คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตำนานบทที่ VII : อัศวิน ปะทะ ! ทหารรับจ้าง
-- ตำนานบทที่ VII : อัศวิน ปะทะ ! ทหารรับจ้าง --
-- กองอัศวิน ‘มังกรแห่งเซเรียส’
เคร้ง ! เคร้ง ! เคร้ง ! เสียงคมดาบปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ! ... เหล่าอัศวินทั้งหลายกำลังซ้อมยามเย็นกันอย่างตั้งใจ โดยแต่ละคนจะจับคู่และเริ่มต่อสู้กัน เอลวิสนั้นจับคู่กับโครโน่ ส่วนมิสนั้นจับคู่กับรีเบล ! ... เพราะว่าผู้หญิงคนอื่นนั้นมีคู่กันหมดแล้ว และการจะเอามิสซึ่งเป็นผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาใหม่ไปซ้อมกับพวกผู้ชายหิน ๆ มันก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก ตอนแรกเชสเตอร์อัศวินหนุ่มอาสาจะซ้อมกับเธอซะด้วยซ้ำ แต่ว่าโครโน่ดันแย้งขึ้นมา ‘มิสเพิ่งเข้ามา จะให้ซ้อมกับผู้ชายเลยคงไม่เหมาะนะครับ !’ ... และนั่นก็ทำให้เชสเตอร์อดเป็นคู่ซ้อมกับสาวน้อยคนนี้เลย
“... กรอด ... ไอ้บ้าดาบควายนั่น ไม่น่าสะเออะพูดขึ้นมาเลย ไม่งั้นชั้นได้คู่กับมิสจังไปแล้ว ...” เชสเตอร์พึมพำขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับคู่ซ้อมของเขา ซึ่งเป็นอัศวินที่รุ่นราวคราวเดียวกัน
ทางด้านโครโน่นั้น “ฮะ ฮะ ฮะ ! สะใจเป็นบ้าเลย ~ ตอนได้เห็นสีหน้าเจ้านั่นน่ะ ...” วูบ ! ตึง ! โครโน่บอกเอลวิสด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกำลังสะใจอยู่ ก่อนที่คมดาบยักษ์ของเขาจะฟาดลงมาที่ด้านหน้าของเอลวิส เอลวิสเด้งตัวหลบออกไปแล้วเข้าประชิดตัวโครโน่
เคร้ง ! ... โครโน่ยกดาบขึ้นกันไว้ได้ทันท่วงที “บังอาจมายุ่งกับมิสจังของ ‘พวกเรา’ ... แต่สุดท้ายก็อด !” วูบ ! เปรี้ยง ! ... โครโน่ยกดาบแล้วใช้ด้านตัวดาบฟาดเข้าที่ไปกลางลำตัวของเอลวิส แต่เอลวิสก็ยกดาบขึ้นต้านไว้แล้วรีบเบี่ยงตัวหลบออกไป เพราะการวัดแรงกับโครโน่นั้นไม่ใช่เรื่องฉลาดเอาเสียเลย
“... ‘พวกเรา’ ... นายหมายความว่ายังไงกัน ? ...” วูบ ! เคร้ง ! เคร้ง ! เคร้ง ! ... เอลวิสเอ่ยถามแล้วยกดาบขึ้นปะทะกับโครโน่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการโจมตีต่อเนื่องนี้คือการโจมตีแบบที่เอลวิสถนัด และมันกดดันโครโน่พอสมควร เพราะด้วยขนาดดาบที่ใหญ่ของโครโน่ ทำให้ไม่สามารถรับการโจมตีติด ๆ กันได้หลายครั้ง ซึ่งเอลวิสคงจะมองถึงจุดนี้ออก เขาจึงมุ่งแต่การใช้การโจมตีต่อเนื่อง
อึก ... ! ... “ก็นะ ... มิสจังก็เป็นอัศวินรุ่นเดียวกับเรา ก็ต้องเป็นของ ‘พวกเรา’ สิ ! ... หรือว่านายจะบอกว่านายไม่สนใจมิสจังเลย !” โครโน่ยิ้มทะเล้น แม้ว่าจะเริ่มรับการโจมตีของเอลวิสได้ลำบากมากก็ตามที
“... ใช่ ชั้นไม่สน ...” เปรี้ยง ! ... เอลวิสยกดาบขึ้นฟาดเข้าไปที่ดาบยักษ์ของโครโน่อย่างแรง โครโน่ที่อึ้งกับคำตอบที่แสนจะชัดเจนเลยเผลอออมแรงไปชั่วขณะ พอเอลวิสฟาดดาบเข้าไปอย่างแรงก็ทำให้มือของเขาชาไปพักหนึ่งเลยทีเดียว
“โกหก ... !”
“ชั้นพูดจริงโครโน่ !” เปรี้ยง ! ดาบของเอลวิสฟาดซ้ำลงไปอีกครั้ง จนมือซ้ายของโครโน่หลุดออกจากดาบ ...
ตอนนี้โครโน่จึงต้องต่อสู้ด้วยมือข้างเดียว ! ... วูบ ! ... ฉับพลันโครโน่ก็ยกดาบยักษ์ขึ้นด้วยมือข้างเดียว แววตาของเอลวิสเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจในพลังของชายตรงหน้า เปรี้ยง ! ตู้ม ! ... ดาบยักษ์ฟาดลงมาทำให้พื้นหินแตกกระจาย ! ...
ชิ ! เอลวิสสบถแล้วถอนตัวออกมาให้พ้นระยะดาบของโครโน่ “... นายนี่บ้าพลังสุด ๆ เลย ... โครโน่ ...” เอลวิสเอ่ย ไม่รู้ว่าชมหรือด่ากันแน่ ? ... เอลวิสตั้งท่าอีกครั้ง
“ชั้นจะถือว่านั่นเป็นคำชมละกัน ...” หมั่บ ... โครโน่จับดาบยักษ์ของเขาด้วยสองมืออีกครั้ง ตอนนี้อัศวินรุ่นพี่หลาย ๆ คนเริ่มมาล้อมวงดูทั้งสองสู้กันแล้ว แม้แต่หญิงสาวนาม ‘มิส’ และ ‘รีเบล’ ด้วย ...
“... (แล้วชั้นจะเชียร์คนไหนดีเนี่ย ? ... )” มิสคิดในใจแล้วค่อย ๆ ถอดสนับมือของตนออก เอลวิสและโครโน่จ้องหน้ากันอยู่พักหนึ่ง ... และยังไม่มีฝ่ายไหนขยับตัว
“สู้เขา ! โครโน่ , เอล !! ...” เสียงของมิสดังขึ้น วูบ ! ... ทันใด ร่างของทั้งสองก็พุ่งเข้าหากันทันที โครโน่ยกดาบยักษ์ของตนขึ้นเหนือศีรษะ เอลวิสลากดาบไปดาบพื้นแล้วทำท่าจะเหวี่ยงขึ้นต้านการโจมตีของโครโน่ !
