คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ::: Times & Loves [ 1 ] :::
..1..
“ย๊อค...แกอยู่ไหนเนี่ย?” ซองมินกรอกเสียงใส่โทรศัพท์เครื่องสีดำที่แนบอยู่ที่หูของตัวเอง
“อยู่ใต้ตึก มีไรว่ะไอ้อ้วน? แล้วแกอยู่ไหน?” ฮยอคแจตอบกลับพร้อมกับกวนประสาทใส่ด้วยคำที่ซองมินฟังทีไรต้องปรี๊ดแตกทุกที
“อ๊ากกก!!! ไอ้ไก่ขาดสารอาหารเอ๊ย....”
“โอ๋ๆๆ ล้อเล่นหน่า...ตกลงแกอยู่ไหนเนี่ยจะได้ไปหา?” เมื่อเห็นคนปลายสายเริ่มฟาดงวงฟาดหางเลยเปลี่ยนมาถามแทน
“ชั้นอยู่สนามบาส”
“ไปทำอะไรของแกว่ะ...อย่าบอกว่าคิดจะเล่นกีฬา?” ร้อยวันพันปี...ไม่มีวันไหนที่เจ้ากระต่ายอ้วนมันจะเล่นกีฬาให้ไขมันที่มันหมักหมมในร่างกายหายไปเลย แล้วไหงวันนี้ไปอยู่สนามบาสได้?.....
“ไอ้คยูมันลากชั้นมาโว้ย...รีบๆมาเลยมีเรื่องจะบอก ภายในห้านาทีถ้าชั้นไม่เห็นหน้าไก่ๆของแกนะ ชั้นจะไปบอกไอ้บวมว่าแกชอบมัน!!!”
“เล่นงี้เลยหรอไอ้อ้วน !!! ก็ได้คร้าบบ น้องไก่คนนี้จะไปเสนอหน้าให้เห็นภายใน 30 วินาที” ไม่ต้องรอให้ซองมินพูดอะไรปลายสายก็ชิงกดวางเสียก่อน
คำขู่ที่ซองมินบอกไปนั้นได้ผลทุกครั้งที่จะใช้บังคับให้เพื่อนรักทำอะไร....และเป็นอย่างที่บอกไว้ เพียงเวลาไม่ถึงสองนาที ร่างผอมๆหน้าไก่ๆก็วิ่งหอบมาพร้อมพ่วงคนตัวเล็ก หน้าหวานๆไม่ต่างจากเจ้าตัวมาด้วย
“มาแล้ววว...แฮ่กๆๆ...เหนื่อยชิบ....” คนหน้าไก่ที่วิ่งตาตื่นมานั้นหอบจนตัวโยน ก่อนจะนั่งลงข้างๆซองมินและฟุบหน้าลงกับโต๊ะหินอ่อน
“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า อยากกวนประสาทชั้นเองอ่ะ โฮะๆๆ” กระต่ายอ้วนแปลงร่างเป็นแม่มดแล้ว หัวเราะได้สะใจจริงๆ.....
“อ้อ...ไอ้ไก่ นั่นใครหน่ะ?” เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีอีกคนที่ยืนหอบอยู่ ซองมินจึงถามฮยอคแจก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้คนตัวเล็กนั้นด้วย
“อ้อ...ลืมเลย...นี่อี ทงเฮ เพื่อนที่คณะหน่ะ” ฮยอคแจเงยหน้าขึ้นตอบ ก่อนจะหันไปมองทงเฮ “แล้วนี่ไอ้อ้วนซองมิน เพื่อนสนิทชั้นเอง”
“หวัดดี” ทงเฮพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานจนเห็นเขี้ยวอันทรงสเน่ห์ ทางซองมินเองก็ยิ้มกลับเช่นกัน
“นั่งก่อนๆ วิ่งกันมาเหนื่อยเชียว เพราะแกเลยไอ้ไก่พาคนอื่นเค้าเหนื่อยไปด้วยเลย” ซองมินพูดพร้อมเขยิบให้ทงเฮนั่งด้วยก่อนจะหันไปว่าฮยอคแจต่อ
“ไม่เป็นไรหรอก เห็นย๊อคบอกว่านายมีเรื่องด่วนเลยรีบวิ่งมา” คนตัวเล็กที่นั่งข้างๆรีบชี้แจงแถลงการณืถึงสาเหตุของการวิ่งใส่สปีดเมื่อครู่ สร้างรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากกระต่ายอ้วนได้ทันที
“เรื่องด่วนเลยเนอะย๊อค?” หันไปถามเสียงสูง จนคนหน้าไก่แอบหมั่นไส้ไม่ได้...อย่าถึงตาชั้นบ้างนะไอ้อ้วนเอ๊ย...ไอ้ไก่คนนี้จะจับกระต่ายเชือดให้หมาป่ามันดูเล้ยยยย !!!
