ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องสั้นทดลอง1 I've been lost, I've been found [Yuri/straight]

    ลำดับตอนที่ #1 : ลุ่มหลง

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 64



    1


    มิคนั่งอึ้งมองสมาร์ทโฟนเหมือนเกิดมาไม่เคยเห็นมันมาก่อน หัวใจเต้นแรงรัวเหมือนจะกระดอนออกจากปาก
    รู้สึกผะอืดผะอมคลื่นไส้ มือเย็นไปหมด เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้า แล้วไหลลงข้างขมับ
    ตาสองข้างแสบร้อนเหมือนน้ำตาจะลวก แต่มันไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด
    มันแห้งจนแสบ มันไหลย้อนเข้าไปในใจแล้วไหม้ที่หัวใจของมิคจนไม่เหลือดี


    ผู้หญิงในคลิปเป็นเนื้อทรายแน่นอน ดูยังไงก็เนื้อทราย แต่เนื้อทรายที่หวงตัวกับมิคนักหนา
    ขี้อายขี้เขิน กว่ามิคจะได้จับมือ กว่าจะได้หอมแก้มหนุนตักได้กอดเนื้อทรายก็เพิ่งได้สัปดาห์ที่แล้ว
    แล้วพึ่งเมื่อคืนเองที่เข้ามาเฟลิตกับมิคก่อน
    แล้วเนื้อทรายคนนี้คือใคร
    คนที่ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยท่อนบนใส่แต่ยกทรง ขึ้นคร่อมผู้ชายที่เปลือยท่อนบนนอนดูทีวีอยู่บนโซฟา
    แล้วสะบัดผมยาวเซ็กซี่เหมือนดาราในคลิปหนังโป๊ ก่อนจะลากมือผู้ชายมากุมเนินอกตัวเองแล้วหัวเราะเสียงกระเส่ายั่วยวน
    ดูมุมไหนก็ไม่เหมือนมีใครบังคับ ดูร่าเริงแจ่มใสในท่าร่วมเพศแบบชำนาญมาก  
    จังหวะตอนที่มิคเองอดคิดไม่ได้ว่า ไอ้คนถ่ายคลิปนี่มันเลวชาติ
    มันทำกับผู้หญิงได้ลงคอ เอาแล้วยังถ่ายคลิปประจาน
    ก็พอดีในคลิปนั้น เนื้อทรายเหลียวมามองกล้องแล้วหลิ่วตาให้นิดหนึ่ง  

    อารมณ์ปรี๊ดขึ้นสุด ๆ มิคพรวดลุกขึ้นยืน ใจสั่นปากสั่น สองมือเท้าโต๊ะไม้ไว้ ปลายนิ้วจิกแน่น  
    ปรเมศร์รีบคว้าสมาร์ทโฟนจากมือเพื่อนมาถือไว้  กลัวว่าอีกฝ่ายจะปาทิ้งเพราะแรงอารมณ์
    มิคหันขวับมามองเพื่อน ตาขวาง ถามเสียงแหบแห้ง

    “เมศร์ ผู้ชายมันเป็นใคร”  

    ปรเมศร์ขยับแว่นตากรอบดำนิดนึงด้วยความเคยชิน
    “เด็กวิศวะสิ่งแวดล้อมปีสาม ฌองปอล”

    มิคขบกราม ขณะที่ปรเมศร์มองเพื่อนสาวอย่างเวทนา
    มิคมองเห็นสายตานั้นแล้วก็เหมือนโดนแทงซ้ำด้วยความสมเพชของเพื่อน
    คอตกตาตกมองลงพื้น ทรุดตัวกระแทกเก้าอี้ กลับลงนั่งอย่างไร้เรี่ยวแรง

    “คลิปนี่มันเมื่อไหร่เมศร์?”

