ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตามล่าฝัน...ฉันอยากเป็นหมอ !!

    ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องที่อยากฝากถึงน้องๆค่ะ

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 57


     ฝากถึงน้องม.ต้น 
     ถ้าน้องได้เข้ามาอ่านบทความนี้ของพี่ น้องรู้จักตัวเองว่าอยากเป็นหมอเร็วมากๆเลยค่ะ > < ตอนนั้นพี่ยังอยากเป็นแม่มดอยู่เลย 555
    รู้ตัวเร็วก็ดีแล้วค่ะ สำหรับน้องม.ต้นก็ขอแนะนำให้ตั้งใจเรียน เพราะหมอต้องเลือกเรียนสายวิทย์-คณิต
    หลายๆโรงเรียนก็เอาม.ต้นมาตัดสินสายการเรียนตอนม.ปลาย ก็ต้องทำเกรดให้ได้ดีๆค่ะ
    จริงอยู่ที่กสพท.ไม่ห้ามสายศิลป์สอบ แต่เนื้อหาที่สอบกสพท.ยังไงก็ของสายวิทย์ล้วนๆ
    ถ้าไม่ใช่เด็กสายศิลป์ที่เทพอังกฤษ+ไทย+สังคมมากๆแถมยังดวงดีอีก โอกาสติดมันยากมากๆเลยนะคะ

    ที่แนะนำอีกอย่างคือควรไปลองสอบโรงเรียนม.4 ดังๆอย่างเตรียมอุดมกับมหิดลวิทยานุสรณ์ค่ะ
    มหิดลวิทย์จะสอบก่อน รายละเอียดรบกวนน้องๆไปดูเอาเองนะคะ ตอนพี่สอบมันนานมากแล้ว ลืมไปหมดแล้วค่ะ ;_;
    ส่วนเตรียมสอบช่วงเดือนมีนาคมค่ะ ข้อดีของโรงเรียนพวกนี้คือ สังคมที่ร.ร.มีแต่เด็กเก่ง ตั้งใจเรียน 
    เค้าจะทำให้เราตั้งใจเรียนตามไปด้วย ข้อสอบจะยากกว่าร.ร.ทั่วไปทำให้ได้ฝึกฝนเยอะ
    ส่วนข้อเสีย เครียดมั๊ง พี่ไม่เคยอยู่ทั้งสองที่อ่ะค่ะ = =" ไม่แน่ใจ แต่ฟังจากเพื่อนๆที่ไปมาก็ประมาณนี้แหละ  
     

     ฝากถึงน้องม.4 
      ด้วยความบังเอิญหรือความจงใจก็ไม่รู้ พี่ดันมาเขียนบทความนี้วันที่ประกาศผล TU77 พอดีเลย 55
    ก่อนอื่นก็ขอแสดงความยินดีกับน้องที่สอบติดนะคะ รวมทั้งน้องๆที่ติดมหิดลด้วย ยินดีด้วยค่ะ !!

      ขอแสดงความเสียใจกับน้องที่พลาดไปนะคะ ไม่เป็นไรค่ะ การสอบเข้าม.4 ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
    เรายังมีโรงเรียนเก่าที่ตอนรับเราเสมออยู่ หรือจะเป็นโรงเรียนใหม่ที่เราสอบเข้าได้แต่ไม่ใช่ที่ๆอยากได้จริงๆ
    โชคชะตาอาจเล่นตลกกับเราให้พบเจออุปสรรค เพื่อที่จะได้เรียนรู้ พัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งขึ้นต่อไป
    วันนี้อาจจะไม่ใช่วันของน้อง แต่น้องในตอนนี้สามารถทำให้วันหน้าซึ่งเป็นวันประกาศผลสอบเข้ามหาลัยเป็นวันของน้องได้เสมอนะคะ
    พี่อยากจะบอกน้องที่พลาดไปว่าตอนนั้นพี่ก็สอบไม่ติดทั้งสองที่ค่ะ :) แต่ตอนนี้พี่สอบติดคณะที่พี่ใฝ่ฝันมาตลอดได้แล้ว 

