คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ::: Times & Loves [ 2 ] :::
::: Times & Loves :::
...2
“ชิ!...ทำเป็นจะไปส่ง...หน้าบ้านเชียวนะไอ้บวมเอ๊ย..ย๊ากกกกก!!!” เมื่อมาถึงห้องฮยอคแจรีบคว้าตุ๊กตาหมูสีขาวที่คิบอมเคยซื้อให้เมื่อวันเกิดปีที่แล้วมาบีบคอระบายอารมณ์ ถ้าเป็นคนคงขาดอากาศหายใจตายไปแล้ว.....
“ไอ้บ้าเอ๊ย....ทำมชั้นต้องมานั่งร้องไห้แบบนี้ด้วยว่ะ!?” ทั้งๆที่ด่าคนอื่นอยู่แต่ตัวเองกลับจะร้องไห้ออกมาเสียเดี๋ยวนั้น มือบางรีบปาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มเบ้าก่อนที่มันจะไหลลงมาพร้อมกับซุกหน้าลงกับตุ๊กตาหมูที่อยู่ในมือ
แอ๊ด!!! เสียงประตูเปิดนั้นไม่สามารถทำให้ร่างบางที่กอดตุ๊กตาอยู่บนเตียงสนใจแม้แต่น้อย จนคนที่เดินเข้ามาอดที่จะหันไปถาม
“นี่ไอ้ไก่...เป็นอะไรเนี่ยห่ะ!?” ซองมินถามขึ้นพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมาใส่กระเป๋า
“แกจะไปไหนไออ้วน?” เมื่อเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นเพื่อนตัวดีกำลังเก็บกระเป๋าจึงถามขึ้น
“พี่ฮันลากกลับบ้าน” มือบางรูดซิปกระเป๋าเสร็จก็หันไปยืนพิงโต๊ะเครื่องแป้งและจ้องหน้าฮยอคแจนิ่ง “เป็นอะไรของแก?” ทั้งๆที่รู้ว่าคนที่นั่งอยู่นั้นเป็นอะไร แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“เป็นอะไร! ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” ตอบเสียงสูงพร้อมกับส่ายหน้าพัลวัน ซองมินอดไม่ได้ที่จะขำกับความปากแข็งของฮยอคแจ
“ไม่เป็นไรจริงอ่ะ?” แกล้งแหย่ออกไปพร้อมกับก้มหน้าลงไปใกล้ๆหน้าของคนที่แทบจะมุดเข้าไปในตัวหมูสีขาวตัวนั้น “แล้วไอ้น้ำใสๆที่มันคลอที่ตานี่มันอะไร หรือว่าเสียใจที่แกต้องนอนคนเดียวคืนนี้?”
“น้ำอะไร อย่ามามั่วนะไอ้อ้วน” ฮยอคแจแว๊ดใส่ก่อนจะลุกขึ้นเต็มตัว “จะกลับบ้านไม่ใช่หรอรีบๆไปเลยแก” พูดพร้อมกับดุนหลังซองมินให้ออกจากห้องไป
“รักเค้าก็ไปบอกเค้า...เก็บไว้เค้าคงรู้หรอกนะไอ้ไก่เน่าเอ๊ย” ไม่วายจะทิ้งระเบิดลุกใหญ่ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ซองมินเดินไกลออกไปแล้ว แต่คนที่ยังอยู่ยังคงยืนนิ่งราวกับรูปปั้น คำพูดของซองมินที่ได้ยินเมื่อครู่ทำให้สติของฮยอคแจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือบางกำลูกบิดประตูแน่น ริมฝีปากเม้มเกือบเป็นเส้นตรง ความรู้สึกมากมายหลั่งไหลเข้ามา
จะให้ผมบอกไปได้ยังไงว่า ฮยอคแจคนนี้รักคิบอมมากแค่ไหน? ผมอุตส่าห์เก็บความรู้สึกนี้มาเกือบ 5 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผมรู้จักกับมันมานี่ก็เกือบทั้งชีวิตของผมแล้วจะให้ผมบอกออกไปได้ยังไง? ถ้าหากมันไม่คิดเหมือนผมแล้วทุกอย่างระหว่างผมกับมันต้องแตกหักไปมันจะคุ้มหรอ? ผมยังอยากที่จะมองหน้ามัน คุยกับมัน เล่นหัวกับมันได้เหมือนเดิม ผมว่าแบบนี้นะดีแล้ว...ถึงผมจะรู้สึกเจ็บเวลาที่เห็นมันอยู่กับคนอื่นก็ตาม.....