    “เมื่อวาน ก็ทีวีในแบ็คกราวนด์ในห้องตามคลิปที่เปิด มันพูดวันที่พอดี”
    มิคพยักหน้าช้า ๆ อย่างเลื่อนลอย
    พึมพำออกมาเบา ๆ

    “เมื่อวาน แล้วก็เมื่อวาน” เสียงเพื่อนสาวพูดเหมือนละเมอ

    “เขาทำกับมิคแบบนี้ทำไม? เมศร์   ปั่นหัวมิคทำไม? หลอกมิคให้รักเค้าทำไม? หักหลังมิคทำไม?”  
    เขามองเพื่อนสาวด้วยความสงสาร เอื้อมมือไปตบไหล่เบา ๆ  

    มิคเป็นทอมหล่อระดับคณะ  คูล ห้าว เท่
    แต่ไหนแต่ไรตั้งแต่เรียนโรงเรียนมัธยมหญิงล้วน พี่มิคฮอทขนาดมีเพจรักพี่มิคก็แล้วกัน
    พอเรียนคณะสถาปัตย์ ก็เป็นเดือนคณะโดยฉันทามติสาว ๆ ที่ลงความเห็นว่า
    ผู้ชายที่เข้าประกวดหาได้เท่าขี้ไซร้ของมิคไม่
    มิคสูงยาวเข่าดี  หน้าสวย ๆ นั้นพอไถข้างทิ้ง ปล่อยผมด้านหน้ายาวบังลูกตานิดนึง
    ก็กลายเป็นหนุ่มดอกไม้ฟลาวเวอร์บอยเจร็อค  เชิ้ตขาวนักศึกษาตัวใหญ่บังทำให้สะโพกผู้หญิงของมิคเห็นไม่ชัด
    ใส่กางเกงสกินนี่เอวต่ำเข้าไปก็เท่โคตร หล่อระดับมิคเนื้อหอมจนสาว ๆ หลายคณะเพ้อตามมาส่องมิคกันบ่อย ๆ


    ที่ผ่านมามิคไม่เคยจริงจังกับใคร หรือเรียกใครว่าแฟนสักคน ล้วนแต่คนคุยด้วยเท่านั้น
    เพิ่งเปิดเทอมปีสามมานี้เองที่มิคมีสาวเป็นตัวเป็นตนคนแรกคือเนื้อทราย
    เนื้อทรายเป็นเด็กปีสองที่โอนย้ายหน่วยกิตมาจากต่างมหาวิทยาลัย
    เช้าวันนั้นหลังจากไปซื้อกระดาษทำสเก็ตช์ดีไซน์ มิคกำลังก้มหน้าเดินขึ้นบันไดตึกไปสตูดิโอชั้นสาม
    เมื่อตอนที่ปรเมศร์ที่เดินตามหลังมิคมาร้องลั่นมาจากข้างหลัง ดังกึกก้องว่า
    “เหี้ย!”
    มิคเลยเงยหน้าขึ้นขวับ
    และท่ามกลางสายตาไทยมุงนับร้อยที่หันตามเสียงร้องนั้น ก็เห็นเนื้อทราย
    ที่อธิบายตอนหลังบอกใคร ๆ ว่าขาพลิก ตกบันไดจากชานพักข้างบนเข้าใส่อ้อมอกมิค
    ดีที่มือขวามิคคว้าราวบันไดไว้ทัน มือซ้ายโอบเอวเล็กของเนื้อทรายไว้ชิดกับตัว
    ได้กลิ่นหอมจากผมยาวลื่นถึงเอวนั้นจาง ๆ
    ขณะที่หัวใจมิคเต้นตึกตักด้วยความตกใจ ก็ตระหนักถึงสัมผัสนุ่มหยุ่นของหน้าอกเนื้อทรายที่แนบอก
    มิคหน้าร้อนและแดงเรื่อขึ้นมา
    เนื้อทรายหายใจหอบอย่างตกใจ บิดหน้าที่แนบไหล่มิคขึ้นมองสบตามิคจ้องตาในระยะประชิด
    ใกล้จนลมหายใจรดหน้ากัน

