ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Androgyny - หัวใจไร้สถานะ [ Yaoi ] -END-

    ลำดับตอนที่ #7 : 07 That's called kiss

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      95
      11 ม.ค. 62

    07


    เขานั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนคณะ มากันเกือบหมดแหละ เป็นเกือบร้อย ทอดตาไปในสนาม 
    ในแดดร่มลมตกขนาดนี้ ยังมองเห็นจุดสีขาวสว่างเจิดจ้าจุดนั้นได้ชัดเจน
    ท่ามกลางไฟสปอตไลท์ที่เริ่มฉายไปทั่วบริเวณสนามบอล ต้อนรับนัดชิงคู่แข่งขันสำคัญวันนี้ 
    ไทเกอร์เข้ามาชมการแข่งขันเพราะเป็นทั้งแฟนกีฬาและเพราะคณะตัวเองเป็นคู่ชิง 
    กองเชียร์สองฝ่ายดังกระหึ่มก้อง การแปรอักษรก็มันมากสมสถานการณ์ 
    เด่นกว่าอีกฝ่ายก็ตรงที่คณะเขามีหลีดโจ๊กด้วย ฮา ทะเล้น ทะลึ่งตึงตังตามประสาผู้ชาย 
    แต่เห็นได้รับเสียงตอบรับจากผู้หญิงฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน 

    จุดสีขาวนั้นหยุดอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหวเว้นแต่ลุกนั่งยืนบ้าง ตามแต่อาการเชียร์บอล 
    คู่กรณีเก่าของเขานั่นเอง แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะเห็นเขาเป็นมากกว่าคู่กรณี 
    ดูจะแค้นฝังหุ่น ยังจ้องเขาแทบกินทั้งเป็นทุกครั้งที่เจอกันในลานจอดรถ 
    คงเป็นเพราะหวงน้องของเขามากเกินไป เดียร์เด็กเนิร์ดน่าเอ็นดูคนนั้น 
    ข่าวว่าฟานกับเดียร์เป็นแฟนกันหลังจากมีเรื่องกับเขาไม่นาน 
    จังหวะนั้นคงเป็นช่วงจีบฝ่ายชายถึงได้หึงหวงออกหน้าออกตาจนกล้ามีเรื่องกับรุ่นพี่  
    หรี่ตามองไปเห็นคู่รักเบียดกระแซะ ซุบซิบหัวเราะต่อกระซิกกัน 
    เหม็นกลิ่นความรักจริงๆให้ตายเถอะ

    ไอ้หน้าสวยนั่นหน้าตาดีจริงๆ ยิ่งทำผมสีอ่อนยิ่งสวยกว่าเดิม 
    เป็นความสวยแบบที่รู้สึกได้ถึงการเอื้อมไม่ถึง 
    สูงสวยเกินกว่าคนธรรมดาจะไขว่คว้า 
    ดวงตาเรียวสีอ่อนมองทุกอย่างจริงจังและเยาะเย้ย 
    ไม่รู้ว่าอายุเท่านั้นจะผ่านโลกอะไรมาหนักหนาจนทำสีหน้าแบบนั้นตลอดเวลา 
    จมูกสันนั้นเชิด ปากเจ่อๆเหมือนเด็กแสนงอนนั้นแดงตัดกับผิวใสเหมือน พอร์ซเลน นั่นช่างน่าดู 
    ผมสีอ่อนยาวประบ่า หยักศกเป็นลอนใหญ่และพลิ้วลมน่าดู 
    ยิ่งทำให้หน้าหวานไปกันใหญ่ ดูหยิ่งผยองเอื้อมไม่ถึงอย่างใจหายบอกไม่ถูก 

