ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -- Zeles -- สงครามศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #4 : ตำนานบทที่ III : บททดสอบแห่งอัศวิน

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 49


    แสงแดดทะลุผ่านหน้าต่างกระทบใบหน้าของเอลวิสที่หลับใหลอยู่บนเตียง เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วกระพริบตาถี่ ๆ ก่อนจะลืมตาออกอย่างเต็มที่ สองมือยกขึ้นขยี้ตาเล็กน้อย วันนี้เป็นวันทดสอบการเข้าเป็นอัศวินของ ‘มังกรแห่งเซเรียส’ ซึ่งเหล่านักรบหลายคนตั้งตารอการอยู่ และจากข่าวลือที่ว่ามา มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้รับเกียรตินั้น แต่เอาเถอะ เขาจะพยายามเต็มที่ ... เอลวิสเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วจัดการอะไรจนเรียบร้อย เขาจึงเดินออกมาในสภาพผ้าขนหนูคาดเอว และที่กลางหลังของเขานั่นเอง ...

    รอยสัก ... รอยสักรูปจันทร์เสี้ยวสองวงซ้อนทับกันอยู่ภายใต้ดาวหกแฉกที่กินอาณาเขตไปทั่วแผ่นหลังของเอลวิส ดูท่าทาง การได้รับมันมาจะเจ็บปวดมากทีเดียว มันคืออะไรกัน ... ? แกร่ก ! เอลวิสสวมเกราะจนครบชุดแล้วดึงผ้าคลุมมาสวมทับไว้อีกชั้นหนึ่ง แววตาดูมุ่งมั่น เขาเดินออกมาจากห้องแล้วมองไปยังห้องของอลิเซียครู่นึง แต่ก็ไม่สนใจแล้วเดินออกมาจากโรงแรม แล้วมุ่งตรงไปยังกองทันที

    ที่กองทหารตอนนั้นก็มีการจัดเตรียมการทดสอบต่าง ๆ โดยจะแบ่งเป็นการคัดเลือกทั้งหมดสามขั้น และจะมีผู้ที่ได้ผ่านเข้าไปอยู่ในกองเพียงแค่สามคนเท่านั้น โดยผู้รับผิดชอบงานครั้งนี้คือ ‘รีเบล’ หญิงสาวผู้ไม่มีความเป็นมิตรเลยสักนิดเดียว วันนี้เธอกำลังจัดการสั่งให้เหล่าอัศวินที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเธอจัดเตรียมงานอย่างเร็วที่สุด เธออยู่ในชุดเกราะสีเงินเต็มยศ และตามข้อต่อก็ล้วนแต่เป็นผ้ารัดรูปสีดำ ที่เอวของเธอนั้นเหน็บดาบคู่ใจทั้งสองเล่มเอาไว้ด้วย ดวงตาสีเหลืองทองนั้นยังดูน่าเกรงขามอยู่ทุกครั้งที่จ้องเข้าไป

    และแล้ว ... เวลาก็มาถึง เหล่านักรบวัยรุ่นจำนวนมากมาตั้งแถวรวมกันอยู่ที่ลานกว้างหน้ากอง และต่างพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น มีเพียงชายหนุ่มผมสีเงินเท่านั้นที่ไม่พูดคุยกับใครเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับว่าเขากำลังทำสมาธิอยู่ “(หนวกหูเป็นบ้าเลย ให้ตายเถอะ ... )” เอลวิสคิดในใจแล้วยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลออกมาตามหน้าผาก แสงแดดส่องประกายเจิดจ้าสะท้อนกับชุดเกราะของเหล่านักรบดูงดงามอย่างประหลาด แต่นั่นก็ยิ่งทำให้พวกเขาร้อนมากขึ้นไปอีก

    เอลวิสหันไปสะดุดตากับหญิงสาวคนหนึ่ง แน่นอนว่าก็มีผู้หญิงมาสมัครไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ส่วนมากจะดูโหด ๆ ห้าว ๆ กล้ามเป็นมัดดูไม่สมกับเป็นผู้หญิง แต่เธอคนนี้ ... ดูแตกต่างแม้กระทั่งชุดที่ใส่อยู่ คนส่วนมากจะสวมเกราะกันเต็มยศ แต่ว่าเธอกลับสวมชุดผ้าสีน้ำเงินเข้มแขนกว้างดูคล่องตัวมาแทน กางเกงก็เป็นกางเกงรัดรูปสีน้ำเงินดูทะมัดทะแมง ดวงหน้าขาวได้รูป ตาสีน้ำตาลอ่อนดูร่าเริง ผมสีน้ำตาลเข้มผูกเปียยาวถึงกลางหลัง เธอดูเด่นมากในหมู่อัศวินหนุ่มและอัศวินหญิงหน้าตาเถื่อน ๆ เหล่านี้

    แถวตรง ! !

