คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : โศกนาฏกรรม
โศกนาฏกรรม
ป่าแห่งซาก
‘ซู่วววว’ เสียงลมพัดผ่านผืนดินที่เต็มไปด้วยซากของสิ่งก่อสร้างในอดีต ที่ถูกนำมาทิ้งไว้ แสดงให้เห็นถึงความเงียบของที่แห่งนี้
‘แกร่กๆ’ เสียงย่ำเท้าของคนสองคนที่กำลังเดินสำรวจ ที่แห่งนี้ด้วยความเงียบ
“ที่นี่มันเปลี่ยนไป” หนึ่งในสองคนนั้นพูดถึงสถานที่ที่เขากำลังสำรวจ
“ใช่สิ เมื่อช่วงอาทิตย์ก่อนยังเต็มไปด้วย สัตว์ร้ายอยู่เลยนี่นา” ยังไม่ทันที่เค้าทั้งสองจะสำรวจเพิ่มเติม ก็มีอะไรบางอย่างกระโดดมาที่ข้างหลังพวกเค้า
“อ๊ะ !!” พวกเค้าร้องด้วยความตกใจ
“Hello Baby.” บุคคลลึกลับในชุดผ้าคลุมสีแดง พูดเหมือนกล่าวทักทายกับทั้งสองคนก่อนที่จะร่ายเวทย์ใส่พวกเค้าทั้งสอง
“Silent now, Baby” กลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งออกจากมือของบุคคลลึกลับ ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ตอบโต้กลับ ก็โดนเวทย์ของบุคคลลึกลับทำให้สลบไป
...........................................................
“อึก... โอย” หนึ่งในสองคนตื่นจากการโดนทำให้สลบ เค้าพบว่า พวกเค้าทั้งสองถูกพาตัวมาในป่าแห่งซากแล้ว เมื่อดูจากสภาพรอบๆที่มีแต่ซากปรักหักพังและ ซากสัตว์ร้าย ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว
“อุ๊บ อะไรเนี่ย..” แขนทั้งสองข้างของเค้าถูกตัดขาดไปแล้ว “ว่ะ...เหวอออ !!” เค้าร้องด้วยความกลัวและตกใจ
“จุ๊ๆๆๆ ไม่เอาสิ อย่าเสียงดังนัก เดี๋ยวก็ได้คืนแล้วทั้งสองข้างเลย” บุคคลลึกลับคนเดิมบอกกับเค้าด้วยท่าทียียวน
“พวกแกทำอะไรกับชั้น !!” เค้าตะโกนถามด้วยความโกรธ
“Impact Voice !!” บุคคลลึกลับร่ายเวทย์ใส่ทั้งสองคนอย่างไร้ความปราณี “ชั้นบอกแล้วว่าให้เงียบ เห้อ ไม่อย่างงั้นก็ได้เป็นพวกเดียวกันแล้ว หึหึหึ” บุคคลลึกลับพูดพลางหัวเราะและลากศพของเค้าทั้งสองออกไปนอกป่า
สองอาทิตย์หลังจากจบภารกิจ ช่วยเหลืออาจารย์ ไวโอเล็ต
“หลังจากวันนั้นก็มีแต่การเรียนปกติเองเหรอ” อีลิคพูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง
“น่ะ...นายคุยกับใคร อีลิค” โอลีเวียถามอีลิค เพราะเธอเป็นคนนั่งข้างหน้าต่างที่อีลิคหันไปมอง
“พูดกับ...สายลม ล่ะมั้ง” อีลิคตอบ
“เหห นายเนี่ยนะ ชอบทำให้ชั้นกลัวอยู่เรื่อยเลย ไหนจะนิสัยนิ่งเฉยทุกสถานการณ์อีก” โอลีเวียพูดแกมตำหนิอีลิค
“อย่าใส่ใจ อย่าใส่ใจ ไม่ว่าใครก็เป็นกันได้หมดล่ะ” อีลิคตอบกลับไปด้วยสีหน้านิ่งเฉย
“เน่ โอลีเวียจัง ไม่ต้องเสียเวลาไปคุยกับหมอนี่หรอกน่า เธอไม่เข้าใจหรอก ขนาดพวกเราอยู่กับหมอนี่มานนานแล้ว ยังไม่ค่อยเข้าใจเลย” คริสพูดกับ โอลีเวีย
“เห้อ อีลิค ตอนนายต่อสู้กับตอนตัดสินใจอะไรเนี่ย นายดูเท่กว่าตอนนี้อีกนะ จริงมั้ย ไอเดน” โอลีเวียหันไปพูดกับไอเดนที่นั่งสนใจบทสนทนาของ โอลีเวียกับ อีลิคอยู่
“เอ๊ะ เอ่อ...ชั้นว่าตอนปกติ ก็...น่ารักไปอีกแบบนะคะ” ไอเดนตอบด้วยหน้าแดงระเรื่อ
“เห อย่าบอกนะไอเดน ว่าเธอชอบตาเฉื่อยนี่” คริสตินที่อยู่ใกล้ๆร้องท้วงขึ้นมา
“เอ่อ ปะ...เปล่าจ้ะ แค่พูดออกไปเฉยๆ” ไอเดน แก้ตัวพัลวัน แต่ยังไม่วายหน้าแดง
‘ป่อยยย~~~~ โป๊ะ!!’
“ว้าย !!” ฟองอากาศลอยมาแตกที่ตรงหน้าไอเดน ทำให้เธอตกใจจนรองว้าย
“80% ในขณะที่เธอพูดอยู่เมื่อกี๊ เธอไม่ได้ใส่ใจกับคำถามและคำตอบ” ไบรอัน แกล้งไอเดนด้วยการสร้างฟองอากาศให้ลอยไปแตกใส่หน้าไอเดน
“อะไรกัน ไบรอัน เล่นไม่รู้เรื่อง” ไอเดน โกรธแล้วเดินออกจากห้องไป
“ยัยนั่นเค้าจะไปไหนน่ะ ใกล้จะเริ่มเรียนแล้วนา” ไบรอันถามทุกคน
“เพราะนายเลย ไบรอัน ไปตามไอเดนมาเดี๋ยวนี้เลย” โอลีเวียตำหนิไบรอัน
“อะไรกัน หยอกนิดหน่อยเอง” ไบรอันส่งเสียงรำคาญ แต่ก็เดินออกไปตาม
“กรี๊ดดดดดดดดดด !!!”
