คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 〚Buddyfight P.แยกจักรวาลหลัก〛Yoshida Midori - เจ้าหญิงคางุยะแห่งบัดดี้โพลิส *รีไรท์2*
* รีแก้ใหม่ของสตอรี่ตั้งแต่จุดเริ่มต้นและปัจจุบัน
สตอรรี่นี้เป็นจักรวาลทาสุคุ x โซเฟียช่วงหลังภาคX ช่วงอายุ14ปี แยกจากจักรวาลทาสุคุ x มิโดริ *
〚 รูปตอนเล็กแถมฟรีตอนโต 〛
NAME: โยชิดะ มิโดริ (ญี่ปุ่น)
เมอร์ฟี่ แอนเดรีย (อเมริกา)
ชื่อในอดีตชาติและปัจจุบัน(ที่ไม่ได้ใช้)PAST NAME : ทากาสุงิ ชิโนบุ
NICKNAME: มิโดริ/เมอร์ฟี่/ชิโนบุ
อายุ: 13ปี(ภาคแรก-ภาคx)
36ปี(ภาคAce)
ฉายา เจ้าหญิงคางุยะแห่งบัดดี้โพลิส / ธิดาอสูรสีเงิน
นิสัย อ่อนโยน น่ารัก สุภาพเรียบร้อย แต่เยือกเย็น สุขุ่มและเงียบขรึม ฉลาดแกมโกง มุ่งมั่นในการทำงานสูง ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ปากไม่ตรงกับใจ(ในบางเรื่อง) ชอบทำอะไรเสี่ยงๆเช่นการเป็นสปายหรือเข้าเป็นสมาชิกในกลุ่มเพื่อสืบหาข้อมูลต่างๆและคอยจัดการด้วยตัวคนเดียว เป็นคนกลัวแมวที่สุด(ซึ่งอาการนี้เริ่มลดลงแล้วจ้า)จะเป็นคนที่ไม่ยุ่งหรือสนอะไรถ้าเจ้าตัวไม่ชอบ แต่ถ้าเกิดเหตุการ์ณสุวิสัยหรือเดือดจริงๆจะจ้องมองกับคนอื่นด้วยสายตาน่ากลัวแถมทำหน้านิ่งใส่หรือแผ่รังสีอัมหิตออกมาหรือจะก๊อกหัวสักนิดจนตัวที่โดนลุบดินแล้วและสลบไปเลย (ก็จะคล้ายๆอ.โยชิดะ โชโยในเรื่องกินทามะ ถ้าใครดูเรื่องนี้ก็น่าจะรู้)
เวิร์ล(ตั้งแต่ภาค100 - ภาคAce): แฟรี่ดราก้อนเวิร์ล
เวิร์ล(ที่เคยใช้มาก่อน): ดราก้อนเวิร์ล
แดนเจอร์เวิร์ล
แฟรี่ดราก้อนเวิร์ล (+ดาร์กเนส ดราก้อนเวิร์ล เผ่ามังกรแห่งแดนชำระ / มังกรทมิฬ)
[รูทLost Memories(Fic Buddyfight)]: คาตานะเวิร์ล
เด็ค*ೃ༄
ดราก้อนเวิร์ล: “กงล้อแห่งโชคชะตาที่เหล่ามังกรมา ณ สมรภูมิแห่งนี้...ลูมิไนส์ Dragon Knight of Heaven!”
“เกลียวคลื่นแห่งชะตาที่สวรรค์สรรสร้าง จงทำลายให้สิ้น ลูมิไนส์ Heaven Dragon Armor!”
แฟรี่ดราก้อนเวิร์ลภาค100: “มวลกองทัพสวรรค์ทั้งปวงที่กำเนิดขึ้น เพื่อกำจัดมลทินและพิทักษ์รักษา ลูมิไนส์ Wind Heavenly Dragon”
แฟรี่ดราก้อน+ดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ล ภาค100 (ต่อสู้กับทาสุคุ ช่วงการตื่นขึ้นสมบูรณ์ของยามิเกโด) :
“จักสบั้นโชคชะตา พิฆาตทุกสิ่งที่เน่าเฟะด้วยเงาทมิฬและเสียงแห่งสวรรค์ ลูมิไนท์ Death Angel of Heaven”
แฟรี่ดราก้อนเวิร์ลภาคDDD: “นี่คือวงยามแห่งสวรรค์และรัตติกาลหลอมรวมกัน ลูมิไนท์ Heaven and Deadth Dragon”
“มังกรผู้พิทักษ์ที่พิพากษาความเป็นและความตาย...บัดนี้ตื่นจากการนิทราแล้ว ลูมิไนท์ Awakened of Heaven and Hallow Dragon”
แฟรี่ดราก้อนเวิร์ลภาคX: “โชคชะตาแห่งสวรรค์และความตายของคุณ...ฉันคือผู้กำหนด ลูมิไนท์ Guidance of Heavenly Black Dragon”
แฟรี่ดราก้อนเวิร์ลภาคACE: “ประกายแสงโชคชะตาแห่งอนาคตที่ชี้นำเหล่าเทพมังกรแห่งสวรรค์ จงมารวมตัวกัน ลูมิไนส์ Future Heaven Dragoner”
คาตานะเวิร์ล[Fanfic] : “ราตรีที่จันทร์เต็มดวง ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ในวังวลของค่ำคืนนี้ตลอดกาล ลูมิไนส์ มนต์แห่งจันทราเดือนเพ็ญ”
“ภายใต้แสงจันทร์ที่ย้อมด้วยสีโลหิตทมิฬ ข้าจะช่วงชิงที่โชคชะตากำหนดจากเจ้า ลูมิไนท์ มนต์แห่งจันทราเดือนมืด”
.·:*¨ BUDDY MONSTER ¨*:·.
°.✩┈┈∘*┈˃̶୨ มังกรแสงเหมันต์แดนสวรรค์ ยูอิ ไนท์ดราก้อน ୧˂̶┈*∘┈┈✩.°
(ไซต์1 พลัง5000 ดีเฟ้นต์2000 2คริติคอล)
[เผ่าเทพมังกรสวรรค์/จักรพรรดิมังกรเหมันต์]
-เทพธิดาแห่งจันทรา ซึคุโยมิ(ขาว) / เทพธิดาแห่งจันทราทมิฬ คุโรอิซึกิ(ดำ)
(คาตานะเวิร์ล)[(Fic Buddyfight X)รูทLost Memories]
“เจ้าไม่รู้เสียแล้วนะว่าข้าหลงใหลในดวงจันทร์น่ะ หมายถึงสิ่งใดกัน!”
|| ਬੇ เพิ่มเติม ਓ ||
ชื่อของโยชิดะ มิโดริ
โยชิดะ คือนามสกุลในชาติใหม่และนามสกุลที่โยชิดะ โชโย ยกให้ใช้
มิโดริ มาจากสีของดวงตาของเธอสมัยเด็กเล็กเป็นสีเขียว แต่เพราะเกิดเหตุการ์ณสงครามวิบัติโยคทำให้ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินและผมเป็นสีฟ้าเงินนับแต่เกิดใหม่เช่นกัน
ชื่อของทากาสุงิ ชิโนบุ
ทากาสุงิ คือนามสกุลเดิมของเธอในชาติก่อน
ชิโนบุ ในความหมายสองอย่างคือ หนึ่ง.นินจาซึ่งคำว่าชิโนบุพ้องเสียงกับคำว่าชิโนบิ
สอง.ความอดทนหรือความคงทน ซึ่งแม่ของเธอในอดีตเป็นคนตั้งชื่อว่าชิโนบุเพราะคนในครอบครัวไม่รับลูกผู้หญิงที่จะเป็นคนสืบทอดตระกูลในยุคซามูไรและให้รู้ว่าตัวชิโนบุเองก็มีความเข็มแข็งและพละกำลังเทียบเท่าและมากกว่าชาย แม้เธอจะตัวเล็กและเป็นผู้หญิงก็ตาม
⋆ 。⋆୨୧˚_______________________˚୨୧⋆。˚ ⋆
-โยชิดะ มิโดริ เป็นเพื่อนสมัยเด็กของริวเอ็นจิ ทาสุคุและรู้จักกับกาโอตอนเด็กช่วงที่เธอพบกันที่รร.เซ็นโกคุกาคุเอ็น ช่วงที่พวกกาโอต้องการช่วยคิริในภาคแรก คนที่สนิทกับเธอมากที่สุดคือริวเอ็นจิ ทาสุคุและมิคาโดะ กาโอ ส่วนคนอื่นก็...ไม่(ชอบ)อ่ะ แต่ไม่ชอบคือไม่ได้ชอบทุกตัวนะ
-เพราะร่างกายของมิโดริเป็นผู้หญิงร่างเล็กและมีเลือดอมตะบริสุทธิ์อยู่ ทำให้ร่างกายดูบอบบางและตัวเล็ก ซึ่งส่วนสูงปัจจุบัน(รุ่นลูกกาโอ)อยู่ที่160ซม. จากเดิมตอนมัธยม144ซม.(โลลิมั้ยล่ะ)
-มิโดริกรุ๊ปเลือดB ที่เป็นคนเลือกกินแต่ไม่ชอบมากที่สุดคือกุยช่ายและผักชี ทำให้มักบอกว่าตัวเล็ก(เกือบ)ทุกคนหรือจนบางคนเรียก'มิจิบิ'(เราก็เป็นคนเลือกกินเหมือนกันเลย)
-มิโดริชอบกระต่ายอย่างมาก แต่กระต่ายกลับหนีหาย(ปัจจุบันกระต่ายผูดมิตรแล้ว)และกลัวแมว(ปัจจุบันไม่กลัวแล้ว)
-มิโดริไม่ชอบช็อคโกแลตที่ผสมแอลกอฮอล์ เพราะทำให้เมาและทำตัวเหมือนแมวตัวน้อยขี้อ้อน เมื่อไรก็ตามที่เกิดขึ้นเธอก็จะรู้สึกอับอายมากเมื่ออาการนั้นหายและยังจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่เมา
-มิโดริจะย้ายไปทำงานที่ญี่ปุ่นและอเมริกาพร้อมกันซึ่งน้อยครั้งมากที่จะได้เจอกันแต่ในภาคAceมิโดริจะอยู่ในญี่ปุ่นรวดและถ้าจบภารกิจจะกลับไปทำงานที่อเมริกาเหมือนเดิม แต่ถ้าที่ญี่ปุ่นมีปัญหามิโดริก็จะกลับมาที่ญี่ปุ่นทันทีและหลังจากจบงานก็จะอยู่ที่ญี่ปุ่น1เดือนและกลับอเมริกา(เหนื่อยแทนมิโดริ)แต่ส่วนมากงานก็จะด่วนและมี(ไร้)สาระบ้างเพราะคนที่ให้เธอมาที่ญี่ปุ่นไม่ใช่ใครนอกจากริวเอ็นจิ ทาสุคุคนเดียว
-อาชีพเบื้องหน้าของมิโดริคือการเป็นนักร้องนักแสดง บาริสต้าร้านกาแฟ แต่เบื้องหลังคือผู้บัญชาการบัดดี้โพลิสอเมริกาและรองผู้บัญชาการบัดดี้โพลิสญี่ปุ่น แถมยังเป็นลูกค้าVIPประจำร้านของร้านมิโคโนะด้วยและบางครั้งก็เป็นที่ปรึกษาของลูกและเด็กๆที่ขอคำปรึกษาได้และบางครั้งเธอก็จะช่วยทำของว่างและเครื่องดื่มให้กับร้านของมิโคโนะด้วย
-มิโดริมักจะมีสีหน้าหึงหวงแบบพยายามเก็บอาการไว้สุดๆ ยกตัวอย่างเช่นเมื่อมีสาวๆรุมล้อมหรือจีบ แม้กระทั่งช่วงข้ามเวลาไปอนาคตเพื่อช่วยแจ็คในการรักษาและช่วยเหลือ จนได้เจอลูกหลานของทาสุคุกับโซเฟีย กระทั่งหลังจากจบศึกยามิเกโดแล้วก็เลือกที่จะหลบหน้า ถึงอย่างนั้นก็กลับมาภายหลังจากคืนดีและกลับมาเรียนต่อชั้นมัธยมต้นปีที่หนึ่ง ช่วงภาคเรียนที่สอง(หรือภาคDDD)จนจบมัธยมปีที่หนึ่งและย้ายเรียนมัธยมปีที่สองที่อเมริกาพร้อมกาโอ
-บัดดี้สกิลจะมีสัญญาลักษณ์กงล้อสีม่วงที่เท้าทั้งสองข้างและมีละอองสีชมพูพาสเทลออกมา มือทั้งสองข้างมีปีกเล็กสีม่วงดำ
-ฟิวเจอร์ฟอส ดวงตากลายเป็นสีเขียวนิลทั้งสองข้าง ม่านตาจะไม่ประกายแต่เป็นแววตาไร้จิตใจ มืดหม่น ก่อนจะรู้ภายหลังว่าที่ดวงตาเป็นแบบนี้เพราะความโศกเศร้าและจิตวิญญาณอีกดวงที่ไม่ใช่มิโดริที่สิงอยู่ในตัวตั้งแต่เด็กและเป็นพลังดราก้อนฟอสในภาคDDD
- - - ♕ มิโดริกับร่างธิดาอสูรสีเงิน [อดีตชาติ] ♕ - - -
-OC อริจินอล มาจากเรื่องรับน้องกระต่ายซักแก้วมั้ยคะ หรือ Gochumonwa usaki desu ka? หรือสั้นๆว่า GochiUsa ภาษาอังกฤษ:Is the Order a Rabbit
⋆ 。⋆୨୧˚_______________________˚୨୧⋆。˚ ⋆
ความสามาถพิเศษด้านอื่นๆ☄. *.
-สามารถรู้ชนิดของกาแฟด้วยกลิ่นและรสชาติของกาแฟและเล่นซามิเซ็งได้ระดับหนึ่งและเล่นเปียโนได้เก่ง
-สามารถทำอาหาร ทำขนม ชงกาแฟและทำงานบ้านเก่งโดยเฉพาะงานเย็บปักถักร้อยและเธอสามารถทำพิซซ่าสูตรพิเศษในแบบของเธอและมันอร่อยมากๆด้วย(ความจริงแล้วตัวมิโดริดัดแปลงสูตรพิซซ่าของบ้านกาโอเป็นสูตรของตัวเองแหละจ้า)
⋆ 。⋆୨୧˚_______________________˚୨୧⋆。˚ ⋆
การศึกษา: รร.เซ็นโกคุกาคุเอ็น (ภาคแรกช่วงก่อนในศึกระหว่างรร.เซ็นโกคุกาคุเอ็นปะทะไอโบฯ)
รร.ไอโบกาคุเอ็น (ภาคแรกในการแข่งกาเอ็นคัพและภาคDDD-จบม.1)
รร.ในประเทศอเมริกา สาขาบัดดี้ไฟท์ (ม.2-ม.6)
รร.เดิมของทาสุคุอีกด้วย (เข้าในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนได้ไม่นาน)
⋆ 。⋆୨୧˚_______________________˚୨୧⋆。˚ ⋆
°.✩┈┈∘*┈˃̶୨เด็ค(ภาคACE)୧˂̶┈*∘┈┈✩.°
☾Future Heaven's Dragon❆
(บัดดี้) เทพมังกรแห่งสรวงสวรรค์ ยูอิไนท์ ดราก้อน[พลัง6000 ดีเฟ้นส์3000 คริติคอล2 ไซต์1][เผ่ามังกรสวรรค์,มังกรดำ,มังกรขาว]
สกิล:[Overture] ร่างพัฒนาเทพมังกรแห่งสรวงสวรรค์ ยูอิไนท์ ดราก้อน:Silver dragoner ยูอิ ไซต์2 พลัง7000 ดีเฟ้นต์3000 2คริติคอล(ร่างและปีกของยูอิจะเป็นสีเงิน ชุดสีฟ้าอ่อน)
:[Call Cost][จ่าย1เกจและนำการ์ดจากดรอปโซล1ใบเข้าโซล]เมื่อการ์ดใบนี้คอลลงมาทื้งการ์ด1ใบจากมือเพื่อทำลายการ์ดมอสเตอร์ทั้งหมดและทำลายเด็คอีกฝ่ายเท่าไซต์ของมอสเตอร์ของอีกฝ่ายและเราได้พลังชีวิตตามไซต์ของมอสเตอร์ที่ส่งดรอปโซน การ์ดใบนี้มีสกิล[Move][Double Attack]และ[Soulguard]
เทพมังกรสรวงสวรรค์สายฟ้าแห่งการพิพากษายูอิไนท์ ดราก้อน [เผ่ามังกรสวรรค์,มังกรดำ,จักรพรรดิสายฟ้า]
[จ่าย2เกจและนำการ์ดจากดรอปโซน1ใบเข้าโซล] การ์ดใบนี้ไม่สามารถทำลายได้จากสกิลการ์ดทั้งหมดของฝ่ายตรงข้ามและไม่สามารถรับสกิล[Rest]จากฝ่ายตรงข้าม
[Overthrow][Call Cost:จ่าย2เกจ]
[Move] [Triple Attack] [Soulguard]
-บัดดี้ของมิโดริมีนิสัยจิตใจที่สงบ สุภาพซื่อสัตย์โดยธรรมชาติแต่มีความเป็นห่วงบัดดี้ที่ผสมผสานกับรอยยิ้มอันนุ่มนวล ถึงแม้ว่าพฤติกรรมที่ดูเรียบนิ่งและสง่างาม แต่ถ้าให้โกรธจริงๆจะดูน่าเกรงขามและเยือกเย็นมาก
ประวัติแบบยำเมนูอะไรไม่รู้...(เรียงจากภาคแรกถึงปัจจุบันและช่วงหลังx all star)
คืนแห่งรัตติกาล ดวงจันทร์สีชาดที่ลอยบนฟากฟ้าราตรีคือการปรากฏตัวของ...