    เสียงสั่งอันทรงอำนาจดังออกมาจากรีเบล เหล่านักรบต่างปฎิบัติกันอย่างรวดเร็ว และเป็นระเบียบ “เชสเตอร์” รีเบลเอ่ยแล้วอัศวินผมสีแดงคนเดียวกับที่ไปตามเธอก็มายืนรอรับคำสั่งด้วยท่าทีหวั่นเล็กน้อย “แบ่งออกเป็นสามกอง กองพยัคฆ์ , กองมังกร และกองฟินิกซ์ จัดการให้เร็ว !” รีเบลสั่ง

    ครับ ! เชสเตอร์รับคำแล้วพาพวกอีกสองสามคนไปจัดการขีดเส้นแบ่งกลุ่มจนได้กลุ่มตามที่หญิงสาวต้องการ หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลที่เอลวิสมองตอนแรกก็ถูกย้ายไปอยู่กอง ‘ฟินิกซ์’ ส่วนตัวเขานั้นก็ได้เข้าไปอยู่ในกอง ‘มังกร’ ...

    “... หลังจากนี้เราจะทำการทดสอบ ! เพื่อค้นหาผู้ที่มีความสามารถพอในการจะได้เข้าสู่ ‘มังกรแห่งเซเรียส’ ขอให้ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ การทดสอบจะแบ่งเป็นสามขั้นตอน สอบข้อเขียน ! , ไหวพริบ ! และการต่อสู้ !” รีเบลเอ่ย เหล่าผู้ทดสอบหลายคนเริ่มมีสีหน้าหวาดหวั่น แต่ไม่ใช่เอลวิสแน่นอน เขาเตรียมใจมาแล้วละ ไม่ว่าจะเจอกับอะไรก็ตาม ...

    ... เขาต้องเป็นอัศวินให้ได้ ...

    “นับจากนี้ ! ขอให้ทุกคนพยายามเข้า ! เอาละ ! แต่ละกลุ่มเริ่มทำการทดสอบได้ ! ...” รีเบลประกาศก้อง

    เฮ ! !

    เหล่าว่าที่อัศวินต่างตะโกนก้องอย่างมุ่งมั่น แม้บางส่วนจะเริ่มถอดใจเมื่อพบว่ามีผู้มาสมัครขนาดนี้บ้างแล้ว แต่ยังไงแต่ละคนก็ยังจะพยายามทำอย่างเต็มที่ เพื่อเกียรติยศของตน เอลวิสที่อยู่ในกอง ‘มังกร’ ถูกต้อนเข้าไปยังห้องสอบ โดยมีเชสเตอร์ อัศวินหนุ่มที่มีวัยไล่เลี่ยกับเขาเป็นคนคุมสอบของกลุ่มนี้ “ห้ามทุจริตเด็ดขาด ! ไม่งั้นเราจะทำการตัดสิทธิ์ทันที” เชสเตอร์เอ่ยเตือนแล้วเงยหน้ามองนาฬิกา

    “เริ่มการทดสอบ ! อย่าลืม ! ... หากตอบผิดข้อนึงจะถูกตัดสองคะแนน แต่ละข้อมีคะแนนหนึ่งคะแนน”

    ข้อสอบต่างถูกแจกไปยังผู้เข้าสมัครจำนวนมาก ดูแล้ว ... มันไม่ต่างอะไรกับพจนานุกรมเท่าไรนัก เพราะหนาประมาณ 5 เซนติเมตรเลยทีเดียว “... ฮึ ...” เอลวิสยิ้มบางเมื่อเห็นข้อสอบ ข้อสอบพวกนี้ ... มันก็ไม่ต่างอะไรจากการทดสอบไหวพริบหรอก เพียงแค่เขียนชื่อก็น่าจะผ่านแล้ว เอลวิสมองไปรอบตัว พบว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เหมือนจะรู้ ซึ่งส่วนมากนั้นต่างก็ก้มหน้าก้มตาทำกันอย่างเต็มที่

    เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เอลวิสก็ลุกขึ้นเดินเข้ากระดาษข้อสอบไปส่งให้เชสเตอร์ เขามองข้อสอบของเอลวิสที่ไม่ได้ทำเลยแม้แต่น้อย “คิดว่าจะไม่มีใคนรู้ซะอีก” เขาพึมพำแล้วเงยหน้ามองหน้าเอลวิส ก่อนจะส่งสัญญาณให้เขาออกไปจากห้อง


    หลังจากเอลวิสออกมาเพียงราวครึ่งชั่วโมง ก็มีคนตามเขาออกมาอีกเจ็ดถึงแปดคน ส่วนนอกนั้นก็ยังก้มหน้าก้มตาทำกันอยู่ดี “เป็นยังไงบ้าง ?” ชายคนหนึ่งในนั้นเดินเข้ามาหาเอลวิสแล้วเอ่ยถามดูจากท่าทางแล้วจะเป็นพวกลูกขุนนาง และที่ผ่านมาได้คงเพราะว่าพ่อเส้นใหญ่จนรู้ว่าจะต้องทำยังไงกับข้อสอบ ไม่งั้นคงผ่านมาไม่ได้หรอก “ไม่คิดเลยแฮะว่าจะมีพวก ‘สามัญชน’ รู้แกวข้อสอบนั่น ใช่ไหมพวกเรา ?” เขาหันไปถามพรรคพวกที่ยืนรายล้อมอยู่ด้านหลัง ซึ่งดูจากหน้าตาแล้วโง่ ๆ กันทั้งนั้น

    “ใช่ !”

    ไ อ้พวกไร้ค่า ... เอลวิสคิดในใจแล้วเบือนหน้าไม่ทางอื่น โดยไม่สนใจพวกขี้โอ่ที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย แต่การกระทำแบบนั้นก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหน้าพอดูเลยทีเดียว

    “เฮอะ ... ทำท่าทำทางดี ๆ หน่อยนะแก ... พ่อชั้นเนี่ยขุนนางในวังเชียวนะ ระวังเถอะ จะไม่มีชีวิตรอดไปในการทดสอบที่สอง” ชายหนุ่มว่าแล้วแสยะยิ้มใส่เอลวิส

    ขอให้จริงอย่างที่แกพูดเถอะ ...

    เอลวิสคิดในใจ จนเวลาผ่านไปราวสองชั่วโมงก็หมดเวลาทดสอบรอบที่หนึ่ง เหล่าว่าที่อัศวินต่างออกมาในสภาพไม่ต่างอะไรจากผีดิบ และดูท่าว่าจะทำกันไม่ทันซะด้วยสิ ... ฮึ ... ไหวพริบก็ไม่มีแล้วยังจะมาเป็นอัศวินกันอีกเรอะ ? หลังจากนั้นราวครึ่งชั่วโมงก็มีการประกาศผลสอบ ซึ่งมีเพียงเอลวิสและพวกลูกขุนนางเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบนรกนี่มาได้ และการทดสอบต่อไป คือ ‘เขาวงกต’ ที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยกับดัก เพื่อทดสอบการเอาตัวรอด + ไหวพริบ ฯลฯ โดยจะส่งคนเข้าไปทีละคน ๆ และผู้ที่รอดออกมาได้ในเวลาที่กำหยดก็จะผ่านการทดสอบขั้นที่สองนี้ไป เอลวิสจะต้องชนะแปดคนนั้นให้ได้และก้าวเข้าสู้กอง ‘มังกรแห่งเซเรียส’ ...

    ทุกสิบนาทีจะปล่อยให้เข้าไปได้หนึ่งคน ...

    ผ่านไปราวสามสิบนาทีเอลวิสก็ถูกปล่อยไปเป็นคนที่สาม พอเขาเข้าไปเขาก็พบกับลูกชายขุนนางคนนั้นนั่งอยู่กับเพื่อนอีกหนึ่งคน ดูท่า ... จะปอดกันจนต้องรอเพื่อนให้ครบก่อนแล้วถึงจะเดินเข้าไป เอลวิสเดินเข้าไปในเขาวงกตที่ทำด้วยพุ่มไม้สูงเหนือหัว เอลวิสเดินต่อไปเรื่อย ๆ จนเข้ามาถึงทางแยก ... เป็นทางแยกสามทาง หน้า , ขวาและซ้าย ... เอาละ ... จะไปทางไหนดี ?