    “อุ๊  ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ ขอโทษจริง ๆ ” เสียงแผ่วและหวานใส  ระล่ำระลัก
    “ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่ช่วยทรายไว้”

     แน่นอนเนื้อทรายสวย

     ดี้ปรกติก็สวยเป็นธรรมดา แต่ดี้ที่คู่ควรระดับมิคต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว  
    เนื้อทรายสวยบอบบางสะอาดสะอ้านเหมือนดอกไม้ ขี้เขิน ขี้อาย
    มิคเหมือนถูกสะกด มองตามเนื้อทรายที่ค่อย ๆ ผละ ละสองมือที่ทาบอกมิค ดึงตัวออกจากอ้อมกอดมิคอย่างขวยเขิน
    บิดข้อมือก้มหน้างุด แล้วรีบเดินลงบันไดไป  ขณะที่มิคค้างไปแล้ววิ่งไล่หลังไปตามขอโซเชียลแอคเคานท์

    ซีนนี้เกาหลีมากเป็นเสียงเล่าจากไทยมุง แต่ถ้าถามปรเมศร์ เรื่องวันนั้น
    เขาเอียงคอนึกตรึกตรองแล้วก็บอกแบบมั่นใจว่า

    “ผมร้องเพราะเงยหน้าขึ้นมองพอดี ผมว่าเนื้อทรายโดดบันได  ไม่ใช่ตกบันได”




    สัปดาห์นั้นมิคเหมือนโดนของ กินไม่ได้นอนไม่หลับแทบเรียนไม่รู้เรื่อง  
    ชั้นปีของสาขามิคนั้นเพื่อนอยู่กันเป็นกลุ่มยักษ์ เกือบยี่สิบคน  ทุกคนรู้หมดว่ามิคคลั่งเนื้อทรายมาก
    เช้าถึง กลางวันถึง เย็นถึง กลางคืนถึงทั้งที่คณะและไปส่งที่หอนอก
    มิคทอมเซอร์วิสระดับเทพ ทรีทเนื้อทรายเหมือนเจ้าหญิง ว่างเมื่อไหร่ก็ไปอยู่กับเนื้อทรายตลอดเวลา  
    เวลาที่ไม่อยู่กับเนื้อทรายมิคจะอยู่กับสมาร์ทโฟน ตั้งใจแช็ทหาเนื้อทรายอยู่นั่นแล้ว จนอาจารย์เอารีโมทโปรเจ็คเตอร์ปาหัว

    “มายูร จะเรียนไม่เรียน  ไม่เรียนออกไปเลย”
    มิคถึงหยุดได้

    เดือนหนึ่งผ่านไป สาว ๆ ทั้งหลายก็หัวใจสลาย
    เมื่อสเตตัสเฟซของมิคเปลี่ยนเป็น in relationshipกับเนื้อทราย

     


    “ลูกหมูกินข้าวเที่ยงยังจ๊ะ  ป่าปี๊ซื้อไปให้หม่ำเอาป่ะ เตง”
    สำนวนหวานเยิ้มของมิค ทำเอาปรเมศร์ที่นั่งข้างเหลือกตามองบน ขณะที่บราลีผู้นั่งถัดไปหันขวับมามองแรง

    “โห้ หวานกันเบอร์นี้เลยเหรอเมศร์”
    ปรเมศร์หงึกรับ
    “ ระดับนี้แล้ว ปุ่นได้ยินนี่เบาะ ๆ  ของเราได้ยินทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น”

    บราลีทำท่าขนลุก
    “ฮื่ยยยย  ไม่ไหวว่ะ ปุ่นฟังแล้วขนลุกเกรียวเลย”

    มิคจุ๊บุโทรศัพท์ไปสามหนก่อนจิ้มวางสายแล้วหันมาหัวเราะ
    “เออ แฟนสวย แฟนน่ารัก มีความอวดเมีย”

    “เย้ยยย” บราลีร้องเสียงหลง
    “ เพิ่งประกาศตัวได้ไม่ทันครึ่งเดือน  นี่ได้กันแล้วเหรอ”