    สำหรับพี่ พี่คิดว่าร.ร.ตอนม.ปลายยังไม่ใช่ตัวกำหนดอนาคตว่าเราจะเป็นอะไร จะได้เป็นหมอหรือไม่?
    ในเมื่อตอนนี้รู้ว่าตัวเองสู้เค้าไม่ได้ เก่งไม่พอที่จะอยู่ที่ตรงนั้น ก็ใช้ฮึดนี้แหละค่ะผลักดันให้ตัวเองเก่งขึ้น รู้ตัวว่าไม่เก่งก็ขยันให้มากกว่าเค้า
    รู้ตัวว่าไม่ขยันก็ปรับปรุงตัวเองซะ ประวัติศาสตร์จะได้ไม่ซ้ำรอย ^^

     ตอนนี้อยากร้องไห้มั้ยคะ? ร้องเลย ร้องไห้ให้สุดๆร้องให้พอจนร้องต่อไม่ได้ พอร้องไม่ออกแล้วก็มาตั้งหน้าตั้งตาเรียนม.ปลายกันเถอะค่ะ
    เอาความผิดพลาดครั้งนี้เป็นบทเรียน แล้วไว้เจอกันใหม่ตอนสอบเข้ามหาลัย จะติดไม่ติดก็ขึ้นอยู่กับตัวน้องล่ะ


     ขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองนิดนึงนะคะ อยากให้รู้ว่าครั้งนึงพี่ก็เจอแบบเดียวกับน้องๆนี่ล่ะ
    ตอนพี่อยู่ม.3 ไปสอบมหิดลวิทย์ไปสอบเล่นๆเพราะตอนนั้นชอบวิทย์เกลียดเลขมาก 
    พอรู้ว่าเป็นโรงเรียนเน้นวิทย์กับเลขแถมประจำอีก ก็ บ๊ายบายย ไม่อยู่หรอก = =" เลยไม่ค่อยเสียใจเท่าไร
    ส่วนเตรียมยอมรับเลยค่ะว่าอยากเข้ามากๆ เพราะอยากไปสยาม 55 ไม่เคยไป เหตุผลงี่เง่ามาก
    แต่รู้สึกตัวช้าอ่านช้า ก็เลยไม่ติดค่ะ ตอนรู้ผลนะ ร้องไห้ไปสามวันแน่ะจนได้สำนึกว่าร้องไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก
    ก็เลยฟิตมากค่ะ ตั้งใจเรียนสุดๆและก็เป็นแบบนั้นมาตลอดม.ปลาย(แอบมีแผ่วๆเป็นบางเวลา)
    พอผ่านมาแล้วเรื่องใหญ่ที่สุดตอนนั้นก็ดูเป็นเรื่องเล็กๆไปเลยล่ะค่ะ