------------------------------
“ซองมินอะ...จะกลับบ้านจริงๆหรอ ไม่กลับไม่ได้หรอ~ ~ ?” เสียงออดอ้อนที่หลุดออกมาจากปากของไอ้เสาไฟนั้นเรียกอ้วกจากคนที่ได้ยินเป็นอย่างดี มือหนากุมมือเล็กของซองมินไว้พร้อมกับทำหน้าเหมือนหมาป่วยจนซองมินอดที่จะขำไม่ได้
“พรุ่งนี้ชั้นก็มาอย่ามาเวอร์เลยไอ้เสาไฟ”
“ก็ชั้นคิดถึงนี่หว่า” คยูฮยอนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หินอ่อน “ปกติเห็นหน้าแกทุกคืน แต่วันนี้กลับไม่เห็นมันก็รู้สึกแปลกๆนะเว้ย”
“ให้มันน้อยๆหน่อยไอ้คยู....อย่ามาเวอร์ทำหน้าเหมือนเจ้าของไม่ให้อาหารแบบนี้ มันทุเรศ!” เมื่อยืนมองไอ้คนตัวใหญ่ทำหน้าออดอ้อนน้องชายสุดที่รักอยู่นานสองนานจึงเอ่ยขึ้นอย่างหมั่นไส้ ยิ่งทำให้คยูฮยอนหน้าหงิกมากกว่าเดิม
“มาแยกผมกับซองมินซึ่งเป็นคู่ใหม่ปลามันแบบนี้มันบาปนะเฮีย” ร่างสูงปรายตามองพี่ชายของคนรักก่อนจะพูดขึ้น
“เหอะ...วอนกินตีนแทนข้าวนะไอ้เวร!” ฮันกยองยกขาหวังจะถีบไอ้คนที่มันนั่งอยู่ตรงหน้าซองมิน แต่มือบางก็รั้งไว้เสียก่อน
“หยุดเลยนะไอ้ตี๋!” ฮีชอลพูดขึ้นเสียงดังอย่างรำคาญ “กัดกันอยู่ได้น่ารำคาญจริงๆ ทำตัวเป็นเด็กไปได้!” พูดเสร็จก็ลากฮันกยองเดินไปที่รถ แต่ร่างโปร่งก็ไม่วายหันไปแยกเขี้ยวใส่คยูฮยอนอยู่ดี
“เจอกันพรุ่งนะไอ้คยู” ซองมินพูดขึ้น
“คืนนี้ชั้นโทรหานะ ถ้าไม่รับชั้นบุกไปถึงบ้านแกแน่!” น้ำเสียงหนักแน่นนั้นซองมินรู้ดีว่าไอ้คนที่พูดมันจะทำแบบที่ว่าจริงๆ
“เออ...เข้าใจแล้วไอ้เสาไฟ”
“ไอ้อ้วน รอลาโลกหน้าเลยมั้ย!?” เสียงตะโกนที่ดังออกมาจากรถสปอร์ตสีเทาที่จอดอยู่นั้น ทำให้ซองมินคิดได้ว่าถ้ายังยืนอยู่ต่อไปคงได้เกิดสงครามระหว่างไอ้ตี่กับไอ้เสาไฟอีกแน่ๆ
“ชั้นไปก่อนนะ บับบาย~~” มือบางโบกไปมาเบาๆ
