คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Oleander's Felony ❤ } 1: Soulmate
1
Soulmate
[Miura Haru said]
วันนี้มาถึงแล้ว
วันแรกที่ฉันจะต้องทำงานแทนพ่อ! นั่นก็คือการนั่งเป็นประธานบริษัทสาวสวยในธุรกิจของพ่อนั่นเอง J
อ้อ
สาวสวยน่ะฉันเติมเอง มีปัญหากับมันมั้ยล่ะ? -_-+
เหตุผลที่ฉันต้องมาทำงานต่อจากพ่อน่ะเหรอ
ถามได้ ก็ในพินัยกรรมที่พ่อเขียนไว้น่ะสิ มันบอกชัดเลยว่าคนที่จะดำรงตำแหน่งประธานบริษัทแสนยิ่งหญ่ายยยแห่งนี้ได้ก็คือฉันเท่านั้น! ตอนแรกๆ พ่อเป็นอาจารย์อยู่ในมหา’ลัยสักแห่งหนึ่ง แต่ลุงของฉันชักชวนให้พ่อเปิดบริษัทขนส่งรถยนต์ ด้วยความที่นึกคึก พ่อเลยรับปากและเริ่มเอาเงินไปลงทุน บอกตามตรงว่าตอนแรกค่อนข้างจะกระท่อนกระแท่นนิดหน่อย จากการที่พ่อฉันเรียนเกี่ยวกับการเป็นครูมาไม่ใช่บริหารน่ะนะ -_- แต่ด้วยการเล่นหุ้นระดับเทพของลุงฉัน บริษัทของเราเลยพุ่งพรวดขึ้นมาอยู่ในระดับใหญ่ได้ไงล่ะ อิๆ ^_^
ฉันก็ไม่ได้อะไรๆ มากหรอกนะ แต่แอบภูมิใจเล็กๆ ที่บริษัทเราขนส่งแต่รถนอกเท่านั้น เพราะฉะนั้นฉันเลยมีรถต่างประเทศราคาแพงระยับไว้ขับเล่นเหนาะๆ ไงล่ะ วะฮ่าๆๆ J
พูดไปงั้นแหละ จริงๆ ขับรถโคตรห่วยแตกเลยล่ะฉันน่ะ -_-;;
เอาเต๊อะ เพราะพ่อฉันต้องการให้ฉันสืบทอดบริษัทใหญ่โต (เกินจำเป็น) นี่ ฉันก็เลยเลือกเรียนบริหารซะเลย เย่ๆๆ >.< อืม แต่ฉันก็ต้องการอย่างนั้นเหมือนกันแหละ ฉันอยากทำงานของครอบครัว ไม่อยากเป็นสาวออฟฟิศใช้ชีวิตอยู่บนคานซะเท่าไหร่ =O=;
ช่าย
ดูจากบริษัทแสนจะคลาสสิคสุดๆ นี่แล้ว แถมยังกลิ่นลาเวนเดอร์ที่ฟุ้งมาตั้งแต่เดินเข้ามาก้าวแรกนี่อีก ดูก็รู้ว่าใครเป็นคนสั่งให้ทำแบบนี้
พ่อหนูเองค่ะ ฮึกๆๆ T_T
เศร้านะเนี่ย พอขา หนูคิดถึงพ่อเสมอนะคะ แต่ตอนนี้หนูขอตัวเครียดก่อน เพราะงานของพ่อมันไม่จิ๊บเลยจริงๆ =_=; เฮือกก ถ้าฉันทำให้หุ้นบริษัทตกล่ะ ถ้าฉันทำให้บริษัทพันธมิตรกับบริษัทเราหยุดการติดต่อซื้อขายด้วยล่ะ ว้าก =[]=| | |
แต่ฉันก็ไม่รู้จะกลุ้มใจไปทำไม ในเมื่อฉันก็แค่ใช้ลายเซ็นน่ารักคิขุโนเนะของฉันเซ็นมั่วๆ แค่นั้นเอง =O=;
แอ๊ดดด
“เชิญครับคุณหนู” คนเฝ้าประตู (เหมือนเป็นหมาเลย =O=;) ของบริษัทเปิดประตูกระจกให้ ก่อนที่ฉันจะเดินเฉิดฉายเข้าไปในบริษัท ทุกสายตามองมาที่ฉันอย่างเปิดเผย นั่นทำให้ฉันรู้สึกประหม่านิดหน่อย แต่ก็ไม่มากขนาดเก็บไปคิดกังวล เพราะปกติคนก็มองฉันอยู่แล้วล่ะ โฮะๆ
แต่
ให้ตายสิ กลิ่นลาเวนเดอร์กับการตกแต่งคลาสสิกนี่จะทำให้ฉันร้องไห้ออกมาจริงๆ นะ TOT
ฮึ่ย พ่อนะพ่อ ตกแต่งบริษัทไว้ แต่ไปดีแล้วก็ยังเหมือนเดิม ทิ้งให้คนในบริษัทเศร้าอีก ไม่ไหวๆ
“เอ่อ นี่งานของคุณหนูนะคะ” เลขาฯ ของพ่อเอางานใส่แฟ้มกะตั้กนึงมาวางไว้หน้าฉัน =_=
นี่กะจะให้ฉันทำทั้งหมดนี่จริงๆ เรอะ TOT
“นะ
นี่งานทั้งหมดของฉันใช่มั้ยคะ?”
