจากชีวิตจริงของเธอว่า ระวังตัวไว้ก่อนเป็นยอดดี

    ฮารุสั่งอาหารทะเล พวกซีฟู้ดทั้งหลาย และเธอก็ยังมีน้ำใจ สั่งมาเผื่อฮิบาริด้วย ซึ่งฮิบาริก็ไม่มีทีท่าหวั่นเกรงใดๆ แถมยังหัวเราะเยาะเย้ยแถมมาให้ดัง หึ อีกด้วย ประมาณว่า ให้ตายเธอก็ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ยัยโง่ อย่างนั้นเลย

    สรุปว่ามื้อเย็นมื้อนั้นฮิบาริก็ยังอยู่รอดปลอดภัยจากเงื้อมมือการแก้แค้นของฮารุ หรืออาจจะเรียกว่ายัยฮารุยังคิดแผนแก้แค้นไม่ออกดี?  

    และเมื่อมองกลับมาที่ปัจจุบัน...ในห้องกำลังเผชิญสถานการณ์ขั้นแย่ถึงที่สุดที่เรียกกันว่า วิกฤต’!!

    เรื่องของเรื่องก็คือ...อึกอักกันเรื่องห้องอาบน้ำที่ประตูเป็นผ้าม่านสีขุ่นนั่นเอง

    “เอ่อ...นายจะอาบก่อนมั้ยล่ะฮิบาริ ^^;” ฮารุรีบเอ่ยชวนด้วยเสียงหวานหยดย้อยและผายมือเชิญไปทางห้องอาบน้ำ

    ...ทีอย่างนี้ล่ะทำมายิ้มให้ ปกติมีแต่แยกเขี้ยวใส่ หึ -_-;;

    ฮิบาริแอบค่อนขอดในใจ แต่ถึงกระนั้นก็ยังอดเหงื่อตกไม่ได้อยู่ดี

    “เธออาบก่อน  -_-“

    “อะ...อะไรยะ เสียสละหน่อยไม่ได้รึไงกัน L

    “เลดี้เฟิร์สต์ -_-“ ฮิบาริที่ถึงจะตีหน้าตาย  แต่ก็ดูออกได้ง่ายว่ากำลังเครียด เพราะดูจากการที่เขาเริ่มชักแม่น้ำทั้งห้าแล้ว...แปลว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาสำหรับเขาแน่ๆ

    “อ๊าย  อีตาบ้า! พูดมาได้นะยะ! ปกติไม่เห็นจะเคยพูดแบบนี้บ้างเลย เลดี้ฟ้งเลดี้เฟิร์สต์อะไรเนี่ย ชิ! ตอแหลที่สุด! L

    ฮารุต่อว่าฮิบาริยกใหญ่และเดินปึงปังเข้าห้องน้ำไป (สรุปว่าจนต่อเหตุผลและคำพูดว่างั้นเหอะ)

    “อ้อ แล้วตอนที่ฉันอาบน้ำน่ะ นายช่วยๆ หลับไปเลยนะ พอฉันทำอะไรๆ เสร็จแล้วจะไปปลุก” ฮารุที่กำลังจะรูดผ้าม่านปิดหันหน้ามาพูดกับฮิบาริที่นั่งจ้องทีวีอยู่

    “อ๊ะ แล้วถ้าแอบดู...นายตายแน่! -_-++” หลังจากที่เธอปิดผ้าม่านไปแล้วก็ยังมิวายแอบโผล่หน้ามาพูดอีก

    “ดูทำไม  มีอะไรให้ดูกัน  หน้าตาก็งั้นๆ รูปร่างก็เฉยๆ หน้าอกก็แบนๆ ไม่เห็นน่าสนสักนิด -_-“ ฮิบาริที่ตอนแรกทำเป็นไม่สนใจคำพูดของฮารุหันมาตอกกลับซะเธอหน้าหงาย

    “กรี๊ด! ไอ้คนงี่ง่าวววว!” เสียงฮารุตะโกนด่ามาจากข้างในห้องอาบน้ำ ฮิบาริที่จะหันไปด่ากลับต้องหันกลับทันทีเมื่อรู้แล้วว่าเขาหันไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเข้า!

    “เธอ...ต่างหากที่ห้ามมองฉัน เพราะปกติมองซะตาเป็นมันเลยไม่ใช่เหรอ -_-;;” ฮิบาริแกล้งเฉไฉไปเรื่อย ปกปิดความผิดปกติ ถ้าสังเกตุดูดีๆ จะเห็นว่าคำพูดของเขาติดขัดนิดหน่อย

    ความจริงเมื่อกี้...เขาหันไปเห็นตอนที่ฮารุกำลังถอดเสื้อพอดี...

