ณ สถานที่แห่งหนึ่งบนโลกนี้ที่ไม่มีมนุษย์คนไหนรู้จัก เมฆหมอกยามค่ำคืนเบาบางจนแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามามีความเข้มข้นค่อนข้างมาก ปรากฏการณ์ทินดอลล์ที่เกิดขึ้นทำให้เห็นแสงจันทร์เป็นแท่งๆ ราวกับสามารถจับต้องได้ง่าย ภายใต้แสงจันทร์นั้นมีแท่นประหลาด เหมือนว่าตั้งไว้เพื่อการบูชายัญโดยเฉพาะ หากมองไกลๆ ล่ะก็จะเห็นมันเป็นสีดำเลื่อมราวกับเหล็กกล้าชุบสี และจะไม่มีทางรู้แน่ว่าความจริงแล้วแท่นนั่นเป็นสิ่งที่ควรจะจับต้องไม่ได้ อะไรกันล่ะที่เป็นสีดำแต่ไม่อาจสัมผัส
มันคือเงานั่นเอง
ทั้งๆ ที่มันเป็นเพียงสิ่งที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางแสงเท่านั้น
และยังมีอีกหนึ่งอย่างที่จะเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ใครเห็นแล้วจะต้องไม่เชื่อสายค่าตันเองแน่
เมื่อเงานั้นมันสามารถลอยอยู่บนพื้นได้...
นอกจากนั้นแล้วมันยังรัดร่างสาวน้อยคนหนึ่งเอาไว้ด้วย สาวน้อยที่แทบจะทำให้ลืมปรากฏการณ์เงาประหลาดนั้นได้เลย
ร่างของเธอนั้นเปลือยเปล่า มีเพียงผมสีเงินเท่านั้นที่ยาวลงมาปิดจุดสำคัญเอาไว ้ริมฝีปากจิ้มลิ้ม ที่ในอดีตน่าจะเป็นที่ใฝ่ฝันของชายส่วนใหญ ่กับผิวขาวเนียนราวหิมะ ส่วนเว้าส่วนโค้งที่ได้มาตรฐาน และอีกหลายอย่างที่ทำให้ใครก็ไม่สามารถละสายตาได้
เธอยังคงหลับตาพริ้มถึงแม้ว่า ร่างหล่อนจะพันโดยระยางเงาก็ตาม แพขนตาสีเดียวกับเส้นผมยังคงแน่นิ่ง
จนเวลาล่วงเลยไปนาน เมฆหมอกที่เบาบางอยู่แล้วก็หายไป และนั่นทำให้แสงจันทร์สีน้ำเงินค่อยๆไล่ไปตามผิวขาวเนียนของเธอ และเส้นผมสีเงิน จนมันเปลี่ยนจากสีเงินกลายเป็นเงินประกายฟ้าไปเลย
ทันใดนั้นก็เกิดสัญลักษณ์หน้าตาประหลาดขึ้นที่บริเวณหน้าผากของเธอ มันเป็นลูกศรที่มีหน้าตาพิลึกขดม้วนไปมา ที่ตรงกลางมีตัวอักษรที่ไม่รู้จักคั่นเอาไว้ ที่สำคัญ สัญลักษณ์นั้นมันสามารถเรืองแสงได้ และยังคงส่องกระพริบอยู่ตลอดเวลา
ทันใดนั้น เด็กสาวประหลาดคนนั้นก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นราวกับรอเวลานี้อยู่แล้ว
นัยน์ตาของเธอเป็นสีน้ำเงินคู่สวย เธอค่อยๆขยับตัวออกเพื่อให้หลุดจากพันธนาการเงานั่น แม้ว่ามันจะไม่ได้ผล แต่เธอก็ยังคงพยายามต่อไป จนในที่สุดเธอก็สามารถหลุดออกมาได้ แล้วค่่อยๆขยับออกมาราวกับเกรงว่าเงานั้นจะตื่นขึ้น เธอกระโดดลงมาจากแท่นลอยได้นั่นแล้วลงมาที่ทางเดิน แต่ทว่าจู่ๆ เส้นทางที่เหมือนง่ายนั้นกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด
เมื่อมันมีเศษใบไม้จากที่ไหนไม่รู้อยู่เต็มทางไปหมด ราวกับเป็นกับดักที่รอไว้อยู่แล้ว ที่สำคัญมองไปทางไหนก็พบเพียงเส้นเงาที่มีอยู่มากมาย ทั้งที่หนาวจะแย่แต่การที่ต้องเดินตัวเปล่านั้นเล่นเอาเฉียบไปถึงกระดูก
อย่างน้อยเธอก็ควรหาอะไรใส่หน่อย
อย่างน้อยในใบไม้ก็น่าจะมีเส้นใย
แล้วใบไม้ลอยขึ้นจากพื้นได้อย่างอัศจรรย์ จากนั้นจึงค่อยๆสลายจนเหลือแต่กากใย สานต่อกันจนเป็นผ้าสีขุ่นที่มีเนื้อหยาบ ซึ่งอย่างน้อยมันก็ช่วยให้เธออบอุ่นขึ้นหน่อยน่ะแหละ เธอเอาผ้านั้นห่อหุ้มร่างกายเอาไว้แล้วโดยต่อไปเรื่อยๆ แต่ทว่าเดินไปเท่าไร เธอก็พบเพียงแค่ระยางเงาทึ่มีมากมายเต็มไปหมด
แต่เธอไม่ควรมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ เวลานั้นมีไม่มากพอ เธอยังไม่พร้อมจะต่อสู้ กำลังที่เธอมีในตอนนี้นั้นยังมีไม่พอ ที่สำคัญคือเธอไม่สามารถทำอะไรได้มาก ที่นี่เป็นสถานที่ที่เธอค่อนข้างจะเสียเปรียบ จนมาสิ้นสุดอยู่ที่ๆหนึ่ง...