“นายสองคนมีเรื่องส่วนตัวพูดกันหรือเปล่า? ชั้นไม่กวนก็ได้นะ” ทงเฮถามขึ้นเมื่อนั่งตั้งนานแล้วไม่เห็นซองมินคุยเรื่องด่วนที่บอกจนทำให้เขาและฮยอคแจรีบวิ่งมานี่เลย
“ไม่ต้องหรอก...ไม่ได้เป็นความลับอะไร” ซองมินหันไปตอบ “พรุ่งนี้วันเกิดคุณพี่นางฟ้าปีกหัก ไอ้คุณพี่หมีมันเลยชวนกันทำเซอไพรส์อ่ะ”
“สนุกมากมั้ยไอ้อ้วนที่เที่ยวตั้งฉายาเขาไปทั่วเนี่ย? ภูมิใจนักนะ...” ร่างบางถามขึ้น ไม่ว่าใครต่อใครก็ได้รับฉายาที่คนตั้งมันแสนจะภูมิใจ แต่ไอ้คนที่ได้รับนี่สิภูมิใจจนอยากจะถวายเงินซักสิบล้านเพื่อให้มันไปเที่ยวเล่นในนรกซักชาตินึง
“ชิ...ไอ้นี่หนิ...แล้วไอ้ฉายาเพราะๆที่พวกนายมอบให้ชั้นเนี่ย...มันน่าภูมิใจนักหรือไง?” คุยกันดีๆได้ไม่เกินห้าประโยค สุนัขที่เดินเล่นอยู่ในปากของแต่ละคนก็รีบวิ่งออกมาชมโลกกว้างทันที ทงเฮได้แต่หันซ้ายไปมองซองมินที หันขวาไปมองฮยอคแจทีพร้อมกับหลุดขำออกมา
“เออ...ก็มันเหมาะกับแกนี่หว่า...ตัวกลมแทบกลิ้งแทนเดินอยู่แล้ว...จะให้เรียกไอ้แผ่นกระดาษหรือไง?”
“แล้วไอ้หน้าไก่มันไม่เหมาะกับแกตรงไหน?”
“เถียงอะไรกันนักหนาว่ะไอ้สองคนนี้ เจอหน้ากันเป็นปล่อยหมาออกมาวิ่งเล่นตลอด” เสียงแหลมๆที่ดังขึ้นมาขัดจังหวะการเถียงที่ได้อรรถรสของทั้งคู่นั้นเรียกความสนใจจากคนที่ได้ยินเป็นอย่างดี จากที่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงในปากออกมาวิ่งใส่กันนั้นต่างรีบเก็บเข้าไปอย่างรวดเร็ว ขืนเถียงกันต่อไปได้กินฝ่ามือจากอาเจ้แหงมๆ
“เจ้มาได้ไงเนี่ย? ไหนว่าจะไปคุมตี๋น้อยให้อยู่ในโอวาสไง?” ซองมินถามขึ้นเมื่อเห็นพี่สาว(?)คนสวยเดินอาดๆมานั่งตรงข้าม ไม่วายที่จะปล่อยหมาออกมาตัวสองตัว
“ชั้นละเหนื่อยใจกับแกจริงๆเล้ย...พรุ่งนี้ว่างมั้ย?” คนที่ถูกเรียกว่าอาเจ้ถามขึ้น
“รู้แล้วหน่าว่าต้องไปงานเบิดเดย์คุณพี่นางฟ้าปีกหักหน่ะ” ซองมินตอบออกมาอย่างมั่นใจในคำตอบตัวเอง แต่เมื่อได้ยินประโยคที่สวนกลับก็หน้างอขึ้นทันที เรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างเป็นอย่างดี
“ไม่ใช่หรอก ชั้นจะพาไปให้พ่อไอ้คุณชายมานเอาหมาออกจากปากแกหน่ะ ฮ่าๆ” ฮีชอลหัวเราะออกมาเสียงดัง ไม่บอกก็รู้ว่าสะใจมากที่ได้ตอกกลับเจ้ากระต่ายอ้วน
“ชิ...หัวเราะเข้าไป...เดี๋ยวก็แช่งให้ตี๋น้อยไปมีชู้ซะเลย” คนถูกตอกกลับเบะปากก่อนจะแช่งออกไป
“หึ...พี่ชายแกมันจะกล้าหร๊อ?” ฮีชอลถามเสียงสูงพร้อมหันไปมองร่างสูงที่กำลังยืนคุญกับเพื่อนๆในสนามบาส “แค่ชั้นขู่ว่าจะไปหากิ๊ก มันก็แทบจะถลามาแทบเท้าแล้ววว หึหึ” คนสวยหันมาบอกน้องๆที่นั่งขำกับความมั่นใจของตัวเอง
“กิ๊กงั้นหรอออออ? อยากมีมากมั้ย?” เสียงทุ้มที่ดังจากข้างหลังนั้นทำให้ฮีชอลสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเบะปากใส่ร่างสูงที่มานั่งอยู่ข้างๆ
“มากสิ ใครมันอยากมีแฟนอย่างแกไอ้ตี๋เอ๊ย!”