'ธิดาอสูรสีเงิน'
[Daughter of the Silver Demon]
'เจ้าหญิงคางุยะแห่งบัดดี้โพลิส'
[Princess Kaguya of Buddypolice]
นั่นคือฉายาของเธอ
โยชิดะ มิโดริ หรือ ทากาสุงิ ชิโนบุ
คนในหมู่บ้านเล่าขานว่าเธอคือเจ้าหญิงคางุยะที่เกิดมาจากดวงจันทร์ แต่ความจริงแล้วเธอคือมนุษย์ธรรมดา
ที่มีสายเลือดอัลทาน่า...เลือดของมนุษย์อมตะ
สายลมแห่งโชคชะตาของเธอ ทำให้ชีวิตจากเด็กกำพร้าและเด็กธรรมดาของเธอให้มีความสุขยิ่งขึ้น
แต่ตัวตนอีกด้านหนึ่งของเธอ ทำให้เลือกที่จะเป็นอีกตัวตนที่เธอไม่อยากให้เป็น
แม้เวลาจะผ่านไปแค่ไหน เธอก็เลือกเส้นทางสำหรับเธอ...มาจนถึงตอนนี้ที่เธอมีความสุขมากเท่าที่คิด
และเพราะโชคชะตาที่กระมังที่ทำให้เจอกับเขา และชายคนนั้น...ที่ทำให้มีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้
เหล่ามอสเตอร์ในร่างเด็กชายเด็กสาวตัวน้อย แม้กระทั่งอาจารย์และเหล่ามอสเตอร์ในโลกดันเจี้ยนเวิร์ลต่างพากันนั่งรอบร่างของชายหนุ่มผมฟ้าที่ปกปิดดวงตาสีม่วงของเขา สวมหมวกกะลาสีขาว ชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นสีดำ เฮียวริว คิริหรือราชันวารี(สามเขา)แห่งการพิพากษา มิเซเรีย (//ที่วงแลปไว้คือตอนภาคภาค100เป็นราชันเขาแล้วตอนล่าสุดเป็นตอนDDD) และบัดดี้ของเขา ไอซ์เบรด โจ็กเกอร์ที่กำลังเล่าการมุก(เป๊ก)อยู่ และที่คราวนี้ที่ทุกคนมารวมกันอยู่ที่นี่นั่นเพราะว่าคิริหรือมิเซเรียนั้นจะเล่าเรื่องราวในอดีตของเขาที่ร่วมอาศัยกับร่วมมนุษย์ มือบางของเขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งที่ครั้งอดีตได้จากมนุษย์หญิงคนหนึ่งที่เธอช่วยเขาไว้และได้จดบันทึกเรื่องราวต่างๆ และอ่านไปจนกระทั่งเด็กผู้หญิงคนหนึ่งช่วยผมไว้ แม้เธอจะตัวเล็กกว่าผมเพราะอายุยังน้อย แต่ผมประทับใจในความกล้าหาญของเธอ นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอชวนผมเป็นเพื่อนและเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าผมจะทดแทนบุญคุณที่ช่วยผมไว้แต่วันนั้นครับ"
"ขอโทษนะครับ แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นเธอเป็นใครงั้นเหรอครับ"
"เรื่องนั้นฉันคงต้องเก็บเป็นความลับล่ะนะ"
"ฟรีส!แต่ฉันรู้นะว่าเป็นใครน่ะ? คนนั้นน่ะ....เป็นคนญี่ปุ่นไงล่ะ" ทุกคนที่ได้ยินมุก(ฟืด)ของโจ็กเกอร์บ้างก็สตั้นหงายหลังไม่ก็รู้สึกปวดหัวบ้าง
"โจ๊กเกอร์!...ถ้ายังงั้นผมจะเล่าต่อนะครับ เรื่องราวของเด็กวัยเยาว์ทั้งสามคน 'กลุ่มวีรบุรุษวัยเยาว์รุ่นสุดท้าย' ครับ"
คุณรู้จักชื่อสามฉายาเหล่านี้หรือไม่
'ลูกพี่จ้าวสุริยัน'
'เจ้าชายแห่งบัดดี้โพลิส'
'เจ้าหญิงคางุยะแห่งบัดดี้โพลิส'
แต่พวกคุณรู้หรือไม่?ว่าก่อนที่จะรู้จักพวกเขานั้น ในอดีตชาติที่แล้วพวกเขาไม่ได้เป็นมนุษย์มาก่อนเหมือนในตอนนี้
ช่วงเวลาปลายยุคเอโดะ หรือ บากุมัตสึ
ช่วงสงครามต่างแดน ผู้เหลือรอดช่วงซามูไรกลุ่มสุดท้ายเช่นกัน
"สงครามครั้งนั้นมันยาวนานมาก ใช่ไหมครับรุ่นพี่"
"พวกเราได้ใช้ดาบเหล่านี้กวัดแกว่งตามปราณและจิตใจเข้าฟาดฟันมากมายนับไม่ท้วน และถูกขนานนามว่าเป็น'วีรบุรุษวัยเยาว์'"
"แต่อย่างไรเสีย...พวกเรา...ก็ไม่ถูกเล่าขานเรื่องเล่า เจ้าพวกนั้นคงแลพวกเราเป็นเด็กหรือไม่ก็...
'ปีศาจในร่างมนุษย์แห่งโลกสงครามขับไล่ต่างแดน' "
ทุกสรรพสิ่งนั้นล้วนที่จะเลือกเกิดตามที่ต้องการไม่ได้ หรืออาจเป็นเพราะโชคชะตาที่กลั่นแกล้งให้มารับอย่างไม่เต็มใจก็ได้
แน่นอนว่าการเลือกใช้ชีวิตนั้นก็ลิขิตไม่ได้เหมือนกัน
สงคราม...มันคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเกิดได้หลายยุคสมัย
พวกเขาทั้งสามเกิดมาเพื่อสู้ร่วมกัน เมื่อชนะก็ฉลองด้วยกันและบางครั้งก็เสียใจด้วยกัน แต่ท้ายที่สุดทั้งสามตายจากในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายและไม่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ (เรื่องราวนอกจากนั้นก็ไม่ทำนะเพราะมันยาว)
แม้โชคชะตาจะพบพวกเขาให้เกิดเรื่องนี้ กาลเวลายังพาทั้งสามกลับมาอีกครั้ง
ก่อนSS.1
สงครามวิบัติโยค...ความทรงจำตั้งแต่วัยเยาว์ของโยชิดะ มิโดริที่มิอาจลืมได้นับตั้งแต่วัยเก้าขวบจวบจนถึงอายุสิบสาม มันแสนเจ็บปวดอย่างยิ่งสำหรับเด็กน้อย ถึงอย่างนั้นก็มีอีกหนึ่งคนที่รอดมาได้...เด็กชายวัยเดียวกันกับเธอ ริวเอ็นจิ ทาสุคุ...
SS.1
มิโดริ ปรากฎตัวครั้งแรกสุดช่วงบริษัทกาเอ็นเปิดตัวการ์ดแรร์บัดดี้ไฟท์ ซึ่งก่อนหน้านั้นข่าวการแข่งของมิคาโดะ กาโอและริวเอ็นจิ ทาสุคุที่ไอโบกาคุเอ็นครั้งนั้น มิโดริเกิดความสนใจเป็นอย่างมากจนบัดดี้โพลิสอเมริกาสาขาลอสแอนเจอลิสที่เธออยู่กับบัดดี้โพลิสญี่ปุ่นสาขาโจโตเกียวที่ทาสุคุอยู่ ส่งตัวเธอกลับมาประเทศญี่ปุ่นดั่งเดิม เพื่อทำงานให้กับบัดดี้โพลิสในประเทศญี่ปุ่นที่ทาสุคุอยู่ด้วยและเข้าโรงเรียนเดียวกัน แต่คนละห้องเรียน แม้ครั้งนั้นจะไม่ได้บอกเขาก็ตาม
กระทั่งงานหนึ่ง เธอเป็นตัวแทนบัดดี้โพลิส สาขาลอสแอนเจอลิส ประเทศอเมริกา ในการเข้าร่วมงานเช่นเดียวกันกับบัดดี้โพลิสญี่ปุ่นและบัดดี้ไฟท์เตอร์ในการแข่งขันไอโบกาคุเอ็นคัพครั้งนี้ด้วย จนได้เจอกับคุณทาคิฮาระและสเตล่าในงานพร้อมได้รู้ว่า'แจ็ค'บัดดี้มอสเตอร์เพียงตนเดียวและครอบครัวคนสำคัญถูกผนึกไว้ เธอแอบขโมยคอร์ดเด็คแคสของทาสุคุที่ถูกเก็บผนึกไว้และคืนให้ทาสุคุด้วยการโยนเพื่อช่วยทำลายน้ำแข็งยักษ์จากพลังของอาซีดาฮากาสำเร็จ
หลังจากนั้นมิโดริย้ายเข้าไปที่โรงเรียนเซนโกคุกาคุเอ็นด้วยจุดประสงค์ที่สืบเรื่องดิซัสเตอร์ฟอส พลังปริศนาและการปรากฎตัวของอารากามิ โรกะ แม้ครั้งนั้นจะสู้บัดดี้ไฟท์กับผู้รักษาการทางเข้าออก รวมทั้งขุนพลสี่จตุรเทพของเซนโกคุกาคุเอ็น จนได้รับเป็นหนึ่งกลุ่มนั้นและตำแหน่งรองประธานสภานักเรียน(ในขณะนั้น) จนกระทั่งวันหนึ่งก็ได้พาเฮียวริว คิริมาที่เซนโกคุกาคุเอ็นจนทำให้ทุกคนตกใจและสงสัยไม่มากก็น้อย สำหรับตนแล้วถือว่าเป็นเรื่องตกใจเล็กน้อยและสงสัยซะมากกว่า โดยโรกะให้เหตุผลว่าจะให้คิริแข็งแกร่งขึ้น วันรุ่งขึ้ันพวกกาโอมาที่เซนโกคุกาคุเอ็นเพื่อรับคิริกลับ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเอาชนะสี่ขุนพลจตุรเทพรวมทั้งโรกะและมิโดริซะก่อน การแข่งขันครั้งนั้นเธอเอาชนะฟุจิมิยะ คาซะเนะได้ แต่แพ้กับมิคาโดะ กาโอ และเจอกับทาสุคุอีกครั้งในช่วงที่คิริซาเมะ โจเซ็ดสึคลุมคลั่งจากพลังดิซัสเตอร์ฟอส ซึ่งการแข่งขันครั้งนั้นไอโบกาคุเอ็นเป็นฝ่ายชนะ รวมทั้งอารากามิ โรกะและมิโดริหายไปจากเซนโกคุกาคุเอ็นในเวลาห่างกันเพียงหนึ่งเดือน โดยเธอให้เหตุผลว่า 'เธอเป็นบัดดี้โพลิสรุ่นเยาว์เหมือนกับทาสุคุ' ทำให้ทั้งสี่ขุนพลจตุรเทพตกใจไม่น้อยไม่มาก จนได้รับรู้จริงๆว่ามิโดริคือบัดดี้โพลิสวัยเยาว์และพร้อมสนับสนุนเธอต่อหากมีคำปรึกษาหรือช่วยเหลือได้
ก่อนการแข่งกาเอ็นคัพ เธอได้รู้ความจริงที่ได้สืบว่าโรกะเป็นหนึ่งในดิซัสเตอร์และรวมทั้งคิริในร่างยมทูตล่าการ์ดบัดดี้มอสเตอร์ กลุ่มเดียวกับพวกของกาเอ็น เคียวยะ ดาร์กคอลเด็คเคสและดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ล เวิร์ลปริศนาของกลุ่มดิซัสเตอร์...รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงแห่งหายนะที่ผู้บัญชาการและรองคนใหม่ผู้เป็นสปายของเคียวยะที่ส่งเข้ามา โดยนี่เป็นแผนร้ายของเคียวยะ เพื่อล้อตัวทาสุคุ กาโอและมิโดริ แน่นอนว่าทั้งสามติดกับ...และชิงตัวทาสุคุได้สำเร็จ ถึงอย่างนั้นก็ได้ตัวคิริกลับมาเป็นปกติและสืบสวนสอบสวนต่อไป ทางฝั่งของมิโดริ ตัดสินใจช่วยเหลือทาคิฮาระ สเตร่าและคอมมันเดอร์ ไอ ในการชิงบัดดี้โพลิสกลับมา ทั้งคัดลอกข้อมูลลับๆ ช่วยแผนการของทั้งสามในการชิงข้อมูล และต่อสู้กับชิโด มาโกโรคุจนสำเร็จ ทำให้เธอถูกยอมรับจากหัวหน้าบัดดี้โพลิส ทาคิฮาระและสเตล่าด้วยความยินดีและดีใจ รวมถึงตัดสินใจในการแข่งขันกาเอ็นคัพ
ช่วงการแข่งขันกาเอ็นคัพ มิโดริแฝงตัวในชื่อ'ธิดาอสูรสีเงิน'ซึ่งเป็นอีกนามในการแข่ง เธอขอร้องให้ทั้งสี่ขุนพลของเซนโกคุกาคุเอ็นและทีมDestiny(โชคชะตา)ซึ่งมีคาซาเนะ โนโบรุและมากัตสึ จินในการช่วยเหลือด้วย และพวกเขารวมทั้งคิริกับแจ็คขอร้องพรรคพวกทีมของกาโอให้มิโดริลงแข่งด้วย ถึงอย่างนั้นการเจรจาครั้งแรกจะถูกปฎิเสธ แต่ก็ได้คุโรทาเคะ เท็ตสึยะช่วยเกลี่ยกล่อมด้วยการแข่งบัดดี้ไฟท์ให้สงบอารมณ์...แท้จะแพ้ช่วงแรก แต่ก็ปลุกใจและให้มิโดริลงแข่งในการต่อสู้ที่สามต่อจากคิซารากิ ซันยะที่เอาชนะชิโด มาโกโรคุได้ในการต่อสู้ครั้งที่สอง
การแข่งรอบสุดท้ายของการแข่งกาเอ็นคัพ มิโดริต้องสู้กับทาสุคุ ในครั้งนั้นเธอปลดปล่อยพลังFuture Foreและปรับความเข้าใจกัน รวมถึงความจริงทุกอย่างผ่านทั้งสองคน จนทำให้กาโอเข้ามาขัดจังหวะและพูดคุยด้วย กระทั่งเคียวยะใช้พลังของอาซีดาฮากาเปิดเกจให้มอสเตอร์มังกรจากดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ลเข้ามา มิโดริที่สัมผัสและเห็นฟิวเจอร์ฟอสของกาโอเหมือนกับทาสุคุ ทั้งกาโอและเธอรวมมือกันช่วยเหลือจนส่งมอสเตอร์จากดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ลกลับไปได้สำเร็จ และหลังจากจัดการสำเร็จ ทางบัดดี้โพลิสก็อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมาจากกาเอ็น เคียวยะทั้งหมด แต่มันกลับพลิกผลันโดยเคียวยะโกหกภายในงานนั้นว่าเขาจะช่วยโลกจากดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ล คำประกาศนั้นทำให้ทุกคนเชื่อ มิโดริและกาโอที่ทำอะไรไม่ได้เหมือนกับพวกบัดดี้โพลิส จึงงตัดสินใจแข่งขันต่อ แน่นอนว่าเธอเรียกแจ็คในการแข่งขันนี้ด้วย ทั้งคู่ต้องสู้เอาชนะทาสุคุในร่างอัศวินทมิฬและเดมิออสซอร์ด ดราก้อนมาได้ และนั่นก็สามารถปกป้องทั้งทาสุคุกับแจ็ค รวมถึงทำลายดาร์กคอลเด็คแคสได้ด้วย
ระยะการรักษาตัวของทาสุคุตั้งแต่ต้น มิโดริต้องแอบเข้าไปอย่างเงียบๆเพื่อไม่ให้ทั้งทางบัดดี้ทาสุคุ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของแจ็คและยูอิอยู่ดี ทุกครั้งที่ทาสุคุยังหลับจากการใช้พลังดิชัสเตอร์ฟอส เธอก็แอบมาเยี่ยมโดยนำช่อดอกไม้สวยๆและกลิ่นหอมมาให้ คอยดูแลต่างๆนานา แม้จะไม่มากไม่น้อยเพราะต้องไปทำงานบัดดี้โพลิสแทนทาสุคุ กระทั่งเขาฟื้นตัวขึ้นมาหลังจากอาการหายดีแล้ว ความเศร้าและละอายใจกลับตกอยู่ที่เขา ทั้งเรื่องบัดดี้โพลิสที่ออกมาแล้วมาอยู่กลุ่มดิซัสเตอร์ด้วยร่างอัศวินทมิฬ รวมทั้งอยู่ห่างจากแจ็ค ยูอิและมิโดริด้วยที่อยากทำลายความอ่อนแอและเข็มแข็ง แจ็คยูอิกับมิโดริคุยถึงความจริงและปรับความเข้าใจ ทาสุคุที่รับฟังเข้าใจจนร้องไห้น้ำตาไหลออกมาพร้อมกอดมิโดริที่น้ำตาไหลเช่นกัน หลังจากปรับทุกข์ปรับสุขดีแล้ว ทาสุคุกับแจ็คก็คิดจะเล่าเรื่องของการต่อสู้ของเขากับเคียวยะ แต่มิโดริห้ามไว้ก่อนและตัดสินใจเป็นฝ่ายไปหากาโอที่บ้านมิคาโดะแทน เพื่อเป็นการขอบคุณเรื่องต่างๆ ทั้งการเจอครั้งแรกของกาโอที่เปลี่ยนแปลงทั้งคู่ การเจอกันในเซนโกคุกาคุเอ็นที่สู้กับกาโอ ทำให้เธอสนุกกับบัดดี้ไฟท์ ช่วยให้เธอและแจ็คเข้าร่วมกาเอ็นคัพเพื่อช่วยทาสุคุในร่างอัศวินทมิฬกลับมาเหมือนเดิมและปรับความเข้าใจทุกอย่าง และอีกประสงค์หนึ่งคือต้องการพูดคุยเรื่องการต่อสู้ของกาโอและเคียวยะ ที่จะบอกข้อมูลเรื่องการ์ดต่างๆของดราก้อนอาร์ย
กระทั่งการต่อสู้ของกาโอและเคียวยะ มิโดริและทาสุคุตัดสินใจร่วมกันทำลายศูนย์วิจัยของคาบาระ เอลฟ์ เพื่อหยุดแผนการของเคียวยะ ทว่ากลับเจอกับชิโด มาโกโรคุกับยามาซากิ ดาบิเดะที่เข้ามาขัดขวาง ตอนนั้นเองที่อารากามิ โรกะและคิริเข้ามาช่วยด้วย โรกะในร่างวูลฟ์ใช้ดิซัสเตอร์ฟอส รวมทั้งทาสุคุและมิโดริใช้ฟิวเจอร์ฟอสทำลายเครื่องพลังงานดิซัสเตอร์ฟอสจนสำเร็จ พร้อมกับที่กาโอใช้พลังฟิวเจอร์ฟอสเอาชนะเคียวยะได้สำเร็จ ภายหลังการต่อสู้ทาสุคุ มิโดริ และกาโอมุ่งหน้าไปฝึกฝนที่ดราก้อนเวิร์ลเพื่อพัฒนาฝีมือ
SS.2