    แหมมม ดูเหมือนจะพล่ามเรื่องสอบม.4 เยอะไปหน่อย พอดีกำลังอินค่ะ 55 มันประกาศผลวันที่เขียนพอดี
    ขอเข้าเรื่องถึงน้องม.4 ที่ไม่เกี่ยวกับการสอบเข้าบ้างล่ะกัน ม.4 เนี่ยเป็นพื้นฐานสำคัญของม.ปลายเลยล่ะค่ะ
    ก็ขอแนะนำให้ตั้งใจเรียนเหมือนเดิม 55 จะไปสายวิทย์รอดไม่รอดก็ม.4 นี่ละ
    บางคนไม่ชอบหรือรู้สึกว่ามันไม่ใช่ย้ายสายหนีก็มี (เอาจริงๆม.4เนื้อหาเบาที่สุดในม.ปลายนะ)
    ถ้าไม่ยากจนเกินไปทำเกรดสวยๆไว้ก็ดีค่ะ ถึงหมอจะไม่ใช้แต่ถ้าพื้นฐานตอนเรียนดี ตอนทวนสอบเข้ามหาลัยจะไปได้เร็วมากค่ะ
    ตอนนี้แหละพอได้เรียนจริงๆจังๆน้องก็คงได้ถามตัวเองว่าเราอยากเป็นอะไรกันแน่นะ ช่วงม.4 นี้นอกจากตั้งใจเรียนพี่ก็อยากแนะนำให้น้องๆลองสมัครไปค่าย ไปOpen Houseของหลายๆสถาบันดู ถ้ามีโอกาสจะมาแนะนำให้ค่ะ^^ บางที่จำกัดจำนวนคนเค้าก็อาจจะให้โควต้าม.4 น้อยหน่อย สมัครม.4 ไปไม่ติดก็ไม่เป็นไรค่ะ ม.5 สมัครใหม่ได้ แต่เคยไปตอนม.4แล้วสมัครม.5 ได้อีกรึเปล่านี่พี่ไม่รู้นะไม่เคยลอง 55
    นอกจากจะได้รู้จักสาขาอาชีพที่เราอยากเรียนล่ะ ยังได้รู้จักรุ่นพี่ที่นั่นได้คำแนะนำดีๆ รู้จักเพื่อนใหม่มีโอกาสก็อยากให้ลองค่ะ
    ตอนม.4 พี่ไปสองที่ค่ะ ค่ายเส้นทางสู่หมอศิริราชครั้งที่13(รอบสอง)ตอนช่างต.ค.แต่ดันเลื่อนเป็นธ.ค.เพราะน้ำท่วม = ="
    และอีกอันก็ CU Open House ค่ะ อันนี้เหมือนไปทัวร์จุฬากับเพื่อน ดูทุกคณะในจุฬาเลย เหนื่อยหน่อยแต่ก็สนุกดี
    สองครั้งนี้ล่ะที่ทำให้พี่รู้สึกว่าอยากเป็นหมอมากๆค่ะ > < !! 



      
    ฝากถึงน้องม.5
     สำหรับน้องๆม.5 หลายคนคงจะได้รู้เกรดตอนม.4 แล้วสินะ 55 ถ้าเกรดแย่ก็พอมีโอกาสแก้ตัวตอนม.5 นะคะ
    จริงอยู่ที่สอบหมอกสพท.ไม่ใช่เกรด แต่สอบตรงหมอบางที่อย่าง แพทย์MDXมข. กับแพทย์ม.บูรพาก็ใช้เกรดมาเป็นตัวตัดสินค่ะ
    ยิ่งแพทย์มข.เนี่ยเกรดไม่ถึงเกณฑ์สมัครไม่ได้เลยนะ พี่ว่าม.5ยากกว่าม.4 เยอะนะ ต้องใจเรียนมากขึ้นหลายเท่าเลย
    เรื่องโหดๆหินๆของม.ปลายก็มาอยู่ม.5 ซะเยอะอย่าง เลขก็เจอ(อภิ)มหาตรีโกณ, ฟิสิกส์ก็ไฟฟ้า น่าสนุกทั้งนั้น = ="
    ช่วงม.5 ก็ดันมีกิจกรรมเยอะซะอีก กีฬาสี งานใหญ่ของม.5 > < แนะนำให้ทำนะคะ สนุกดีได้ประสบการณ์ด้วย
    คิดว่าน้องๆหลายคนคงชอบอยู่ล่ะ สำคัญต้องรู้จักแบ่งเวลา โรงเรียนพี่เป็นพวกชอบจัดกี่ฬาสีก่อนมิดเทอมค่ะ
    ประมาณว่ากีฬาสีจบ เสาร์-อาทิตย์ละก็มิดเทอม ไม่รู้มีน้องๆคนไหนเป็นเหมือนกันรึเปล่า
    ตอนพี่ทำก็ใช้ว่าเวลาที่อยู่ที่โรงเรียนใช้ทำกีฬาสี พอกลับบ้านก็อ่านหนังสือเตรียมสอบ
    อาจจะกลับบ้านช้ากว่าปกติหน่อยอยู่ช่วยๆกันหลายคนงานจะได้เสร็จเร็วๆค่ะ คือพยายามเต็มที่ทั้งสองอย่าง
    ม.5 นี้ก็สามารถสมัครไปค่ายOpenHouseของที่ต่างๆได้นะคะ โอกาสติดเยอะกว่าน้องๆม.4มากๆเพื่อนพี่หลายๆคนที่ไม่ติดค่ายตอนม.4
    มาม.5ก็ติดกันเยอะแยะเลยค่ะ ลองดูน้า ค้นหาตัวเองว่าใช่รึเปล่า ไว้ว่างๆจะมาแนะนำค่ายOpenHouseให้ค่ะ
     