    “บร้า ยัยญี่ปุ่น เนื้อทรายเขาเรียบร้อยจะตายชัก นี่ยังไม่ได้หอมแก้มสักฟอดเลย กอดก็ไม่กล้า ดุฉิบหาย หวงตัวโคตร”
     มิคเล่าไปยิ้มไป หน้าตามีความสุข ตาแวววาวจนบราลีนึกทึ่ง
    ความรักทำให้มิคเก็บอาการไม่ได้ขนาดนี้ นับว่าเนื้อทรายนี่แน่มาก

    “ไม่รู้จะหวงตัวอะไรหนักหนา ผู้หญิงด้วยกันแท้ ๆ ”
    มิคบ่น
    “ผู้หญิงด้วยกันไรเล่า แกมันหื่น เผลอเมื่อไหร่เนื้อทรายโดนจับกดแน่นอน”
    บราลีแซว มิคหัวเราะชอบใจไม่ยักโกรธ
    ปรเมศร์ส่ายหัว ฮี่เธ่อ ไอ้คนดีแต่ปาก



    หนึ่งเดือนจีบ กับสองสัปดาห์เป็นแฟน มิคทุ่มสุดตัวกับแฟนคนแรก
    เนื้อทรายไม่ต้องซื้อข้าวกินเอง ไม่ต้องขึ้นรถเมล์มาเรียน ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์การเรียน
    กระเป๋าผ้าของเนื้อทรายเปลี่ยนเป็นลองชอง กระเป๋าตังค์เปลี่ยนเป็นพราด้า
    ความที่มิคเป็นลูกสาวสุดท้อง ห่างกับอาเฮียอีกสามคน โดยเฉพาะเฮียสามก็สิบห้าปีไปแล้ว  
    มิคจึงเป็นสุดที่รักของทุกคนในบ้าน
    ด้วยฐานะเจ้าของอินดัสเตรียลพาร์ค ป๊ากับม้าตามใจมิคทุกอย่าง
    มิคเหมือนรัชทายาทเป็นอาเสี่ยในหนังจีนที่ใคร ๆ ก็พะนอ อยากได้อะไรก็ได้
    มิคพยายามจะจ่ายค่าหอให้เนื้อทรายด้วย แต่เนื้อทรายไม่รับ บอกเสียงเย็น ๆ ว่า
    “ลูกหมูรับค่าหอไม่ได้ค่ะลูกหมูจ่ายเองได้  อย่าทำแบบนี้ค่ะ ป่าปี๊ คนอื่นจะดูถูกลูกหมูค่ะ”

    เพียงเท่านั้นมิคก็หงอ ทั้งรักเกรงใจและชื่นชมเนื้อทรายกว่าเดิม ซึ่งบราลีทำหน้าเอือม ๆ เม้ากับกลุ่มยักษ์ว่า
    “แอ๊บเกิ๊น มิคมันเคยอยู่หอนอกที่ไหน มันไม่รู้หรอกค่าหอเขาจ่ายล่วงหน้าเป็นเทอมไปแล้ว”
    เพื่อนมิคทุกคนดูเหมือนจับตามองเนื้อทรายเพราะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ปรกติ
    สวยไปดีไป อ่อนหวานไป ขี้อายไป ไม่ธรรมชาติเกินไป แต่ไม่มีใครยุ่ง
    เมื่ออยู่ในมหาวิทยาลัย ถือว่าคุณเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องรู้จักรับผิดชอบชีวิตตัวเอง และอย่ายุ่งเรื่องชีวิตคนอื่น

    แต่มิคนั้นมองไม่เห็นเหมือนที่คนอื่นเห็น เนื้อทรายเหมือนโอเอซิสดีงามและมีอยู่จริง
    มิคฝึกเป็นพ่อบ้านใจกล้าอยู่นาน
    พอไปหอเนื้อทราย น้องมิคของม่ะม้าผู้เป็นอาเสี่ยแต่กำเนิด ก็ลงทุนปัดกวาดเช็ดถูซักผ้าให้เนื้อทรายด้วยตัวเอง


