ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Androgyny - หัวใจไร้สถานะ [ Yaoi ] -END-

    ลำดับตอนที่ #13 : 13 Ever after [จบ]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.17K
      134
      11 ม.ค. 62

    13


    สองสัปดาห์แล้วที่ไทเกอร์หายหน้าไปนับตั้งแต่วันงานปาร์ตี้ 
    ฟานจำสีหน้าตะลึงพรึงเพริดของเขาได้ 
    เมื่อไทเกอร์เห็นภาพเขาสกินชิพเดียร์ต่อหน้าเลโดยไม่มีเรื่องใดๆเกิดขึ้น 
    เลซึ่งเห็นค่าเขาเป็นแค่ลูกหมาของเดียร์เสมอ 
    หน้าขาวคิ้วเข้มตาคมนั้นขรึม สายตาเห็นชัดว่าตัดพ้อน้อยใจเสียใจ 
    จากนาทีนั้นในงานปาร์ตี้ ไทเกอร์จำกัดตัวเองอยู่ในวงเพื่อนวิศวะ ไม่ย่างกรายเข้ามาใกล้เขาอีกเลย 
    กินเหล้าอั้กๆเหมือนเททิ้งทั้งที่บลูเลเบิ้ลปาเข้าไปขวดนึงหมื่นกว่า
    จนกลางเดือนธันวาสอบปลายภาคก็มาถึง 
    ฟานก็ยังไม่เห็นหน้าไทเกอร์ ที่จอดรถก็ย้ายที่ไม่รู้ว่าไปจอดที่ไหน 
    ยามค่ำคืนกลับดึกๆคนเดียวเพราะตอนนี้เดียร์มีเลไปรับไปส่งแล้ว 
    ก็ไม่เห็นรถสีดำพร้อมเงาตะคุ่มๆที่คุ้นเคยนั่นอีกเลย 

    ลมพัดแรง รู้สึกหนาวกว่าปรกติจัง 

    ไลน์กลุ่มมีแต่อาร์ม เดียร์ เล โพสต์กันอยู่เป็นตัวหลัก 
    มันขึ้นว่าอ่านครบแต่ไทเกอร์ไม่เคยโพสต์ 
    แอบไปส่องเฟซเห็นลงข่าวการแข่งกีฬาบ้าง ได้รางวัลบ้าง แปลว่ายังมีชีวิตอยู่ไม่ตาย

    “อยากกินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่”
    ฟานประกาศ เส้นทางการเดินไปตลาดนั้นผ่านสนามกีฬา ห้องซ้อมของชมรมเทควันโด

    “ประสงค์จะกินตำถาด”
    มีขายอยู่ที่เดียวในมหาวิทยาลัยที่โรงอาหารวิศวะ

    “บิงซูส้มยูซุ”
    มีร้านเดียวอยู่ใต้คอนโดไทเกอร์

     แต่ไม่เคยเจอ

     
    ไม่มี ไม่รู้ไปไหน 
    เดียร์ผู้ซึ่งเป็นแฟนเลผู้พี่ชายไม่ได้เอ่ยอะไรถึงไทเกอร์เลย 
    มันเป็นพี่แบบไหนกันวะ น้องหายหัวหายหน้าไปขนาดนี้ไม่ได้รู้เห็นอะไรเลยเหรอ


    สองสามวันนั้นอากาศประเทศไทยปรวนแปร จู่ๆก็หนาวจัดกรุงเทพตอนกลางวันแค่ 19 องศา 
    ข่าวว่าอาจจะลากยาวทั้งเดือนจนถึงคริสต์มาส 
    ผู้คนยินดีกรีดร้องรับอากาศหนาวกันสุดขีด 
    เสื้อหนาวสวยๆ ไทท์ ขนสัตว์ พากันงัดออกมาแต่งตัวกันใหญ่ 
    ฟานทำสีผมใหม่เป็นน้ำตาลบรูเน็ท 
    ผมตอนนี้ยาวเลยบ่าแล้ว เป็นลอนสวยม้วนขดเป็นกรอบใบหน้า 
    ผิวเต่งเรื่อแดงรับหน้าหนาวขาวใสแทบไม่มีรูขุมขน 
    วันนี้ใส่ชุดนักศึกษาที่แบรนด์ล้วนเช่นเดิม แต่ออกแนวสตรีทแวร์ด้วยการใส่ยีสซี่สีเทาแทนรองเท้าหนัง 
    เสื้อหนาวเป็นฮู้ดดำมีผ้าพันคอสีเบอร์กันดี้พันไว้นิดหนึ่ง 
    เดินล้วงสองมือในกระเป๋าเสื้อฮูด เกร๋ไก๋ โดดเด้งเด่นตามประสาฟาน