ระยะเวลาหนึ่งเดือนที่รุ่นพี่ทั้งสองของกาโออย่างทาสุคุและมิโดริฝึกฝนที่ดราก้อนเวิร์ลตามมังกรไดนามิสให้บททดสอบทำลายความอ่อนแอหรือความเกลียดชังอีกด้านไว้ อีกด้านหนึ่ง...กาโอที่ได้รับเจตนารมณ์จึงเข้าเป็นบัดดี้โพลิสฝึกหัดและมาพบทั้งคู่อีกครั้งที่ทาสุคุและมิโดริได้รับเด็คและเวิร์ลใหม่อย่างสตาร์ดราก้อนเวิร์ลและแฟรี่ดราก้อนเวิร์ลและต่อสู้กับมอสเตอร์ร้อยอสูรตนหนึ่งจนชนะมาได้ แต่ก่อนหน้านั้นประมาณอีกหนึ่งถึงสองสัปดาห์ ก่อนจะกลับโลกอีกครั้งเพื่อรวมกันกับพวกกาโอต่อสู้กับอิคาซุจิยามิเกโดก็ต้องพักฟื้นตัวหลังจากใช้เวลานาน(ที่ไม่ใช้เรื่อง18+หรอกเจ้าพวกบ้า...แต่ในอีกฟิคต้นฉบับไม่แน่)
หลังจากนั้นเมื่อทาสุคุและมิโดริกลับมาที่โลกและต่อสู้กับยามิเกโด ทว่าระหว่างการแข่ง คอร์ดเด็คแคสกลับถูกเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้และต้องรับมาซ่อมแซมต่อ ทั้งคู่ได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มบัดดี้โพลิสเยาวชนและนั่นทำให้มิโดริกลับมาใช้ฉายา 'เจ้าหญิงคางุยะแห่งบัดดี้โพลิส'อีกครั้ง กระทั่งอิคาซุจิกลับมาและท้ากาโออีกครั้ง...ทว่าการแข่งขันครั้งนั้นกาโอกลับแพ้และสูญเสียราชันเขาเท็นบุไป แต่ถึงอย่างนั้นดรัมได้รับตำแหน่งราชันห้าเขาแทน ระหว่างทางฝั่งกาโอที่ตัดสินใจต่อสู้กับอิคาซึจิอีกครั้ง ทาสุคุและมิโดริตัดสินใจไปเยี่ยมรุ่นน้องด้วยความเป็นห่วง จนพูดคุยปรึกษาไปเรื่อยๆจนกาโอตัดสินใจสู้พร้อมดรัมอีกครั้งด้วยเด็คฮีโร่เวิร์ล ทั้งคู่ที่ได้ยินก็ดีใจเล็กน้อย ถึงแม้จะรู้สึกไม่ดีบ้างที่ตัดสินใจใช้ 'ฮีโร่เวิร์ล' แทนดราก้อนเวิร์ล ทาสุคุจึงคิดว่าผลกระทบที่ราชันมังกรห้าเขา เท็นบุถูกยามิเกโดกินเพื่อเป็นพลังอาจทำให้เสียใจเป็นอย่างมาก
ครั้งแรกที่ต้องไปโลกอนาคต ตอนนั้นเองที่ได้เจอกับเด็กกลุ่มหนึ่ง(ซึ่งน่าจะรู้ดีว่าเป็นลูกใคร) แน่นอนว่าทั้งเธอและทาสุคุกระจายอยู่คนละทิศทาง แม้ที่แปลกคือเธออยู่กับอดีตรองประธานและศัตรูอย่างโซเฟีย ซาฮาลอฟอยู่ด้วย ได้มีมอนสเตอร์ของดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ลเข้ามาโจมตีและอาวุธของเธอที่ตั้งท่าโจมตี ทว่าตอนนั้นเองที่มีมังกรทมิฬเข้ามาป้องกันการโจมตีด้วยวายุสีม่วงเสียก่อน...มังกรตัวนั้นมองมาที่มิโดริเพียงดวงตาข้างเดียวอย่างน่าประหลาด พร้อมกับร่างกายขยับโจมตีอีกครั้ง...ถึงอย่างนั้นเกิดเสียท่า! มังกรทมิฬถูกกราโทสจัดการทีเผลอและมิโดริถูกลักพาตัวไป ก็เป็นน่าที่ของพวกทาสุคุที่ต้องจัดการและช่วยได้สำเร็จ ทว่าก่อนกลับมิติเวลาเดิม สภาพจิตใจบางอย่างด่ำดิ่งอย่างน่าประหลาด ทำให้ช่วงกลับมาต้องแยกทางกันพร้อมกับการ์ดมอนสเตอร์ใบนั้น ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นตัวเธอถูกควบคุมและใช้พลังของเธอในการปลุกราชันต์เขาตนหนึ่งบนหุบเขา ทำให้สภาพร่างกายแย่ลงและถูกกลับมาโดยโซเฟียกับชิโดที่โรงเรียนไอโบกาคุเอ็น...และคืนนั้นที่ทั้งคู่แยกกันไปทำธุระข้างนอก ร่างของมิโดริได้หายไปจากคืนนั้น พร้อมกับการปรากฏตัวอีกครั้งและต่อสู้กับทาสุคุในเด็คแฟรี่ดราก้อนเวิร์ลที่มีการ์ดของดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ลกลางหุบเขาหนึ่งที่ยามิเกโดอยู่ ทว่าเกิดการสั่นสะเทือนและหินถล่มทำให้ไม่รู้ถึงการแพ้ชนะของทั้งคู่ รวมถึงข่าวคราวเรื่องที่มิโดริหายตัวไปหลังจากการคืนชีพสมบูรณ์ของยามิเกโดและคนที่ถูกควบคุมกลายเป็นศัตรูของพวกเขา จนถึงความคิดหนึ่งที่ว่าการที่มิโดริขัดขวางพวกทาสุคุนั้นอาจเป็นศัตรูไปเสียแล้ว...หารู้ไหมว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด!
มิโดริปรากฎตัวอีกครั้งในท้องของยามิเกโด ที่มีพวกของทาสุคุและกลุ่มศัตรูที่เรียกว่า 'ผู้ครองราชันต์เขาด้านมืด' ที่เธอมาพร้อมกับมอนสเตอร์จากแฟรี่ดราก้อนเวิร์ลและดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ล พร้อมกับโจมตีพวกของทาสุคุและกลุ่มผู้ครองยามิเกโดด้านมืด ทำให้คิดว่าเธอตั้งใจจะทำร้ายทุกคนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายดีหรือร้าย แม้ครั้งแรกทาสุคุและกาโอคิดว่าเธอถูกควบคุมเหมือนกับคนอื่น แต่ทั้งคู่บอกว่านั่นคือมิโดริแค่ภายนอก แต่ความจริงนั้นคือกำลังถูกบางอย่างสิงอยู่ ทำให้คลั่ง...ถึงอย่างนั้นก็สั่งมอนสเตอร์เปิดเกจให้พวกทาสุคุออกไป สร้างความสงสัยกับพวกเขาและจากไปพร้อมกับเธอที่หายไปจากท้องของยามิเกโด ต่อจากนั้นปรากฏอีกครั้งที่คราวนี้คือมิโดริตัวจริงและจิตวิญญาณจริงตามคำบอกของทาสุคุและกาโอ ทำให้ร่วมกลับมาสู้กับพวกทาสุคุและจัดการพวกราชันต์เขาด้านมืด พร้อมกับการอยู่กับทีมอย่างทาสุคุอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และการต่อสู้กับโซเฟียที่ให้กำลังใจและเชื่อใจในตัวเขาและแจ็ค ทำให้ชนะมาได้ ทว่าการต่อสู้ของราชันต์สามเขา...เธอกลับหายไปพร้อมกับราชันต์หกเขา ซึ่งภายหลังนั้นทำให้รู้ว่ามิโดริรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับแผนอีกอย่างที่เชื่อมกับ 'กาเอ็น เคียวยะ' ไปด้วยและบอกให้ทุกคนรับรู้
ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับยามิเกโอ ร่างสุดท้าย ทั้งกาโอที่ต้องต่อสู้ ทาสุคุและมิโดริต้องตามไปที่อนาคต และเป็นกาโอที่เป็นฝ่ายชนะไป โลกในอนาคตก็กลับมาสงบสุขและปกติดั่งเดิม พร้อมกลับมาสู่โลกปัจจุบันเช่นเดิม ส่วนมิโดริทำการฝึกฝนตนเองตามลำพังและไม่มีข่าวคราว รวมถึงกับมาที่บัดดี้โพลิสทั้งญี่ปุ่นและอเมริกาเลย ทาสุคุก็กลับไปเป็นบัดดี้โพลิสอีกครั้ง และไม่นานบัดดี้ของทาสุคุกับมิโดริพัฒนาร่างใหม่ไปอีกขั้น
SS.3
ก่อนการแข่งขันWBC Cup รอบคัดเลือก มิโดริกลับมาพร้อมฉายาธิดาอสูรสีเงินในโรงเรียนไอโบกาคุเอ็น ในแผนกมัธยมตอนต้น และบัดดี้อย่างยูอิ ไนฟ์ ดราก้อนที่พัฒนาร่างใหม่และมอนสเตอร์ใบใหม่ที่มีดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ลด้วย ทว่าบัดดี้ของเธอได้พบกับมังกรสุริยัน บัลดราก้อนที่บอกว่าตัดขาดการเป็นบัดดี้อย่างกาโอเพราะเรื่องของกิน แม้สุดท้ายกาโอและบาลปรับความเข้าใจก็ถามเธอเกี่ยวกับเรื่องที่เธอขโมยการ์ดและท้าแข่งมิโดริก็ได้ใช้มอสเตอร์ไม้ตายจนชนะ การแข่งWBC Cup เธอได้เป็นตัวแทนญี่ปุ่นในการแข่งระดับโลก ซึ่งรอบแรกเธอก็ตกรอบไปหลังจากนั้นเธอก็ได้ดราก้อนฟอส การแข่งขันWBC Cupผ่านไปก็มีเรื่องมากมายเช่นบาลเป็นบาลโซเลย์ และแผนการของเคียวยะในโปรเจคทริปเปอร์ดี ซึ่งการแข่งของกาโอและเคียวยะเสมอกัน หลังจากนั้นพวกเขาก็กลับมาที่ญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาฝีมือ จนอยู่วันหนึ่งที่ทาสุคุและมิโดริต้องต่อสู้กันเพราะทาสุคุต้องการไม่ให้เธอเกี่ยวข้องกับแผนของเคียวยะ ท้ายสุดแล้วมิโดริเป็นฝ่ายชนะและบอกความจริงของดราก้อนฟอส จังหวะนั้นด็อกเตอร์การะเข้ามาซะก่อน ทำให้ทาสุคุสู้กับด็อกเตอร์การะ ส่วนมิโดริสู้กับเจ เจเนซิส ซึ่งทำให้ดราก้อนฟอสทั้งคู่พัฒนาก่อน ที่ภายหลังกาโอจะพัฒนาดราก้อนฟอสตาม ทางด้านทาสุคุและมิโดริสู้กับเคียวยะอย่างเต็มกำลัง แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็แพ้และช่วยฝึกซ้อมรุ่นน้องอย่างกาโอ
เมื่อพวกกาโอกลับมาอเมริกาเพื่อแข่งกับเคียวยะ ในระหว่างแข่งที่เคียวยะใช้dragon drei ทาสุคุและมิโดริใช้พลังดราก้อนฟอสหยุดพลังของdragon drei แน่นอนว่ากาแข่งนี้กาโอชนะและหยุดแผนการเคียวยะได้ มิโดริและทาสุคุแสดงความยินดีและโดยทั้งคู่ก็... (ตัดจบไปซีซั่น4เลย ก่อนจะมคำว่าเรทในหัว)
SS.4
การแข่งเวิร์ลบัดดี้มาสเตอร์ มิโดริได้รับคัดเลือกในการแข่งขันตัวแทนแฟรี่ดราก้อนเวิร์ล [ช่วงนั้นแฟรี่ดราก้อนเวิร์ลกับดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ล ได้อนุมัติสามารถให้ตัวแทนบัดดี้ไฟท์เตอร์แฟรี่ดราก้อนเวิร์ลงแทนบัดดี้ไฟท์เตอร์ดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ลได้ เนื่องจากเวิร์ลนี้มีมอสเตอร์เผ่ามังกรทมิฬของดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ลอาศัยร่วมและเวิร์ลนี้ใช้การ์ดได้ทั้งแฟรี่และดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ลได้] และตัวเธอกลับมาเป็นบัดดี้โพลิสเหมือนเดิมพร้อมกับยูอิในร่างใหม่(อีกแล้ว) เป้าหมายของเธอคือเพื่อให้ทาสุคุมีความยินดีที่เธอชนะเลิศและทำให้รู้ว่าเธอนั้นแข็งแกร่งเท่ากับเขา ในการแข่งขันเธอชนะไคโด ไดได้ แต่รอบสุดท้ายกลับแพ้ให้โอโซระคานาตะ(เราไม่ถูกใจสิ่งนี้) แม้เธอจะเป็นแชมป์ไม่ได้ แต่เธอก็ได้กำลังใจจากทาสุคุกับรุ่นน้องอีกคนอย่างเทโตะ คู พร้อมทำหน้าที่บัดดี้โพลิสเหมือนเดิม ทว่าต้องต่อสู้กับพวกศัตรูหน้าใหม่อย่างวิชด้อมและเคออส ทรี ในการพัฒนาโลกที่ยุ่งเยิงและมอนสเตอร์ที่ไม่ดี
ช่วงหนึ่งก่อนการฝึกกับกูรู บุนบุกุ 1วัน มิโดริตัดสินใจเพื่อพัฒนาฝีมือ แต่ต้องชงัก เมื่อทาสุคุให้เทโตะ คูไปด้วยเพราะเขาเป็นห่วงรุ่นน้องอย่างกาโอไม่ต่างจากมิโดริ และเป็นรุ่นพี่คอยดูแลบัดดี้โพลิสมือใหม่อย่างเทโตะ คูด้วย(เฮ้อ!) หลังจากการฝึกกับกูรูบุนบุกุมิโดริก็ได้โอเวิร์ลเทิร์นหลังจากที่กาโอได้มาก่อนแล้วและร่วมต่อสู้กับกาโอ ซึ่งครั้งหนึ่งเกียร์กอร์ดสร้างบัดดี้ของตนเองในร่างเคออสออกมาและสู้ชนะพวกกาโอจนบัตส์ตัดสินใจที่จะกลับไปที่ดราก้อนเวิร์ล ทำให้กาโอ มิโดริ จิบิแพนด้า ยูอิและกูรูบุนบุเดินทางไปที่ดราก้อนเวิร์ลเพื่อตามหาบัตส์แต่กลับถูกผนึกเหมือนเดิม กาโอและมิโดริจึงเข้าไปปรับความเข้าใจแล้วบัตส์ได้พลังOverthrowและชนะเกียร์กอร์ด หลังจากนั้นพวกกาโอต้องสู้กับพวกเคออสทรีและวิชด้อมจนท้ายที่สุดพวกกาโอก็ชนะและโลกก็สงบสุขอีกครั้ง
(เฮ้อ!ไหนแล้วเอาภาคX all star fightingด้วยก็ได้อ่ะ)
การแข่งขันGGG CUP มิโดริได้รับการแข่งครั้งนี้จากการคัดเลือกในการแข่งขันGGG CUPของกูรูบุนบุกุ แต่ใครแข่งกับใครก็...ดูในฟิคเราเอานะ (ถ้าเราจะทำอ่ะนะ)
ต่อไปภาคเสริม...ซึ่งเป็นจักรวาลแยกที่ไม่ใช่ชิปทาสุโดริแต่ไปทางทาสุโซเฟียกับทากาโดริ
สำหรับใครไม่ชอบก็...กดออกจากหน้านี้ได้(อย่าหาว่าไม่เตือน)
แม้จักรวาลหนึ่งรักจะสมหวัง...แต่ไม่ใช่ว่าอีกโลกจะปรารถนาเสมอไป
" ตัวฉัน...พยายามเลิกคิดถึงและบอกคำหนึ่งให้เขา และ เขาก็สายเกินไปที่จะบอกคำนั้น
จนเลิกลาและอยู่ในสถานะของคำว่า 'เพื่อน' ที่มากกว่านั้น...ไม่ได้อีกแล้วค่ะ "
หลังการต่อสู้ในGGG CUP (ภาคX all star fighting) มิโดริกลับมาประจำการที่บัดดี้โพลิสอเมริกา ที่เมืองลอสเอนเจอร์ลิส จนกว่าเธอจะเติบโตเป็นบัดดี้โพลิสเต็มตัวและในอนาคตก็จะเป็นผู้บัญชาการบัดดี้โพลิสอเมริกาและได้ตำแหน่งรองหัวหน้าบัดดี้โพลิสแห่งญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
เวลาผ่านไปมิโดริเรียนในมัธยมปีที่3และรุ่นน้องอีกคนอย่างมิคาโดะ กาโอที่เรียนมัธยมปีที่2 ทั้งคู่เขาโรงเรียนเดียวกันเพราะทางแม่ของกาโออยากให้กาโอได้เรียนโรงเรียนเดียวกันกับเธอและคอยอบรมเรื่องการเรียนให้กาโอด้วย (คุณแม่ของกาโอคะ...คุณแม่คิดอะไรถึงทำแบบนี้เนี่ยคะ!//นี่คือสิ่งมิโดริคิดในตอนที่เธอย้ายมาเรียนชั้นม.2ใหม่ๆ) ทำให้มิโดริควบตำแหน่งบัดดี้โพลิส รุ่นพี่ของกาโอและพี่สาวที่ปรึกษาของกาโอ(?)จนมาถึงวันหนึ่งที่ตัวเธอกลับบ้านช้าเพราะงานบัดดี้โพลิสและงานที่โรงเรียน ขณะที่เธอกลับบ้าน กลุ่มคนร้ายปริศนาจับตัวเธอไว้ ตอนนั้นเองร่างของผู้ชายคนหนึ่งช่วยเธอไว้
"คนคนนี้...เราเคยเจอมาก่อน" ก่อนที่เธอจะสลบลงเสียงคุ้นเคยกระซิบข้างหู
"ไม่เป็นไรแล้วนะ...ชิโนบุ คนดีของพี่"
นั่นเป็นประโยคสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลงและไม่ได้รับรู้อีก
เปลือกตาบางค่อยไปลืมตาขึ้นมา แสงสีขาวกระทบดวงตาสีฟ้าน้ำเงินและปรับการมองเห็นให้ชัดเจนก่อนจะมองไปรอบๆห้อง ดวงตากลมโตมองตัวเองในชุดผู้ป่วยสีฟ้าอ่อนของโรงพยาบาล หลังจากนั้นไม่นานพยาบาลก็เข้ามาในห้องและตรวจสภาพร่างกายของเธอ หลังจากที่มิโดริกลับบ้านได้แล้ว เธอก็เริ่มสงสัยเรื่องของผู้ชายที่ช่วยเธอไว้ ตอนแรกคิดว่าคงเป็นทาสุคุหรือกาโอก็ได้ แต่คนที่เรียกชื่อแบบนั้น
"ชิโนบุ" ชื่อที่คนคนนั้นรู้ดีที่สุดและไม่คิดว่าจะได้พบ
ทากาสุงิ ชินสุเกะ พี่ชายของโยชิดะ มิโดริหรืออีกชื่อคือทากาสุงิ ชิโนบุ
'แต่ว่าอาจเป็นคนล่ะคนกันก็ได้!จริงจริ๊ง!!'