“จุ๊ฟ! คืนนี้เดี๋ยวโทรหา” ร่างสูงแอบจุ๊ฟแก้มนิ่มไปหนึ่งทีก่อนจะวิ่งหนีออกไป ซองมินหันไปถลึงตาใส่ก่อนจะรีบเดินไปยังรถที่จอดรออยู่
-----------------------------
วันนี้เป็นวันที่ทุกคนต้องมารวมตัวกันเพื่อปฏิบัติการเซอร์ไพส์อีทึกหรือนางฟ้าปีกหักที่ซองมินเป็นคนตั้งให้ ซองมินรีบไปสมทบกับเพื่อนๆพี่ๆที่นั่งรออยู่ใต้ตึกคณะนิเทศศาสตร์ เมื่อมาถึงคยูฮยอนรีบวิ่งปรี่เข้าไปหาทันที
“คิดถึงจังเลยเจ้าอ้วน” ร่างสูงพูดขึ้นก่อนจะโอบเอวร่างอวบไว้หลวมๆ
“ปล่อยเลยนะไอ้บ้า คนเค้ามองกันหมดแล้ว!” มือบางตีแขนแกร่งดังป๊าบก่อนจะสะบัดตัวให้หลุดจากการกอบกุมและเดินไปนั่งข้างๆฮยอคแจแทน
“อ๊ะ...รังเกียจชั้นขนาดนั้นเลยหรอซองมิน?” เมื่อเห็นคนรักวิ่งไปนั่งข้างเพื่อนหน้าไก่ ร่างสูงจึงตามไปกระแซะนั่งอยู่ข้างๆด้วย ซองมินจึงหันไปค้อนใส่ก่อนจะหันไปสนใจสิ่งที่คนอื่นกำลังพูดกัน
“ตกลงจะเอาไงครับเจ้?” เรียวอุคที่นั่งข้างเยซองถามขึ้นถึงข้อสรุปของแผนการที่เตรียมกันไว้
“เดี๋ยวชั้นกับฮันจะไปหาอีทึกที่บ้าน คยูฮยอนกับซองมินก็ไปสนามบินจัดการส่วนของแกให้เรียบร้อย โอเค๊?” ฮีชอลหันไปถามร่างสูงที่นั่งเกาะแกะแฟนอ้วนของตัวเอง ซองมินพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะผลักหัวที่ซบอยู่ตรงไหล่ของตัวเองให้ห่างออกไป
“ส่วนเยซองกับคิบอมก็ไปไซโคไอหมี โอเค๊?”
“แล้วผมต้องไปไหนอ่ะเจ้?” ฮยอคแจถามขึ้นเมื่อไม่ได้ยินชื่อตัวเองอยู่ในแผนการ
“โอ๊ย...ถามอะไรโง่ๆอีกแล้วนะไอ้ไก่ แกก็เลือกเอาละกันว่าจะไปกับใคร” ฮีชอลพูดปัดๆไปก่อนจะลุกขึ้นยืน “ชั้นไปหล่ะ แล้วเจอกันนะไอ้น้อง” พูดเสร็จก็ลากฮันกยองเดินออกไปพร้อมกัน ทุกคนนั่งมองตาปริบๆกับความรวดเร็วของคนสวย สั่งปุ๊บก็ไปปั๊บ.....