    ก้าวฉับๆมาดมั่นไปที่ร้านค้า 
    สั่งเครื่องดื่มไปบริการเดียร์ตามปรกติไม่เปลี่ยนแปรแม้เธอเป็นของคนอื่น 
    หันหลังกลับมาตกกะใจ เมื่อมีร่างกะทัดรัดของใครคนหนึ่งยืนรออยู่ข้างหลัง

    “ครับ” ถามเสียงนุ่มทุ้ม

    “ของฝากครับ” 
    คนนั้นเป็นหนุ่มอ้วนหน้าซื่อ เตี้ยกว่าเขาสักสิบห้าเซ็นต์ 
    แอบเห็นห้อยเกียร์ และเสื้อช็อปประกาศคณะโจ่งแจ้ง 
    ขนมครกยังร้อนๆอยู่เลย ปรกติก็รับทุกคนที่ให้นะ เพราะคนสวยมีน้ำใจ 
    แต่ว่าจะหยิบแล้วเดินเริดเชิดหน้ากลับแบบทุกทีแล้ว ก็รู้สึกแปลกๆ 
    เวลาที่เราชอบใครแล้วเค้าทำดีกับเรา มันรู้สึกดีมากๆเลยนะตัวเอง

    “แล้วจะรู้ไหมว่าใครให้” 
    เป็นคำถามที่ปรกติไม่เคยถาม มองข้ามทุกคนไปอย่างยะโส
    “แม็กซ์ วิศวะปีสองครับ” 
    แทบจะได้ยินเสียงใจเต้นจากปากสั่นระริกนั่น
    “ขอบคุณมากนะครับ” 
    ยิ้มใส่ตาไปทีหนึ่ง เจ้าตัวยืนตะลึงลาน หน้าแดงก่ำแล้วหันหลังวิ่งหนีไปดื้อๆ

     เอาเครื่องดื่มให้สุดที่รักพร้อมหอมหัวทีหนึ่ง 
    เดียร์ใส่คาร์ดิแกนสีครีมที่ฟานซื้อแล้วบังคับให้ใส่ 
    เขาวางถุงแล้วเชิญชวนคนอื่นกินขนมครก ทำให้เก๋ทำหน้าทึ่งๆ
    “กินเป็นด้วยเหรอ ปรกติกลัวแป้งน้ำตาล กับหนมราคาถูกไม่ใช่เหรอ” 
    พวกผู้ชายไม่เรื่องมากจิ้มกินเอาๆ

    “กลัวคนให้เสียใจ”
    “เมื่อก่อนไม่เห็นกลัวเลย จำได้ปล่าว ของบีวิศวะน่ะ แหวนทองเลยนะ ฟานยังทิ้งเฉย”
    มากิว่า
    ของขวัญกล่องนั้นนั่นเองที่เป็นเหตุชนวนความแค้นของบี 
    นึกย้อนไปแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ทุเรศมากๆเลยที่ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของคนอื่น
    “คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้ป่าววะ”

    “พรุ่งนี้สอบวันสุดท้ายในตารางแล้ว ไปหาอะไรกินกันไหม” 
    หญิงเมย์ชวน แล้วก็ว่าต่อ “คิดถึงคนอื่นๆนะ อยากเจอจัง อาร์มจุ้ยพี่เก้อ”
    ไม่มีพี่เล เพราะขานั้นแฝงกายเข้ามาเสนอหน้าอยู่กับเดียร์เป็นปรกติ 
    คนสวยนั่งหน้าเฉยแต่หูกระดิก อยากจะกรี๊ดเมื่อได้ยินชื่อ

