ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพื่อนทางจดหมาย ดอกไม้และสายลม

    ลำดับตอนที่ #15 : เขาไม่ใช่คนหน้าตาดี ไม่ใช่คนปากหวาน ไม่ใช่คนร่ำรวย

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 49



    เอินที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เคยโกรธเขา เอินเข้าใจเขามากกว่าที่ตัวเขาเองเข้าใจตัวเองด้วยซ้ำ
    เอินมองเขาทะลุปรุโปร่ง
    เอินเสียอีกที่คอยย้ำเตือนให้เขาทำดีกับบรรดาแฟนๆคนอื่นๆให้มาก
    เอินไม่อยากให้ใครคนใดคนหนึ่งน้อยใจที่เขาไม่ค่อยสนใจ หรือต้องมาโกรธมาเกลียด
    หรือมาหมดรักเขา เอินอยากให้ทุกคนรักเขาเหมือนที่เอินรัก
    ความรักของเอินที่มีต่อเขาเป็นรักเพื่อรัก รักที่มีแต่ให้สิ่งดีดี
    ที่อยากเห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุข ...บางทีเขาคิดแผนการร้ายสารพัดที่จะทำให้เอินหึง
    คิดไป เขาก็ขำตัวเองไป เขาคิดแผนการร้ายไม่เก่ง
    ทำอะไรเอินก็รู้ทันและเห็นเป็นเรื่องตลก ...เขาเขียนอะไรถึงใคร
    ต้องยัดเยียดอ้อนวอนให้เอินช่วยอ่าน เผื่อว่าเอินจะหึง แต่อ่านแล้วเอินก็หัวเราะ ..
    เอินไม่อินเหมือนนักอ่านคนอื่นที่อ่านแล้วอินตาม ...อาจเพราะเอินเข้าใจว่าเขาเป็นแค่คนเจ้าชู้ทางอารมณ์ ถ้าจะให้ใครเข้ามาชีวิตจริงๆเขาไม่ทำ...
    เขาเหนื่อยเกินไปกับการงาน ถ้าเขาจะมีใครมาให้รู้สึกกรุ้มกริ่มอีกสัก10-20คน
    เอินก็สนับสนุนเสมอ เอินมักพูดว่า

    " เวลาพี่ชอบใคร พี่จะกระฉับกระเฉง มีไฟ ตาใส และยิ้มเก่ง...และพี่จะดูไม่แก่ "

    "พูดดีมาแต่ต้น ทำไมจบด้วยประโยคที่โหดร้ายจัง "

    " แต่น้องรักพี่..." เอินจะต่อด้วยถ้อยคำนี้เสมอ

    " แต่น้องรักพี่....แต่น้องจะอยู่กับพี่...
    ถ้าพี่เป็นอะไรไป น้องจะเป็นด้วย น้องจะอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีพี่... " จะว่าหวานก็หวาน
    แต่ฟังแล้วเขาอุ่นใจมากกว่า
    ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เขามั่นใจว่า ชีวิตนี้จะมีคนงดงามแสนดีคนหนึ่งอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

    เหมือนอย่างที่เขารู้ว่าใครบางคนรักเขา เอินก็จะรู้ด้วย ไม่มีอะไรที่เอินไม่รู้
    ไม่มีอะไรที่เขาไม่บอก..
    เขาไม่มีความลับ และสิ่งนี่เองที่เขามีความสุข
    การไม่มีความลับต่อกันเป็นความสบายใจอย่างที่สุดของความเป็นคนรัก
    เป็นความเชื่อใจ วางใจและมั่นใจว่าระหว่างกันจะไม่มีการพูดโกหก

    และเขาก็ไม่เคยโกหกว่ามีใครอีกคนวนเวียนอยู่ในชีวิต ขณะที่มีเอินอยู่..
    เขามี ออ..ออที่พยายามบอกใครๆว่า
    ชื่อ มีน ...เธอพยายามหนีชื่อตัวเอง

    " มันบังเอิญเกินไปกับคนที่มารักพี่พากันชื่อ อ อ่างทั้งหมด แต่เปลี่ยนชื่อแล้ว
    ออ ก็ยังตัดใจจากพี่ไม่ได้ " เธอบอกเขาอย่างนี้ วันที่สารภาพความจริงว่าไม่ได้ชื่อ มีน..

