ทรัพยากรในมิดเดิ้ลเอิร์ธ

ลำดับตอนที่ #8 : 8.เอลฟ์ ตอน 1 (Elves vol.1)

8.เอลฟ์ ตอน 1 (Elves vol.1)

ได้เวลามาถึงลำนำของพรายสักที หลังจากที่หลายๆ คนรอคอยมานานเหมือนกัน เรื่องของสถานที่คงจะยาวเกินไปสินะ บทนี้จะเป็นอะไรที่ยาวอยู่เหมือนกันนะ เขียนสัก 1 บรรทัดคงไม่จบแน่ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ดีกว่าเน้อ..อ



เมื่อพูดถึงเอลฟ์ หรือพรายแล้ว ก็มีตัวละครเด่นๆ อยู่หลายตัวเช่นเดียวกัน เอลฟ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่นับได้ว่า เจิดจ้า และสง่างามมากที่สุด มีใครเคยละลายเพราะแสงเจิดจ้าเผ่านี้บ้างไหม (?)



- กาลาเดรียล (Galadriel) ยายของอาร์เวนนี่เอง เธอเป็นบุตรีของฟินาฟิน (Finafin) และไปแต่งกะเคเลบอร์น เอลฟ์ผมสีเทาที่ดูแล้ว น่าจะเป็นผู้ดีอยู่เหมือนกันนะ มีลูกสองคน กำลังดี มีบุตรชายชื่อว่า อัมรอธ (Amroth) และเคเลเบรียน ตามธรรมเนียมของเอลดาร์ในวาลินอร์ (เดี๋ยวจะกล่าวในบทที่ 10) กาลาเดรียลจึงมีหลายชื่อเยอะแยะเฉกเดียวกับอารากอร์น “อาร์ทานิส”  หรือ “อาร์ทานอิส” (Artanis) แล้วแต่จะอ่าน เป็นชื่อที่บิดาเธอตั้งให้ ส่วนมารดาของเธอ ตั้งให้ว่า “เนอร์เวน” (Nerwen) และหลังจากนั้น เธอก็ได้รับชื่อจากเคเลบอร์นว่า อัลทาเรียล (Altariel) ซึ่งเป็นภาษาซินดาริน แปลว่า กาลาเดรียล นี่เอง



กาลาเดรียลมี แหวนสีขาวดุจใอำนาจของสายน้ำ (The White Ring of Water) ซึ่งเคเลบริมบอร์ (Celebrimbor) เป็นผู้ขายให้เธอ ในราคาหลายหมื่นดอลล่า กาลาเดรียลฝันอยากจะมีดินแดนเป็นของตัวเองในมิดเดิ้ลเอิร์ธ จึงได้เดินทางออกจากวาลินอร์ แล้วไปอยู่ที่ลอธ ลอริเอน หลังการตายอันน่าเศร้าของอัมรอธ และนิมรอเดล (Nimrodel) ในปี 1981



เธอได้รับคัดเลือกให้เล่นเป็นอลิซาเบธบัลลังก์เลือด เนื่องจากเธอมีดวงหน้าที่ผุดผ่องเหมาะกับบทนี้มาก กาลาเดรียลจึงฉายแววเป็นดาราฮอลลีวู้ดตั้งแต่สาวๆ ในบั้นปลายชีวิต เธอได้กลับบ้านเสียที หลังจากที่ระหกระเหินมานาน และข้ามทะเลไปพร้อมกับ การเดินทางครั้งสุดท้ายของผู้ถือแหวน (The Last Riding of the Keeping of the Ring)



- เอลรอนด์ (Elrond) บุตรเอเลนดิล ที่กล่าวไปแล้วในเมืองกอนโดลิน เอลรอนด์แต่งงานกับเคเลเบรียน (Celebrien) ลูกสาวกาลาเดรียล ภาพยนตร์ที่โด่งดังที่สุดของเขา คือ The Matrix นี่แหละ คุณได้ดูภาคสามหรือยัง?