ที่ตรงหน้าชายผู้หนึ่ง ชายคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้มากที่สุด เขามีดวงตาสีน้ำเงิน ผมสีเงินของเขายาวประมาณท้ายทอย ใบหน้าที่เหมาะกับคำว่าสวยมากกว่าคำว่าหล่อ
เขากำลังจ้องมาที่เธอราวกับว่ามีเคยมีความแค้นบางอย่าง
ทั้งคู่ไม่มีการโต้ตอบหรือพูดคุยกัน สายตาของฝ่ายชายนั้นมองเธอด้วยสายตาที่น่ากลัว ส่วนเธอมองเขาด้วยแววตาเศร้าสร้อยตัดพ้อ
ทั้งคู่ไม่มีการขยับเขยื้อนจนในที่สุด เงารอบๆตัวพุ่งเข้าใส่สาวน้อยจนเธอต้องกระโดดหลบ
ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนั้นต้องเป็นคนที่ควบคุมเงาได้แน่ๆ
ฝ่ายผู้หญิงจึงป้องกันตัวด้วยการสร้างเกราะกำบังที่ใสจนมองไม่เห็น แล้วจึงตัดสินใจวิ่งหนี ฝูงเงาที่จู่โจมเข้ามา แต่ทว่ามีเส้นเงาอันหนึ่งดักเธอไว้ เธอตัดสินใจกระโดดหลบ แต่ก็ไม่อาจพ้นเงาอีกอันที่พุ่งเข้ามาได้ เธอถูกแทงที่เอว ไม่สิ ต้องเรียกว่าเฉือนถึงจะถูก โชคดีที่เธอเร็วพอที่จะหลบจึงไม่โดนแทงอย่างที่คิด
แสงจันทร์สาดส่องกระทบกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวเธอ
มันงดงามมาก...
แสงจากสัญลักษณ์ที่หน้าผากเธอยังคงเปล่งประกาย จนมันแยงตา
และนั่นก็ช่วยเตือนสติเธอว่าไม่ควรมาเสียเวลาที่นี่
ต้องรีบหาทางหนี...
เมื่อกี้เธอแค่ไม่ทันตั้งตัวและยังขาดสมาธิ คราวนี้เธอต้องตั้งสติ ต้องตั้งสติก็แค่นั้น
เหล่าแสงจันทร์รวมแสงกันมาหาเธอ จนเหมือนกับว่ามันเป็นของเธอเพียงคนเดียว มันวนรอบๆเธอหลายครั้ง เงายังคงหาจังหวะเล่นงานอยู่ จนเมื่อเขาเพียงกระพริบตาเท่านั้น ทั้งเธอทั้งแสงที่อยู่รอบตัวเธอเมื่อครู่ก็หายไปจนหมดเหลือเพียงความเงียบ
"ตามไป"
เงาทั้งหมดกลับมาหาเขา เลื้อยเข้ามารอบตัวจนรูปร่างคล้ายกับดอกไม้หุบแล้วเขาก็หายไป
แสงจันทร์ยังคงงดงาม และที่สะท้อนบนผิวขรุขระบนใบไม้แห้งก็ดูสุกสกาว ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิต ระยางเงาที่เคยมีก็หายไปจนหมด ลมอ่อนๆพัดโชยมา เหลือเพียงความอ้างว้างของสถานที่แห่งนั้นที่ได้กักขังเด็กสาวมากถึงหลายสิบปี!
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น