    ... จงมุ่งไปข้างหน้าอย่ามองย้อนกลับมา ...

    คำของใครบางคนผุดขึ้นมาในหัวของเขา เอลวิสยิ้มบางแล้วก้าวเข้าไปข้างหน้า แต่ทันทีที่เขาอยู่ตรงกลางของทางแยกนั้น ...

    ฟุบ ! ! ! ฟ้าว ! ฟ้าว ! ฟ้าว !

    ลูกธนูนับสิบพุ่งออกมาจากสองทางซ้ายขวาของเอลวิส ครืด ... ชิ้ง ! ตุบ ! ... เอลวิสดึงดาบออกแล้วกลิ้งตัวหลบไปข้างหน้าได้อย่างฉิวเฉียด แต่ก็ยังโดนอยู่ดี ต้นแขนซ้ายของเขาถูกลูกธนูเฉี่ยวจนเสื้อขาด แต่ก็เพราะเกราะอ่อนของเขาทำให้ไม่ได้รับอันตรายมากนัก “หลบไม่ทัน ... ก็ตายเลยนี่นา” เอลวิสพึมพำแล้วลุกขึ้นเดินต่อไป

    ตลอดทางที่เขาผ่านไปนั้นก็พบกับอุปสรรคหลาย ๆ อย่าง ... เช่นเดินอยู่ดี ๆ ก็มีหลุมโผล่มาที่เท้าของเขา ถ้าเขาไปใช่ดาบปักกับปากหลุมแล้วดึงตัวเองขึ้นคงจบไปแล้วละ หรือไม่ก็ลูกธนูที่จู่ ๆ ก็บินมาจากไหนไม่อาจจะทราบได้ แต่เอลวิสก็รอดมาได้ทุกครั้งไป

    ตึก ตึก ! เอลวิสวิ่งไปอย่างรวดเร็วเมื่อถึงทางตรง ดูท่าทาง ... เขาจะใกล้ถึงทางออกแล้ว เขาสัมผัสได้ถึงกระแสลมที่พัดมาจากช่องทางข้างหน้า แต่ตอนนั้นเองที่คมดาบฟาดลงมาข้างหน้าเขา ตึง ! ... อัศวินในชุดเกราะสีเงินปรากฎขึ้นพร้อมดาบในมือ และไม่ได้มีเพียงคนเดียว 1 ... 2 ... 3 ... 4 ... 5 ... 6 ... 7 ... มีถึง 7 คนทีเดียว หากสู้คงไม่แคล้วแย่แน่ ...

    แต่ไม่มีทางเลือก ... ทางเดียวที่จะผ่านไปได้คือจัดการพวกนี้ให้หมดซะ ! ... ชิ้ง ... ดาบของเอลวิสถูกยกขึ้นตั้งท่า จัดการให้หมดสภาพ ... คือสิ่งที่เขากำลังคิด ฟุบ ! เอลวิสลากดาบเข้าหาคนที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด ความเร็วของเขานั้นเร็วมากจนอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว ! ฉึก ! ! เลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากข้อต่อเกราะบริเวณไหล่ของร่างนั้น ร่างนั้นล้มลงแล้วร่างบิดไปมาเพราะความเจ็บปวด เอลวิสแปลกใจเล็กน้อย ... หากเป็นอัศวินจริง ๆ การโดนแทงแค่นั้นไม่สมควรจะแสดงความอ่อนแอขนาดนี้ หรือว่า ...

    ฟุบ ! เคร้ง ! ! ไม่ทันเอลวิสจะทำอะไร อีกร่างหนึ่งก็เข้าประชิดตัวเขา ! แต่เอลวิสกลับยกดาบขึ้นป้องกันได้ทันที ผลั่ก ! เอลวิสยกเท้าขึ้นถีบสวนจนร่างนั้นเซถลาไป กึ้ง ! ! ด้านใบดาบของเอลวิสฟาดเข้าไปที่บริเวณเกราะหัวตรงกกหูอย่างจังจนร่างนั้นล้มลง เหลืออีก 5 ... “(พวกนี้ไม่เท่าไรเลย ... )” เอลวิสคิดในใจ ครืด ... เขาลากดาบพุ่งเข้าใส่ที่เหลือในทันที ! ทั้งห้าต่างเริ่มหวั่นใจ และเอลวิสก็สังเกตเห็นมันได้ ...