เขาเป็นจอมพรายที่ขึ้นชื่อในการพยาบาล และสมุนไพร เขาได้ร่วมรบในสงครามอันยิ่งใหญ่กับฝ่ายเซารอนในยุคที่หนึ่งด้วย และคาดว่า น่าจะเป็นซี้กะอิลซิสดูร์ด้วย จึงได้รับเลี้ยงอารากอร์นจอมกะล่อนมาเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งพรายแก่ๆ นี่ก็เป็นป๊ะป๋า ของแม่นางอาร์เวน และแฝดนรกตัวแสบอย่างเอลลาดาน และเอลโรเอียร์ จอมพรายหัวเถิกตนนี้เป็นผู้ครองริเวนเดลล์ จดลิขสิทธ์ไว้แต่เพียงผู้เดียว เขาเปิดให้เหล่าเอลฟ์มาเช่าหอพักกันตามสบาย เพื่อที่เงินจะได้ไหลมาเทมา



หลังจากการขัดขวางความรักของอาร์เวน และอารากอร์นไม่ประสบความสำเร็จ เอลรอนด์จึงมีความทุกข์ระทมใจ เขาได้ตัดสินใจล่องเรือเล่น แล้วเลยไปยังเกรย์ เฮเวนส์ตลอดกาล.. คาดว่า คงสำนึกได้ที่ตัวเองแก่แล้ว



- อาร์เวน (Arwen) อาร์เวนได้เล่นหนังหลายเรื่องที่โด่งดัง อย่างเช่น อมาร์เกดอน วันโลกาวินาศ (Amagedon) เชื่อว่าหลายๆ คนคงดูแล้ว เรื่อง Jesery Girl ที่กำลังฉายในบ้านเราเดือนนี้แหละ และอีกหลายๆ เรื่อง ตามดูได้ ที่สำคัญ คุณต้องมีเงินนะจ้ะ!



อาร์เวนมีนามสกุลว่า อีเวนสตาร์ (Evenstar) และอุนโดเมียล (Undomiel) คำว่า “อาร์เวน” คือภาษาซินดาริน ที่แปลว่า เลดี้ อาร์เวนเป็นบุตรของเอลรอนด์ และเคเลเบรียน (ลูกสาวเจ๊กาลาเดรียลอีกที) ซึ่งอีหนูเวนก็มีศักดิ์เป็นหลานของกาลาเดรียลเช่นกัน อาร์เวนได้รักกับอารากอร์น ก่อนที่เลกี้จะมาแย่งไป เธอได้มอบสร้อยคออีเวนสตาร์แก่อารากอร์น เพื่อรักษาสัญญาที่คงมั่นไว้ แต่ด้วยความอิจฉาของเอลรอนด์ หรือหวงลูกก็ไม่แน่ใจในความเป็นพ่อ จึงดั้งด้นกีดขวางอาร์เวน พยายามให้เธอไปที่เฮเวนส์ให้ได้ (นี่ท่านสมิธ ก็คนเขารักกันนี่หว่า ไปขวางทำไม เอาเวลาไปสู้กับนีโอแห่งแมททริกซ์ดีก่าน้า) ด้านอาร์เวน ก็ต้องเสียใจดิ ตาแก่เอลรอนด์ก็ชวนให้นิมิตภาพอยู่นั่นแหละ ว่าจุดจบเธอต้องเป็นไง (ดูมันทำหวานใจฉาน…ผู้แต่ง) แต่ท้ายสุดแล้ว เอลรอนด์ก็ต้องพ่ายแพ้กับความคิดวิปลาส



อาร์เวนได้อภิเษกสมรสกะกษัตริย์เอเลสซาร์ หรืออารากอร์นหลังจากสงครามแหวนที่มินาสทิริธ และมีบุตรด้วยกันทั้งสองคน ทั้งบุตรชาย และบุตรหญิง แต่ข้าพเจ้าทราบเพียงชื่อของบุตรชาย “เอลดาริออน” ส่วนบุตรหญิงมิได้กล่าวถึง (อดจิ้นเลย) หลังจากที่อารากอร์นแก่ตายแล้ว เธอก็เดินทางจากกอนดอร์ไป และนับจากนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีใครรู้จัก หรือเคยพบดาราแห่งสนธยาแห่งมิดเดิ้ลเอิร์ธอีกเลย ผู้คนต่างเล่าว่า “พบแต่ดวงตาอันหมองหม่นของนาง และความเย็นชาที่สามารถมองออกได้”



นับแต่นี้ไป ดาราแห่งสนธยา อันเป็นนามที่เหล่าเอลฟ์ต่างขนานนามให้ ผู้ที่งดงามที่สุดในแผ่นดินนี้ รองจากลูธิเอน ก็มีแต่ความเศร้า และไม่มีมนุษย์หน้าไหน ไปสำรวจโลก ค้นพบเธออีกเลย