    เอ๊อะ นี่ก็นั่งคิดถึงหน้ามันอยู่ได้ 
    อือม์หุ่นมันก็ดีใช้ได้ เพรียวบางนายแบบสุดๆ 
    ขายาวน่าจะเนียนเพราะแม้แต่หนวดบนหน้ายังไม่เห็นมี 
    เอ๊ะ!เงาร่างคุ้นๆเดินไปนั่งข้างแฟนไอ้หน้าสวย นั่นมันพี่เลของเขานี่หว่า 
    นี่ก็ได้ข่าวแว่วมาเป็นเดือนเหมือนกันว่า ไอ้พี่เลไปแอบหว่านเจ้าเดียร์มัน
    ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นแฟนกับไอ้หน้าสวย นี่เห็นจะๆคาตา 
    ปฏิเสธยากแล้วว่าพี่เลหน้าด้านจริงๆ 
    คิดเป็นชู้กับเมียชาวบ้านต่อหน้าธารกำนัล

    สาวสวยนางหนึ่งเดินผ่านหน้าเขาไปยังกลุ่มเพื่อนปีสองเจ้าบี 
    เสียงลือว่าเป็นสาวแสบแซ่บในตำนานที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนในสิบปีนี้ ทั้งสวย ทั้งร้าย ทั้งเจ้าชู้ 
    หล่อนก้มตัวลงไปกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับบี
    กระโปรงด้านหลังร่นสูงขึ้นเกือบถึงขอบชั้นในแต่เจ้าตัวไม่ใส่ใจ 
    บีปรายตาไปมารอบด้านอย่างระแวดระวัง 
    นั่นปลุกความสงสัยของเขาขึ้นมาทันใด 

    ภาพการณ์ดูเหมือนหญิงร้ายชายชั่วสองคนนี้กำลังสมคบคิดกันทำชั่วอะไรบางอย่าง 
    แต่ความดีความชั่วนั้นใครล่ะจะตัดสิน เขาเองไม่ได้มีหน้าที่พิทักษ์สันติให้ราษฎร์คนไหน 
    จำเป็นหรือไม่ต้องสอดไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน 
    สาวสวยเดินกลับออกมาสบตาเขาซึ่งนับได้ว่าหล่อเหลาเข้าอันดับในคณะคนหนึ่ง 
    ก็อมยิ้มหลิ่วตาให้นิดหนึ่งยั่วเย้าแบบเจนสังคม เขาค้อมศีรษะให้นิดหนึ่ง 
    วินาทีต่อมาบีดาวร้ายเพื่อนร่วมรุ่นก็สาวเท้าตามหล่อนมาติดๆ 
    ไม่มองหน้าใครมีอาการลุกรี้ลุกลนเดินอ้อมหลังไปออกจากสนามกีฬา 
    นั่งชั่งความรู้สึกระหว่างเสือกกับไม่เสือก 
    สัญชาติญาณใฝ่ดีบังคับให้เขารีบลุกตามสองคนนั้นไปโดยไว

     

    ไอ้พี่เล ไอ้พี่เฮงซวย

    ฟานนั่งกอดอกหลังตรง ไม่มีแก่ใจดูบอลอีกต่อไปหลังจากเลนั่งลงข้างเดียร์ 
    นิสัยขี้หวงกำเริบอีกแล้ว โดยเฉพาะกับเดียร์ เดียร์เพื่อนที่เขารักและหวงที่สุด 
    ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยหวงเพื่อนคนไหนขนาดนี้เลย 
    เดียร์ของเขาทั้งน่ารัก แสนดี เป็นห่วงเป็นใยอ่อนโยน 
    เป็นสมบัติที่เขาคิดว่าเขาค้นพบและจะครอบครองได้คนเดียวอย่างปลอดภัย 
    ยอมยกเว้นก็แค่กับเดอะแก็งค์ 

    คนอื่นอย่าหวังจะได้เอาเวลาอันมีค่าที่เดียร์จะสนทนาจะเล่นด้วยไปจากเขาได้เลย 
    แต่มัน ไอ้พี่เวรนี่กำลังเข้ามายุ่งวุ่นวายกับที่รักหนึ่งเดียวของเขา 
    หนำซ้ำมันรู้แล้วด้วยว่าเขากับเดียร์ไม่ได้เป็นแฟนกัน 
    นั่นทำให้เขาหมดสิทธิที่จะอ้างในการกีดกันเดียร์ออกจากมัน 
    หันไปดูพลพรรคคนอื่น ไม่มีใครสนหอสนตออะไรกับเดียร์ทั้งสิ้น
    มีเขาหน้ามืดหึงหวงอยู่คนเดียว 
    มากิหญิงเมย์กับเก๋ เชียร์ไตตั้นกับเย้อวๆ

