ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Anonymous School เปิดรับสมัครนักเรียนและอาจารย์ไม่จำกัดจำนวน

    ลำดับตอนที่ #48 : หอ Crusis ปี 1

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 52


    Crusis เป็นภาษาละติน หมายถึง Cross หรือ ไม้กางเขนนั่นเอง
    ความจริงหอนี้ออกจะน่าสงสารอยู่ซักนิด
    แต่อย่าน้อยใจไปนะครับ
    มันคือประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ๋ 
    การเสียสละและเกียรติยศ
    ที่ยังคงสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
    สัญลักษณ์ กางเขนสีเลือด กุหลาบดำ

    เรื่องที่น่าภูมิใจมากกว่านั้นของหอนี้คือ
    ผอ.หาสัญลักษณ์ในเน็ตแทบตาย หาอันถูกใจไม่ได้
    ช่างมัน!!...
    วาดเอาเองนี้หล่ะว้า
    แล้วก็หยิบ ดินสอ ปากกา ดินสอสีมาลากๆๆๆๆ
    เน่าซะไม่มี รับเคราะห์ไปนะครับ

    ตำนานกางเขนกุหลาบ

    ตำนานกุหลาบ.......

    ตำนานแรก...
    เป็นเรื่องเล่าตามบันทึกของศาสนาคริสต์ จารึกโดย "เซนต์แอมโบรส" ว่า กุหลาบถูกส่งลงมาจากสวรรค์ พร้อมกับหนามอันแหลมคม เพื่อเตือนให้มนุษย์ระลึกถึงความเจ็บปวด ที่เกิดจาก ความประพฤติผิดของตน เมื่อครั้งที่ อาดัมมนุษย์ผู้ชายคนแรกของโลก พลาดพลั้งทำตัวให้เปื้อนบาป แต่พระเจ้ายังได้มอบความงาม และความหอมของกุหลาบ เพื่อให้มนุษย์พึงระลึกว่าชีวิตยังมีความหวัง และสามารถถ่ายถอนบาปนำไปสู่ชีวิตที่งดงามหอมหวานได้เช่นกัน
    ตำนานที่ 2..
    เล่าถึง...สีแดงของดอกกุหลาบว่า เดิมทีกุหลาบมีสีขาวบริสุทธิ์เพียงสีเดียว แต่เมื่อ อีฟ หญิงสาวคนแรกของโลกไปจุมพิต ดอกกุหลาบเข้า จึงทำให้ดอกกุหลาบมีสีแดง บางกระแสเล่าว่า อีฟเป็นคนตั้งชื่อดอกไม้ที่เธอโปรดปรานชนิดนี้ว่า...
    "Rose" และกุหลาบเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่ออดัมกับอีฟถูกไล่ออกจากสวนอีเดน สื่อความหมายถึง การที่มนุษย์เอาบาปไปแปดเปื้อนสีขาว บริสุทธิ์ของดอกไม้ ให้เปลี่ยนเป็นสีแดงแห่งกิเลส และตัณหา
    ตำนานที่ 3..
    กล่าวว่า กุหลาบเกิดจากการชุมนุมของบรรดาทวยเทพ เพื่อประทานชีวิตใหม่ให้กับนางกินรีนางหนึ่ง ซึ่งเทพธิดาแห่งบุปผาชาติ หรือ"คลอริส" บังเอิญไปพบนางนอนสิ้นชีพอยู่ ในตำนานนี้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทพผู้ประทานความงามให้ และมีเทพอีก สามองค์ประทานความสดใส เสน่ห์ และความน่าภิรมย์ และมี เซไฟรัส ซึ่งเป็นลมตะวันตกได้ช่วยพัดกลุ่มเมฆ เพื่อเปิดฟ้าให้กับ แสงของเทพ อพอลโล หรือแสงอาทิตย์ส่องลงมา เพื่อประทานพรอมตะ จากนั้น ไดโอนีเซียส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นก็ประทาน น้ำอมฤต และกลิ่นหอม เมื่อสร้างบุปผาชาติดอกใหม่นี้ขึ้นมาได้แล้ว เทพทั้งหลายก็เรียกดอกไม้ ซึ่งมีกลิ่นหอม และทรงเสน่ห์นี้ว่า... "Rosa" จากนั้น เทพธิดาคลอริส ก็รวบรวมหยดน้ำค้างมาประดับเป็นมงกุฎ เพื่อมอบให้ดอกไม้นี้เป็นราชินีแห่งบุปผาชาติทั้งมวล จากนั้นก็ประทานดอกกุหลาบให้กับเทพ อีโรส ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก "กุหลาบ" จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แล้วเทพ อีโรส ก็ประทานกุหลาบนี้ให้แก่ ฮาร์โพเครติส ซึ่งเป็นเทพแห่งความเงียบ เพื่อที่จะเก็บซ่อนความอ่อนแอของทวยเทพทั้งหลาย ดอกกุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ ของความเงียบ และความเร้นลับอีกอย่างหนึ่ง
    กรีก...
    มีตำนานเล่าถึงกำเนิดของดอกกุหลาบ ตามความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าของกรีก ด้วยเช่นกันว่า เมื่อครั้งที่ เทวีแห่งความรักนามว่า... "อโฟรไดท์ " (venus) ถือกำเนิดขึ้นจากท้องทะเล กุหลาบก็ได้ถือกำเนิดขึ้น จากฟองคลื่นขาวสะอาดที่สาดซัดมาต้อนรับ การเกิดของอโฟรไดท์ กุหลาบทุกดอกยังคงมีสีขาวบริสุทธิ์ เหมือนตอนที่ถือกำเนิดขึ้นมา จนกระทั่งวันหนึ่ง อาโดนิสชู้รักคนหนึ่ง
    ของอโฟรไดท์ได้รับบาดเจ็บ จนถึงแก่ความตายในการล่าหมูป่า กุหลาบแดงจึงมีขึ้นมาในโลก สีแดงของกุหลาบเกิดจาก เลือดของชายหนุ่มที่หยดลงไปโดนกุหลาบที่อยู่ใกล้ บ้างก็เล่าว่า ระหว่างที่อโฟรไดท์เร่งรีบจะไปช่วยชายคนรักเกิดโดนหนามกุหลาบ เกี่ยวและเลือดที่รินไหลทำให้กุหลาบกลายเป็นสีแดง และนั่นคือที่มาของกุหลาบแดงที่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนความรัก
    โรมัน...
    กล่าวถึงตำนานของดอกกุหลาบว่า คิวปิดลูกชายของวีนัส เป็นผู้ทำเหล้าองุ่นหกรดดอกกุหลาบหลายดอก กุหลาบเหล่านั้นจึงมีสีแดง ส่วนหนามที่แหลมคมของกุหลาบเกิดขึ้นจากความ โกรธเคืองในขณะที่คิวปิดกำลังชื่นชมความหอมของดอกกุหลาบ กลับ โดนผึ้งต่อย คิวปิดจึงควักธนูมายิงใส่พุ่มกุหลาบทำให้กุหลาบมีหนามที่แหลมคม
    เปอร์เซีย...
    มีตำนานเล่าขานถึงกำเนิดของกุหลาบแดงไว้เกี่ยวกับเจ้านกไนติงเกลตัวแรกของโลกมีความปรารถนา ที่จะกล่อมราตรีกาลให้หวานชื่น ด้วยเสียงอันไพเราะของมันแต่ด้วยกลัวว่า จะเผลอหลับ เจ้านกไนติงเกลจึงปักอกของตัวเองลงที่หนามกุหลาบทำให้มันสามารถทำได้ ดังที่ตั้งใจไว เลือดของเจ้านกไนติงเกลที่หยาดหยดจึงทำให้ดอกกุหลาบมีสีแดง