ย๊ากกกก ! ! ...
ทั้งสองคำราม ... เคร้ง ! เคร้ง ! เปรี้ยง ! ตู้ม ... ! เปรี้ยง ! เคร้ง ! โอ้ย ! ... เข้ามา ! ... อึก ! อั่ก ! .... การต่อสู้ดำเนินต่อไปอีก ... ราว ๆ ชั่วโมงนึง ...
“แฮ่ก ... แฮ่ก ...” เอลวิสนั่งอยู่ที่พื้นโดยมีโครโน่นอนหอบอยู่ข้าง ๆ เขา ... สภาพย่ำแย่พอกัน ... สรุปว่าไม่มีผู้ชนะ ผู้ชมรอบ ๆ มีสีหน้าไม่พอใจ หลังจากนั้นจึงพากันแยกย้ายกันไปพักผ่อน ส่วนมิสและรีเบลก็ยังยืนมองสภาพของทั้งคู่อยู่ “... นาย ... ไม่เลวเลย โครโน่ ... แฮ่ก ...” ตุบ ! ... เอลวิสเอ่ยพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ โครโน่
“แฮ่ก ... นะ ... นายก็เหมือนกัน ...” โครโน่พูดไปหอบไป ... “ดาบนายก็เล็กกว่าของชั้นตั้งเยอะ ... แต่ทนดาบชั้นได้ยังไงก็ไม่รู้สิ ...” โครโน่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นดันไปสะกิดใจรีเบล ...
“เจ้าหนู ... ขอดูดาบของนายหน่อยซิ !” รีเบลสั่งแล้วค่อย ๆ นั่งยอง ๆ มองหน้าเอลวิสที่นอนสิ้นสภาพอยู่ตรงหน้า เอลวิสพยักหน้าเล็กน้อยแล้วส่งดาบของตนให้กับรีเบลดู ...
รีเบลรับมันมาแล้วเริ่มพิจารณาดาบของเอลวิส ... “... (โลหะนี้ไม่เคยเห็น ... คมมาก แล้วยังแข็งอีก ... หน้าตาก็ประหลาด แล้วยัง ... ลูกแก้วนี่อีก ... )” รีเบลคิด ... มือของเธอสัมผัสลูกแก้วสีม่วงที่ติดอยู่บริเวณกระบังดาบเบา ๆ อย่างสนใจ พอเธอดูจนพอใจแล้วเธอก็ส่งมันคืนให้กับเอลวิส “ขอบใจ” ตึก ตึก ... รีเบลพูดเรียบ ๆ แล้วก้าวฉับ ๆ กลับเข้าป้อมทันที ...
“... เอลวิส คืนนี้นายมีแผนจะไปไหนหรือเปล่า ? ...” โครโน่ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วถามเขา “มิสจังด้วย ...”
“..........” เอลวิสนิ่งไปครู่หนึ่ง ... แน่นอนว่าเขายังไม่ลืมว่าเขามีนัดกับหญิงสาวผู้งดงามนาม ‘แคร์เทียร่า’ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากจะปฎิเสธน้ำใจเพื่อน “ตอนไหนล่ะ ? ... ถ้าให้ออกมาตอนดึกชั้นขอบาย” ... เอลวิสว่าแล้วค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ...
“ชั้นไม่มีอยู่แล้วจ๊ะ ! ... จะพาไปไหนเหรอ ?” มิสเอ่ยอย่างร่าเริงแล้วนั่งลง ...
“... ไปหาพวกทหารรับจ้างกันไหม ? พวกรุ่นพี่เขาบอกว่าไปคุยกับพวกทหารรับจ้างน่ะ ได้อะไรดี ๆ เยอะเลยนะ แล้วอาหารก็อร่อยด้วย ~” โครโน่ยิ้ม “ว่าไง ๆ ... สนใจไหม ?”
“สนจ้า ! ...” มิสรีบตอบแล้วยกมือขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“... ก็แล้วแต่ ...” เอลวิสตอบอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจ ...
“ตกลง ! งั้นอีกพักนึง มาเจอกันตรงนี้นะ !” โครโน่ , มิส และเอลวิสลุกขึ้นยืน จากนั้นพวกเขาจึงเดินเข้าไปในป้อมแล้วจัดการธุระส่วนตัวของตนจนเรียบร้อย ...
แกร่ก ! เอลวิสสวมชุดเกราะบางของตน แล้วเหน็บดาบไว้ด้านหลัง จากนั้นจึงสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำมีฮู้ดแบบเรียบ ๆ คงเอาไว้สำหรับพรางตัวยามค่ำคืนล่ะมั้ง ? ...
... ขืนไม่มีดาบเขาคงรู้สึกอันตรายตลอดเวลา ...
เอลวิสค่อย ๆ เดินลงมาจากห้อง โครโน่นั้นอาบน้ำด้วยความเร็วแสงแล้วลงไปรอก่อนแล้ว ส่วนมิส ... เอลวิสคาดว่าผู้หญิงคงจะอาบน้ำนาน แต่สำหรับหญิงสาวนาม ‘มิสเทรส วาโอเน่’ นั้น ... ความเร็วของเธอนั้นเร็วพอ ๆ กับโครโน่เลยทีเดียว ! ... เอลวิสจึงมีสีหน้าประหลาดใจพอดูที่เห็นมิสลงมานั่งรอพร้อมโครโน่ก่อนแล้ว อีกอย่าง ... ไม่รู้ว่าเธอทำได้ยังไง ? แต่เอลวิสคาดว่าคงจะเป็นความสามารถพิเศษของผู้หญิง มิสนั้นแม้ว่าจะอาบน้ำด้วยความเร็วพอ ๆ กับโครโน่ แต่ตัวเธอกลับหอมซะจนเหมือนกับว่าบรรจงอาบน้ำมาซักชั่วโมงนึงได้ เอลวิสเรียกมันว่า ‘ปริศนาที่มิอาจล่วงรู้คำตอบได้ของผู้หญิง’ ...
“มาช้าจังเลยนะ ! เอลคุง” มิสเอ่ยด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี แล้วลุกขึ้นจากก้อนหินที่เธอใช้ต่างเก้าอี้ ส่วนโครโน่นั้นยืนอยู่แล้ว เขาคงเป็นประเภทเดียวกับเอลวิส ... เพราะเขาพกดาบยักษ์ของเขามาด้วย
... หากไม่มีดาบ คงไม่อุ่นใจเท่าไรนัก ...
