คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Tips :: มาจัดตู้เสื้อผ้ากันเถอะ !
นี่ยังไม่รวมถึงของกระจุ๊กกระจิ๊กมากมายที่สาวๆ อย่างพวกเราชอบเก็บๆ ซุกๆ เอาไว้ เช่น กางเกงสมัยยังน้ำหนักน้อยกว่าปัจจุบัน 5 กิโล ซึ่งเก็บไว้เพราะคิดว่าถ้าลดน้ำหนักได้คงจะกลับมาใส่ได้อีกครั้ง หรือจะเป็น เสื้อยืดตัวย้วยไม่ไม่ยอมทิ้งเพราะคิดว่าราคาตอนที่ซื้อมานั้นมันแพงแสนแพง ... เห็นแบบนี้แล้วก็ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่า ทำไม๊ ทำไม ตู้เสื้อผ้าของเราถึงได้รกรุงรังนัก จะหาอะไรใส่ซักทีหาไม่เคยเจอ บางครั้งใส่แต่เสื้อตัวเก่งวนไปเวียนมาจนเพื่อนจำได้แล้วว่าอาทิตย์นึงใส่เสื้อตัวนี้กี่ครั้งแล้ว เอาเป็นว่า กว่าจะจัดกันเสร็จนี้ใช้เวลาเป็นวันๆกันเลยทีเดียว !
เริ่มแรกที่เราต้องทำเลยก็คือ เราต้องเริ่มจากการแยกประเภทของเสื้อผ้าก่อนค่ะ เช่น กางเกงขายาว, กางเกงขาสั้น, เสื้อแขนยาว, เสื้อแขนสั้น, กระโปรง , เสื้อเชิ้ต , เสื้อโปโล ฯ จากนั้นให้สาวๆ แยกสีเสื้อผ้าเพื่อการจัดเก็บที่ง่ายค่ะ โดยวิธีแยกก็คือ แยกสีเป็นเฉด แยกสีพื้นและลวดลาย ไล่จากสีอ่อนไปสีเข้ม แต่พวกที่เป็นชุดนอนเราไม่ต้องนำไปแขวนนะคะ แค่พับเก็บไว้ให้เป็นระเบียบก็พอค่ะ จะได้ประหยัดพื้นที่ในตู้เสื้อผ้า
สำหรับเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักมากให้แขวนไว้ที่ราวล่าง เช่น พวกสูท ให้จัดเก็บกับไม้แขวนแบบหนาเพื่อรักษารูปทรงของเสื้อ ส่วนเสื้อที่มีน้ำหนักเบาแขวนไว้ที่ราวบน ส่วนพวกของใช้ชิ้นเล็ก เช่น เนคไท ผ้าพันคอ ถุงเท้า หรือเข็มขัด ให้เก็บไว้ในกล่องหรือตะกร้า ถ้าเป็นกล่องที่แบ่งช่องเล็กๆ เก็บเป็นชิ้นๆ ก็จะหยิบใช้งานง่าย สะดวก และประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ
ในตู้เสื้อผ้าของสาวๆ ควรจะมีตระกร้าสำหรับแยกเก็บเฉพาะชุดชั้นใน ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่แล้วให้แยกใส่ไว้ที่ตระกร้าเตรียมซัก เรื่องของความสว่างในตู้ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ ในตู้เสื้อผ้าควรติดดวงไฟในตู้เพื่อสำรวจหาเสื้อผ้าได้สะดวก กรณีเป็นไฟแบบเปิดปิดพร้อมการเปิดตู้ก็จะช่วย ประหยัดไฟ แต่ต้องมั่นใจว่าปิดหน้าตู้สนิท และไฟดับแล้ว เพราะไฟที่เปิดตลอดเวลาอาจร้อนจนลุกไหม้ได้นะ!
Tip : เพื่อป้องกันไม่ให้ตู้เสื้อผ้าของเรารกจนเกินไป เราควรจะหมั่นตรวจตู้เสื้อผ้าของเราทุกๆ หกเดือน ค่ะ ให้เรารื้อของที่ไม่ใช้แต่ยังสภาพดีอยู่ไปบริจาค และส่วนที่เหลือก็จัดเก็บให้เป็นระเบียบตามที่พี่เหมี่ยวแนะนำไว้ในตอนต้น และถ้าใครไม่อยากให้ตู้เสื้อผ้าของเรามีฝุ่นล่ะก็ เราจะต้องคอยปิดตู้ทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อกันฝุ่นและแสงแดดทำลายผ้า และควรดูดฝุ่นในตู้และบนชั้น เดือนละ 1-2 ครั้งด้วยนะคะ นอกจากนี้เพื่อป้องกันการอับชื้นและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ให้เราใส่อุปกรณ์ดักจับความชื้นในตู้ และเพิ่มเครื่องหอมเช่น การบูร บุหงารำไป แก้ปัญหากลิ่นอับและเพิ่มความหอมให้เสื้อผ้าได้อีกด้วยล่ะค่ะ
...รู้อย่างนี้แล้ว สาวๆก็ลองหาเวลาว่างๆ แล้วก็ไปจัดตู้เสื้อผ้าดูนะค่ะ เพราะรับรองเลยว่ามันจะช่วยให้เรา หาอะไรๆ ได้ง่ายขึ้นเยอะเลยละค่ะ
ข้อมูลจาก :http://www.dek-d.com/content/girl/24367/ได้เวลาจัดตู้เสื้อผ้าอีกแล้ว.php
ความคิดเห็น