หลังจากนั้นมิโดริกลับมายังหอพักของตนเองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของครอบครัวมิคาโดะ(ที่ย้ายมาอยู่ที่อเมริกา) ก็เดินเข้าไปข้างในห้องพักของตนเองเพื่อที่จะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่และทำอาหารให้บัดดี้ด้วย
"กลับมาแล้วเหรอครับ/คะ! รุ่นพี่มิโดริ/พี่มิโดริ" กลับกลายเป็นว่าสองพี่น้องตระกูลมิคาโดะบุกมาที่ห้องพักของเธอ และไม่ใช่แค่นั้น...
"อ้าว!กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ มิโดริจัง"
"ยินดีต้อนรับกลับนะ" พ่อกับแม่ของกาโอก็มาที่ห้องด้วย แถมพวกบัตส์ยังมาทำความสะอาดห้องพักของเธอให้ด้วย...
'นี่ถ้าเป็นเพราะคนรู้จักจะไม่จับฐานบุกรุกห้องหรอกเหมือนคนอื่นหรอกนะ แต่ถ้าจะมาก็บอกกันด้วยดิคะ!!'
แต่บางความรู้สึกของมิโดรินั้นรู้สึกถึงไออุ่นความรักของครอบครัวนี้ อาจเป็นเพราะตัวของมิโดริเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็กที่ไม่มีครอบครัวตั้งแต่เกิด
"ถ้าฉันมีครอบครัวแบบนายบ้าง...ก็ดีซินะ"
"เมื่อกี้รุ่นพี่พูดว่าไงนะครับ" จู่ๆเสียงของรุ่นน้องอย่างมิคาโดะ กาโอพูดขึ้นทำให้มิโดริตกใจก่อนเปลี่ยนสีหน้าแบบเรียบนิ่ง
"ปะ...เปล่า! ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ว่าแต่ทำอาหารเสร็จกันหรือยังคะ?"
"ยังเลยครับ แต่ได้ยินคุณแม่บอกว่าจะทำพิซซ่ากับทาโกยากิเป็นของว่างด้วยน่ะครับ"
"พิซซ่ากับทาโกยากิเหรอครับ/บาล"
"อย่างนี้ก็ดีเลยซิ ซักจะรอไม่ไหวแล้วซิใช่ไหมดรัม"
"แน่นอนอยู่แล้วล่ะบัตซ์"
พวกบัตซ์ที่ได้ยินเรื่องของว่าง ก็พร้อมใจตั้งหน้าตั้งตารอกันใหญ่ กาโอและมิโดริมองมอสเตอร์ทั้งสี่ด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจที่ไม่ต่างกัน ถึงกับขนาดที่ยูอิ บัดดี้ของมิโดริออกมาจากเด็คเพื่อห้ามปราม ซึ่งการทำอาหารเย็นและของว่างครั้งนี้ มิโดริอาสาขอร่วมทำครั้งนี้ด้วยหลังจากที่รับประทานอาหารกันเสร็จ แม่ของกาโอช่วยสอนการบ้านให้กาโอและฮานาโกะด้วย แต่ถึงอย่างงั้นกลับกลายเป็นว่าเป็นการแข่งบัดดี้ไฟท์ไปซะงั้น ซึ่งผลสรุปคือ...
"แม่ให้พวกเธอมาทำการบ้านไม่ใช่ให้มาเล่นบัดดี้ไฟท์ซักหน่อย!! ขอโทษด้วยนะจ๊ะ มิโดริจัง"
คุณแม่ของกาโอและฮานาโกะตักเตือนรุ่นน้องอย่างกาโอโดยไม่ลืมจะมาขอโทษมิโดริ เวลาผ่านไปประมาณสามทุ่มกว่าๆ ครอบครัวมิคาโดะจึงกลับบ้านพักโดยไม่ลืมที่จะบอกลากันหลังจากนั้นมิโดริอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดนอนกระโปรงแขนยาวสีฟ้าลายกระต่ายโดยก่อนนอนไม่ลืมจะเขียนไดอารี่ ทำเอกสารของทางบัดดี้โพลิสและอ่านข่าวสารของบัดดี้ไฟท์เตอร์และบัดดี้โพลิสไปด้วยก่อนจะไปสะดุดกับข่าวของกาเอ็น เคียวยะซึ่งดูเหมือนว่าบัดดี้โพลิสญี่ปุ่นจะเข้าร่วมด้วย นึกถึงเพื่อนของเขาอีกคนที่อยู่ญี่ปุ่น 'ริวเอ็นจิ ทาสุคุ'
"ตอนนี้จะทำอะไรอยู่กันนะ ทาสุคุ"
ก่อนที่เธอจะมองไปที่กรอบรูปใบหนึ่งที่มิโดริและทาสุคุเคยถ่ายด้วยกันตอนเด็กที่จะเข้าเป็นบัดดี้โพลิสใหม่ๆ ใจของเธอรู้สึกอบอุ่นใจและอดเป็นห่วงในเรื่องหนึ่ง...เรื่องของกาเอ็น เคียวยะ เพราะถ้าเจอทาสุคุกับเคียวยะเจอกันทีไรมีเรื่องให้ทุกครั้ง
'หวังว่าคงจะไม่ทำเรื่องที่คิดไว้ซินะ'
แต่สายตาของเธอเหลือบไปเห็นภาพอีกรูปหนึ่ง ภาพที่เธอในชุดกระโปรงแขนกุดสีขาวพร้อมกับสวมมงกุฏอันเล็กบนหัวและถือช่อดอกไม้หลากสีกับชายหนุ่มผมดำออกม่วงในชุดสูทสีขาวเช่นกันกำลังควงแขนเธอ พอนึกถึงแล้วใบหน้าของมิโดริดันเขินขึ้นมาซะได้ ดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้นที่มองมาทางเธอ ความอบอุ่นจากคำพูดและจูบในตอนนั้น...
"งื้อ! ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย!!"
"มิโดริเป็นอะไรไปเนี่ย?"ทำให้ยูอิถึงกับพึมพำและงงกับอาการและท่าทางแปลกๆของบัดดี้
เช้าวันใหม่มาถึง มิโดริในชุดสูทบัดดี้โพลิสของทางอเมริกาเพราะงานครั้งนี้ที่เธอจะไปคืองานเปิดตัวของบริษัทที่มีชื่อเสียงทั่วโลกมาที่ประเทศอเมริกา เมืองลอสเอนเจอร์ลิสแห่งนี้ แน่นอนว่าบัดดี้โพลิสรุ่นเยาว์อเมริกาอย่างโยชิดะ มิโดริได้รับเชิญให้มางานนี้ด้วย แต่ทำไมกันนะ..เธอถึงรู้สึกแปลกๆกันนะ
มิโดริรีบสบัดความคิดนั้นออกทันทีก่อนจะออกจากห้องพักของเธอไปโดยก่อนจะทำธุระไม่ลืมที่จะบอกครอบครัวของกาโอว่าตัวเธอจะไม่กลับมาที่ห้องและจะกลับประมาณสัปดาห์หนึ่ง
เมื่อมาถึงโรงแรมขนาดใหญ่ในงานของพวกกลุ่มธุรกิจ มิโดริเดินเข้ามาในห้องโถงขนาดใหญ่พิเศษ ภายในห้องประดับไฟที่สว่างสวยงามเข้ากับผนังภายในห้องหรูหรา เครื่องดื่ม แอลกออฮอล์และอาหารมากมายจัดเรียงไว้ดูน่ากินทางฝั่งซ้ายและขวาทางด้านหลัง โต๊ะและเก้าอี้และโซฟาดูทันสมัยถูกวางไว้ด้านหน้าของเวทีและมุมที่มีต้นไม้ประดับที่ถูกจัดเตรียมไว้ ซึ่งไม่แปลกที่แขกในงานมีทั้งนักธุรกิจและนอกจากนี้ดาราหนุ่มสาวที่มีชื่อเสียง รวมทั้งนักข่าวเข้ามาในงานนี้ด้วย ทำให้ในตอนนี้มิโดริเริ่มทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่เพราะสิ่งที่มิโดริและทาสุคุที่เป็นบัดดี้โพลิสอยู่แล้วมีอย่างหนึ่งที่ไม่ถูกกันก็คือ'การเข้าใกล้สังคมของพวกผู้ใหญ่' ถึงจะทำงานกับพวกบัดดี้โพลิสหรือคนอื่นอยู่บ้าง แต่ถ้าอยู่กับคนที่มากแบบในงานนี้ก็...ประมาท
"นั่น!บัดดี้โพลิสวัยเยาว์ โยชิดะ มิโดรินิ?!"
"จริงด้วยๆ!"
จู่ๆนักข่าวกลุ่มหนึ่งเข้ามาล้อมเธอไว้ ทำให้บัดดี้โพลิสวัยเยาว์ที่ไม่ถูกกับการสื่อสารยิ่งทำตัวไม่ถูกเท่าไร แต่เดี๋ยวนะ!พวกคุณต้องสัมภาษย์พวกธุกิจหรือดาราไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่กับบัดดี้โพลิสวัยเยาว์อย่างมิโดริเลย!
"คุณโยชิดะ มิโดริรู้สึกยังไงที่ตอนนั้นสู้กับริวเอ็นจิ ทาสุคุแล้วแพ้กันล่ะคะ?"
"ทำไมตอนนี้คุณโยชิดะมาทำงานที่บัดดี้โพลิสอเมริกาเหรอครับ?"
"แล้วคุณโยชิดะคิดว่าในอนาคตจะได้เป็นหัวหน้าบัดดี้โพลิสหรือเปล่าคะ?"
มิโดริถึงกับพูดไม่ออกเพราะคำถามของพวกนักข่าวและกล้องแต่ละตัวรวมกันที่พวกมิโดริทั้งหมด ถึงแบบนี้ไง...ถึงไม่ถูกกับคนเยอะเท่าไรแม้ปกติจะอยู่กับคนรู้จักก็ดีอยู่แล้ว แต่นี่มันกดดันไปไหม!
"เอ่อ...คือว่าฉัน..."
"ขอโทษนะแทน'น้องสาวของผม'ด้วยนะครับ พอดีว่าเธอไม่ถูกกับคนเยอะแบบนี้น่ะครับ"
จู่ๆร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาจับแขนของเธอไว้ ทำให้มิโดริเงยหน้ามองเขา แต่ดวงตากลมโตต้องตกใจ เพราะคนที่แทนเธอว่าน้องสาวคือคนเดียวอย่างที่เธอคิดและไม่คิดว่าเขาจะมางานนี้
"อ้อ...ที่แท้ก็น้องสาวนี่เอ--เอ๊ะ!น้องสาวของคุณทากาสุงิ ชินสุเกะเหรอครับ" พวกนักข่าวต่างพูดกันเสียงหลงทันทีที่ชายหนุ่มพูด เสียงกล้องถ่ายรูปหลายตัวและนักข่าวรวมทั้งนักธุรกิจและเหล่าดาราภายในงานต่างหันมาที่ทั้งคู่
"ยังไง...ถ้าจะสัมภาษณ์ผมกับน้องสาวของผมเอาไว้พวกคุณค่อยมาทีหลังนะครับ ขอตัวก่อนนะครับ" พูดจบก็เปลี่ยนจากจับแขนเปลี่ยนเป็นจับมือเล็กของเธอแทนและดึงตัวเธอให้ออกมาจากห้องโถงมายังระเบียงด้านนอกแทน แต่ระหว่างที่เธอกับชายคนนี้เดินออกมา มิโดริสัมผัสถึงสายตาที่มองด้วยความอิจฉาและอาฆาตมายังเธอตั้งแต่แรก
"คุณคิดจะทำอะไรกันแน่คะ?"