“งั้นทุกคนทำตามแผนนะ” ซองมินพูดขึ้นแล้วก็เดินออกไปโดยมีคยูฮยอนเดินตามไปติดๆ
“แล้วเราที่เหลือจะเอาไง?” ฮยอคแจถามขึ้น
“ก็เดี๋ยวชั้นกับคิบอมจะไปหาคังอินไง” เยซองพูดขึ้น
“แล้วชั้นอ่ะ?” นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเอง “งั้นชั้นจะไปด้วย”
“เรื่องมากจริงไอ้ไก่เอ๊ย...งั้นก็ไปหมดนี่แหละ” คิบอมที่นั่งนิ่งอยู่นานพูดขึ้น ทุกคนรวมทั้งทงเฮต่างเดินตรงไปยังรถสีดำคันหรู
ทงเฮยิ้มบางๆเมื่อเห็นว่าคิบอมหันมาทางตัวเอง คนแก้มป่องจึงยิ้มตอบ แต่นั่นกลับทำให้ฮยอคแจที่บังเอิญเห็นไม่พอใจขึ้นมา จึงรีบเดินขึ้นรถไปโดยไม่สนใจคนอื่น ภายในรถทุกคนต่างหัวเราะกับเรื่องตลกที่เยซองเป็นคนเล่าให้ฟัง แต่มีเพียงแค่ฮยอคแจคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้สนใจเรื่องเล่านั้นเลย เพราะรอยยิ้มที่คิบอมยิ้มไปให้เพื่อนของเขานั้นกำลังรบกวนจิตใจอยู่ตอนนี้ และเมื่อหันไปมองคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ก็ต้องหงุดหงิดมากขึ้น เพราะท่าทางเจ้าตัวจะมีความสุขที่ได้พูดคุยกับเพื่อนของเขา
---------------------------------------
“นะ...นายว่าไงนะ!?” อีทึกถามขึ้นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ฮีชอลเล่าให้ฟัง “คะ...คังอินไปแล้ว!?”
“อ่าว...ชั้นก็นึกว่านายรู้แล้วเลยว่าจะมารับไปส่งมันด้วยกัน มันไม่ได้บอกอะไรนายหรอ?” ฮันกยองพูดขึ้นเสียงเรียบ อีทึกได้แต่ส่ายหน้าไปมาเพื่อตอบในสิ่งที่อีกคนถาม
“อะไรว่ะไอ้หมีนี่! เป็นคนรักภาษาอะไรถึงมีอะไรไม่แบบนี้” ฮีชอลพูดขึ้นพร้อมใส่อารมณ์เล็กน้อย ให้คนที่ได้ฟังได้รู้ว่าเจ้าตัวไม่พอใจกับการกระทำของคนที่ถูกเอ่ยถึง “ถ้าเป็นชั้นนะ ไอ้หมีนี่ได้ตายคามือชั้นแล้ว” สร้างความร้าวฉานนี่แหละเป็นงานที่คนอย่างคิม ฮีชอลถนัดที่สุด ฮ่าๆ
“เรื่องของมัน ในเมื่อไม่คิดจะบอกกัน ชั้นก็จะไม่สนใจ ชิ...ไอ้หมีบ้าเอ๊ยจะไปตายที่ไหนก็ไปเลย!!!” ทุกอย่างที่เอ่ยออกมานั้นเหมือนจะตัดขาดและไม่สนใจอย่างที่ปากพูดจริงๆ แต่กับคนที่รู้จักอีทึกมาหลายปีรับรู้ได้ว่าเจ้าตัวไม่ได้หมายความอย่างที่พูด เพราะอาการแบบนี้มันคือการประชดมากกว่าจะทำจริง!
“แต่ชั้นรับปากมันไว้แล้วว่าจะไปส่ง แล้วแกจะไปกับชั้นหรือเปล่า?” ฮีชอลถามหยั่งเชิง อีทึกมองหน้าคนถามเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าบอกว่าไม่ไป
“ไม่ไปจริงอ่ะ? เห็นมันบอกว่าไปตั้งหลายปี” อีทึกสะอึกเล็กน้อยเมื่อได้ยินถึงระยะเวลาที่ต้องจากเจ้าหมีอ้วน แต่สุดท้ายก้เก็บอาการตกใจนั้นและน้ำหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม
“ก็เรื่องของมัน” ตอบเสียงเรียบก่อนจะมองออกนอกหน้าต่าง ฮีชอลหันไปแอบขำกับร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างกับอาการของเพื่อนหน้าสวย
“ถ้านายไม่ไปชั้นไปก่อนนะ เดี๋ยวไปไม่ทันมันขึ้นเครื่อง” พูดเสร็จก็จับแขนฮันกยองเดินออกจากบ้านไป และรถคันหรูก็ขับออกจากบ้านอีทึกไป
---------------------------------
“คังอิน!” เมื่อเห็นเพื่อนหมีที่ยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเหล่าน้องๆ ฮีชอลจึงตะโกนเรียก
“อ้าวฮีชอล ฮันกยอง ชั้นนึกว่าแกจะไม่มาส่งชั้นแล้วซะอีก” คังอินหันไปตามเสียงที่เรียกตนก่อนจะเห็นเพื่อนทั้งสองกำลังเดินมาทางที่ตัวเองอยู่
“ไม่มาได้ไงเพื่อนจะหนีไปหาเพื่อนใหม่ เพื่อนอย่างชั้นก็ต้องมาสิเดี๋ยวแกลืมชั้นจะทำไงหล่ะ?” ฮีชอลเอ่ยขึ้นก่อนจะขยิบตาให้หนึ่งที “แล้วนี่แกไม่ไปไม่ได้หรือไง?”