“อ๋อ ค่ะ สำหรับวันนี้นะคะ”
ฉันเกือบโล่งใจแล้วเชียว ถ้าไม่ติดว่ามีประโยคหลังล่ะก็นะ L
เอาเถอะ ยอมก้มหน้ารับชะตากรรม ก้มหน้าทำงานไปซะ! YOY
“ดิฉันขออนุญาติบอกกำหนดการของคุณหนูนะคะ” ผู้จัดการชีวิตของฉันเข้ามาไล่กำหนดการให้ฉันฟัง
“ตอนเช้าถึงสิบสองนาฬิกานั่งทำงานอยู่ในห้อง ตอนสิบสองนาฬิกาไปรับประทานอาหารกับประธานบริษัทผลิตโช้คอัพที่ภัตตาคาร M ที่ห้าง E ตอนสิบสามนาฬิกาสามสิบนาทีกลับมาทำงานที่ห้องทำงาน แล้วเวลาสิบแปดนาฬิกามีนัดคุยกับคุณนายตระกูลฮิบาริ
”
พรวด!
ฉันที่กำลังนั่งฟังกำหนดการพร้อมจิบกาแฟเพลินๆ ถึงกับพ่นกาแฟออกมาเต็มโต๊ะทำงาน -_-; แหม ก็เมื่อได้ยินคำว่า ‘ตระกูลฮิบาริ’ แล้วร่างกายมันก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเองนี่นา หึๆ -_-+
“เอ่อ คุณหนูเป็นอะไรมากมั้ยคะ?” ผู้จัดการชีวิตของฉันถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เออนี่ นัดคุยกับคุณนายตระกูลฮิบารินี่เรื่องอะไรเหรอ? O_o”
“เอ่อ ก็ไม่ทราบมากหรอกนะคะ แต่เขาบอกมาว่าเรื่องคู่ครองในอนาคตของคุณหนูและการดูตัวน่ะค่ะ”
“เหอ O_O!!”
“คุณนายเธออยากจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลให้มากขึ้นน่ะค่ะ เลยตั้งใจจะพาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาทำความรู้จักกับคุณหนู”
“นี่หมายความว่า
=[]=”
“เปล่านะคะ คุณนายไม่ได้จะพาลูกชายมาหมั้นหมายอะไรกับคุณหนูหรอกค่ะ แต่แค่จะพามาปรึกษา และให้เป็นเพื่อนกันน่ะค่ะ คุณนายบอกไว้อย่างนั้น”
“งั้นเหรอ
ฮึ เอาสิ ฉันก็อยากจะรู้จักคนที่มันสั่งคนมาลอบฆ่าพ่อฉันเหมือนกัน”
“คุณหนูแน่ใจแล้วเหรอคะ เรื่องที่ตระกูลฮิบาริส่งคนมาฆ่าท่านประธาน” เธอถามฉันด้วยใบหน้าเคลือบแคลง
“รู้สิ ก็สิ่งที่ตกอยู่ใกล้ๆ ศพพ่อน่ะ เป็นเข็มกลัดของคนตระกูลฮิบาริเชียวนะ คาดว่าคงมามองพ่อฉันถูกทรมานอย่างสะใจ หึๆ!” ฉันหัวเราะออกมาอย่างเคียดแค้น
“แต่คุณหนูยังไม่ได้ให้คนไปสืบเลยนะคะ”
“แค่ฉันรู้ว่าตระกูลพวกมันเป็นศัตรูทางธุรกิจของเราก็พอแล้วมั้ง!”