    “อาร์มจุ้ยอาจจะมา แต่พี่เก้อนี่สิ..”
    เดียร์ว่า แล้วก็หยุดไม่พูดต่อ

    อ๊ากกก หยุดเดี๋ยวนี้ บอกมาว่าพี่เก้อทำไม 
    พูด บอกให้พูด

    “พี่เก้อทำไม” ไตตั้นถามแทน
    “ท่าจะมีแฟนเสียแล้วก็ไม่รู้”

    ผ่าง!

    ฟานนั่งหน้าเฉยๆ เหมือนฟังผ่านๆหู แต่ใจเต้นตึกตักรัวเป็นตีกลอง 
    มองไปทางหน้าคณะเหมือนไม่ใส่ใจ 
    เลยไม่เห็นสายตาของเดียร์ที่อมยิ้มแอบมองมาแวบหนึ่ง
    “ใครวะ ใครเป็นแฟนพี่เก้อ” 
    หญิงเมย์ เก๋ มากิ ไตตั้น หูผึ่ง รีบกระเถิบเข้ามาใกล้ๆ
    “ใครก็มะรู้ แต่พี่เก้อไปซื้อแหวนแล้วนะ คิดว่าคริสต์มาสอีฟนี้ เสร็จโจ๋แน่นอน”
    “พี่เก้อใจดี หล่อด้วย รวยด้วย ใครได้เป็นแฟนโคตรโชคดีอ่ะ”


    เรื่องดีใครจะรู้ดีไปกว่าฟาน 
    ทำไมจะไม่เห็นความดี ใครไม่เห็นความดีของไทเกอร์ก็ช่าง เขานี่แหละเห็น 
    ไม่มีใครจะรู้คุณค่าคนๆนี้เท่าเขาอีกแล้ว 
    อยู่ด้วยกันมาเป็นเดือน เรื่องหน้าตาดีนี่ธรรมดา 
    ฟานส่องกระจกทุกวันหาคนหน้าตาดีกว่าเขาได้ยาก แต่พ่อคนนั้นนั่นก็หล่อกว่ามาตรฐานแล้ว 
    สายตาสีหน้าท่าทางแสดงอารมณ์แทบไม่เคยปิด 
    เวลาอ้อนวอนง้องอนเขานี่บอกตรงๆว่าอยากจะผูกโบว์รอบคอเป็นของขวัญแล้วทิ้งตัวไปในอ้อมแขนให้เลย 
    ทั้งใจดีที่สุดเป็นเพื่อนคุยที่สนุกมาก กล้าหาญมีน้ำใจเป็นนักกีฬา 

    ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าไทเกอร์โกรธเลแทนเขาหลายหน 
    สงสารเขาที่โดนเมียสวมเขาไปเล่นชู้กับพี่ชายสุดที่รัก 
    สายตาเป็นห่วงเป็นใยความรู้สึกเขาสารพัดเวลาที่เจ้าตัวคิดไปเองว่าเขาโดนแฟนหักหลัง 
    ทั้งเป็นสุภาพบุรุษศีลธรรมสูงส่งกลัวว่าตัวเองจะแย่งแฟนน้อง 
    และยังกลัวว่าถ้ายังพัวพันกับเขาอีกจะกลายเป็นการฉุดเขาลงไปมีพฤติกรรมต่ำช้า
    หรือลากเขาไปเป็นคนทรยศหักหลังเดียร์ 
    ยอมอดทนข่มกลั้นดูเขาอยู่ห่างๆไกลๆ 
    ส่วนเรื่องเรียนเก่งบ้านรวยไม่ได้เป็นประเด็นสำหรับเขาเลย 
    ผัวคนเดียวเลี้ยงได้โว้ย