"ฉันต้องการคำขอบคุณจากเธอนะ ไม่ใช่คำถามซักหน่อย" เขาหยอกย้อคำพูดกลับ ทำให้มิโดริไม่กล้าต่อคำไปซักพัก "ขอบ...คุณค่ะ"
"ว่าไงนะ"
"งื้อ...ขอบคุณค่ะ ที่คุณช่วยเมื่อกี้"
"เรียกฉันว่า'พี่ชินสุเกะ'ด้วยซิ ชิโนบุ" มิโดรินิ่งเงียบและไม่ยอมพูดแม้แต่คำเดียว แต่มีหนึ่งเรื่องที่เธอไม่เข้าใจ
"ฉันไม่ใช่ชิโนบุซักหน่อยนะคะ ฉันชื่อโยชิดะ มิโดริต่างหากล่ะคะ คุณอาจเข้าใจผิด---"
"งี้เอง...เธอยังใช้ชื่อที่อาจารณ์ตั้งให้อยู่ซินะ แหงล่ะ!ก็ตอนนั้นท่านพ่อของพวกเราไม่ยอมรับเธอในฐานะผู้หญิงเพราะท่านต้องการลูกผู้ชายมาสืบทอดตระกูล แต่กลับได้เป็นผู้หญิงเป็นเธอแทน..."
"....."
"ถึงตอนนั้นฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่พ่อบอกว่าเป็นตัวกาลกิณี แต่สำหรับฉันน่ะ..."
ไม่พูดเปล่าเขาขยับเข้ามาใกล้จนตอนนี้ร่างเล็กของมิโดริถอยหลังจนถึงรั้วเหล็กกั้น เธอเงยหน้ามองสบกับดวงตาข้างหนึ่งของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ...สายตาที่ดูอบอุ่นและคิดถึงภายใต้ขั้วหัวใจ มิโดริตกใจอีกครั้งเมื่อมือหนาของเขาสวมกอดร่างของเธอพร้อมโน้มเข้ากระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเท่าที่ชายที่ชื่อทากาสุงิ ชินสุเกะจะทำได้
"...ก็ชอบเธอมากเลยนะ มิโดริไม่ซิ...ทากาสุงิ ชิโนบุ" มิโดริตัวนิ่งและไม่ยอมขยับแม้กระทั่งร่างได้และคิดว่าทำไมชายคนนี้ถึงรู้จักชื่อนั้นของเธอได้ยังไงเพราะคนที่รู้ชื่อนี้ได้มีเพียงอาและชาย
"ถ้าฉันบอกว่าเป็นเพราะโชคชะตาของฉันกับเธอทำให้พวกเรามาเจอกัน...จะเชื่อหรือเปล่า"
"..."
"ฉันกับเธอเคยสัญญากันไว้แล้วนิ ว่าถ้าโชคชะตาของพวกเราสายเลือดครอบครัวทากาสุงิมีจริง...ขอให้พวกเราได้มาเจอกันอีกครั้ง" คำพูดของเขาพูดถูก...เธอเคยสัญญากับชายคนหนึ่งไว้...คำสัญญากับสร้อยของเธอ แต่ไม่คิดว่าจะมาในรูปแบบนี้
ครืน...จู่ๆโทรศัพท์มือถือของเขาเกิดสั่นขึ้นมาในกระเป๋าเสื้อและกดรับสาย
"ว่าไงบันไซ...อย่างงั้นเหรอ...เดี๋ยวฉันไปทีหลังเอง"
เขาคุยกับปลายสาย แต่เมื่อกี้เขาพูดชื่อของบันไซด้วย งั้นก็แสดงว่าคนคนนั้นเกิดใหม่ด้วยเหรอ'คุณบันไซ'
"ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่...ทีฉันไม่พูดว่าพี่แต่ที่คนอื่นนี่..."
"พอเลยค่ะพี่ชินสุเกะ เอาเป็นว่าฉันขอตัวนะคะเพราะตอนนี้ทำงานของบัดดี้โพลิสอยู่" ก่อนที่เขาจะได้ใจไปกว่านี้มิโดริเรียกชื่อของเขาต้องการ และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะชอบที่เธอเรียกแบบนั้นก่อนจะจับแขนข้างหนึ่งของเธอไว้
"อะไรอีกล่ะคะ ฉันบอกมีงาน--"
"นี่แหละงานแรกของเธอในฐานะบัดดี้โพลิส...คือการเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวให้ฉันไงล่ะ"
"...!!"
"แล้วเป็นในฐานะน้องสาวกับว่าที่ภรรยาของฉันด้วยล่ะ"
เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง มิโดรินิ่งเงียบและตกใจกับงานแรกของชายตรงหน้า ชายคนนี้เหมือนคนเอาแต่ใจคนอื่น แต่เธอแน่ใจอยู่เรื่องหนึ่งคือคำพูดและสายตาเจ้าเล่ห์ แม้กระทั่งสิ่งที่เขาแสดงออกมา
เขาคือทากาสุงิ ชินสุเกะ แน่นอน!
ดวงตากลมโตค่อยๆลืมตา ร่างบางเล็กของมิโดริลุกขึ้นนั่งที่เตียงนอนก่อนมองไปรอบๆห้องนอนใหม่ที่ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องตอนนี้ไม่อยู่ในห้องแล้ว แต่จู่ๆความจำในคืนนั้นก็กลับมาอีกครั้งตั้งแต่ครั้งที่เธอออกมาจากโรงแรมคืนนั้ ตอนแรกเธอคิดว่าชายตรงหน้าคงเป็นมาเฟียที่ทำงานผิดกฎหมายแน่นอน ซึ่งความจริงเขาก็คือนักธุรกิจหนุ่มพันล้านที่เป็นถึงว่าที่หัวหน้าบริษัทและมาเฟียที่ไม่ได้ทำงานผิดกฎหมายอย่างที่คิด และเรื่องเมื่อคืนนั้นคือกลุ่มมาเฟียของเขากับคู่แข่งเกิดไม่ลงรอยกัน สุดท้ายมิโดริกลับเป็นฝ่ายยุติเหตุแทน แน่นอนว่าต่างคนต่างบาดเจ็บแม้กระทั่งทากาสุงิและมิโดริได้รับบาดเจ็บไม่มาก แต่เขาว่านักธุรกิจหนุ่มต้องมีลูกเล่นนิดๆ ในตอนที่เขาลงโทษให้เธอรักษาแผลให้ก็ดูเขินอายและให้เธอนอนกับเขาด้วยเหตุผลที่ว่า 'นี่ก็เป็นบทลงโทษของฉันเหมือนกันที่ปกป้องฉันไม่ได้ล่ะนะ'
เสียงประตูดังขึ้นทำให้เธอหันกลับไปมอง แต่ก็ต้องหน้าแดงอีกครั้งเพราะเธอเห็นเขาออกมาแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ทำให้ต้องรีบเบือนหน้าหนีและจัดการที่นอนให้เรียบร้อยแทน ให้ตายซิ!
"อ๊ะ"จู่ๆก็เหมือนมีใครกอดทางด้านหลัง ซึ่งไม่ใช่ใครหรอกนอกจากเจ้าของห้องและคนที่อ้างตัวว่าเป็นพี่ชายอย่างทากาสุงิ ชินสุเกะนั่นแหละ แถมยังหอมแก้มและยังจูบเธออีก 'เพื่ออะไรคะเนี่ย'
"มอนิ่งคิสสำหรับน้องสาวไง ไม่รู้เหรอ..หืม?"ทากาสุงิพูดเสียงหวานจนเธอต้องเหนื่อยใจมาก
"แต่ถึงยังไงคุณก็ไม่ควรทำแบบนี้นะคะ แล้วฉันก็ไม่ใช่น้องส---"พูดไม่ทันจบเขาก็ปิดริมฝีปากด้วยการจูบ อีกแล้ว!ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมาพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
"เหมือนสัมผัสในตอนนั้นใช่ไหม?"เขาถามออกมาอีกครั้งพร้อมทั้งโน้มเข้ามากระซิบข้างหู"ว่าไง?"
ตัวของเธอคิดตามตรงว่าอีกฝ่ายทำแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่ แต่สื่งที่แน่ชัดคือการทำเมื่อกี้มันทำให้คิดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา แค่คิดใบหน้าเธอเกิดแดงระเรื่อ อาจเป็นเพราะอากาศแน่หรือว่าจะเป็น...
"ถ้างั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีว่าต้องกลับไปเปลี่ยนชุดในการทำงานอีกน่ะค่ะ"มิโดริตัดความด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะลุกขึ้นเพราะหมายที่จะออกจากห้องนี้ รวมทั้งชายคนนี้ด้วย
"ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก เพราะฉันสั่งให้คนเอาเสื้อผ้าและของอื่นๆมาให้แล้วล่ะ"
ทากาสุงิชี้ไปทางกระเป๋าขนาดใหญ่สองสามใบและกระเป๋าขนาดกลางอีกสองใบที่รวมอยู่ด้วย 'ว่าแต่เขาไปเอาตอนไหนเนี่ย?!'
"ฉันสั่งเจ้าพวกนั้นตั้งแต่เธอหลับแล้วล่ะ อ้อ!แล้วก็ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอต้องมาอยู่ที่นี่กับฉัน"
เหมือนว่าเขาอ่านความคิดในใจเธอได้จึงบอกออกไปและคำพูดที่ทำให้เธออึ้งไปชั่วขณะ"ว่าไงนะคะ?"
"ฉันไม่อยากพูดรอบสอง"
"แต่ว่าแบบนี้พวกกาโอล่ะคะ พวกเขาน่ะ---"
"เรื่องนั้นฉันบอกพวกนั้นเรียบร้อยแล้วล่ะ และดูเหมือนพวกเขาจะถูกใจเรื่องที่ให้เธอมาอยู่ที่นี่กับฉันด้วยซิ"
"..."
"แต่ไหนๆแล้วเธอไปอาบน้ำก่อนเถอะ เธอมีงานในฐานะบัดดี้โพลิสที่คอยเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ"
"แต่ก็แค่หนึ่งสัปดาห์ไม่ใช่เหรอคะ พอจบงานแล้วฉันก็---"
"ให้เธอมาเป็นน้องสาวของฉัน แล้วก็...'ว่าที่เจ้าสาว'ด้วย"
เขากระซิบข้างหูคำท้ายประโยค ใบหน้าของเด็กสาวแดงระเรื่อขึ้นอีกครั้งด้วยคำพูดของชายหนุ่ม มือบางดับร่างของเขาไว้
"งื้อ!เข้าใจแล้วค่ะ!"มิโดริขานรับก่อนจะรีบเข้าห้องน้ำโดยไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อผ้าใหม่ เธออาบน้ำและเปลี่ยนชุดเครื่องแบบบัดดี้โพลิสชุดใหม่และทำทรงผมใหม่ให้เรียบร้อย ก่อนจะเห็นชายหนุ่มที่มองเธอไม่กระพริบและสื่อความหมายได้ยากที่จะอ่านออก เมื่อเห็นดังนั้นมิโดรินั่งห่างจากเขา
"ว่าแต่...งานแรกของฉันคืออะไรงั้นเหรอคะ คุณทากาสุงิ"
"เรียกพี่ชินสุเกะ"
"แต่ตอนนี้ฉันกำลังทำงานในฐานะบัดดี้โพลิสอยู่นะคะ"
"แต่แค่สัปดาห์เดียวไม่ใช่เหรอ"
มิโดรินั่งนิ่งและต่อคำกับเขาไม่ถูกซะแล้ว ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
"นั่นซินะคะ แต่ฉันได้ยินมาว่าธุรกิจของคุณมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าต่างประเทศด้วยนิคะ แต่ทำไมถึงให้พวกฉันที่เป็นบัดดี้โพลิสมารับงานนี้กันคะ"
"บริษัทของฉันกับบริษัทกาเอ็นตอนนี้เป็นคู่แข่งกัน เพราะอย่างงั้นฉันเปลี่ยนให้เธอเป็นพรีเซเตอร์ของเกมบัดดี้ไฟท์"มิโดริที่ได้ยินที่ว่าบริษัทของชายหนุ่มเป็นคู่แข่งกันกับกาเอ็น เคียวยะถึงกับตกใจเล็กน้อย มิน่าล่ะถึงให้เธอมารับงานนี้ แต่พูดถึงกาเอ็น เคียวยะ เขาก็เคยเป็นศัตรูของพวกมิโดริมาก่อนจนกระทั่งตอนที่กลับมาแข่งGGGคัพ วันที่เขาแข่งกับริวเอ็นจิ ทาสุคุในฐานะอัศวินทมิฬ ก่อนลงแข่งขันระหว่างทาสุคุกับเคียวยะ เขากับให้เด็คดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ล เด็คเดิมของทาสุคุใน'ฐานะอัศวินทมิฬ'แต่ที่แปลกใหม่คือการ์ดทั้งหมดเป็นอัศวินมังกรทมิฬและบัดดี้ใหม่ที่ไม่ใช่ดิมินอร์ดชอร์ดแต่เป็น'ออกเกอร์ชอร์ดดราก้อน'
'แต่คิดถึงเรื่องนี้แล้ว...ตอนนี้ทาสุคุกำลังทำอะไรอยู่นะ'
"มัวเหมออะไรอยู่? ไปทำงานกันได้แล้วนะ" มิโดริตื่นขึ้นจากผวังก่อนจะจัดเตรียมของให้เรียบร้อยก่อนจะออกจากห้องไปและจนกระทั่งรถคันหรูได้จอดออกมาหน้าประตูของบ้าน ซึ่งคนขับก็คือลูกน้องคนสนิทของทากาสุงิ ชินสุเกะ...คาวาคามิ บันไซ (อ๊าย!!!!!!เฮียบันไซ...หนูFCเฮียนะw//ไรท์)
ทั้งคู่ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบริษัทของเขา เมื่อมิโดริเดินลงจากรถแล้ว ฝ่ายทากาสุงิหมายให้อีกฝ่ายคล้องแขนของเขา แต่กลับเป็นว่าท่าทีของเด็กสาวจะเมินเฉยและเดินเข้าไปบริษัททันที แต่ยังไม่ได้เข้าไปข้างในกลับถูกมือหนาจับมือบางของเธอไว้แผ่นหลังของเธอชนเข้ากับอกของทากาสุงิเข้าก่อนที่จะกระซิบกับเธอ
"ไม่เอาซิ เธอต้องทำตัวเป็นน้องสาวที่ดีซิ...นะ" กล่าวจบก็ขยับมาข้างๆพร้อมทั้งจับมือบางของมิโดริไว้แล้วเดินเข้าไปในบริษัทพร้อมกัน พนักงานส่วนใหญ่ที่เริ่มทำงานและเดินผ่านไปมามองทั้งคู่เพราะแสดงความน่ารักออกมาโดยเฉพาะเด็กสาวที่ไม่ค่อยคุ้นชินกับที่ใหม่ๆเมื่อถึงเวลาเข้าประชุม ว่าที่หัวหน้าหนุ่มแนะนำพรีเซนเตอร์ในงานใหม่ให้ทุกคนรู้จัก งานครั้งแรกของบัดดี้โพลิสวัยเยาว์คิดว่าจะเป็นงานยากแต่รายละเอียดบางส่วนทำให้มิโดริเกิดความเข้าใจว่างานนี้เกี่ยวกับการเปิดสินค้าใหม่เพื่อสนับสนุนกับองค์กรใหญ่ของบัดดี้ไฟท์อีกที และแน่นอนว่างานนี้อาจทำให้รายได้พุ่งสูงมากและยิ่งให้เธอที่เป็นบัดดี้ไฟท์เตอร์แห่งบัดดี้โพลิสนี่แล้ว...ได้ผลประโยชน์สองต่อเลยนี่หน่า
เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ บริษัทของทากาสุงิมียอดรายได้มากกว่าบริษัทกาเอ็น ทำให้ตอนนี้บริษัทของเขากลายเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ พร้อมทั้งลงหน้าข่าวทางโทรทัศน์ทั่วโลกและสื่อบนอินเทอร์เน็ตอีกด้วยและข่าวอีกเรื่องหนึ่งที่มียอดวิวและคนติดตามไม่แพ้กันก็คงหนีไม่พ้น
หนุ่มชายธุรกิจเปิดตัว'น้องสาว' เธอคือบัดดี้โพลิสสาววัยเยาว์
ร่างเล็กบนเตียงนอนถอนหายใจเบาๆเมื่อเห็นข่าวในโทรศัพท์ของเธอ ครั้งแรกไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการพบกับชายที่ชื่อทากาสุงิ ชินสุเกะในวันนั้นจะทำให้เธอเปลี่ยนไปเหมือนโชคชะตาแกล้งเธองั้นแหละ แม้กระทั่งวันก่อนที่ข่าวนี้ปล่อยออกมารุ่นน้องของเธออย่างมิคาโดะ กาโอยังไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นและตัวเธอด้วย
"สรุปข่าวนี่เป็นเรื่องจริงเหรอครับรุ่นพี่!!ที่ว่ารุ่นพี่เป็นน้องสาวของผู้ชายในข่าวน่ะครับ!!"
"คุยโทรศัพท์กันไม่ต้องเสียงดังนะคะกาโอคุง ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อครึ่งอยู่นั่นแหละว่าเขาจะบอกฉันแบบนั้น แต่ว่าตอนนี้ฉันก็เชื่อแล้วล่ะค่ะ"
"สรุปข่าวนั่นเรื่องจริงซินะครับ ยินดีด้วยนะครับรุ่นพี่...ที่ได้เจอกับพี่ชายจริงๆแล้ว งั้นผมโทร.ไปหาพวกรุ่นพี่ทาสุคุก่อนนะครับ"
"มะ...ไม่ต้องทำแบบหรอก เพราะยังไงข่าวนั่นก็คงไปถึงวันพรุ่งนี้ที่ญี่ปุ่นอยู่แล้วล่ะ"
"แบบนี้นี่เองซินะครับ งั้นเอาไว้เจอกันที่โรงเรียนนะครับ ราตรีสวัสดิ์นะครับรุ่นพี่"
"ราตรีสวัสดิ์เหมือนกันค่ะ กาโอคุง"
มิโดริถอนหายใจออกมาอีกครั้ง นับตั้งแต่งานนั้นจบโปรเจคก็ได้งานอีกครั้งจากเขาโดยมีฐานะทั้งน้องสาวของนักธุรกิจหนุ่มและ...
