เมื่อสองสามปีที่แล้วในประเทศญี่ปุ่น มีคดีที่เรียกกันว่า “ผมเอง” เกิดขึ้น..
เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า มิจฉาชีพจำพวกหนึ่งที่ชอบต้มตุ๋นหลอกลวงคนไปทั่ว ด้วยการ(สุ่ม)โทรศัพท์ไปยังบ้านของเหยื่อ ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ที่บังเอิญเลขหมายกดไปเจอ และหากมีคนรับสาย การหลอกลวงต้มตุ๋นเอาเงินก็จะเริ่มขึ้น
หากปลายสายถามว่า..นั่นใครโทรมา ก็มักจะได้รับคำตอบว่า “ผมเอง” จะไม่มีการบอกชื่อเสียงเรียงนามให้รู้ว่าเป็นใคร อารมณ์ประมาณคุณกำลังเล่นเกมทายคนจากเสียงที่เขาออกทีวีกันอะไรอย่างนั้น
ด้วยเหตุนั้น ปลายสายที่คิดว่า “ผมเอง” นั้นคงจะเป็นลูกหลาน ไม่ก็เหลนโหลนคนไหนสักคนโทรมาหยิบยืมเงินก็ไม่ได้คิดอะไร ยิ่งเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าจะไปจ่ายค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่านู่นนี่นั่น จิปาถะ ที่เด็กๆทั่วไปเขาพึงต้องจ่ายกัน....ก็ยิ่งเชื่อสนิทใจเข้าไปใหญ่ โอนเงินให้แทบไม่ทัน (เอ...แล้วพวกอากงอาม่าทั้งหลายตอนโอนนี่ไม่ได้ดูเลขบัญชีกันเลยรึไงว่า ปลายทางนั้นมันไม่ใช่ชื่อลูกหลานนามสกุลคุ้นหูเลยสักนิด)
กว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอกเอาเงินไปหลายตังค์ก็ต่อเมื่อเจอหน้าลูกหลานตัวจริงมาบอกว่า ไม่เคยโทรมาขอตังค์สักบาท เอาล่ะสิ คราวนี้ก็เรื่องใหญ่ แล้ว ไอ้ผมเอง นี่มันเป็นใคร หน้าตาก็ไม่เคยเห็น พอไปแจ้งความ คุณตำรวจก็ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันให้ พร้อมกับบอกข่าวดีว่า ไม่ได้มีแค่คุณนะที่โดนหลอกแบบนี้ มีเพื่อนฝูงอีกหลายรายที่โดน นักตุ๋นนามว่า “ผมเอง” หลอกเอาตังค์ไปหมดตูดแบบนี้
จริงๆเรื่องแบบนี้หลายๆคนอาจจะบอกว่า เพราะเราไม่ระวังเอง และก็เชื่ออะไรง่ายไม่รอบคอบ แต่บางทีสถานการณ์มันก็เป็นใจให้พวกมิจฉาชีพเหล่านี้เหมือนกัน เรามาดูอีกกรณีหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในบ้านเราเอง เล่าโดยผู้ประสบเหตุโดยตรง
ระวังมิจฉาชีพแนวใหม่กันนะคะ เจอมากับตัวเลยค่ะ เวลา 07:30 น. โทรศัพท์เราดังแต่เช้าเลย เบอร์ใครก็ไม่รู้??
เรา: ฮัลโหล
ใครไม่รู้: ฮัลโหล เราเอง
เรา:ใครอ่ะ?
ใครไม่รู้: จำเราไม่ได้เหรอ
เรา: (คิดแล้วเสียงชักคุ้นๆ คล้ายๆเพื่อนเราแหะ เพิ่งตื่นด้วย สมองยังไม่ทำงาน) แนนเหรอ? (ชื่อสมมตินะคะ)
ใครไม่รู้: ใช่ เราเอง รบกวนอะไรหน่อยได้มั๊ย ขอยืมเงินสองพันก่อนได้ป่ะ
เรา: อืม ได้ๆ (เพื่อนสนิทเราเองนี่นา แล้วเพื่อนเราก็ดันมีอีกเบอร์ที่เราไม่ได้เมมไว้ด้วย) จะให้ยังไงล่ะ
ใครไม่รู้: โอนเข้าบัญชีได้มั๊ย แต่ไม่ใช่บัญชีเรานะ
เรา: อืม มีปัญหาอะไรรึเปล่า?
ใครไม่รู้: เปล่าๆ ไม่มีอะไร พอดีเราต้องทำธุระให้พี่น่ะ แต่เงินไม่พอ เลยต้องขอยืมก่อน
เรา: ต้องให้โอนให้เมื่อไหร่เหรอ?
ใครไม่รู้: เช้านี้เลยได้มั๊ย สักแปดโมง
เรา: โห เรายังไม่ออกจากบ้านเลย บัญชีธนาคารไรเหรอ
ใครไม่รู้: ....(บอกชื่อแบงค์มา)
เรา: เราไม่มีเอทีเอ็มบัญชีนี้ล่ะ (เริ่มสงสัยละ เลยทำแกล้งโง่ไม่รู้ว่าโอนข้ามธนาคารได้)
ใครไม่รู้: ฝากเครื่องฝากอัตโนมัตได้มั๊ย?