    “ผมหิวน้ำ” เขาพูดเสียงดังข้างหูเดียร์
    “หา ว่าไงนะ” เสียงเชียร์ดังกลบ
    “ผมอยากกินน้ำ” บังเอิญแท้ 
    เสียงรอบข้างหยุดลงทันที เลยดังไปเข้าหูพี่เล 
    ฝ่ายนั้นแสดงไมตรีจิตรโดยการยื่นถุงน้ำสรรพยี่ห้อมาให้เลือก

    “เอาไปสิ พี่ซื้อมาเผื่อ”
    กินน้ำศัตรูหัวใจก็เท่ากับแพ้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง 
    ฟานส่ายหน้าปฏิเสธว่าอยากกินยี่ห้อพิเศษ ไม่มีในถุง

    “เดียร์ไปซื้อน้ำไหม” 
    “เออ เราหิวพอดี เราไปเป็นเพื่อนฟานเอง ”
    มากิที่อยู่ข้างๆมาจากไหนไม่รู้สอดขึ้นมาเสียงแหลม
    อยากจะลงไปชักดิ้นชักงอให้สาแก่ใจ เผือกๆๆๆๆๆ
    “ไม่เป็นไร ไปคนเดียวดีกว่า เดี๋ยวเราซื้อมาให้เอง มากิเอาอะไร”



    อยากจะเดินกระทืบเท้า แต่ด้วยการสั่งสมบุคลิกภาพไม่อาจทำเช่นนั้นได้ 
    ฟานจึงได้แต่เดินด้วยท่าซุปเปอร์โมเดล 
    สง่างามท่ามกลางสายตาชื่นชมของผู้คนรอบข้างเดินออกไปด้านนอกเพื่อหาซื้อน้ำแก้โมโห 
    มือถือสั่นฟานหยิบมาไถดู เป็นไดเร็คแมสเสจของไอจีจากใครสักคนที่ไม่รู้จัก แต่เป็นฟอลโลวเวอร์เขาอยู่ 
    - รอที่เสา7fนะคะ เมธินี 
    เมธินีใครวะไม่เห็นรู้จักเลย ประสบการณ์จากลานจอดรถทำให้ฟานระแวดระวังมากขึ้น 
    เขาหรี่ตามองเสานั้น แต่ไม่แม้แต่จะเดินเข้าไปใกล้ เดินขยับเข้าไปในฝูงชน 
    แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีแขนคล้องฉับเข้าให้สองข้าง 
    หน้าตาดูยังไงก็คือไอ้สมุนสองตัวทึ่เคยประทะกันมาแล้ว 
    ปลายแหลมของอะไรบางอย่างทิ่มชายโครง
    รู้สึกแสบเหมือนว่าน่าจะเลือดออก มือถือโดนล้วงออกไป

    “เดินนิ่งๆอย่าร้องไม่งั้นกระซวกใส้ไหลนะมึง” 
    ฟานเหงื่อแตกซิก กัดฟัน ปัดเป๋ไปตามแรงลากของสองแขนนั้นไปที่เงามืดของเสา 7f 
    ตรงนั้นมีซอกเหลี่ยมบังสายตาพอดี สองคนนั้นผลักเข้าไปให้หลังติดฝา 
    อีกคนที่ยืนอยู่คือนางร้ายคนสวยเจ้าเดิม 
    แต่อีกคนนี้สิหน้าคุ้นๆเหมือนเคยเจอ แต่จำไม่ได้ประสาคนไม่เคยจำอะไรที่ไม่อยากจำ 
    ขวดน้ำเย็นบางอย่างดันเข้ามาชิดปาก 
    มือหนึ่งบีบจมูกบีบคาง จนเขาต้องดื่มน้ำนั่นจนสำลักกระอักกระไอ 
    บางส่วนราดจนเปียกโชกเสื้อนิสิต

    “ช่วย...”