“โอเค...งั้นเลิกกัน....ชั้นจะได้ไปหาสาวๆสวยๆมานอนกอดแทนแก” ฮันกยองพูดขึ้นอย่างไม่ยี่หระพร้อมส่งสายตากวนใส่คนสวยที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่ทันได้ยิ้มนานมือบางก็ฟาดใส่เต็มหลังเรียกความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี
“พูดงี้อีกแล้วนะไอ้ฮัน...อยากเลิกนักใช่ม่ะ?” ไม่ชอบเลยเวลาที่อีกคนพูดว่าเลิกกัน...ถึงจะรู้ว่ามันแค่ล้อเล่น แต่ก็อดที่จะใจหายไม่ได้ถ้ามันต้องเกิดขึ้นจริง
“ล้อเล่นหน่า...อย่าคิดมากดิ” มือหนายกขึ้นลูบหัวแฟนตัวเองเบาๆ น้ำเสียงอ่อนโยนที่เอ่ยออกมานั้นทำให้ร่างบางใจชื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“นี่เฮีย...สนใจน้องนุ่งบ้าง นั่งหัวโด่กันตั้งหลายคน หวานมากไปมั้ง?” ฮยอคแจที่นั่งดูพี่ทั้งสองสวีทกันแล้วรู้สึกตะหงิดปากจนต้องปล่อยหมาออกมาวิ่งเล่นซักสองสามตัว
“ไอ้นี่หนิ!” ฮีชอลหันไปแหวใส่ แต่ถ้าหวังว่าจะมีอาการเขินตัวม้วนที่โดนน้องแซวนั้นคงชาติหน้าแล้วหล่ะ...เพราะคนอย่างคิม ฮีชอลไม่เคยที่จะเขิน!!!
“อ่าว...แล้วนั่นใครอ่ะ?” เมื่อสังเกตเห็นคนหน้าไม่คุ้นนั่งทำตาปริบๆอยู่ตรงหน้า ฮีชอลจึงถามขึ้นพร้อมชี้ไปทางทงเฮ
“ไม่ถามเอาชาติหน้าหล่ะ?” ฮยอคแจโพล่งขึ้น
“ผมอี ทงเฮครับ เพื่อนที่คณะของฮยอคแจ” ไม่ต้องรอให้เพื่อนหน้าไก่แนะนำให้คนอื่นรู้จัก ทงเฮก็แนะนำตัวเองเสียก่อน
“ทงเฮ ชื่อเพราะดีนะ” ฮันกยองหันมายิ้มให้พร้อมชมเสียเลย
“ขอบคุณครับ” คนที่ถูกชมก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ
“ไม่ต้องพูดเพราะขนาดนั้นก็ได้คนกันเองหน่า” คนสวยที่สุดในโต๊ะพูดขึ้น
“ตกลงพรุ่งนี้เอาไงอ่ะเจ้?” ซองมินถามขึ้น “จะเซอไพรส์พี่ทึกยังไงอ่ะ?”
