คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอน ข้าวกล่อง
….เช้าวันต่อมา....
“นี่เธอ มีมี่เขาเป็นหัวหน้าห้องมาหลายปีแล้วเหรอ”
“ทำไม ตรงสเป๊คนายงั้นสิ”
“ก็เปล่าหรอก แต่เขาพูดตลอดเวลาเลยนะว่าเขาเป็นหัวหน้า”
“ฮ่าๆๆ จริงดิ ยัยนั่นน่ะเหรอ ขี้อวดอีกตามเคย ว่าแต่นางได้พูดอะไรถึงฉันเสียๆหายๆบ้างรึเปล่า”
“ก็มีนะ” เขานิ่งไปทำท่าคิดแบบมีเลศนัย จนฉันต้องเข้าไปใกล้ๆเพื่อเค้นความจริง
“มีเหรอ อะไรล่ะ...เฮ่ย” ฉันเข้าไปเขย่าตัวเขาสองสามครั้ง ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงมาใกล้ๆฉัน
“นะนะนี่ นาย ยัยมีมี่บอกอะไร พูดมาดีๆนะ” ฉันเริ่มพูดไม่เป็นภาษาเพราะหน้าเขาอยู่ใกล้ฉันมาก
“เขาบอกให้ระวังเพราะเธอมันโรคจิต แต่ฉันก็รู้ดีอยู่แล้วล่ะความโรคจิตของเธอน่ะ”
“ฮะ นี่นาย!” หน้าเขาใกล้เข้ามาอีก แต่อยู่ดีๆก็ถอยห่างไปยืนตรงเหมือนเดิมพร้อมกับใส่แอปเปิ้ลเข้าปาก
“เห็นไหมล่ะ แค่ฉันทำแบบนี้ หน้าเธอก็แดงเป็นมะเขือเทศแล้ว ยัยโรคจิตเอ๊ยย ” เขาพูดพร้อมเอามือมาขยี้ผมฉันก่อนจะเดินไปนั่งดูทีวี ให้ตายเถอะ เขาจะรู้ไหมนะว่าฉันแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
“ไอบ้า ฉันไม่ได้หน้าแดงเพราะนายนะ แล้วก็อย่ามาเล่นหัวสิ ผมเสียทรงหมด” ฉันพยายามตะโกนแก้ตัวไปแต่ดูเหมือนฝั่งตรงข้ามจะไม่ได้ตั้งใจฟังมากนัก
“รอเดี๋ยวสิ แกเนี่ย กริ่งปุ๊ปก็มาเร่งปั๊ปเลย หิวมากเลยเหรอ”
“ก็หิวน่ะสิ แทบจะกินยางลบได้อยู่แล้วเนี่ย ว่าแต่วันนี้แกเอาข้าวกล่องมาป่าว ของฉันน่ากินมากเลยนะ”
“เอามาสิ นี่ไงล่ะ น่ากินซะไม่มี” ฉันพูดพร้อมเปิดโชว์ความน่ากินของข้าวกล่องอินสไปร์บายอรนี่ของฉัน
“น่ากินดีนี่” เสียงแปลกปลอมที่ไม่ใช่เสียงยัยมะปรางแทรกขึ้น เสียงไอเพื่อนบ้านมหาปลัยของฉันนั่นเอง
“น่ากินเหรอเก่ง มากินด้วยกันมั้ยล่ะ ของมะปรางก็มีนะ” ยัยมะปรางพูดชวนพร้อมสายตาหมานหยดเยิ้ม
“จะบ้าเหรอ ไปให้เขาทำไม ให้เขาแล้วพวกเราจะกินพอได้ไง ยิ่งมีน้อยๆอยู่” ฉันยืนกรานไม่ยอมสุดใจ ตานี่แกล้งฉันเมื่อเช้าแล้ว อย่าคิดว่าจะมาแบ่งข้าวกลางวันฉันได้นะ ไม่มีวัน
“ไม่หรอกครับมะปราง ผมเกรงใจ ผมแค่เห็นว่าน่าสนใจดี พรุ่งนี้อยากจะกินข้าวกล่องแบบนี้บ้าง”