    ... จิตใจที่อ่อนแอไม่สามารถต่อกรกับความเข้มแข็งได้ ...

    เปรี้ยง ! ! ดาบของเอลวิสฟาดเข้าไปที่กลางลำตัวของร่างที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างแรง เห็นอย่างนี้ พละกำลังของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดาทีเดียว ปึด ! เอลวิสกระชากหมวกเหล็กออก ... อย่างที่เขาคิด ‘พวกลูกชายขุนนาง’ พวกนี้คิดจะเก็บเขาเพื่อที่จะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทดสอบ

    “พวกแก ...” เอลวิสเอ่ยแล้วเขี่ยร่างนั้นทิ้งไป “อ ย่ า ม า ดู ถู ก เ กี ย ร ติ ข อ ง อั ศ วิ น น ะ ! !”

    เคร้ง ! เคร้ง ! เปรี้ยง ! ! ...


    เอลวิสเข้าประดาบอีกครั้งแล้วกดดาบลงไปอย่างแรง ก่อนจะใช้ไหล่ของตนกระแทกร่างนั้นจนล้มลง และฟาดดาบลงไปอย่างจัง ! ... ฟ้าว ! เสียงของคมดาบแหวกอากาศเข้ามาด้านหลังเขา เคร้ง !! เอลวิสยกดาบขึ้นไปทางด้านหลังแล้วรับได้อย่างทันควัน

    ฟุบ ! กึ้ง ! ! ...

    เอลวิสเหวี่ยงดาบของตนไปด้านข้าง แล้วฟาดเข้าไปที่ลำคออย่างแรงจนล้มลง เหลืออีก 3 ... “(จัดการตัวต้นคิดซะ ... )” เอลวิสคิดแล้วพุ่งเข้าหาร่างที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งดูอ่อนแอมากที่สุด ดูออกได้เลยว่าต้องเป็นตัวการ ซึ่งจะคอยเอาแต่หลบหลังคนอื่นตลอดเวลา

    ฟุบ ! ! ... ฉึก ! ! ...

    ความเจ็บปวดแล่นเข้าถาโถมบริเวณไหล่ของเขาทันที เอลวิสชะงักลงแล้วหันกลับไปมอง ร่างหนึ่งที่หันหน้าไม้มาทางเขา ... และลูกธนูก็ปักเข้าที่ไหล่เขาอย่างจัง วูบ ! เปรี้ยง ! เอลวิสคว้าหมวกเหล็กที่ตกอยู่เหวี่ยงใส่หน้าของร่างที่ยิงใส่เขาจนสลบไป แล้วหันกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง

    ปึด ... ! อึก ! เอลวิสกัดฟันแน่นแล้วดึงลูกธนูนั้นออกจากไหล่ของตน “พวกแก ! ! !” เอลวิสคำรามแล้ววิ่งเข้าใส่ แต่คราวนี้การเคลื่อนไหวของเขานั้นช้าลง ... ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด และเอลวิสคงจะรู้ตัวแล้วด้วย ...

    ... หัวลูกศรอาบยาชา ...

    สกปรกจริง ... เอลวิสคิดแล้วเหวี่ยงดาบเข้าใส่ร่างตรงหน้า แต่ว่าร่างนั้นก็หลบได้อย่างง่ายดาย แล้วกำปั้นที่มีเหล็กเสริมอยู่ใต้ถุงมือก็ชัดเปรี้ยงเข้าให้ที่ใบหน้าของเอลวิสจนลงไปกลิ้งกับพื้น แต่มือของเขาก็ยังกำดาบอยู่ “(ละ ... ลุกไม่ไหว ... กรอด ... )” เอลวิสกัดฟันอย่างเคียดแค้น ร่างทั้งสามนั้นค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้เขาแล้วถอดหมวกออก เป็นอย่างที่เอลวิสคิดจริง ๆ

    ... ไ อ้พวกลูกขุนนาง ...

    จะจบแค่นี้งั้นรึ ? ต้องตามหา ‘จุดหมาย’ ของตน ... อย่างยากลำบากเหมือนเดิมรึ ? ...