เสียงกรีดร้องดังมาจากหน้าห้องเรียนของพวกเค้า
“เสียงไอเดนนี่” ไบรอันตะโกน พร้อมกับวิ่งออกไป “ไอเดน เป็นอะไร” ไบรอัน ร้องเรียกไอเดน ในขณะที่ทุกคนก็ตามออกมาด้วย ภาพที่ทุกคนเห็นคือ ไอเดนนั่งคุกเข่าอย่างหมดแรง ในขณะที่ตรงหน้าเธอ มีศพทหารลาดตระเวนอยู่สองศพในสภาพที่สุดสยอง แขนทั้งสองข้างถูกตัดขาด และหูทั้งสองเหมือนถูกระเบิดกระแทกเข้าไปจึงทำให้ บริเวณหูฉีกขาดจนเละ
“นี่มันบ้าอะไรอีกเนี่ย” อีลิคพึมพำออกมา
“เราต้องแจ้ง อาจารย์” คริสตินออกความเห็น
“ห้องอื่น คงไปบอกแล้วล่ะพวกเราอยู่ที่นี่คอยดูไอเดนเถอะ” หลี่ เฟย บอกกับคริสติน
อาจารย์ทุกคนวิ่งหน้าตาตื่นมาที่เกิดเหตุ ด้วยสีหน้ากังวล
“นักเรียนทุกคน กลับเข้าห้องเรียนไปก่อน ” ผอ.สั่งนักเรียนทั้งหมดสีหน้าเคร่งเครียด นักเรียนทั้งหมดจึงต้องทำตาม
“คุณแพรทริค พาคุณวิคเตนบาร์ค เข้าห้องก่อนเถอะจ้ะ” อาจารย์ไวโอเล็ต บอกกับคริสติน
“ค่ะ ครู” คริสตินรับคำ
หลังจากนักเรียนทั้งหมดกลับเข้าห้อง อาจารย์ทั้งหมดก็จัดการกับศพทั้งสอง และเรียกคนจากทางกองทัพมารับศพกลับไป
“ใครกัน ที่ทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้” อิซาค อาจารย์ประจำห้อง B ของนักเรียนระดับกลางขั้น2 ปี1 เริ่มตั้งข้อสงสัยในที่ประชุม
“พวกมันหรือเปล่าคะ ท่าน ผอ.” ไวโอเล็ตหันไปถาม ผอ.
“อืม... คงจะเป็นพวกมันนั่นล่ะ ไวโอเล็ต” ผอ.ตอบไวโอเล็ต ด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “เธอ...คงจะถึงเวลาแล้วล่ะ ไวโอเล็ต”
“ค่ะ ท่าน ผอ.” ไวโอเล็ตตอบด้วยน้ำเสียงปนเศร้า
“จะเศร้าไปทำไม พลโทไวโอเล็ต ชีวิตในกองทัพของเธอก็ไม่ได้เลวร้ายนี่นา” อับราฮัม อาจารย์ประจำห้อง C ของปี 1 พูดกระแนะกระแหน ใส่ไวโอเล็ต
“ชีวิตที่ไม่เคยอยู่ในสนามรบอย่างคุณ ผมว่าไม่เข้าใจ อาจารย์อับราฮัม” ชาร์ล อาจารย์ร่างเล็กประจำห้อง B ของ ปี3 พูดใส่หน้าของ อาจารย์อับราฮัม
‘แปะแปะแปะ’ เสียงปรบมือดังขึ้นท่ามกลางการทะเลาะกันของพวกอาจารย์
“เอาล่ะ ทุกคน เรามาเพื่อประชุมหารือกันเรื่องนี้ ไม่ใช่เหรอ” รอง ผอ. โจฮันเนส และยังเป็น อาจารย์ประจำห้อง A ของปีสาม พูดปราม อาจารย์ที่กำลังทะเลาะกัน “ผมขอเริ่มเลยละกันนะ ถ้าเกิดว่าคนที่ทำเรื่องนี้ในวันนี้ มันสามารถลอบเข้ามาในโรงเรียนได้ วันหลังมันก็สามารถที่จะลอบเข้ามาได้อีก และความปลอดภัย ของโรงเรียนเราก็จะเป็น 0 ” รอง ผอ. เปิดประเด็นการประชุม
“เราคงจะต้องยืมกำลังของกองทัพ มาคุ้มครองโรงเรียนของเรานะคะ” วิเวียน อาจารย์ประจำห้อง B ของปี 2 เสนอความคิด “และอาจจะทำให้อาจารย์ไวโอเล็ต ยังสามารถสอนนักเรียนได้ต่อ”
“แต่ทางกองทัพ จะยอมมาช่วยพวกเรางั้นเหรอ” บิลล์ อาจารย์ประจำห้อง C ของ ปี2 กล่าว
“เรื่องนั้น ดิชั้นพอจะคุยกับทางกองทัพได้ค่ะ” ไวโอเล็ตเสริม
“นี่ก็เพื่อตัวเธอด้วยนี่ ถ้าเธอไม่อยากกลับไปกองทัพ เธอก็ต้องพยายามล่ะนะ อาจารย์ไวโอเล็ต” สตีเวน อาจารย์ประจำห้อง A ของปี 2 กล่าว
“ค่ะ มันก็ต้องเป็นแบบนั้น” ไวโอเล็ต เห็นด้วยกับคำพูดของ สตีเวน
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังหารือกัน กลับมีอาจารย์อีกหนึ่งคน ที่นั่งหลับ อย่างสบายใจ นั่นก็คือ ไมเคิล อาจารย์ประจำห้อง C ของปี 3
“เอ่อ อาจารย์ไมเคิล ครับ มีความเห็นอะไรหรือเปล่า” รอง ผอ. พูดพลางหันไปทาง อาจารย์ไมเคิล ที่นั่งหลับอยู่ “อาจารย์ไมเคิล ครับ” รอง ผอ. ร้องเรียกอีกครั้ง
“ห๊ะ !! อ๊ะ !! ยังไงก็ได้ ชั้นพร้อมเสมออยู่แล้ว” อาจารย์ไมเคิล สะดุ้งตื่นและพูดตอบกลับไป
“นี่คุณ ไม่ได้ฟังอะไรเลยหรือไง” อาจารย์ บิลล์ ต่อว่า
“เอาเถอะๆ ทุกคน ชั้นว่าจบการประชุมแค่นี้ก่อน ของให้อาจารย์ทุกคน กลับไปดูแลนักเรียนของตัวเองกันก่อน ส่วนเรื่องที่เราหารือกันเมื่อสักครู่ ชั้นจะไปจัดการเอง” ผอ. พูดขึ้นมา
“ครับ/ค่ะ ท่าน ผอ.” อาจารย์ทุกคนรับคำ
...........................................................
