ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fun house วิมานอลเวง

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอน I promise

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 55



        น่าจะหลังนี้แหละน้า 52/3 A เอ๊ะ ทะแม่งๆแฮะ ทำไมบ้านสองหลังนี้ถึงมีเลขที่บ้านเดียวกันล่ะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย คงคิดมากไปเองล่ะมั้ง เข้าไปย้ายของให้เสร็จแล้ว หาอะไรกินดีกว่า

     

    ว้าว ข้างในบ้านแต่งไว้สวยมากเลย แต่ว่าแปลกจัง เข้ามา ไม่มีห้องครัว ห้องนั่งเล่นอะไรทั้งนั้น เนื้อที่ส่วนมากถูกแบ่งออกจากตัวบ้าน ส่วนเดียวที่มองเห็นได้ คือห้องน้ำกับตู้เสื้อผ้า ชั้นสองก็มีโต๊ะหนังสือ แล้วห้องนอนก็ถูกแยกไปเหมือนกัน ให้ตายสิ แล้วห้องชั้นล่างก็ยังล๊อกอีก น่าจะมีตู้กุญแจอยู่ที่ไหนซักแห่งล่ะนะ

    “ครืนๆ” อ๊ะ ข้อความเข้า

    กุญแจอยู่ในลิ้นชักโต๊ะชั้นบนนะจ๊ะ หลังจากนี้ขอให้พักอยู่ในบ้านหลังนี้
    อยากมีความสุข ทางเราขออภัยสำหรับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
    ซึ่งได้มีการแจ้งให้ทราบไว้แล้วในใบสัญญารับโฉนดของบ้าน

              สัญญาอะไรกัน เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นใบสัญญาที่พ่อเซ็นไปทั้งๆที่ยังไม่อ่านอะไรเลยซักนิด เฮ้อว่าแล้วเชียว ว่าบ้านราคาถูกๆแบบนี้ ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ แต่อะไรกันนะ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้น รีบหากุญแจให้เจอดีกว่า