    มือของบุคคลที่สี่ปิดปากเขาไว้ ฟานกัดเต็มแรง
    อีกฝ่ายร้องโอ๊ย ก่อนจะชกเข้าที่ท้องจนเขาตัวงอด้วยความเจ็บปวด 
    นี่มันจะจ้องล้างจองผลาญอะไรกูอีกวะ 
    เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ความรู้สึกของร่างกายบางอย่างก็เปลี่ยนไป 
    กี๊ฟพยักหน้าบุคคลที่สี่เป็นเชิงให้จัดการ สองสมุนจึงพยุงเข้ามา 
    แต่ทันใด เสียงตวาดมาจากทางสนามกีฬาก็ดังก้อง 
    ฝีเท้าจำนวนหนึ่งวิ่งกรูเข้ามากลุ่มคนทั้งสี่ทำท่าตกใจ ปล่อยฟานแล้วผละวิ่งหนีกันไปดื้อๆ 
    ฟานทรุดตัวลงกุมท้องด้วยความจุก ตัวสั่นไปหมด วิงเวียนไปทั้งศีรษะ 
    ใครบางคนประคองเขาขึ้นมาด้วยอ้อมแขนนุ่มนวล

    “ไหวไหม”
    ฟานหลับตาวิงเวียน พยักหน้าตอบรับ
    “มันวางยาผม”
    “ยาอะไร”
    “ไม่รู้”
    “งั้นไปโรงบาลกัน ปะ”
    “ไม่ได้” ฟานร้องเสียงดัง “ผมเป็นข่าวไม่ได้”
    “งั้นอ้วกอยู่นี่แหละ”
     อีกฝ่ายช่วยฟานโก่งคออ้วก 
    น้ำขมๆออกมาบ้างแต่ก็เหมือนไม่หมด 
    กลั้วปากแล้วฟานหมดแรงอิงทิ้งทั้งร่างพิงกับร่างพลเมืองดี
    แล้วแนบหน้าหอบอยู่กับอกเขาผู้นั้น

    “ผมไม่ไหว ผมอยากนอน” 
    เขาร้องขอเสียงแห้ง 
    ใครคนนั้นหันไปพูดอะไรบางอย่างกับคนข้างหลัง ก่อนจะพาเขาขึ้นรถแท็กซี่ 
    ตลอดทางฟานนอนอิงอกผู้ช่วยเหลือ หัวหมุนไปหมด 
    แท็กซี่ขับไปไม่ไกลนักก็ถึงสถานที่สักแห่ง 
    เขาถูกพยุงเข้าไปในลิฟต์ น่าจะขึ้นไปชั้นสูงมากเพราะใช้เวลาทีเดียว  
    ผู้ช่วยเหลือใจดีคนนั้นพาเดินซัดเซเข้าไปห้องมืดๆแห่งหนึ่ง แล้วฟานก็วูบไป

     
    ไทเกอร์นั่งอยู่ข้างเตียงมองร่างที่นอนระทวยอยู่บนที่นอนหนานุ่มนั้นอย่างหนักใจ 
    ควักมือถือขึ้นมาโทรหาเล
    “พี่เลยังอยู่ในหนามบอลป่าว”
    “อยู่ มีอะไร”
    “ฝากบอกเดียร์ที ว่าแฟนเดียร์มีเรื่อง แต่ปลอดภัยแล้วอยู่กับผมนี่แหละ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้คุยกัน”
    โทรเสร็จไทเกอร์ก็กดปิดเครื่องฉับ 
    โดยไม่รู้ตัวว่าทำไมต้องทำแบบนั้น