“งั้นเราไปกันเถอะ !” โครโน่เอ่ยแล้วเดินนำพวกเขาทั้งสองออกไปที่รั้ว ... ซึ่งต้องผ่านป่าสักเล็กน้อยจะถึงกองทหารรับจ้าง ‘กุหลาบรัตติกาล’ แซ่ก ... แซ่ก ... พวกเขาเดินผ่านพุ่มไม้ ซึ่งมิสออกจะลำบากสักหน่อยเพราะว่าเธอใส่กางเกงขาสั้นรัดรูปมา ขาของเธอเลยโดนกิ่งไม้ตามพุ่มไม้เกี่ยวเอาเล็กน้อย
“รอด้วยสิ โครโน๊ ! ...” มิสครางอย่างไม่พอใจ ก็แหงสิ ... เรียวขาของเธอ ... เธอรักษามันจะตาย มาโดนกิ่งไม้เกี่ยวแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกันเล่า !? โครโน่ก็ดูท่าทางจะเห็นใจเธอ เลยเดินถอยกลับมาเล็กน้อยแล้วให้เธอนั่งบนไหล่เขา “ขอบใจนะ โครโน่ ~”
“ไม่เป็นไรจ้า ~” โครโน่ตอบ เขารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างนิ่ม ๆ บริเวณไหล่ ... อา ... ช่างมีความสุขนัก จนสีหน้าของโครโน่ตอนนี้เริ่มใกล้เคียงกับคำว่า ‘ลามก’ เต็มทีแล้ว
เอลวิสมองหน้าโครโน่ยามนี้แล้วส่ายหน้าไปมาช้า ๆ “( บ้าพลัง ... แล้วยังลามกอีก )” เอลวิสคิดแล้วเดินตามหลังโครโน่ที่แบกมิสไปเรื่อย ๆ อีกสักพักคงจะถึง ... แต่ว่าโครโน่กลับค่อย ๆ วางมิสลง ... แล้วหมอบลงช้า ๆ มิสและเอลวิสหมอบลงตาม “เห็นอะไรโครโน่ ? ...”
“ชู่ว์ ...” โครโน่ให้สัญญาณว่าให้ ‘เงียบ’ แล้วคลานต่ำไปตามพุ่มไม้ ... โดยมิสและเอลวิสก็คลานตามไปอย่างงง ๆ จนโครโน่หยุด เอลวิสและมิสก็คลานขึ้นมาขนาบข้างโครโน่ และเขาก็เห็นจนได้ ... หญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังซ้อมดาบ ... ดาบคู่ซะด้วย ... กับต้นไม้ ! แต่พอดูแล้วเหมือนเธอกำลังระบายอารมณ์มากกว่า
“ไอ้บ้าอิอาซันเอ้ย ! ... ไอ้คนไร้ความรู้สึก ! นึกว่าแกเก่งมากจากไหนวะ ! ! ...” คำพูดคำจาของเธอนั้น บอกได้เลยว่าไม่มีความเป็น ‘ผู้หญิง’ เลยแม้แต่น้อย ผมสีเงินที่ปล่อยออกของเธอสะบัดไปมาตามจังหวะที่เธอสะบัดดาบคู่ และห่างออกไปไม่กี่เมตรนั้น หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีดำประกายแดงยืนกอดอกพิงต้นไม้มองรีรีสที่กำลังระบายอารมณ์อยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดูท่าทาง ... รีรีสจะซ้อมกับอิซ และทะเลาะกันอีกแล้ว รีรีสเลยมาระบายอารมณ์ตรงนี้ “อย่าให้ชั้นเก่งกว่าแกนะ ! ! ... ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกคนอื่นเลยโว้ย ! พูดออกมาได้ ! มาหาว่าชั้นไม่ใช่ผู้หญิง ! ! ... ชั้นก็ผู้หญิงเฟ้ย !”
ฉัวะ ! ! ! ... รีรีสฟาดดาบคู่ลงไปที่ต้นไม้ที่น่าสงสารอย่างแรงจนมันขาดครึ่ง แล้วค่อย ๆ ล้มลง ... ครืน ... ตึง ! ! ...
“สบายใจแล้วใช่ไหมรีรีส ?” ... จิลเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นว่าหญิงสาวน่าจะระบายอารมณ์เสร็จแล้ว สีหน้าของเธอนั้นเรียบเฉยจนน่ากลัว แต่ก็ดูอ่อนโยนและลึกลับอย่างประหลาด
“ยังค่ะ ! ! ...” คำพูดแสดงความเป็นผู้หญิงปรากฏขึ้นมาแล้ว ... “ชั้นยัง ... กรอด .... ไอ้หน้าตายอิอาซัน วอร์คราย !” ฟุบ ! ฉึก ! ... รีรีสกัดฟันแล้วเหวี่ยงดาบอย่างแรงจนมันไปปักต้นไม้ ... ลึกมากทีเดียว “แฮ่ก ... แฮ่ก ...” เธอหอบออกมาหลังจากการระบายอารมณ์ครั้งใหญ่ ตุบ ! ... รีรีสทิ้งตัวลงนั่งแล้วกอดเข่า
“หะ ... โหดชิบเป๋งเลย ...” โครโน่หันมามองหน้าเอลวิสที่แอบเหวอเล็ก ๆ แววตาของเขาเบิกกว้างอย่างตกใจ เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนอารมณ์ร้ายได้ขนาดนี้เลย ...