“แต่ถ้าเราไปกล่าวหาเขาทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำ เขาจะว่าเราเอาได้นา” ผู้จัดการสาวสวยจ้องหน้าฉันอย่างคาดคั้น
“เฮ้อออ
นั่นสินะ ฮ่ะๆ ยังไงฉันก็ยังเชื่อฟังยัยป้าอย่างพี่อยู่ดี ^_^” ฉันพูดติดตลก
ไม่ผิดหรอก ก็ในเมื่อผู้จัดการชีวิตของฉันคนนี้เป็นคนคุ้นเคยกับฉันมาตั้งแต่ม.ปลาย เพราะเธอเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อรับมาเลี้ยงเพราะถูกชะตา เธอคอยเป็นเด็กดีและเป็นลูกที่ดีของพ่อทุกอย่าง และก็เป็นพี่สาวที่ดีของฉันเหมือนกัน ใช่
เป็นพี่สาวที่ฉันรักที่สุดเลยล่ะ ^^
เมื่อเห็นว่าคนในบริษัทออกไปจากห้องหมดแล้วฉันจึงใช้คำพูดที่สนิทสนมกับเธอได้ไงล่ะ ^^!
“งั้นเรื่องคนไปสืบเดี๋ยวพี่จัดการให้ อ้อ ขอเตือนไว้ก่อนนะ ห้ามทำอะไรแผลงๆ เชียวล่ะ”
“แหม มันก็ต้องมีบ้าง ฉันขอหมายมาดตระกูลนั่นไว้ก่อนเลยล่ะ เพราะมีหลักฐานมัดตัว แต่ตำรวจแม่งก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี คิดแล้วโคตรเจ็บใจ! ฮึ้ย! L”
“แน่ะ อย่าพูดคำหยาบสิฮารุ ไม่ใช่ว่าพี่จะไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอ พี่ก็อยากจะฆ่าคนที่มันทำแบบนั้นกับพ่อให้ตายๆ ไปเหมือนกัน แต่เราจะไปเอาผิดเขาไม่ได้ เพราะเราไม่มีหลักฐาน
”
“เข็มกลัดนั่นยังไม่ใช่หลักฐานอีกเหรอคะ!”
“แต่เธออย่าลืมสิว่านั่นเป็นเข็มกลัดของคนตระกูลฮิบาริก็จริง แต่มันก็เป็นของคนที่ตายไปแล้วนะ แถมตระกูลนั้นยังบอกอีกว่ามันหายไปตั้งนานแล้ว และยังขอมันไว้กับตัวอีก เธอไม่ควรไปกล่าวหาเขาอย่างนั้นนะ และอีกอย่าง
มีอีกคนที่ได้มันไป
”
“ใครเหรอคะ?”
“ก็คุณอาที่รักของเราไง
” คำพูดของพี่สาวทำให้ฉันตกใจ
“พี่บ้าไปแล้วเหรอคะ! คุณอาจะทำร้ายพี่ชายตัวเองทำไม! แทนที่เราจะมากล่าวหาคนตระกูลเดียวกันเอง เราไปมุ่งหน้าไล่ต้อนไอ้ตระกูลบ้าๆ นั่นไม่ดีกว่าเหรอคะ!”
“พี่รู้ แต่
” พี่สาวสุดสวยหยุดพูดไปอย่างลังเล
“แต่อะไรคะ? L”
“เปล่าหรอก แต่พี่ขอบอกให้เธออย่าตีโพยตีพายไปก็เท่านั้นเอง เข้าใจใช่มั้ย? -_-+” มาอีกละ โหดจังง่ะ T^T
“จ้าๆ พี่สาวสุดสวย >3<
เอ้อ แต่ในฐานะที่เป็นคู่แข่งทางธุรกิจ ขอแกล้งอะไรนิดๆ ละกันเนอะ ฮุๆ >..<”
“เธอนี่จริงๆ เลย
” พี่สาวส่ายหัวอย่างอ่อนใจ
“ก็ในเมื่อฉันมาเป็นประธานแล้ว ฉันก็ต้องสนใจบริษัทคู่แข่งเป็นธรรมดา” ฉันเชิดหน้าขึ้นแล้วพูด
“-_-” พี่สาวได้แต่ทำหน้าเอือมๆ และเดินไปนั่งมองฉันทำงานที่โซฟา
แกรกๆๆ
ฉันนั่งเขียนนั่งเซ็นอย่างเมาๆ เอ้ย เมามันส์ จนเวลาผ่านไปสักแป๊บนึง เลขาก็โทรมาบอกว่าคุณอาขอเข้าพบ ฉันเลยยอมวางมือแล้วหันไปนั่งเก๊กสวยรอคุณอามาแทน ฮ่าๆๆ >O<
แอ๊ด
“ไงฮารุ งานไปได้ดีมั้ย? ^^” คุณอาถามอย่างใจดี
“ค่ะ กำลังมั่วอย่างเมามันส์เลยเนี่ย >O<”
“เด็กบ้า มั่วไม่ได้นะ เดี๋ยวเจ๊งหมด -_-^” คุณอาดุ
“ค่าๆ หนูเก่งอยู่แล้วล่ะ ฮ่าๆๆ”
ในขณะที่สองอาหลานคุยกันอยู่นั้น หญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟานานสองนานก็มองหน้าชายผู้เป็นคุณอาอย่างเคลือบแคลงใจ ความคิดในสมองของเธอนั้นมันช่างซับซ้อนซะจนอ่านไม่ออก แต่เธอรู้ดี ว่าคุณอาของเธอนั้นซับซ้อนกว่าเยอะ ภายใต้ใบหน้าใจดีแสนสุภาพนั้น เธอรู้สึกอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับตัวเขา ใช่ ตอนแรกเธอก็ไม่คิดสงสัยอะไรหรอกนะ แต่จากการที่เธอเดินผ่านห้องของเขาในคืนหนึ่งทำให้เธอเริ่มไม่ไว้ใจเขาซะแล้ว
คุณอาดูแแปลกๆ นะ แต่มันก็ไม่เห็นมีอะไรนี่
เอ๊ะ หรือเราจะคิดมากไปนะ?