    เมื่อวานมิคนั่งสเก็ตช์แบบร่างโปรเจ็คท์อยู่ที่หอเนื้อทราย
    ห้องนั้นเนื้อทรายอยู่คนเดียวขนาดกลาง ๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่เป็นสตูดิโอไทป์มีเตียงห้าฟุต
    มิคเคยมาค้างสองหน อ้อนวอนเนื้อทรายแทบตาย
    พอถึงเวลานอน สาวก็เอาหมอนข้างคั่นไว้ระหว่างกลางเตียง พูดเสียงสั่น ๆ ว่า
    “ปาปี๊สัญญากับลูกหมูแล้วนะ เตง”
    มิคยิ้มแก้มแทบแตก อยากจะวิ่งไปหอมแก้มเนื้อทรายให้สมรัก
    หลังจากเคยหอมได้หนนึง แล้วเจองอนไม่พูดด้วยไปสองชั่วโมง ง้อจนเหงื่อตก   

    วันนี้ดูแปลก นี่ตั้งแต่เที่ยงจนบ่ายสาม เกือบสามชั่วโมงแล้วเนื้อทรายก็ยังไม่กลับ
    เนื้อทรายเอาของไปส่งไปรษณีย์หาที่บ้าน บอกว่าจะไปด้วยก็ไม่เอาให้เฝ้าห้องให้  
    ไม่รู้ส่งของอะไรหนักหนา โทรหา โทรศัพท์ก็ปิด  
    มิคเร่งแอร์อีกนิดนั่งคิดงานต่อ รอเนื้อทรายกลับมาแล้วจะชวนไปหาข้าวเย็นกิน

    จนเข้าห้าโมง  เนื้อทรายถึงไขกุญแจเข้ามา
    “ป่าปี๊รอนานป่าว  แม่ให้ส่งของกินให้ทางไปรษณีย์ด้วย แบ็ตก็หมด ลูกหมูวิ่งไปหาของเหนื่อยมาก”
    มิคเงยหน้าด้วยความสนเท่ห์ ที่ว่าจะถามก็ไม่ต้องถาม เพราะเนื้อทรายรายงานจบแล้วในประโยคเดียว

    “อ้าวไม่บอก ป่าปี๊จะได้ไปช่วย”
    “ไม่เป็นไรจ้า ส่งไปแล้ว แม่อยากกินแหนมเนืองหนองคายน่ะ แล้วกินไรยัง ข้างนอกร้อนมาก ลูกหมูกินอะไรไม่ลงเลย”

     ข้างนอกอากาศคงจะร้อนจัด เนื้อทรายยืนอยู่ไกลตรงประตูไม่เข้ามาเคลียคลอเหมือนเดิม
    แก้มแดงมือเกาคอ จนแดงเป็นปื้น ๆ มิคเลยไล่ให้ไปอาบน้ำ
    ระหว่างที่ตัวเองพยายามทำมาม่ากินเองงก ๆ เงิ่น ๆ ประสาอาเสี่ย
    มิคอิ่มแล้วก็ชักง่วง แฟนก็อาบน้ำนาน เลยหลับตานอนบนเตียงแล้วก็เลยเผลอหลับไป

    รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อลืมตามาแล้วพบว่าค่ำแล้ว ห้องมืดสลัวรางแสงไฟถนนส่องมาราง ๆ
    อะไรบางอย่างนิ่ม ๆ นุ่ม ๆ ขยุกขยิกอยู่ข้างตัว เนื้อทรายนั่นเอง
    กลิ่นสบู่หอมอ่อน ๆ ของเนื้อทรายกรุ่นจางอยู่ในอากาศแต่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ผสมอยู่เจือจาง
    มือของเนื้อทรายววางอยู่บนหน้าอกของมิค ค่อย ๆ สอดเข้าใต้สาบเสื้อ และไล้เบา ๆ ที่ผิวเปลือยเหนืออก  
    หัวใจของมิคเต้นตูมระส่ำเมื่อเนื้อทรายเบียดตัวเข้ามาใกล้ ๆ  อกหยุ่นเบียดเข้าที่ข้างแขน
    ลมหายใจร้อนรดที่ซอกคอ ริมฝีปากนุ่มแตะเข้าที่คอ  และ  ร้อนวาบเมื่อเนื้อทรายลากลิ้นผ่านที่ผิวคอ
    หันไปมองก็สบตาที่วาววามอยู่ในความมืดสลัว มันบอกถึงความปรารถนาแรงกล้าบางอย่างแบบที่ไม่เข้าใจไม่รู้จัก
     “ มิคสวย”
    เสียงพูดแผ่วพร่าที่ข้างหู ริมฝีปากนุ่มประทับเล็มผิวอ่อนที่ใบหู
    ยกมือนิ่มไล้ที่ใบหน้า ลงมาที่คอ ลากลงมาคลึงหนักเน้นที่หน้าอกใต้เสื้อในแบบรัดทรง
    แล้วลูบไล้ล่วงเลยผ่านหน้าท้องเรียบตึงก่อนจะสอดมือเย็นเข้าไปใต้ขอบกางเกงยีนส์ พร้อมเสียงหายใจแรงของเนื้อทราย

    มิคใจหายวาบ ตะครุบมืออีกฝ่ายไว้ ก่อนพรวดพราดลุกขึ้นยืน แล้วผวาไปพุ่งกดเปิดไฟกลางห้องส่ว่างโร่
    หันขวับไปมองเนื้อทรายซึ่งนอนระทวยอยู่บนเตียงอย่างเย้ายวนใจในเนกลิเช่สีชมพู
    ดวงตาคู่นั้นปรือ แต่วาววับ แล้วมิคก็นึกออก

     “ เนื้อทรายเมา! ไปกินเหล้าที่ไหนมา”
    นึกเห็นภาพเมื่อตอนก่อนหลับ
    “พี่เห็นเนื้อทรายหน้าแดงนึกว่าร้อน ที่แท้ไปกินเหล้ามา ไปกินทีไหนกินกับใครมา”

    อีกฝ่ายยิ้มอ่อนไม่ตอบ หลับตานิ่ง แฟนหนุ่มน้อยชักโมโห เสียงแข็งเข้มขึ้น

    ”ทราย พี่ถามว่าไปกินเหล้าที่ไหน ไปกับใคร”

    เนื้อทรายลืมตามายิ้มอ่อน หัวเราะบาง ๆ ไม่พูดแล้วหรี่ตาหลับ นิ่งไปเลย
    แฟนสาวเมาหลับไปแล้ว ขณะที่มิคยืนอึ้ง ทั้งโมโห ทั้งอาย ทั้งงง กับพฤติกรรมของแฟนสาวแสนเรียบร้อย
    มิคเคยคบกับผู้หญิงก็จริง แต่ด้วยนิสัยแล้วถือตัว  มาม้าพร่ำพูดเสมอ
    เรื่องอย่าปล่อยให้ใจพากายไป และอย่าปล่อยให้กายพาใจไป  
    เลยไม่เคยปลอ่ยตัวกับผู้หญิงคนไหน อย่างมากก็หอมแก้ม กอดกัน ลูบผม  จุ๊บปาก
    เนื้อทรายจึงเป็นคนแรกที่ถึงเนื้อถึงตัวมิคอย่างไม่คาดคิด
    สาวห้าวอายุยี่สิบผู้ไร้เดียงสาเรื่องเพศอย่างมิคเลยได้แต่ยืนใจสั่น ตัวสั่น พูดไม่ออกบอกไม่ถูก
    มองแฟนสาวที่เมาหลับคออ่อนคอพับอย่างหมดปัญญา