“อ๋อ...ชั้นเตรียมแผนไว้แล้วไม่ต้องเป็นห่วง คิคิ” ฮีชอลหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับสุมหัวอธิบายแผนการณ์หลอกล่อนางฟ้าให้น้องๆฟัง เรียกเสียงหัวเราะครึกครื้นจากทุกคน
“ทำตามแผนเลยนะ โอเค๊?” อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างภูมิใจกับแผนของตัวเอง ก่อนจะหันไปพูดแกมบังคับใส่ทงเฮ “นายต้องไปนะ!” นี่ขนาดเพิ่งรู้จักกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็หันไปสั่งเขาจนได้....
“ผมไปได้ด้วยหรอ?” ทงเฮเลิกคิ้วถามพร้อมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“ถูก...บอกว่านายเป็นแขกของชั้น” คนอย่างคิม ฮีชอลซะอย่าง ไม่มีใครว่าหรอก.......
“ครับ” ทงเฮตอบตกลงและยิ้มบางๆให้พี่สาว(?)คนสวย
“เออ...ว่าแต่แกมาอยู่นี่ได้ไงซองมิน?” เพิ่งจะเอ๊ะใจว่าทำไมน้องชายตัวแสบของเขาถึงมาขลุกอยู่สนามบาสได้ ปกติไม่เห็นแม้แต่เงา....
“นั่นสิ...กะว่าจะถามก็ลืม” ฮยอคแจพูดเสริมขึ้นมาด้วยความสงสัยไม่ต่างกัน
“กะ....ก็อยากมาอ่ะ ทำไม? สนามบาสมันมีป้ายห้ามให้ผมเข้ามาหรือไง?” เสียงตะกุกตะกักที่ตอบออกไปนั้นยิ่งสร้างความสงสัยให้คนฟังมากกว่าเดิม
“แกกำลังโกหก” เหมือนเพื่อนรักหน้าไก่จะรู้ทันจึงโพล่งขึ้นมา
“บอกไปเลยว่านายมาเฝ้าแฟน!” เสียงตะโกนที่ดังมาจากข้างหลังนั้นสร้างความตกตะลึงให้คนที่กำลังสงสัยอยู่ “ซองมินมานั่งเฝ้าชั้นเองแหละพี่” คยูฮยอนที่เหงื่อท่วมตัวจากการเล่นบาสพร้อมกับยืนหอบอยู่ข้างๆซองมินพูดขึ้นให้คนสงสัยได้กระจ่าง แต่เหมือนกับจะเป็นเรื่องช๊อคของโลก เพราะแต่ละคนที่ได้ยินมีอาการเดียวกันหมดคือ ตาเบิกกว้าง อ้าปากค้างอยู่ท่าเดียวกันเหมือนโดนใครสต๊าฟไว้ยังไงอย่างงั้น.....
“ไอบ้า...ไปบอกคนอื่นเขาได้ไงว่ะ?” เมื่อตั้งสติได้ ซองมินจึงหันไปแหวพร้อมแยกเขี้ยวใส่ร่างสูงทันที แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คยูฮยอนรู้สึกกลัวแม้แต่น้อย ยิ่งรู้สึกชอบใจเสียอีกที่ได้แกล้งไอ้อ้วนข้างๆ
“แกสองคน...?” เหมือนอาการช๊อคยังไม่หาย ฮันกยองจึงทำได้แต่ชี้หน้าทั้งสองสลับกันไปมา
“ครับพี่...ผมกับซองมินคบกันแล้ว” คยูฮยอนตอบออกมาอย่างภาคภูมิที่ตามจีบกระต่ายอ้วนได้สำเร็จ
“เมื่อไหร่ว่ะ?” ฮยอคแจที่นั่งงงเป็นไก่ตาแตกนั้นถามขึ้น
“เมื่อหนึ่งชั่วโมง 43 นาทีที่ผ่านมา” ร่างสูงตอบพร้อมกระแซะนั่งข้างซองมิน
“เวอร์ไปไอ้น้อง...ให้มันน้อยๆหน่อย” ฮันกยองหันมาถลึงตาใส่ “ชั้นไม่ให้แกคบกัน โอเค๊?”
“อ่าวพี่...ได้ไงอ่ะ?” คยูฮยอนถามขึ้นอย่างงงๆ ตอนที่ตามจีบก็สนับสนุนเต็มที่ แต่พอได้เป็นแฟนกลับไม่ให้คบกันซะงั้น?