"อ๊ะ!?"จู่ๆเธอก็โดนกอดจากทางด้านหลังโดยไม่ใช่ใครนอกจากทากาสุงิคนเดียว
"กลับมาแล้วเหรอคะ พี่ชินสุเกะ"เธอเริ่มเปลี่ยนสรรพนามของเขาตามที่เขาสั่งแบบช่วยไม่ได้ มือหนาของเขาลูบศรีษะด้วยความเอ็นดูก่อนจะช้อนตัวนั่งบนตักแกร่ง
"อืม...ว่าแต่อาหารมื้อเย็นเธอคงกินแล้วซินะ"
"ยังเลยค่ะเพราะฉันไว้ทานพร้อมกันไปด้วยเลย ตอนนี้จะทานเลยมั้ยคะ?"
"แล้วเธอหิวหรือยังล่ะ"มิโดริพยักหน้าตอบเบาๆและเดินไปที่เคาท์เตอร์ทำอาหาร
"อาหารหอมจังเลยนะ"เสียงของบัดดี้อย่างยูอิดังขึ้นปรากฎตัวออกมาในร่างจิ๋ว
"เดี๋ยวซิ! ออกมาแบบนี้ไม่ดีนะคะ!"
"ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนิ มังกรตัวนี้ถ้าจะเป็นบัดดี้ของเธอซินะ"
"ข้ามีนามว่าเทพมังกรแห่งสรวงสวรรค์ ยูอิ ไนท์ดราก้อนเป็นมังกรแห่งสรวงจากแฟรี่ดราก้อนเวิร์ล จะเรียกยูอิก็ได้ค่ะ"
"ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกัน'บัดดี้ของมิโดริก็เหมือนคนในครอบครัว'นั่นแหละ" คำว่าคนในครอบครัวของทากาสุงิ ทำให้เธอความทรงจำเรื่องหนึ่งตอนสมัยเด็กตอนที่เธอย้ายมาที่อเมริกาใหม่ๆ ได้ผุดขึ้นแต่ภาพนั้นดูเหมือนจะเลือนลางแต่จดใจคำพูดนั้นได้
"พี่ชายคะ ทำไมทุกครั้งที่หนูมาที่นี่พี่ชายจะมีแผลตลอดเลยล่ะคะ?"
"แล้วยุ่งอะไรกับฉันล่ะ แผลแค่นี้ไม่ทำให้ฉันตายหรอก"
"แต่หนูก็เป็นห่วงนิ ถ้าเลือดพี่ชายไหลไม่หยุดแบบนี้เดี๋ยวเป็นอะไรขึ้นมาจะแย่นะคะ"
"เฮ้อ...ทุกๆคร้งฉันเหนื่อยที่ต้องมาพูดกับเด็กอย่างเธอเลยเหรอเนี่ย"
"ไม่ใช่เด็กซักหน่อย นี่โตแล้วจริงๆ"
"แล้วอายุเท่าไร"
"ส...สิบปีค่ะ"
"อายุนั้นเขาเรียกเด็กแล้ว ฉันสิบหก"
"เสร็จแล้วค่ะ"
"ยุ่งกับฉันอีกจนได้ซินะ แต่ก็ขอบใจแล้วกัน ตอนนี้เธอก็กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวครอบครัวเป็นห่วงนะ"
"...หนูไม่มีครอบครัวหรอกค่ะ"
"หื้ม!หมายความว่ายังไง"
"ครอบครัว รวมทั้งหมู่บ้านถูกทำลายตั้งแต่สี่ปีก่อนแล้วล่ะค่ะ"
"..."
"จริงๆจะพูดว่าหนูไม่มีครอบครัวตั้งแต่แรกจะดีกว่านะคะ เพราะตั้งแต่เกิดก็อยู่กับคุณลุงกับคุณป้าตั้งแต่เกิด พ่อแม่หรือพี่น้องซักคนก็ไม่มีเลย บางครั้งตอนที่หนูเห็นคนรุ่นราวเดียวกันมีทั้งพี่หรือน้องบางหรือไม่ก็มีพ่อแม่ค่อยให้ความสุขและความรักบ้าง ก็เลย..."
"..."
"หนูน่ะคิดว่า...ถ้าคิดว่าซักวันหนึ่งมีครอบครัวหรือพี่น้องบ้างก็ดีซินะ"
"ถ้างั้นจะเป็นให้ไหม...คนในครอบครัว?"
"เอ๊ะ?พี่ชายว่าไงนะ"
"ก็ฉันได้ยินเธอเรียกพี่ชายๆตลอดจนเบื่อแล้ว...งั้นฉันจะเป็นให้ไง จะเอาไม่เอาล่ะ"
"ตกลงค่ะพี่ชาย"
"เลิกเรียกฉันว่าพี่ชายอยู่แล้วฉันนะชื่อ----"
"เอ๊ะ!พี่ว่าไงนะ พี่ชาย..."
"มิโดริ...มิโดริ!"
"ค---คะ ยูอิ"
"ก็เมื่อกี้ข้าเห็นเจ้าเหมออยู่นิหน่า โอเคไหมคะ"
"อะ...อืม"
"มิโดริ มานี่หน่อยซิ"
"นี่มัน!งานเปิดตัวการ์ดชุดใหม่ของกาเอ็นเหรอคะ!?"
"ใช่ ดูเหมือนว่าจะเชิญฉันในงานนี้ด้วย แล้วก็บัดดี้โพลิสทางญี่ปุ่นจะมางานนี้ด้วย"
"สนใจเหรอ งั้นฉันจะพาเธอไปด้วยก็แล้วกันในฐานะบัดดี้โพลิสอเมริกาแล้วก็"
"เปิดตัวน้องสาวของทากาสุงิ ชินสุเกะด้วย เป็นไงล่ะ"
"เอ๊ะ!!!!!"
"แล้วก็...ฉันให้เด็คนี้ให้กับเธอ"
"การ์ดพวกนี้มัน!..."
"มันเป็นเด็คสำหรับลงแข่งพรุ่งนี้ที่ทางกาเอ็นส่งให้ฉันเพราะฉะนั้นแล้วงานของเธออีกอย่างคือใช้เด็คนั้นต่อสู้"
"เข้าใจแล้วค่ะ ถ้างั้นขอรับงานนี้ก็แล้วกันนะคะ"
ประเทศญี่ปุ่น ตึกธุรกิจกาเอ็น เวลา09:00น.
"ยินดีที่มาร่วมงานครับ มิสเตอร์ชินสุเกะ"
"ทางนี้เช่นกันครับ ยินดีที่ได้ต้อนรับผมในงานนี้...ในฐานะคู่แข่งด้วยนะครับ"
"อะอ้าว! นั่นโยชิดะ มิโดริไม่ใช่เหรอ?ลมอะไรถึงกลับมาที่ญี่ปุ่นอย่างงั้นเหรอ?"
"ฉันมาที่นี่ในฐานะบัดดี้โพลิสอเมริกาและบอดี้การ์ดของคุณทากาสุงิค่ะ"
"อย่างงั้นเหรอ นึกว่าจะมาที่นี่เพราะเรื่องหมอนั่นซะอีก"
"งั้นเชิญตามสบายเลยนะครับ ส่วนคุณโยชิดะเองก็เตรียมตัวสำหรับการแข่งด้วยนะครับ"
"ที่ใดมีบัดดี้ไฟท์ที่นั่นมีนานานะ พารูโกะ ศึกครั้งนี้เป็นศึกระหว่าง...ท่านริวเอ็นจิ ทาสุคุ ที่คราวนี้มาในฐานะอัศวินทมิฬและคู่ต่อสู้คือ...คุณโยชิดะ มิโดริที่คราวนี้มาในชุดของธิดาอสูรสีเงินเช่นกัน ทั้งสองคนนี้เป็นบัดดี้โพลิสวัยเยาว์เหมือนกัน ครั้งที่แล้วในศึกกาเอ็นคัพและGGGคัพทั้งคู่ต่างชนะและแพ้ไปคนละครั้ง คราวนี้จะกลับมาสู้กันอีกครั้งในกาเอ็นทาวเวอร์ ซึ่งศึกครั้งนี้ใครจะเป็นคนชนะกันแน่ ติดตามกันค่ะ"เสียงของพารูโกะดังขึ้นและประกาศคู่ต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย
"ไม่คิดเลยนะว่าคนที่กาเอ็น เคียวยะเชิญให้ฉันมาสู้ด้วยคือเธอนะ มิโดริ แต่ว่า...ยังไงฉันไม่ออมมือหรอกนะ"ทาสุคุในร่างอัศวินทมิฬเอ่ยขึ้นข้างๆเขาคือมังกรสีเทาในชุดเกราะเหล็กสีน้ำเงินที่เคยสู้กับเคียวยะมาก่อน อ๊อคเกอร์ชอร์ด ดราก้อน ลักษณะคล้ายเดมิออสชอร์ดแต่แตกต่างแค่สีเท่านั้น
"หึ!ทางฉันก็เหมือนกันค่ะ การต่อสู้ครั้งนี้...ฉันก็ไม่ออมมือเหมือนกันค่ะ"มิโดริในร่างธิดาอสูรเอ่ยเช่นกันด้านข้างคือบัดดี้อย่างยูอิไนท์ดราก้อน
"ทั้งสองฝ่ายเริ่มลูมิไนส์ได้เลยค่ะ"พารูโกะประกาศเริ่มลูมิไนส์ทั้งคู่
"จงรวมตัวอีกครั้ง!อัศวินที่ปลดปล่อยจากนรก ลูมิไนส์!Great Purgatory Knights Reborn!"ทาสุคุเริ่มลูมิไนส์ก่อน
"แสงแห่งโชคชะตาที่ชี้นำเส้นทางไปให้รวมตัวกันอีกครั้ง ลูมิไนส์Guardian of heaven"มิโดริเริ่มลูมิไนส์บ้างและต่อจากนั้นพารูโกะเริ่มประกาศการต่อสู้
"บัดดี้...ไฟท์!"
"Raise the flag!"
"ดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ล"
"แฟรี่ดราก้อนเวิร์ล"
การต่อสู้ของทั้งสองเริ่มขึ้นต่างคนต่างผลักกันรุกรับการโจมตี แต่ตอนนี้เราขก.พิมพ์ต่อแล้วก็ตัดฉาก--- ที่หลังการต่อสู้ของทาสุคุและมิโดริ ทั้งสองพบปะคุยกันด้านหลังของอาคารกาเอ็น เคียวยะ
"ฉันได้ยินว่าเจอพี่ชายของเธอจากกาโอคุงและก็ข่าวเมื่อเช้าแล้วล่ะ ดีใจด้วยนะ"
"ฉันก็เหมือนกันเห็นกาโอบอกว่านาย...คบกับคุณโซเฟีย ยินดีด้วยนะ"
ทั้งคู่เงียบไปไม่มีการถามตอบมีแต่ความรู้สึกหนักอึ้งและใจหายในใจ ความรู้สึกบางอย่างทั้งสองไม่ได้ตอบ
ติ๊ง! เสียงข้อความเตือนดังขึ้นของโทรศัพท์มิโดริ มือเรียวบางหยิบขึ้นมาดูข้อความแล้วถอนหายใจออกมา
"ดูเหมือนเจ้านายจะมีคำสั่งให้ฉันกลับได้แล้วน่ะ ถ้างั้นขอตัว--"จู่แขนบางฉุดตัวของเธอให้หันกลับพร้อมสวมกอดเธอจนตั้งตัวไม่ถูก
"เดี๋ยวซิทาสุคุ คุณจะทำอะไร--"
"ฉันชอบเธอนะ" เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนชั่วขณะทันทีที่ได้ยินคำนั้นจากปากฝ่ายชายแต่มันเป็นคำพูดที่มาจากใจจริงๆก่อนเธอจะตอบกอด
"ฉันก็เหมือนกันค่ะ" น้ำตาสีใสไหลลงมาจากขอบตา คำพูดของทั้งสองเหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่ถึงอย่างงั้นสุดท้ายเส้นทางแห่งโชคชะตากลับไม่บรรจบกันแล้วอีก แม้สายสัมพันธ์บางอย่างจะยังเชื่อมกันอยู่ซึ่งกันและกัน
อย่างที่บอกไป...ว่าย้อมมีความรักไม่ปรารถนาเช่นกัน
กาลเวลาผ่านไปที่มิโดริจบมัธยมศึกษาหก เธอเป็นคนสดใสและดูดีกว่าเมื่อก่อน ที่ทุกข์ใจเพราะเรื่องของเธอและทาสุคุที่ติดค้างตลอดสองสามปีนับตั้งแต่เรื่องคบกับคนอื่นในปีที่ผ่านมา ตอนนี้ตัวเธอยอมรับมันได้แล้วและอีกเรื่องที่เข้ามาคือความสัมพันธ์ของเธอและพี่ชายของตนที่พัฒนาขึ้นจนหัวใจของเธอเต้นผิดปกติที่พี่ชายอยู่เคียงข้างหรืออยู่ต่อหน้าเธอ ซึ่งก็เป็นไปตามจริงว่าเธอชอบพี่ชายเข้าให้แล้ว แต่ค่ำคืนหนึ่งในวันเกิดครบรอบของเธอที่ทากาสุงิ ชินสุเกะยังไม่กลับมาเพราะปกติเขาจะกลับมาเร็วกว่านี้นิ...กระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากข้างนอกซึ่งคนที่ปรากฎกลับเป็นเลขาฯฝ่ายชายและคนสนิทอย่างบันไซ
"สวัสดีค่ะคุณบันไซ มีอะไรอย่างงั้นเหรอคะ"มิโดริทักทายก่อนจะถามกลับ
"ท่านชินสุเกะชวนคุณมารับประทานอาหารค่ำคืนนี้ครับ"บันไซพูดจบและหยิบชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนขึ้นมา"ถ้าเสร็จแล้วบอกด้วยนะครับเพราะผมจะส่งคุณไปพบท่านชินสุเกะเองครับ"พูดจบประตูปิดลง มิโดริคำถามในใจ
'หรือว่าเขาจะให้เราใส่ชุดนี้งั้นเหรอ'
เมื่อมิโดริมาถึงภัตรตาคารอาหารหรูที่พี่ชายของเธอนัดจนเข้ามาถึงห้องอาหารหรู บรรยากาศภายในถูกจัดอย่างสวยงามและสบายต่อการรับประทานอาหาร ทว่าพี่ชายของเธอยังไม่มาตามสัญญาเลยเลยถามคนที่ส่งเธอแต่เขาก็หายไปเช่นกัน มิโดริเดินมานั่งบนเก้าอี้ที่ถูกเตรียมไว้ ไม่นานเสียงดนตรีบรรเลงขึ้นอย่างไพเราะพร้อมกับแสงไฟสลัวที่สว่างขึ้นเป็นจังหวะเดียวกันที่พนักงานเสิร์ฟอาหารวางไว้บนโต๊ะเสร็จเรียบร้อย จังหวะนั้นดวงตาของเธอเห็นพี่ชายเดินมาพร้อมช่อดอกกุหลาบสีขาวช่อหนึ่ง ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่ปกติ จนกระทั่งช่อดอกไม้ยื่นมาให้เด็กสาวรับด้วยความสับสนภายในใจมากกว่าเดิม
"พี่ชินสุเกะ"มิโดริเรียกชื่อแผ่วเบา
"ขอโทษที่ให้เธอรอพี่นานนะครับ"คำพูดของเขาตอนนี้อ่อนโยนมากจนแทบใจอ่อน
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ชินสุเกะ พะงงงพวกเรามาทานอาหารกันเถอะค่ะ"
"จริงด้วยซินะครับ"น้ำเสียงทุ้มของเขาตอบก่อนที่ทั้งสองจะลงมือรับประทานอาหาร
"จริงซิ!ทำไมพี่ถึงเตรียมของแบบนี้ด้วยคะ"
"วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวและคนสำคัญทั้งทีนิแล้วก็รุ่นน้องของเธอฝากของขวัญให้ด้วย"
"วันนี้บรรยากาศสวยจังเลยแต่สวยสู้เธอไม่ได้หรอก แล้วก็มิโดริ เธอคบและแต่งงานกับฉันได้ไหม"
"พี่ชินสุเกะ"
"มันตลกดีนะที่ทำแบบนี้แต่ว่าครั้งนี้ฉันจะปกป้องเธอเต็มที่สุด"
"ตกลงค่ะต่อจากนี้ฝากตัวด้วยนะคะ"
1ปีผ่านไป(ช่วงที่ทาสุคุและมิโดริอายุ16ปี)
ทาสุคุและมิโดริได้รับคำสั่งในการไปเยี่ยมและสำรวจโลกมอสเตอร์เวิร์ลอื่นๆ แต่ยูอิ บัดดี้ของโยชิดะ มิโดริได้รับข้อมูลเกี่ยวกับLost Worldว่าอาจมีผลกระทบต่อเวิร์ลอื่นของมอสเตอร์หรือเปล่า แต่ข้อมูลที่ได้จากเวิร์ลอื่นไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จนกระทั่งข้อมูลข่าวหนึ่งจากแฟรี่ดราก้อนเวิร์ลของยูอิเล่าถึงเหตุการณ์ที่พลังความมืดบางอย่างบุกรุกมาที่เลเจนต์เวิร์ล
อาจจะเป็นพลังของมอสเตอร์ดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ล หรือว่าจะเป็นของลอสเวิร์ล
ทาสุคุที่ได้ยินข่าวจากแจ็ค บัดดี้ของตน อาสาจะไปหาต้นตอของมัน แต่ฝ่ายมิโดริเองที่จะเป็นคนไปกับบัดดี้แค่สองคนโดยไม่ลืมที่จะบอกคำสั่งกับทาสุคุก่อนจะไปเลเจนต์เวิร์ล
ณ เลเจนต์เวิร์ล
กลุ่มก้อนพลังงานสีดำไร้ตัวตนค่อยๆเข้าทำลายมอสเตอร์บางตัว บ้างมอสเตอร์บางส่วนเข้าต่อสู้กับกลุ่มก้อนพลังงานสีดำไม่สามารถต้านทานไว้ได้ทำให้หมดสติไปหรือไม่ก็ถูกกลืนกินเข้าไปในกลุ่มก้อนสีดำนั่น จังหวะเดียวกันกับที่มิโดริกับยูอิมาถึง ตอนนี้มอสเตอร์ของเลเจนต์เวิร์ลต่างต่อสู้กับกลุ่มก้อนปริศนาสีดำ
“ข้าสัมผัสพลังสีดำนั่นมีจิตแห่งความอาฆาตอยู่ แล้วก็สัมผัสได้ถึงกลุ่มมอสเตอร์ที่อยู่ในนั้นได้ จะทำไงดีคะ”
“ฉันกำลังคิดอยู่ค่ะ แต่ว่ามันมาจากไหนกันแน่...”