“ก็ดีสิ ถ้าเอามาก็มากินกับพวกเราก็ได้นะเก่งจ๋า แม่เก่งต้องทำอาหารเก่งมากแน่ๆเลย เนอะอร”
“ไม่ใช่แม่หรอกครับ แต่เป็นแม่ครัวที่บ้านน่ะครับ แต่ไม่รู้จะอร่อยสู้ของมะปรางได้รึปล่าวนะ”
“นี่นาย พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง นายคิดว่าใครจะทำให้นายฮะ แม่ครัวเหรอ! อย่าหวังเลย”
“อร! พูดอะไรแบบนั้น แม่ครัวเขาจะทำหรือไม่ทำ แกไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ”
“ก็...ก็ โอ้ยยย ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันคงไม่ทำให้คนปากเสียอย่างนายนี่หรอก”
“ถึงเขาจะไม่ยอมทำให้ ผมก็จะใช้กำลังจนเขายอมทำให้อยู่ดี ไม่ต้องห่วงนะครับ”เขาพูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาสุดเจ้าเล่ห์มาทางฉัน น่าโมโหที่สุด
“เหรอ ใช้กำลังงั้นเหรอ นายคิดว่านายจะทำได้เหรอ” ฉันลุกจากโต๊ะและเดินเข้าไปใกล้นายปากเก่งนี่
“มันก็ต้องมีซักวิธีแหละนะครับ” เขาก็ลุกขึ้นมาด้วย เอ๊ะนายนี่ ยังมาแอ๊บพูดเพราะกับฉันอีก
“นี่นาย! วิธีอะไรของนายฮะ!” ฉันเงื้อมมือจะตีเขาแต่เขาจับมือของฉันไว้ได้ก่อน และดึงฉันเข้าไปใกล้ๆ
“รุนแรงจังเลยนะครับ คนแถวๆนี้ เขาคงคิดว่าพวกเราสองคนสนิทกันแย่เลย” สติของฉันกลับมาทันที
“ก็ ปล่อยสิ ตาบ้า!” ตายล่ะ มะปรางกับเพื่อนในห้อง พวกเขาจะคิดว่ายังไง ที่พวกเราอยู่ใกล้กันขนาดนี้
“ปล่อยแล้วจะทำให้มั้ยล่ะ” เขากระซิบเบาๆให้ฉันได้ยินแค่คนเดียว แต่ตอนนี้หัวฉันมันร้อนไปหมด ทั้งอาย ทั้งโมโห ทั้งเหลือเชื่อ นายนี่ใช้วิธีนี้บังคับให้ฉันทำข้าวกล่องให้ได้ยังไง น่าโมโหจริงๆ
“แต่ฉันก็ต้องตื่นเช้าขึ้นอีก แค่นี้ก็เช้ามากแล้วนะ” ฉันเงยหน้าขึ้นไปสู้กับเขาเพื่อจะต่อรอง แต่เป็นความคิดที่ผิด เพราะถึงหน้าเขาจะไม่ได้อยู่ใกล้มาก แต่มันก็ดูดีมากจนหน้าฉันเริ่มร้อนผ่าว
“มันไม่ใช่ปัญหาของฉันนี่ แต่เธอต้องทำข้าวกล่องให้ฉัน ไม่งั้น..” เขายื่นหน้ามาใกล้อีก
“ก็ได้” เขาหยุดแล้ว แต่ยังไม่ปล่อยมือจากฉัน
“ก็ได้ ฉันยอมทำข้าวกล่องให้นาย ปล่อยฉันได้รึยัง” ฉันล่ะกลัวจริงๆ มะปรางจะคิดอะไรอยู่นะเนี่ย
“เห็นมั้ย บอกแล้วว่าต้องมีวิธี” เขายิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะขยี้ผมฉันอีกรอบ แล้วเดินออกจากห้องไป