    ในใจเขา ถึงแม้จะยังอคติกับนิสัยของเธอ แต่ก็แอบถอนคำพูดจากที่พูดไปยี่สิบเปอร์เซ็นต์

    หน้าท้องแบนราบ เอวที่คอดพอประมาณ ทรวงอกขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป แต่กำลังพอดีได้รูปสวย สะรีระของฮารุถูกแสงส่องกระทบ เงาของเธอฉายชัดอยู่บนผ้าม่านพอเห็นเป็นเงา นั่นทำให้ฮิบาริได้เห็นสิ่งที่เขาเพิ่งจะด่าไปเมื่อกี้เต็มๆ...ถึงจะเป็นรูปแบบเงาก็เถอะ

    นี่ถ้าผ่าม่านไม่ขุ่นคงไม่เหลือแล้วล่ะ

    ถึงฮารุจะพูดไปแบบนั้น แต่เธอก็ไม่ได้ระวังตัวเท่าไหร่ เพราะดูหน้าตาเย็นชาแบบนั้นก็รู้แล้วว่าไม่มีทางแลเธอแน่ แถมถ้าคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าฮิบาริจะแอบมองแล้วเผลอทำกริยาแปลกๆ ไป คงจะโดนตอกกลับมาแบบหน้าแตกไปแปดชาติเลยเป็นแน่แท้

    ...สยองชะมัด -_-;

    ฮิบาริคิดแล้วส่ายหัว เขาล้มตัวลงนอนบนโซฟาอีกครั้ง  พยายามไม่หันไปมองที่ห้องอาบน้ำ  เพราะกลัวเป็นตากุ้งยิง

    ทางด้านฮารุก็เช่นกัน  เธอเลิกสนใจฮิบาริและตั้งหน้าตั้งตากับการขัดสีฉวีวรรณตนเองต่อในห้องน้ำ

     

    หลังจากฮารุอาบน้ำและใส่ชุดนอนเดรสผ้าบางๆ ของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินไปปลุกฮิบาริที่นอนเอาหมอนปิดหน้าอยู่บนโซฟาตัวยาว

    ...หมอนี่มันเป็นอะไรกับโซฟาฟะ ไปที่ไหนๆ ก็ได้แต่นอนโซฟาๆ เหอะๆ -_-

    ฮารุคิดเบาๆ ในใจ พลางมองไปที่ฮิบาริที่เดินปิดปากหาวเข้าห้องน้ำไป

    ...แล้วทำไมต้องเอาหมอนปิดหน้าด้วยล่ะ? -*-

    นี่เป็นคำถามที่ฮารุคิดยังไงก็คิดไม่ออก เนื่องจากว่าเธอไม่เคยเห็นเขานอนปิดหน้าเลย จากประสบการณ์ในห้องทำงานของเธอที่ให้เขามานอนโซฟาทุกวี่ทุกวัน เธอจึงอดสงสัยไม่ได้

    เอาเป็นว่าถ้าหนูฮารุไม่เข้าใจ แนะนำย้อนขึ้นไปบรรทัดข้างบนละกันนะจ๊ะ

    ฮารุสะบัดหัวไล่ความสงสัยงี่เง่าออกไป และรีบทาครีม หวีผม และกระโดดขึ้นเตียงนอน เหตุผลก็เพราะว่า

    ฮิบาริเปิดผ้าม่านออกมาพูดว่า อยากจะมองฉันอาบน้ำรึไง รีบนอนซะ ยัยโรคจิต -_-^

    เท่านั้นแหละ ยัยฮารุของเราก็พยายามข่มตาให้หลับสุดชีวิต ทั้งๆ ที่ปกติแล้วต้องใช้ยานอนหลับช่วย (และทั้งๆ ที่อยากจะเถียงว่า ตนไม่ใช่ ยัยโรคจิต อย่างที่เขาว่าด้วย)

    เวลาผ่านไปยี่สิบนาที ฮิบาริที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมาในความมืด เนื่องจากยัยฮารุกลัวเห็นอะไรบัดสีลูกตาเลยปิดไฟซะ แต่ถึงอย่างนั้นเสียงเปิดผ้าม่านก็ทำให้ฮารุที่กำลังเคลิ้มลืมตาขึ้นมามองอยู่ดี

    และเธอก็ต้องรีบหลับตาลงทันที เพราะว่า...