    นั่นเป็นส่วนหนึ่ง
    แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
    ที่แน่ๆ
    มันไม่ใช่ตำนานของหอพักแห่งนี้
    (แล้วมาเขียนทำไมฟะ?)
    เขียนเกริ่นหน่ะ -*-
    กลัวมันสั้นไป

    ตำนานจริงๆจะเริ่ม ณ บัดนี้

    มหาสงครามศาสนาครั้งยิ่งใหญ่
    สงครามครูเซด
    ศาสนจักรพ่ายแพ้

    เพราะ
    พกวเขาเหล่านั้น
    แค้นในนามของพระ
    เจ้า
    แต่ช่วงชิงชีวิตผู้อื่น

    นั่นคือสาเหตุและที่มาบางส่วนของ กุหลาบดำ กางเขนเลือด

    อย่างที่ได้ทราบมาในเบื้องต้นบางส่วน
    กุหลาบซึ่งแต่เดิมมีเพียงสีขาวนั้่น
    เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์
    เปรียบดังเด้กน้อย
    ที่ไร้ซึ่งมลทินใดๆ

    ตำนานกุหลาบแดงเกิดข้นครั้งแรกเมื่อครั้งที่พระเยชูยอมสละพระชนม์ชีพเพื่อไถ่บาปให้กับมนุษยชาติ
    พระโลหิตสีแดงย้อมดอกกุหลาบ จนกลายเป็นสีแดงฉาน
    และกุหลาบสีแดงก็กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักตั้งแต่นั้นเป็นต้้นมา

    ในทางกลับกัน
    มหาสงครามครูเซด

    ซึ่งสงครามครั้งนั้น
    ศาสนจักร...แพ้ครับ

    เพราะอะไร
    พระผู้เป็นเจ้าทรงทอดทิ้ง ผู้กระหายในสงคราม

    ไม้กางเขนที่ถุกนำมาใช้เพื่อทำลายชีวิตผู้คน ถุกย้อมจนกลายเป็นเลือดสีแดงฉาน
    และกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์ แปดเปื้อนด้วยราคีแห่งความแค้น



    *บทความส่วนนี้ถุกแต่งขึ้นมาโดยอ้างอิงเนื้อหาทางประวัติศาสตร์บางส่วน รวมถึงความคิดส่วนตัวเล็กน้อย ขอรบกวนว่าถ้าเกิดเห็นข้อความไม่เหมาะสมที่ใด กรุณาแจ้ง
    แล้วจะลบบทความส่วนนี้โดยทันทีครับ

    ------------------------------------------------------------------------

    ทำเนียบนักเรียน



    *เคียวโกะ     ฮารุโนะ*


    *ราฟาเอล เทสเทรอรอส*


    *วินเซนท์ ซามูเอล คอนเทส*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×