    “เฮ้ เฮ้ ... ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะพวก” เสียงเข้าดังขึ้นด้านหลังเอลวิส แต่เอลวิสไม่อาจจะหันไปดูได้ว่าเขาเป็นใคร “โฮ่ว ~ เก่งไม่เบาเลยนี่นาย จัดการได้ตั้ง ... สี่คนแนะ เอาเถอะ ... สามคนนี่ยกให้ชั้นละกัน ชั้นยิ่งหมั่นไส้พวกลูกขนนางอยู่พอดี” ร่างนั้นก้าวออกมา เอลวิสสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ใบหน้าที่ส่อเค้าหาเรื่องอย่างเต็มที่ ผมสีแดงสั้นดูยุ่งเล็กน้อย ดวงตาสีส้มที่ดูเอาเรื่อง รอยยิ้มเหมือนกำลังดีใจ ร่างกายแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายสีดำสนิททั้งตัว มือขวาที่จับดาบขนาดใหญ่พันไว้ด้วยผ้าพันแผล
    “กะ ... แกเป็นใคร !?” ลูกชายขุนนางตัวประกอบเอ่ยขึ้นพลางยกดาบขึ้นอย่างไม่วางใจ โดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ในมือชายหนุ่มนั้น เหมือนกับท่อนเหล็กมากกว่าจะเรียกว่าดาบ และดูท่า ... จะฟาดเขาขาดครึ่งได้ในทีเดียว “... ผ่านการทดสอบมาได้ยังไงแกนะ ...”

    “เห ? ทดสอบหรือ ? อ๋อ ... ไ อ้ข้อสอบขี้ประติ๋วนั่นนะรึ ? ชั้นทำเสร็จตั้งนานแล้ว แล้วดูท่าจะถูกหมดซะด้วย” ชายคนนั้นพูดแล้ววางท่า “แต่ที่ออกมาสุดท้ายเพราะว่าทำเสร็จชั้นก็นอน เท่านั้นละ” เขายักไหล่แล้วเดินเข้าไปหาทั้งสามด้วยสีหน้าเอาเรื่องสุด ๆ “ที่พวกแกทำแบบนี้มันไม่ดีเลยนา ... ทั้ง ๆ ที่หมอนี่น่าจะไปได้ไกลแท้ ๆ แต่กลับต้องมาถูกพวกแกใช้วิธีสกปรกเนี่ย”

    “ก็นะ ... ไ ป ใ ห้ พ้ น ห น้ า ชั้ น ซ้ า ! ! ! ~ ~ ~”

    วูบ ... เ ป รี้ ย ง ! ! !

    ราวกับภาพช้า ... ท่อนเหล็ก ไม่สิ ... ดาบของชายตรงหน้าเอลวิสเหวี่ยงอย่างแรงแล้วฟาดทั้งสาบเข้าอัดกับรั้วต้นไม้อย่างแรงจนสิ้นสติไป และต่อมา มือของชายคนนั้นที่อยู่ภายใต้ถุงมือสีดำก็หันมาทางเขา “ลุกไหวไหมพวก ?” สีหน้ายิ้มแย้มดูเป็นมิตร ...

    เป็นครั้งแรก ... ที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างมิตร ... ใช่ ... อย่างมิตร ...

    หมับ !

    มือของเอลวิสจับที่มือของชายคนนั้น เขาดึงเอลวิสขึ้นอย่างง่ายดาย พละกำลังของเขานั้นมหาศาลจริง ๆ “เกือบไปแล้วนะ ถ้าชั้นไม่หลงทางแล้วเลยมาช้า ... นายคงพลาดไปแล้วละ แฮ่ม ~” ตุบ ตุบ ... ชายคนนั้นยกมือขึ้นตบหน้าอกตัวเองอย่างภูมิใจ เอลวิสไม่พูดอะไรเพียงแต่ยิ้มเท่านั้น “นายชื่ออะไร ?” ชายผู้ช่วยเหลือเอ่ยถาม

    “เอลวิส , เอลวิส ไนท์ลอร์ด” ...

    “ชั้นโครโน่ ! , โครโนอัส ฟรอนเทียร์ !” หมั่บ ! มือของชายหนุ่มจับมือของเอลวิสเข้าทันที “ยินดีที่ได้รู้จัก !”

    “เช่นกัน ...” เอลวิสพูดพลางเขย่ามือนั้นเบา ๆ ก่อนจะปล่อยออกช้า ๆ แล้วมองไปยังทางออกข้างหน้า “เวลา ... เหลืออีกนิดเดียว ไปกันเลยไหม ?” เขาถาม ... ตามมารยาท ...