เธอคิดอย่างสับสนปนงงงวย แล้วเธอก็รู้สึกตัวว่าเธอกำลังว่าร้ายให้อาของเธออยู่ เธอจึงสะบัดหัวแรงๆ
“อ้าว นี่ โยโกะ
เป็นอะไรไปเหรอ?” เสียงคุณอาของเธอหันหน้ามาถาม
“อ๋อ ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่เครียดๆ นิดหน่อย ^_^;”
“อย่าโหมงานมากเกินไปสิ แล้วนี่นั่งทำอะไรอยู่น่ะ -*-?”
“อ๋อ
ฉันกลัวยัยฮารุหนีงานน่ะค่ะ ฮ่ะๆๆ =_=;” เธอตอบไปด้วยเหตุผลที่มาจากใจจริงๆ
“บ้าเหรอพี่! เห็นฉันเป็นงี้ก็เถอะ! ฉันน่ะยอดสาวนักปั่นงานเชียวนะ!” เสียงฮารุลอยมาโดยไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า
“ใช่ แล้วเธอก็ควรจะพักซะบ้าง ดูสิ ตางี้แดงแจ๋เลย อดนอนล่ะสิ ไปๆ ไปกับอาเดี๋ยวนี้” ว่าแล้วคุณอาก็ลากเธอออกจากห้องโดยมีฮารุนั่งโบกมือให้อย่างกวนๆ -_-
เฮ้ออ เธอคงคิดมากไปเองจริงๆ น่ะแหละ คุณอาที่เป็นห่วงเป็นใยเธอเสมอเนี่ยนะจะเป็นคนแบบนั้น
ไม่มีทาง -_- เธอเลิกฟุ้งซ่านซะทีเถอะ นี่เธอกำลังกล่าวหาคนที่มีพระคุณกับเธอเชียวนะ! เธอนี่มันบ้าจริงๆ
โฮกกก พี่สาวไปได้ซะที ฮ้า โล่งอก ฉันจะได้ผ่อนคลายซะที อื๊ดดดด >~<
(ว่าแล้วก็บิดขี้เกียจไปหนึ่งที -_-)
เฮ้อ ทำงานต่อๆ ไม่คิดว่าการรับช่วงต่อจากพ่อมันจะหนักขนาดนี้เลยนะเนี่ย นี่แค่งานสำหรับวันนี้นะ ยังสูงเป็นภูเขาเลย L บ้าจริงตู ชีวิตช่วงสุดท้ายของวัยสะรุ่นของฉันเชียวนะ! ทำไมต้องมานั่งทำแบบนี้ด้วยเนี่ย เฮ้อ
แต่คิดถึงหน้าพ่อในช่วงแรกๆ ที่บริษัทยังเป็นเพียงแค่การทำงานของกลุ่มคนเล็กๆ แล้ว ฉันก็ต้องฮึดขึ้นมาทันที เพราะใบหน้าของพ่อตอนนั้นน่ะ มันช่างเป็นใบหน้าที่ดูดีที่สุดเลยล่ะ ใบหน้าที่ทำอะไรเพื่อที่จะช่วยคนๆ หนึ่ง
ใช่แล้ว ตอนนั้นแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ต้องเสียค่าทำคีโม ค่ายา ค่าห้องพัก ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ นานา ซึ่ง
บ้านเราก็ไม่ได้รวยขนาดที่จะหาเงินมามากมายพอที่จะจ่ายค่ารักษาทั้งหมดภายในวันเดียวหรือสองวัน แล้วไหนจะต้องรอบต่อๆ ไปอีกล่ะ? เราจะไปหาเงินมาจากที่ไหน? นั่นคือคำถามที่ติดอยู่ในหัวคนในครอบครัวตอนนั้น และนั่นแหละ สิ่งที่ทำให้พ่อทุ่มเทกับบริษัทนี้มากมายจนไม่ได้หลับนอน
