คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : มนต์รักอ่างแก้ว ( 1 )
ลมพัดโชยเอื่อยในเวลาเย็น บรรยากาศช่างแสนโรแมนติก มีนักศึกษามากมายมานั่งเล่นเดินเล่นกันที่อ่างแก้ว หลายคู่นั่งแอบอิงกันผู้หญิงเอนหัวซบไหล่ผู้ชายสะท้อนกับพื้นน้ำเป็นภาพที่สวยงาม อ่างแก้วเป็นอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีทางเดินเลียบยาวทอดไปไกลสุดตามองไปเห็นต้นไม้และฉากหลังเป็นดอยสุเทพ วันนี้เป็นวันที่สี่แล้ว ที่ไอ้โหน่งมานั่งเล่นที่อ่างแก้ว และเป็นวันที่สี่ที่มันมาเชียงใหม่แบบกะทันหันหลังจากโดนน้องหมวยรุ่นน้องต่างคณะหักอก มันก็จับรถไฟจากกรุงเทพมายังเชียงใหม่ทันที ตลอดระยะทางหลายร้อยกิโล เสียงเดียวที่ไอ้โหน่งได้ยินก้องอยู่ในหูคือเสียงของน้องหมวยที่บอกว่า “พี่โหน่งดีเกินไป หมวยไม่อยากทำร้ายพี่มากไปกว่านี้” รถไฟวิ่งรอดผ่านถ้ำอุโมงค์ขุนตาลไปช้าๆ แต่น้ำตาของไอ้โหน่งไหลรินเป็นก๊อกแตก รถไฟมาเทียบสถานีเชียงใหม่แต่ไอ้โหน่งยังนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ฉับพลันมีมือขนาดใหญ่มาแตะที่ไหล่ ไอ้โหน่งรู้สึกตัวจากภวังค์ความเศร้า มือที่มาแตะไหล่ไอ้โหน่งคือมือของไอ้โบ้ เพื่อนสนิทสมัยมัธยม ที่มาเรียนอยู่คณะวิจิตรศิลป์ที่เชียงใหม่ ไอ้โหน่งกระโดกอดเพื่อนรักทั้งน้ำตา ร้องไห้โฮ อย่างไม่อายใคร ไอ้โบ้ทำหน้าเจื่อนๆ มองไปรอบๆเห็นพนักงานรถไฟมองมาที่มันทั้งสองคนแล้วไอ้โบ้ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
“เฮ้ย หยุดร้องก่อนเว๊ยเพื่อน ชาวบ้านเค้าแตกตื่นกันหมด ไว้ไปร้องต่อที่ห้องกู “
“ไอ้โบ้ กูมันดีเกินไป คนอย่างกูมันดีเกินไป” ไอ้โหน่งเริ่มเพ้อ
“เออๆ ดีหรือเหี้ย ก็ไปห้องกูก่อน ไหนกระเป๋ามึง กูช่วยถือ”
เช้าวันนั้นที่เชียงใหม่ จะเห็นภาพรถเวสป้าคันสีชมพูมีชายหนุ่มตัวอ้วนเป็นคนขี่และชายหนุ่มผอมสูงอีกคนกอดเอวซบไหล่ ร้องไห้ครางกะซิกๆไปตลอดทาง หลังจากวันนั้นไอ้โหน่งก็ตามติดไอ้โบ้เป็นแตงเม ไอ้โบ้ไปเรียน ไอ้โหน่งไปนั่งเฝ้า และทุกๆเย็นไอ้โบ้จะพาไอ้โหน่งมาปล่อยให้นั่งเล่นที่อ่างแก้ว เพราะไอ้โบ้ต้องไปวาดรูปให้เจ้าของร้านอาหารที่มันรับงานไว้ และจะมารับไอ้โหน่งอีกทีตอนมืดๆ ไอ้โหน่งก็นั่งเหม่อลอยอยู่ริมอ่างแก้ว มองงลงไปในน้ำดูปลาแหวกว่ายจนแทบจะจำปลาทุกตัวได้ ไอ้โหน่งนั่งอยู่อย่างนี้เป็นวันที่สี่แล้ว มันมองไปที่ทางเดินเลียบอ่างแก้วมองไปสุดสายตาเห็นต้นไม้ใหญ่ เลยคิดจะเดินไปให้ถึงตรงนั้น ไปนั่งมองน้ำตรงนั้นอาจจะได้เห็นปลาตัวใหม่ๆที่มันยังไม่เคยเห็นหน้า ไอ้โหน่งเดินไปตามทางเล็กๆเลียบอ่างแก้ว ระหว่างทางเดินมีคนมาวิ่งออกกำลัง ข้างหน้าไอ้โหน่งมีผุ้หญิงสองคนแต่งตัวด้วยชุดลำลอง ใส่รองเท้าผ้าใบ เพื่อมาเดินออกกำลังกาย แล้วอยู่ๆผ้าขนหนูที่พาดคอของผู้หญิงคนที่อยู่ด้านซ้าย ก็ลอยตกลงมาบนทางเดิน ไอ้โหน่งก้มลงเก็บและรีบวิ่งตามไปเพื่อเอาไปคืน
“คุณครับๆ คุณทำผ้าขนหนูตกครับ”
ทั้งสองสาวหันมาพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงไอ้โหน่ง หญิงสาวคนซ้ายตัวเล็กๆผิวขาว หน้าตาน่ารัก ส่วนคนด้านขวา ตัวสูง รูปร่างอวบ
“คุณทำผ้าขนหนูตกครับ” ไอ้โหน่งพูดพร้อมยื่นผ้าขนหนูในมือส่งไปให้