อาจารย์ ไวโอเล็ต เดินกลับมาที่ห้อง
“คุณแพรทริคคะ คุณวิตเตนบาร์ค เป็นยังไงบ้างคะ” อาจารย์ไวโอเล็ต ถามคริสตินถึงอาการของไอเดน ด้วยความเป็นห่วง
“ตอนนี้อยู่ที่ห้องพยาบาลค่ะ ยังมีอาการผวาอยู่เลย” คริสตินตอบ
“ทุกคนคะ อยู่ในห้องด้วยความสงบก่อนนะคะ เดี๋ยวครูขอไปดูอาการของคุณ วิตเตนบาร์คก่อน” อาจารย์ไวโอเล็ตบอกกับทุกคน แล้วเดินออกไปห้องพยาบาล
“ไอเดนจะเป็นอะไรมั้ยนะ” คริสตินพูดด้วยความเป็นห่วง
“ไม่รู้สิ เป็นใครก็ต้องผวาล่ะ อยู่ๆก็ไปเจอศพที่มีสภาพแบบนั้น” โอลีเวีย พูดกับคริสติน
“เป็นคราวซวยอะไรของยัยนั่นกันน้า” ไบรอันพูด
“เพราะนายเลย ไบรอัน นายไปแกล้งยัยนั่นนี่นา” นักเรียนส่วนใหญ่ในห้อง พูดใส่ไบรอัน
“อะไรกัน ชั้นหยอกนิดเดียวเอง แล้วใครจะไปรู้ว่ามันจะมีอะไรแบบนั้นอยู่” ไบรอันแก้ตัว
ห้องพยาบาล
“สวัสดีค่ะ อาจารย์เบนเนท” ไวโอเล็ตกล่าวทักทายอาจารย์ประจำห้องพยาบาล
“สวัสดีค่ะ อาจารย์ไวโอเล็ต การประชุมเป็นอย่างไรบ้างคะ” อาจารย์เบนเนท ทักทายกลับ และถามถึงเรื่องการประชุม
“ก็ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรมากค่ะ คุณวิตเตนบาร์คอยู๋เตียงไหนคะ” อาจารย์ไวโอเล็ตตอบและถามถึงไอเดน
“ข้างในเลยค่ะ แต่ดูเหมือนแกยังผวาอยู่นะคะ” อาจารย์เบนเนทตอบพลางชี้เข้าไปในห้องพยาบาล
“ขอบคุณค่ะ ” ไงโอเล็ตพูดขอบคุณพร้อมกับเดินเข้าไปหา ไอเดน
“คุณวิตเตนบาร์คคะ” ไวโอเล็ตเรียกไอเดน
“…” มี่มเสียงตอบกลับ ไอเดน ได้แต่นั่งก้มหน้าลงบนเตียง
“ครูมีอะไรอยากจะถามเธอหน่อยนะจ่ะ ขอเวลาครูหน่อยได้มั้ย” ไวโอเล็ตพยายามพูดกับ ไอเดน ในขณะที่ไอเดน เงยหน้าขึ้นมามอง “คุณวิตเตนบาร์ค คุณรู้มั้ยคะ ว่าศพนั่นมาอยู่ตรงนั้นได้ยังไง” ไวโอเล็ต ตั้งคำถาม
“หนู...หนูไม่รู้ค่ะ” ไอเดนร้องไห้พลางตอบคำถามไวโอเล็ต “หนูแค่เดินออกจากห้อง เพื่อจะไปห้องน้ำ แล้ว...แล้ว”
“แล้วอะไรคะ คุณวิตเตนบาร์ค” ไวโอเล็ตซักต่อ
“แล้ว ศพนั่น...มัน...มัน ” ไอเดนสะอื้นทำให้ตอบคำถามตะกุกตะกัก “มัน...ก็ตกลงมาจากบนฟ้า”
“บนฟ้างั้นเหรอ ” ไวโอเล็ตมวนคำของไอเดน “แล้วมันตกลงมาได้ยังไงกันคะ”
“หนู...หนูเห็น...ผ้าคลุมสีแดง ผ้าคลุมสีแดงที่อยู่ข้างบนหัวของหนู” ไอเดนเริ่มสะอื้นหนัก “แล้วศพมัน...แล้วเลือด เลือด เต็มไปหมด ดวงตานั่น กรี๊ดดดดด !!!” ไอเดนกรีดร้องหลังจากนึกถึงภาพก่อนหน้านั้น
“อาจารย์ไวโอเล็ตคะ ให้เค้าได้พักก่อนเถอะค่ะ ” อาจารย์เบนเนทบอกกับไวโอเล็ต
“ค่ะ ค่ะ ” ไวโอเล็ตเห็นด้วยและเดินจากไป
เวลาเลิกเรียน
“ครูครับ ไอเดนเป็นยังไงบ้างครับ” ไบรอันถามกับ ไวโอเล็ต หลังจากไวโอเล็ตกลับมาที่ห้องเพื่อปล่อยนักเรียนกลับบ้าน
“ตอนนี้ ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลแล้วจ้ะ ดูเหมือนอาการเธอจะหนักอยู่” ไวโอเล็ตตอบ
“ยัยนั่น จิตอ่อนอยู่แล้วนี่ เจอเรื่องแบบนี้คงทำใจไม่ได้” วิลเลียมโพร่งขึ้นมา
“ใครจะจิตแข็งเหมือนนายกันยะ ตาคนสองบุคลิก” คริสตินแขวะวิลเลียม แล้วทุกคนก็หัวเราะร่วน ในขณะที่วิลเลียมนั่งหน้าเจื่อนอยู่กับที่
“เอาล่ะทุกคน ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่ค่อยจะสู้ดีนักยังไงก็เดินทางกลับบ้านกันอย่างปลอดภัยนะคะ” อาจารย์ไวโอเล็ต บอกกับนักเรียนทุกคนก่อนจะให้นักเรียนแยกย้ายกันกลับบ้าน