“ก็ไม่ให้ไง...” ตอบออกไปส่งๆ จนฮีชอลอดไม่ได้ที่จะหยิกเข้าสีข้างเรียกเสียงโอดอวยจากฮันกยองแทบจะทันที
“บ้าหรือไง? น้องมันจะคบกัน จะกีดกันให้ได้อะไรว่ะ?” ฮีชอลหันไปเอ็ดร่างสูง “คบกันไปเหอะ....อย่าไปฟังไอ้ตี๋บ้านี่เลย หวงน้องไม่เข้าเรื่อง”
“ถึงไม่ให้คบผมก็ไม่ยอมหรอก และอีกอย่างซองมินตอบตกลงเรียบร้อยแล้วด้วย” พูดเสร็จก็หันไปยิ้มหวานให้คนที่เปลี่ยนฐานะจากเพื่อนมาเป็นแฟนได้ไม่นาน สร้างความหมั่นไส้ให้ฮันกยองมากกว่าเดิม
“น้อยๆหน่อยไอ้คยู...” ฮันกยองส่งสายตาอาฆาตไปให้คยูฮยอน แต่เหมือนมันจะไม่กระทบกระเทือนอะไรเลย เพราะคยูฮยอนก็ยังคงส่งสายตาและรอยยิ้มหวานๆให้ซองมินเหมือนเดิม
“ซองมิน....ไม่ต้องนอนหอแล้วนะวันนี้ กลับบ้านกับเฮีย!” เสียงทรงอำนาจสั่งขึ้นเรียกให้ขนที่นอนหลับอย่างสบายตามตัวลุกขึ้นยืนตรงแทบไม่ทัน ซองมินหันไปมองหน้าพี่ชายของตัวเองสลับกับไอ้หน้าหล่อที่นั่งข้างๆ พลางทำหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด
“อย่าไปฟังมันเลยซองมิน คนมันบ้า” ฮีชอลเลิกสนใจคนที่นั่งเก๊กหน้าโหดข้างๆก่อนจะหันไปสนใจน้องชายที่เพิ่งตกลงปลงใจคบกัน “ว่าแต่แกสองคนเหอะ...ไปคบกันได้ไง?”
“ก็...โอ๊ยย!! บอกไปดิ...อยากพูดมากเองก็พูดเองให้หมดละกัน” ซองมินหันไปแหวใส่คยูฮยอนแก้อาการเขิลและอาการเลือดที่วิ่งจู๊ดไปที่แก้มขาวๆจนเกิดสีแดงระเรื่อ ยิ่งส้รางความตกใจให้คนที่เห็นอีกครั้ง ร้อยวันพันปีไอ้กระต่ายอ้วนคนนี้ไม่เคยเล้ยที่จะเขินแบบนี้....ท่าจะอาการหนัก - -*
“ก็แค่ขอคบ แล้วซองมินก็ตอบตกลง ไม่เห็นต้องถามเลยเจ้” ซองมินได้แต่ก้มหน้างุดให้คนที่เห็นได้ตกใจกับอาการเขินนี้เล่นๆ
“อ้าวคิบอม!” ฮยอคแจตะโกนเรียกร่างสูงเดินกำลังเดินทางโต๊ะที่นั่งอยู่พร้อมกับยิ้มหวานโชว์เหงือกให้ “ทำไมวันนี้ไม่มาเล่นบาสกับพวกนี้ว่ะ”
“ขี้เกียจ พอดีจะกลับบ้านก็เลยไปเก็บของที่หอมา” เสียงทุ้มเอ่ยตอบก่อนจะหย่อนกายลงนั่งข้างทงเฮ “แล้วนี่?” ถามพร้อมกับชี้คนตัวเล็กที่ตัวเองนั่งข้างด้วย
“เพื่อนชั้นเองแหละชื่อทงเฮ” ฮยอคแจตอบ “นี่คิบอมนะด๊อง” คิบอมหันไปก้มหัวให้ทงเฮก่อนจะหันกลับไปมองเพื่อนๆที่นั่งคุยกัน
“คุยอะไรกันอยู่? แล้วซองมินมันเป็นอะไรก้มหน้าแทบจะมุดเข้าใต้โต๊ะ แล้วพี่ฮันเป็นอะไรทำหน้ายังกับจะไปฆ่าคน?” คิบอมถามขึ้นเป็นประโยคที่ยาวกว่าปกติที่คุยกัน
“มันเขิน แล้วไอ้ตี๋นี่ก็แค่หวงน้องเกินลิมิตเท่านั้นเองไม่ต้องไปสนหรอก” ฮีชอลตอบกับโบกมือปัดๆเชิงบอกว่าไม่ต้องสนใจ
“แกจะกลับบ้านทำไมอ่ะ?” ฮยอคแจถามขึ้น
“แม่เรียกตัวกลับ” ตอบเสียงเรียบ
“ฝากบอกแม่แกด้วยว่าชั้นคิดถึง ว่างๆจะแวะไปเยี่ยม”
เขากับคิบอมสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านอยู่ติดกันจนขึ้นม.ต้น พ่อกับแม่ของฮยอคแจต้องย้ายไปทำงานที่ทางใต้จึงทำให้เขาถูกส่งตัวไปอยู่กับป้า แต่ก็ยังคงเรียนที่เดียวกันมาตลอดเลยทำให้เขาสนิทกับคิบอมและทางบ้านของคิบอมมาก และความสนิทนี่เองที่ทำให้ความรู้สึกดีๆเกินคำว่าเพื่อนก่อตัวขึ้นภายในใจของฮยอคแจ มีเพียงซองมินเท่านั้นที่รู้ว่าเขาคิดกับคิบอมเกินคำว่าเพื่อน......