    ..ผะ.ผัว ..แอร๊ยย นี่ก็คิดอะไรออกไป

    นี่คงโกรธเขามากที่โดนหลอก 
    ทำยังไงดี ถึงจะง้อได้ กลุ้มโว้ย 
    ยะโสผยองระดับนี้ไม่เคยง้อใครนอกจากเดียร์คนเดียว 
    เจ้าของแหวนนั้นจะเป็นใครกัน 
    โอ๊ยกลุ้มใจ 
    จะโดนใครงาบไปแดกในน้ำแล้วปะเนี่ย 
    ยิ่งคิดยิ่งหึง ยิ่งหวง ยิ่งห่วง จนเผลอทำหน้าตูดหน้างอ 
    ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาติวหนังสือกันต่อ 
    การสอบพรุ่งนี้ยังรออยู่ ฮึเสร็จสอบเจอแน่


    แต่แล้วเมื่อวันรุ่งขึ้นสอบเสร็จแล้วเจอกันที่ร้านกินข้าว เขาก็ต้องผิดหวัง 
    ทุกคนมาหมดยกเว้นไทเกอร์ 
    ฟานใส่เบลเซอร์สีงาเข้ากับเสื้อคอตลบขาวและกางเกงเดฟสีกากี ดูคุณชายสุดๆ 
    หน้าเรียวๆล้อมกรอบด้วยลูกผมที่ลอดออกมาจากบีนนี่สีกากี ดูหวานมากกว่าหล่อ 
    ตั้งใจเต็มที่แต่งตัวมาให้คนดู แต่คนดูไม่มาเสียงั้น 
    เดียร์มองดูเพื่อนสุดที่รักนั่งเงียบๆซึมๆอย่างเอ็นดู 
    ตาสีน้ำตาลอ่อนขนตายาวๆนั้นหม่นเศร้าอย่างเห็นได้ชัด 
    ปากแดงบางๆเจ่อๆนั้นแทบไม่ยิ้มเลย 
    นั่งๆไปก็เผลอถอนใจกลางวงเพื่อนๆซะงั้น 
    ฮึๆน่าแกล้งจริงๆ

    “เอ้าทุกคน ปีนี้สมาคมศิษย์เก่าหาตังค์จัดงานคริสต์มาสปาร์ตี้คอนเสิร์ท ไปกันไหมครับ” 
    เลเสนอ
    “เป็นช่วงปิดเทอมเล็กพอดี แนวว่าจะเป็นโรแมนติกคริสต์มาส ไม่แพ้วาเลนไทน์เลยนะ จัดวันคริสต์มาสอีฟนะครับ บนยอดตึกโรงแรมบันยันทรี”
    “มีอะไรน่าสนใจมั่งพี่”
    “ไม่มีอะไรมาก ก็ดนตรีแนวโรแมนติก อาร์แอนด์บี เลิฟอิส อะไรทำนองนั้น”

    “แม่ชวนไปโตเกียว คริสต์มาสถึงปีใหม่ ซื้อตั๋วแล้ว” 
    ฟานว่า เดียร์ทำท่าตกใจเยอะๆกว่าปรกติ
    “ไปโตเกียวกับแม่! ไปทำไมไม่สนุกหรอก อยู่กรุงเทพกับเดียร์ดีกว่า”
    “เดียร์ก็อยู่กับพี่เลนิ  จะสนใจอะไรกับผม”
    “เอ๊ยย ไม่ได้สิ นี่เป็นปีแรกที่เรารู้จักกันนะ เราควรมีปีใหม่แรกที่ฉลองด้วยกัน นะ นะ ฟาน นะคะ ต่อไปเวลารำลึกมิตรภาพของเรา เราจะนึกถึงปีใหม่นี้เสมอ ว่าเรามีจุดสตาร์ทกันเป็นเพื่อนกันตอนไหน”
    เดียร์อ้อน เยอะสุดเท่าที่เคยอ้อนฟานมาแล้ว 
    และแน่นอนเดียร์เป็นสุดที่รักของฟาน ถ้าเป็นเดียร์ฟานก็ต้องใจอ่อนเสมอ