    “แอ๊ดด” เสียงเปิดประตูบ้านข้างๆดังถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ดังหยั่งกับเป็นบ้านหลังเดียวกันเลย เฮ้อ บ้านถูกๆก็เป็นแบบนี้แหละน้า แต่ถึงยังไงเราก็ต้องหาห้องครัวให้เจอก่อน เพราะเย็นนี้ก็ต้องทำอาหารกิน
    “แอ๊ดด” เสียงเหมือนกับเสียงประตูข้างบ้านเปี๊ยบ สงสัยใช้วัสดุเดียวกันชัวๆเลย
    “เฮ่ยยย”
    X2 จะไม่เฮ่ยได้ไง ในเมื่อทันทีนี่ฉันเปิดประตูครัวออกมา ก็เจอผู้ชายแปลกหน้าที่ชั้นไม่รู้จักอยู่ในห้องครัวแบบนี้ ตานี่เป็นครายยยยย?????
    “เธอเป็นใครเนี่ย มาอยู่ในครัวบ้านฉันได้ไง”
    “เฮ่ย บ้านนาย? อะไรกัน”
    “เป็นแม่บ้านเหรอ แต่ฉันไม่ได้จ้างใครเลยนะ มาผิดบ้านรึเปล่า”
    “แม่บ้าน? เฮอะ นายใช้ตายดูรึเปล่าเนี่ย รัศมีอย่างฉันเป็นแม่บ้านไม่ได้หรอกย่ะ”
    “งั้นก็คนโรคจิตสินะ เธอนะ เข้ามาทำอะไรในบ้านของคนอื่นห๊ะ?”
    “คนโรคจิต? บ้านคนอื่นงั้นเหรอ? คนที่โรคจิตตอนนี้หน่ะ คือนายต่างหากหล่ะ นี่มันบ้านฉัน ฉันมีกุญแจ มีโฉนดยืนยัน นายหน่ะ ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว” พูดจบฉันก็หยิบใบโฉนดมาให้เขาดู
    “บ้านเธอ อะไรกันเนี่ย พูดบ้าอะไรอยู่เนี่ย”
    “เอ๊ะ นายฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงนะ” หน้าตาก็ดีอยู่หรอก ไม่น่าเป็นคนบ้าเลย เสียดายจริงๆ
    “เพราฟังออกหน่ะสิ ฉันถึงสับสน ก็ฉันซื้อบ้านหลังนี้แล้ว กุญแจหรือโฉนดฉันก็มีเหมือนกัน แล้วอยู่ดีๆก็มียัยบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ มาบอกว่ามันไม่ใช่บ้านฉัน จะไม่ให้ฉันงงได้ไง”
    “นี่นาย
    ! เฮ้อ ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ฉันทำสัญญาซื้อบ้านหลังนี้มาแล้ว 52/3A บ้านหลังนี้เป็นของฉันถูกต้องตามกฏหมาย”
    “อะไรนะ”
    “อื้อ ใช่แล้ว เข้าใจแล้วก็ออกไปซะสิ”
    “ไม่ใช่ เมื่อกี๊เธอบอกว่า
    52/3 อะไรนะ”
    “อะไรอีกเนี่ย นายเป็นเอเลี่ยนรึไง หรือว่าหูหนวก
    A! 52/3A
    “เฮ่ยย เป็นไปได้ไง ก็ของฉันมันคือ
    52/3B
    “ฮ๊ะ อ้าว ถ้างั้นก็คนล่ะหลังกันหน่ะสิ งั้นนายคงจะเข้าบ้านผิดหลังแล้วหล่ะ”
    “ไม่ผิดหรอก ฉันเช็คดีแล้ว แล้วนี่ก็เป็นห้องคร้วบ้านฉัน”
    “จะเป็นห้องครัวนายได้ยังไง ก็ในเมื่อฉันเข้ามาในห้องนี้จากฝั่งบ้านฉันนี่หน่า”
    “เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ แค่ดูก็รู้แล้วว่าห้องนี้มันใหญ่เกินไปกว่าจะเป็นของทาวน์เฮาส์เล็กๆหลังเดียว”
    “นายพล่ามอะไรอยู่เนี่ย”
    “อีกอย่าง ใครเค้าสร้างบ้านแบบนี้กัน แยกทุกส่วนของบ้านออกมาจากทางเข้ากับห้องน้ำเนี่ยนะถ้าเป็นห้องครัวอย่างเดียวก็ไม่น่าสงสัยหรอก แต่เธอดูสิ ทั้งห้องรับแขก โต๊ะกินข้าว  ทีวี ขนาดโซนซักผ้าตรงหลังบ้านยังอยู่ในห้องนี้เลย”
    “ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีล่ะ”
    “เธอไม่สงสัยบ้างเหรอ บ้านทุกหลังที่เดินผ่านมา ก็เป็นบ้านหลังใหญ่กันหมด มีแต่บ้านพวกเรา ที่เหมือนโดนแบ่งครึ่งน่ะ”
