ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพื่อนทางจดหมาย ดอกไม้และสายลม

    ลำดับตอนที่ #3 : เจ้าชู้ในอารมณ์

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 49


    ความจริงที่เขาไม่เคยอยากพบหล่อน ไม่เคยอยากเห็นหน้าตาหล่อนจริงๆ
      ไม่เคยแม้แต่จะรู้สึกกับหล่อนมากเกินกว่านี้
      สิ่งที่เขากำลังรู้สึก ไม่อาจเรียกว่าความรัก แต่มากกว่าคำว่ารัก
       ถ้าความรักคือการอยากได้ อยากครอบครอง
      เพราะรักในความหมายของเขาคือการอยากเห็นหล่อนมีความสุขกับคนรัก
      กับชีวิตที่กำลังดำเนินไปในแนวทางที่หล่อนกำลังเป็นอยู่
      เขาบอกหล่อนเสมอว่าเขารักหล่อนในวิถีทางของเขา  คนเราอาจถูกแบ่งแยกออกเป็นประเภท
      และเขาคงไม่จัดอยู่ในประเภทคนทั่วไป แต่เป็นประเภทคนธรรมดาถึงคนพิเศษ   …
      เขาไม่ใช่คนในแบบที่หล่อนเคยรู้จัก และคิดว่าเขาจะเป็น
     
      หล่อนเคยโทรหาเขาตอนเช้า  ขณะที่คนรักเขาเป็นคนรับสาย
       เขาตกใจที่เป็นหล่อนโทรมา ไม่เคยคิดว่าหล่อนจะโทรเข้าบ้านเพราะปกติจะคุยกันทางมือถือ
       และตกใจเกรงว่าคนรักของเขาจะระแวง แต่เขาโชคดีเสมอที่คนระแวงกลายเป็นเขาฝ่ายเดียว
     
      "เอยโทรมาปลุกพี่เปล่าคะ " เสียงหล่อนนุ่มนวลและดูมีความสุขกับการได้โทรหาเขา เหมือนอยากให้เขาเซอร์ไพรส์
     
       "ไม่เลยจ้ะ ถึงพี่จะหลับอยู่  พี่ก็ยินดีจะรับสายถ้าเป็นเอย " 
     
      หล่อนอาจจะคิดว่าเขาพูดหวาน แต่ความจริงเขาเป็นคนพูดแบบนั้น
       พูดเพื่อให้ใครๆรู้สึกดี  เขาคิดว่าคนเราไม่ต้องทำอะไรให้กันมากมายหรอก  แค่คำพูดเพราะๆ
      แค่ไม่พูดด่าทอกันและกัน  ก็ทำให้คนเรายิ้มออกมาได้  เขาชอบทำให้คนรอบข้างมีความสุข
      และชอบพูดให้คนฟังมีกำลังใจ  จริงๆแล้วเขาไม่ได้จีบหล่อนจากการพูดจา หรือจากการเขียนถึง
      แต่เขาจีบหล่อนจากหัวใจบริสุทธิ์ที่ส่งผ่านออกมาเป็นถ้อยคำ หล่อนอาจรู้สึกถึงได้ หล่อนถึงชอบคุยกับเขา
      มากกว่าคนอื่นๆที่มารุมจีบหล่อน
     
      "เอย อยู่ไหนจ๊ะ โทรหาพี่แต่เช้าเลย"
     
      " เอยมากับแฟนค่ะ พอดีเขาไม่อยู่เอยนั่งรอในรถ  เลยโทรหาพี่ "
     
      หล่อนบอกความจริงเพราะเขาเคยบอกว่า
      ความจริงคือความสบายใจ  ถ้าอยากคบใครสักคนด้วยความสบายใจก็ไม่ควรมีเรื่องโกหกเข้ามาเกี่ยวพัน
      ความจริงที่แม้บางครั้งเป็นความเจ็บปวดก็ยังดีกว่าคำโกหกที่ทำให้สบายใจได้แค่ช่วงสั้นๆแต่เจ็บปวดยาวนาน
      และตามติดมาเป็นความตกต่ำในถ้อยคำโกหก
       เขาเชื่อหล่อนมากกว่าเชื่อในใครอื่นเพราะเขารู้ว่าหล่อนเองก็เชื่อถ้อยคำของเขา และต่างก็พูดแต่ความจริงต่อกัน
     
       "พี่ไม่คิดมากนะคะ ที่เอยมากับแฟน "
     
        " พี่ก็อยู่กับแฟน  เอยยังไม่คิดอะไรเลยใช่ไหมจ๊ะ "
     
       "บางครั้งก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น  เอยไม่รู้สิคะ เอยไม่รู้ความรู้สึกเป็นแบบไหน แต่เอยคิดถึงพี่บ่อยๆ"
     
       "พี่เข้าใจจ๊ะ"
     