“ไม่มีความเป็นผู้หญิงเลยแฮะ ...” มิสพึมพำ ... ถึงเธอจะแก่นแก้วแล้วก็เอาแต่ใจหน่อย ๆ แต่ก็ยังมีความเป็นผู้หญิงมากกว่าหญิงสาวตรงหน้านี่ล่ะนะ
จิลนั่งลงข้าง ๆ รีรีสแล้วลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน “... ไม่เป็นไรนะรีรีส ...” จิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “อิซเขาก็แค่ปากไม่ตรงกับใจเท่านั้นล่ะ เชื่อเถอะ ถึงปากเขาจะพูดแบบนั้น แต่ที่จริงเขาก็เห็นเธอเป็นผู้หญิงที่งดงามคนหนึ่งเหมือนกัน ...” รีรีสยังคงก้มหน้านิ่ง แล้วส่ายหน้าไปมาเหมือนกับไม่เชื่อคำพูดของจิล
“ชั้น ... ชั้น ...” รีรีสเหมือนกับว่าพูดอะไรไม่ออก คำพูดมันติดอยู่ในคอ ... “ก็ ... ก็มัน ...” ... ‘มัน’ ที่รีรีสพูดถึงนี้คงจะหมายถึงอิอาซันแน่นอน “... ไม่เคยพูดดีกับชั้นเลยนี่คะ พี่จิล แต่คนอื่นมันกลับพูดดีด้วย พูดกับชั้นไม่เห็นเหมือนพูดกับพี่เลย ! ...” คำพูดพรั่งพรูออกมาจากปากของเธอ
“... ชั้นก็ผู้หญิงนะ ! ... อยากได้คำพูดดี ๆ บ้าง ไม่ใช่เอาแต่พูดว่าชั้นไม่ใช่ผู้หญิง ทำเหมือนกับว่าชั้นไม่ใช่ผู้หญิงคนหนึ่ง ...” น้ำเสียงของเธอเหมือนจะน้อยใจ
“( แต่ก็เธอไม่ใช่เหรอ ? รีรีส ... ที่ไปพูดหาเรื่องเขาตลอดเวลา ) ... อิซเขาก็เป็นแบบนั้นแหละ อย่าใส่ใจเลย” จิลพยายามปลอบรีรีส “พี่ไม่อาจจะพูดได้ว่ารู้จักเขาดี แต่คนอย่าง ‘อิอาซัน วอร์คราย’ นั้นไม่เคยพูดดีกับใครหรอก นอกจากคนที่เขานับถือเท่านั้น”
“แต่รู้ไหม ? ... เขากำลังพยายามอยู่ เขากำลังพยายามหัดเข้าใจในจิตใจคนอื่น ... ทนอีกสักนิด รีรีสน้องพี่ ...” น้ำเสียงของจิลนั้นอบอุ่นและอ่อนโยน ... “ให้เวลาเขาสักหน่อย เขากำลังพยายามอยู่ พยายามแก้ข้อบกพร่องของตน เขาเป็นคนแบบนั้นล่ะ อิซน่ะ เขากำลังพยายามเพื่อพวกเราอย่างเต็มที่ ...”
“..........” รีรีสไม่พูดอะไร ... เธอนิ่งเงียบราวกับว่าใช้ความคิดอย่างหนัก เป็นเวลาสองปี ... สองปีเต็ม ๆ ที่รีรีสเข้ามาอยู่ในกองทหารรับจ้าง ‘กุหลาบรัตติกาล’ ... ในตอนนั้น มีเพียงเธอ , จิล และอิซกับทหารคู่ใจอีกไม่กี่คนเท่านั้น แต่พวกเขาก็พยายามกันอย่างเต็มที่ จนชื่อเสียงของ ‘กุหลาบรัตติกาล’ เป็นที่หวาดกลัวต่อบรรดาข้าศึก
รีรีสนั้นทะเลาะกับอิซตลอดเวลา จนมันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ส่วนจิลนั้นก็จะคอยพยายามพูดให้ทั้งสองคืนดีกันในเวลาไม่นาน และเป็นพี่สาวที่ดีสำหรับรีรีส คอยปลอบใจเธออยู่เสมอ จนรีรีสนั้นรักเธอเหมือนกับพี่สาวแท้ ๆ คนหนึ่งเลยทีเดียว ตลอดเวลา ... รีรีสพยายามทำตัวให้แข็งแกร่ง ... พยายามท้าสู้กับคนที่มีฝีมือเพื่อพิสูจน์ฝีมือของตนเอง แต่มันจะแค่นั้นหรือ ? ... เธออาจจะทำ ... เพื่อให้คนบางคนหันมามองเธอบ้าง ... รีรีสคงจะไม่รู้ตัวในข้อนี้ ซึ่งจิลก็คงมองจุดนี้ออก เธอจึงพยายามสอนอิซให้เขาเข้าใจในจิตใจคนอื่นมากกว่านี้
“... ชั้นว่าพวกเราไปกันเถอะ ...” เอลวิสเอ่ยแล้วค่อย ๆ คลานถอยหลังช้า ๆ สหายทั้งสองพยักหน้าแล้วทำท่าจะถอยตามเอลวิส แต่การเคลื่อนไหวของพวกเขานั้น ไม่อาจจะรอดพ้นสายตาอันคมกริบของ ‘จิล วาร์เด็น’ เจ้าของฉายา ‘สังหารพริบตา’ แห่งกองทหารรับจ้าง ‘กุหลาบรัตติกาล’ ไปได้แน่นอน
ฟ้าว ! ฉึก ฉึก ฉึก ! ...
มีดบินสามเล่มถูกซัดออกมาโดยจิลไปที่ด้านหน้าของทั้งสามอย่างรวดเร็ว ทั้งสามหน้าซีดแทบจะในทันที ทั้ง ๆ ที่พวกเขาทั้งสามขยับตัวอย่างเงียบเชียบ และไร้เสียงแท้ ๆ แถมยังมืดแบบนี้อีก ... เธอก็ยังมองการเคลื่อนไหวของพวกเขาออก นอกจากนี้ทั้งสามยังทึ่งในความแม่นยำของมีดบินนั้นอีก เพราะมันปักลงพื้นห่างใบหน้าพวกเขาไปไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น
“ใคร !! ...” รีรีสลุกขึ้นยืน ปึด ! ... เธอเดินไปกระชากดาบคู่ทั้งสองเล่มออกมาจากต้นไม้ แล้วหันไปตะคอกกับทั้งสามที่หลบอยู่ในพุ่มไม้ ส่วนจิลนั้นไม่พูดอะไร เธอเพียงมองอยู่เงียบ ๆ ด้วยสายตาเย็นชาเท่านั้น ...
ทั้งสามมองหน้ากันเองราวกับจะรอให้ใครซักคนเป็นคนตัดสินใจ เอลวิสค่อย ๆ คลานนำออกมาจากพุ่มไม้แล้วตามด้วยมิสและโครโน่ เขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพที่สุด “เอ่อ ... ขอโทษนะครับ ที่พวกเรา ... แอบฟังพวกคุณแบบนี้ ...” เอลวิสยอมรับผิดโดยดี
“ขอโทษ !! ...” ปึด ! ... รีรีสเก็บดาบแล้วเดินเข้ามากระชากคอเสื้อเอลวิสด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด เธอไม่พอใจ ... ไม่พอใจเลยสักนิด “แล้วพวกแกเป็นใคร !? มาทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แถวนี้ในยามวิกาล ห๊า !? ...”
... ช่วงที่เธอระบายอารมณ์ เป็นช่วงที่ไม่อยากให้ใครเข้ามาเห็นมากที่สุด นอกจากพี่จิล แต่เจ้าพวกนี้มัน ...