อีลิค เดินทางกลับบ้านด้วยรถม้าเหมือนอย่างเคย ขณะกลับบ้าน เค้าคิดทบทวนเรื่องภายในวันนี้ตลอดทาง แม้สีหน้าของเค้าจะนิ่งเฉย แต่ภายในของเค้าตอนนี้กลับดูร้อนระอุ จากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“กลับมาแล้วครับ” อีลิคกล่าวทักทายคนในบ้านหลังจากกลับมาถึง
“กลับมาแล้วเหรอลูก” เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งตอบกลับมา
“พ่อ... วันนี้งานไม่ยุ่งเหรอครับ” คนคนนั้นคือพ่อของ อีลิคนั่นเอง อีลิคถามผู้เป็นพ่อกลับไป
“วันนี้ไม่มีอะไรมากน่ะ พ่อเลยขอกลับมาทานข้าวเย็นที่บ้าน” ผู้เป็นพ่อตอบคำถามลูกชายของตัวเอง “ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง”
“ปกติดีครับ” อีลิคเลือกที่จะไม่บอกเรื่องราวในโรงเรียนวันนี้ แก่ผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยดังเดิม
“ลูกแน่ใจกับคำตอบนั้นหรือเปล่า” ผู้เป็นพ่อซักอีลิค “สีหน้าลูกไม่ได้บอกถึงความปกติเลยนะ” ผู้เป็นพ่อ สามารถมองทะลุใบหน้าอันนิ่งเฉยของอีลิคได้
“วันนี้...ที่โรงเรียนเกิดเรื่อง” อีลิคยอมบอกผู้เป็นพ่อ “มีเพื่อนของผม เจอศพสองศพในบริเวณโรงเรียน”
“ศพ งั้นเหรอ” ผู้เป็นพ่อแสดงสีหน้าเป็นกังวล
“ใช่ครับ ดูเหมือนจะเป็นศพของทหารลาดตระเวน” อีลิคบรรยายเรื่องของวันนี้ให้ผู้เป็นพ่อฟัง
“อืม งั้นพรุ่งนี้พ่อคงงานยุ่งอีก เอาเป็นว่า เราจบเรื่องนี้ก่อน แล้วลูกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วลงมาทานข้าวเย็นด้วยกัน” ผู้เป็นพ่อบอกกับลูกชายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพราะไม่อยากให้โอกาสดีๆต้องหลุดลอยไป
...........................................................
โรงพยาบาล ประจำเมือง
“คุณวิตเตนบาร์คคะ เราจะปิดไฟแล้วนะคะ” พยาบาล บอกกับไอเดนที่นอนอยู่ในห้องพิเศษของโรงพยาบาล
“ค่ะ..” ไอเดนตอบด้วยเสียงอ่อนแรง ก่อนจะนอนลงเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้า พร้อมกับพยายามข่มตาหลับ ไม่ให้คิดถึงเรื่องวันนี้
‘แกร๊ก’ เสียงพยาบาลปิดไฟในห้อง ทุกอย่างมืดหมด แต่ไอเดนยังข่มตาที่จะหลับไม่ได้
“ลืมๆมันไปซะที ชั้นไม่อยากจำ” ไอเดนพูดกับตัวเอง
‘แกร่กๆ’ เสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินอยู่ในห้องของไอเดน
“ใครน่ะ !!?” ไอเดนถาม
ไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้าของเสียงฝีเท้า
“ชั้นถามว่าใคร !!?” ไอเดนถามอีกครั้ง เมื่อไม่มีเสียงตอบ เธอจึงมุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม แล้วปิดหูทั้งสองข้างเพราะคิดว่าตัวเองกำลังหลอน
“ Mary….Mary….quite…contrary…… , How…does…your…garden…grow?
With…silver…bells…and…leshells…And…pretty…maids…all…in… a…row. ”
เสียงเพลงกล่อมเด็ก แว่วลอยเข้าหูของไอเดน เป็นเสียงร้องที่เยือกเย็น น่ากลัว โหยหวน ทำให้เธอถึงกับนอนสั่น
ไอเดนทำใจกล้าเปิดผ้าห่มเพื่อที่จะมองหาต้นเสียง เธอค่อยๆลดผ้าห่มลงมาเพื่อที่จะมองเห็นในห้องได้รอบๆ
เจ้าของเสียงที่ไอเดนกำลังมองหาจ้องหน้าไอเดนจากหัวเตียง พร้อมกับพูดพลางแสยะยิ้มว่า
“Good Night Baby.”
....................................