    ช่วงม.5 เทอมปลายเป็นช่วงที่พี่เริ่มว่างแผนเรียนพิเศษครอสเอนท์อย่างจริงจังค่ะ
    เท่าที่เรียนมาทั้งหมดใครโอสุดสำหรับเราก็จัดตารางล่วงหน้าถึงเปิดเทอม1ม.6 ไว้คร่าวๆเลย
    ไม่งั้นจะเกิดปัญหาเรียนไม่ทันกันค่ะ โดยเฉพาะคนที่เรียนพิเศษเยอะๆหลายวิชา แถมมีทั้งครอสเอนท์ครอสตะลุย เยอะจริงๆ =..=
    เดี๋ยวพี่จะแนะนำในหัวข้อจัดตารางเรียนพิเศษนะคะ อัพแล้วจะมาแปะลิงค์ให้


     ฝากถึงน้องม.6 
     พี่ไม่รู้นะว่าช่วงนี้น้องทำอะไรอยู่ ตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ ตั้งหน้าตั้งตาเรียนพิเศษมีหลับบ้างรึเปล่านะ ;)
    ถ้าน้องเรียนพิเศษแล้วอยากให้จำได้นานๆเวลาลืมทวนแป๊ปเดียวก็จำได้ แนะนำให้เรียนเสร็จแล้วทวนทุกวันนะคะ
    ไม่ใช่ทวนแค่วันที่เรียนทวนของวันก่อนๆด้วย วันแรกกลับมาทวนของวันแรก วันที่สองกลับมาทวนของวันแรกและวันที่สอง
    ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เหมือนจะนานนะ แต่ที่เราทวนซ้ำๆมันจะใช้เวลาน้อยลงค่ะ เหมาะมากๆสำหรับทวนอะไรเยอะๆ
    ซึ่งวิธีนี้พี่ได้มาจากอ.อุ๊ค่ะ ถ้าน้องได้เรียนกับท่าน ท่านก็คงแนะนำน้องวิธีนี้เหมือนกัน 55 แล้วก็ที่พี่รู้สึกว่าสำคัญมากๆๆๆๆๆๆเลย
    คือการทำการบ้านค่ะ ทำให้ทุกครั้งนะคะ ไม่ว่าอ.ท่านจะสั่งมาเท่าไรพี่ก็จะพยายามทำให้ครบ
    แต่ช่วงใกล้ปิดครอสก็แอบไม่ไหวเหมือนกัน T T ครอสเอนท์สั่งการบ้านมหาศาล 55    
    ใครยังติดเกมติดเฟสติดไลน์อะไร ขอให้พยายามเลิกซะนะคะ เล่นให้น้อยๆลงหน่อย เลิกได้เร็วเท่าไรยิ่งดีค่ะ
    แล้วเราก็จะได้เวลาว่างเพิ่มมาเยอะเลย เอาเวลาเหล่านั้นมาอ่านหนังสือสร้างอนาคตให้ตัวเองดีกว่า