แกร่ก ... โครโน่เอื้อมมือไปจับดาบ เหมือนกับว่าจะเข้าไปช่วยเอลวิส แต่มิสยกมือห้ามเขาไว้ก่อน “อยากให้สถานการณ์มันเลวร้ายกว่านี้หรือไง ? ...” มิสเอ่ยเตือน โครโน่ได้แต่กัดฟันยอม ๆ ไปก่อน ...
“คือว่า ... พวกเราคือ ‘มังกรแห่งเซเรียส’ ครับ” เอลวิสพยายามอธิบายอย่างเต็มที่ สีหน้ายังคงความสงบไว้อยู่ “เผอิญ เอ่อ ... มาตรวจการแถวนี้พอดี ...” เอลวิสคิดหาข้อแก้ตัวที่เหมาะสมที่สุด
“... ‘มังกรแห่งเซเรียส’ ...” รีรีสเอ่ยเสียงเบา ตุบ ! ... เขาเหวี่ยงร่างของเอลวิสลงไปกับพื้น “อย่ามาโกหก ! ! ... อัศวินที่มีเกียรติที่สุดแห่งเซเรียส จะมาทำตัวแบบนี้น่ะรึ !?” น้ำเสียงไม่พอใจมากขึ้น
“.......” เอลวิสไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวยังไงดีแล้ว ... ขณะที่ความฉุนเฉียวของหญิงสาวตรงหน้าก็ดูท่าจะทวีคูณมากขึ้นทุกขณะ
“... ต้องเป็นพวกกบฎแน่ !” ชิ้ง ! ... รีรีสชักดาบแล้วเดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งสาม “ตายซะเถอะ ! ! !”
“หยุดนะรีรีส !! ...” จิลพูดเสียงดัง แต่ดูท่าจะห้ามเธอไม่ได้แล้ว ความโกรธที่มีต่อชายที่ชื่อ ‘อิอาซัน วอร์คราย’ เป็นแรงหนุนให้เธออารมณ์เสียมากขึ้น ... ฟ้าว ! เสียงคมดาบแหวกอากาศหมายจะจามหัวเอลวิสซะ !
เคร้ง ! ! ... ดาบยักษ์จากโครโน่สกัดดาบคู่ของรีรีสเอาไว้ แต่ฝีมือของเธอ ดาบยักษ์แค่นี้ทำอะไรเธอไม่ได้หรอก ครืด ... เธอลากดาบเล่มหนึ่งไปตามคมดาบของดาบยักษ์แล้วตวัดใส่คอของโครโน่ “ฮะ ... เฮ้ย !” โครโน่ร้องแล้วรีบหลบออกมาก่อนที่คอของเขาจะขาดสะบั้น
“เร็ว ! ...” โครโน่เอ่ย ตุบ ! เขาตั้งหลักอีกครั้งหนึ่ง แล้วพุ่งเข้าหารีรีส สมแล้วที่เป็นอัศวินเลือดร้อนคนหนึ่งในมังกรแห่งเซเรียส ... “ย๊ากกก ! !”
ฟ้าว ! ปึก ! ... มีดบินเล่มหนึ่งถูกซัดออกมาจากจิลแล้วกระแทกเข้าที่ข้อพับของโครโน่จนเขาเสียหลักล้มลง ฟ้าว ! ฉึก ! ฉึก ! อีกสองเล่มถูกซัดเฉี่ยวใบหน้าของรีรีส “หยุดเดี๋ยวนี้นะรีรีส !” จิลตะคอก รีรีสจึงหยุดแล้วไม่พูดอะไร จิลเดินมาดึงโครโน่ขึ้น เธอก็เป็นแบบนี้ล่ะ ... เอ็นดูคนอายุอ่อนกว่าเสมอ “ไม่เป็นไรใช่ไหม ?” เธอถามโครโน่
“คะ ... ครับ ...” โครโน่ตอบแล้วค่อย ๆ เก็บดาบของตนเข้าด้านหลังไป ขณะนั้นเอง ... รีรีสตัวสั่น ตัวสั่นด้วยความโกรธ ... ทำไม ... ทำไมกัน ... ทำไมต้องทำดีกับคนอื่น ... ไม่รู้จักพวกมันแท้ ๆ ... รีรีสนั้นมีจิลเป็นที่พึ่งเพียงคนเดียว เธอต้องการให้จิลอยู่กับเธอตลอดโดยไม่รู้ตัว เพราะจิลนั้นเป็นพี่สาวที่เธอรักที่สุด ... เธอยังคงโมโหเรื่องของอิซ แล้วยังมาเจอเรื่องนี้อีก
“ทำไม ! !” รีรีสร้อง ! ฟุบ ! ฟ้าว ! ... รีรีสดึงดาบขึ้นทั้งสองเล่มแล้วพุ่งเข้าใส่เป้าหมายที่อยู่ใกล้ที่สุด ตอนนี้เธอไม่อยากจะฟังใครแล้ว ! ... ความรู้สึกราวกับว่าระเบิดออกมา คมดาบสองเล่มแหวกอากาศพุ่งเข้าใส่เอลวิส !
“เอลคุง ! !” มิสเอ่ยอย่างตกใจ ... เข้าไปช่วยไม่ทันแล้ว ... จิลวิ่งเข้าไปสุดแรงเกิด ... แต่คงจะไม่ทันแน่นอน โครโน่นั้นดึงดาบออกมาอีกครั้ง ! ... เคร้ง ! ... เอลวิสดึงดาบออกมาแล้วปะทะกับดาบคู่ของรีรีสอย่างจัง ราวกับทั้งคู่กำลังวัดพลังกันอยู่ ...
“อึก ! ...” เอลวิสกัดฟัน แรงของผู้หญิงคนนี้มหาศาลจนน่ากลัว ...
“ตายซะเถอะแก ! !” เคร้ง ! เคร้ง ! เคร้ง ! รีรีสกระหน่ำดาบคู่ของเธอเข้าใส่เอลวิสอย่างต่อเนื่อง ดูท่าการโจมตีแบบต่อเนื่องจะเป็นแบบที่เธอถนัดเช่นเดียวกับเอลวิส แต่เธอได้เปรียบตรงที่ว่ามีดาบสองเล่ม จิลยกมีดขึ้นสองเล่มแล้วพยายามหาช่องว่างให้ปามีดเข้าไปหยุด แต่ทั้งสองปะทะกันอย่างเร็ว ... จนไม่มีช่องว่าง
“รีรีส ! หยุดนะ ! ... พอได้แล้ว !” จิลเอ่ยเสียงดัง แต่ดูท่ารีรีสจะไม่สน ... ความรู้สึกที่อดกลั้นนั้นปะทุออกมา เธอจะต้องชนะ จะต้องชนะ จะแสดงให้เขาคนนั้นเห็นว่าเธอกำจัดศัตรูได้ ! ....