“อาจารย์ไวโอเล็ต” รอง ผอ. เรียกไวโอเล็ต “รีบไปโรงพยาบาลด่วนเลยครับ”
“มีอะไรเหรอคะ” ไวโอเล็ตถามอย่างสงสัย
“นักเรียนของคุณ..” เมื่อรอง ผอ. บอก ไวโอเล็ตหน้าเสีย รีบเดินทางไปโรงพยาบาลทันที
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ไวโอเล็ตกลับต้องเจอข่าวร้ายสุดๆ ไอเดน เสียชีวิตแล้ว บนเตียงในห้องพยาบาล สภาพศพเหมือนถูกอะไรบางอย่างกระแทกเข้าที่หน้าอก และหูทั้งสองข้างของเธอ เป็นเหมือนศพของทหารลาดตระเวนเมื่อวาน
“มันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง” ไวโอเล็ตถามหมอและพยาบาล ขณะที่กำลังเคลื่อนย้ายศพของไอเดนออกจากโรงพยาบาล
“ทางเราต้องขออภัยด้วยจริงๆ พวกเราไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้น” หมอของโรงพยาบาล พูดขอโทดกับ ไวโอเล็ตและครอบครัวของไอเดน
“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง คนไข้ของคุณ...” ไวโอเล็ตหยุดพูดเมื่อน้ำตากำลังจะไหล
“เอาน่า อาจารย์ไวโอเล็ต ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางเค้าเถอะ ” รอง ผอ. พูดปรามไวโอเล็ต
หลังจากจัดการเรื่องไอเดนที่โรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว งานศพของไอเดนก็ถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่าย
เพื่อนในห้องเรียนทั้งหมดยืนอยู่หน้าหลุมศพของไอเดน
“อาจารย์ไวโอเล็ตว่าไงบ้าง อีลิค” คริสติน ถามอีลิค ที่เพิ่งคุยกับอาจารย์ไวโอเล็ต ถึงสาเหตุการตายของไอเดน
“อาจจะเกี่ยวข้องกับ ศพสองศพนั่น” อีลิคบอกกับเพื่อนทุกคน
“เพราะชั้นสินะ เพราะชั้นยัยนี่ถึงต้องตาย ถ้าชั้นไม่แกล้งยัยนั่น วันนั้น” ไบรอันคร่ำครวญออกมา
“นายจะโทษตัวเองทำไม ไบรอัน” โอลีเวีย ต่อว่าไบรอัน
“มันเรื่องจริงไม่ใช่เหรอ พวกนายยังบอกอยู่เลยวันนั้น” ไบรอัน ต่อว่าตัวเอง
“เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของนายหรอก ไบรอัน แต่มันเป็นเจ้านั่นต่างหาก” เบอร์นาร์ด ปลอบใจไบรอัน
หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่าง นักเรียนหลายคนเริ่มทยอยกันกลับบ้าน เว้นแต่ อีลิค ที่ยังยืนจ้องหลุมศพของไอเดนอยู่
“คิดอะไรอยู่ล่ะ อีลิค” วิลเลียมเดินเข้าไปถาม อีลิค
“ชั้นว่า เราคงคิดเหมือนๆกัน” อีลิคตอบด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย
“คิดเหมือนกันงั้นเหรอ ฮ่ะๆๆ นั่นสินะ ทุกคนก็คงคิดเหมือนกัน ว่ายัยนี่น่าสงสารจัง เจอเรื่องร้ายๆตลอด แล้วก็คงคิดเหมือนกันอีกว่า ไอ้คนที่ทำแบบนี้ มันไม่มีทางที่จะมีความสุขอีกแน่” วิลเลียมตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “นายคงไม่ได้ถามครูมาแค่ สาเหตุการตายใช่มั้ย”
อีลิคได้แต่มองกลับมา แต่ไม่ได้ตอบ
“หืมม พวกมันอยู่ที่ไหนล่ะ” วิลเลียมถามเหมือนรู้คำตอบของ อีลิค
“ป่าแห่งซาก ที่ที่พวกมันอยู่” อีลิคตอบ
“งั้นเหรอ งั้นเราก็คงต้องเข้าไปเมืองส่วนกลางก่อน เพื่อที่จะไปป่าแห่งซากสินะ” วิลเลียมเสนอความคิด “คนยิ่งน้อยยิ่งดีนะ ไม่เป็นจุดสนใจ”
“ตอนไหนดีล่ะ” อีลิคถามกลับ
“คืนนี้เลยเป็นไง ยิ่งเร็วยิ่งดี ชั้นไม่อยากรับรู้ว่าเจ้านั่นยังอยู่สุขสบายทั้งที่ทำกับเพื่อนเราแบบนี้” วิลเลียมเสนออีกอย่าง
“ตามนั้นเลย หน้าประตูเมืองส่วนกลาง คืนนี้” อีลิคนัดแนะก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน
22.00 น. หน้าทางเข้าเมืองส่วนกลาง
“เจ็ดคนเลยเหรอ” อีลิคถามกลุ่มคนที่รออยู่หน้าประตู
“ใช่สิ ใครจะปล่อยให้นายปทำเท่อยู่คนเดียว” เบอร์นาร์ดพูดพลางขยับแว่น
“ชั้นไม่อยากอยู่บ้านอะ ปด้วยคนละกัน” คริสโตเฟอร์ตอบกวนๆ
“เจ้าพวกนี้อยากตามมา ส่วนสองคนนั้น ชั้นคิดว่าน่าจะช่วยพวกเราได้เยอะ” วิลเลียมอธิบายให้อีลิคฟัง และชี้ไปที่ จาคอบ และ เจสัน
“นายไหวแน่นะ ไบรอัน” อีลิคหันไปถามสมาชิกคนสุดท้าย
“ไหวสิ เพื่อล้างแค้นให้ยัยนั่น แล้วความรู้สึกผิดของชั้น จะได้ลดลงบ้าง” ไบรอันตอบ
“งั้นไปกันเลยมั้ย” เบอร์นาร์ดออกความเห็น
“ใครใช้ให้นายเป็นผู้นำกัน ชั้นต่างหาก” วิลเลียมแย้ง