    ไทเกอร์หันรีหันขวางแล้วก็หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กไปชุบน้ำจากซิงค์มาบิดหมาดๆ 
    นั่งลงข้างกายอีกฝ่ายที่นอนหมดสติไม่รู้เรื่องอยู่บนที่นอน 
    หน้าสวยนั้นมีเหงื่อออกเป็นเม็ดพราว ผมสีควันเปียกเหงื่อจนแนบลีบกับหนังศีรษะ 
    เสื้อขาวเปียกโชกเห็นสีผิวบางซ้อนอยู่หลังเสื้อบางแนบเนื้อนั้น 
    เขาจับคางอีกฝ่ายพลิกมาแล้วเช็ดหน้าเช็ดผมให้ 
    ปลดกระดุมเสื้อนิสิตออก แบะสาบเสื้อออกเผยผิวขาวกระจ่าง 
    มียอดอกสีอ่อนจางแต้มอยู่สองข้าง ดูสว่างโพลนไปทั้งร่าง 
    รู้สึกตกใจเมื่อรู้ตัวว่ากลืนน้ำลาย 
    จึงรีบคุกเข่าข้างร่างลีนบางนั้น เช็ดจนทั่วแผ่นอก 
    นึกขึ้นมาได้ จึงหยิบรีโมทแอร์ขึ้นมาเปิด

    สักพักฟานก็ครางขึ้นมาเบาๆ เขาลืมตามามองไปรอบๆ 
    ขอบตาแดงก่ำ ดูไม่มีสติสัมปชัญญะนัก

    “ร้อน” 
    ฟานผงกตัวขึ้นนั่ง มือเสยผมเปียกลีบแล้วกระชากเสื้อออกจากตัว 
    เปลือยร่างท่อนบนผอมเพรียว เห็นแนวกระดูกสันหลังเป็นโค้งสวย 
    เขายงโย่ยงหยกมือจับหัวเข็มขัดทำท่าจะปลด 
    ไทเกอร์ใจหายแว้บ รีบกุมมือฟานไว้แน่น

    “เฮ้ยๆ อย่าถอด ถอดเสื้อก็พอแล้ว” 
    อีกฝ่ายเบือนหน้ามามองช้าๆ สายตายังว่างเปล่า 
    ก่อนจะโถมทั้งร่างมาใส่จนเขาหงายหลังและทับร่างเขาไว้ข้างใต้ 
    ผิวเย็นเฉียบแต่ลมหายใจร้อนผ่าว

    “ร้อนเนาะ ร้อน” 
    ฟานซุกหน้าเข้าที่ซอกคอเขา แล้วเริ่มไซร้ฟัด 
    ไทเกอร์จั๊กจี๋จนขนลุกเกรียว

    “ฟาน หยุด เอาดีๆดิ อย่ามั่ว”
    อีกฝ่ายเงยศีรษะขึ้นมอง ใกล้จนจมูกชนกัน

    “เอาดีๆ เอาดีๆ” เขาทวนคำ

    ฟานก้มลงแนบริมฝีปากลงกับริมฝีปากเขา
     รู้สึกได้ถึงเนื้อปากที่แนบโดนเข้ากับปาก 
    ฟานจุ๊บแล้วก็เงยหน้าแล้วก็จุ๊บปากเขาอีก แตะแล้วแตะอีก