    “เอางั้นเหรอ”
    “เออสิ นะ อยู่กับเดียร์นะ”
    “ก๊ะดะ”

     
    เผลอแป๊บเดียวก็จะวันคริสต์มาสแล้ว กรุงเทพฯยังหนาวยะเยือก 
    วันนี้แล้วสำหรับปาร์ตี้คริสต์มาสคอนเสิร์ตโรมานซ์ อากาศหนาวจัดแม้ตอนกลางวัน 
    ก่อนห้าโมงเย็นก็นัดรวมตัวกันที่โรงแรม 
    ฟานแต่งสูทผ้าวูลเข้ารูปสีเข้มปล่อยผมยาวหยักศกเลยบ่าเป็นคลื่นใหญ่ๆ 
    เสื้อตัวในเป็นแบบไร้ปกติดกระดุมถึงคอ เหน็บผ้าเช็ดหน้าสีครีมไว้ในกระเป๋า 
    สอดมือถือไว้ในกระเป๋าชั้นในของสูท ไม่ใส่ในกระเป๋ากางเกงให้ตุงออกมาน่าเกลียด 
    ยืนรอเพื่อนอยู่ในล็อบบี้โรงแรม จึงกลายเป็นจุดสนใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 
    ดูดีเกินกว่าจะเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่ดารา 

    มากิไตตั้นแต่งสูทสีเบจหล่อเหลาสมความโรแมนติก 
    ส่วนเก๋กับหญิงเมย์ แต่งราตรีผ้าซาตินมีเสื้อทับเป็นเฟอร์ขนสั้น
     อาร์มกับจุ้ยเข้าคู่กัน อาร์มแต่งเบลเซอร์สีน้ำตาล กับกางเกงขาว 
    จุ้ยเป็นแซ็คสั้นสีคาราเมล เป็นคู่รักโทนคาปุชิโน่มากๆ 
    เลไปรับเดียร์ที่บ้านยังไม่มา 
    แต่ทันใดทุกคนก็ต้องหันไปมองเมื่อเก๋กับหญิงเมย์แอบกรี๊ดเบาๆ กระทืบเท้ารัวๆแล้วชี้มือไปทางเข้า

    “แกร๊ๆ เดียร์แปลงโฉม”

    ลิมูซีนสีดำคันยาว จอดเทียบโถงทางเข้า 
    เลก้าวลงมาก่อนในสูทสีเข้มเข้ารูป ผมเสยเป็นทรงด้วยปอมเมท 
    เขาลงมายืนรอส่งมือรับสาวน้อยที่ก้าวลงมาอย่างมาดมั่นในชุดราตรีสั้นเข้ารูปพอดี 
    เป็นไหมสีทรายซ้อนกับผ้าแก้วสีอ่อน สาวน้อยคนนั้นตัวสูงเพรียวแล้วยังใส่ส้นสูงผ้าไหมสีครีมให้สูงขึ้นไปอีก 
    ผิวสีเหลืองลออ ดูผ่องเรืองรองเข้ากับสีเสื้อผ้า 
    ชุดเข้ารูปเกาะอกนั้นเผยให้เห็นทรวงอกอิ่ม เอวเล็กบาง ที่ผายสู่สะโพกมน 
    ขาเรียวได้รูปเนียนโดยไม่ได้สวมถุงน่องแต่อย่างไร 
    ผมยาวนั้นรวบตึง โชว์หน้าผากมนคิ้วเข้ม ตาโตกรีดอายไลเนอร์จนยิ่งโตกว่าเดิม 
    ปากสีแดงปูนเอิร์ธโทน เข้ากับสีชุดและสีตา สวยเหมือนดาราสักคนอย่างนั้น 
    คู่รักเดินเกาะแขนเข้ามาในลอบบี้อย่างมาดมั่นยกมือทักทายเพื่อนที่รออยู่ 
    เดียร์ไม่มีท่าทางเขินอาย ส่วนเลไม่ได้มีท่าทางเห่อแฟนหรืออะไรอย่างนั้น 
    เขาทำเหมือนทุกวันเดียร์ก็มีรูปร่างหน้าตาแบบนี้แหละ