“อร เป็นไงบ้าง เขาทำอะไรเธอน่ะ” ตายล่ะ มะปรางจะสงสัยอะไรรึเปล่าเนี่ย
“คือ มันไม่ใช่แบบนั้นนะมะปราง พวกเราไม่ได้สนิทกันหรืออะไรทำนองนั้นเลยนะ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ดูข้อมือเธอสิ แดงแจ๊ดเลยยัยอร ฉันขอโทษนะ”
“ขอโทษทำไม เธอไม่โกรธฉันเหรอที่ไปหาเรื่องเด็กใหม่ของแกน่ะ”
“เด็กใหม่ของฉัน ดูท่าจะเป็นนักเลงซะแล้วสิ ทำกับเพื่อนฉันซะขนาดนี้ ฉันยืนตะลึง ไม่กล้าเข้ามาช่วยเธอเลย ตาเขา หน้าเขานะ ดูเอาเรื่องมากเลย ให้ตายสิ เธออย่าไปหาเรื่องเขาอีกนะ ฉันกลัว”
“นักเลงเหรอ ฮ่าๆๆ แกนี่ จินตนาการมากไปแล้วนะ แต่ก็ใช่ อย่าไปยุ่งกับนายนั่นมากเลย”
“ไม่ตลกนะ ฉันว่าที่เขาโดนออกจากโรงเรียนเก่า เพราะว่าเขาทำอะไรไม่ดีมาแน่ๆเลย พวกยากูซ่าน่ะ”
“ยากูซ่าเหรอ มะปราง...เธอติดซีรีส์ญี่ปุ่นอีกแล้วสินะ”
“ก็ นิดหน่อยนะเพื่อน ฮ่าๆๆ ไปกินข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้ว”
“เป็นอะไรเนี่ย ทำหน้าบอกบุญไม่รับเชียว”
“เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ” นิดหน่อยมาก ฉันต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า ขึ้นมาทำอาหารที่มากเป็นสองเท่า พอฉันคิดจะแกล้งตานั่น ก็แทบไม่มีอะไรที่เขากินไม่ได้เลย ถ้าฉันจะทำอาหารไม่อร่อยให้ เขาก็ขู่ว่า เขาจะแกล้งฉันให้หนักกว่าที่ทำกับฉันที่โรงเรียนเมื่อวาน แล้วก็เอาเรื่องถ้าไม่ทำตามฉันคงต้องไปอยู่กับพ่อมาขู่ฉันตลอด จนฉันไม่มีทางเลือก ไม่มีอะไรไปต่อสู้นายนั่นได้เลย
“ว่าแต่ตกลงวันนี้เอาข้าวกล่องมารึเปล่าจ๊ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นไปจะตอบยัยมะปรางแต่พบว่านางไม่ได้พูดอยู่กับฉัน แต่กำลังพูดกับนายเก่งด้วยสายตาอ่อนหวาน ไหนบอกว่ากลัว ไหนบอกว่านายนั่นเป็นนักเลงไง
“เอามาแล้วครับ ไม่รู้ว่าจะอร่อยรึเปล่า” เก่งพูดตอบมะปรางอย่างสุภาพ
“ต้องอร่อยอยู่แล้วล่ะ” ฉันตะโกนแทรกขึ้น พร้องหันไปทางเก่งอย่างภาพภูมิใจ
“อร่อยไม่อร่อยเดี๋ยวก็รู้ เที่ยงนี้มากินด้วยกันมั้ยล่ะเก่ง”
“เอ่อ จะดีเหรอแก” ฉันพูดค้าน แต่ไม่ทันซะแล้ว
“ครูมาแล้ว งั้นเที่ยงนี้เจอกันนะเก่ง” ยัยมะปรางสรุปก่อนจะขยิบตาให้เก่งอีกนิดหน่อย
ความคิดเห็น