    ไทเกอร์อมยิ้ม ขำจนต้องปล่อยหัวเราะ 
    โธ่เอ๊ยจูบก็ยังจูบไม่เป็นเลยไอ้หนู

    เขาโอบแขนตวัดพลิกร่างฟานลงอยู่ใต้ร่าง แล้วแนบริมฝีปากเขาลงกับปากของฟาน 
    แนบเคล้าเคลียอยู่สักพักก็เผยอปากออกเม้มริมฝีปากของอีกฝ่าย  
    ฟานขยับปากตามอย่างอ่อนประสบการณ์ 
    ไทเกอร์แย้มริมฝีปากเน้นเม้มและเล็มไปตลอดริมฝีปากแดงที่เขาคิดถึงในความทรงจำ 
    ก่อนจะไล้ลิ้นไปทั่วริมฝีปากนั้น แล้วสอดแทรกเข้าไปวนเวียนกับลิ้นอ้อแอ้ของอีกฝ่าย 
    ล่วงเกินอย่างเรียกร้องเอาแต่ใจ 
    และย้ำเอาเปรียบจนสาสมความปรารถนาลึกเร้น 
    ฟานหอบหายใจเป็นห้วงๆตลอดเวลาที่โดนเขาขโมยจูบ 
    จนเมื่อไทเกอร์เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาว่างเปล่าคู่นั้นยังเหม่อมองสบตาเขาอย่างไร้เดียงสา 
    แก้มสีขาวนั้นเรื่อสีแดงขึ้นมาเห็นชัด ไทเกอร์ซุกหน้าลงไปซอกคอของฟาน 
    กลิ่นสะอาดเหมือนเด็กเพิ่งอาบน้ำ กลิ่นนั้นหอมติดจมูก 
    เชาซุกไซร้ระเรื่อยถึงไหล่ลงมาจนถึงกลางอก ผิวเรียบและลื่นจนอดไม่ได้เผลอจูบหนักๆไปหนึ่งที
    จนเป็นรอยช้ำแดงกลางผิวขาวโพลนนั้น

    แต่แล้วเขาก็ชะงักนิ่งตัวแข็งค้างเมื่อรู้สึกตัวมาฉับพลัน 
    นี่เรากำลังทำอะไรอยู่ 
    ประการแรก ฉวยโอกาสกับคนเมาคนไม่รู้สติ 
    ประการสอง คนคนนั้นเวอร์จินแน่นอน 
    ประการสาม คนคนนั้นไม่โสดมีแฟนแล้ว 
    ประการสี่ มันเป็นผู้ชาย 
    เขาพรวดลุกขึ้นนั่งมือสองข้างกุมหัวไว้อย่างอดรนทนไม่ได้ 
    นี่มันอะไรกัน เขาจะเป็นบ้าแล้วหรือเนี่ย 
    ยังไม่นับการปิดโทรศัพท์เมื่อครู่ที่แม้แต่ตัวเองยังไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรลงไป

    หันไปมองอีกฝ่าย ฟานหลับไปอีกครั้ง  แม้ว่าจะยังหอบหายใจ 
    ปากแดงเจ่อๆนั้นชวนให้จูบเหลือเกิน แก้มและคางแดงไปด้วยผลงานจากสัมผัสของเขา 
    ดูฟานตอนหลับแล้วไร้พิษสงเหมือนสาวน้อยไร้เดียงสาที่เป็นดอกฟ้าเกินเอื้อม 
    นายตัวดีที่เย่อหยิ่งผยองมองข้ามหัวคน 
    ที่สุดก็มานอนสิ้นฤทธิหมดเดชอยู่บนเตียงของนายไทเกอร์นี่เอง 

    ความสวยเป็นภัยสินะ
    ไทเกอร์มองดูหน้าสวยๆด้วยความสงสาร 
    ใครๆก็อยากได้ ใครๆก็อยากครอบครอง 
    อยากได้ภาพมายาความสวยนี้เป็นของตัวเอง 
    แล้วเจ้าตัวเจ้าของความสวยนี้ล่ะ ต้องมาตกระกำลำบากเพราะความสวยนี้แท้ๆ 
    ไทเกอร์ถอนใจเฮือกขยับร่างฟานให้นอนถูกท่า 
    แล้วสอดหมอนรองศีรษะ ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวบนร่างที่ปล่อยท่อนบนเปลือย

    มองนาฬิกาเพิ่งสามทุ่มเศษๆ ปล่อยฟานให้นอนอยู่ในห้องนอน 
    ตัวเองระเห็จออกมาที่โซฟาข้างนอก 
    แอบคิดอยู่ในใจว่า สุภาพบุรุษจังวะกู 
    แล้วก็นึกย้อนแย้งขึ้นมาว่า 
    ผู้ชายเขาต้องปฎิบัติตัวเป็นสุภาพบุรุษกับผู้ชายด้วยกันขนาดนี้ด้วยเหรอวะ







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×