“ไม่ได้เว้ย...” คังอินตอบเสียงหนักแน่นจนยากที่ใครๆจะเปลี่ยนใจของเขาได้ “และไม่มีใครจะมาเปลี่ยนใจชั้นได้ด้วยเว้ย”
“รวมทั้งชั้นด้วย?” เสียงหวานถามขึ้นราวตัดพ้อกับสิ่งที่ได้ยินจากปากร่างหนา อีทึกค่อยๆก้าวออกมาจากหลังกระถางต้นไม้ใบใหญ่ที่ตัวเองแอบอยู่ สุดท้ายก็ตามฮีชอลมา คังอินหันไปตามเสียงก่อนจะสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นอีทึกยืนอยู่ สายตาที่สั่นระริกของร่างบางนั้นทำให้ร่างหนาอึกอักเล็กน้อย “รวมทั้งคนที่นายเคยบอกรัก ก็รั้งนายไว้ไม่ได้ใช่มั้ย?”
“อะ...อีทึก” น้ำใสๆที่คลออยู่เต็มเบ้าตาสวยของร่างบาง ทำให้ร่างหนาอดที่จะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไม่ได้ ไม่ชอบเลยเวลาที่ต้องเห็นน้ำตาของคนนี้ๆ....
“นายจะไปไหนก็ไปเลย ฮึก...จะไปตายที่ไหนก็ไป ฮือๆๆ” สุดท้ายที่พยายามกักเก็บไว้ก็แตกออกมาจนได้ อีทึกปล่อยโฮออกมาเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ แต่คังอินก็รับรู้ได้ว่าเจ้าตัวกำลังเสียใจ ขายาวทำท่าจะก้าวไปทางที่คนร้องไห้กำลังยืนอยู่ แต่สายตาอาฆาตจากฮีชอลก็สะกดให้ขายาวนั้นต้องหยุดนิ่ง เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผน!
“นายอย่าร้องเลย เพราะยังไงชั้นก็ต้องไป” คังอินเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ พยายามเป็นอย่างมากที่จะไม่ปรี่ตัวเข้าหาอีทึกที่ยังคงยืนสะอื้นไม่หยุด “ชั้นไปก่อนนะ” มือหนาโบกมือให้กับอีทึกก่อนจะหันมาโบกให้เพื่อนและเดินเข้าเกทไป
แต่ก่อนจะได้เข้าไปยังเกท ร่างหนาก็รู้สึกถึงไออุ่นที่กำลังโอบเอวของตัวเองไว้ มือหนาค่อยๆขยับไปแตะแขนเรียว แต่ก็ต้องแข็งใจทำเป็นไม่สนใจและสบัดตัวให้หลุดจากการกอบกุม
“ไอ้หมีบ้า!!! แกจะไม่สนใจชั้นจริงๆใช่มั้ย?...ฮึก...แกจะทิ้งชั้นไปแบบนี้ใช่มั้ย?..ฮึก...” ร่างบางวิ่งตามคังอินเข้าเกทไปโดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ขวางไว้ คังอินก็รีบสาวท้าวให้เร็วขึ้นเช่นกัน เสียงสะอื้นที่ได้ยินอยู่ข้างหลังแทบจะทำให้คังอินหยุดเดินและจับร่างนั้นมากอดไว้แน่นๆ แต่เมื่อมันคือแผนที่ตั้งไว้ก็คงต้องดำเนินต่อไป