    "จะตัดใจทำไมล่ะ ถ้าตัดใจแล้วทรมานมากกว่าเก่า "

    ตาเธอเศร้าเมื่อทอดมองเขา "ทำไมมีคนมารักพี่เยอะจัง "...

    นั่นสิ ทำไมล่ะ เขาคิด..หรือว่าชาติที่แล้วเขาทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันกับใครหลายคน
    เขาไม่ใช่คนหน้าตาดี ไม่ใช่คนปากหวาน ไม่ใช่คนร่ำรวย
    แต่เขาพบรักมากมาย จนทำให้คิดว่า
    หรือนี่จะเป็นชาติที่10 ที่ใครๆต่างพากันตามมาทันในชาติสุดท้าย
    ใครคนหนึ่งเคยบอกว่า
    ถ้ามือเขาไม่มีก้นหอยเลย แสดงว่าเกิดมาครบ10ชาติ ชาติต่อไปจะเป็นชาติที่เริ่มต้นใหม่ เพราะฉะนั้นชาตินี้
    จึงได้พบเจอคนรักเยอะ...เขาก็ว่า เออ แปลกดี...เพราะนิ้วมือเขามีแต่มัดหวาย..
    และในแต่ละปีมีแต่คนมาหลงรักเขา
    ทุกไตรมาส ...

    แต่เธอคนนี้ มาตั้งแต่ไตรมาสแรก ย่างเข้าไตรมาสสอง ทำท่าจะอยู่ถึงไตรมาสสาม
    เธอที่ไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาในชีวิต
    เธอแค่ อยากเรียน เป่าขลุ่ย เดินเข้าร้านหนังสือเพื่อจะหาหนังสือสอนเป่าขลุ่ย
    แต่พนักงานขายกลับพาเธอเดินไป
    มุมหนังสือคนชื่อขลุ่ยเขียน ...เธอไม่ได้เรียนเป่าขลุ่ยอีกแล้ว
    เธอดันมาหลงรักคนชื่อขลุ่ยจนลืมเรื่องเป่าขลุ่ย ...เขาคิดว่าเรื่องราวของเธอแปลกดี แปลกกว่าใครๆที่เขารู้จัก


    จะไม่แปลกได้ไง แค่การเข้ามารู้จักเขาก็แปลกมหัศจรรย์ขนาดนั้น
    ขนาดที่ซื้อหนังสือเขาไปอ่านแล้วนอนหลับฝันเป็นตุตะ รอบเดียวไม่ว่า แต่ฝันถึง 4 รอบว่าเธอเคยเป็นคนรักในอดีตชาติ คนรักผู้ต่ำต้อย และเขาเป็นชายสูงศักดิ์..


    ฟังเธอเล่าความฝันครั้งใด
    เขา อยากจะย้อนวันเวลาไปอดีตชาติ กลับไปเป็นชายผู้สูงศักดิ์อีกสัก 100 รอบ..

    เธอเป็นคนพิเศษจริงๆเขารู้สึกแบบนี้เสมอ
    เธอรับความรู้สึกจากเขาได้ไวมาก เธออ่านที่เขาเขียนแล้วเข้าใจ
    ได้อย่างลึกซึ้ง
    เธอรู้ว่าขณะที่เขาเขียน เขาคิดอะไร ทำให้เขาพลอยคล้อยตามไปด้วยว่า
    เธออาจจะเคยเป็นคนรักของเขาจริงๆ..