    “ก็ดี ! งั้นไปกันเลย !” โครโนสว่าแล้ววิ่งนำเอลวิสออกไปที่ทางออกนั้น โดยเอลวิสก็วิ่งตามไปติด ๆ

    ... เหลือการทดสอบอีกด่านเดียว ...


    พอเอลวิสและโครโน่ออกมาแล้ว ก็พบว่าเชสเตอร์มารอรับทั้งคู่อยู่ที่ปากทางแล้ว “ยินดีด้วยที่ผ่านการทดสอบ” เชสเตอร์ว่า แล้วก็ ... “ยินดีด้วยกับตำแหน่งอัศวินแห่งเซเรียส” เขายิ้มบาง เอลวิสและโครโน่มองหน้ากันเองดูแปลกใจดูพอสมควร

    “แล้วการทดสอบอีกอย่าง ?”

    “ยกเลิกไปแล้ว” เชสเตอร์ว่า “ปกติเราจะรับแค่สามคน ก็มีนายสองคน แล้วก็ ... ตัวแทนจาก ‘ฟินิกซ์’ อีกคนนึง เลยไม่ต้องทำการทดสอบให้ยุ่งยาก ... เฮ้อ ... ตอนชั้นสมัครปีที่แล้วต้องมาประลองกันแทบตาย แสดงว่ารุ่นนี้จะหาอัศวินดี ๆ คงยากละมั้ง ?”

    “นั่นไง ... ผู้ผ่านการทดสอบอีกคนจาก ‘ฟินิกซ์’ ... รู้ไหมว่าเธอนะโผล่มาเร็วที่สุดเลยนะ ดูท่า ... จะไม่เบาเลยทีเดียว แล้วยังน่ารักอีกด้วย ... อะ เป็นยังไงบ้างมิสจัง ~ ?” เชสเตอร์ยิ้มให้กับหญิงสาวที่เดินเข้ามา เธอก็คือคนที่เอลวิสเห็นตอนก่อนจัดกลุ่มนั่นเอง ว่าแล้วว่าเธอคนนี้ไม่ธรรมดา

    “ก็ดีค่ะ ~ โชคดีว่าข้อสอบก็ง๊ายง่าย ~ แล้วก็เขาวงกตนี่ก็ผ่านฉลุยเลย” มิสว่าแล้วหันไปยังเอลวิสและโครโน่ “เราสามคนต้องอยู่หน่วยเดียวกัน ฝากตัวด้วยนะ มิสเทรส วาโอเน่ค่ะ ~ เรียกว่า ‘มิส’ ก็พอแล้ว” มิสยิ้มบางแล้วส่งมือให้เอลวิส

    “เอลวิส , เอลวิส ไน้ท์ลอร์ด ...” เอลวิสว่าแล้วจับมือตอบพร้อมกับผงกหัวเล็กน้อย

    “โครโนส ฟรอนเทียร์ เรียก ‘โครโน่’ ก็พอแล้ว ...” โครโน่ยิ้มแล้วส่งมือให้มิสบ้าง เธอปล่อยมือเอลวิสแล้วหันมาจับมือกับโครโน่ตามมายาท “ฝากตัวด้วยนะครับ”

    “เช่นกันค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ เอลวิส , โครโน่” มิสว่าแล้วก็ขยิบตาให้สองหนุ่ม แต่ดันไปโดนใจหนุ่มผมแดงอีกคนที่อยู่ด้านหลังทั้งสองนาม ‘เชสเตอร์’ ซะแทน

    “อะ ... แฮ่ม ๆ ! เอาละ ... อีกสักพักจะมีพิธีมอบตำแหน่งให้กับพวกเธอนะ” เชสเตอร์ว่าแล้วยกมือลูบคางเบา ๆ ทำท่าวางภูมิแก้เขิน ใบหน้าของเขาเริ่มเป็นสีแดงบาง และดูท่า ... โครโน่จะเริ่มมีอาการเดียวกันแล้วสิ “เอ้า ! ไปกันได้แล้ว !” เชสเตอร์ว่าแล้วเดินนำพวกเขาเข้าไปในป้อม ซึ่งพวกเขาจะทำพิธีรับตำแหน่งในห้องทำงานของ ‘คัตซ์ แมกมาดัส’ หัวหน้ากอง ‘มังกรแห่งเซเรียส’ ... และตอนนี้ พวกเขาก็มาหยุดที่หน้าห้องนี้แล้ว

    “เอ่อ ... จะทำพิธีเร็วขนาดนี้เลยหรือ ?” โครโน่ถาม เขาคิดว่าน่าจะอีกสักวันสองวันค่อยทำพิธีแต่งตั้ง เชสเตอร์ยักไหล่เล็กน้อย

    “เห็นท่านบอกว่าไม่ได้ว่างทุกวันนะ เลยบอกให้รีบ ๆ จัดการให้เสร็จ ๆ ไปซะ” เชสเตอร์ว่า
    ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก !

    เชสเตอร์เคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปช้า ๆ “ขออนุญาตครับ” เชสเตอร์เอ่ยอย่างนอบน้อมแล้วเปิดประตูจนสุด คัตซ์ยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน โดยมีรีเบลยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างไม่พอใจ ดูท่า ... พิธีนี้จะรบกวนเวลา ‘นอนกลางวัน’ ของเธอละมั้ง ?

    เอลวิส , โคร่โน่ และมิสยืนเข้าแถวหน้ากระดานเรียงสามเบื้องหน้าคัตซ์ เอลวิสมีสีหน้านิ่งเฉย โครโน่ดูท่ากำลังสบายอารมณ์ ส่วนมิสนั้นก็ยกมือขึ้นปัดเสื้อเล็กน้อย คัตซ์มองหน้าทั้งสามคนและเริ่มรู้สึกว่าจะแตกต่างกันไปคนละทางเลย คนแรก ... เจ้าหนุ่มผมเงินนี่ดูเงียบ และดูเหมือนจะมีอะไรซ่อนไว้เยอะ ส่วนเจ้าหัวแดงเหมือนเชสเตอร์นี่ ดูแล้วน่าจะบ้าพลังพอดู อืม ... ดูเป็นผู้เป็นคนก็สาวน้อยคนสุดท้ายนี่ละนะ

    “ยินดีด้วย” คัตซ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการ “สำหรับการที่ผ่านการทดสอบเป็น ‘มังกรแห่งเซเรียส’ ถึงแม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้รับการทดสอบครบถ้วนก็ตามที แต่พวกเธอก็เหมือนกับเพชรที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน ซึ่งอยู่ท่ามกลางก้อนกรวด และคนที่จะทำหน้าที่เจียระไนนั้นก็คือพวกเรา” คัตซ์ว่า

    “ชั้นคือ ‘คัตซ์ แมกมาดัส’ ... ผู้บังคับบัญชามังกรแห่งเซเรียส คำสั่งของชั้นถือว่าเป็นเด็ดขาด และห้ามทำผิดกฎเด็ดขาดเวลาที่อยู่ที่นี่” คัตซ์ให้สัญญาณเชสเตอร์ แล้วเขาก็หยิบระเบียบข้อบังคับที่อยู่หลังห้องมาเตรียมไว้ “ชั้นจะมอบตรา ‘มังกรแห่งเซเรียส’ ให้กับพวกเธอ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า พวกเธอจะต่อสู้เพื่อเกียรติ และศักศรีดิ์ของอัศวิน และจะไม่ทำให้ตำนานของ ‘มังกรแห่งเซเรียส’ เสื่อมเสียเป็นอันขาด”

    คัตซ์หันไปมองหน้ารีเบล เธอทำหน้าเหมือนเบื่อ ๆ แล้วจึงเปิดกล่องออก เป็นตราสัญลักษณ์มังกรกำลังสยายปีกสีทองสามอัน คัตซ์และรีเบลเดินเข้าไปหาเอลวิสแล้วติดมันที่อกเสื้อของเขา แล้วตามด้วยโครโน่กับมิสเป็นคนสุดท้าย และไม่ลืมที่จะให้เชสเตอร์แจกข้อบังคับของป้อม รวมทั้งรายละเอียดต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งที่พักของพวกเขาด้วย

    “เราสู้เพื่อเกียรติและศักศรีดิ์ของเซเรียส ... และสู้เพื่อเกียรติของเรา เกียรติแห่งอัศวิน !” คัตซ์ว่า ทั้งสามยืนตรงราวกับอัศวินที่แท้จริง “ยินดีต้อนรับ เหล่า ‘มังกรแห่งเซเรียส’ รุ่นใหม่ ...”

    ครับ ! ! / ค่ะ ! !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×