เรา:เดี๋ยวจะแวะธนาคารที่ทำงานละกันนะ ถ้าถึงแล้วจะโทรไปถามอีกทีนะ
ใครไม่รู้: โทรมาที่เบอร์นี้นะ
พอดีเราเพิ่งโทร.คุยกับเพื่อนเราที่ชื่อแนนเมื่อวันจันทร์ เพราะจะนัดเจอกันตอนวันศุกร์ ก่อนเราวางหู เราถามเค้าไปว่าตกลงรู้ยังว่าร้านที่นัดเจอกันอยู่ตรงไหน เค้าตัดบทเราว่า เดี๋ยวไว้ค่อยคุยกันเรื่องนี้อีกทีได้ป่ะ เราก็เลยวางหู
จริงๆเราเริ่มเอะใจตั้งแต่ช่วงที่เร่งให้เราโอนเงินแล้วล่ะ พอตื่นนอนเต็มที่แล้ว ฟังเสียงดีๆ ก็ไม่เหมือนเพื่อนเราด้วย เราพยายามโทร.หาเพื่อนเราที่ชื่อแนน แต่ยังไม่ได้รับสาย
พอ 09:30 น. เราทำเนียนโทร.กลับไป เพื่อจะเอาชื่อกับเลขที่บัญชีมาเป็นหลักฐาน
เรา: มาทำงานสายแล้ว เลยไม่มีเวลาโอนให้ แต่แวะเข้าไปแบงค์หยิบใบฝากมาด้วย ขอเลขที่กับชื่อบัญชีเลย เดี๋ยวสายๆจะลงไปฝากให้นะ
ใครไม่รู้: ...(บอกชื่อบัญชีและเลขมาเสร็จสรรพ)....
เรา: เดี๋ยวจัดการเสร็จแล้วจะโทร.ไปบอกนะ
และแล้วเพื่อนเราก็โทร.กลับมา อย่างที่คิด เพื่อนเราไม่รู้เรื่องจริงๆ พอ 12:00น. เราก็โทร.กลับไปที่เบอร์นั้นอีกที
เรา: ฮัลโหลตกลงคุณเป็นใครกันแน่ เราโทร.หาเพื่อนเราแล้ว
ใครไม่รู้: ....(เงียบ ไม่มีเสียงตอบ)....
พอเราวางหู เราก็ส่งข้อความไปว่าให้โทร.กลับมาด้วย ไม่งั้นเราจะแจ้งตำรว เรามีชื่อและเลขที่บัญชีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการโทร.กลับมา เราลองเสิร์ชชื่อจากกูเกิ้ลก็เจอว่าเกิดเหตุการณ์กรณีเดียวกันกับเราอีกสองรายค่ะ เร็วๆนี้เองด้วย
ขอบอกว่าตอนเค้าคุยกับเรา เนียนมากๆ เลยนะคะ วิธีการพูดเหมือนสนิทกันมานาน ช่วยกันระวังไว้ด้วยนะคะ เพราะเค้าจะหลอกเอาเงินจากเหยื่อที่ละพันสองพัน เงินมันไม่เยอะพอที่จะทำให้เหยื่อไปแจ้งความ เพราะไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป
เราโทร.ไปคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารดังกล่าว เล่าเหตุการณ์ให้เขาฟัง อยากรู้ว่าธนาคาระทำอะไรได้บ้าง สรุปว่าธนาคารทำอะไรไม่ได้เลยนะคะ นอกจากจะจับตาดูบัญชีนี้แต่อาญัติหรือว่าระงับการถอนไม่ได้ค่ะ เพราะเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบัญชีคนเดียว ทำได้อย่างเดียวคือเราต้องะวังตัวเองให้มากๆ เจอเหตุการณ์อย่างนี้ให้ตั้งสติ ถึงอีกฝ่ายจะเร่งให้เรารีบโอนเงินเพราะเดือดร้อนมาก ก็อย่าเพิ่งใจร้อนโอนเงินให้ทันทีนะคะ
อ้างอิงจาก : ภัยร้ายใกล้ตัว, Mr. Stop
ความคิดเห็น
ถ้าเจอภัยผมเอง ฉันเอง อะไรก็แล้วแต่มันทำนองนี้ ลองบอกชื่อเพื่อนไป แล้วมันก็จะบอกว่าใช่(แหงๆแหละ) ให้ลองถามไปว่า" งั้นลองบอกชื่อจริงมาซิ"(สำหรับคนที่รู้ชื่อจริงเพื่อนนะ)ถ้ามันสุ่มถูกก็ต่อด้วย นามสกุล (ถ้ามันรู้ก็ให้มันรู้ไป)ถ้ามันยังรู้อีกก็ถามต่อว่า"เคยได้รับรางวัลอะไรบ้าง"(สำหรับคนที่รู้) ถ้ามิจฉาชีพบอกว่า"จะถามอะไรนักหนา ตังค์จะหมด" ให้เราทำเสียงกวนที่สุดต่อไปว่า"ถ้าคุณเป็นเพื่อนเราจริง ก็ต้องรู้สิค่ะ(ครับ) หรือคุณคือโจรไม่สิ มิจฉาชีพที่หากินกับโทรศัพท์"แล้วมันก็ไม่น่าจะรู้แล้วนะ(ถ้ามันรู้อีกก็บอกไปว่า มีอะไร <มันก็บอกเงินแหงๆล่ะ>ให้ต่อว่าช่วงนี้ตัวขี้งกมันกินขี้เกียจให้)แล้วตัดสายปิดเครื่องสัก10-20นาที ไม่แน่ใจว่าจะได้มั้ย แต่น่าจะป้องกันได้นะ