       "เพราะมีน้อยคนมั้งคะที่เข้าใจเอย เข้าใจสิ่งที่เอยรู้สึก พี่สามารถรู้ในสิ่งที่เอยกำลังคิด "
     
       "พี่เป็นหมอดูไงจ๊ะ " 
     
       เราคุยกันได้เรื่อยๆเสมอในทุกเรื่องที่เป็นหัวข้อสนทนา คุยกันได้นานๆ
      เป็นชั่วโมง เป็นค่อนคืน ตื่นเช้าเราก็ยังมีใจอยากจะคุยกันอีก 
      แปลกนะ กับบางคนหัวข้อสนทนาแสนสั้น
      แสนง่าย และจบลงรวดเร็ว แต่กับบางคน คุยเท่าไหร่ก็ไม่อยากจบ 
       แต่ยามต้องจบ ก็จบในถ้อยคำคำเดียว
      และเป็นบทจบที่แสนรวดร้าว ทั้งที่ยังมีอะไรมากมายที่อยากพูดต่อ
       แต่ทุกคำพูดเหล่านั้นยิ่งพูดไปก็เหมือนยิ่งเจ็บปวดและยิ่งแตกร้าวแทนที่จะดีขึ้นกลับแย่ลง
       เหมือนเรื่องระหว่างเราในเวลาต่อมา
      ที่ใช้ถ้อยคำดีแค่ไหนก็ไม่มีใครรับฟัง  แค่ความเชื่อใจกลับกลายเป็นความระแวงแคลงใจ
       ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
      จึงเป็นเรื่องหลอกลวง โกหกในความคิดของอีกฝ่าย
     
      เจ็บปวดแค่ไหนที่ความจริงเป็นสิ่งตรงกันข้ามในความคิดของอีกคน
      เจ็บปวดมากกว่าที่ความจริงไม่ใช่เรื่องจริง  และเรื่องจริงเป็นความเจ็บช้ำที่ไม่มีวันอภัยได้
     
      เรื่องจริงที่เขาเป็นคนเจ้าชู้ในอารมณ์  เขาแค่มีอารมณ์เจ้าชู้ และอ่อนไหว
       เขาอาจทำผิดที่ไปติดต่อกับน้องสาวของหล่อนในขณะที่เรื่องราวระหว่างเขากับหล่อนอยู่ในช่วงแตกร้าว
       เขาแตกร้าวกับหล่อนด้วยถ้อยคำคำเดียว
      คำที่เขาบอกว่า  หล่อนพูดจาไม่เพราะ  เขาไม่เคยคิดว่าแค่คำพูดคำเดียวของเขา จะทำให้หล่อนโกรธถึงขนาด
      ตัดความสัมพันธ์ดีดีกับเขาในค่ำคืนหนึ่ง  หล่อนบอกว่า
     
      "เอยทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจพี่ "   แต่เขาเชื่อว่าสิ่งที่หล่อนตั้งใจให้เป็นมากกว่าคือการตัดใจจากเขาเพื่อคนรัก
       หล่อนบอกว่า กลัวคนรักของหล่อนรู้ว่าแอบติดต่อกับเขา เพราะหล่อนเริ่มรู้สึกกับเขามากเกินไป
      จนไม่สามารถเรียกความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นว่ามันคืออะไร ระหว่างความรัก และความฝัน
      หล่อนแยกความจริงออกจากความฝันไม่ได้  หล่อนนำสองสิ่งมาผสมกันจนไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงสิ่งที่หล่อนมีสิทธิ์จะฝันในโลกความฝันที่หล่อนควรจะเป็นเจ้าของคนเดียว
     
      หล่อนบอกว่าไม่อยากอึดอัดกับการปกปิดสิ่งใดๆกับคนใกล้ตัว  แต่กลับทำร้ายจิตใจเขาด้วยการตัดรอนเยื่อใยทั้งหมดที่เคยมี หยุดความสัมพันธ์ทันทีทันใด  หล่อนเคยรู้สึกสักนิดไหมว่าสิ่งนี้แหละที่ทำให้เขาค้นหาคำตอบ
      และเริ่มเข้าใกล้น้องสาวของหล่อน และเป็นสิ่งที่หล่อนไม่มีวันให้อภัยเขา
     
      และเขาก็ทำผิดพลาดที่เหมือนว่าจะตกลงไปในหลุมตื้นๆแค่ไม่นานกับน้องสาวหล่อน
      น้องสาวหล่อนที่เฝ้าถามเขาว่า
     
       " ถ้าอิงไม่ใช้น้องพี่เอยพี่จะมารู้สึกแบบนี้กับอิงไหมคะ "
     