ทันใดนั้นกลุ่มก้อนพลังสีดำทมิฬรวมตัวขึ้นเป็นรูปร่างของจอกสีดำ ท้องนภาสีเทาตอนแรกกลายเป็นสีชาด ปรากฏร่างของเด็กชายผมสีดำ ดวงตาสีเหลืองคนหนึ่งแต่งกายด้วยการใส่ผ้าคาดศีรษะและกางเกงสีแดงที่ขาดหลุดหลุย ร่างกายของเด็กชายคนนั้นมีรอยสักเต็มตัว การปรากฏตัวของเด็กชายทำให้ทุกการกระทำหยุดนิ่งไม่เว้นแต่มิโดริและยูอิที่ลอยมองดูสถานการณ์ ใบหน้าเรียบเฉยของเด็กชายมองพวกเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น
"อา...พวกแกยังไม่ตายอีกงั้นเหรอ" น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยออกมาจากเด็กชาย ทำให้มอสเตอร์ทุกตัวเกิดความหงุดหงิดและโกรธเคืองบ้าง
กึก....ครืน!!!
จู่ๆวงแหวนทรงกลมปราฏขึ้นบนท้องฟ้าพร้อมกับมอสเตอร์ที่ถูกกลืนกินและหมดสติเมื่อครู่กับฟื้นขึ้นมา แต่สิ่งที่พวกเขาเปลี่ยนไป ร่างกายของพวกเขาเป็นสีขาวซีด ดวงตาและสีผมที่เปลี่ยนไปรวมทั้งการแต่งกายที่เปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬแถบสีแดง รวมทั้งพวกเขาแผ่จิตสังหารชั่วร้ายรวมทั้งพลังที่อาฆาตพยาบาลผ่านดวงตา ร่างของหญิงคนหนึ่งในชุดเกราะสีดำใช้ดาบสีดำพุ่งเข้าทำร้ายพวกมอสเตอร์จากเลเจนต์เวิร์ลด้วยความเร็ว คนอื่นเองเริ่มโจมตีด้วยเช่นกัน แต่มอสเตอร์ในเลเจนต์เวิร์ลใช้พลังเช่นกัน แต่ทว่าพลังนั้นถูกดูดกลืนเข้าไปในธงที่มีลวดลายสีดำของหญิงสาวคนหนึ่ง ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจไม่กี่อึดใจ หญิงสาวใช้พลังสะท้อนการโจมตีกลับเป็นคลื่นมังกรสีดำทำให้ทุกคนถึงกับยืนนิ่ง
“คนพวกนี้มันมอสเตอร์จากเลเจนต์เวิร์ลนิ ทำไมถึง---”
ไม่ทันที่ยูอิพูดจบบัดดี้ของตน มิโดริเปลี่ยนเป็นร่างดราก้อนฟอสและพุ่งเข้าป้องกันการโจมตีจนเกิดการระเบิดรุนแรง แต่จังหวะนั้นยูอิใช้พลังป้องกันไว้ทำให้ไม่เป็นอะไรมาก
"พวกคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ"มิโดริเอ่ยถามทันที พวกมอสเตอร์เลเจนต์เวิร์ลพยักหน้าตอบแทน
“ถ้างั้นพวกคุณรีบไปจากตรงนี้เลยค่ะ ตรงนี้ให้บัดดี้โพลิสจัดการเองค่ะ”
“เธอจัดการพวกนี้ไม่ไหวหรอก อีกอย่าง!จะให้ปล่อยพวกท่านโจนต์ไม่ได้หรอก”
“เพราะงั้นจึงให้พวกคุณไปจัดการสิ่งที่พวกคุณต้องทำไงล่ะคะ!”
มิโดริตอบเสียงดัง สิ่งที่เธอพูดถึงคือร่างเงาทมิฬจำนวนมากค่อยๆเดินเข้ามา ทำให้ปลุกพลังใจขึ้นก่อนจะตอบตกลงและต่างฝ่ายใช้พลังเข้าต่อสู้ รวมทั้งมอสเตอร์ของแฟรี่ดราก้อนเวิร์ลปรากฏตัวขึ้นต่อสู้เช่นกัน
“ทีนี้...ก็เหลือแค่เจ้านั่น”เอ่ยจบร่างของเธอลอยตัวขึ้นอยู่ตรงหน้าเด็กชายผมดำตรงหน้า รอยยิ้มปรากฏบนหน้าของอีกฝ่ายทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ
กึก!
ความรู้สึกบางอย่างเข้าที่หัวใจและสมองของมิโดริ รวมทั้งความทรงจำ"ความรู้สึกนี่มัน...เจ้าเป็นใครกันแน่"คำพูดของมิโดริรวมทั้งดวงตาของมิโดริจากสีฟ้าปรากฏกลายเป็นสีเขียว เด็กชายหัวเราะในลำคอเบาๆ
"ข้าคือเทพเจ้าแห่งความมืด อังรี แมนยุ ผู้ที่จะนำความหายนะให้พวกแก..."
"ว่าไงนะ! นี่หรือว่าเจ้าจะเป็นมอสเตอร์ของลอสเวิร์ลงั้นเหรอ"
"มอสเตอร์...ลอสเวิร์ล หึ!พูดขำๆ พวกฉันไม่ได้เป็นเหมือนเจ้าพูดซักหน่อย"
"ข้าขอถาม เจ้าน่ะมีจุดประสงค์สิ่งใดกัน"
"เพียงแค่ปลุกด้านมืดกับความทรงจำนิดหน่อยที่อยู่พวกนั้นให้กลับมาก็แค่นั้นแหละ"
"ความมืดในจิตใจ...กับความทรงจำ"
"ถ้างั้นผมจะแสดงพลังที่แท้จริงให้เห็นเอง โฮกุ!"
"เอาล่ะ!ฉันจะทำให้แกได้รับสิ่งที่แกได้ทำลงไป จงรับความตายคืนไปซะ! เวง อเวสต้า!!!"
อักขระสีแดงบนตัวของอังรีเปล่งแสงขึ้นพร้อมกับคลื่นทมิฬชาดที่แผ่ออกมา ความเจ็บปวดบางอย่างเข้ามาในร่างกายของมิโดริจนร่างดราก้อนฟอสเกือบจะถูกทำลาย 'แต่ไอ้ความเจ็บปวดนี่มัน...' และการต่อสู้ยื้ดเยื้องไปจนท้ายที่สุด มอสเตอร์ของแฟรี่ดราก้อนเวิร์ลและดาร์กเนสดราก้อนเวิร์ลรวมพลังจัดกรและสร้างเวิร์ลใหม่ภายใต้ชื่อดาร์กโฮลี่เวิร์ล แต่จนแล้วการถือกำเนิดเวิร์ลใหม่เป็นเรื่องยาก ทาสุคุและกาโอตกลงการสร้างเวิร์ลใหม่เป็นเวิร์ลที่12
14ปีผ่านไป (ที่เร็วอย่างเดอะflash)
ร่างของหญิงสาวผมฟ้าอ่อนในวัยสามสิบปีเดินลงมาที่สนามบินที่ประเทศญี่ปุ่น ดวงตาสีฟ้ากลมโตภายใต้แว่นตากรอบสีแดงสวมไว้มองท้องนภาปลอดโปร่งของประเทศบ้านเกิดของเธอ ลมเย็นพัดกระทบร่างเธอเป็นการต้อนรับการกลับมาของเธอราวกับว่าสายลมนี้เป็นใจให้กับเธอมาก
"คุณแม่ ที่นี่คือ...ญี่ปุ่นเหรอครับ"เสียงของเด็กชายผมฟ้าอ่อนอายุ6ขวบ เอ่ยถามหญิงสาว รอยยิ้มของหญิงสาวปรากฏก่อนจะใช้มือของเธอลูบศีรษะของเด็กชายตัวน้อย
"ใช่แล้ว ที่นี่คือประเทศญี่ปุ่นที่แม่เกิดค่ะ"
"จริงซิ!ว่าแต่ทำไมคุณแม่พาแค่พวกเราสองคนล่ะคะ"เสียงเจื่อยแจวของมิวามาริ ลูกสาวคนโตของครอบครัวในอายุ7ขวบถามแม่ของเธอด้วยความสงสัย
"อ้อ!ความจริงเพราะคุณพ่อของพวกเราต้องการให้พวกน้องๆได้รับประสบการณ์เรื่องงานที่อเมริกาไงล่ะจ๊ะ ที่จริงแล้วก็ชินทาโร่กับมิโคโนะเป็นคนช่วยงานจัดแสดงของบริษัทกับคุณพ่อ ส่วนมินาโฮะกับทาสุโยชิได้รับตัวแทนแข่งขันการแสดงกับการแข่งบัดดี้ไฟท์ที่อเมริกาด้วยนินะ"หญิงสาวตอบความจริงออกไปกับลูกทั้งสอง ถึงตอนแรกลูกๆสี่คนของเธออยากจะมาที่ญี่ปุ่นด้วย แต่เพราะติดภาระกิจทำให้มิวามาริกับชินทาโร่มาที่ญี่ปุ่นกับมิโดริอย่างช่วยไม่ได้
"อย่างงี้เองเหรอคะ/ครับ"เด็กทั้งสองตอบรับ
"งั้นไปกันเถอะนะคะ ป่านนี้ทาสุคุคงรอนานแล้วล่ะนะ"
ด้านหน้าของสนามบิน
ร่างของชายหนุ่มผมฟ้ายืนพิงรถบัดดี้โพลิสส่วนตัวของตนพลางกดเล่นโทรศัพท์มือถือสีแดงของตนเองเพื่อรอเพื่อนสมัยเด็กคนหนึ่งของเขาที่เดินทางมาที่ญี่ปุ่น สามวันก่อนที่เขาโทรศัพท์หาบุคคลคนนั้นเพื่อจะให้ช่วยเรื่องงานที่ท้วมล้น แต่ที่จริงมีอีกเรื่องหนึ่งที่เขาขอนะแต่เราอุ๊บไว้นะ ถึงตอนแรกฝ่ายนั้นจะดื้อปฏิเสธทุกครั้ง แต่สุดท้ายฝ่ายนั้นตอบตกลง ทำให้เขารู้สึกดีใจแต่พอพูดว่าลูกของเธอจะมาด้วยทำให้ความรู้สึกเมื่อครู่ความรู้สึกเจ็บที่กลางอกกลับเข้ามาแทนที่ แต่ยังไงก็แล้วทั้งคู่เลือกเส้นทางของตนเองแล้วนิ แล้วความฝันของทั้งคู่ที่จะมีครอบครัวเป็นของตนเองก็มีแล้ว แต่ทำไมความทรงจำนั่นถึง...
"คุณทาสุคุครับ!/คะ!"เสียงของมิวามาริและชินทาโร่ดังขึ้นทำให้ความคิดเมื่อครู่ของชายหนุ่มหายไป ปรากฏเป็นรอยยิ้มขึ้นมาแทนเมื่อเห็นเด็กชายหญิงสองคนเดินลากกระเป๋ามาหาเขา ด้านหลังของเด็กสองคนคือหญิงสาวผมเงินภายใต้แว่นตากรอบสีแดงที่ลากกระเป๋าของเธอมาเช่นกัน เด็กสองคนเมื่อมาถึงก็สวัสดีเขาก่อน
"ใบหน้าแบบนี้ หรือว่าพวกเธอหรือว่าจะเป็นลูก...ของมิโดริ?"ทาสุคุพึมพำกับตัวเอง
"หนูชื่อมิวามาริค่ะ แล้วก็น้องของหนูชินทาโร่ค่ะ"
"สวัสดีครับ"
น้ำเสียงของทั้งสองที่แนะนำตัวเป็นน้ำเสียงที่ดูสดใสและน่ารักเอามากๆ เชื่อเลยว่าเด็กชายหญิงคู่นี้มีหน้าตาเหมือนมิโดริมากๆตั้งแต่ใบหน้าและดวงตาแต่ถึงอย่างงั้นเด็กหญิงผมม่วงอ่อนดูคล้ายมากกว่าเด็กชายแต่ก็มีส่วนที่คล้ายเช่นกัน
"เด็กสองคนนี้ได้มิโดริมาเหมือนกันเลยนะเนี่ย" เสียงของแจ็คดังขึ้นจากกระเป๋าเสื้อของทาสุคุก่อนจะปรากฏในร่างจิ๋ว จากนั้นเด็กทั้งสองเดินเข้ามากอดแจ็ค "ใจเย็นๆซิทั้งสองคน แต่ว่าผมของสองคนนี้---"
"ขอโทษที่ให้รอนานนะทาสุคุ แจ็ค" เสียงของมิโดริแทรกขึ้นก่อนจะถอดแว่นตาพร้อมรอยยิ้มออกมา
'เปลี่ยนไปมากเลยโดยเฉพาะใบหน้าที่ดูสดใสกว่าตอนนั้น แล้วก็...' ทาสุคุและแจ็คคิดในใจ
"มะ...ไม่นานหรอก ทะ...ที่จริงก็มาถึงเมื่อกี้เองน่ะ" ทาสุคุบอกไปให้ปกติที่สุด แม้ความจริงแล้วเขารอมาตั้งแต่รู้ว่าเธอกำลังจะมาถึงอีกสามสิบนาทีเท่านั้น โดยก่อนที่จะมาถึงแจ็คยังบอกเขาว่าให้รอก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลา เหลือเวลาอีกมากที่จะไป แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็รอไม่ฟังแล้วมารอที่หน้าสนามบินนี่แหละ (เอาง่ายๆคือเหมือนเขารีบอ่ะ รีบมาด้วยความคิดถึง---อุ้ย!)