    “ก็รู้อยู่นะว่ามันซ่อนสวย แต่ไม่รู้ว่าจริงๆมันสวยขนาดเป็นดาราขนาดนี้”

    ผู้เข้าชมคอนเสิร์ตต่างก็มีมาจากคณะอื่นๆอีกมากมาย หันมาหวีดเดียร์ผู้เลอโฉมกันกระหึ่ม
    “พี่เล รู้อยู่แล้วหรือเปล่าว่าเดียร์สวยขนาดนี้” จุ้ยถาม
    “ไม่รู้สิ ไม่ได้ชอบเพราะสวยนี่นา” 
    เลตอบ 
    แฟนได้ยินก็ทำหน้าพอใจเป็นที่น่าหมั่นไส้มาก

    ฟานหันไปมองรอบๆ หวังว่าจะเห็นไทเกอร์แต่ก็ไม่ แอบซึมลงนิดนึง 
    แต่บรรยากาศดีงามกับเพื่อนๆ ก็ทำให้มีความสุขไปได้ 
    แข็งใจกลั้นใจไม่ถามถึงไทเกอร์ และเพื่อนๆก็ใจร้าย ไม่มีใครพูดชื่อไทเกอร์ออกมาสักคำ

    พากันขึ้นลิฟต์แล้วเดินขึ้นบันไดวนไปที่ดาดฟ้า 
    ท้องฟ้ากำลังสวยได้ที่ 
    พระอาทิตย์กำลังจะตกสาดแสงสีทองอร่ามจับผู้เข้าชมที่เดินดูวิวมหานครจากยอดดาดฟ้าอาคาร 
    เพลงแจ๊สบรรเลงอยู่เป็นแบ็คกราวน์ต่างพากันถ่ายรูปเซลฟี่กันด้วยบรรยากาศที่แสนสวยงาม 
    ฟานเดินดูไปรอบๆเหมือนกันกับคนอื่นๆ 
    เดียร์นั้นยืนมองตากับเลเหมือนโลกนี้มีอยู่สองคน มีม่านกั้นพวกเขาออกจากโลกนี้ 
    สักพักเดียร์ก็เดินผละออกจากแฟนหนุ่มเข้ามาหาเพื่อนรัก

    “ฟานไปดูโต๊ะให้หน่อยสิ” 
    หยิบการ์ดแข็งเข้างานระบุเบอร์โต๊ะส่งให้เขา 
    “อยู่ตรงเทอเรซตรงนั้นแน่ะ” 
    เดียร์ชี้ไปที่เทอเรซต่ำลงไปอีกชั้น บังสายตาจากผู้คน 
    ดีเนาะใช้เพื่อนแทนที่จะใช้ผัว

    ฟานรับการ์ดมาแล้วก็เดินไปตามที่เพื่อนขอร้อง 
    ลงบันไดมาแล้วก็เลาะเดินไปตามขอบกันตก 
    ตรงนี้เงียบ มีเสียงเพลงแผ่วคลอมาเป็นบรรยากาศสวย 
    เมื่อมองไปเห็นท้องฟ้าที่มีเมฆเหลื่อมขอบเป็นสีรุ้ง 
    แดดสุดท้ายสีทองทอเป็นลำแสงเรืองรองสวยจนเขาต้องหยุดเดินดู 
    เข้าไปยืนมองวิวนั้นใกล้ๆกับแผงกระจกใส ปล่อยใจไปกับภาพสวยสุดท้ายของวัน

    ใครบางคนเข้ามายืนซ้อนที่ด้านหลัง แล้วจับราวสแตนเลสไว้สองข้างโอบเขาไว้ในอ้อมแขน 
    ฟานสะดุ้งตกใจและหมุนตัวกลับมาเจอกับคนบางคนยืนรอสบตาอยู่ตรงหน้า 
    คนที่เขาคิดถึงอยู่ตลอดมาหลายสัปดาห์นี้

    “พี่เก้อ” 