    สักพักก็ถอนใจ ลากผ้าห่มมาคลุมร่างเกือบเปลือยของอีกฝ่าย แล้วเก็บของย่องกลับไปนอนใจสั่นที่บ้านตัวเองต่อ
    พอตื่นเช้ายังคา ๆ เคลิ้ม ๆ อาย ๆ
     แต่พอมาถึงคณะฯ อารมณ์เคลิ้มของเมื่อวานก็แตกสลายเมื่อปรเมศร์เอาคลิปมาให้ดู

     


    มิคหยุดติดต่อแฟนสาวไปสัปดาห์เต็ม ๆ เนื้อทรายเหมือนรู้ตัวก็ไม่ติดต่อกลับเลย
    จนเมื่อมิคส่งแมสเสจไปนัดเจอ
    เย็นวันที่นัดเคลียร์กับเนื้อทราย มิคไปคนเดียว
    ไม่ได้เหน็บขาเผือกคนไหนไปด้วยเพราะทนสายตาเวทนาของพวกมันไม่ไหว
    ส่วนสองคนเพื่อนซี้บอกว่าจะตามไปดูใจหลังคุยกันเสร็จ

    เนื้อทรายนั่งรออยู่แล้วใส่ชุดไปรเวท สวยน่ารักยิ่งกว่าชุดนักศึกษาอีกร้อยเท่า
    ดูใสสะอาดบริสุทธิ์ ไม่เหมือนสาวหื่นเลื้อยกับผู้ชายในคลิปคนนั้นเลย
    จนมิคอยากจะนึกว่า ที่เห็นนั้นเป็นของปลอมเหมือนกัน
    ใครที่เดินผ่านมุมนี้ของร้านอาหารก็คงเห็นความสวยสมกันของทั้งคู่ เหมือนคู่รักมาควงกันดินเนอร์
    ใครจะรู้ว่า ภาพแต่ละภาพความจริงคืออะไร


    “พี่มิค เห็นคลิปแล้วเหรอ “
    ประโยคแรกของเนื้อทราย
    ทำลายความหวังว่ามันจะเป็นความเข้าใจผิด มลายหายสิ้น
    มิคพยักหน้า
    เวลาที่ผ่านมา หมดไปกับความสับสนว่านี่คืออะไร เนื้อทรายมีผู้ชายใหม่มีชู้ จะทิ้งมิค หรืออะไร
    ที่แท้เรื่องมันง่าย ๆ แค่นี้เองหรือ
    เพียงสัปดาห์เดียวมิคน้ำหนักลดไปสามกิโล ตัวที่เพรียว ๆ กลายเป็นผอมไปทันที
     อดแค้นตัวเองไม่ได้ ทำไมไม่ดูแจ่มใสร่าเริงเป็นปรกติกว่านี้วะ มันต้องทำท่าเหมือนคนแพ้ด้วยเหรอ  ว้อยยย เจ็บใจ

    “เนื้อทรายเล่าเรื่องจริงให้พี่ฟังได้ไหม พี่อยากรู้ว่าระหว่างพี่กับเนื้อทรายมีอะไรจริงบ้าง บอกพี่หน่อย ระหว่างพี่กับเนื้อทรายมันอะไร พี่รู้สึกว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายแค่เนื้อทรายมีคนอื่น”
    ท้ายประโยคเสียงชักเริ่มสั่น ทำให้รู้สึกว่าโคตรเสียฟอร์ม

    เนื้อทรายไม่ได้ทำท่าว่าสังเกตเห็นหรือใส่ใจ มิคสังเกตแล้วยิ่งปวดใจกว่าเดิม   
    สายตาเนื้อทรายมองออกไปนอกหน้าต่างร้าน แวบหนึ่งมิคมองเห็นความกร้านโลกีย์ ปรากฏออกมาจากทั้งสีหน้าและแววตา
    ก่อนจะจิ้มแก้มเอียงคอ อย่างน่ารัก


    “พี่มิคนาอีฟน่ะ ไร้เดียงสาเอามาก ๆ ทั้งหมดนี้มันไม่มีอะไรเลย มันเป็นแค่เกมเท่านั้นแหละ”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×