       "แน่นอน ถ้าอิงเป็นน้องคุณแดงคุณดำ พี่ไม่มีทางคุยด้วยหรอก "
       คำพูดตรงๆที่ทำร้ายน้องสาวหล่อน
      ที่คนอย่างเขาไม่น่าพูดออกไป  คำพูดจริงที่จริงเกินไปบางทีก็ไม่ใช่จะดีเสมอไป เขาเรียนรู้บางสิ่ง
      จากบทเรียนรักบทนี้
     
      เพราะความน่ารักของอิง
       และคนที่แพ้ความน่ารักของคน….อย่างเขา  เขาถึงเขียนภาษาอารมณ์บทนี้ถึงอิง
      และนี่แหละคือสิ่งยืนยันยิ่งขึ้นไปอีกว่าเขาทำผิด เพราะเขารู้สึกแบบนี้กับน้องสาวของหล่อนกระนั้นหรือ
     
     
      <u>วันที่เราพบกัน
      นั่นคือวันเริ่มต้นแห่งเพลงดอกไม้..
      เธอเหมือนตื่นเต้นที่มีคนคนหนึ่งโทรบอกเธอว่า อยู่หน้าบ้านเธอจริงๆ
      เธอวิ่งออกมาดูที่หน้าต่าง ..
      เธอวิ่งกลับไป..
      ร่าเริงเหมือนนกตัวเล็กที่ขยับปีกบางร่อนลงพุ่มดอกไม้ยามเช้า...
     
     
      เธอเปิดประตูบ้าน ...ก้าวนุ่มนวลมาที่รถ
      ดวงตาเรียวใสเปล่งประกายบางอย่าง
      เธอตกใจ เธอไม่กล้าแม้จะเข้ามานั่ง ในรถ.
     
      ..เธอกลัวไออุ่นจะทำปีกเธอไหว.
      .เธอกลัวลมอบอวลจนไม่สามารถขยับปีกบาง.
      .เธอเดินไปมาระหว่างบ้านกับรถ...
     
     
      ฉันเห็นรอยยิ้มอิ่มอยู่ในตาใสของเธอ
      เธอเหมือนสนุกกับการกางปีกบางพลิ้วไปมา
      ขยับแล้วเปลี่ยนใจ
      แน่ใจแล้วลังเล..
     
      .เธอมองเข้ามาในหน้าฉัน..ในใจเธอบอกว่า ไม่เหมือนที่เธอเคยคิด..
      .ฉันคงเป็นพุ่มไม้ที่ขาดน้ำมานาน
      แห้งแล้งและบอบช้ำจากฤดูกาลที่ผกผัน...
     
      ฉันเหนื่อยอ่อนจากพิษไข้ อ่อนเพลียจากการไม่ได้นอนมาหลายคืน.
      ..ดวงตาฉันคงไม่มีประกาย
      ความรู้สึกฉันไม่สามารถสัมผัสสิ่งใดได้ในวันที่อ่อนแรง ...
      .แต่เธอคงเห็น.
      .ฉันยิ้มให้กับความน่ารักของเธอ..
     
     
      ฉันรู้สึกมาตั้งแต่เย็น
      ว่าเธอรอคอย
      ว่าฉันจะไปหาเธอจริงหรือเปล่า
      ในใจเธอคอย..อะไรบางอย่าง..
      ความรู้สึกของเธอผ่านมายังใจของฉัน
      ทำให้ฉันต้องไป...เพราะฉันไม่สามารถผิดคำสัญญา
      ฉันจะค้างคา
      ฉันจะกังวล
      ถ้าฉันไม่ได้ทำอย่างที่ฉันรับปาก.
      ..และความรู้สึกรอของเธอก็ผ่านเข้ามาในใจฉัน...
     
     
      เธอน่ารักมาก มากเสียจนดวงดาวพากันหลบแสง..
      .ฉันมองไม่เห็นดาวสักดวงเมื่อพบเธอ..
      ฉันขับรถกลับเหมือนคนไม่รู้ทิศ
      ฉันหลงทาง..
      .เธอยังน่ารักที่คอยรับโทรศัพท์
      และคุยเป็นเพื่อนจนฉันเจอทางออก....
      ..
     
     
     
      อดไม่ได้ที่จะถามตัวเองว่า ฉันขับรถกลับได้อย่างไร
      โดยไม่เหนื่อยอ่อน...
      บางที เพลงดอกไม้ ที่เธอขับกล่อม..
      ในคืนดาวทุกดวงหลบทางให้เธอเปล่งประกาย..
      .ฉันคงเผลอขโมย แอบมาในดวงตาตลอดทาง โดยไม่รู้ตัว...
     
      กระจกตรงหน้าฉัน ถึงสวยงามกว่าทุกวันที่ส่อง.... 
      
      เขาเลวร้ายเกินไปหรือแค่ที่เขาอ่อนไหวกับใครหลายๆคน
      รวมไปถึงกับน้องสาวของหล่อน ....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×