    เขาเรียกไทเกอร์เหมือนละเมอ ไทเกอร์จริงๆด้วย 
    ไทเกอร์ในชุดแบล็คไทหล่อเนี้ยบ หน้าสะอาดไร้หนวดเครา ยังคมยังเข้มยังน่าดูเหมือนเดิม 
    มันเหมือนภาพฝันว่าไทเกอร์จะมาอยู่ที่นี่ได้ 
    อะไรบางสิ่งถูกยื่นมาขวางไว้ระหว่างสองร่าง 
    ช่อกุหลาบขาวแซมยิปโซขนาดใหญ่ยักษ์เต็มอ้อมกอด

    “ยกโทษให้พี่นะ”

    ฟานรับช่อกุหลาบนั้นยกขึ้นมาดม หอม หวาน สวย 
    ความรู้สึกเต็มตื้นขึ้นเรื่อยๆ น้ำตามันคลอตาเต็มไปหมด 
    และแล้วไทเกอร์กลับต้องเป็นฝ่ายตกตะลึงเมื่อฟานยกมือขึ้นโอบคอเขาไว้ทั้งดอกกุหลาบช่อนั้น 
    โผซุกหน้าเข้ามาที่คอของเขาแล้วสะอื้นฮัก ริมฝีปากแดงนั้นสั่น น้ำตาร่วงพรูพราว


     “หายไปไหนมา รู้ไหมว่าคิดถึงจะไม่ไหวแล้ว”

     ที่ผ่านมาตลอดเวลาที่เตรียมการณ์เตี๊ยมกันกับเดอะแก็งค์ 
    สถานการณ์ที่คิดกันไว้ว่าจะเกิดขึ้นมีหลากหลายแบบมาก 
    ตั้งแต่ โดนเชิดใส่ มึนตึง ต้องตามง้อกันหลายวัน หลายหน 
    และเวิร์สเคสซีนนาริโอคือ โดนตบหน้าและหักคอ

     ไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเรียบง่าย ง่ายดาย ขนาดนี้

    ไทเกอร์โอบเอวเพรียวบางนั้นไว้เต็มอ้อมกอดอย่างเต็มตื้น 
    เป็นครั้งแรกที่มีสิทธิกอดได้เต็มที่อย่างถูกกฎหมาย 
    ครั้งแรกบนเตียงและในเรือนั้นถือว่าเป็นสินค้าเถื่อนละเมิดลิขสิทธิ์ 
    ที่ผ่านมาได้โอบนิด กระแซะหน่อย พอได้ชื่นใจ 
    กอดเต็มๆมันดีแบบนี้เอง 
    แต่นี่ดูเหมือนแอบผอมลงไปนิด ตรอมใจเพราะคิดถึงเขาหรือเปล่านะ

    “ใจร้ายกับผมมากเลยรู้ไหม”
     ฟานตัดพ้อ 
    เสียงเจือสะอื้นนั้นสั่นอย่างน่าสงสาร ไทเกอร์หัวใจอ่อนยวบ
    “พี่ก็คิดถึง คิดถึงใจจะขาดทุกวัน อยากเห็นหน้า อยากคุยด้วย อยากแตะเนื้อต้องตัว อยากกอด”
     เขากระซิบ

    “แล้วทำไมถึงไม่มาหา รู้ไหมว่ารอ”
    “พี่ไม่รู้ว่าฟานคิดยังไงกับพี่นี่ครับ มีแต่ฟานที่รู้ว่าพี่ชอบฟานจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
    “แล้วตอนนี้รู้รึยัง..”