“ฮึก...ไอ้หมีคังอิน!! ...หยุดเดินหนีชั้นแบบนี้นะ...ฮึก...ไอ้บ้า!!!” อีทึกวิ่งตามคังอินไปพร้อมกับตะโกนเรียกไม่หยุด น้ำตาที่ไหลอาบแก้มยังคงไหลไม่หยุด
พรึ่บ !!! แสงไฟรอบข้างดับลงหมดก่อนที่อีทึกจะถึงตัวคังอิน อีทึกหยุดวิ่งก่อนจะหันซ้ายหัวขวาเพื่อหาที่ยืดเกาะ เท้าตายทันทีจนแทบจะขยับก้าวไปไหนไม่ได้ ใครๆก็รู้ว่าอีทึกกลัวความมืดมาก....คังอินเองก็เป็นห่วงร่างบางเช่นกัน แต่เขาก็ต้องทำตามแผนต่อไป อีทึกทรุดตัวลงนั่งบนพื้นพร้อมกับซุกหน้าลงกับเข่า ร่างบางตัวสั่นเทารวมถึงน้ำตาที่ยังไหลลงมาไม่ขาดสาย แต่เพียงเวลาไม่นานแสงไฟที่ดับไปเมื่อครู่ก็กลับสว่างขึ้นอีกครั้ง
“พี่นางฟ้าครับ” เสียงเล็กที่แอบแหลมเล็กน้อยพูดขึ้น อีทึกค่อยๆเงยหน้าขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้นางฟ้าคนสวยนั้นต้องเบิกตากว้างด้วยความไม่เข้าใจ คิ้วเรียวขมวดจนเป็นปม
“นี่มันอะไร?” อีทึกถามขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า รวมถึงคนที่ตัวเองเพิ่งวิ่งตามเมื่อครู่ด้วย คังอินย่อตัวลงนั่งตรงหน้าอีทึกก่อนจะยื่นเค้กก้อนใหญ่ให้
“เบิดเดย์ครับที่รัก” พูดพร้อมยิ้มตาหยีส่งให้ “ขอโทษนะครับที่แกล้งแบบนี้ รักนะครับ” นิ้วเรียวปาดน้ำตาที่อาบแก้มขาวของคนรักเบาๆ อีทึกมองหน้าคังอินนิ่งแววตาแข็งกร้าวขึ้นทันที
“สนุกมากมั้ย?” เสียงเรียบที่ถามออกไปนั้นทำให้คนฟังขนลุกตามๆกัน “สนุกมากมั้ยที่ทำแบบนี้ ห่ะ!?” เสียงเล็กตะคอกใส่หน้าคังอิน มือบางผลักอกแกร่งของคนหน้าจนร่างหนาเซถลาไปข้างหลัง
“ขอโทษครับ...” คังอินพูดเสียงอ่อยพร้อมกับก้มหัวขอโทษ
“พวกนายสนุกมากเลย...ฮึก...ใช่มั้ย?...รู้อยู่ว่าชั้น...ฮึก...กลัวความมืด”
“ขอโทษครับพี่....อย่าโกรธเลยนะ” ซองมินย่อตัวลงนั่งข้างๆคังอินก่อนจะทำหน้าสำนึกผิด ร่างเล็กฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันกระต่ายสองซี่หน้า ใบหน้าบ๊องแบ๊วจนอีทึกอดที่จะยิ้มไม่ได้
“เออ...เล่นแรงนะพวกนาย ถ้าชั้นช๊อคตายทำไงเล่า!?” น้ำเสียงไม่พอใจที่เอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มนั้นทำให้คนที่เหลือต่างโล่งอกทันที นึกว่าจะโดนนางฟ้าสุดสวยเหวี่ยงไปนอกโลกซะแล้ว!