    “ทีแรกก็สงสัยอยู่หรอก แต่นายหน้าเขาบอกว่ามันเป็นบ้านที่สร้างไว้ให้ลูกสองคนนี่น่า”
    “เขาก็บอกฉันแบบนั้นแหละ แต่จริงๆ มันคือบ้านหลังเดียว ที่ทำให้ดูเหมือนเป็นบ้านสองหลังต่างหาก”
    “นายหมายความว่าพวกเราโดนหลอกงั้นเหรอ”
    “ถ้าฉันเดาไม่ผิด ห้องนอนก็คงจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน”หมายความว่าห้องนอนก็เป็นห้องเดียวงั้นเหรอ
    “อะไรนะ ห้องนอนด้วยเหรอ” ฉันรีบวิ่งขึ้นไปดู ห้องนอนเป็นห้องเดียวที่ไม่มีล๊อคในบ้านหลังนี้ ไม่น่าเชื่อเลย เป็นอย่างที่นายนั่นว่าจริงๆด้วย ห้องนอนเป็นห้องเดียวใหญ่ๆ มีเตียงขนาดใหญ่มหึมาตั้งอยู่กลางห้อง แล้วก็มีหมอนข้างตั้งไว้ตรงกลางของเตียง”
    “จริงด้วยสินะ พวกเราโดนหลอกจริงๆแล้วล่ะ ก็ว่ามันทะแม่งๆ ตั้งแต่ขายบ้านสวยๆ คุณภาพดีแบบนี้ ในราคาแค่ห้าแสนกว่าๆ โดยไม่ต้องผ่อนแล้วล่ะ แต่ใครจะไปคิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ล่ะ”
    ขออภัยสำหรับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ หมายถึงเรื่องนี้เองสินะ”
    “เธอบ่นอะไรน่ะ”
    “ข้อความจากนายหน้าน่ะ นายไม่ได้เหรอ” ฉันส่งมือถือไปให้เขาดู แล้วเขาก็หัวเราะขึ้นมา
    “ถ้าโทรไปตอนนี้ ก็คงติดต่อไม่ได้แล้วแน่ๆเลย”เขาก็เอาโทรศัพท์ไปแนบหู แล้วก็หัวเราะขึ้นมาอีก
    “หัวเราะอะไรอีกล่ะ”
    “หนีไปแล้วล่ะ นายหน้าของเธอนะ เธอมีที่อยู่ของเข้ามั้ยล่ะ”
    “ไม่มีหรอก พ่อฉันน่ะ แค่เห็นราคาถูกขนาดนั้นกับภาพที่เขาเอามาโชว์ ก็เซ็นสัญญาซื้อบ้านทันที ไม่เอะใจอะไรเลยซักนิด แล้วนายล่ะ ไม่มีอะไรที่จะตามตัวเขาได้เลยเหรอ”
    “ทางฉันแย่กว่าเธออีก ฉันติดต่อกับเขาทางอินเทอร์เน็ตน่ะ ฉันโอนเงินให้เขาแล้วเขาก็ส่งโฉนดกับกุญแจมาให้”
    “โห อย่างนั้นไม่กลัวโดนหลอกเหรอ”
    “ก็ราคาถูกซะขนาดนี้น่ะ ถึงเป็นพวกต้มตุ๋นจริง ขนหน้าแข็งฉันก็ไม่ร่วงหรอกน่า”
    “ไม่ค่อยจะโม้เลยนะนายน่ะ”
    “ช่างเรื่องนี้ไปก่อนเถอะ ฉันจะไปแจ้งตำรวจล่ะ”
    “เฮ่ยๆๆ ทำไม ไปแจ้งตำรวจทำไมล่ะ”
    “ก็พวกเราโดนหลอก เธอจะยอมอยู่กับฉันรึไง ฉันซื้อบ้านเพราฉันไม่อยากใช้ของร่วมกับใคร เพราะฉะนั้น อย่าว่าแต่ผู้หญิงอย่างเธอเลย ถึงเป็นผู้ชายฉันก็ไม่ยอมอยู่ด้วยหรอก”
    “เดี๋ยวๆ ถึงนายไปแจ้งตำรวจแล้วเขาจะทำอะไรได้ แล้วคืนนี้นายจะพักที่ไหนล่ะ”
    “เขาก็อาจจะตามคนที่ขายบ้านให้ฉันมาได้ แล้วก็หาบ้านหลังใหม่ให้ฉันอยู่ไงล่ะ”
    “ไม่ได้นะ นาย..นายบอกเองนี่ว่านายรวย เรื่องแค่นี้ไม่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่หรอกนะ”
    “แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง”
    “นาย....นายก็..ย้ายออกไปสิ
    ! ใช่เลย รวยมากก็ไปหาบ้านหลังใหม่อยู่ ไม่เห็นต้องถึงโรงถึงศาลเลยนี่”
    “นี่ยัยบ้า ถ้าฉันมีเงินมากขนาดนั้น ฉันก็ไปซื้อบ้านหลังใหญ่ๆอยู่แล้วสิ ที่ฉันเลือกหลังนี้ เพราะฉันมีเงินเก็บอยู่แค่นี้ ถ้าฉันไม่ได้อยู่หลังนี้ ฉันก็ต้องไปอยู่หอพักรวมกับคนอื่น ถ้างั้นทำไมเธอไม่ย้ายล่ะ”