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆเลย” หญิงสาวรับผ้าขนหนูจากมือไอ้โหน่ง แต่ตามองหน้าไอ้โหน่งไม่กระพริบ
“ เอ่อ ขอโทษนะคะ พี่โหน่งใช่มั๊ยคะ” หญิงสาวทำหน้าสงสัยปนไม่แน่ใจ
“ ใช่ครับ ว่าแต่น้องรู้จักชื่อพี่ได้ยังไงครับ” ไอ้โหน่ง งง ปนสงสัย เช่นกัน
“นี่ปลาเองค่ะพี่ ปลาน้องพี่ป้อมไงคะ พี่โหน่งจำได้มั๊ยคะ” หญิงสาวพูดพร้อมรอยยิ้ม
“อ๋อ ปลาน้องสาวไอ้ป้อมนี่เอง ไม่ได้เจอกันนานเลย นี่ถ้าไม่บอกนี่พี่ก็จำไม่ได้นะเนี่ย โตขึ้นเยอะเลยนะเรา” ไอ้โหน่งนึกถึงหน้าไอ้ป้อม เพื่อนในกลุ่มอีกคนแต่ช่วงที่เข้ามหาลัยต่างคนต่างยุ่งกับเรื่องเรียนและกิจกรรมเลยทำให้ขาดการติดต่อกันไป
“แต่ปลาจำพี่โหน่งได้ค่ะ พี่หน้าตาไม่เปลี่ยนเลยนะคะ อ้อ ลืมไป นี่เพื่อนปลาค่ะชื่อส้ม” ปลายังยิ้มสดใส
“สวัสดีครับ น้องส้ม”
“พี่กำลังจะเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ตรงโน้นน่ะครับ เราไปนั่งคุยกันตรงโน้นดีมั๊ยครับ”
“ไปสิคะ” ปลาตอบรับด้วยรอยยิ้ม แต่ส้มขอตัวไปเดินเล่นออกกำลัง เปิดโอกาสให้สองคนที่ไม่ได้พบกันนานได้คุยกัน
ทั้งสองมานั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่แผ่กิ่งก้านอยู่ริมน้ำ มองไปอีกฟากเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของนักศึกษาจอดเรียงราย มีคนนั่งเป็นกลุ่มๆบ้าง เป็นคู่ๆบ้าง สะท้อนกับแสงแดดยามเย็น
“พี่ไม่คิดเลยนะว่าจะมาเจอปลาที่นี่” ไอ้โหน่งพูดพร้อมรอยยิ้ม นี่คือยิ้มแรกของมันที่เชียงใหม่
“ตอนสอบเอ็นทรานซ์ปลาเลือกม.ช.ทุกอันดับเลยค่ะ ปลาชอบที่นี่อยากเรียนที่นี่ เอ...แต่ว่าพี่โหน่งมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ หรือว่ามีแฟนเรียนอยู่ที่นี่คะ” ปลายิ้มแบบเหย้าเล่น
“พี่....อกหัก” ไอ้โหน่งพูดและหันหน้าไปมองปลาด้วยสายตาเศร้าสร้อย
“พี่อย่าเศร้าไปเลยนะคะ เชียงใหม่ไม่ใช่เมืองสำหรับคนเศร้านะคะ ที่นี่เชียงใหม่เมืองแห่งสิ่งใหม่ๆรวมถึงเรื่องความรักด้วยค่ะ พี่นั่งรถไฟมานี่ใช่มั๊ยคะ พี่ก็ต้องลอดอุโมงค์ขุนตาลมาแล้ว มีคนพูดกันว่าถ้าผู้ชายคนไหนได้ลอดผ่านอุโมงค์ขุนตาลมาถึงเชียงใหม่แล้ว ก็จะพบรักกับสาวเชียงใหม่นะคะ อย่าเศร้าไปเลยนะคะ เดี๋ยวปลาจะพาพี่เที่ยวเชียงใหม่ให้พี่หายเศร้าเลย” ปลาพูดพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน ซึ่งถ้าใครได้มาเห็นรอยยิ้มก็คงยากที่จะไม่หลงรัก
“จริงๆนะ ปลาจะพาพี่เที่ยวเชียงใหม่จริงๆนะ” ไอ้โหน่งยิ้ม นี่คือรอยยิ้มครั้งที่สองของมัน
“จริงค่ะ พรุ่งนี้ปลาไม่มีเรียน ปลาจะไปรับพี่แต่เช้านะคะ แล้วเราขึ้นไปไหว้พระธาตุกัน” ทุกคำพูดของปลาจะมาพร้อมรอยยิ้มเสมอ
ค่ำวันนี้แสงจันทร์สาดส่องลงมาเหมือนทุกวัน รถเวสป้าสีชมพูคันเดิมแล่นผ่านหอนาฬิกาของม.ช.เป็นคืนที่สี่ ไอ้โบ้ขี่รถไปช้าๆ ไอ้โหน่งนั่งซ้อนตรงที่เดิมกอดเอวไอ้โบ้ไว้แน่น เหมือนภาพที่เล่นซ้ำไปมาในทุกๆวัน แต่สิ่งที่ต่างไปในวันนี้คือรอยยิ้มอันอิ่มเอิบของไอ้โหน่ง และสิ่งที่ทำให้รู้สึกแตกต่างไปจากวันอื่นๆอีกอย่างหนึ่งคือ ไอ้โบ้รู้สึกว่ามันโดนไอ้โหน่งกอดเอวแน่นผิดปรกติจากทุกวันที่ผ่านมา...
ความคิดเห็น