     ไทเกอร์ก้มลงจูบแผ่วที่แก้มร้อนผ่าว 
    “รู้แล้ว แล้วก็ดีใจมาก เหมือนฝันไปเลย  too good to be true”
    ฟานกระชับกอดแน่นขึ้นอีก ราวอยากละลายตัวเข้าไปเป็นคนเดียวกันไทเกอร์
    “อย่าไปไหนอีกนะ อยู่กับผมนะ นะครับ”

    ไทเกอร์วูบไหวกับคำสารภาพแสนซื่อนั้น 

    คำรักไม่ต้องพูดมากก็เข้าใจ
    เท่านี้ก็รู้กันแล้วว่าเขารอดูใจอีกฝ่าย
    รู้ว่าเพื่อนๆเซ็ทแผนช่วย
    รู้ว่าขอโทษ แต่ไม่ต้องคิดว่าเรื่องอะไร
    รู้ว่าความรู้สึกตรงกัน และต้องการกันและกันแค่ไหน

    ฟานไม่มีพยศ ไม่มีชั้นเชิง ไม่มีต่อรอง ไม่หยิ่งผยอง ตรงไปตรงมาอย่างที่สุดจากหัวใจ

    จูงมือกันและกัน เดินไปนั่งที่เบนช์ไม้บีชเคียงข้างกัน 
    ฟานชะโงกหน้ามาหอมแก้มดังฟอดใหญ่ แล้วเอียงศีรษะซบไหล่เขาท่าทางเขินๆ 
    มือทั้งสี่ข้างจับกันบีบไปมา เขาไม่กลัวการสัมผัสจากผู้ชายคนนี้เลย 
    ฟานผู้ขาดแคลนสกินชิพ จนเป็นผู้ไปกอดแบ่งปันมิตรภาพจากเพื่อนสาว 
    ที่ผ่านมาเขาเป็นคนกอดเป็นหลัก แต่ครั้งนี้เป็นคนที่ถูกกอดมันช่างแตกต่างเหลือเกิน 
    ความรู้สึกมันเต็มตื้นมันเอ่อล้น 
    ความสุขมันพรั่งพรูจนอยากแบ่งคนทั้งโลกให้คนอื่นสุขแบบนี้บ้าง

    แล้วก็ตกใจนิดหนึ่งเมื่อไทเกอร์ลุกจากเบนช์ลงมาคุกเข่าต่อหน้าเขา 
    แสงส่องจากด้านหลังไทเกอร์เป็นสีทองล้อมรอบศีรษะเขาเหมือนฮาโลของเทวดาฝรั่ง 
    ไทเกอร์มองใบหน้าสวยในกรอบผมสลวยที่อยู่ตรงหน้า 
    วงหน้ากระจ่างนั้นต้องแสงตะวันลำสุดท้ายเป็นสีทองเจิดจ้า

    “คบกับพี่นะครับ”

    กล่องสีเงินบรรจุแหวนทองคำขาวเกลี้ยงฝังเพชรเม็ดเล็กเก๋ ยื่นมาให้
    ฟานน้ำตาคลอ กัดริมฝีปากนิดนึง แล้วก็พยักหน้ารับอย่างไม่มีแง่งอน
    “ครับ”
    เขาสวมแหวนนั้นให้นิ้วนางซ้ายของฟาน พอดีเด๊ะ สมกับที่มีสปายช่วยสืบมาให้ 
    จรดริมฝีปากลงที่แหวน แล้วแหงนหน้าขึ้นมองสบดวงตาสีน้ำตาลอ่อนต้องแสงสีทองคู่นั้น 
    เอื้อมมือโน้มคอลงมา สองมือประคองใบหน้าเล็กเรียวไว้ 
    ก่อนจะจรดริมฝีปากลงแนบปากแดงคู่นั้น 
    จูบ ย้ำ เน้น เคล้าคลึง ให้สาสมกับที่เขาใฝ่ฝันอยากจูบมาเป็นเวลานาน 
    ที่รักของเขายังจูบไม่เป็นนัก ได้แต่จูบกลับอย่างไม่ประสีประสา

     เขาจูบย้ำฟานอย่างไม่เพียงพอ

    โน้มดอกฟ้าที่ไกลเกินเอื้อมดอกนั้นมาจูบซ้ำ.............. และซ้ำ

     



    END



    +++++++++++++++++++++++

    *เป็นครั้งแรกที่แต่งนิยายจบ ใช้เวลา 3 วัน 25-27 กค. 61

    ** ฟาน Deer มฤคคา - กวาง, Tiger - เสือ , Leo - สิงห์



        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×