แต่สุดท้าย ถึงบริษัทจะไปรอดแล้ว ถึงเราจะมีเงินมาจ่ายค่ารักษาของแม่แล้ว ทว่ายังไงชีวิตคนเรา มีเกิด ก็ต้องมีตาย
สุดท้ายแม่ก็จากเราไปอยู่ดี
ฉันถึงต้องการรักษาบริษัทนี้ไว้ให้นานที่สุด มันเป็นสิ่งที่พ่อทำเพื่อแม่จากความรัก มันเป็นสิ่งที่พ่อทุ่มเท มันเป็นความหวังเดียวของตระกูลเรา
และฉัน
ผู้ที่คุณพ่อไว้ใจฝากอนาคตของตระกูลไว้ ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
และการกำจัดคู่แข่ง ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ฉันควรทำเพื่อบริษัทใช่ไหมล่ะ J
ฮิๆ เย็นนี้แหละ รอฉันก่อนนะคุณนาย~
(end Miura Haru said)
(End Soulmate)
To be continued ,, Next chapter !!
เย๊ ๆ จบตอน รู้สึกว่าตอนนี้มันแอบไร้สาระหน่อย ๆ เพราะพระเอกจอยยังไม่ออกเลย ฮ่า ๆ ๆ ,, อึ๊ย ๆ รออีกตอนสิเคอะ จริง ๆ ว่าแต่งไปได้หกตอนแล้วนะ แต่ยังไม่เอามาลงจ่ะ แฮ่ ๆ ,, เด๋วจะส่งข้อความไปจิก เด๋วเถอะ ๆ ๕๕๕๕ สรุปแล้วคนที่ถามกันว่าเป็นใครนั้นคือ ม.แม่ ของเจ้าตัวนั่นเองเค่อะ กร๊ากกก ,, ถ้าไม่มีแม่คอยคุ้มหัวฮารุ
ป่านนี้นางเอกฉันฟันร่วงไปแล้วค่า !! = =;; เห็นมะ ๆ เรื่องนี้มีค.สมจริงอยู่เย๊อออ ,, จริง ๆ ฮารุมันต้องบ๊องแบ๊งกว่านี้นะ แต่ว่า
เอาให้มันดูนอร์มอลหน่อยเห๊อะ เพราะปกติยัยฮารุคนนี้ชีชอบแอ๊บ
แอ๊บนอร์มอล (abnormal=ไม่ปกติ) ฮ๊า ๆ ๆ ๆ
จริง ๆ ก็ไม่ได้หวังอะไรมากว่าจะมีคนเม้นให้เย๊อะอ่ะนะ
เด๋วจะไปโปรโมตเรื่อย ๆ แล้วค่อยว่ากันน้า > < ~ ช่วงนี้ยอมรับว่าทักษะการแต่งสูงขึ้น แต่มันยังไม่ถึงขึ้นที่จอยจะ
สามารถแต่ง NC ได้อ่ะ เสียใจ ~ T T ,, ได้แต่อ่าน ไม่กล้าจิ้นเอง
กลัวเอาไปใช้กับจุนจังอ่ะ ๕๕๕ จริง ๆ แล้วช่วงนี้รับวายได้บ้างแล้วนะ แต่ไม่ใช่ในการ์ตูนอ่ะ ,, เป็นแฟนฟิคชั่นเกาหลี = =; ก็เป็นรักวาย ๆ ในทงบังน่ะแหละ คู่ที่ชอบม๊ากคือ ซูมิน โฮซู ยูซู มีอยู่สามคู่ชู้ชื่น โอ้วเย๊ ~ {เออใช่ แล้วจะมาบ่นอะไรในนี้ย้า อิจอย ?}
ยังไงก็ฝากติดตามหน่อยนะเค๊อะ จะเชียร์ไม่เชียร์คู่นี้ก็ฝากอ่านหน่อยนะฮับ ~
ไรท์เตอร์ เอ็นจอย ซีอา {enjoy xiah}
ความคิดเห็น