    “จะบ้าเหรอ ให้ตายฉันก็ไม่ย้ายหรอก อ่า..ถ่างั้น..ถ้างั้นก็อยู่ด้วยกันที่นี่แหละ”
    “อะไรนะ เธอนี่เป็นผู้หญิงซะเปล่า มาพูดแบบนี้ได้ไง”
    “ฉันน่ะ มีเหตุผลจำเป็นจริงๆ ไม่ว่ายังไงก็แจ้งตำรวจไม่ได้ ย้ายบ้านยิ่งไม่ได้ใหญ่”
    “ไม่แจ้งตำรวจ ไม่ย้ายบ้าน เธอจะไม่ทำอะไรซักอย่างแล้วยังมาหวังให้ยอมรับกรรมคนเดียวอีกเหรอ”
    “ขอร้องล่ะ ถ้าเกิดปัญหาอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ฉันจะถูกส่งไปอยู่ต่างประเทศทันทีเพราะงั้น ช่วยเข้าใจปัญหาของฉันด้วยเถอะนะ”
    “เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย เธอโอเคกับการอยู่ร่วมบ้านกับผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนงั้นเหรอ”
    “ถ้าเธอระแวงฉันนะ ฉันสาบานเลยว่าฉันจะไปทำอะไรเธอแน่นอน ฉันเป็นเด็กดีมาตลอด ไม่ใช่ขโมยหรือพวกสิบแปดมงกุฏแน่นอน ฉันทำงานบ้านเก่งด้วยนะ ฉันจะทำทุกอย่างเลยล่ะ ขอแค่..ขอแค่ไม่มีปัญหาอะไร ขอแค่ฉันไม่ต้องจากเพื่อนๆฉันไปก็พอแล้ว”
    “เธอนี่ เป็นผู้หญิงประเภทไหนกันนะ ที่ฉันพูดน่ะไม่เข้าใจรึไง เธอไม่เคยเจอฉันมาก่อนเลย เธอไม่เคยรู้จักฉัน ไม่รู้ว่าฉันเป็นคนแบบไหน ไว้ใจได้รึเปล่า แล้วเธอไม่กลัวว่าฉันจะไปทำอะไรเธอรึไง”
    “ไม่หรอก”
    “ยัยบ้านี่
    !
    “ฟังก่อนสิ
    ! นายน่ะไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอก”
    “อะไรนะ”
    “คนที่...คนที่รอบคอบและฉลาดมากๆแบบนาย ถ้าเป็นพวกโรคจิตจริงๆ คงไม่พูดเรื่องแง่ลบให้คนอื่นไม่ไว้ใจหรอก คงจะไม่แสดงท่าทีแบบนี้หรอก ฉันดูนายแค่แว๊บเดียวก็รู้ ถึงนายจะปากเสียไปนิดแต่ก็เป็นคนที่ไว้ใจได้ในระดับนึง เพราะงั้น ถ้าจะต้องอยู่บ้านหลังนี้ร่วมกับใคร ฉันคิดถ้าเป็นนายก็คงไม่เลวเลยล่ะ”
    “เธอ เอาความกล้ามากจากไหนกันนะ”
    “ก็บอกแล้วไงล่ะ ว่าถ้ามีปัญหาอะไรฉันก็จะโดนส่งไปต่างประเทศทันที ฉันน่ะ...ไม่ยอมจะถูกจับแยกกับเพื่อนๆ ไปอยู่ในที่ที่ฉันไม่รู้จัก ไปอยู่กับคนที่ฉันไม่คุ้นเคยหรอกนะ ย้ายโรงเรียนตอนนี้ โอกาสที่จะมีเพื่อนใหม่ก็น้อยมากอยู่แล้ว แต่โอกาสที่จะมีเพื่อนใหม่ที่ต่างประเทศ ใช้ภาษาที่เราไม่คุ้นเคยในที่ที่เราไม่รู้จักวัฒนธรรมอะไรของเขา มันยากกว่าร้อยเท่าเลย เรื่องนั้นน่ะ เป็นเรื่องที่ฉันกลัวมาตลอดเลย ไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรแบบนั้นขึ้นจริงๆ” ฉันกลัวมากจริงๆ กลัวจนน้ำตามาไหลพรากออกมาแบบหยุดไม่ได้ ความกลัวที่ฉันซ่อนเอาไว้ มันระเบิดออกมาอย่างกับคนบ้าพร้อมน้ำตาพวกนั้น
    “เฮ้อ อย่าร้องสิยัยบ้า ถึงเหตุผลเธอจะน่าสงสารแค่ไหน มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างว่าจะสามารถอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าได้นะ เตียงข้างบนน่ะ มีเตียงเดียวไม่ใช่รึไง ฉันไม่ยอมนอนบนพื้นหรอกนะ”
    “เตียง..ฮึกๆ เตียงใหญ่ขนาดนั้น ฮึกๆ ใช้หมอนข้างกั้นไว้ก็ได้นี่ ฮึกๆ ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่า”
    “เธอ
    ! เรื่องที่ต้องกังวลในสถานการณ์แบบนี้น่ะ มันไม่ใช่เรื่องนั้นเลยนะ= =