    ...แสงน้อยนิดที่ส่องลอดออกมาจากห้องน้ำทำให้เธอพอมองเห็นรูปร่างสูงของฮิบาริ เสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวแหวกออกมาเล็กน้อยพอให้เห็นแผงอกกำยำขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะของเขา

    ...อ๊ากกก ตาช้านนนน TT[]TT;;

    ฮารุสบถในใจ แต่ก็ต้องรีบหลับตาลง เฟกทำเป็นหลับ เพราะเห็นว่าฮิบาริแต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเดินมาที่เตียงด้วย

    เสียงขยับกายแผ่วเบาทำให้เธอรู้ว่าเขาได้เข้ามานอนข้างๆ เธอแล้ว (โดยมีหมอนข้างใบยักษ์วางกั้นอยู่) แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เห็นต้องคิดมาก เธอไม่กลัวซะหน่อยนี่นา

    คิดได้ดังนั้นยัยฮารุก็เริ่มข่มตานอนหลับ ผิดกับฮิบาริที่แค่หัวแตะหมอนก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปนานแล้วอย่างมาก

     

    (End Round 4! & 1st Night)

     

     

    To be continued

    ปาปริก้า ! สงสารฮารุเน๊อะ คงเผ็ดน่าดูอ่ะ ฮิบาริก็ใจร้ายจริ๊ง ให้หลานจอยกินอะไรก็มิรุ -.- (เสียงแอ๊บแบ๊ว ฮ่า ๆ) แล้วก็สงสัยฮารุคงไม่มีคนเอาเป็นสามีแน่ ๆ เพราะโดนฮิบาริเห็นเกือบหมดเปลือกแล้วล่ะ ๕๕๕ ตอนนี้แต่งแบบมึน ๆ ตามพล็อตเท่านั้น เพราะมาอ่าน ๆ ดูแล้วรู้สึกว่าการบรรยายไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็ยังเห็นภาพอยู่อ่ะน๊า ไม่ได้อ่านไม่รู้เรื่อง

    อ้อ หลายคนอาจสงสัยลุงคนขับน้อย ๆ บทนี้อาจจะยังเป็นตัวประกอบที่ถูกเขี่ยออกไปนอกกาแล็กซี่อยู่ แต่บทหน้าก็ไม่แน่นะจ๊ะ J ตอนมาเที่ยวโอกินาวานี่ก็นานหลายตอนพอดูเหมือนกันนะ ยาวเลยแฮะพาร์ทนี้  แต่อุตส่าห์เมคเรื่องมาทั้งที ต้องใช้ให้คุ้ม (ตัวละครอย่างลุงคนขับด้วย) 5555 5.

    หลายคนอาจสอบเสร็จแล้ว แต่จะบอกว่าจอยสอบเดือนสิงหาล่ะ ร.ร. เปิดช้า เรดเชิร์ตช่วยเค้า > < ... แต่แบบนี้ก็ไม่ค่อยดีแล้วอ่ะ ตารางกิจกรรมร.ร. ที่เพิ่งเปลี่ยนแบบกะทันหันมันแบบว่า ... OMG ! เน่ามากอ๊า T T อ่านแล้วจะประมาณว่า อะไรของมันเนี๊ยยยย ?? มั่วไปหมด น่าเบื่อจริงอะไรจริง L

    วันนี้พายุเข้าเนาะ - -* รู้สึกแย่มาก ร่มเกือบพัง ฝ่าฝนเดินไปขึ้นรถ ตอนเดินออกจากหอสมุดกลางจุฬานะ นิสิตแถวนั้นมองจอยแบบ “โอวว หญิงกล้า” หรือไม่ก็ “อูวว ตัวประหลาด” แบบนี้อ่ะ ! 555555 เพราะมีแต่คนหลบฝนไง เขาไม่กล้าออกไปกัน แต่พอดีรถมารอแล้วด้วย ไม่ไปก็ไม่ได้ แล้วพี่ที่เขามาสอนจอยอ่ะ ยังบอกเลยว่า “ระวังร่มพังนะ” กร๊ากกกก ให้กำลังจอยดีมากเลยพี่ ร่มคันนี้แพงนะ ! เกือบพันแน่ะ  (แต่ไม่ค่อยได้ใช้) แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่หรอก -*-

    สงสัยวันนี้คงโดนหวัดกินแหง เฮ่อออ เกลียดฝนจังเลย

    ไรท์เตอร์ เอ็นจอย ซีอา



    EDIT !!!

    มาอีดิทฮับ ชื่อตอนมันซ้ำกันง่ะ ราวนด์ทรีสองครั้ง
    ทำไมไม่มีใครเตือนกันเล๊ยยย T,.T
    งั้นตอนนี้คะแนนเปลี่ยนเป็น 3 ต่อ 1 แล้วนะจ๊ะ
    อีดิท ๆ ๆ ๆ by : enjoy xiah





    nu eng

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×