เคร้ง ! ! ! ... เปรี้ยง ! ! ! ...
ดาบยักษ์แหวกอากาศเข้ามาแทรกตรงกลางระหว่างทั้งสอง ดาบของเอลวิสและดาบของรีรีสกระทบมันอย่างแรงจนร่างของทั้งคู่กระเด็นออกไป ดาบนั้นไร้คม ... และมีขนาดใหญ่กว่าดาบของโครโน่เสียอีก ดูราวกับท่อนเหล็กยักษ์ซะมากกว่าดาบ
ชายหนุ่มผมสีดำในชุดเกราะบางเบาสีดำสนิทค่อย ๆ ปรากฎตัวขึ้นแล้วหยิบดาบยักษ์ของตนขึ้นมา “ไปซะ ... มังกรแห่งเซเรียสรุ่นใหม่” อิซเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “... คราวหลังหากจะมาเยี่ยมกองทหารรับจ้างของเรา บอกคัตซ์ก่อนซะนะ อย่าเชื่อคำของพวกรุ่นพี่พวกเจ้าให้มากนัก”
“... ครับ” โครโน่มองอิซอย่างทึ่ง ๆ ... ต่อหน้าเขาคือบุรุษผู้ถือดาบยักษ์พิชิตข้าศึก เขาอาจจะเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้เขาใช้ดาบยักษ์ก็เป็นได้ หัวหน้ากองทหารรับจ้าง ‘กุหลาบรัตติกาล’ ... ‘อิอาซัน วอร์คราย’ เจ้าของฉายา ‘จ้าวแห่งการทำลาย’ ...
ทั้งสามต่างพากันกลับป้อมอย่างรวดเร็ว โดยวิ่งไม่หยุด ... จนมานั่งหอบกันที่บริเวณลานฝึก “เจ้าบ้าโครโน่ ! เกือบทำให้เราตายกันหมดแล้วเชียว” ปึก ! ... มิสชกไหล่โครโน่เบา ๆ แล้วดุเขา แต่ใบหน้ายังยิ้มแย้มราวกับว่ามันเป็นเพียงเรื่องสนุก ๆ
“ขอโทษจ้า ~ แต่ก็สนุกดีไม่ใช่เหรอ มิสจัง ~” โครโน่ยิ้มอย่างร่าเริง ไม่มีท่าทีสำนึกผิดสักนิดที่เกือบพาเพื่อนฝูงไปตายเสียแล้ว “... แล้วก็ได้เจอท่านอิอาซันด้วย ...” โครโน่เพ้อ ...
“พอได้แล้วล่ะ ... ชั้นว่ากลับห้องพักกันเถอะ ...” เอลวิสเสนอแล้วเดินนำทั้งสองกลับเข้าป้อม จากนั้นจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน แต่เอลวิสยังไม่หลับ ... ที่จริง ... เขากำลังรอเวลาอยู่ รอเวลาที่จะได้พบกับ ‘เทพธิดา’ ของเขา ...
กลับมาทางด้านของรีรีส ... ที่กำลังยืนก้มหน้านิ่งไม่มองหน้าอิซแม้แต่น้อย “... อิซ ...” จิลเอ่ย “รีรีส ... ไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ ...” จิลว่า แล้วเดินเข้าไปจับไหล่ชายหนุ่มเบา ๆ
“( เอาสิ ... ว่าชั้นเลย ... ว่าชั้นแรง ๆ แบบที่นายชอบว่าเลยสิ ไอ้คนไร้ความรู้สึก )” กึก กึก ... มือของรีรีสกำแน่น ตัวสั่นด้วยความโกรธที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ภายในตัว
“... เธอไปก่อน จิล ...” อิซเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ... จิลพยักหน้าเล็กน้อยแล้วจึงค่อย ๆ เดินจากไป ... ไม่สิ ... เธอยังคงแอบอยู่แถวนั้น ... แต่ก็ทำไปเพราะเป็นห่วง ...
... ตลอดเวลา นายชอบพูดว่าชั้นไม่ใช่ผู้หญิง ใช่สิ ชั้นมันก็มีดีแค่ฝีดาบ จะไม่เห็นชั้นเป็นผู้หญิงก็ไม่แปลก ...
“ทำไมถึงทำแบบนี้ ? ...” อิซเดินเข้าไปหารีรีสที่ก้มหน้านิ่ง “... รู้ไหมว่าถ้าเธอฆ่าเด็กพวกนั้นไป เธอจะโดนประหารข้อหา ‘กบฏ’ นะ ...”
“ช่างชั้น ...” รีรีสเอ่ยด้วยเสียงที่สั่นเหมือนกับกำลังอดกลั้นอย่างเต็มที่ “... แล้วชั้นจะเป็นยังไงมันเกี่ยวอะไรกับนายเล่า ! ! ...” รีรีสพูดเสียงดังทั้ง ๆ ที่ยังก้มหน้านิ่งอยู่ หยาดน้ำใสเริ่มคลอดวงตาคู่สวยนั้น ... “เอาเลยสิ ! บอกสิว่าชั้นไม่ใช่ผู้หญิง ! บอกเลยว่าชั้นมันแย่ ! บอกเลยว่าชั้นมันเลว !” รีรีสยังคงพูดต่อโดยไม่สนใจหยดน้ำใส ๆ ที่หยดลงพื้นแม้แต่น้อย
“... รีรีส ...” อิซเอ่ยชื่อของเธอ ... มือทำท่าจะไปจับไหล่ของเธอ ... “... ชั้น ...”
เ พี ย ะ ! ! ...
มือของอิซถูกมือของเธอปัดออกไปอย่างแรง ... รีรีสเงยหน้าขึ้น แก้มขาวนวลบัดนี้โชกไปด้วยน้ำตา ... น้ำตาที่เธอไม่เคยหลั่งให้ใครเห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามห้ามมัน ... ไม่อยากจะแสดงความอ่อนแอ ไม่อยากจะแสดงให้ใครเห็นทั้งสิ้น โดยเฉพาะคนตรงหน้า ... “จะพูดอะไรก็รีบพูดเซ่ ! ฮึก ! ...” รีรีสพูดไปโดยสะอื้นไห้เป็นระยะ ๆ และดูท่าทางเธอจะพยายามเก็บอาการอย่างยากลำบาก
“.........” อิซนิ่งไปครู่หนึ่ง “... เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเสมอในสายตาชั้น รีรีส ...”
รีรีสมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ “ฮึก ... กะ ... โกหก ! พี่จิลบอกให้แกมาพูดแบบนี้ใช่ไหม !? ... ถ้าจะโกหกล่ะก็ไม่ต้องพูดดีกว่า แกมันบ้า ! ได้ยินไหม แกมันบ้าที่สุด !” รีรีสตะคอก น้ำตายิ่งไหลมากกว่าเดิม จิลที่แอบฟังอยู่ห่าง ๆ มีสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีมากนัก ... “บอกสิว่าแกโกหก ! ให้ชั้นสบายใจ ! ... ฮึก ! ... แกมัน ... แกมัน ... ฮึก ! ...”
“... บ้าที่สุด ...” เสียงของรีรีสอ่อนลงราวกับว่าเธอหมดแรงที่จะเถียงต่อแล้ว ... เธอก้มหน้านิ่ง สองมือยกขึ้นปิดหน้า ... ปิดความอ่อนแอของเธอ ... ไม่ให้เขาเห็น แม้ว่าจะเป็นการฝืนเต็มทนแล้วก็ตาม ... ใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าแสดงความเศร้าหมองออกมาอย่างชัดเจน
“... ชั้นไม่โกหกอะไรเธอทั้งนั้น ...” อิซเอ่ยขึ้น มือข้างหนึ่งค่อย ๆ จับไหล่บางของหญิงสาวตรงหน้า หญิงสาวที่ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นเลยแม้แต่น้อย เธอเคยแต่แสดงความกล้า แสดงความเก่งกาจให้เขาเห็น เขาชื่นชม ... เขาชื่นชมในตัวเธอ ...
... แต่เพราะไม่รู้ว่าจะพูดยังไง แล้วไม่รู้ด้วยว่าจะแก้นิสัยปากเสียนี้ยังไง เลยไม่รู้ว่าจะบอกเธอยังไงดี ...
“... อย่างที่ชั้นบอกไปแล้ว สำหรับชั้น ... เธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ... และเป็นผู้หญิงที่ชั้นชื่นชม ...” อิซเอ่ย ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของเขาได้ ... ไม่สิ ...
... มันออกมาจากหัวใจของเขา ...
รีรีสเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมองหน้าอิซ ... รอยยิ้มนั้น ... รอยยิ้มที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
มันทั้งอ่อนโยน ... ทั้งอบอุ่น ... ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็น ‘อิอาซัน วอร์คราย’ คนนั้น ... “... แกโกหกอีกแล้ว ...” เธอยังคงยืนยันคำเดิม แม้ใบหน้าจะไม่อาจละจากดวงตาสีดำอบอุ่นคู่นั้นได้
“... ถ้าอย่างนั้นชั้นจะแสดงหลักฐาน ...” หมั่บ ... ร่างบางของหญิงสาวถูกชายหนุ่มตรงหน้าโอบเข้าไปประชิดตัว ใบหน้าของเธอร้อนผ่านราวกับไฟ ร่างกายหมดเรี่ยวแรงไม่อาจจะขัดขืน ก่อนที่สัมผัสอันนุ่มนวลจากชายหนุ่มเจ้าของนาม ‘อิอาซัน วอร์คราย’ จะประทับลงบนริมฝีปากบางนั้นราวกับว่าจะประกาศความรู้สึกในช่วงสองปีที่ผ่านมา ... บนฟากฟ้า ... หมู่ดาวต่างส่องประกายดูงดงามยิ่ง ...
... หากแต่ว่าร่างของหญิงสาวในอ้อมแขนของเขางดงามยิ่งกว่านั้นนัก ...
... เพียงแต่ ... ความรู้สึกของเธอนั้น ... จะใช่ความรู้สึกเดียวกับเขาแน่หรือ ? ...
... มันคงไม่ลงเอยง่าย ๆ แค่นี้แน่นอน ...
-- ปราสาทเซเรส
ตุบ ! ร่างของเอลวิสที่แอบออกมากลางดึก กระโดดผ่านรั้วเข้าไปในสวนดอกไม้ เพื่อไปพบกับหญิงสาวที่นัดเขาไว้ คืนนี้ไร้แสงจันทร์ แต่ก็ยังสว่างพอที่จะมองเห็นสภาพโดยรอบได้ เอลวิสเดินผ่านหมู่ดอกไม้นานาพันธุ์ที่บานอวดสีสันอันงดงามจำนวนมาก จนมาถึงศาลา และนั่น ... เธอรอเขาอยู่แล้ว หญิงสาวนาม ‘แคร์เทียร่า’ ...
“... สวัสดีครับคุณแคร์” ชายหนุ่มผมสีเงินเดินเข้าไปหาเธอ คำพูดทักทายเรียบ ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นและความอ่อนโยน หญิงสาวเงยหน้ามองเขา ใบหน้าของเธอยังคงงดงามเหมือนครั้งที่เขาเจอเธอเมื่อวาน เอลวิสนั่งลงข้าง ๆ เธอ ...
“สวัสดีค่ะคุณเอลวิส ...” แคร์ยิ้มอย่างอบอุ่น ... “... วันนี้มีเรื่องอะไรเล่าให้ฟังหรือเปล่าคะ ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงใคร่รู้ เอลวิสยิ้มแล้วเริ่มเล่าเรื่องที่เขาไปประสบมากับเพื่อน ๆ ...
“... อันตรายจังเลยนะคะ ทีหลังอย่าทำแบบนั้นอีก เข้าใจนะคะ ?” แคร์ยิ้ม บนตักของเธอมีดอกไม้หลายหลายสีสันวางอยู่ เธอกำลังบรรจงประดิษฐ์มันจนกลายเป็น ‘มงกุฎดอกไม้’ ... “ขออนุญาตนะคะ” แคร์เอ่ยแล้วค่อย ๆ สวมมันลงไปบนศีรษะของเอลวิส ...
“เหมาะมากเลยค่ะ คิก ...” แคร์หัวเราะ ... ใบหน้าของเธอยามหัวเราะนั้นทำเอาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใบหน้าร้อนผ่าวอย่างไม่ได้ตั้งใจ “ชอบไหมคะ ?”
“ครับ ...” เอลวิสพยักหน้า “... ขอผมได้ไหมครับ ?”
“ชั้นก็คิดจะให้คุณอยู่แล้วค่ะ ยังกังวลอยู่เลยว่าคุณจะชอบไหม ?” แคร์เบือนหน้าไปทางอื่น ไม่ให้ชายหนุ่มตรงหน้าเห็นใบหน้าที่กำลังเขินอายของเธอ
“... ครับ ...” เอลวิสยิ้ม “... ผมชอบมากเลย ...”