“อย่ามัวเถียงกันเลยน่า รีบเถอะ เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาขวางหรอก” จาคอบบอกกับทุกคน และทั้งหมดก็เคลื่อที่ผ่านประตูเข้าไป
“ระวัง ยามรักษาการณ์เห็นล่ะ” อีลิคร้องเตือนเพื่อนๆ
“เข้าใจแล้วน่า” เบอร์นาร์ดตอบกลับไป
“เมืองส่วนกลางนี่ช่าง ตื่นตาจังเลยนะ” วิลเลียมพูดออกมาขณะที่หลบจากสายตาของยามรักษาการณ์
“ยังไงซะเดี๋ยวพวกเราก็ได้เข้ามาอยู่ ถ้าไม่ตายในเร็วๆนี้ก่อนนะ” เจสันบอกกับ วิลเลียม
“เห้ยๆ เจสัน นายอย่าพูดเลย เวลานายพูดแล้วชั้นเสียวๆฟร่ะ” จาคอบปรามน้องตัวเอง
“ป่าแห่งซากอยู่ทางไหนล่ะ” ไบรอันถามอย่างร้อนรน
“อยู่ตรงข้ามกับทางออกใหญ่ ของเมืองส่วนกลาง” อีลิคบอก “ต้องผ่าน กองกำลังทหารที่ยืนเฝ้าอยู่ด้วย”
“เรื่องนั้น ไม่น่าใช่ปัญหานะ” วิลเลียมบอก
ขณะที่ทุกคนกำลังเคลื่อนที่อย่างระแวดระวัง
“พวกนายเป็นใครกัน ขโมยเรอะ !!” เสียงตะโกนของยามรักษาการณ์ ทำให้พวกเค้าต้องหยุดชะงัก
“Water Shock !!” ไบรอันร่ายเวทย์ใส่ยามรักษาการณ์ ทำให้หลับไปชั่วขณะ
“แค่โจมตีเบาๆน่ะ คงหลับถึงพรุ่งนี้” ไบรอันบอกหลังจากที่ซัดยามรักษาการณ์จนล้มพับลงไป
“เค้าไม่เป็นไรแน่นา ดูสิ” เบอร์นาร์ดแหย่ ไบรอัน
“รีบไปกันเถอะน่า” อีลิคเร่งทุกคน
ทั้งหมดเคลื่อนที่มาใกล้ถึงบริเวณ ประตูทางออกของ เมืองส่วนกลางแล้ว อีกไม่นานก็จะถึงจุดหมาย แต่ประตูข้างหน้ากลับมีทหารเฝ้าอยู่จำนวนมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีนักโทษแหกคุกออกไป ทหารจึงต้องยกกำลังมาเฝ้าที่ตรงนี้มากเป็นพิเศษ
“จะเอายังไงกันดีล่ะ ” เบอร์นาร์ดถาม
“คงต้องมีใครซักคน เป็นคนดึงความสนใจทหารพวกนั้น แล้วให้ที่เหลือรีบออกจากประตูไป” อีลิคเสนอ
“งั้นชั้นเอง” วิลเลียมพูดขึ้นมา “ชั้นจะเป็นคนดึงความสนใจพวกทหารเอง แล้วพวกนายรีบออกไปกันล่ะ”
“แล้วนาย..” ไบรอันกำลังจะถาม วิลเลียม
“ชั้นไวอยู่แล้วน่า เดี๋ยวตามออกไปเอง” วิลเลียมบอกกับทุกคน ก่อนที่จะเริ่มแผนการ
พวกเค้าทั้งหมดที่เหลือ ซุ่มอยู่บนหลังคาของบ้านเรือนใกล้ๆประตู เพื่อเตรียมตัวพุ่งเข้าไปในประตูนั่น
“เหวอ !!!” เสียงร้องของวิลเลียม จากแผนของพวกเค้า ทำให้ดึงความสนใจของพวกทหารได้จริงๆ
“ใครร้องน่ะ” ทหาร หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา
“ช่วยด้วยยย” วิลเลียมร้องตะโกนขึ้นมาอีก
“พวกนายไปดูซิ” คนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าสั่งทหารจำนวนหนึ่งให้ดูตามเสียง
“บ้าเอ๊ย ยังเหลือเฝ้าอยู่อีกสองคน” เบอร์นาร์ดสบถออกมาขณะที่ทหารไม่ได้ตามเสียงไปทั้งหมด
“เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา” จาคอบบอก
“Toxic Rain” จาคอบร่ายเวท ใส่ทหารที่เหลือสองคน
“พิษงั้นเหรอ ไม่เป็นอะไรแน่นะ” เบอร์นาร์ดสงสัย
“ชั้นปรับความข้นของพิษลงแล้ว คงทำให้หลับได้ซักพัก” จาคอบตอบ “และชั้นคิดว่าน่าจะดีกว่าวิธีของไบรอัน”
ไบรอันทำหน้าเจื่อนหลังจากที่ จาคอบแขวะมา
“เอาล่ะ ทหารหลับแล้ว รีบไปกันเถอะ” อีลิคบอกทุกคน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา “ตามมาด้วยล่ะ วิลเลียม”
ทั้งหกคน สามารถออกจากประตูนั้นได้อย่างไม่อยากลำบากนัก เมื่อออกมาจากประตูจึงมองเห็นพื้นที่ได้แค่บริเวณที่แสงไฟจากเมืองส่งมาถึง นอกนั้นมืดสนิท
“กี่โมงแล้วเนี่ย” คริสโตเฟอร์ถาม พลางหาวออกมา
“ตีสองแล้วล่ะ” จาคอบตอบ
“เสียเวลากับพวกนั้นไปเยอะเลยแฮะ” เบอร์นาร์ดบ่นออกมา
“เอายังไงดีล่ะ เข้าไปเลยมั้ยหรือจะรอวิลเลียมก่อน” เจสันเริ่มตั้งคำถาม
“ก็คงต้องรอก่อน จะทิ้งหมอนั่นไว้ที่นี่ได้ยังไง” เบอร์นาร์ดบอก
“จาคอบ ป่าแห่งซากอยู่ทางไหน แล้วช่วยดูให้ที ว่ามีอะไรอยู่บ้าง” อีลิคบอกกับจาคอบ
“ได้ๆ” จาคอบรับคำ “Search” จาคอบหลับตาแล้วใช้เวทค้นหาสถานที่ที่พวกเค้ากำลังจะไป มือของจาคอบส่งแสงเป็นสีฟ้าอ่อนๆ ในระหว่างที่กำลังค้นหา และแสงจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวในขณะที่หาเจอ “เจอแล้วล่ะ” จาคอบบอกกับทุกคน
“มีอะไรอยู่บ้าง” อีลิคถาม