    แล้วเขาก็กระหยิ่มในใจตามประสาคนหลงตัวเองหน่อยๆ ว่ามาอีกคนแล้วหรือ
    คนรักในอดีตชาติที่ตามมาเจอ
    เขาอายุมากขนาดนี้แล้วยังมีเด็กอายุ ไม่ถึง20 มาหลงรัก...
    ถ้าไม่ใช่กรรมเก่าก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว...

    " พี่ยังไม่แก่เลย หน้าตาดีด้วย " เธอบอก เขานึกในใจว่า ตาบอดจัง
    เขาไม่ได้เป็นคนบ้าคำชม เขาเจอมาเยอะจนชินหู
    แต่เรื่องหน้าตาดี เขาฟังแล้วก็โยนไปให้คำกล่าวที่ว่า รักทำให้คนตาบอด...
    เขาเคยถามเอินนานมาแล้ว

    " เอินว่าพี่หน้าตาดีไหม "

    " ไม่.. "เสียงจริงจังมาก " แต่พี่น่ารักสำหรับเอิน "

    " ดีหน่อย แค่สายตาสั้นยังไม่ถึงกับบอด "

    "ถ้าเอินตาบอดคงมองพี่เป็นวิลลี่ " เขาคิดในใจว่า วิลลี่นี่มันหล่อตรงไหน
    หรือหล่อก็กินไม่ได้
    ทำไมถ้าตาบอดต้องเห็นเป็นวิลลี่อยู่เรื่อย...


    เออน่า เขาก็ไม่ใช่คนพิกลพิการตาเก ปากเบี้ยวที่ใครจะมารักไม่ได้
    อย่างน้อยเขาก็มีหัวใจบริสุทธิ์ที่จะรักทุกคน
    ถ้าเธอจะมารักเขาอีกคน และมองว่าเขาหน้าตาดี ก็เป็นเรื่องของสายตา
    แต่หัวใจเธอคงซึมซับรับรู้อะไรได้มากกว่าที่สายตามองเห็น..
    เพราะเธอเขียนทุกอย่างถึงเขาได้อย่างงดงามไม่น่าเชื่อ


    ...หลังจากที่คุณวางสายไปแล้ว...รู้ไหม?
    คนทางนี้ยังนั่งถือโทรศัพท์นิ่งอยู่นาน...
    ความรู้สึก...ความรู้สึกอะไรก็ไม่รู้...
    อัดแน่น วิ่งวน สับสน อยู่ภายใน
    อึดอัดจนอยากจะร้องให้...ทั้งๆที่เมื่อกี้ เมื่อกี้นี้เอง...
    ยังยิ้ม... ยังหัวเราะกับคุณ...

    คุณสอนให้ถ่ายทอด อารมณ์ ความรู้สึกออกมาเป็นตัวหนังสือ
    เคยทำตาม และรู้สึกว่ามันช่วยระบายอะไรหลายๆอย่างออกมาได้

    แต่..ตอนนี้...คุณมีอะไรที่ดีกว่านั้นพอจะแนะนำกันได้ไหม?...
    กระดาษแผ่นแล้ว แผ่นเล่า ที่ถูกขีดเขียนระบายออกไป
    ฉีกและขยำมันทิ้งทุกแผ่น.
    แผ่นนี้ เล่าถึงเรื่องราวที่ยิ้ม ที่หัวเราะกับคุณ
    แผ่นนี้ แอบนินทาคุณเล็กๆ
    แผ่นนั้น ตัดพ้อประชดประชัน
    แผ่นนั้น กล่าวหาว่าร้าย
    อีกแผ่น กลับมาคร่ำครวญ ร้องให้
    ตบท้าย ด้วยคำขอบคุณคุณซะมากมาย...

    ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะคุณ!?

    ...ไม่อยากจะเขียนถึงคุณอีกแล้ว--ไม่อยากจะเขียนอีกแล้ว...
    ยิ่งเขียน ยิ่งเลอะเลือน ยิ่งสับสน ฟุ้งซ่าน___

    แต่ดูเหมือน...จะได้ยินเสียงคุณสั่งค้านไว้...ว่าให้เขียน...เขียนต่อไป...
    คุณอยากจะบอกกันอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า?

    ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ...สัญญาเลยนะ ว่าจะเขียน
    เขียน..จนกว่าทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึก จะตกตะกอน...
    แล้วจะช้อนมันมาให้คุณดู .. ว่าอารมณ์ไหน? ความรู้สึกไหนกันแน่...
    ...ที่อยากจะเขียนถึงคุณ...

    ........................................................................................................
    ไร้สาระ ในสายตาคุณหรือเปล่า?....

    นึกอยู่ใช่ไหม?
    ว่าทำไม คนๆนี้เป็นคนที่เอาใจยาก เอาใจเย็นได้ขนาดนี้...

    อย่างนู้นก็ไม่ใช่ อย่างนั้นก้อไม่ได้ อย่างนี้ก็ไม่ดี..
    --ใครๆเขาก็พูดกันอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ

    แต่..กับคุณ...อยากให้รู้ไว้นะ...
    ว่าพยายามแล้ว ที่จะไม่เอาแต่ใจตัวเอง
    ...พยายามแล้วที่จะเอาใจคุณ.

    แต่..ความพยายามทั้งหลายทั้งปวง -- ได้เท่านี้ --
    เท่าที่คุณเห็น...แค่นี้เอง...
    ใครๆอาจเอาใจคุณได้มากกว่านี้
    แต่คนๆนี้เอาใจใคร ได้มากมายที่สุด..เท่านี้เอง..

    ถ้าคุณเห็นว่าคนๆนี้ไม่ดี เอาแต่ใจ ไร้สาระ
    เป็นเด็ก ไม่มีเหตุผล เพ้อฝัน เลื่อนลอย...

    มองข้ามสิ่งเหล่านั้นไปสักนิดได้ไหม?
    ลองหันมามองใหม่..ตรงความพยายาม ที่ทุ่มเทให้ไป..
    คุณมองเห็นไหม?...

    หรือว่ามันมากมาย...จนทำให้สายตาคุณพร่าเลือน
    ...และมองข้ามมันไปอีก

    ......................................................................

    (...ฝันว่าคุณ มาตวาดว่า อย่ามัวมาไร้สาระอยู่ได้ไหม?...ซึมตลอดฝันเลยนะ...)


    คุณไม่เคยพูด..หรือแสดงอะไรตรงๆ...แต่รู้นะ...
    คุณพยายามผลักดัน ให้ความรู้สึกดีดีที่มีต่อคุณ
    เป็นเพียงอารมณ์หวั่นไหวของวัยหวาน!...

    ขำนะ...ที่คุณพยายามให้เป็นอย่างนั้น
    คุณรู้ไหม?...คนทางนี้ก็พยายามให้เป็นเพียงแค่นั้นเหมือนกัน...

    แต่ใครๆก็บอกบ่อยๆ ว่าคนอ่อนวัยคนนี้--ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ.
    ถึงเขาจะใช้คำผิดไปบ้างว่า -แก่- ...แก่แดด...แก่ลม...
    แต่คำว่าแก่...ก็แปลว่า เป็นผู้ใหญ่ได้ใช่ไหม?

    น้อยใจนะ...เวลาที่คุยกับคุณ คุณทำเหมือนคุยอยู่กับเด็กๆ
    เด็กที่คุณพยายามเอาใจ และ หลอกล่อด้วยคำหวาน แทน ขนมหวาน
    ...ชอบ...ใช่...ไม่ใช่ไม่ชอบนะคุณ...
    ...เลยยิ่งทำตัวเด็กลงเข้าไปอีก...

    แต่คุณรู้ไหม?...ความรู้สึกลึกๆข้างใน...เติบใหญ่...รวดเร็ว...
    จนเด็กแก่แดดคนนี้ตามไม่ทันเชียวคุณ...