... แม้จะพบกันไม่นาน แต่ทั้งสองกลับสนิทสนมกันราวกับคบกันมาแรมปี มันคือ ‘รักแรกพบ’ อย่างไม่ต้องสงสัย ...
ทั้งสองพูดคุยกันด้วยเรื่องราวต่าง ๆ แคร์เทียร่าเล่าเรื่องในวังให้เอลวิสฟังมากมาย และเขาก็ชอบฟังมากซะด้วย ไม่สิ ... คงไม่ตั้งใจฟังขนาดนี้หากคนตรงหน้าไม่ใช่เธอ ท่าทางของเธอ น้ำเสียงของเธอ ... มันช่างอบอุ่นหาใดเปรียบ ใครจะรู้ล่ะ ... มันคือ ‘ความรัก’ กระมัง ? ... เอลวิสเล่าเรื่องราวของโลกภายนอกให้เธอฟัง ตั้งแต่สมัยเขายังเด็ก อีกทั้งยังเรื่องราวของผู้คนที่เขาได้พบปะ เธอฟังเขาอย่างตั้งใจไม่แพ้กัน หลายอย่างข้างนอกนั้นเป็นเรื่องแปลกมากสำหรับเธอ ... เธอบอกเขาว่าเธออยู่ในวังตลอด ไม่เคยได้ออกไปไหนเลย ...
“... อยากลองออกไปไหมครับ ...” คำพูดของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ ...
“ตะ ... แต่ว่าชั้น ... คือ ...” แคร์เทียร่าพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจเท่าไรนัก ... “... จะออกไปยังไงหรือคะ ?” ... แต่เธอก็ตอบตกลงเขาจนได้ ...
“พรุ่งนี้ ... ที่กองไม่มีการซ้อม ... ตอนตีห้า คุณมาพบผม ... ที่นี่ได้ไหมครับ ? ...” เอลวิสเอ่ยถามอย่างมีหวัง แคร์นิ่งไปครู่นึงราวกับเธอกำลังคิดอยู่ ...
“ตกลงค่ะ ...” เธอเอ่ยออกมา ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มออกมาด้วยความสุข ...
“... คุณแคร์ครับ ผมได้ยินมาว่า อีกไม่กี่วันจะมีงานฉลองวันเกิดของเจ้าหญิง ...” เขาพูดขึ้น “ที่ป้อมนั้น เขาหาตัวแทนที่จะได้เข้าไปในงานนี้ ผมจะอาสามันเอง ...” ชายหนุ่มยิ้มอย่างอบอุ่น มือค่อย ๆ เลื่อนไปสัมผัสมือของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ
“.........” เธอนิ่งไปครู่ใหญ่ ใบหน้าเศร้าลงเล็กน้อย แต่เอลวิสคงจะไม่สังเกต หากเขามา ... หากเขามาจริง ๆ ... แล้วเธอจะโกหกเขาอย่างไร เขาก็คงรู้ถึงฐานะที่แท้จริงของเธอ และความสัมพันธ์ของทั้งคู่คงจะเปลี่ยนไป ...
... ไม่อาจจะกลับมาเหมือนเก่าได้ ...
“... คุณแคร์ ... เป็นอะไรหรือครับ ?” ... เขากุมมือของเธอ ตามใจปรารถนา ... หญิงสาวมองหน้าเขา ใบหน้าเป็นสีแดงระเรื่อ และเริ่มร้อนผ่าว ในตอนแรกอยากจะดึงมือออกเพราะความเขินอาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็อยากให้อยู่อย่างนี้ ...
... มือของเขา อบอุ่น อบอุ่นมากทีเดียว ...
“... คุณเอลวิส ...” ริมฝีปากบางขยับอย่างช้า ๆ “... ถ้าชั้นไม่ได้เป็นอย่างที่ชั้นเป็นในตอนนี้ เรายังจะสามารถคุยกันเหมือนเดิมแบบนี้ได้ไหมคะ ?”
“... แน่นอนครับ ...” เขาสัญญา .... ถึงจะไม่ค่อยรู้ความหมายของคำที่เธอพูดสักเท่าไรก็ตาม แต่สำหรับเขา ... เธอคนนี้เป็นคนที่เขารู้สึกดีเวลาอยู่ด้วย ...
“... คิก ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะคะ ...” แคร์ดึงมือออกจากมือเอลวิสช้า ๆ แล้วยกขึ้นจับแก้มทั้งสองข้างของตนท่าทางของเธอในตอนนี้ดูน่ารักมากเลยทีเดียว ...
“หากชั้นเจอคุณที่งานจะดีใจมากเลยค่ะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดีและดูโล่งใจ ...
“หวังว่าคงจะได้เจอ ... ไม่สิ ต้องได้เจอกันแน่ใช่ไหมครับ ? ...” เอลวิสยิ้ม ... แคร์พยักหน้าแล้วยิ้มตอบเขา เอลวิสเหมือนจะนึกอะไรออก เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ แล้วหยิบจี้ผลึกใสรูปดอกกุหลาบขึ้นมาส่งให้เธอ “ผมได้มา จากที่ไหนสักแห่ง ...” มือซ้ายของเขาจับมือของเธอ และมือขวาก็ค่อย ๆ วางจี้ลงไปบนมือนั้น เอลวิสจับมือเธอให้กำมันเอาไว้เบา ๆ
“... และผมอยากให้คุณเก็บมันเอาไว้ ...”
“... ขอบคุณค่ะ ...” เธอยิ้มบางอย่างงดงาม และค่อย ๆ เอามันมาไว้แนบอกของเธอ “ชั้นจะรักษามันอย่างดีเลยค่ะ”
“ครับ ... นี่ก็ดึกมากแล้ว คงได้เวลาที่ผมต้องไปแล้ว ...” เอลวิสค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วดึงให้แคร์ลุกขึ้นด้วย “แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ คุณแคร์ ...” จุ๊บ ... เอลวิสจับมือเธอขึ้นจุมพิตเบา ๆ แล้วรีบวิ่งไปที่รั้ว จากนั้นจึงปีนออกไปอย่างรวดเร็ว ...
แคร์นั้นใบหน้าร้อนผ่าว ริมฝีปากของเขา ... อบอุ่น และรู้สึกดีอย่างประหลาด เธอกำจี้ผลึกนั้นเอาไว้แนบอกแล้วเงยหน้ามองหมู่ดาวที่กำลังส่องประกาย รอยยิ้มเต็มไปด้วยความสุข “... แล้วเจอกันนะคะ ...”
-- ตำนานบทที่ VII : อัศวิน ปะทะ ! ทหารรับจ้าง จบ --
ความคิดเห็น