“นางฟ้ายิ้มแล้ววว....เลิกร้องได้แล้วพี่” ฮยอคแจพูดขึ้นก่อนจะหยิบถุงกระดาษสีแดงยื่นให้ “เบิดเดย์ครับพี่” อีทึกหยิบถุงนั้นมาก่อนจะเปิดออก
“กลับกันเถอะ...ก่อนที่พ่อชั้นจะมาเอาลมหายใจชั้นไปซะก่อน เล่นมาปิดทางเข้าเกทแบบนี้ ผู้โดยสารคงบ่นยาวแน่ๆ” เยซองรีบบอกก่อนที่จะตาย เล่นมาปิดทางแบบนี้พ่อรู้ต้องโดนปาดคอแหงมๆ ทุกคนจึงพร้อมใจกันเดินออกไป
“มีความสุขมากๆนะครับนางฟ้าของหมี” คังอินหันไปกระซิบข้างหูของอีทึก เลือกทั่วกายต่างไหลมารวมกันที่แก้มใส อีทึกอมยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่แก้มนั้น
“วันหลังนายอย่ามาเล่นอะไรแบบนี้อีกนะ ก็รู้ว่าชั้นกลัวความมืด” อีทึกเอ่ยออกมาเสียงหวาน คังอินอดไม่ได้ที่จะดึงคนร่างบางมากอดไว้เสียแน่น
ถ้าเป็นคนอื่นอีทึกคงโกรธและพร้อมจะเหวี่ยงไปแล้วที่แกล้งกันแบบนี้ แต่นี่เพราะเป็นคนที่เขารัก ไม่ว่าเขาจะทำอะไรลงไป ผมเชื่อ...ว่าทั้งหมดมันคือความรัก ทุกอย่างที่แสดงออกมาผมรับรู้ได้ถึงความรักที่แฝงมากับสิ่งๆนั้น ถึงมันจะน่าโกรธแค่ไหน แต่ผมไม่อยากเก็บเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้มาทำให้เราผิดใจจนความรักต้องสั่นคลอน แต่จะว่าไปมันก็น่าเจ็บใจนะ...แกล้งกันแบบนี้ดีนะที่ผมไม่ช๊อคตายกับความมืดเมื่อครู่
“ย๊ากกกกก ! ไอ้หมี...แกทำชั้นตกใจมากนะเมื่อกี๊ แล้วนี่มันอะไรกันห่ะ?....ทำไมต้องลากมาถึงสนามบิน ไอ้พวกบ้าเอ๊ยยยย !!!!!!!” สุดท้ายก็เพิ่งคิดได้ว่าสมควรที่จะต้องเหวี่ยง อีทึกหันไปแว๊ดใส่คังอินพร้อมทั้งเตะและต่อยจนพ่อหมีต้องรีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ส่วนคนอื่นๆก็ไม่ต่างกัน ในเมื่อนางฟ้าองค์ลงแล้วจะอยู่ให้เหยียบนี่ก็กระไรอยู่...ทุกคนจึงวิ่งหนีเอาตัวรอด ปล่อยให้พ่อหมีคนหล่ออยู่ให้นางฟ้าอีทึกเล่นงานไปคนเดียว
“ไอ้พวกบ้าเอ๊ย...ตอนคิดแผนแล้วอยู่ด้วยกันหมด แต่พอตอนชำระความให้ชั้นอยู่คนเดียว หมีอยากตายโว๊ยยยย!!!” คังอินตะโกนลั่น “ที่รักครับ...อย่าทำแบบนี้กับพ่อหมีเลยคร้าบบบ....”
.
.
.
.
.
.
.
.
TBC
ตอนนี้ป่วงได้อีกอ่ะ 55 แต่งได้เพี้ยนมากกกกกก !!!
สนุกกันป่ะเนี่ย? หรือว่าน่าเบื่อ? - -*
แต่งเองแล้วก้อสับสนเอง....
พ่อหมีตายแหงมๆ ก๊าก ก กก ก
ฝากติชม ฝากเม้นด้วยนะจ๊ะ
รักคนอ่านนนน
จวฟฟฟฟฟฟ -3-
ความคิดเห็น