    ...คุณ...ผู้ใหญ่ใจดี...ช่วยย้ำอีกทีซิ...
    ว่ามันเป็นแค่อารมณ์หวั่นไหว ของวัยหวาน เท่านั้นเอง...

    คำบางคำที่คุณพูดออกมา...
    ทำให้โลกทั้งโลกคล้ายจะลอยมาอยู่ในกำมือ...
    แล้วคุณรู้ไหม?
    ...ตอนนี้โลกทั้งใบ คล้ายจะมีคุณเพียงคนเดียว...
    แปลกนะ...ถึงตอนนี้จะมีใครๆมากมายมารายล้อม
    กลับมองไม่เห็นใครซักคน...นอกจากคุณ

    เมื่อกี้...มีใครก็ไม่รู้เดินมาชน
    ยังหันไปยิ้มหวานให้เขาได้มากมาย..
    คล้ายๆจะเห็นว่าเขาเป็นคุณ...
    จนเขาคงแปลกใจ ถึงกับตามมาถาม...ว่าเคยรู้จักกันไหม?

    ขำตัวเอง...จะไปรู้จักใครได้ในตอนนี้
    เมื่อได้รู้จักคุณ...ก็ไม่อยากจะรู้จักใครๆอีกเลย..

    ...เห็นผึ้ง ที่หาน้ำหวานตามดอกไม้...
    น้ำผึ้ง...คงหวานหอม...
    แต่...น้ำคำหวานๆจากคุณ...เพียงพอแล้วสำหรับทุกสิ่ง...
    ...น้ำคำหวาน...จืดจางได้...แต่ห้ามจางหายนะ.

    คุณรู้ไหม?
    เวลาที่ใครๆถามไถ่...ว่ากับคุณ...คืออะไร?
    คำตอบ ที่ตอบให้เขาปวดหัวได้เรื่อยๆ
    คือคุณเป็นสายลม...และคนคนนี้เป็นนก
    ใครๆเขามักจะหัวเราะกับคำตอบนั้น...(คุณด้วยล่ะมั้ง)
    เลยมักหัวเราะตามเขาไป จนลืมย้ำให้เขาเข้าใจว่า...มันเป็นอย่างนั้นจริงๆนะ.!

    เพราะหลายครั้งหลายหน...
    ที่รู้สึกได้ว่าคุณเป็นดั่งสายลม...คุณ ที่ทำให้รู้สึกทุกครั้งว่า
    ไม่ว่าคนคนนี้จะเป็นอย่างไร...สายลมจะยังคอยลูบไล้อ่อนโยน...
    ทุกสัมผัสของความรู้สึกของคุณ จึงนุ่มนวลเสมอ...

    จึงอยากให้ความรู้สึกที่มีต่อคุณเป็นเหมือน นก
    ที่โบยบินอย่างอิสระอยู่ในสายลม
    ไม่ถูกผูกมัด อยู่กับคำจำกัดความ นิยามใดๆ
    ที่จะมาสร้างกรอบข้อบังคับ ให้กับความรู้สึกของตัวเอง
    เพราะ นก เอง...ก็เป็นเครื่องหมายของ เสรีภาพที่มีกรอบระเบียบที่ลงตัวอยู่แล้ว

    คุณเคยสังเกตไหม?
    นกน่ะ...แม้มันจะมีปีก บินไปที่ใดๆก็ได้ตามใจต้องการ
    แต่มันก็ไม่เคยหลงทาง หรือ บินออกนอกลู่นอกทาง

    ---...คงเพราะมันมีสายตาที่มองโลกได้กว้างกว่ามนุษย์ละมั้ง...---
    มันจึงสร้างกรอบให้ตัวเองได้ โดยไม่ต้องมีอะไรมาขีดบังคับ...

    ความรู้สึกที่มีต่อคุณ...จึงเป็นอิสระต่อตนเอง
    และเป็นไปในแนวทางที่ควรจะเป็น...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×