"ทาสุคุ พวกเรากลับบัดดี้โพลิสกันเถอะมีงานที่นั่นด้วยไม่ใช่เหรอ?" แจ็คพูดขึ้นเพื่อตั้งสติคู่หูของตนที่มองอีกฝ่ายไม่กระพริบ
"จะ...จริงด้วยซินะ"
ศูนย์บัดดี้โพลิสญี่ปุ่น
ด้านในห้องของผู้บัญชาการบัดดี้โพลิส กองเอกสารจำนวนมากเกือบเต็มโต๊ะของเจ้าของห้อง ประตูถูกเลื่อนเปิดอัตโนมัติโดยชายหนุ่มผมฟ้าใช้บัตรเข้ามาในห้องพร้อมกับไฟภายในที่สว่างขึ้น ทั้งสี่คนเข้ามาในห้อง เด็กชายหญิงสองคนสำรวจมองภายในห้องที่ดูเรียบร้อยก่อนจะมาเห็นกองเอกสารบนโต๊ะที่เรียงอยู่แล้ววางกระเป๋าลงข้างโซฟาแล้สเดินเข้าไปหยิบเอกสารคนละเล่ม
"มิวามาริ ชินทาโร่ ทำไมดูเอกสารของทาสุคุแบบนั่นละคะ" มิโดริเดินมาถามเด็กสองคนใกล้ๆ
"เอกสารอันนี้น่ะครับคุณแม่ ผมว่าถ้าจัดกิจกรรมให้บัดดี้ไฟท์เตอร์แข่งกันในงานผมว่าควรจัดเป็นการแข่งแบบให้สู้พร้อมกันไปเรื่อยๆแล้วให้สองคนสุดท้ายแข่งกันไปดีกว่าเหรอครับ"ชินทาโร่เอ่ยถามโดยหันกลับมามองมิโดริด้วยความสงสัย
"แล้วก็เอกสารนี้น่ะค่ะคุณแม่ หนูว่าเรื่องการวิจัยในการพัฒนาเรื่องบัดดี้ไฟท์ให้ผู้เล่นดูสนุกยิ่งขึ้นก็ดีเหมือนกันนะคะ" คราวนี้เสียงของมิวามาริเอ่ยตาม ทำให้ทาสุคุตกใจไม่น้อยที่ทั้งสองต่างวิเคราะห์งานได้ดีไม่น้อย
"อ่ะ...เอ่อ มิวามาริกับชินทาโร่คงไม่รบกวนงานของคุณใช่ไหมคะ?"มิโดริยิ้มแห้งกับอีกฝ่ายแต่ทาสุคุส่ายหน้าไปมาพลางยิ้มออกมาบางๆแล้วบอกกับเธอ
"ไม่หรอก ที่จริงรับฟังความคิดจากสองคนนี้แล้วก็ดีเหมือนกันนะ"เขาเดินมานั่งที่เก้าอี้ของตนเองแล้วยื่นเอกสารเล่มหนึ่งให้อีกฝ่าย "แล้วนี่ก็คือเอกสารที่เมื่อวานฉันพิมพ์บอกเธอไป"
"เข้าใจแล้วล่ะ มิวามาริกับชินทาโร่เองก็เล่นบัดดี้ไฟท์รอแม่ก่อนนะคะ" เธอตอบรับก่อนจะบอกลูกทั้งสองที่กำลังอ่านเอกสารที่ตอนนี้อ่านเล่มที่ห้าอยู่(แถมเขียนโน๊ตด้วยนะ)
"ค่ะ~/ครับ..."เด็กทั้งสองตอบรับก่อนจะคืนเอกสารให้ทาสุคุแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาเพื่อรอแม่ตามที่บอก
"มิวามาริกับชินทาโร่ก็ดูมีนิสัยแบบเธออยู่ด้วยซินะ"ทาสุคุพูดติดตลกแถมมองมิโดริด้วย
"ขอบคุณสำหรับคำพูดเมื่อกี้ก็แล้วกันนะคะ"
โดยขณะที่สองหัวหน้าบัดดี้โพลิสตรวจเอกสารบนโต๊ะ สองพี่น้องชายหญิงครอบครัวริวเอ็นจิพร้อมกับร่างของหญิงสาวผมสั้นสีขาวที่ถือถาดถ้วยชาเข้ามา
"พี่มิวามาริ! ชินทาโร่!"เสียงของเด็กชายหญิงร้องขึ้นเพราะเห็นพี่และเพื่อนของตนมาด้วย
"พวกเธอคือซาคุกับซาฟีนที่คุณแม่พูดถึงซินะคะ ว่าแต่รู้จักชื่อพวกฉันได้ยังไง?" มิวามาริตอบก่อนจะถามสองพี่น้องคู่นี้ด้วยความสงสัย
"อ้อ! เรื่องนั้นคุณพ่อบอกพวกเรามาน่ะทั้งเรื่องที่พี่มิวามาริเป็นบัดดี้โพลิสวัยเยาว์ที่อเมริกาครับ"
"แล้วก็เรื่องที่ชินทาโร่เป็นนักดนตรีแล้วก็เป็นบัดดี้ไฟท์เตอร์สาขาอเมริกาด้วยน่ะค่ะ แล้วก็ทำไมพี่มิวามาริถึง?"
"เรื่องนั้นคุณแม่ก็พูดถึงพวกเราเหมือนกันนั่นแหละ...ว่าทั้งคู่เองก็เป็นบัดดี้ไฟท์เตอร์เหมือนกับพวกเราน่ะครับ"
สองหัวหน้าบัดดี้โพลิสหนุ่มสาวถึงกับตกใจเล็กน้อยที่เรื่องข้อมูลเรื่องลูกแต่ละคนถูกบอกออกไปแบบนั้น แต่ก็เอาเถอะ เพราะเรื่องที่ลูกๆบอกไปน่ะ...
"แต่ว่าทำไมมาแค่พี่มิวามาริกับชินทาโร่ล่ะ เห็นว่าพวกพี่มีน้องอีกสี่คนไม่ใช่เหรอคะ?"
"เรื่องนั้นน่ะเห็นคุณแม่บอกว่าติดงานที่อเมริกากับพ่อน่ะเลยมาไม่ได้ ก็เลยให้ฉันกับพี่มิวามาริมากับคุณแม่...ที่โดนใครไม่รู้ช่วยงานที่ญี่ปุ่นนี่ซิ ทั้งๆที่งานก็เยอะอยู่แล้วแท้ๆ"
"นั่นซินะ พวกผู้ใหญ่บางคนก็แบบนี่แหละนะ"
ฉึก!-–—เหมือนเข็มแทงเข้ามาในใจไปอีก แต่ว่ามันเจ็บไปนะเด็กพวกนี้!?
"กาแฟกับคาปูชิโนค่ะ"เสียงของโซเฟียเอ่ยพลางวางถ้วยกาแฟและคาปูชิโนร้อนลงบนโต๊ะ แต่ทั้งคู่ก็รู้ว่าก่อนหน้านั้นเธอแอบขำเรื่องเมื่อกี้ด้วย เห็นนะ(คุณ)โซเฟีย
"แม่ครับ ผมออกไปเล่นบัดดี้ไฟท์กับพี่มิวามาริกับชินทาโร่ก่อนนะครับ"ซาคุบอกโซเฟียก่อนเธอจะตอบตกลงก่อนที่จะเดินออกไปเล่นข้างนอก หลังจากที่พวกเด็กๆออกไปแล้ว บรรยากาศกดดันจึงเข้ามาแทนที่
"ว่าแต่คุณคะ งานเรื่องนั้นที่จะเริ่มพรุ่งนี้น่ะ"โซเฟียเดินเข้าไปถามทาสุคุ
"ฉันคงจะทำงานนั้นนั่นแหละ เพราะมิวามาริจังเสนองานและก็รายละเอียดอื่นๆ...ฉันก็ไม่ปฏิเสธแล้วล่ะ" ทาสุคุตอบพรางยิ้มให้อีกฝ่าย แต่โซเฟียนี่ซิถึงกับตกใจเพราะคำพูดของทาสุคุบอกจะทำงานนี้เพราะลูกของมิโดริเสนอมางั้นเหรอ!? พอเธอหันกลับมามิโดริกลับทำหน้าเป็นไม่รู้ไม่ชี้ซะงั้น
"ตกลงค่ะ งั้นฉันจะไปบอกเรื่องนี้ให้ท่านเคียวยะก็แล้วกันนะ" โซเฟียตอบก่อนจะเดินหยิบเอกสารเล่มหนึ่งไปโดยเธอมองทั้งสองตาเขียว หลังจากเธอออกไปแล้วทาสุคุและมิโดริถอนหายใจเฮือกใหญ่
งานวิจัยบัดดี้ไฟท์ถูกจัดขึ้นที่ศูนย์บัดดี้โพลิสญี่ปุ่น เสียงของกล้องถ่ายรูปมากมายถูกถ่ายขณะที่หลังจากกล่าวเสร็จสิ้น อีกด้านหนึ่งในห้องของผู้บัญชาการของบัดดี้โพลิสญี่ปุ่น ร่างของมิโดริที่กำลังตรวจสอบความปลอดภัยของงานอย่างเคร่งเครียดพร้อมกับเอกสารมากมายที่เพื่อนของเธอฝากมา (นั่นก็คือทาสุคุเอง) ประตูถูกเลื่อนอัตโนมัติปรากฏร่างของบุคคลสองคนที่เข้ามาด้านในห้อง มิโดริที่เห็นถึงกับตกใจเพราะว่า...
"ชุดนี้เป็นยังไงบ้างครับ/คะ คุณแม่!"มิวามาริในชุดกระโปรงยาวแขนกุดสีม่วงอ่อนลายดอกกุหลาบสีฟ้าและชินทาโร่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มแขนกุดเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงสีเทา ที่การแต่งตัวของลูกของเธอคือเลิศมาก!
"แต่ว่าทำไมลูกๆถึง..." ใส่ชุดนี้กัน...คำสุดท้ายนี่เธออยากถามมากเพราะก่อนหน้านี้เธอบอกให้ใส่ชุดของทางบัดดี้โพลิสอเมริกาเตรียมให้
"เอ๊ะ!?...ก็คุณพ่อบอกว่าให้ผมกับพี่ใส่ชุดนี้นิครับ บอกว่าจะให้บริษัทมีคนเข้าร่วมงานอะไรซักอย่างมากขึ้นน่ะครับ"ชินทาโร่ตอบแล้วมิวามาริพยักหน้าเห็นด้วย มิโดริถึงกับกุมหัวขมับ'ให้ตายเถอะนะ แต่ก็เอาเถอะ'
"งั้นลูกช่วยรอแม่หน่อยนะคะ อีกนิดเดียวแม่จะทำงานเสร็จแล้วนะ"
"ให้ผม/หนูช่วยด้วยนะคะ"มิวามาริและชินทาโร่พูดจบก็รีบเดินเข้ามาหยิบเอกสารบางเล่มแล้วช่วยเธอจริงๆ
มิโดริเห็นแบบนั้นถอนหาบใจเบาๆแล้วคิดในใจ'นึกถึงเราตอนเด็กๆเลยนะ ตอนนั้นเราก็ช่วยเขาตอนที่เขายุ่งๆด้วยนิเนอะ
"แม่คะ/ครับ เอกสารเสร็จแล้วค่ะ/ครับ"เสียงของมิวามาริและชินทาโร่ดังขึ้น ทำให้มิโดริที่พึ่งทำเอกสารเสร็จแค่เล่มเดียวถึงกับตกใจและคิดในใจว่า 'เสร็จตอนไหนเนี่ย!?'
ติ๊ดๆๆ!!!
สัญญาณเตือนแถบสีแดงบนจอภาพโน้ตบุ๊คดังขึ้นพร้อมกับสัญญาลักษณ์ใบหน้าบัดดี้ของเธอปรากฏขึ้นด้านล้างมุมขวา ดวงตากลมโตเบิกโตตกใจแถมความรู้สึกใจหายบางอย่างเข้ามาแทนที่'สังหรณ์ใจไม่ดีเลย' มือเรียวบางกดแถบสัญลักษณ์ใบหน้าของบัดดี้ แต่ความรู้สึกของเธอที่คิดว่าไม่เป็นจริงนั้นกลับเกิดขึ้นจริงๆ
"มิโดริเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!"เสียงของยูอิบัดดี้ของเธอเล่าเหตุการณ์บางอย่างขึ้น เธอรีบลุกขึ้นพร้อมบอกเหตุการณ์ให้กับลูกของเธอ ภายในใจตอนนี้เดือดไปหมด 'ใครทำกับเพื่อนของเขา เธอจะไม่ปล่อยไว้แน่'
มิโดริวิ่งมาถึงหน้าสำนักงานบัดดี้โพลิสเห็นเพื่อนของเธอและโซเฟียกำลังกล่อมลูกสองคนที่กำลังร้องไห้
"ทาสุคุ เล่าเรื่องรายละเอียดให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม"เธอถามทาสุคุ
"มีคนลอบจะฆ่าซาคุ"คำตอบนั่นทำให้เธอโกรธยิ่งกว่าเดิม
"ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่ว่า--"
"ฉันให้มิวามาริกับชินทาโร่ตามไปแล้วล่ะแต่ว่าฉันจะไม่ยกโทษให้มันแน่" น้ำเสียงมิโดริเยือกเย็นมากขณะเดียวกันดวงตาจากสีฟ้ากลายเป็นสีเขียวและรังสีอัมหิตแห่งความอาฆาตแผ่ออกมา
"เรื่องคนที่ลอบฆ่าลูกของนายให้พวกฉันจัดการเองค่ะ มิวามาริ ชินทาโร่....ออกปฎิบัติการฉุกเฉิน!"เธอตอบก่อนที่จะขอตัวออกไป
รถบัดดี้โพลิสคันหนึ่งแล่นบนถนน ภายรถมีมิโดริเป็นคนขับและยูอิอยู่ข้างเธอ ข้อมูลเรื่องผู้ต้องหาปรากฏขึ้นบนจอภาพ มือเรียวกดเข้าเชื่อมต่อปลายสายไปยังลูกของเธอ
"มิวามาริ ชินทาโร่ ตอนนี้แม่ได้ข้อมูลของผู้ต้องหาแล้วเดี๋ยวจะส่งไปให้นะ"
"รับทราบค่ะ/ครับ!" เสียงจากปลายสายตอบรับจึงส่งข้อมูลไปและติดต่อสายถึงบัดดี้โพลิสอเมริกา
ผ่านมาแล้วหลายชั่วโมงในการตามหาตัวคนร้ายที่ลอบสังหารลูกชายของผู้บัญชาการบัดดี้โพลิสที่ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวและลูกๆของเธอยังไม่ได้ติดต่อขึ้นมา และไม่นานหลังจากนั้น...เสียงเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้น มือเรียวกดปุ่มรับปลายสายของลูกชายตนเองแต่สิ่งที่เธอได้ยินเป็นคำตอบที่ทำให้เธอแทบล้มทั้งยืน
"แม่ครับ...ผมจับผู้ก่อเหตุได้แล้วครับแต่ว่า..."
...เสียชีวิตแล้ว...
อีกด้านหนึ่งดวงตาสีฟ้าเป็นเขียวมรกตเมื่อกระทบกับแสง เด็กชายมองร่างของบุคคลทั้งสองผู้ก่อเหตุที่บัดนี้นอนแน่นิ่งบนพื้น กลิ่นคาวเลือดและชีพจรที่นิ่ง รวมถึงไอเย็นที่สัมผัสบ่งบอกว่าคนที่นอนอยู่ในสภาพอะไร สายลมพัดมาชั่วขณะและความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทนที่ มือเล็กทุบบนพื้นครั้งหนึ่งด้วยความหงุดหงิด ทั้งๆที่เขาอยากให้อีกฝ่ายยอมรับแท้ๆ ก่อนที่เด็กชายจะเดินออกไป
หลังเหตุการณ์นั้นพวกมิโดริกลับประเทศอเมริกาและสองพี่น้องครอบครัวริวเอ็นจิ เหตุการณ์นั้นยังสะเทือนใจทุกคนอยู่บ้างโดยเฉพาะครอบครัวริวเอ็นจิและตัวมิโดริ ซึ่งครั้งนี้มิโดริจะเป็นส่วนรับผิดชอบเหตุการณ์นี้แทนลูกๆทั้งสอง ที่ต้องทำงานผิดพลาดและแน่นอนว่ามันทำให้ชื่อเสียงของผู้บัญชาการบัดดี้โพลิสลดลงและแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด
คฤหาสต์ครอบครัวทากาสุงิ
"แม่ครับ งานนี้ผมขอทำงานได้ไหมครับ"เสียงของชินทาโร่ดังขึ้นทำให้มิโดริที่ทำงานอยู่เงยหน้ามองลูกชาย
"ชินทาโร่ ทำไมถึง?"มิโดริถามลูกชายตนเองด้วยความสงสัย
"เหตุการณ์นั้นผมเป็นต้นเหตุให้คนคนนั้นต้องตายเองครับ แต่ผมอยากสืบหาสาเหตุของเรื่องนี้ครับ"ชินทาโร่ตอบด้วยน้ำเสียงและแววตาที่หนักแน่น แต่ความรู้สึกมิโดริไม่อยากให้ลูกๆเข้ามาอันตรายแต่พอเห็นสายตานั่นแล้วทำให้นึกถึงตัวเธอสมัยก่อน
"เข้าใจแล้วล่ะ งั้นแม่คงต้องให้สิ่งนี้ก็แล้วกัน"มิโดริถอนหายใจเบาๆแล้วเปิดลิ้นชักโต๊ะของตนหยิบเด็คหนึ่งออกมา มือเล็กของชินทาโร่หยิบเด็คนั้นออกมา ดวงตาของชินทาโร่เบิกตาโตด้วยความตกใจ
"นี่คือ..."
"มันคือเด็คDark Holy Worldที่ครั้งหนึ่งแม่เคยต่อสู้และสร้างมันขึ้นมาเพื่อในวันหนึ่งจะได้ใช้ต่อกรกับความมืด ถึงไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรมากหรือเปล่านะ"มิโดริยิ้มแห้งๆแต่ก็ดีกว่าไม่ช่วยอะไรเลยล่ะนะ
"ขอบคุณมากครับแม่"
"เขาคือสมาชิกใหม่ของพวกเรา ออร์คัส"ชายคนหนึ่งแนะนำเด็กชายคนหนึ่งภายใต้หน้ากากสีขาวในชุดเสื้อแขนยาวสีดำทับเสื้อเชิ้ตสีขาวและเนกไทสีดำ
"ผมคือ 'ออร์คัส' ผู้จะมอบความตายให้ผู้คนในความมืด"
มันเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆของชายที่ชื่อทากาสุงิ ชินทาโร่ด้วยเช่นกัน
กว่าจะปั่นจนจบได้ แต่ถ้ามีข้อผิดพลาดก็ข้อโทด้วยเน้อเนื่องจากคำพิมพ์มีจำกัดด้วย
ความคิดเห็น