    อันนี้ขอเขียนไว้ก่อน เมื่อน้องๆเปิดเทอมแล้วหลายๆคนก็จะได้พบภาระอันหนักอึ้งที่เรียกว่า..การบ้านที่โรงเรียน..
    ไม่ทำก็ไม่ได้ ไม่จบม.6บ้างไม่มีสิทธิ์สอบบ้าง พี่ก็อยากจะแนะนำให้ทำเหอะค่ะถ้าไม่อยากมีปัญหาภายหลัง
    ไม่ต้องประณีตเรียบร้อยมากหรอกค่ะ ตอนพี่พี่ทำแค่พอดูได้อ่ะ(บางอันก็ดูไม่ได้)คิดว่าอ.หลายๆคนเค้าน่าจะเข้าใจว่าเราต้องเตรียมตัวสอบแล้วนะ
    ช่วงเทอมหนึ่งจะยังไม่ค่อยมีปัญหาอะไรพวกนี้เพราะยังไม่จวนตัว พอจพมีอารมณ์ทำงานส่งตามกำหนดได้ค่ะ
    แต่พอเทอมสองก่อนปีใหม่สำหรับน้องๆที่จะสอบหมอเรียกได้ว่าไฟลนก้นเลย 55 ช่วงนั้นแหละงานค้างเยอะสุด
    ก็ทำใจกับเกรดนิดนึงนะคะ = ='' ช่วงหนึ่งเดือนก่อนสอบพี่แทบจะทิ้งทุกอย่างที่ร.ร.เลยค่ะ
    งานอะไรไว้ค่อยมาตามเอา เกรดก็ดิ่งลงเหวไปเลย ไม่เคยได้เกรดต่ำขนาดนี้ตั้งแต่ขึ้นป.4 อ่ะ 55
    ไม่ต้องห่วงหรอกมีเพื่อนๆแบบเดียวกันเยอะ ที่อยากฝาก จะทำอะไรช่วงนี้ให้แคร์ความรู้สึกของอ.บ้างนะคะ ใจเขาใจเราค่ะ :)
    แต่ส่วนใหญ่อ.ม.6 เค้าจะทำใจกันอยู่แล้ว จริงๆก็แล้วแต่ท่านแล้วแต่ร.ร.ด้วยแหละ ถ้ารู้ว่าอ.ท่านไหนไม่ชอบอย่าทำเลย
    เดี๋ยวมีเรื่องมันไม่ดี ห้องพี่โดนบ่อยๆ ;_; แล้วพอน้องสอบ 7 วิชาเสร็จ ที่โรงเรียนก็จะเหลือแต่วิชา ชิลล์ๆคาบว่างมากมาย 
    มีเวลาให้อ่านโอเน็ตสบายๆเลย > < ความรู้สึกเหมือนผ่านนรกมาขึ้นสวรรค์ซักที

    ระหว่างทางก่อนจะถึงการสอบกสพท.ก็จะสนามสอบต่างๆให้ลองมากมาย ติดบ้างไม่ติดบ้าง
    คนที่ติดอย่านึกว่าตัวเองแน่นะคะ ห้ามประมาทเด็ดขาด เรานึกว่าเราติดเลยอ่านหนังสือน้อยลงหรือไม่ก็อ่านเท่าเดิม
    แต่คนที่ไม่ติดหลายคนไม่ท้ออ่านมากขึ้นสองเท่าสามเท่าจนสามารถมาเบียดเราได้ เค้าอาจจะเบียดเราตกเก้าอี้ได้เลยนะคะ :)
    คนเก่งน่ะไม่น่ากลัวเท่ากับคนขยันหรอก ส่วนคนที่ไม่ติดก็อย่าท้อค่ะ เอาความผิดหวังต่างๆมาเป็นบทเรียน
    เพื่อนพี่ก็มีตั้งหลายคนแน่ะ รับตรงคณะแพทย์ไม่ติดซักที่(ไม่รวมกสพท.อ่ะนะ) แต่พอมาสอบรวมกสพท.ได้คะแนนสูงปรี๊ดๆเลยล่ะค่ะ
    ฝากไว้เวลาทบทวนทำข้อสอบ "อย่าลน อย่าประมาท อย่าท้อค่ะ"  




       
      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×