- เลโกลัส กรีนลีฟ (Legolas Greenleaf) เชื่อได้ว่า หลายคนคงจะชอบพรายหนุ่มหน้าหวานคนนี้กันส่วนมากใช่ไหมล่ะ ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือ Wilde เล่นตอนอายุ 16 นะ เรื่องที่กำลังถ่ายทำอยู่ก็ Calciam Kid , Kingdom of Haven ส่วนเรื่องที่ถ่ายแล้ว แต่ยังไม่ฉายคือ Ned Kelly เรื่องนี้เลกี้เปลี่ยนไป๋ ส่วนเรื่อง Tory นั้น เย้ๆๆ จะได้ดูแล้วใช่ม้า…า แล้วก็มี Black Hock Down ที่ฉายไปแล้ว เล่นเป็นคนหลังหักน่ะ ส่วนเรื่อง POTC มีภาค 2 แน่นอน



ชีวิตดาราพรายหนุ่มอย่างเขา มีงานท่วมท้นอย่างแน่นอน ไหนลองมาดูประวัติกันหน่อยเหอะ คำว่า “เลโกลัส” เป็นภาษาซินดารินอีกเช่นกัน  แปลว่า กรีนลีฟนั่นแหละ แปลตรงตัวเลยคือ ใบไม้เขียว! ถ้าจะเรียกสั้นๆ เข้าไปอีก ก็เรียกว่า ไอเขียวเหอะ อิอิ ชื่อเลโกลัส ภาษาเควนยาก็มีนะคะ



ใบไม้เขียว เป็นเจ้าชายเอลฟ์เผ่า ซินดาร์ (Sindar) แห่งอาณาจักรที่ปกคุลมไปด้วยป่า (Woodland Realm) เป็นบุตรของธรันดูอิล ส่วนมารดาคือใคร ท่านโทลเคียนไม่ได้บอกไว้นะ ไม่รู้ว่าพระบิดาสั่งสอนเลโกลัสอย่างไร ถึงปล่อยให้เลกี้มาแอบปิ๊งอารากอร์น ในการเดินทางของ The Fellowship ที่เลก็มีโอกาสได้เข้าร่วม ไม่ใช่ดิ เรียกว่าเสนอหน้าดีก่า



หลังเสร็จสิ้น สงครามแหวน (War of the Ring) เลโกลัสก็ได้มาตั้งถิ่นฐานที่ชายแดนของกอนดอร์ หรือที่อิธิลิเอนใต้นั่นเอง มาอยู่กับ ฟาราเมียร์ ผู้ได้สมญานามว่า “หงส์แดงแพ้โหงพราย” และกับกิมลี คนแคระสนิท โดยที่เลโกลัสเองก็แอบลอบมองอารากอร์นอยู่บ่อยๆ หึหึ แผนดีนี่หว่า



และที่อิธิลิเอนนี่เอง ที่คุณหนูใบไม้เขียว ได้เห็นทะเลเป็นครั้งแรก โห…พันปีกว่าๆ แล้วนะเจ๊ เพิ่งเคยเห็น เออ..ใช่ บ้านเจ๊มีแต่ป่านี่ ซึ่งการเห็นทะเลนี้เป็นการปลุกใจให้เลบอกรักอารากอร์น และตัดสินใจข้ามทะเลไปเฮเวนส์ เป็นการถาวร ซึ่งอยู่ในสายเลือดของเอลฟ์ทุกตน โดยได้ชวนกิมลีไปด้วย ที่สำคัญเลโกลัสไม่เคยแต่งงานกับชายใด อิอิ…… (ธรันดูอิลคงกลุ้มใจน่าดู บัลลังก์ แกก็ไม่เอา ทิ้งไปเฉยๆ อย่างนั้นได้ไง ไอลูกเ ว ร)



เมื่อนึกถึงเอลฟ์จะนึกถึงสิ่งใดเป็นอันดับแรก ….สำหรับตัวข้าพเจ้าเอง นึกถึงสายตาที่ยาวเหยียดไกล อยากมีสายตาแบบนี้ในเวลาสอบบ้างจัง ฮี่ๆๆๆ ….ยังไม่จบนะ เดี๋ยวต่อตอนหน้า