“รอสักครู่นะ” จาคอบใช้เวทอีกหนึ่งอย่าง “Scan” แสงบนมือของจาคอบเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อเค้าเริ่มสแกนภายในสถานที่นั้น
“ว่าไงบ้าง” เบอร์นาร์ดเร่ง จาคอบ
“มีสิ่งมีชีวิตอยู่ 1..2..3..” จาคอบเริ่มนับจำนวนสิ่งมีชีวิต “มีสิ่งมีชีวิตอยู่ทั้งหมด 7 ตัว เคลื่อนที่อยู่ 2 ตัว เหมือนยืนอยู่ 3 ตัว และอีกสองตัว เหมือนจะสู้กันอยู่ ” จาคอบบอก
“ชั้นว่าเรารีบไปข้างหน้ากันก่อนเถอะ เพราะตอนนี้พวกทหารข้างหลังเริ่มส่งเสียงโวยวายแล้ว” เจสันบอกเพื่อนพลางชี้ไปที่ประตูเมือง พวกทหารกำลังเช็คดูอาการของทั้งสองคนที่โดนเวทของจาคอบไป ภายในประตูเมืองเริ่มวุ่นวายมากขึ้น
“งั้นก็คงต้องไปก่อน ยังไงวิลเลียมก็น่าจะตามเราไปได้” อีลิคบอกให้ทุกคนเคลื่อนที่ไปก่อนที่พวกทหารจะเจอพวกเค้าทั้งหมด
พวกอีลิค ออกห่างจากประตูเมืองมาพอสมควรทำให้แสงจากเมืองส่งมาไม่ถึง พื้นที่ตรงนั้นมืดสนิท และเงียบสงัด
“ชั้นว่ามันออกจะดูแปลกๆไปนะ” คริสโตเฟอร์เริ่มตั้งข้อสงสัย
“อะไรเหรอ คริสโตเฟอร์” ไบรอันถามคริสโตเฟอร์
“ก็ ป่าแห่งซากนี่ พ่อชั้นบอกว่ามันเป็นศูนย์รวมของสัตว์ร้ายเลยนะ แต่ทำไม จาคอบถึงสแกนเจอแค่ ไม่กี่ตัวเอง” คริสโตเฟอร์ถามทุกคน
“มันอาจจะย้ายถิ่นฐานก็ได้นี่ ดูแล้วที่นี่ก็ไม่มีอะไรน่าอยู่เลยนะ” เบอร์นาร์ดตอบแบบมองโลกในแง่ดี
“บรรยากาศ น่ากลัวแปลกแฮะ” ไบรอันมองไปรอบๆ
“ที่นี่ เป็นสถานที่รวมสิ่งกิ่สร้างในอดีตที่ถูกทิ้งไว้” อีลิคพูดกับทุกคน
“ยังมีอยู่อีกเหรอ สิ่งก่อสร้างของอดีตที่ย่ำแย่นั่น” เบอร์นาร์ดพูดพลางพยายามมองไปข้างหน้าที่มืดสนิท
‘ฟึ่บ’ เสียงเคลื่อนที่ของอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาหา เบอร์นาร์ด
“เบอร์นาร์ด ระวัง !!” อีลิคตะโกนบอกเบอร์นาร์ด แต่ไม่ทันที่เบอร์นาร์ดจะหลบ ก็โดนฝ่าเท้าขนาดยักษ์กระแทกเข้าที่หน้าอกกระเด็นถอยหลังไปไกล
“อั่ก !!!” เบอร์นาร์ดร้องด้วยความเจ็บ
“น่ะ...นั่นมันอะไรกัน” ไบรอันพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่ต่อหน้าพวกเค้าทั้ง 6 คน
สิ่งมีชีวิตร่างยักษ์ ที่ดูไม่เหมือนสัตว์ร้ายที่พวกเค้าเคยเจอในสวนแห่งหายนะ หรือหนังสือเล่มใดๆ แต่มันเป็นเหมือน มนุษย์ร่างยักษ์ ที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยขนรุงรัง และมีส่วนหัวที่ใหญ่จนประหลาด ยืนจ้องพวกเค้าพร้อมคำรามอยู่ในลำคอ
“นี่มันบ้าชัดๆ” จาคอบพูดพลางพยุงตัวเบอร์นาร์ดขึ้นมา “ไหวหรือเปล่าเบอร์นาร์ด”
“ไหวสิ หนังสือชั้นกระเด็นไปไหนเนี่ย” เบอร์นาร์ดยืนขึ้นจากความช่วยเหลือของจาคอบ และร้องเรียกหาหนังสือที่กระเด็นหลุดจากมือไป
“อยู่นี่ เบิร์น” คริสโตเฟอร์เป็รคนเก็บหนังสือไว้
“ที่นี่อยู่ห่างจากประตูมากพอแล้ว พวกทหารคงไม่รู้สึกตัวถึงสิ่งผิดปกติที่นี่แล้วล่ะ” อีลิคพูดขึ้น
“นี่นายคิดจะให้พวกทหารมาช่วยเราหรือไง” เบอร์นาร์ดถามอีลิค
“ใครว่าล่ะ พวกเราจะได้สู้กันสะดวกต่างหาก” อีลิคพูดพร้อมกับหยิบโซ่ขึ้นมา
“Electric Sword!!” โซ่ของเค้าถูกหุ้มด้วยไฟฟ้า และก่อตัวเป็นดาบขนาดย่อม “เตรียมตัวนะ ทุกคน”
“พร้อมเสมอ” ไบรอันบอกกับ อีลิค
“The Wells!!” ไบรอันสร้างแอ่งน้ำวนที่ใต้เท้าของเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น
“เจ๋งเลย ไบรอัน” เบอร์นาร์ดพูดชมไบรอัน
“Book of Magic. Connect!!” เบอร์นาร์ดเตรียมตัวใช้เวท “Flaming Chains!!” โซ่ตรวนที่หุ้มไปด้วยเพลิง รัดเข้าที่รำตัวของเจ้าร่างยักษ์นั่น ทำให้เจ้านั่นขยับไม่ได้ และถูกไฟจากโซ่เผาไหม้ พร้อมกับที่ เจสันร่ายเวทอีกอย่างเพื่อโจมตี
“Rock Fist!!” กำปั้นที่สร้างจากหินลอยขึ้นมาขนาบข้างเจสัน “Battle!!” กำปั้นลอยเข้าไปโจมตีไม่ยั้งใส่เจ้าร่างยักษ์
อีลิคอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าสัตว์ประหลาดกำลังจะล้มลง พุ่งเข้าใช้ดาบที่สร้างจากโซ่ของเค้าและไฟฟ้า ฟันเข้าที่แขนของเจ้านั่นจนขาดสะบั้น เลือดของเจ้าสัตว์ประหลาดทะลักพุ่งเป็นน้ำพุ
“น่ากลัวแฮะหมอนี่” คริสโตเฟอร์พูดพลางร่ายเวท “Airgun” คริสโตเฟอร์สร้างปืนที่ทำจากลมขึ้นมาและกระหน่ำยิงเข้าไปที่หัวของสัตว์ประหลาดตนนั้น “Shoot!!”