    “ฉัน ยอมทำทุกอย่างจริงๆ แค่ปีเดียวๆ ปีเดียวเท่านั้นเอง แล้วฉันจะยกบ้านหลังนี้ให้นายฟรีๆเลยนะ”
    “ถึงยังไงก็ไม่ได้หรอก ถ้าใครรู้เรื่องนี้ คนที่เสียชื่อเสียงก็จะเป็นตัวเธอเองนะ” พูดจบเขาก็หันหลังไป
    “นาย จะไปไหนน่ะ” นายนั่นทำท่าจะเดินออกไปข้างนอก ตอนนี้ใจฉันตกไปถึงตาตุ่มพร้อมกับน้ำตาที่ทะลักออกมาด้วย เงียบ...เขาไม่ตอบอะไรเลยแล้วก็เดินออกไปข้างนอกห้องทันที
    “ขอร้องล่ะ
    ! ฮึกๆ นาย..ฮึกๆ นายห้ามแจ้งความเด็กขาดเลยนะ”
    “เงียบ...”
    “อีตาบ้า
    ! ฮือๆๆ นาย..ใจร้าย..ที่สุดเลย! ฮือๆ ไอผู้ชายใจร้าย! ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอคนแบบนายด้วย”
    ฉันเอาแต่นั่งจินตนาการ ถ้าเกิดนายนั่นแจ้งตำรวจจริงๆ พอก็ต้องรู้เรื่อง อะไรจะเป็นเรื่องที่แย่สุดที่จะเกิดขึ้นถ้าหากพ่อรู้เรื่อง ฉันรู้ว่าฉันจะถูกส่งไปอังกฤษโดยเร็วที่สุด เร็วที่สุดคือกี่วัน พรุ่งนี้ มะรืนนี้ อาทิตย์หน้า เวลาที่จะอยู่กับเพื่อนๆของฉันเหลือน้อยลงไปทุกที ตอนนั้น น้ำตามาไหลลงมาเรื่อยๆไม่หยุดเลย
    “ปัง” นายโหด นายโหดกลับมา แต่เร็วเกินไป เขาไม่ได้ไปแจ้งความหรอกเหรอ
    “สัญญาการอยู่ร่วมกันของเรา”
    “หือ”
    “ไม่ต้องมาหือ เธอน่ะ ต้องทำอาหารเช้า-เย็นให้ฉัน ทำงานบ้านรวมไปถึงส่งผ้าซัก-รีดที่ร้านหน้าปากซอยด้วย เธอต้องไม่ลวนลามฉันไม่ว่าจะด้วยการกระทำหรือด้วยสายตา ไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด และที่สำคัญที่สุด กฎนี้บังคับใช้กับทั้งสองคน นั่นก็คือ ห้ามพาเพื่อนหรือญาติ หรือ คนรู้จักมาที่บ้านเด็ดขาด”
    “คนอย่างนายมันไม่มีเสน่ห์มากขนาดนั้นหรอกน่า”
    “ถ้าเธอทำผิดกฎ ฉันไม่รับประกันนะว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่รึเปล่า” ขู่จะฟ้องพ่อฉันสินะ
    “นาย
    ! นายคิดว่านายมีอำนาจมากขนาดนี้เลยเหรอ”
    “ก็ไม่เป็นไรนะ ถ้าเธอไม่พอใจก็ไม่ต้องเซ็น ถ้าเธอไม่เซ็น ฉันก็จะไปแจ้งความ”
    “เฮ่ย เดี๋ยวๆ ก็ได้ ครั้งนี้ฉันยอมให้ แต่ฉันขอเพิ่มกฎอะไรหน่อยได้มั้ย”
    “ได้สิ ถ้ามันไม่มากไป”
    “ไม่มากไปหรอก ก็แค่ ตอนนอนน่ะ ห้ามล้ำเส้นหมอนข้างเด็ดขาด และห้ามนายเข้ามายุ่งในห้องน้ำและตู้เสื้อผ้าหรือว่าโต๊ะหนังสือของฉัน ในขณะเดียวกัน ฉันซึ่งมีหน้าที่เป็นแม่บ้านดีๆนี่เอง จะไม่เข้าไปยุ่งในตู้เสื้อผ้าของนาย แต่มีสิทธิที่จะเข้าไปทำความสะอาดส่วนอื่นๆของบ้านนายอาทิตย์ละสามครั้ง”
    “เหอะ ถึงไม่มีกฎนี่ ฉันก็ไม่คิดพิศวาสอะไรกับเธอหรอก รู้ไว้ด้วย”
    “งั้นเป็นอันว่า นายตกลงแล้วนะ ฉันจะได้เซ็นซักที”
    “โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเอาใบสัญญานี่ไปใส่กรอบมาติดไว้บนผนังเลย”
    “เหอะ ไม่มากไปเหรอนายโหด”
    “โหดเหรอ งั้นดีเลย เธอน่ะ เริ่มทำอาหารได้แล้ว ฉันกินข้าวตอนหกโมงเย็นของทุกวันนะ”
    “นายนี่
    ! เชอะ ทำก็ได้เจ้าค่ะ...นายท่าน!
    “ฉันจะไปอาบน้ำล่ะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×