“ด๊อง...จะกลับบ้านเลยป่าว?” ฮยอคแจหันไปถามทงเฮที่นั่งเงียบอยู่ แต่ก็ต้องสะดุดกับสายที่เพื่อนของเขากำลังมองคิบอมอยู่ แววตาที่แสดงออกมานั้นเปล่งประกายบางอย่างอยู่เหมือนแววตาที่พี่ฮีชอลใช้มองพี่ฮันกยอง เหมือนสายตาที่พี่อีทึกใช้มองพี่คังอิน และเขาก็มั่นใจว่าแววตาแบบนี้แหละที่เขามองคิบอมบ่อยๆ....อย่าบอกนะว่านายกำลัง....?
“อื้ม...เดี๋ยวก็จะกลับแล้วหล่ะ” ทงเฮหันไปตอบ
“บ้านนายอยู่แถวไหนอ่ะ?” ไม่รู้อะไรดลใจให้คิบอมถามขึ้น ทั้งๆที่ปกติไม่ค่อยจะสนใจเรื่องคนอื่นแต่ไหงคราวนี้ถึงถามขึ้นมาได้ ฮยอคแจชายตามองคิบอมแทบจะทันทีก่อนสีหน้าที่เปื้อนยิ้มเมื่อครู่จะเริ่มบูดบึ้ง แต่ก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สังเกตมันได้คือซองมิน ขาวอวบๆนั้นจึงเตะขาเพื่อนหน้าไก่ใต้โต๊ะเพื่อเตือนสติ
“อยู่แถวยองซันหน่ะ” (จินตนาการว่าอยู่ในกรุงโซลนะคะ....-*- เพราะไรเตอร์เองก็ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนของโซล 55)
“ใกล้บ้านไอ้บอมเลยหนิ” คยูฮยอนโพล่งขึ้นมา “แล้วนายกลับยังไงอ่ะ?”
“คงนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินกลับ”
“งั้นไอ้บอมทางเดียวกันก็พาทงเฮไปด้วยเลยดิ”
“อื้ม...กลับด้วยกันก็ได้” คิบอมหันมาบอกทงเฮก่อนที่ร่างบางจะตอบตกลงไป ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้คนหน้าไก่มากขึ้น แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี.....
“งั้นชั้นกลับหอก่อนนะ” พูดเสร็จฮยอคแจก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที ทำให้คนที่เหลืองงกับอาการของคนหน้าไก่ แต่ซองมินเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจอาการนี้ดี....หึงไม่ลืมหูลืมตาอีกแล้วนะเจ้าไก่เอ๊ยยยย.....
.
.
.
.
.
.
.
.
2 Be Con
มาเสิร์ฟตอนแรกให้อ่านกันแล้วนะคะ
ยาวไปมั้ย?....หรือว่าสั้นไป 555
ย๊อคหึง !! อิอิ
สัตว์เลี้ยงออกมาวิ่งเล่นกันใหญ่เลยแต่ละคน 55
นุ้งมินเขินได้น่ารักเนอะ >///<
หวังว่าคงจะชอบกันนะคะ
ฝากเม้น ฝากติชมด้วยน้า....
ความคิดเห็น