แต่เจ้าสัตว์ประหลาดก็ยังไม่หมดฤทธิ์ มันพ่นของเหลวเหนียวออกมาจากปากใส่พวกเค้าทั้งหมด โชคดีที่ทุกคนหลบได้ แต่...
“ระวัง นี่มันน้ำกรด” อีลิคบอกเตือนเพื่อนๆทุกคน เมื่อของเหลวจากเจ้าสัตว์ประหลาด ละลายพื้นที่ที่มันตกใส่เป็นหลุมกว้าง
“เดี๋ยวชั้นจัดการเอง” จาคอบพูดก่อนที่จะร่ายเวท “Water Sticker!!” จาคอบสร้างน้ำที่มีรูปร่างยืดหยุ่นแล้วยิงไปที่ปากของเจ้าสัตว์ประหลาด แล้วปิดปากของเจ้านั่นเหมือนกับกาว
“เยี่ยม จาคอบ” อีลิคชมจาคอบ “เจสัน นายช่วยสร้างที่ยืนให้ชั้นกับ คริส หน่อย” อีลิคหันไปพูดกับเจสัน
“ได้เลยไม่มีปัญหา” เจสันรับคำ “Stone Stairs!!” ชั้นหินที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นบันได เป็นที่ยืนเพื่อขึ้นไปโจมตีเจ้าสัตว์ประหลาดจากข้างบนได้อย่างดี
“ไปกันเลย คริส” อีลิคบอกกับคริสโตเฟอร์
“โอ้สส” คริสโตเฟอร์ วิ่งตามอีลิคขึ้นไป
“Lightning Strike!!” สายฟ้าผ่าลงเข้าที่หัวของเจ้าสัตว์ประหลาด มันเหวี่ยงมือไปมาด้วยความเจ็บปวด มันเหวี่ยงมือไปมาจนโดนบันไดหินที่เจสันสร้าง และกำลังจะโดน คริสโตเฟอร์
“Rock Armer!!” เกราะชั้นหินถูกสร้างขึ้นมาป้องกันตัว คริสโตเฟอร์
“Thank. เจสัน” คริสโตเฟอร์หันไปขอบใจเจสัน “Extortion Storm!!” พายุขนาดใหญ่หมุนวนอยู่รอบตัวมัน ลมกรรโชกอย่างแรงทำให้เจ้าสัตว์ประหลาดทรงตัวไม่อยู่ “Winds Blow!!” คริสโตเฟอร์ใช้ลมจากพายุทั้งหมดสร้างระเบิดใส่เจ้าสัตว์ประหลาด
“แจ๋ว คริสโตเฟอร์” ไบรอันตะโกนบอกคริสโตเฟอร์
“เหะๆๆ แต่มันเปลืองแรงจังแฮะ ชั้นใช้ได้แค่วันละครั้งเนี่ยแหละ” คริสโตเฟอร์บอกด้วยความหมดแรง
“แค่นี้ก็เกินพอ” อีลิคบอกกับคริสโตเฟอร์ “Electric Shock!!” อีลิคยิงไฟฟ้าเข้าที่ท้องของสัตว์ประหลาดจนเกิดรูกลวงโบ๋
“มันน่าจะหมดฤทธิ์ลงไปเยอะแล้วนะ” เบอร์นาร์ดบอกกับทุกคน “Flames Burning!!” เบอร์นาร์ดสร้างลูกไฟขนาดใหญ่เข้าไปเผาเจ้าสัตว์ประหลาด
เจ้าสัตว์หลาดร่างยักษ์แน่นิ่งหลังจากถูกพวกเค้าทั้งหกคนรุมโจมตี แต่พวกเค้าทั้งหมดก็อ่อนแรงเหมือนกัน
“ฟู่ว กว่าจะจบ กินแรงไปเยอะเหมือนกันแฮะ” เบอร์นาร์ดถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ถ้าพวกมันยกขโยงกันมาจะทำยังไง” เจสันถามทุกคน
“โอย นายอย่าเพิ่งพูดเลย เจสัน” จาคอบปรามน้องชายตัวเองอีกครั้ง
“เจ้าวิลเลียม มัวไปอู้อยู่ที่ไหนเนี่ย” คริสโตเฟอร์บ่นถึงเพื่อนร่วมทางอีกหนึ่งคน
“อาจจะถูกทหารลากตัวไปแล้วก็ได้นะ” ไบรอันเสนอความคิด “ว่างั้นมั้ยอีลิค” ไบรอันหันไปถามอีลิค ขณะที่อีลิคกำลังยืนจ้องอะไรบางอย่าง “เห้ มีอะไรอีลิค”
ทุกคนมองตามอีลิคไป ทิศทางที่อีลิคมองไป เป็นพื้นที่โล่ง หน้าป่าแห่งซาก มีแสงสลัวๆจากพระอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นทำให้พอมองเห็น สภาพรอบๆได้ และมีสิ่งหนึ่งปรากฏอยู่บนที่แห่งนั้น นั่นคือคนคนหนึ่งในชุดสีแดงคล้ายเลือด ยืนมองมาทางพวกเค้าทั้งหกคน พร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่า
“Good Morning Baby.”
ความคิดเห็น